คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : อดีตชาติ....
‘เด็กน้อยเอ๋ย......ในอณาจักรที่ไม่วันแตกแห่งนี้ มีบุรุษผู้หนึ่งที่เป็นทั้งเจ้าชาย และแม่ทัพผู้เกรียงไกรหาใครเทียม เป็นที่รักยิ่งของประชาชน วันหนึ่งบุรุษผู้เรืองนามนี้ก็พลาดท่าเสียทีให้แก่ศัตรู แต่ก่อนที่วิญญาณของเขาจะหลุดลอยไปจากร่างกายที่แหลกสลายนั้น เทพเจ้าอพอลโล เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ เห็นใจจึงได้บอก ให้ท้าวพรีแอมบิดาและพระนางเฮกคิวบามารดาของบุรุษผู้นี้ถึงวาระสุดท้ายแห่งบุตรชาย ท้าวพรีแอมนั้นเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในขณะนั้นเอง กองทัพของผู้ติดตามสตรีแห่งหายนะที่เจ้าชายปารีได้ไปเอาตัวมา ได้เข้ามาใกล้แล้ว ดังนั้นท้าวพรีแอมจึงต่อรองกับ เทพเจ้าฮาเดสจ้าวแห่งดวงวิญาณ ซึ่งบัดนี้ได้ครอบครองดวงวิญญาณของบุรุษผู้นี้ไว้แล้ว ว่าเขาจะยอมมอบทุกสิ่งที่เทพเจ้าต้องการแม้แต่ชีวิตของเขา ขอเพียงให้คืนดวงวิญญาณบุตรชายคืนมา เพื่อช่วยเหลือบ้านเมืองเป็นครั้งสุดท้ายเพราะถ้าไม่มีบุรุษผู้นี้ก็ไม่มีใครอาจหาญและมีความสามารถพอจะไปต่อสู่กับเหล่ากองทัพนั้นได้ เทพเจ้าฮาเดสได้ฟัง ก็หัวเราะเยาะ ท้าวพรีแอม และได้บอกแก่ท้าวพรีแอมว่า ดวงวิญญาณที่เข้ามาอยู่ใต้อาณัติของเทพเจ้าฮาเดสไม่มีวันที่จะกลับมาได้อีก ท้ามพรีแอมไม่ยอมรับสิ่งที่เทพเจ้าฮาเดสบอกจึงพยายามอ้อนวอนต่างๆนานา จนในที่สุดเทพเจ้าอาเดสจึงใจอ่อนยอมบอกวิธีที่จะนำบุตรชายนั้นกลับมา คือ ท้าวพรีแอมจะต้องไปตามหาดวงวิญญาณของบุตรชายในห่วงเวลา ที่เขาหลุดพ้นจากใต้อาณัติของท่าน กลับสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง ภายใต้การควบคุมของเทพีแห่งโชคชะตา นั้นคือการเกิดใหม่ แม้ว่าท้าวพรีแอมจะรู้วิธีคืนชีวิตใหม่ ให้กลับของบุตรชาย แต่ทว่าท้าวพรีแอมยังคงต้องทุกข์ทรมารด้วยเหตุที่ว่า จะไปหาดวงวิญญาณที่เกิดไหมของบุตรชายได้ที่ไหนและอย่างใด เทพเจ้าอพอลโลจึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยอีกครั้ง ด้วยที่ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์และยังเป็นเทพแห่งกาลเวลา จึงให้พลังแห่งกาลเวลาไปพาดวงวิญญาณกลับมา และเจ้า....เด็กน้อย เจ้าคือดวงวิญญาณแห่งบุรุษผู้จากไป บุรุษผู้นั้นคือ เจ้าชายเฮกเตอร์แม่ทัพผู้เกรียงไกร’
