คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เมื่อสายลมพัดผ่าน
“ซู่!.....ซู่!” เสียงแรงลมที่พัดผ่านต้นอินทนิลที่ออกดอกบานเต็มต้นที่ขึ้นเป็นอุโมงค์ต้นไม้หน้าตึกคณะการจัดการ ความแรงของลม มันแรงมากจนทำให้ดอกกลีบบอบบางสีม่วงอมขาว หลุดออกมากิ่งก้านสาขา ที่ทอดยาว มันคงจะสวยงามเหมือนภาพวาด ทางเดินซากุระในประเทศญี่ปุ่นอันโด่งดัง และแสนจะโรแมนติก สาวน้อยร่างอวบกำลังเดินอ่านหนังสือนิยายเล่มโปรด โดยไม่สนใจคู่รักที่เดินเป็นคู่ๆผ่านไป
“แก้ว.....แก้ว.......” เสียงร้องเรียกชื่อดังจากที่ไกลๆและใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่เจ้าของชื่อก็ไม่สนใจ ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านนิยายเล่มโปรดต่อไป ก็แหมจะให้ตอบได้ไงก็ในเมื่อพระเอกของเรื่องกำลังจะบอกรักกับนางเอกอยู่แล้ว แถมฉากในเรื่องนั้นยังเหมือนกับที่เธอกำลังเดินนี้อยู่ด้วย โอ้ย!....ยิ่งอ่านยิ่งอยากเป็นนางเอก
“ไอ้คุณน้องแก้ว จะเอาไหมฮะ.....เอกสารประกอบการรายงานปึ่ง เนี้ย” เสียงเรียกของพี่คะน้า ทำให้ผักกาดแก้วหยุดกึก แต่ไม่ได้หยุดเพราะเป็นเสียงของพี่ชายแต่หยุดเพราะคำพูดท่อนหลัง ตายแล้ว นี้เราหยิบแต่นิยายที่จะเอามาคืนห้องสมุดนี่หว่า และหันหลังกลับไปเจอกับภาพพี่ชายในชุดก่อนเข้าสวนผัก ที่ประกอบด้วยกางเกงเก่าๆขายาวและเสื้อเชิ๊ตแขนยาวที่ชายขาดลุ่ย ที่ยืนหอบหน้าแดง ในมือก็ถือถุงเอกสาร พร้อมกับจ้องเขม็งมาที่เธออย่างเหลืออด
“ขอบคุณพี่คะน้า ถ้าพี่ไม่เอามาให้แก้วเสร็จแน่งานนี้” คะน้าถอนหายใจหนักๆ ไม่ใช่เพราะความเหนื่อยที่วิ่งมาจากบ้านแต่เพราะ เจ้าน้องสาวตัวดีนี่สิ ขนาดจะต้องทำprojectจบและวันนี้จะต้องรายงานก็ยังไม่วายเดินถือนิยายอ่านอีก ปวดหัวจริงๆเลย
“นี้คุณน้องแก้ว ถามจริงๆเถอะ เมื่อไหร่จะเลิกอ่านนิยายน้ำเน่าเสียที แกก็จะจบแล้วนะทำไมไม่ตั้งใจเรียนให้ได้คะแนนดีกะเขาบ้างฮะ” คะน้าถามน้องอย่างเหลืออด ผักกาดแก้วก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ จะให้เลิกอ่านได้ไงในเมื่อมันเป็นเหมือนอากาศสำหรับเธอไปแล้ว ทำไมนะหรือ เพราะว่าตัวเธอนั้น ตั้งวัยรุ่นต้นๆ จนตอนนี้มันเข้าสู้วัยรุ่นตอนปลายมากๆ แบบนี้ก็ยังไม่มีแฟนกะเขาเลย เฮ้อ...เศร้าจริงๆ ดังนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ขอเอานิยายน้ำเน่าเติมความหวานในชีวิตแทนแฟนละกัน แต่เหตุผลนี้คงไม่สามารถบอกพี่คะน้าได้แน่ ไม่งั้นพี่คะน้าคงเต้นเป็นเจ้าเข้า แล้วจะว่า ‘ อะไร! เรียนยังไม่จบ ริอาจจะมีแฟน และไอ้เหตุผลของแกนี้ฟังไม่ขึ้นเลย เฟ้ย’ อะไรประมาณเนี้ย เรื่องเศร้าของสาวขึ้นคาน
