คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [MarkBam] #หมาป่าเดอะซีรีย์ : หนูน้อยหมวกแดง 120% end
หนูน้อยหมวกแดงเต้นระบำเปลื้องผ้าให้หมาป่าดูเพื่อที่จะได้ไม่ถูกกิน
หนูน้อยหมวกแดงยอมทำตามที่หมาป่าต้องการทุกอย่าง
สุดท้ายหนูน้อยหมวกแดงก็ถูกหมาป่ากิน
เด็กดีต้องเชื่อฟังที่พ่อแม่บอกมิฉะนั้นจะถูกมาร์คจับกิน
ตำนาน
เรื่องเล่าหรือคำขู่ของพวกผู้ใหญ่ ที่เล่าขานกันปากต่อปากมานานหลายร้อยปี
เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเด็กๆ หนีออกไปเที่ยวเล่นในป่าคนเดียว มาร์ค คือนามของหมาป่าหนุ่มรูปงามรูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขาม
แต่ทว่าว่องไวเสียเหลือเกิน ขนของมันเป็นสีดำสนิทเช่นเดียวกับนัยน์ตาของมัน
มาร์คเป็นหมาป่าที่รักสันโดนมักอาศัยอยู่ในป่าลึก
ดังนั้นน้อยคนนักจะได้เห็น นอกเสียจากโชคไม่ดีพบมันเข้าล่ะก็
แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยก็มิอาจเปล่งเสียงออกมาได้ทัน
และสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เห็นคือ ดวงตาสีดำสนิทคมดุคู่นั้น
ผู้คนพากันขลาดกลัวการเข้าป่าลึกหากต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายตัวนี้
“แบมแบม เอาผลไม้พวกนี้ไปให้คุณยายที่ชายป่า แล้วก็ ห้ามเถลไถล
หรือแวะข้างทางเป็นอันขาดนะ”
เด็กชายตัวน้อยรับตระกร้าผลไม้จากมารดา
ดวงหน้าหวานเกินชายพยักหน้ารับคำจนหัวสั่นหัวคลอน
แบมแบม เด็กหนุ่มตัวเล็กเจ้าของผิวสีแทนกับ
ดวงตากลมโตเป็นประกายสีน้ำตาลอ่อนชวนหลงใหล
ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้สบตาหวานคู่นี้ล้วนแล้วใจอ่อนทุกราย
อาจจะเป็นเพราะใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มบวกกับความช่างพูดช่างเจรจา
จึงมีแต่คนรักใคร่เอ็นดู ชีวิตแบมแบมช่างน่าอาภัพนัก
เขาเสียพ่อไปตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก
“แบมโตแล้วนะแม่แค่นี้เอง”
เด็กน้อยมุ่ยหน้าใส่เรียกเสียงหัวเราะจากคนเป็นมารดาได้เป็นอย่างดี
มือบางรั้งเสื้อคลุมสีแดงตัวโปรดให้กระชับมากขึ้น
เดินเข้าไปหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างของมารดา
ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่นที่แสนคุ้นเคย
“แม่แบมไปแล้วนะ ลาก่อนครับ”
เด็กน้อยร่างบางเจ้าของริมฝีปากอิ่มดึงหมวกที่คลุมอยู่ด้านหลังขึ้น
ส่งยิ้มหวานก่อนโบกมือลามารดาอันเป็นที่รักยิ่ง มุ่งหน้าไปบ้านยายที่ชายป่าใหญ่
มันน่าแปลกใจไม่น้อยถ้อยคำกล่าวลาของลูกชายครั้งนี้เหตุใดจึงหดหู่จนน่าใจหายราวกับว่าเธอและลูกชายจะไม่พบหน้ากันอีกแล้ว
เสียงใสเจือแจ้วขับขานร้องเพลงมาตลอดเส้นทางพร้อมกับแกว่งตะกร้าผลไม้ใบน้อยไปมาอย่างอารมณ์ดี
จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ไงล่ะ ก็บรรยากาศสวยงามซะขนาดนี้
สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งดอกทิวลิปที่แข่งกันอวดสีสันสวยสดใส
ตัดกับสีเขียวของต้นหญ้า กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี
กับกลิ่นต้นอ่อนของใบไม้ใบหญ้า ล่องลอยอบอวลไปทั่ว ทุกครั้งที่มีกระแสลมอ่อนๆ
พัดผ่าน คิดๆ ดูแล้วก็อยากพาแม่และยายมาชื่นชมสวยงามนี้ด้วยกันอีกครั้ง
หากว่าช่วงนี้แม่ของเขาไม่ป่วยซะก่อนการมาเยี่ยมยายครั้งนี้เขาคงไม่ต้องมาเพียงลำพัง
ทุ่งดอกทิวลิปคือเส้นทางที่แบมแบมและแม่ใช้เป็นประจำทุกครั้งยามไปเยี่ยมยาย
หากลองเปรียบเทียบกับเส้นทางอื่นๆ แล้ว ทางนี้ค่อนข้างไกลและใช้เวลานาน
แต่เป็นทางที่ปลอดภัยที่สุด เส้นทางอื่นๆ ถึงแม้จะใช้เวลาไม่นานนั้น
แต่ก็ต้องเดินลัดเข้าไปในป่าใหญ่
“อ่ะ
กระต่ายน้อย”
กระต่ายตัวน้อยขนปุกปุยสีขาวกระโดดเข้ามาทักทายเมื่อเจอสิ่งมีชีวิตแปลกหน้า
มือบางสัมผัสกับเจ้าขนฟูตัวนุ่มนิ่มนั่นอย่างเป็นมิตร
“มาจากไหนเหรอ
เจ้าตัวน้อย อ่ะ อย่าเพิ่งไปสิ”
กระต่ายน้อยขนฟูกระโดดหนีเข้าไปในป่าทันที
เมื่อได้ยินเสียงทักทายจากแบมแบม
ด้วยความที่เด็กน้อยชื่นชอบและอยากเลี้ยงกระต่ายมานานจึงรีบวิ่งตามไป
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้หลงเข้ามาในป่าเสียแล้ว
แบมแบมกระชับตระกร้าในมือแน่น
มองไปรอบๆ ตัว ล้วนแล้วมีแต่ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านเต็มไปหมด แล้วเขาจะไปทางไหนดี
ทุกอย่างในนี้มืดสลัวดูน่ากลัวไปหมด
เนื่องจากแสงของดวงอาทิตย์ไม่อาจฉายแสงทะลุผ่านความหนาแน่นของใบไม้ไปได้
ผนวกกับเสียงร้องของสัตว์ป่าดังแว่วเป็นระยะทั่วทุกทิศ
แกร๊ก
นั่นเสียงอะไร!!!
เด็กน้อยสะดุ้งสุดตัวหันไปมองต้นเสียงนั่นด้วยความตกใจสุดขีด
ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนออกมาอย่างโล่งใจเมื่อหันไปพบว่าเป็นนายพรานในหมู่บ้าน
“มาทำอะไรแถวนี้ไอ้หนู”
“ผมกำลังจะไปบ้านคุณยาย
แต่ว่าตอนนี้หลงทางครับ”
“มากับฉันไหมล่ะเจ้าหนู”
แบมแบมลังเลที่จะเดินตาม แต่ด้วยความอยากออกจากป่าโดยเร็วจึงเลือกเดินตามชายคนนั้นไป
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
แต่ทำไมไม่เห็นวี่แววของทางออก ยิ่งเดินเหมือนยิ่งลึกเข้าไป
“คุณลุงครับ
เมื่อไรจะถึงทางออกเหรอครับ”
“มันเป็นทางลัด
เพื่อหลบมาร์ค”
มาร์ค…
สิ่งมีชีวิตที่แสนร้ายกาจพรากลมหายใจพ่อของเขาไป
ตอนนั้น แม่เล่าให้ฟังว่า พ่อไปหาของป่าเพื่อเอามาขาย บังเอิญเห็นทุ่งดอกลิลลี่
สีสันแปลกตา
มีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วอาณาบริเวณดึงดูดให้พ่อของเขาเดินเข้าไปเชยชม
แล้วเด็ดลิลลี่ดอกสวยดอกหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญแด่ภรรยาคนสวยที่มอบลูกน้อยแสนน่ารักน่าชังแก่เขา
มารู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว ดวงตาคมสีดำสนิทจ้องมาที่เขา
มาร์ค!!