เรื่องเล่าของเทพธิดาพยากรณ์ก็ยังคงอยู่ในห่วงคำนึงของผักกาดแก้ว เธอนั่งอยู่ริมระเบียงสวนภายในปราสาทเพื่อคบคิดในเรื่องที่ได้ฟังมา นี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนมีใครมาบอกกับเธอแบบนี้ มีหวังเธอคงหัวเราะจนฟันโยกแน่น คิดดู คนอย่างเราเนี้ยนะจะเป็นเจ้าชายเฮกเตอร์ไปได้ นี่ยังไม่สำคัญเท่าที่ว่าเธอจะต้องมาอยู่ในร่างของอดีตชาติของตัวเอง ถึงตอนนี้เธอหัวเราะไม่ออก ได้แต่มานั่ง เก๊กซิม อยู่อย่างนี้ หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ที่นี้ ท้าวพรีแอมหรือที่ตอนนี้เธอต้องเรียกว่าท่านพ่อ ได้บอกแก่เธอว่าท่านจะให้เทพธิอดาพยากรณ์ช่วยให้เธอได้กลับไปยังชาติภพที่เธอจากมา เพียงแต่เธอจะต้องอยู่ในร่างของเจ้าชายเฮกเตอร์นี้ และนำทัพออกไปสู่กับศัตรูที่กำลังนำกองทัพมาประชิดเมื่องอยู่ในอีกไม่กี่เดือนนี้ เธอนี้อยากจะเถียงท่านพ่อในชาตินี้เสียเหลือเกิน ที่บอกว่าให้เธออยู่ในร่างนี้ไปก่อนนะพอทำได้หรอก ( ก็ในเมื่อเธอไม่มีร่างอื่นให้อยู่นี่ )แต่ที่จะให้ออกไปรบทัพจับศึกนะ เธอมันทำได้ที่ไหนกัน แค่เล่นในเกม ยังแพ้เขาเลย แต่จะให้นำคนเป็นๆนับร้อยนับพันออกรบ ก็ได้ตายหมดกองทัพปะไร นี้ยังไม่รวมว่าเธอก็ม่องเท่งอีกรอบ แล้วคราวนี้คงไม่ต้องใช้ บริการเทพธิดาพยากรณ์แน่ เธอคงได้ไปเกิดใหม่ ครานนี้ละสนุกกันใหญ่ คิดแล้วกลุ้ม ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี ได้แต่เอามือขยี้หัวตัวเอง
“เฮ้อ....”เสียถอนหายใจอย่างหมดอะไรตายยากของผักกาดแก้ว ทำให้บุรุษที่กำลังจะเดินผ่านไปกลับหยุดฝีเท้าลง และหันมามองนิ่งชักครู ก่อนที่จะเดินเข้ามา เสียฝีเท้านั้นทำให้ผักกาดแก้วเงยหน้าขึ้นมอง ชายหนุ่มรูปงามผมสีเข้มใบหน้าอ่อนเยาว์ แต่ร่างกายกลับดูไม่อ่อนเยาว์ตามไปด้วย แต่เป็นร่างกายเยี่ยงนักรบที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี จนแทบไม่มีไขมันส่วนเกินและเวลาเดินกล้ามเนื้อขยับตามการเคลื่อนไหว โห...เทพบุตรที่ไหนเนี้ย
“ท่านพี่มีเรื่องอันใดที่ทำให้ท่านกลุ่มใจจนต้องมามานั่งขยี้หัวตนเองอย่างนี้” เสียงทุ้มนุ่มชวนหน้าหลงใหล บวกกับความรูปงามเหมือนเทพบุตรทำให้ผักกาดแก้วลืมตัวมองด้วยความเคลิบเคลิ้ม และส่งสายตาหวานเชื่อมออกไปตามสัญชาติญาณของผู้หญิงโดยลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในร่างของผู้ชาย
“ เออ..........ท่านพี่ทำไมท่านถึงมองข้าด้วยสายตาแปลกๆ ละ” อีกฝ่ายทำหน้าเหมือนขนรุก ทำให้ผักกาดแก้วได้สติ รีบกลบเกลื่อนท่าทีของตัวเอง
“มะ..มะ..ไม่มีอะไร” แล้วไงต่อ สายตาของชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนจะถามเธอ ก็ยิ่งทำให้เธออึกอักทำอะไรไม่ถูก จนในที่สุดชายหนุ่มตรงหน้าก็คลี่ยิ้มออก
