คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 - เจอหน้า(แบบแปลกๆ)?
เช้าของวันจันทร์ที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดสำหรับผม ตั้งแต่อยู่โรงเรียนนี้มา 6 ปี ผมยังไม่เคยเห็นอะไรเจริญหูเจริญตาขึ้นเลย นอกเหนือไปกว่ากิจกรรมที่พวกมันขยันทำอยู่ทุกวันอย่าง.. วิ่งหนีไม้เรียวอาจารย์ฝ่ายปกครอง แอบดูกางเกงในอาจารย์ผู้หญิงในคาบ แอบงีบ แอบหลับ แอบเล่น msn กระดาษ แอบดอดไปหลีหญิงโรงเรียนข้างเคียง และทุกๆวันมันก็มีแต่แบบนี้แหละครับ จนผมเบื่อและไม่รู้จะทำอะไรดี ไปโรงเรียน ก็ไปเท่านั้นแหละ เพราะผมสอบเทียบติดมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อยู่ ม.4 แล้ว (ใครจะหาว่ากูอัจฉริยะก็ช่างเถอะ) แต่เขาก็ยังไม่อนุญาตให้ผมย้ายเข้าไปเป็นนิสิต ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมยังเด็กเกินไป (ที่จริงเพราะพ่อแม่ผมต่างหาก เขาไม่อยากให้ผมเรียนต่อที่นั่น) ผมก็เลยต้องมาโรงเรียนชายล้วนนี่ทุกวันโดยที่แต่ละวันก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจาก นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนไปพลาง ลงไปเตะบอลกับเพื่อนบ้างถ้ามีโอกาส หรืออะไรทำนองนั้น.. มันจะมีอะไรทำให้ผมรู้สึกอยากมาโรงเรียนบ้างมั้ยเนี่ย...
“เฮ้ย หลบ!!” เสียงตะโกนมาจากทางไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือตอนนี้ลูกบอลมัน…
พลั่ก !!!
มันพุ่งมาโดนหน้ากูเต็มๆ! ไอ้เหี้ย ถ้าพวกมึงจะเล่นกันแรงขนาดเตะลูกบอลออกมานอกสนามขนาดนี้มึงลงแข่งทีมชาติเหอะครับ! (ได้แค่คิดในใจเท่านั้นแหละครับ)
“เฮ้ย เป็นไรป่าว?” เหมือนจะเป็นไอ้คนที่เตะมา วิ่งมาดูอาการคนเอาหน้ารับฟุตบอลอย่างผมครับ
“เป็น” ผมตอบมันกลับไปก่อนจะยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเลือดที่ค่อยๆไหลออกมาทางจมูก
“กูไม่ได้ตั้งใจว่ะ โทษที”
“มึงเอาลูกบอลมึงไปเถอะไป” ผมพูดพลางลุกขึ้นเก็บหนังสือแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น เพราะตอนนี้รู้สึกว่าจมูกผมมันเบี้ยวๆพิกล = =
ตึกๆๆ
เสียงฝีเท้าวิ่งตามหลังผมมาก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างๆแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
“มึงเป็นตุ๊ดรึไง พกผ้าเช็ดหน้า?”
“เปล่า กูไปยืมแก๊งนางฟ้ามาให้”
“ไม่จำเป็น เลิกเดินตามกูซักทีสิวะ!” ยิ่งผมออกเดินมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเดินชิดผมมากเท่านั้น จนผมรำคาญหันไปตะคอก
“ก็กูทำมึงเจ็บ กูก็ต้องรับผิดชอบเด่ะ” มันยิ้มครับ.. มันยิ้ม (กัดฟัน)
“กูบอกว่าไม่ต้อง กูรับผิดชอบตัวเองได้ เลิกตามกูซักทีเหอะ”
“อ้าว ห่า ก็กูอยากช่วยไง”
“กวนตีน” ผมพูดพลางเอาผ้าเช็ดหน้า(ของใคร?) มาซับเลือดที่ไหลออก ทำไมผมถึกขนาดนี้วะ โดนซะเต็มแรงขนาดนั้นยังไม่รีบเป็นลมอีก ...กูเป็นตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย? - -
“มึงแหละกวนตีน กูแค่อยากช่วยเอง” มันยิ้มเผล่แบบสบายๆครับ - -
ผมก็ได้แค่มองหน้ามันก่อนจะเดินไปที่ห้องพยาบาลเพื่อขอนอนพัก เพราะตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหน้ามืดแล้วละ(นี่มึงเพิ่งรู้ตัว???)