หนี ต้องรีบหนี
ฝีเท้าเล็กเร่งความเร็วให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้มันคือวิธีเดียวที่จะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากความอัปยศนี้ได้
ช่วยด้วย
ใครก็ได้ช่วยด้วย!!
เสียงเล็กตะโกนร้องขอความช่วยเหลือมันทั้งแหบและแห้ง
หวังเพียงให้มีใครสักคนได้ยิน ใบหน้าใสเต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสายทำให้ตาพร่ามัวมองเส้นทางไม่ชัดดังเดิม
เด็กน้อยสะดุดรากไม้ล้มลงไถลไปกับพื้นดินอย่างแรง
ไม่ได้นะ
จะช้าไม่ได้นะ
แบมแบมรีบพยุงตัวลุกขึ้น
ทันทีที่ปลายเท้าบางสัมผัสกับพื้นดินความเจ็บแปลบแล่นปรี๊ดขึ้นมาอย่างรวดเร็วตรงบริเวณข้อเท้า
เด็กน้อยกัดฟันวิ่งขากะเผลกด้วยความทรมาน เขาต้องรีบออกจากป่านี้ให้ได้
แค่ข้ามเนินดินตรงหน้าไป แต่มันคงเป็นแค่เพียงความคิด ข้อเท้าข้างหนึ่งถูกดึง
เด็กน้อยไถลวืดไปด้านหลัง
“เสร็จฉันละ
จะหนีไปไหน”
“ไม่นะ
ปล่อย!!” แบมแบมดิ้นสุดแรง ทั้งข่วนทั้งถีบแต่ไม่เป็นผล
แรงอันน้อยนิดของเด็กอายุ 19 มีหรือจะสู้แรงของชายวัยฉกรรจ์ได้
แคว๊ก!!
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกดึงกระชากออกจากกันอย่างไร้ความปราณีเผยให้เห็นผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย
สองข้อมือเล็กถูกตรึงไว้บริเวณเหนือหัวด้วยมือหยาบ
ส่วนอีกข้างกำลังลูบไล้บีบเค้นทับทิมสีหวานอย่างมีอารมณ์ ขาเรียวทั้งสองถูกแทรกกลางโดยสะโพกหนาที่พยายามบดเบียดกายเข้ามา
เสียงหวานร้องขอความเมตตาจากคนตรงหน้าอย่างน่าสงสาร
ดวงตาคู่สวยแดงกล่ำมีหยดน้ำไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
แต่คนเลวตรงหน้าหาได้สนใจไม่พยายามหาความสุขจากกายบางตรงหน้าต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ลมหายใจที่แสนน่ารังเกียจและเน่าเหม็นผ่อนรดผ่านซอกคอสวยไล่ลามไปยังใบหน้าหวานแล้วเลื้อยลงมาที่หน้าอก
ปลายนิ้วหยาบปลดเปลื้องกระชากกางเกงทรงฝักทองสีดำหม่นออกให้พ้นทาง เหลือไว้แต่กายเนื้อสีน้ำผึ้งนวลเนียนชวนสัมผัส
เด็กน้อยตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว ช่องว่างเพียงหนึ่งเดียวถูกเติมเต็มด้วยสองนิ้วหยาบ
บดเบียดกระแทกแดกดันขยับเข้าออกอย่างไร้ความปราณี แบมแบมตั้งสติรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายดีดดิ้นอีกครั้งหวังหลุดพ้นจากนรกที่เผชิญอยู่