“ท่านพี่ในชาติภพอื่นนี้ช่างตลกจริง” นายคนนี้บอกว่าเราเหมือนตัวตลกงั้นหรอ อ๋อจำได้แล้วนายคนนี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วยนี้นะ แต่ ชิชะ จะมากไปแล้วอย่าถือว่าตัวเองหล่อหน่อยจะทำมาว่าคนอื่นได้นะ เฟ้ย
“หมายความว่าไงที่บอกว่า ตลกนะ” น้ำเสียงจากอึกอัก กลับมาเข้ม และสายชักจะมองขวางๆ ไปที่ชายตรงหน้า
“หึๆๆ ท่านพี่อย่าคิดมากสิ ที่ตลกนะ ข้าหมายถึงลักษณะของท่านที่แปลกตาออกไป เพราะในอดีตท่านพี่ไม่เคยแสดงอารมณ์อะไรมากนัก แค่พอมาเห็นท่านพี่แสดงอารมณ์หนักใจและตอนอยู่ในห้องนั้น ท่านพี่แสดงสีหน้าเหมือนอยากจะเข้าไปบีบคอท่านพ่อบีบคอเทพธิดาพยากรณ์ก่อนหรือหลังดีนั้นละที่ทำให้ข้าตลก”
“เชอะ..ตลกตายละ” ผักกาดแก้วบ่นกับตัวเอง
“แล้วคุณ..เฮ้ย..เจ้านะเป็นใครช่วยแนะนำตัวหน่อยสิ เพราะข้าจำอะไรในชาตินี้ไม่ได้เลย” ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้ม และมองเธอด้วยความอ่อนโยน
“ ข้าคือเจ้าชายปารี” โอ๊ะโอ....นี้มันตัวต้นเหตุของสงครามนี้ เจ้าชายปารี คนที่ไปเอาเมียคนอื่นมา ทำให้เป็นฉนวนสงครามจนกรุงทรอยล้มสลาย และที่สำคัญมันเป็นเหตุให้เธอต้องมาอยู่ที่นี้ด้วย สีหน้าของผักกาดแก้วเริ่มเข้มขึ้นด้วนความโกรธ แล้วจะไม่ให้เธอโกรธได้อย่างไง ก็ในเมื่อเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะ เจ้าชายไร้จริยธรรมตรงหน้านี้ ผักกาดแก้วโกรธจนทนไม่ไหว เธอลุกเผชิญหน้า ภายใต้ความอารมณ์ที่รุนแรงนั้นเจ้าตัวไม่รู้หลอกว่าอารมณ์โกรธนั้น มันไม่ใช่ของเธอเองทั้งหมด แต่มาจากอีกบุคคลหนึ่งในอดีตที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในภพนี้แล้ว
“ทำไมเจ้าถึงต้องไปเอาชายาของท้าวเมเนเลามาด้วย ในเมื่อเจ้าก็ออกจะรูปงามขนาดนี้ จะหาผู้หญิงอีกกี่สิบคนก็ได้ เพราะเจ้าคนเดี่ยวทำให้คนอื่นต้องลำบาก ทำให้ต้องเกิดสงคราม เพียงเพื่อสนองตัณหาของเจ้าคนเดียว”ก่อนที่ผักกาดแก้วจะยั้งคิด เธอก็ชกเปรี้ยงไปที่ใบหน้าเจ้าชายปารีเต็มแรงถ้าเป็นตัวเธอในร่างเดิมคงไม่ก่อให้กิดผลอะไรมากนัก แต่นี้เธออยู่ร่างของชายหนุ่มที่เป็นนักรบ ที่มีร่างกายแข็งแรงเมที่ ส่งผลให้หมัดนั้นเรียกเลือดที่มุมปากและจมูกได้เป็นอย่างดี และเจ้าปารีถึงกับเซไปข้างหลัง เจ้าชายปารียกมือขึ้นเช็ดเลือดและมองหน้าเอย่างไม่หวั่นเกรง
“ใช้ข้ามันคนเห็นแก่ตัวแต่ท่านก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าข้าได้ เพราะข้าทำไปเพื่อความรัก” เจ้าชายปารีตอบอย่างมุ่มมั่น
“ความรัก...แต่ความความรักของเจ้ามันจะทำลายทุกคน...ทำลายอาณาจักรทรอยนี้...”ผักกาดแก้วโต้กลับไป
“ไม่มีทางทรอยไม่มีวันแตก แต่ต่อให้ทรอยล้มสลายข้าก็ไม่สนใจ ความรักของข้าอยู่เหนือทุกสิ่ง”
