ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ] Love tasty in dormitory ~รักวุ่นๆฉบับเด็กหอ~

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 การโคจรมาพบกันระหว่างมนุษย์ทั้ง 4 คน (2)

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 54



    (Yuto)

    ถ้าถามว่าทำไมผมจะต้องมาปลุกเพื่อนเคย์โตะที่ไม่รู้จักด้วย..

    เหตุผลเพราะอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน.. แต่อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าอยากจะเป็นเพื่อนที่ดีบ้างก็ได้มั้ง เผื่อเคย์โตะมันจะมองเห็นความใจดีเล็กๆน้อยๆของผมและจะเปิดทางให้ผมกับเพื่อนสุดโมอึคนนั้น!!  L (*O*) _l

    พอคิดได้แบบนี้ก็รู้สึกว่าจิตใจพองโตซู่ซ่าเป็นกระซู่ล่าเมียทันที (>.<)

    ก้อนผ้าห่มที่ขยุกขยุยอยู่ตรงหน้า ม้วนขดเป็นก้อนกลมๆ มองไม่เห็นแม้แต่วิญญาณของมนุษย์ด้วยซ้ำ ดูท่าทางจะนอนดิ้นน่าดู

    ผมออกแรงกระตุกผ้านวมสองสามครั้ง

    จึ้กๆๆ

    “ฮึ่ย~”เสียงต่อต้านดังขึ้นอย่างหงุดหงิด พร้อมกับร่นตัวกระดึ้บถอยหนี เหมือนหนอนอ้วนพิการตัวถูกตัดขาดครึ่งยังไงยังงั้น

    “เฮ้~ คุณเพื่อนเคย์โตะ ตื่นได้แล้ว.. เมื่อคืนนอนไม่พอหรือยังไงกัน?”ผมกระตุกผ้านวมออกอย่างจริงจัง ไม่รู้ทำไมตอนนี้ผมถึงมีความรู้สึกว่าอยากปลุกเพื่อนเคย์โตะที่ไม่รู้เป็นใครใจจะขาด

    ถ้าเกิดเพื่อนเคย์โตะเป็นพวกนักเลง แล้วเกิดหงุดหงิดจิตงุ่นง่านกระโดดกัดหูผมขาดเหมือนไมค์ไทสันก็แย่น่ะสิ!O{}O!

    พอคิดได้ผมก็กระเถิบตัวออกห่าง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผ้าห่มถูกดึงลงโดยเพื่อนของเคย์โตะ..

    “เฮ้ย!!!!!

    ยามะจังนอนกลับหัวกลับหาง หัวมาอยู่ตรงเท้า เท้าไปวางอยู่ตรงหมอน หัวยุ่งฟูนอนตะแคงข้าง แก้มกลมๆแดงฝาดอย่างเป็นธรรมชาติ มือเล็กๆขยี้ตางุ้งงิ้ง

    “ใครอ่ะ เสียงดัง..”เสียงทุ้มต่ำไม่เหมาะกับใบหน้าเปล่งออกมาจากคนตรงหน้าที่ผมไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอในที่แบบนี้

    “ยะ..ยามะจัง!!”ผมโพล่งออกไปเสียงดัง หงายหลังตกจากเตียง

    (=_=)??”ใบหน้าน่ารักที่ยังไม่ตื่นเต็มตาค่อยๆหันมามองทางผมอย่างเอื่อยๆ

    “อะ..เอ้อ”ผมอ้าปากพะงาบๆ หน้าร้อนวูบเหมือนคลื่นความร้อนจากทะเลทรายซะฮาร่าพัดผ่านหน้าไป

    (  ._.)” ยามะจังก้มลงมองผม

    “ฉะ..”

    “นาย..”มืออูมๆเล็กๆยกขึ้นมาขยี้ตาเบาๆ ตาอีกข้างสลึมสลือมองดูผมอย่างน่ารัก

    “...”ผมยันตัวลุกขึ้นยืน ยามะจังยังคงมองหน้าผมอยู่

    “เฮ้!! อย่าบอกนะว่า!”จู่ๆเพื่อนใหม่ตาแบ๊วของผมก็วิ่งเข้ามาหาผมกับยามะจังด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง

    ผมมองหน้าเพื่อนใหม่ตาแบ๊วคนนั้นที่กำลังตกใจจนเกินเหตุอย่างงงวย

    “คนที่นายพูดถึงคนนั้นคือ ไอ้เตี้ยนี่!?”เพื่อนใหม่ใช้คางพยักเพยิดไปยังร่างเล็กที่หายไปในกองผ้าห่มอีกครั้ง

    “เฮ้ย! ไม่ใช่อย่างนั้นนะ!”สมองของผมพึ่งประมวลผลออกมาได้ ผมทำมือเป็นรูปกากบาทบุ้ยปากให้เพื่อนใหม่คนนี้หยุดพูด

    “ใช่งั้นซิ?”แต่กลายเป็นว่าเพื่อนใหม่ยักคิ้วเหมือนเป็นต่อ

    “อะไรใช่หรอ?”เคย์โตะโผล่เข้ามาในห้อง

    “เอ่อ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ!!”