“ เอาน่า..หนูไม่มีเวลามายืนฟังพี่เทศนาแล้ว เพราะนี่ก็เกือบได้เวลาเข้าเรียนแล้ว” ผักกาดแก้วยกนาฬิกาขึ้นมาดูประกอบ “หนูไปก่อนนะพี่ แล้วเจอกันเย็นนี้” คะน้ามองน้องสาวรีบเดินจากไป แต่ยังไม่ทันที่ลับตา แม่น้องตัวดีของเขาก็ล้มโครมลงไป ทำให้หนังสือและกระจาย เกลื่อนทางเดิน
“ให้มันได้อย่างงี้สิน้องเรา .....นอกจากบ้านิยายแล้วยังจะซุ่มซ่ามอีก แล้วไอ้หนุ่มที่ไหนเขาจะสนหนอ” คะน้าได้แต่ส่ายหน้าไปมา แล้วช่วยน้องสาวเก็บหนังสือและเอกสาร
“นี้ยายแก้ว ทีหลังกรุณามองทางด้วยนะ ไม่งั้นคราวหน้าฉันว่าแกต้องเดินตกท่อเข้าซักวันแน่” เสียงบ่นกระปอดกระแปดของพี่ชาย ทำให้เธอได้แต่แอบยิ้ม
“แหมพี่คะน้า ตั้งแต่แต่งงานกับพี่นุชนี้ กลายเป็นตาแก่ขี้บ่นไปเลยนะ”
“เหอะ.....ขืนฉันไม่ฝึกฝีปากเอาไว้ ท่านพ่อตาที่เคารพคงสับฉันเป็นหมูสับแน่เวลาไปเยี่ยม......ชิ! ตาแก่ปากกรรไกร” เสียงบ่นของพี่คะน้าทำให้ผักกาดแก้วระลึกไปถึงเรื่องราวความรัก ของพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่กว่าจะได้แต่งกันก็ต้องทำสงครามกับนาย
เมื่อเก็บหนังสือและเอกสารที่กระจายได้หมด ผักกาดแก้วลาคะน้าอีกครั้งและหันหลังรีบเดินจากมา พร้อมกลับไปอ่านหนังสือนิยายต่อ แล้วทันใดนั้นอยู่ดีๆ สายลมที่พัดเอื่อยๆ กลับค่อยๆพัดแรงขึ้น แรงขึ้น แรงจนดอกอินทนิลที่ล่วงหล่นอยู่ตามพื้น ปลิวกระจายขึ้นมาจนเหมือนกับม่านหมอกดอกอินทนิล แล้วทันใดนั้น
“เฮกเตอร์........กลับมาเถอะเฮกเตอร์”เสียงคร่ำครวญของใครบางคน น้ำเสียงที่ทรมานและแสนเศร้าสร้อย ผักกาดแก้วก็หันไปมองที่ต้นตอของเสียง แต่ก็ไม่พบใคร แต่เสียงนั้นก็คงดังขึ้นและดังขึ้นเลื่อยๆ สายลมก็ยิ่งพัดแรงหนักไปกว่าเก่า จนผักกาดแก้วคิดว่ามันเป็นพายุไปแล้ว
“โอย!....อะไรกันเนี้ยมองไม่เห็นทางแล้ว” ผักกาดแก้วพูดอย่างตื่นตระหนก พื้นทางเดินที่เคยมั่นคง กลับอ่อนยวบ ทันใดนั้นผักกาดแก้วก็รู้ว่าพื้นจากอ่อนยวบ กลายเป็นว่างเปล่า
“อะ.....อ๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” นั้นคือเสียงสุดท้ายของสาวน้อยที่มีนามว่า ผักกาดแก้ว ที่อยู่บนโลกใบนี้ สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงนิยายและเอกสารประกอบการรายงานที่กระจุยกระจายเต็มทางเดิน และแล้วทางเดินอุโมงค์ดอกอินทนิลก็กลับสู่สภาพปกติที่แสนโรแมนติกต่อไป