“อะ....ไอ้...ไอ้เจ้าชายเสงเครง”คราวนี้ผักกาดแก้วไม่ได้ชกไปที่หน้าแต่เสยครางเข้าให้ แต่เจ้าชายปารีดูเหมือนจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้วจึงหลบพ้นและสวนหมัดกลับมาบ้าง แต่ด้วยสัญชาติญาณของนักรบที่มีอยู่ในร่างกายนี้ ทำให้หลบพ้น และใช้เข่าอัดเข้าไปที่ลิ้นปี่ของเจ้าชายปารีอย่างจัง ทำให้เจ้าปารีกองลงไปนอนตัวงอกลับพื้นบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด
“ไอ้คนเห็นแก่ตัว...”ผักกาดแก้วพูดอย่างแข็งกร้าว ก่อนที่เธอจะใช้เท้าเขี่ยเจ้าชายปารีให้หงายตัวและเยียบลงไปที่อก “ถ้าข้ามีดาบ ข้าจะเชือดเจ้าอย่างไม่กระพริบตาเลย ชิ..ความรักที่เห็นแก่ตัวเช่นเจ้าไม่สมครวจะเรียกว่ารัก”
“เกิดอะไรขึ้น...กรี๊ด.......ปารี.......”เสียงกรีดร้องของสตรีดังขึ้นด้านหลังทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง และได้เห็นสาวงามปานเทพธิดา วิ่งตรงยังที่เธอยืนอยู่ และลงไปประคองตัวปารีขึ้นมา และมองเธออย่างมาดร้าย
“ใครก็ได้ฆ่าเจ้าคนบังอาจนี้ซะ มันบังอาจทำร้ายเจ้าชายปารี” เสียงตะโกนของหล่อนทำให้ทหารเวรยามต่างวิ่งกรูเจ้ามาพร้อมกับอาวุธเตรียมที่จะสังหาร และต้องหยุดชะงัดลงเมื่อพบส่าคนที่สตรีคนนี้กล่าวถึงคือเธอ
“มัวแต่ยืนโง่อยู่ได้ จัดการมันเลยสิ” หล่อนกรีดเสียงสังการไปขณะที่มือก็ยังคงประคองเจ้าชายปารี ดวงตามีน้ำตาขึ้นมาคลอหน่วย
“เออ...แต่นี้คือ เจ้าชายเฮกเตอร์นะพะยะค่ะ”เสียงทหารหนึ่งในนั้นตอบ ทำให้หญิงสาวคนนั้นมองเธออย่างตกใจ
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั่นแหละ....ทหารพาเจ้าชายปารีและชายาเฮเลนกลับที่พัก” เสียงของสตรีอีกผู้หนึ่งที่สวยงามแต่ไม่ได้แม้เพียงครึ่งหนึ่งของเฮเลน เดินออกจากทางเดิน สตรีนางนี้อยู่ในชุดที่หรูหราบ่งบอกถึงฐานะว่าเป็นสตรีสูงศักดิ์ และทีสำคัญเธอกำลังท้องแก่เสียด้วย
“แต่อันโดรมาคีน...เจ้าชายเฮกเตอร์เขา .” เฮเลนพยายามประท้วงแต่ อันโดรมาคีนไม่สนใจ
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นเฮเลนเรื่องนี้เป็นเรื่องของบุรุษ สตรีที่เป็นเมียเช่นเราไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น เจ้าพาปารีไปปฐมพยาบาลเถอะ” หล่อนพูดอย่างปราณี เฮเลนจึงยอมทำตาม เมื่อทุกคนออกไปจาสวนหมดแล้วก็ เหลือแต่ผักกาดแก้วกับชายาอันโดรมาคีน บุคคลที่เธอไม่อยากจะพบเลย ชายาของเจ้าร่างกายนี้