    “หนวกหูโว้ยยยยยยยยยย!!!”เสียงคนที่ยังไม่ตื่นตะโกนเสียงดังลั่น ตามมาด้วยหนังสือเล่มหนาเควี้ยงมากระแทกหัวเพื่อนใหม่ตาแบ๊วของผมเต็มๆเปา

    ปั่ก~~!!

    “โอ๊ย!!!”

    ชิ้งง ( O^O)!!!

    เพื่อนใหม่ส่งสายตาเพชฌฆาตผ่านม่านตากลมดิกไปยังร่างบนเตียง

    และเพียงเสี้ยววินาทีนั้น…

    “ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!”เพื่อนใหม่พุ่งหลาวในท่ากระโดดน้ำลงสระไปที่เตียงของยามะจัง

    ตุบ!

    “...”ไม่มีเสียงจากคนใต้ผ้าห่มตอบกลับมา..

    O{}O”ผม

    =[]=;”เคย์โตะ

    ผลั่ก!!

    ร่างของเพื่อนใหม่ถูกถีบกระเด็นปลิวตกเตียงเหมือนถูกเฮอริเคนพัดไม่มีผิด

    ระ..แรงควายมาก =[]=;;

    “อะไรวะ!!? อยากตายหรือไง!!?”ยามะจังถกผ้าห่มขึ้นหัวยุ่งฟูท่าทางหัวเสียสุดๆ

    “ก็แกโยนหนังสือใส่หัวชั้นทำไมเล่า! ห๊า!!”เพื่อนใหม่ตะโกนแข่งกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้

    ฟุ่บ~

    ยามะจังดึงผ้าห่มออกจากตัว เดินโคลงเคลงผ่านร่างผมกับเคย์โตะไปหาเพื่อนใหม่ที่นั่งขาแบะเป็นปูถูกรถทับอยู่กับพื้น

    “ส่งเสียงโวยวายอยู่ได้ น่ารำคาญ!!”

    “ชั้นไม่ได้พูดคนเดียวนะเว้ย!! ไอ้หมอนั่นด้วยต่างหาก!!”จู่ๆเพื่อนใหม่ก็ทำเรื่องงามหน้า โดยการชี้นิ้วพิฆาตมาที่ผมและเคย์โตะ

    “นายงั้นหรอ?”ยามะจังเดินตรงดิ่งมาหาผม เคย์โตะค่อยๆกระดึ้บถอยร่างออกห่างจากผมอย่างท่วงทัน

    “เอ่อคือ..”

    “ยูโตะใช่ไหม?”

    จะ..จำชื่อผมได้แล้วหรอ O[]O!!! เอ๊ะ แต่นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาดีใจนะ!

    “อะ..อื้อ!” ผมกลั้นตดตอบ

    “ไม่มีห้องอยู่หรือไงถึงต้องมาส่งเสียงดังห้องคนอื่นเค้าแบบนี้ พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไงวะ!? ถ่อยเอ้ย!!!”

    “เอะ..เอ๊ะ? ถะ..ถ่อย?”ผมเจอคำเดียวสมองก็เป็นอัมพาตไปเลย

    “แล้วฉันจะบอกอะไรให้อย่างนะ เวลาที่มีคนมาทำให้ฉันตื่นเนี่ย! …มันทำให้หงุดหงิดโคตรๆเลยรู้มั๊ยวะ!!!”ยามะจังด่าไล่ต้อนผมจนผมล้มลงกับเตียง ใบหน้าเนียนใสอมชมพูขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าผมมาก

    “ถ้าอยากจะ...”

    “ขอโทษ!!”ผมโพล่งแทรกเสียงยามะจังขึ้นมา

    “ฮึ๊?”

    “ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ยามะจังตื่นนะ”

    ยามะจัง’?”ยามะจังทวนชื่อที่ผมใช้เรียกเค้าอีกรอบ

    “อะ..อ่า..ขอโทษ”

    “เราสนิทกันถึงขนาดที่นายจะเรียกแบบนั้นได้เลยหรอ?”

    ฉึก!

    “...”ผมตอบอะไรกลับไปไม่ถูกเลย ผมรู้สึกแย่โคตรๆจนแทบจะร้องไห้ออกมา

    “ยูโตะ ไปกันเถอะ”เคย์โตะดึงผมออกจากวังวนแห่งความน่ากลัวของยามะจัง และออกจากห้องไป

     

     

    (เคย์โตะ)

    หลังจากลากยูโตะที่ก่อเรื่องขึ้นมาออกจากห้องของริวจังได้แล้ว ยูโตะก็เงียบไปถนัดตา แถมยังมีออร่าสีเทาแผ่กระจายอยู่รอบตัวอีกต่างหาก…

    “เฮ้ย! เป็นไรวะ!”ผมตบบ่าเอ่ยถามมัน มันไม่หันมามองผมและไม่ยอมพูดอะไรออกมา

    “เฮ้ย! นี่จริงจังนะเว้ย เป็นไรวะ?”

