คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2
“เอ่อ..... ผมมีเรื่องที่จะต้องแจ้งให้คุณทราบนะคับ” ชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวลและสุภาพ
“ค่ะ” เสียงของหญิงวัยกลางคนตอบรับอย่างแผ่วเบา ใบหน้าตาที่ซีดเซียวของเธอมองไปที่ชายผู้พูดอย่างสนใจ
“เรื่องการชันสูตรศพที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้น่ะครับ”
คู่สนทนาพยักหน้ารับ ด้วยท่าทีที่อิดโรย แต่สายตาของเธอไม่ได้ลดความสนใจลงเลย
“คือว่า.........จากการชันสูตร เราพบว่า ร่างกายของผู้ตายมีความผิดปกติอย่างมาก”
“ร่างกายของเขาไม่มีอวัยวะภายในใดๆอยู่เลย ”
“อะไรนะ!!!” สายตาของหญิงผู้ฟังเบิกกว้าง น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความตกใจและความสงสัย
“ไม่มีทาง.... เป็นไปไม่ได้” เธอกล่าวตอบโต้ด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด
“เรื่องอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ยังไง” เธอกล่าวเสริม
“ที่น่าแปลกอีกอย่าง จากการตรวจพิสูจน์บริเวณจุดเชื่อมต่อของอวัยวะ เราพบว่า อวัยวะภายในทั้งหมด ถูกตัดออกมานานกว่า 2 เดือนแล้วครับ” เขากล่าวขึ้นเพื่อดึงความสนใจอีกครั้ง
“ไม่จริง....ไม่มีทางต้องมีการเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ”
“เรื่องสำคัญอย่างนี้ ทางเราไม่ปล่อยให้ผิดพลาดง่ายๆหรอกครับ ”
“ถ้าอย่างงั้น คุณจะบอกว่าลูกสาวของชั้น ถูกคนร้ายที่ไม่มีชีวิต ทำร้ายเอาอย่างงั้นเหรอคะ”
“ในตอนแรก ผมเองก็ไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน จึงลองตรวจพิสูจน์อีกครั้งด้วยตัวเอง แต่ผลมันก็ออกมาแบบเดิม”
สีหน้าของผู้เป็นแม่ ดูสงบลง เธอลดสายตาลงมาก้มมองลงที่พื้น อย่างหมดหวัง
“ยังไงก็ตาม ทางเราจะพยายามสืบหาความจริงให้ได้ โดยเร็วที่สุดครับ คุณไม่ต้องห่วง” ชายหนุ่มกล่าวเพื่อให้คู่สนทนาเกิดความวางใจ
เธอพยักหน้าตอบรับ แม้สายตายังคงอยู่ที่เดิม
“ถ้าอย่างงั้น ผมขอตัวนะครับ” ชายผู้พูดกล่าวลาอย่างสุภาพ เขาค่อยๆเอื้อมเปิดประตูอย่างเบามือและเดินจากไป
“แม่คะ” เสียงที่แผ่วเบา เล็ดลอดออกมาจากลำคอของเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับสายระโยงระยางจำนวนมาก
เสียงที่แผ่วเบานั้น ทำให้หญิงที่ยืนอยู่มุมห้องตื่นเต้นจนแทบจะกระโจนตัวไปหาต้นเสียง
“เนล ” ผู้แป็นแม่ตอบรับด้วยเสียงที่สั่นเทา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ เธอค่อยๆเอามือสัมผัสลงบนใบหน้าลูกอย่างแผ่วเบา
“รู้สึกตัวแล้วเหรอลูก” เธอยิ้มให้กับลูกของเธอด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง น้ำตาเธอยังคงไหลอาบแก้มไม่หยุด
เด็กสาวบนเตียงพยักหน้าตอบรับ แม้ใจจริงเธออยากจะพูดและถามอะไรมากมายจนแทบอดใจรอไม่ไหว แต่เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะพูดอะไรต่อไปได้อีก เด็กสาวผู้อิดโรย ยิ้มให้กับผู้เป็นแม่ และค่อยๆหลับลงอย่างช้าๆ พร้อมกับหวังว่าเมื่อตื่นมาอีกครั้งเธอจะรู้ถึงความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เด็กสาวลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ภาพแรกที่สายตาอันพร่ามัวของเธอจับจ้องได้คือ วัตถุสีขาวลางๆที่ขยับเขยื้อนอยู่ใกล้ๆเธอ ไม่นานเมื่อสายตาของเธอเริ่มชินและมองเห็นชัดเจนขึ้น เธอเห็นว่ามีนางพยาบาลสาวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆเตียงของเธอ แต่ดูจะเป็นนางพยาบาลที่ดูแตกต่างจากนางพยาบาลทั่วไป ทั้งทรงผมสีบลอนด์ที่ตัดซอยสั้น และหน้าตาที่ดูน่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอหรือไม่ก็ไม่ห่างจากเธอมากนัก ก่อนที่เธอจะคิดต่อไปเลยเถิด เธอพยายามมองไปรอบๆห้องเพื่อจะดูว่าแม่ของเธออยู่ที่ไหน แต่เธอก็ไม่พบใครอื่นนอกจากตัวเธอเองกับนางพยาบาล เธอสังเกตเห็นว่าหญิงชุดขาวค่อยๆดึงเข็มฉีดยาออกจากขวดน้ำเกลืออย่างช้าๆเมื่อเห็นว่ายาสีแดงสดถูกบรรจุลงไปในขวดน้ำเกลือเรียบร้อยแล้ว