เสียงซุบซิบที่ดังอยู่เหนือหัว นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆคือ มันดังมากพอที่จะดึงให้ผักกาดแก้วได้สติขึ้นมา และภาพแรกที่เธอคือเหล่าหญิงสาวในชุดขาวเต็มไปหมด
“ อุ้ย! เจ้าชายเฮกเตอร์ฟื้นแล้ว” เสียงหวานๆของผู้หญิง ที่อยู่ใกล้เคียงเธอพูดด้วยความโล่งอก ใครนะเจ้าชายทัพที่พูดถึง ผักกาดแก้วพยายามยกหัวมองหา
“ไม่ได้นะค่ะเจ้าชายเฮกเตอร์ ฝ่าบาทพึ่งจะฟื้นจากอาการบาดเจ็บ” หญิงสาวอีกคนก็เข้ามาประคองผักกาดแก้ว และเบียดแม่สาวคนแรกออกไปแทบกระเด็น
“นี้ฟีบี หล่อนไม่ต้องทำเสนอหน้ามาเอาใจเจ้าชายเฮกเตอร์นะยะ” หญิงสาวคนแรกกระชากแขนแม่สาวคนที่สองที่มีนามว่าฟีบี ให้หันมาฟังตน การกระทำแบบนั้นส่งผลให้ผักกาดแก้วหัวโขกกับฟื้น
“โป๊ก!”
“โอ้ย...ซีด!!!!” เสียงหัวของผักกาดแก้วโขกพื้นและเสียงร้องคราง ทำให้สองสาวหันกลับมาประคองเธออีกรอบ
“เจ้าชายเฮกเตอร์เป็นไงบ้างค่ะ ให้มาร่าดูหัวหน่อยสิค่ะ” แม่มาร่าคือแม่สาวคนแรก แต่ฟีบีก็ไม้ยอมน้อยหน้าเข้ามาแย่งมาร่าทำหน้าที่
“หล่อนเอามือออกไปจากหัวเจ้าชายเฮกเตอร์นะยายมาร่า ฉันจะดูแลท่านเอง” สายตาของแม่สองสาวปะทะกัน เกือบจะมีกระแสไฟฟ้าแล่นปะทะกันแปล๊บๆ แล้วเสียงกรรมการห้ามศึกก็ดัง
“หยุดการกระทำที่ไร้มารยาทได้แล้ว มาร่า ฟีบี” เจ้าของเสียงเข้มงวดดังมาจากหญิงสาววัยกลางคน
“ท่านเวสต้า” มาร่าและฟีบีต่างอุทานขึ้นพร้อมกัน ผักกาดแก้วก็อยากจะขอบคุณ คุณเวสต้าที่มาห้ามศึกถ้าเธอไม่คายของเก่าออกมาเสียก่อน
“โอ๊ก.......โอ๊ก” แม่สองสาวที่ตอนแรกทำท่าจะแย่งกันดูแลต่างพร้อมใจกันปล่อย
“ตายแล้วเจ้าชายเฮกเตอร์.......แม่สาวๆ ไปหาน้ำกับอ่างล้างหน้ามาเร็ว”เสียงสั่งการของเวสต้าทำให้เหล่าสาวๆต่างกระวีกระวาททำตาม เมื่อของที่เวสต้าต้องการมาถึง หล่อนก็ประถมพยาบาลและอบรมมาร่าและฟีบีไปพร้อมกัน
“พวกเจ้าทั้งสองนี้ใช้ไม่ได้เลย มัวแต่แย่งกัน เจ้าชายเฮกเตอร์ไม่ใช่ดอกไม้หรือของเล่นที่พวกเจ้ามาแย้งกันได้”
“ค่ะท่านเวสต้า” สองสาวก้มหน้าตลอดการอบรม
“ไปทั้งสองคน ไปแจ้งกับท่านรองแม่ทัพเรออล ว่าเจ้าชายเฮกเตอร์ฟื้นแล้ว ทางมหาวิหารจะเป็นผู้ดูแลเอง...ไปได้”
“ค่ะท่านเวสต้า” แล้วสองสาวก็รีบแจ้นออกไป