    “เสียใจ..”

    “ห๊ะ? เสียใจเพราะยามะจังพูดแบบนั้นกับนายอ่ะนะ?”

    “อือ”ตอบเสียงเศร้าๆ

    “แกก็ไม่ได้สนิทกับยามะจังนี่หว่า ปรกติก็ไม่เห็นแกจะแยแสกับคำพูดของใครอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?”

    “ก็ชั้นปิ๊งยามะจังนี่!

    “ปิ๊ง? ฮะ?”ผมเผลอหลุดหัวเราะออกมา

    “มีอะไรน่าขำวะ!”

    “ฉันไม่ได้ขำสักหน่อยนะ พอดีตะกี้อากาศมันเข้าผิดที่น่ะ..”ผมแถไปตามเรื่อง แล้วก็หัวเราะคำพูดของตัวเอง ยูโตะใช้สายตาตัดพ้อมองผม สายตาตัดพ้อแบบนี้เหมือนกับเวลาที่ผมบอกจะกลับบ้านไปหาเยี่ยมพ่อแม่ก่อนทิ้งให้มันอยู่หอคนเดียวโดยที่ไม่บอกมันก่อนเลย

    “ฉันไม่ยอมง่ายๆหรอก..”

    “แกว่าไงนะ?”

    “คอยดูละกันเคย์โตะ!!”

    “แล้วแกจะตะโกนใส่ฉันทำไมวะเนี่ย=[]=;;”

    ผมมองแผ่นหลังของยูโตะเดินอย่างมุ่งมั่นกลับไปที่ห้องพัก ผมกับยูโตะเราสองคนเป็นเพื่อนกันมาได้เกือบ4ปีแล้ว ปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่5แล้ว ผมยอมรับว่าผมสนิทกับยูโตะมาก มีปัญหาอะไรก็จะปรึกษากันตลอด อันที่จริง..ผมว่ายูโตะมันเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าโดดเด่นมาก จริงๆแล้วเรียกว่า หล่อโดด จึงจะถูก ผมเคยพูดเรื่องนี้กับมันอยู่บ่อยๆ แต่มันก็ไม่ค่อยสนใจ และทำตัวบ้าๆบอๆไปวันๆ ผมว่านะถ้ายูโตะไปเรียนโรงเรียนสหะแล้วล่ะก็..จะต้องมีผู้หญิงมาสนใจมันเยอะแยะไปหมดแน่ๆเลย..

    ไม่นาน ออดก็ดัง คงถึงเวลาซักทีที่ผมต้องเข้าเรียน อ๊ะ! จู่ๆ หนามของผมก็ชี้โด่เด่แทงชี้ฟ้า เรดาห์แหลมน้อยของผมทำงาน!

    ริวจังนี่! *O*!!!

    เบื้องหน้าระยะสิบเมตรของผมคือริวจังที่กำลังเดินหน้าบู้ไปทางห้องของเขาอยู่ สุภาพบุรุษไม่รอช้า รีบวิ่งไปทันที

    ตึกๆ

    ริวจัง! กำลังจะเข้าเรียนหรอ!” ผมเรียกชื่อเขาและเว้นระยะห่าง ก่อนจะวิ่งเข้าไปหา

    ริวจังยอมหยุดนิ่งรอผมแต่โดยดี

    “^^”

    เป็นบ้าอะไรของนาย เรียกกันอย่างกับไม่ได้เจอกับ สิบปี กับ อีกสิบวัน - -” ริวจังทักผมครับ เอ่อ อันที่จริงมันก็ใช่ เราพึ่งเจอกันได้ไม่ถึงชั่วโมงเอง

    อ่อ เปล่า พอดีตกใจเห็นริวจังเดินมาพอดีน่ะ ^^ คาบแรกเรียนอะไรหรอ

    แล้วนายจะรู้ไปทำไม จะไปนั่งเรียนแทนชั้นไง้

    เอ่อ แค่อยากถามดูอึ้งเลยสิครับ จะว่าไปยูโตะมันก็ชอบยามะจังไม่ไหมครับ ผมเองก็ชอบริวจัง และริวจังกับยามะจังก็อยู่ห้องเดียวกัน โอ้! โป๊ะเชะเลยครับ! แต่….นิสัยรับมือยากทั้งคู่ - -

    ยามะจังปล่อยให้ยูโตะมันดูแลไปละกัน

    แต่เดี๋ยวผมจะดัดนิสัย กับปากหวานๆของริวจังเอง หึหึ (<< ผมดูหัวเราะแปลกๆไหมครับ)