ยาสีแดงสดนั้นตกตะกอนอยู่ก้นขวดน้ำเกลือในเวลาไม่นาน และไหลเข้าสู่ตัวเธออย่างรวดเร็วจนไม่กี่อึดใจก็เหลือเพียงขวดน้ำเกลือที่มีสีปกติ เมื่อเห็นว่ายาเข้าสู่ตัวเธอจนหยดสุดท้ายแล้ว นางพยาบาลสาวค่อยๆดึงเข็มน้ำเกลือที่ติดอยู่ที่มือของผู้ป่วยออกอย่างนุ่มนวล นั่นทำให้เธอรู้สึกแปลกใจขึ้นมาในทันที เพราะนั่นไม่ใช่การกระทำที่ปกติอย่างแน่นอน
ไม่ทันที่เด็กสาวบนเตียงจะได้เอ่ยถามด้วยความสงสัย หญิงชุดขาวก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึกรู้สาใดๆ
“เธอหายดีแล้ว ไม่ต้องห่วง ถ้าจำเป็นต้องวิ่งเธอก็สามารถวิ่งได้”
คำพูดนั้นมันยิ่งทวีความรู้สึกสงสัยให้แก่เด็กสาวเป็นอันมาก คำพูดนั้นมันหมายความว่ายังไง ในหัวของแธอเริ่มคิดคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานา และเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่กำลังจะเกิดขึ้น
นางพยาบาลไม่สนใจสีหน้าอันงงเป็นไก่ตาแตกของเด็กสาวบนเตียงเลยแม้แต่น้อย เธอค่อยๆถอดเครื่องช่วยหายใจ รวมไปถึงเครื่องต่างๆที่ระโยงรยางค์รอบๆตัวออกจนเกือบหมด นั่นทำให้เด็กสาวบนเตียงตกใจเป็นอันมาก เธอทนต่อไปไม่ไหว และไม่คิดจะเอ่ยถาม เธอตะโกนร้องสุดเสียง แต่เธอต้องถึงกับช็อค เพราะไม่มีเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนใดๆออกมาจากลำคอของเธอเลย นั่นยิ่งทำให้เธอสติแตกเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเหมือนตอนที่ยืนอยู่ที่ดาดฟ้าของโรงเรียนในวันที่เลวร้ายนั้น ความรู้สึกเย็นวาบแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย หัวสมองเธอคิดฟุ้งซ่านไปถึงเหตุการณ์ร้ายๆต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธออีกครั้ง ฆาตกรรม ลักพาตัว หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านั้น ก่อนที่เธอจะสติแตกไปมากกว่านี้ เธอเริ่มลองขยับมือและส่วนอื่นๆของร่างกาย เธอพบว่ามันขยับเขยื้อนได้เหมือนดังปกติ นั่นทำให้สติของเธอกลับคืนมา แต่ก่อนที่เธอจะคิดขัดขืนหรือต่อสู้ดิ้นรนด้วยกำลังกายของเธอนั้น เครื่องมือทางการแพทย์ชิ้นสุดท้ายได้ถูกถอดออกจากตัวเธอ พร้อมกับคำพูดของนางพยาบาลสาวที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ร้ายไปแล้ว
“เนล ถ้าเธอจะขัดขืนชั้นก็ไม่ว่า แต่นั่นก็หมายความว่าเธอปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือ”
“ถ้าเธอร่วมมือกับชั้น เธออาจรอด แต่ถ้าเธอปฏิเสธที่จะร่วมมือ ฉันก็จะทำทุกอย่างให้เป็นปกติเหมือนเดิมแล้วให้เธอนอนรอดูสิ่งที่จะกำลังจะเกิดขึ้น”
คำพูดเหล่านั้นยิ่งทำให้ความคิดของเด็กสาวเตลิดไปไกล ทำไมต้องทำเช่นนี้ อะไรกำลังที่มันจะเกิดขึ้น นางพยาบาลคนนี้เป็นใครกันแน่ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำให้เธอมานอนอยู่ตรงนี้ และเรื่องต่างๆนานาอีกมากที่เธอยังไม่รู้ เธอไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี เรื่องที่เกิดขึ้นมามันซับซ้อนเกินที่จะเชื่อถือหรือคาดเดาอะไรต่อไปได้อีก เธอควรจะเชื่อดีหรือไม่ เธอควรจะทำยังไงต่อไป
เธอจ้องมองนางพยาบาลที่มีสีหน้าจริงจังและกำลังยืนรอคำตอบจากเธออยู่ เธอจ้องมองเหมือนกับว่าจะรอให้เขาพูดอะไรอีกออกมาอีกซักนิดเพื่อช่วยในการตัดสินใจของเธอ
เหมือนการสื่อสารทางสายตาจะได้ผล “ถ้าเธอไปกับชั้น เธอจะได้รู้ทุกอย่างที่เธออยากจะรู้..... ชั้นสัญญา” พยาบาลสาวเอ่ยขึ้น
เด็กสาวพยักหน้าตอบรับเหมือนคนที่ไม่ทันได้คิด อาจเพราะทุกอย่างรอบตัวเธอมันดูสับสนจนเธอไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี หรือเพราะนิสัยห้าวหาญถึงไหนถึงกันในยามปกติของเธอก็ตาม ยังไงซะมันก็ยังดีกว่า ถ้าอะไรที่กำลังจะเกิด มันเกิดขึ้นด้วยการตัดสินใจของเธอเอง
ความคิดเห็น