เมื่อสองสาวนั้นออกไป เวสต้าก็นำน้ำมาให้ผักกาดแก้วบ้วนปาก และให้เธอล้างหน้าตาที่อ้างน้ำขนาดย่อมที่ยกมาพร้อมกับส่งผ้าให้เช็ด และส่งผ้าให้เช็ดที่บริเวนอกที่เลอะ ซึงก็รับมาเช็ดแต่โดยดี แล้วทันใดนั้น
“กรีดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงกรีดร้องอย่างตกใจของผักกาดแก้วดังอย่างกับเสียงหวอไฟไหม้ แล้วจะไม่ให้ตกใจได้อย่างไงก็ในเมื่อเงาที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำนั้น ไม่ว่าจะมองซ้ายมองขวาอย่างไง ก็ไม่ใช่ใช้เธอแน่นอนจะใช่เธอได้ไงก็ในเมื่อมันเป็นหน้าผู้ชายที่มีหนวดเคราขึ้นเต็มไปหมดถึงแม้ว่าจะได้รับการตัดเล็มอย่างดีก็ตาม หน้าอกของเธอก็ไม่มี ไม่ว่าจะจับอย่างไร ก็เป็นอกของผู้ชายชัวร์ๆ แถมล่ำบึกเสียด้วย อุ้ยตายว้าวกรีดนี้มันเกิดอะไรขึ้น ตอนที่เธอสลบไปมีใครมาแอบตัดมันทิ้งไปหรือไง
“เป็นอะไรเพค่ะ เจ้าชายเฮกเตอร์ เกิดอะไรขึ้น”เวสต้าถามอย่างตออกตกใจ
“อกของฉันหายไปไหน” ฉันหันไปถามอย่างตื่นตระหนก เวสต้าก็มองด้วยความงง
“ก็ไม่หายไปไหนนี้เพค่ะ”
“จะไม่หายไปได้ไง ก็มันอกผู้ชายนี้” ฉันแทบจะร้องไห้โฮ พร้อมกับขยุ้มอกไปด้วย
“ก็ใช้นะสิค่ะ อกผู้ชาย จะเป็นผู้หญิงไปได้อย่างไรก็ในเมื่อฝ่าบาทเป็นผู้ชายนี้เพค่ะเจ้าชายเฮกเตอร์และยังเป็นแม่ทัพคนสำคัญของเราด้วย”
“ไม่จริง ฉันเป็นผู้หญิง และชื่อผักกาดแก้วไม่ใช่แม่ทงแม่ทัพที่ไหน” เสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำในอก ดังก้องอยู่ในหูของผักกาดแก้ว
“ฝ่าบาทใจเย็นๆนะค่ะ แล้วฟังข้านะค่ะ” เวสต้าบอก
“ท่านคือเฮกเตอร์ เจ้าชาย แห่งมหานครทรอยและยังดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แห่งนคร ฝ่าบาทกำลังเดินทางกลับจากยกทัพไปปราบผู้ลุกราน และยังรีบกลับเพื่อไปหาท่านอันโดรมาคีมชายาที่กำลังท้องแก่ นะเพค่ะ”
“หา.....ว่าไงนะ” นั้นคือคำสุดท้ายที่ผักกาดแก้วได้กล่าวก่อนที่จะล้มพับไป
เมื่อผักกาดแก้วฟื้นคืนสติขึ้นมาอีกที ก็หวังว่ามันคือความฝันแต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะพอเธอจับหน้าอก ก็ยังคงเป็นหน้าอกผู้ชายอยู่ดี นี้มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรเนี้ย ครั้งสุดท้ายที่จำได้ เธอกำลังเดินไปเรียนอยู่ดีๆ ก็ตกลงไปในอุโมงค์ และมาโผล่ที่นี้แถมยังถูกแปลงเพศเป็นผู้ชายไปซะอย่างงั้น แถมกำลังจะมีลูกกับภรรยาเสียด้วยไม่ได้เราต้องพิสูจน์ให้แน่ มือก็ค่อยๆไปที่ผ้าห่มที่คลุมส่วนล่างไว้และค่อยคลำลงที่ส่วนกลางลำตัว