++++++++++
“ขออนุญาตครับ” ผมเปิดประตูเดินเข้าห้องพยาบาล ในขณะที่มีอีกคนเดินตามผมมาแบบหน้ายิ้มๆ ? มันจะยิ้มหา... - -
ผมเดินเข้าไปนอนบนเตียงของห้องพยาบาล เตียงหนึ่งซึ่งมันมีอยู่ทั้งหมดสี่เตียง ก่อนจะหลับตาลงผมเห็นไอ้หมอนั่น(ตั้งแต่เจอกันยังไม่รู้จักชื่อ) เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ
“กูถึงห้องพยาบาลโดยสวัสดิภาพแล้ว ก็ขออัญเชิญมึงออกไปเถอะ” ผมพูดก่อนจะหลับตาลงเพราะตอนนี้ ผมเริ่มรู้สึกจะหน้ามืดเต็มที
“โอเคน่า กูนอนเฝ้ามึงก็ได้”
หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรบ้าง เพราะผมเผลอหลับไปเลย(ทั้งๆที่เลือดมันยังกรังจมูกนั่นแหละ) ก็ผมลืมตาไม่ไหวแล้วนี่ครับ..
ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงออดโรงเรียนดังขึ้น เป็นการบอกว่าเลิกเรียนแล้ว
‘รับโทรศัพท์หน่อยค้าบบบบบบบบบบ เพื่อนมึงโทรมาค้าบบบบบบบ’ เสียงริงโทนห่วยๆอัดเสียงเองโดยเพื่อนสนิทของผมเองครับ ไอ้ลม
“ว่าไง” ผมกดรับทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ มันลืมไม่ได้ครับ ยังสำออยไม่หาย - -
‘มึงอยู่ไหนวะ? พวกกูจะไปเที่ยวน้ำตกกัน มึงไปมั้ย?’
“น้ำตก? ห่า กูง่วง กูจะนอน ไม่ไปนะ” ผมกำลังจะกดวางสายแต่ก็ได้ยินเสียงของโทรศัพท์อีกเครื่องดังขึ้นมา ...นี่มึงยังไม่ไปอีกเหรอเนี่ย?
“ว่าไง” นั่น ลอกคำพูดกูอีก
“หะ.. เออ โอเค กูยังไงก็ได้อยู่ละ ..เออๆ ได้... เจอกัน” มันกดวางสายก่อนจะหันหน้ามามองผมนิดนึงแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียงพลางบิดขี้เกียจ
“กูคงต้องขอตัวก่อนละวะ”
“อยากไปก็ไป กูเคยขอให้มึงอยู่เรอะ” ผมพูดแล้วพลิกตัวไปอีกทาง
ปัง !
เสียงเปิดประตูห้องพยาบาล ที่โผล่มาพร้อมกับหน้าไอ้แป๊ะยิ้มของไอ้ลม
“ฮัลโหล หมู่รัก” ^____________^
ผมกำลังจะหันไปถามมันว่า หาผมเจอได้ยังไง แต่ก็ลืมไปว่ามันมีโทรศัพท์ที่ติดตามสัญญาณได้ว่าปลายสายจะอยู่ที่ไหน (หมู่ เป็นภาษาอีสาน คือเพื่อน หรือพวกพ้อง) มันชอบกระแดะพูดอีสานครับ มันบอกว่าสนุกแล้วก็เท่ดี
“มึงต้องไปกับกู~ ไม่งั้นกูไม่ยอมว่ะ” มันเดินมานั่งข้างเตียงผม
“ทำไมกูต้องไป กูขอเหตุผลที่ฟังขึ้นซักสามข้อ”
“หนึ่ง เพราะกูอยากให้ไป”
“สอง?” ผมเหล่ตามองไอ้หมอนั่น มันก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมเหมือนรอคำตอบด้วย?
“เห็นมึงบอกไม่อยากกลับบ้าน กูก็เลยหาเรื่องให้มึงไปเที่ยวกัน”
“และสาม”
“เพราะมึงเป็นเพื่อนกู ^__________^” ไอ้แป๊ะยิ้ม ยิ้มกว้างก่อนจะตอบข้อสุดท้ายแบบฉบับของมันที่ทำเอาผมต้องถอนหายใจ
“ลา? รึไง” ผมถามมันก่อนที่มันจะพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนที่ผมจะถอนหายใจแล้วตัดสินใจว่าไปก็ได้ ก็ดีกว่าได้กลับบ้านละนะ...
