ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE CURSE ROOM

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 49


    ดินแดนแห่งผืนทราย ที่ไอร้อนพวยพุ่งทุกอณูแห่งเม็ดทราย

    ดินแดนที่ไม่มีจุดเริ่มต้น การดำเนิน และจุดสิ้นสุด ทุกสิ่งคือความว่างเปล่า

    กาลเวลาถูกหยุดไว้  ไร้ซึ่งการเปลี่ยนใดๆแห่งยุคสมัย

    ที่ที่ซึ่งความลับจะถูกปกปิดอย่างมิดชิด ไร้ซึ่งการเอ่ยถึง

    ใต้ผืนดินที่น่าพิศวง ความลับกลับลึกเพียงเอื้อมแขน

    ภายในประตูอันแข็งแกร่ง มีเพียงกลิ่นไอแห่งความพยาบาทที่เล็ดรอด

    ห้องแห่งการล้างแค้น ทำงานของมันอย่างเยี่ยมยิ่ง

    ภายใต้การไล่ล่า ไม่มีทางรอด ไม่มีการให้อภัย

    ไม่มีความผิดพลาด ตราบเท่าที่ผู้ถูกล่ายังถูกจารึกบนผนังแห่งความแค้น

    กงจักรแห่งการล้างแค้นจะทำงานอย่างไม่สิ้นสุด ให้สาสมกับการทรยศ


              “วางปืนลงเถอะ ปล่อยเด็กไปซะ มีอะไรเรามาตกลงกันได้ เสียงของผู้พิทักษ์สันติราษฏ์ดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบสงัดอันน่าหวาดกลัว เป็นเวลานานพอควรหลังจากที่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากกลุ่มนักเรียนจำนวนมากที่ยืนดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีเพียงลมพัดแรงเป็นระยะๆซึ่งเป็นเรื่องปกติ ถ้าอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูง6ชั้น

    เด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายยังคงยืนนิ่ง สีหน้าของเธอดูไม่มีความหวาดกลัวมากเท่าที่ควรจะเป็น แต่เธอรู้สึกเหมือนเริ่มหายใจไม่ออก และลมที่พัดผ่านรอบตัวเธอก็ดูจะเยือกเย็นกว่าปกติ ตำแหน่งที่เธอยืนอยู่นั้นมันทำให้หัวใจของใครหลายๆคนรวมถึงตัวเธอเองเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะถ้าเธอถอยหลังอีกเพียงไม่กี่เก้าเธอคงจะเกิดเรื่องเศร้าขึ้นอย่างแน่นอน

    เธอพยายามกวาดสายตามองดูรอบๆ พร้อมกับตั้งสติ เธอเห็นกลุ่มเพื่อนของเธอมองดูเธออย่างหวั่นวิตก บางคนร้องไห้ถึงกับเป็นลมจนต้องมีคนพยุงตัวไว้ แล้วเธอก็กวาดสายตาไปที่เธอมองไปที่ความหวังสุดท้ายของเธอ ตำรวจนอกเครื่องแบบที่กำลังถือปืนเล็งมาที่คนร้าย ถึงแม้เขาจะอยู่ใกล้ตัวเธอไม่กี่ก้าว แต่สำหรับเธอมันดูห่างไกลเหลือเกิน ถ้าเทียบกับคนร้ายที่ถือปืนเล็งมาที่เธอที่ห่างไปแค่เอื้อม

    ผู้ที่ยืนถือปืนอยู่หน้าเด็กสาว ชายวัยกลางคนในชุดพนักงานบริษัท เขาดูไม่โดดเด่นหรือแตกต่างจากพนักงานบริษัททั่วไปเลย ถ้าไม่มายืนอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนมัธยม แล้วถือปืนเล็งไปที่เด็กนักเรียนเช่นนี้  สีหน้าของเขาดูไม่มีความรู้สึกรู้สาใดๆเลย สายตาที่เหม่อลอยของเขามองตรงไปที่เด็กสาว แต่มันดูเหมือนว่ามองทะลุผ่านตัวเธอไป เขายืนนิ่งแข็งราวกับรูปปั้น ไร้ความรู้สึกและการตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างใดๆ

    ความหวาดกลัวของเด็กสาวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่กล้าที่จะขยับตัวแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เธอรวบรวมสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดจ้องมองไปที่ชายที่อยู่หน้าเธอ โดยพยายามกระพริบตาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะในตอนนี้เหตุการณ์เพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้เธอมีชีวิตรอดหรือจบชีวิตลงก็เป็นได้

    เวลามันช่างผ่านไปยาวนานเหลือเกินสำหรับเธอ ในหัวสมองของเธอเลิกคิดถึงวิธีต่างๆในการเอาตัวรอดที่เธอคิดขึ้นมาต่างๆนานาด้วยความฟุ้งซ่านก่อนหน้านี้ แล้วตั้งใจสวดภาวนาขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นให้เร็วที่สุด หรือไม่ก็ขอให้นี่เป็นเพียงแค่ฝันร้ายที่อีกไม่นานก็จะจบลงด้วยเสียงนาฬิกาปลุก

    อย่า!!!” เด็กสาวหันไปที่ต้นเสียง แต่ไม่ทันที่เธอจะรู้ว่าเป็นใคร เธอก็ต้องหันมาที่ชายที่ยืนตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว สายตาเธอเบิกโพลงและช็อกสุดขีด เมื่อเห็นว่าชายผู้นั้นกระโจนตรงเข้ามาที่เธออย่างรวดเร็ว เขายกแขนข้างที่ถือปืนอยู่ล็อกคอเธอไว้อย่างแน่นหนา ไม่ทันที่เธอจะขัดขืนหรือส่งเสียงร้องใดๆ เขากระโจนตัวลงสู่เบื้องล่างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างทั้งสองดิ่งลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เด็กสาวได้ยินเป็นสิ่งสุดท้ายคือเสียงกรีดร้องของผู้คนที่ตกใจอย่างสุดขีดรอบๆตัวเธอ ก่อนที่ทุกอย่างรอบตัวเธอจะค่อยๆดำมืดและหายไปในที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×