“........................” ไม่อยากจะคิดเลยว่าที่คลำอยู่นี้เป็นสิ่งที่เธอคิด ไม่ได้สิบปากกว่าไม่เท่าตาเห็น และก็กลั่นใจยกผ้าห่มขึ้นดู ........................มันอยู่ตรงนั้นจริงๆด้วย!.............( ไม่ต้องบอกหลอกนะว่าอะไร )
“ฝ่าบาททำอะไรเพค่ะ” เสียงเวสต้าถาม ในมือของหล่อนถือถ่านอาหารเข้ามา
“ฉะ..ฉัน...” ผักกาดแก้วพูดไม่ออก รีบดึงผ้าห่มกลับที่เดิม ใบหน้าก็เริ่มแดงซ่าน
“นี้ค่ะ อาหารอ่อนๆ ทานแล้วนอนพักซะนะค่ะ”แล้วหล่อนก็เดินออกไป ปล่อยให้ผักกาดแก้วไว้คนเดียว ทีนี้เธอจะเอาไงดีละ จะทำอย่างไรดี ผักกาดแก้วลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินวนไปเวียมา จนปวดหัวไปหมดแล้ว ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า
“เอาไงเอากัน.........รองเป็นผู้ชายไปก่อนละกัน แล้วค่อยคิดกันใหม่”
ทางด้านนอกห้อง มาร่ากำลังยืนคุยกับ รองแม่ทัพเรออลอย่างเคร่งเครียด
“ท่านเรออล ข้ารู้สึกว่าเจ้าชายเฮกเตอร์แปลกไปนะค่ะ”
“แปลกอย่างไรละมาร่า”
“ก็ท่านโวยวายว่าฝ่าบาทเป็นผู้หญิงอย่างไรนะค่ะ และยังถามข้าอีกด้วยว่าทำไมหน้าอกของท่านจึงหายไป”
“แล้วเจ้าไปได้ยินใครเขาพูดละ” น้ำเสียงออกจะเคืองของเรออล ทำไมเขาจะไม่เคืองละในเมื่อมีคนมาพูดดูถูกเจ้าชายเฮกเตอร์ เยื่องนี้
“ข้าได้ยินมากับหูเลยนะค่ะ เจ้าชายเฮกเตอร์ตะโกนดังขนาดนั้น” คำพูดนั้นทำให้เรออลรองแม่ทัพหนุ่มตะลึง เจ้าชายเฮกเตอร์ผู้ที่เข้มแข็งและเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งมหานคร ที่มีเหล่าทหารทั้งหมดในมหานครอยู่ใต้บังคับบันชา แล้วทำไมท่านถึงนึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงไปได้
“หรือว่าเป็นเพราะโรคร้ายที่ฝ่าบาทได้รับ” เรออลพยายามหาข้อแก้ตัวให้กับเจ้านายตัวเอง แต่มาร่าก็ยังทำหน้าสงสัยอยู่ดี
“เจ้าไม่ต้องสงสัยไปหรอกมาร่า เป็นดังที่ท่านเรออลบอกนะแหละ มันเป็นผลข้างเคียงจากโรคร้าย เดี๋ยวซักพักฝ่าบาทก็จะ เป็นเหมือนเดิมเองละ”เสียงของเวสต้าดังขึ้นด้านหลังทั้งสองคนและยิ้มอย่างเยือกเย็น มาร่ารีบทำความเคารพและออกไปจากบริเวนนั้นทิ้งไว้แต่เรออลและเวสต้า
“แล้วเจ้าชายเฮกเตอร์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อไหร่”เรออลถามเสียงเรียบ
“คงอีกไม่นาน...ข้าต้องขอตัวก่อน”
ความคิดเห็น