แต่มันกลับสร้างอารมณ์โทสะให้แก่คนเบื้องหน้า คนใจทรามตบหน้าบางสามสี่ทีแล้วชกเข้าที่ท้องน้อยอย่างแรง
มันทั้งเจ็บและจุกจนไร้เรี่ยวแรงขัดขืน น้ำสีแดงขุ่นเข้มซึมไหลออกทางมุมปากอิ่ม
ไร้ซึ่งหนทางหนี
อืม…
เสียงคำรามแสดงความพึงพอใจของพรานป่าใจทรามดังขึ้นไม่เว้นวรรคสร้างความหวาดกลัว
รังเกียจ น่าขนลุก ขยะแขยง ผสมผสานปนเปทุกครั้งที่ได้ยินและทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แบมแบมยังคงสวดอ้อนวอนขอความเมตตากับพระเจ้าทั้งน้ำตาอีกครั้ง แต่เสียงที่สวดนั้นคงไปไม่ถึง
ความเจ็บปวดแทรกซึมไปทั่วทุกอนุของร่างกาย บทลงโทษของความคิดน้อย เป็นเหตุให้เด็กน้อยต้องทนทรมานอยู่อย่างนี้
ร่างกายยังคงสั่นไหวรองรับแรงอารมณ์ดิบเถื่อนและรุนแรงของคนทรามที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย
แม้ช่องทางฉีกขาดมากขนาดไหน หรือเลือดในกายอุ่นหลั่งไหลมากเพียงใด ชายคนนี้หาได้สนใจ
สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือตักตวงและเติมเต็มความสุขให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน
ดวงตาไร้แววแห่งความสดใส ริมฝีปากอิ่มแห้งแตกเต็มไปด้วยเลือด หยาดน้ำของความอัปยศยังคงไหลมาไม่ขาดสายจากช่องทางช่องเร้นลับ
กายบางมีร่องรอยฟกช้ำและรอยกัดมากมายเต็มไปหมด
แสงจันทร์สาดส่องสะท้อนให้เห็นเงาบางอย่างลางๆ
คล้ายสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ยืนจ้องมองเขาอยู่ แค่พริบตาเดียวเงานั้นได้อันตรธานหายไปเหลือแต่ความว่างเปล่า
สิ่งนั้นหายไปไหน
อ๊ากก!!!!!!!!!!
ตุบ
เสียงร้องโหยหวนของคนโฉดดังขึ้น
พร้อมกับบางอย่างกลิ้งตกลงมาเบื้องหน้าแบมแบม ดวงตาใสเบิกโพลงด้วยความตกใจสุดขีด มันคือศีรษะของพรานป่าใจโฉด
เด็กน้อยหวีดร้องอย่างคนไร้สติดีดดิ้นผลักร่างไร้วิญญาณออกจากตัว
สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์นัยน์ตาสีดำคมดุกระโจนตัวออกมาจากเงามืดพร้อมกับเสียงคำรามทุ้มต่ำแต่ชวนขนลุกไปถึงกระดูกดำ
เด็กน้อยเบิกตาค้างไม่ขยับเขยื้อนตัวไปไหนจ้องมองฟันแหลมคมเงาวับที่เต็มไปด้วยเลือดไหลหยดเป็นทาง
โฮก
สิ้นเสียงขู่คำรามจากสัตว์ร้ายครึ่งคนครึ่งมนุษย์เรียกสติเด็กน้อยกลับมา
หนี เขาต้องหนี!