    เอ้อใช่ ไอ้แมลงตดเพื่อนนาย มันชอบไออ้วนนั่นจริงอ่ะ - -”

    หือ อ๋อ ยูโตะน่ะหรอ อื้อ ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นเอ้อใช่ ริวจังรู้ด้วยหรอ แถมรู้ก่อนเราอีก O.o

    เหอะ แมลงตดนี่ตาต่ำจริงๆ แมลงก็เงี้ย - -” ริวจังบ่น อะไรครับเนี่ยผมไม่ค่อยเข้าใจเลย แต่ช่างเถอะครับ ผมเริ่มอยากเปลี่ยนเรื่องคุยแล้ว

    กลางวันนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะ ^^” ผมเอ่ยปากชวน ผมรุกครับ!

    หา? ทำไมชั้นต้องไปกินข้าวกับเม่นหัวแหลมอย่างนายด้วยล่ะ

    ผมนิ่วหน้า

    ชั้นบอกว่าให้เรียกเคย์โตะไงอะไรกันครับ ชื่อผมมันจำยากขนาดนั้นเชียว

    เออๆ เคย์โตะทำไมชั้นต้องไปกินข้าวกับนายด้วยล่ะ

    ก็อยากคุยด้วย นะ ชั้นเลี้ยง ^^” ผมใช้วิธีล่อลวง? ทุกวิถีทาง และดูท่าทางก็จะได้ผลซะด้วย

    จริงอ่ะ *O*! ไม่โกหกนะ!” ตากลมๆเบิกกว้าง ปากเล็กๆยิ้มดีใจเหมือนเด็กๆ น่ารักจังครับ! ผมคิดถูกจริงๆที่พูดออกไปว่าจะเลี้ยง

    จริงสิ แต่ต้องสัญญานะ ว่าจะมากับชั้น ^^” ผมยื่นนิ้วก้อยไปให้ อันที่จริงผมก็คิดว่า คงโดนปัดมือใส่ แต่ที่ไหนได้...

    ริวจังดึงมือผมไป เกี่ยวก้อยสัญญายกขึ้นยกลงเหมือนเด็กสัญญากัน

    อื้อๆๆๆๆ เดี๋ยวตอนกลางวันเจอกันนะ บ๊ายบาย!!!” ริวจังที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนโบกมือบ๊ายบายผมเหมือนเป็นเด็กๆและก็วิ่งเข้าห้องไป ปล่อยผมให้ยืนเอ๋อเป็นเม่นขาดไอโอดีนอยู่ตรงระเบียงหน้าห้อง

    .

    .

    .

    ตึกตักๆ คนนี้แหละ ผมแน่ใจจริงๆ ผมเลือกไม่ผิดคนหรอก!!!

    .

    .

    .

    แต่แล้วก็ผิดคาดจนได้ พอมาถึงตอนกลางวัน ริวจังดันบอกว่า ผลัดไปวันพรุ่งนี้แทน (แต่ไม่ยกเลิก) เห็นว่า หงุดหงิดเพื่อนเลยจะไปเอาคืน อะไรกันครับ ทำไมนักเลงจัง - -  อันที่จริงผมกำลังจะรีบไปห้ามก่อนเขาจะเดินกลับไป แต่ดันโดนชี้หน้ากลับมาซะงั้น (นิ้วเกือบทิ่มตาเม่นตี่ของผมเลยนะเนี่ย)

    พรุ่งนี้เตรียมตังไว้ให้ดีๆ แล้วก็อย่างมายุ่งเรื่องวันนี้ด้วย!”

    ไม่นะ!!! ริวจังคนเมื่อกี้หายไปไหนแล้วครับ!!!

     

    (Ryosuke)

    ให้ตายสิ! ตอนเช้าหงุดหงิดชะมัด”  ผมบ่นขณะกำลังหยิบเฟร้นฟรายเข้าปาก โดยที่ด้านขวาของผมคือเคย์โตะ และฝั่งตรงข้ามก็คือไอ้หน้ายาว น่ารำคาญ สมญาณนามแมลงตด - - ซึ่งกำลังนั่งซดราเมนอยู่ แถมสายตามันยังจับจ้องมาที่ผมอีก ชักขนลุก - -

    ยูโตะ นายจะกินราเมนหรือจะกินยามะจังห๊ะเคย์โตะที่นั่งอยู่ข้างๆแซว ผมหันขวับไปจ้องหน้าเพื่อนชายตาเขียวปั๊ด!

    เคย์โตะหงอยลงทันที

    ยามะจัง เมื่อเช้าชั้นไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะไอ้ยูโตะวางตะเกียบลงอย่างเรียบร้อย และมองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง ว่าแต่ว่า ไอนี่ บอกว่า อย่าเรียกยามะจังไงเล่า - -*!