ผมลุกไปล้างหน้าที่ห้องน้ำของห้องพยาบาลก่อนจะเดินออกมา ก็เห็นว่าไอ้หมอนั่นกับเพื่อนผมคุยกันเฮฮาอยู่สองคน
“พวกมึงรู้จักกันไง?” ไม่ได้อยากรู้หรอกนะ แต่กูแค่อยากถาม(?)
“เออดิ ก็เนี่ยไอ้กานต์ เคยทำงานช่วยพวกเราตอนทำแคมป์ไงมึง” กานต์ไหนวะ กูไม่รู้จัก
“เหรอ” ผมพูดก่อนจะสะพายกระเป๋าใบเดิม เดินออกจากห้อง
“กูดีใจว่ะ ที่มึงก็ไปด้วยอยากคุยกับมึงมานานแล้วแม่ง อยากขอเคล็ดลับสูตรหน้าใสกิ๊งกับหุ่นฟิตเปรี๊ยะแบบนี้มั่งว่ะ” ไอ้ลมเริ่มพล่ามตามประสามัน
“อ้อ.. ก็ไม่มีอะไรมากนี่ กูก็ไม่ได้ทำไรเลย เกิดมาหล่อเอง” ถุย..
...แต่เดี๋ยวนะ
“อะไรไปด้วย?” ผมหันหลังมาถามพวกมันที่เดินตามหลังผมอยู่สองคน ไอ้กานต์ยืนล้วงกระเป๋ายิ้มๆก่อนไอ้ลมจะตอบผมว่า
“เอ้า ก็ไอ้กานต์มันก็เป็นเพื่อนของไอ้เงินไงมึง มันก็ต้องได้ไปดิ ก็ไอ้เงินเป็นเจ้าของทริปนี้นะเว้ย”
“ไอ้สัด แล้วไม่บอกกู! กูไม่ไป !” ผมพูดก่อนจะเดินหนี ไม่รู้ครับ มันไม่ได้ทำอะไรให้ผมหรอก แต่มันกวนประสาท ผมเป็นคนชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียวและไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผมมากไปนอกจากเพื่อนสนิทผม อย่างไอ้ลมเท่านั้น
“แต่มึงบอกว่าจะไปแล้วนะเว้ย” ลมเดินมาตบหัวผม
“ก็ตอนนี้กูกลับคำไง พอดีที่บ้านมีธุระ”
“ส้นตีน ถ้าที่บ้านมึงมีธุระ กูต้องรู้ก่อนมึงดิ!”
“พ่อง ! มึงจะมารู้ก่อนกูได้ไง ไม่ใช่พ่อแม่กูซักหน่อย”
“ก็วิทย์อะ ชอบโทรมาบอกพ่อกูไง” เฮ้ยๆ.. วิทย์อะชื่อพ่อกู - -
“ควาย พ่อกูไม่ใช่เพื่อนมึง” ว่าแล้วก็ประเคนตีนให้มันซักทีเถอะครับ กวนตีนดีจริงๆ
“ไม่รู้เว้ย ยังไงมึงก็ต้องไป”
“ไม่ไป”
“ไม่กล้าละสิ” เสียงที่สามแทรกขึ้นมา ก่อนที่ผมจะตวัดสายตาหันไปมอง
“ใช้อะไรคิด?” ผมพูดเสียงเย็น มันกลับยักไหล่สบายๆกลับมาให้ผม ไม่สบอารมณ์จริงๆ
“ก็ปอดไง เขาบอกมาแบบนี้อะ” ไอ้ลมนี่ก็ปากหมาเข้าทุกวันแล้วไอ้ห่า
“เออ! กูไปก็ได้วะ!”
พูดแค่นั้นแหละครับ ไอ้ลมถึงกับยิ้มแก้มปริก่อนจะหันไปยักคิ้วยกนิ้วโป้งให้ไอ้กานต์ ประมาณว่าป่วนประสาทผมสำเร็จ เออ... ให้มันได้แบบนี้สิเพื่อนกู ผม ไอ้ลม แล้วก็...ไอ้กานต์อะไรนั่นเดินลงมาจากตึกเรียนที่หนึ่ง แต่ก่อนที่ผมจะเดินไปที่รถ ที่พวกมันเตรียมไว้ให้ ไอ้กานต์ก็เดินมาดักหน้า แล้วยื่นกระดาษโพสอิทมาให้ผม ‘สงบศึก’ เหอะ... ใครไปมีศึกกับมึง? (ได้ข่าวว่ามึงนะ = =) ผมขย้ำกระดาษนั้นทิ้งก่อนจะเดินขึ้นรถ (งอนเป็นตุ๊ดเชียว) ใครด่าผมตุ๊ด!? ...เดี๋ยวเหอะ...
ความคิดเห็น