สมองบงการอย่างนั้นแต่ร่างกายกลับพยศยิ่งนักนิ่งเฉยไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน
พริบตาเดียวอสูรร้ายมายืนอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว นัยน์ตาสีรัตติกาลจ้องเขม่งราวกับอยากขย้ำฉีกเนื้อเขาออกเป็นชิ้นๆ
มันอ้าปากกว้างเผยฟันเขี้ยวคมแหลมคม
อ๊ากกกกกกกก
ท่อนไม้ขนาดใหญ่ช่วยกันลำคอสวยจากปากสัตว์ไว้ได้ทัน
แบมแบมฮึดสู้ดันร่างอสูรร้ายครึ่งคนให้พ้นทางยันตัวลุกขึ้นวิ่งหนีอีกครั้ง กงเล็บแหลมคว้าจิกขาเรียวจนเลือดไหลรินออกมา
เด็กน้อยทั้งเตะทั้งถีบจนหลุดพันจากพันธนาการ ฟันคมแสยะยิ้มมุมปากพึงพอใจกับของเล่นชิ้นใหม่
ขาเล็กวิ่งสะเปะสะปะผ่านสวนดอกลิลลี่เข้าไปในบ้านร้างหลังใหญ่
มือเรียวลงกลอนประตูทุกบานอย่างแน่นหนา
แล้ววิ่งขึ้นไปชั้นสองเข้าห้องนอนซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้า
เพล้ง!!
ผิดคาด
อสูรร้ายกระโดดขึ้นมายังชั้นสองราวกับหยั่งรู้ว่าเหยื่อตัวน้อยอยู่ด้านบน เด็กน้อยสะดุ้งตัวสั่นหยดน้ำใสไหลอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง
ฝ่ามือเรียวปิดปากตัวเองไว้ไม่ให้ส่งเสียงสะอื้นออกมา จ้องมองท่าทีของหมาป่าตัวร้ายผ่านทางช่องว่างระหว่างประตู
ทันใดนั่นเองสองสายตาประสานกันเข้าอย่างจัง มันแสยะยิ้มเผยฟันเขี้ยวแหลมคม
โครม!!!
ประตูเสื้อผ้าถูกกระชากฉีกออกเหมือนกิ่งไม้แห้งๆ
ร่างเล็กถดถอยหนีจนติดผนังตู้หวังให้ความมืดมิดอำพรางร่างกาย
แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ปีศาจร้ายฉุดกระชากเรียวขาบางออกจากตู้เสื้อผ้าก่อนจะอุ้มพาดบ่าไปที่เตียงกว้าง
เด็กน้อยตัวสั่นระริกไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาพยายามขัดขืนเพื่อหลบหนีน่าเสียดายที่มันช้ากว่าอุ้งมืออสูรครึ่งคนตนนี้
มันฉีกกระชากเสื้อบางออกเป็นริ้วทุกครั้งที่เขาคิดหนี
“ไม่!!!!
อย่านะ!!! ได้โปรด!!!”
แบมแบมหลับตาแน่นหันหน้าหนีเมื่ออสูรร้ายขยับเข้ามาใกล้
สองข้อมือเล็กถูกตรึงแนบติดกับเตียงด้วยอุ้งมือปีศาจหมาป่าในร่างครึ่งคน ลมหายใจอุ่นร้อนเจือกลิ่นคาวเลือดผ่อนรดซอกหูบาง
เด็กน้อยสะดุดโหยงเมื่อปลายลิ้นเรียวเลียไล้ซอกคอ
“อยากมีชีวิตอยู่ไหม…”
“…ทำตามที่ข้าบอกสิ…”
เสียงหัวเราะน่ากลัวดังกึกก้องไปทั่วห้องหลังจากหยิบยื่นทางรอดให้กับลูกแกะหลงทางตรงหน้า
ดวงตากลมโตวูบไหวไปกับข้อเสนอของมัน สัตว์ร้ายร่างยักษ์ค่อยๆ ถอนตัวออกจากเหยื่อตัวน้อยไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ริมหน้าต่างความมืดมิดช่วยอำพรางบดบังสีหน้าพึงพอใจของอสูรร้ายได้เป็นอย่างดี
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ปิดไม่มิดคือรอยแสยะยิ้มกว้างเผยฟันแหลมคม และแววตาจ้องมองราวกับรอเวลาตะครุบเหยื่อ
“ถะ.....ถ้าหากทำตาม…..จะปล่อยผม....ป....ไปจริงๆ ใช่ไหม”
เสียงใสพยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่นเครือไปมากกว่านี้
ความรู้สึกนึกคิดตีกันให้วุ่นไปหมด
หากนี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้เขารอดออกไปได้เขาก็พร้อมยอมทำ แบมแบมหยัดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีหวาดกลัวและระแวง
นิ้วเรียวยาวบรรจงปลดเปลื้องเศษเสื้อผ้าสีขาวที่เหลืออยู่น้อยนิดถอดทิ้งไว้ที่ข้างเตียง
ตามด้วยกางเกงผ้าสีเข้ม ดวงตาคมดุกระตุกไหวเล็กน้อยเมื่อสิ่งปกป้องเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของเหยื่อตัวน้อยหลุดร่วงกองอยู่ที่พื้น
เรือนร่างเล็กบอบบางยามเมื่อต้องแสงจันทร์ยั่วยวนใจปีศาจร้ายครึ่งมนุษย์ยิ่งนัก
ฝ่ามือน้อยพยายามปกปิดส่วนสำคัญที่เหลืออยู่ แววตาคมกริบของอสูรร้ายวาวโรจน์จับจ้องมองร่างอันเปลือยเปล่าไม่ละสายทำให้เด็กน้อยเกิดรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
แบมแบมสะดุ้งโหยงหัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นเมื่อสัมผัสกับความร้อนรุมจากปลายจมูกซุกไซ้สูดดมกลิ่นกายอันหอมหวานเฉพาะตัวที่ซอกคอ
เรียวลิ้นสากลากไล้บริเวณซอกคอลามไปยังใบหูแล้วขบกัดเบาๆ
“กลิ่นกายเจ้าช่างหอมนัก”
“ไหนว่าถ้าทำตามแล้วจะปล่อยผมไป…..”
อึ่ก..
ฟันคมแสยะยิ้มน่าสะพรึงกลัวสะใจกับความโง่เขลาของร่างบาง
ปลายนิ้วเรียวไล้ตามใบหน้าหวานแล้วบีบคางมนอย่างแรงเพื่อให้สบตาอันคมกริบของมันและทวีแรงบีบมากขึ้นจนแบมแบมต้องยกมือขึ้นมาจับมืออสูรเอาไว้
มันไม่สนใจเลยว่าร่างเล็กจะเจ็บปวดมากขนาดไหน กำปั้นเล็กรัวทุบอกปีศาจร้ายโดยไม่ออมแต่แรงที่มีมันช่างเบานักไม่สะเทือนร่างหนาเลยสักนิด
“อย่านะ!!! อึ่ก.......ไม่!!!”
อสูรร้ายเติมเต็มช่องว่างเพียงหนึ่งเดียวด้วยนิ้วเรียวทั้งสามนิ้วภายในครั้งเดียว
อีกครั้งที่เด็กน้อยต้องทนทุกข์ทนทรมาน
“เจ้ามันช่างโง่เขลา หึหึ
อา.......”
หมาป่าหนุ่มครึ่งมนุษย์จับร่างอันเปลือยเปล่าคว่ำหน้าลงกับพื้นด้วยท่าคลานเข่าแล้วกระหน่ำยัดเหยียดความตายแก่ร่างบางอย่างไม่หยุดยั้งด้วยกายเนื้อขนาดใหญ่
เด็กน้อยทั้งเจ็บและจุกแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากฝันร้ายเบื้องหน้าได้ หยาดน้ำสีขุ่นบริสุทธิ์จากกายเนื้อสีน้ำผึ้งหลั่งรินนับครั้งไม่ถ้วนด้วยน้ำมือและแรงกระแทกจากอสูรร้ายครึ่งคน
ฝ่ามือบางดึงคว้าผ้าห่มผืนหนาหวังปั่นทอนความเจ็บปวดให้มันลดลง
เสียงหวานครางเหมือนเสียงดนตรีบรรเลงขับกล่อมให้อสูรร้ายเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
และเร็วยิ่งขึ้น ความรู้สึกบางอย่างก่อกำเนิดขึ้นทุกครั้งที่อสูรร้ายเหยียดกระแทกกายบุกรุกเข้าไปเติมเต็มช่องว่างของกายบางอย่างถือสิทธิ์
“อือ....ดะ.....โปรด...อึ่ก...ปล่อยผม.....อื้อ....”