    เออๆๆๆ รู้แล้วก็อย่าทำอีก แล้วชั้นบอกนายแล้วไง ว่าอย่ามาเรียกชั้นว่า ยามะจังน่ะ!!!”

    .

    .

    แน่ะ ยัง ยังอีก - - มันยังมองหน้าผมต่อ

    ฟิ้ววววว ววว ว ว

    บรรยายกาศฟังดูกดดันเหมือนกำลังเตรียมตัวกันแข่งปล่อยบั้งไฟ

    และจู่ๆไอ้ยูโตะก็สติกลับด้านถามคำถามชวนปวดขี้ตาใส่ผม

    ยามะจังมีแฟนรึยังหรอ?”

    O.O << ผม

    OoO << เคย์โตะ

    อะ อะไรนะ!” ผมตีโต๊ะ เป็นเหตุให้เฟร้นฟรายหล่นลงพสุธาไปหนึ่งชิ้น!

    ยะ ยูโตะ ใจเย็นๆเว้ยเคย์โตะปราม หืม ใจเย็นอะไร - -

    ว่าแต่ มันทำเสียงจริงจังจนหน้าประหลาด

    ยังผมตอบเสียงแข็ง และก้มลงไปหยิบเฟร้นฟรายชิ้นนั้น ขึ้นมาจุ่มเป๊ปซี่ฆ่าเชื้อโรคและกินต่อ

    ยูโตะค่อยๆคลายยิ้มออก

    จริงหรอ

    งับๆๆ

    เออเด่ะ ฟังภาษาคนไม่ออกไง้ผมตอบเซ็งๆ หืมม เฟร้นฟรายจิ้มเป๊ปซี่นี่รสชาติประหลาดดีแฮะ เอาไปทำขายจะได้ตังมาซื้อเค้กสตรอเบอรรี่มั๊ยเนี่ย~~

    ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ

    แล้ว ยามะจังชอบคนแบบไหนหรอ ^o^” หู้ยยย ถามไรนักหนา ว่าแต่ ยามะจังอีกแล้ว - -* ชักขี้เกียจขัดมันแล้วนะ

    หน้าด้านจริงๆ!!!!

    แบบไหนก็ได้ที่ตรงกันข้ามกับนาย

    ปู้ด! คึกๆๆ เสียงเคย์โตะพ่นน้ำและกลั้นหัวเราะอยู่ข้างๆผม ปรากฏขึ้นพร้อมกับใบหน้าของยูโตะ ที่กำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ

    ทะ ทำไมล่ะ ยามะจังยูโตะพูดเสียงอึ้งๆกับผม ไอ้นี่บ้าไปแล้ว ถามมาได้ น่ารำคาญตายชัก ให้คบกันมีหวังเป็นโรคชักกระตุกแหงๆ

    หัดดูสารรูปตัวเองซะมั่งเส่!”

    ค่อกแค่กๆ!! คึกๆๆๆๆ เสียงเคย์โตะสำลักน้ำและกลั้นหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับใบหน้าของยูโตะที่ทำท่าดูเหมือนจะทึ่งอึ้งตะลึง

    ผ่านไปช่วงเสี้ยววินาทีมด ไอ้ยูโตะก็โผล่งเสียงดังออกมา ทำเอาจานเฟร้นฟรายสั่น

    ชะ ชั้นยังหล่อไม่พออีกหรอ!!!” ไอ้บ้านั่นยกมือขึ้นแตะหน้าตัวเอง แถมยังยกกระจกบานเท่าตูดควายขึ้นมาส่องหน้า โห!! บ้านพ่อแกสะสมกระจกรึไงวะ!

    แต่ก็นั่นแหละ ไอท่าทางสะดีดสะดิ้ง? ของมันทำให้เส้นเลือดผมกระตุก และกำลังจะลุกขึ้นเดินไปตบกระบาลมัน


    แต่จังหวะนั้นน้ะเอง
    !


    กลิ่นสาบหมูเนี่ย จะทำให้ชั้นเป็นโรคภูมิแพ้ได้นะ…” เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังผม ฝ่าตีนเริ่มคันยุกยิกอย่างไร้สาเหตุ ผมหันหน้าควับกลับไปด้วยความเร็วแสง

    นะ นาย ยูรินี่เสียงเคย์โตะที่นั่งอยู่ข้างล่างบอกแทนคำตอบ

    ยูริฉีกยิ้ม แล้วยกมือทักทายเคย์โตะ

    ไง ^^”

    อะ อ๊ากกกกกกกกกกกกก มันโผล่มาแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! สาบหมูเรอะ! แกด่าชั้นหรอ ไอ้เตี้ย!!!!!!!!!!!!!!! ทั้งเสียง ทั้งท่าทาง และหน้าตาอียยียวนกวนส้นตรีนนั่น มันช่างเป็นอะไรที่ไม่มีวันลืมเลยจริงๆ!!!