“....ใยท่านกลับมาแล้วถึงไม่ไปหาข้าค่ะ แล้วทำไมถึงต้องชกต่อยกับปารีด้วยละ” หล่อนถามผักกาดแก้วอย่างเยือกเย็น ฝ่ายผักกาดแก้วก็ได้แต่อึกอักไม่รู้จะตอบเธออย่างไรดี ว่าเมื่อกี่เหมือนมีผีสิ่ง แต่ เอ๊ะ...เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายมาสิงร่างเจ้าชายเฮกเตอร์ แต่ก่อนที่ผักกาดแก้วจะตอบชายาอันโดรมาคีน หล่อนก็เดินเข่ามาโอบกอดเธอย่างแรงก่อนที่จะร้องไห้ออกมา น้ำเสียงที่เคยเยือกเย็น และภาพของสตรีสูงศักดิ์ได้หายไปสิ้นเหลือแต่สตรีที่ตัวสั่นเทาจาการร้องไห้และโอบกอดเธอราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป
“ท่านรู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงท่านแค่ไหนเฮกเตอร์ ตั้งแต่ข้าได้ข่าวว่าท่านได้รับบาดเจ็บ ข้าก็แทบไม่เป็นอันกินอันนอนได้แต่สวดมนต์ขอร้องให้เทพเจ้าช่วยให้ท่านรักษาชีวิตกลับมาหาข้าและลูกของเราได้”น้ำตาของอันโดรมาคีน ทำให้อกของผักกาดแก้วเปียกชื้น ทันใดนั้นในส่วนลึกของวิญญาณก็สั้นสะท้านขึ้นมาช่วงแวบหนึ่งเธอรู้สึกว่า เศษเสี้ยวของเจ้าชายเฮกเตอร์ในวิญญาณของเธอตอบรับกับน้ำตาของอันโดรมาคีน และทำให้ร่างกายค่อยยกมือขึ้นโอบกอดตอบและซุกหน้าลงไปบนผมสีน้ำตาลอมแดง และน้ำตายก็ค่อยไหลออกมาพร้อมกับคำพูด
“ข้ากลับมาหาเจ้าแล้ว...มาคีน....ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ใดข้าก็จะกลับมาหาเจ้าเสมอ” ร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว และเมื่ออันโดรมาคีนเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของหล่อนก็เปรอะไปด้วยน้ำตา ผักกาดแก้วยกมือขึ้นเช็ดอย่างเบาๆกลัวว่าแก้มของคนในอ้อมแขนจะช้ำ และค่อยๆโนมหน้าลงไปเหมือนหมายจะจุมพิต และขณะนั้นเองผักกาดแก้วก็กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง จึงเบนไปจูบที่หน้าผากแทน เกือบแล้วไหมละเรา เกือบได้จูบปากผู้หญิงด้วยกันกันเข้าให้ เสียวไส้จริงๆเลย
“เออ...อันโดรมาคีนเจ้ากลับไปที่พักเถอะเดี่ยวข้าจะตามไป” สตรีในวงแขนยิ้มอย่างดีใจ และผละออกไป
“ค่ะท่านพี่...มาคีนจะไปรอที่ห้อง” แล้วหล่อนก็ค่อยเดินจากไป ด้วยน้ำหนักของครรภ์ทำให้เดินไม่สะดวก พอหล่อนทำท่าจะล้ม ร่างกายของผักกาดแก้วก็ขยับไปรับโดยอัตโนมัติ และอุ้มขึ้นมาอยู่ในวงแขน
“เดินระวังหน่อยสิเดี่ยวเด็กในท้องจะเป็นอันตราย ข้าอุ้มเจ้าไปละกัน” อันโดรมาคีนยิ้มหน้าบานก็ที่จะชุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของสามี ส่วนผักกาดแก้วที่นี้สงสัยว่าตนเองนั้นเป็นอะไรแล้ว ทำไมถึงมีพฤติกรรแปลกประหาด และที่สำคัญในส่วนลึกของวิญญาณเหมือนจะพยายามบอกเธอว่า ต้องดูแลตรีและเด็กในครรภ์นี้ ต่อให้ด้วยชีวิตก็ตาม
หรือว่า......
ความคิดเห็น