อสูรร้ายคืนร่างชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลารูปร่างกำยำพลิกกายบางให้เผชิญหน้า
นัยน์ตาคมกริบจ้องมองเข้าไปในแววตาคู่สวยเอ่อล้นเปรอะเปื้อนน้ำตา
หมาป่าหนุ่มโน้มกายขยับคางสวยเชยรับจุมพิตแสนเร่าร้อนและหนักหน่วง เรียวลิ้นยาวสอดแทรกปลุกเร้าโพรงปากอิ่มอย่างชำนาญ
คมเขี้ยวเล็กฝังปลายลิ้นหนาอย่างแรงจนมาร์คผละตัวออก เลือดสีแดงสดของหมาป่าไหลนองออกจากปากเรียว
ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มมุมปาก หากชีวิตหลังจากนี้ของเขาจะหาไม่ อย่างน้อยเขาก็สามารถทำให้สัตว์ร้ายเลือดออกได้
หึ เด็กนี่....น่าสนใจ....
อ๊า!!!!!
เด็กน้อยร้องลั่นเมื่อเบื้องล่างถูกรุนรานอย่างหนักหน่วงรวดเร็วและรุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า
สองมือบางจิกข่วนยึดหลังแกร่งจนเลือดซึมตามเล็บสวย ฟันคมขบกลีบปากสีสดดูดดึงอย่างหิวกระหาย
ต้องการ....
...มากกว่านี้!!
ปีศาจหนุ่มตักตวงความหวานล้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแบมแบมแทบหมดลมหายใจ
หากริมฝีปากเรียวไม่ถอนออกจากกลีบปากบวมแดง แรงกระแทกจากเบื้องล่างถี่กระชั้นมากขึ้นเรื่อยๆ
เสียงใสเริ่มหวีดร้องไม่ได้ศัพท์
“อ๊า!!!!!”
หยาดน้ำขุ่นหลั่งไหลเปรอะเปื้อนหน้าท้องปีศาจหนุ่มและแน่นอนว่าส่วนล่างของเด็กน้อยเปียกชุ่มจนไหลล้นทะลักออกมาเช่นกัน
ส่วนเติมเต็มยังอยู่ภายในร่างบาง แบมแบมทิ้งตัวลงพื้นอย่างหมดแรง
“อ๊ากกกกกกกก”
ฟันแหลมคมของปีศาจหมาป่าฝังเขี้ยวลงเนินไหล่เนียนสวย
ฉีกกระชากเส้นเลือดกระเซ็นชโลมอาบกายบาง มาร์คเสพสุขเพลิดเพลินจากการกินเศษเนื้อมนุษย์และเลือดสีแดงขุ่น
แบมแบมกระตุกเฮือกดิ้นรนหนีจากเครื่องมือสังหารโหด เด็กน้อยเริ่มหายใจรวยระริน
สุดท้ายเขาต้องตายสินะถึงแม้จะยอมสมสู่กับอมนุษย์ตนนี้ นัยน์ตาหวานพร่ามัวเอ่อล้นเต็มไปด้วยหยดน้ำตาหลับตาลงอย่างอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงขัดขืน
แม่...
ผมคงกลับไปหาแม่ไม่ได้แล้ว...
ผมรักแม่นะครับ....
“หากปล่อยให้เจ้าตาย......น่าเสียดายแย่”
ปีศาจร้ายบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างหนักหน่วง และบรรเลงโหมกระหน่ำสอนบทเพลงแห่งความตายแก่เด็กน้อยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
- END -
ความคิดเห็น