    คึ่กๆๆ

    เสียงอะไรบางอย่างในตัวผมกำลังก่อขึ้นอย่างเงียบๆ?

    ชั้นยังจำได้แม่น สิ่งที่นายพูดกับชั้นในห้องอาบน้ำเมื่อเย็นวานนี้หึหึ มาให้เชือดถึงนี่ก็ต้องจัดไปแล้ว *O*!!!!

    ผมทำหน้าเหี้ยม ยกมือขึ้นกอดอก และเดินไปประจันหน้ามัน

    นายกล้ามากเมื่อคืนนี้ ที่มาด่าชั้นว่า ตอแหล!!!!!!!” ผมกระแทกเสียงอย่างเร่าร้อน เล่นเอาโรงอาหารนรกแตกนี่เงียบเหมือนสุสานบ้านมัน

    หึ... ยูริ ยิ้มที่มุมปาก

    จำได้ด้วยหรอ นึกว่าหมูจะโง่ซะอีก

    *O*!!!!!!!! บังอาจ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  หน็อยแน่!!! เอามั๊ยล่า มา! เข้ามาเล้ย!!! ไอท่าทีนิ่งๆอย่างนั้น คิดจะเล่นสงครามประสาทกับชั้นเรอะ เหอะ! มาเจอกับชั้นหน่อยเป็นไงเล่า!

    เหอะ อย่างนั้นเหรอพอดีว่าชั้นไม่ค่อยจะจำเรื่องไร้สาระซักเท่าไหร่หรอกนะ แต่พอดีคำว่าตอแหลมันแปะอยู่บนหน้านาย ชั้นก็เลยนึกออกก็เท่านั้นเอง

    ว่าไงนะ!” ยูริเริ่มขึ้น เหอะ! แกคิดว่าแกเล่นกับใครห๊า!!!

    ยะ ยามะจัง พอเหอะน่าไอ้ยูโตะพึ่งได้สติและกำลังจะเรียกกำลังใจ? จากผม

    ผมสะบัดแขน เป็นเชิงบอกให้มันหุบปากซะ

    จะมากไปแล้วนะ ไอ้อ้วน!!” ยูริ เงื้อมือขึ้นหมายจะฟาดหน้าผม ณ เวลานั้นเหมือนกับเสี้ยววินาทีประวัติศาสตร์ บรรยากาศในโรงอาหารค่อยๆสโลว์ช้าลงเหมือนเทปยืด

    ท่วงท่า?ของแต่ละคนกระตุกเป็นฉากๆอย่างกับเทปเสีย

    ด้วยความเร็วเท่ากับหอยทากวิ่งแข่ง อีกไม่ถึง สามสิบเซ็น มือของยูริก็จะกระแทกบนใบหน้าผม แต่แล้ว

    .

    .

    .

    เกะกะโว้ย! คนจะเดิน!”

    ตึง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    ประดุจเหมือนเสียงกะละมังนับร้อยกระแทกลงใส่หัวตัวประกอบในโรงอาหาร เมื่อหนุ่มน้อยหน้ามุ่ยเป็นตูดหมาเดินแทรกเข้ามากลางคัน….

    =*=! << ตูดหมา

    ไอ้หนูริว!!! ไอ้ตะไลนี่..

    แม่ง ไร้มารยาทชะมัด!!

    เฮ้ยนาย/แก!!!” เป็นครั้งแรกที่ผมกับยูริใจตรงกัน หันขวับไปเรียกไอ้เด็กเวรที่ยังเดินไม่รู้เรื่องไปทางอื่น!

    ห๋า (  -_-)! ” ไอ้ริวหน้าหนูหันหน้ามาแบบกวนๆ

    “แกนี่สงสัยจะไม่มีพ่อแม่มาสั่งสอนสินะ”ไอ้กวนตีนกดคำพูดต่ำๆสาดใส่ไอ้เด็กริวอย่างหมั่นไส้กับอาการอันแสนเย่อหยิ่งของคนตรงหน้า

    “แกว่าไงนะ?..คนที่ควรจะต้องพูดคำคำนั้น...คือชั้นต่างหาก” ไอ้เด็กริวแค่นยิ้มอันสุดแสนคันฝ่าตีน

    “หึ..”ผมหัวเราะขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางของไอ้หนูริว..สันดานทุเรศๆแบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเลิกได้ง่ายๆเลยสินะ..

    “มีอะไรน่าขำหรือไงวะ!?”ไอ้เด็กริวโวยขึ้นมาเสียงดัง

    “ชั้นต่ำ..”

    หวืด!

    ไอ้เด็กริววิ่งตรงเข้ามาจะผลักผม แต่ด้วยความว่องไว ผมจึงสามารถหลบมันได้อย่างชิลๆ~

    “ฮ่าๆๆ!!!!!”ไอ้กวนตีนตัวจิ๋วหัวเราะเสียงแหลมขึ้นมาเสียงดังสนั่น

    ผลั่ก!

    ไอ้เด็กริวพุ่งเข้าไปผลักไอ้เตี้ยกวนตีนหน้าสวย

     ไอ้กวนตีนผลักกลับอย่างแรงจนไอ้ริวล้มหน้าคว่ำลงจูบพื้น ยูรินั่งยองๆลงมองร่างไอ้ริว มันกดเสียงต่ำแค่นพูดขึ้นมาว่า….

    “เกรดคนต่ำๆอย่างแกน่ะ..มันไม่คู่ควรที่จะเป็นศัตรูกับชั้น..”

    จู่ๆผมก็รู้สึกหมั่นไส้ไอ้กวนตีนนี่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ชอบไอ้เด็กริว แต่รู้สึกเหมือนกับว่าคำพูดนั้นมันยูเทิร์นคัมแบคทูมีกลับมากระทบผมเต็มประตู (หลัง?)

    “เฮอะ..คนอย่างแกคงไม่มีเกรดเลยสินะ” ผมหยั่งลงไป

    “ว่าไงนะ?”ไอ้กวนตีนลุกขึ้นยืนมองผมด้วยสายตาเอาเรื่อง

    “ดีแต่เห่าไปวันๆ..ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาไร้การศึกษาแบบนี้ มิน่าล่ะถึงได้ไม่มีใครคบ!”

    “ไอ้เวร!!”

    ผลั่ก!!!

    ผมหลบหมัดไอ้กวนตีนนี่ได้ทันจึงโดนแค่เฉียดๆ สุดหล่ออย่างผมตรงเข้าไปผลักร่างเล็กนั้นกระแทกกับโต๊ะอาหาร

    โครม!!!!

    “อยากลองดีนักใช่ไหม!?”ผมง้างหมัดขึ้นสูง หวังจะชกใบหน้าเย่อหยิ่งอันสุดแสนกวนฝ่าอภิมหาส้นตีนนั่นสักเปรี้ยงให้สาแกตับ แต่กลับถูกไอ้เคย์โตะเพื่อนเก่าหน้าแก่จับล็อคตัวเอาไว้ซะก่อน

    “เฮ้ย ยามะจัง! ใจเย็นก่อนสิ!” เคย์โตะถูลากถูกกังขา หิ้วปีกผมลอยหวือออกห่างจากรัศมีสนามมวย

    “อย่าแส่!!! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!!!!”ผมพยายามดิ้น ตอนแรกก็คิดว่าจะหลุดออกได้ง่ายๆ..แต่กลับยากกว่าที่คิดเอาไว้

    ผัวะ!!!

    จู่ๆไอ้เด็กริวก็พุ่งเข้าไปชกหน้าไอ้กวนตีนเสียเต็มอัตราแรงม้ากล้ามเนื้อแขน

    “สวะอย่างแกต่างหาก!!”ไอ้เด็กริวตวาดขึ้นมาเสียงดังสนั่น จนผมรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอันเงียบวังเวงของโรงอาหารที่จะกลายเป็นป่าช้าวัดดงไปในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า...

    ไอ้กวนตีนไม่ยอมพูดยอมจา สวนหมัดกลับ แต่ไอ้เด็กริวหลบได้ทันอย่างฉิวเฉียด หนูนาบ้านทุ่งพุ่งเข้าไปผลักร่างไอ้กวนตีน แต่ด้วยความที่มันเมาอากาศหรืออะไรสักอย่าง ส่งผลให้ยูริพุ่งหลาวเข้ามาหมายชกหน้าผมแทน!

    ปั้ก!!!

    ผมใช้เคย์โตะเป็นหลักยึดก่อนจะยกขาถีบไปที่กลางลำตัวของไอ้กวนตีนเต็มๆแรง !

    ร่างเล็กเซล้มลงกลิ้งกับพื้น เสื้อนักเรียนเปื้อนมอมแมม ปากก่นด่าสบถถ้อยคำหยาบคาย แต่แขนเล็กๆนั่นกลับสั่นและไม่มีแรงยันตัวเองลุกขึ้นได้เหมือนครั้งก่อน

    “มองอะไรวะ!!”ไอ้กวนตีนสะบัดเสียงใส่บรรดาญี่ปุ่นมุงที่พากันยืนจับกลุ่มดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเดือดดาล

    ผมหันไปอีกทีก็เห็นยูโตะล็อคตัวไอ้เด็กริวลากไปที่อีกฝั่งของโรงอาหาร ห่างจากจุดที่ผมยืนไปพอสมควร

    “ใจเย็นก่อนสิ!”เคย์โตะล็อตตัวผมแน่นกว่าเดิม

    “หนวกหูน่า!”ผมพยายามสะบัดตัวออกจากการเกาะกุม ในใจก็พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดของตัวเองไม่ให้ปะทุออกมา..

    “อย่ายุ่งได้มั้ยวะ!! ไอ้แมลงตด! ปล่อยสิวะ! ล็อคทำหอกอะไร!? พ่องเป็นยามหรือไงวะ!!”ไอ้เด็กริวหนักกว่าผม มันทั้งโวยวาย ทั้งขย่มตัวขึ้นลง จนผมรู้สึกสงสารไอ้คนที่ชื่อยูโตะขึ้นมา และในขณะเดียวกันก็เริ่มรู้สึกเห็นใจเคย์โตะขึ้นมานิดๆ

    ตอนนั้น ยูริตั้งท่าพุ่งเข้ามาจะต่อยผมอีกครั้ง

    “ทำไม!? แกจะต่อยชั้นเรอะ!? ต่อยเด่ะ! คิดว่าชั้นจะยอมง่ายๆงั้นหรอ มาเด้! มาเล้ย! มาหาพี่ม๊า!!”ผมเห็นใบหน้าอันกวนส้นตีนของไอ้หมอนี่แล้วอารมณ์มันก็กลับขึ้นมาปะทุขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างเหลือเชื่อ

    “ไอ้นรกเอ๊ย! อ๊ากก! เฮ้ย! แกเป็นใครวะ! ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้! ถ้าไม่ปล่อยล่ะก็ แกเจอดีแน่!!!”

    “ใจเย็นก่อนสิครับ..อิอิ>.<”ผู้ชายหัวเกรียน คิ้วกันจนแทบจะเป็นสะพานโค้ง หูเจาะซะพรุนจนแทบไม่มีที่ให้กล้ามเนื้อได้ออกซิเจน ผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดฝ่าเท้า ท่าทางเถื่อน ดิบ โหด ด้านดาร์คแบบโคตรๆ เดินเข้ามาแบกตัวไอ้กวนตีนนั่นลอยหวือขึ้นกลางอากาศวางพาดไว้บนไหล่เหมือนกรรมกรแบกข้าวสาร  และปลดปล่อยเสียงหัวเราะแอ๊บๆต่อท้ายอย่างไม่เข้ากับหน้าขั้นโคม่า

    “อ๊ากกก!! ไอ้ควายเขมร! ปล่อยชั้นลงเดี๋ยวนี้นะ!! โว๊ยยยยยยยย>O<!!!”ไอ้กวนตีนแผดเสียงขึ้นมาอย่างที่สุดแห่งแรงอารมณ์

    ผมมองไอ้กวนตีนถูกล็อคถอยออกไปเกือบกิโลฯนั้นอย่างสงสารกับชะตากรรมนิดๆ แต่ไอ้กวนตีนนี่ก็เงยหน้าขึ้นมองในท่าถูกแบกขึ้นบนบ่า และยก..

    (-_-)

    “ฟัก ป้อเอ็งเด่ะ!!”ผมตะโกนกลับอย่างโกรธจัด อารมณ์เหมือนมีคนเอารองเท้าที่มีขี้หมามาตบหน้ายังไงยังงั้น

    ผมไม่เคยรู้สึกเกลียดใครเท่าไอ้กวนตีนนี่มาก่อน..

    มันใช่ไหม..จิเนนยูริ ปีศาจจิ๋วสินะ..

    เดี๋ยวเราได้เจอกันแน่..!!!!!

     

     

    (Yuya)

    “เฮ้! ลูกพี่ วันนี้จะทานอะไรหรอครับ?”ลูกน้องนามว่าโกคิ เบ๊คนสนิทตรงเข้ามาถามผมที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารที่ไม่มีใครกล้ามานั่งด้วยเลยสักคน..

    “เอาแบบเมื่อวาน..”ผมตอบส่งๆก่อนจะยกแขนขึ้นทั้งสองข้างให้พวกลิ่วล้อดึงเสื้อสูทออกให้

    “นวดหน่อยดิ๊ เมื่อยฉิบหายเลย”ผมโยกคอไปมาอย่างเมื่อยล้า เมื่อเช้านี้กว่าจะข่มขู่ไอ้พวกเด็กเนิร์ดขอการบ้านมาลอกได้เล่นเอาต้องใช้กำลังไปพอสมควร

    “คร๊าบ! ลูกพี่!”ลิ่วล้อต่างพุ่งเข้ามาบีบนวดตัวผม ราวกับผมเป็นมหาเศรษฐีนั่งอยู่บนแท่นเก้าอี้ล้อมรอบไปด้วยบริวารยังไงอย่างงั้น

    อย่างว่าแหละนะ..ก็คนมัน Hot..

    “ลูกพี่ครับ วันนี้ทรงผมลูกพี่ดูดีเป็นพิเศษเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นกระบังโต้คลื่นอันแสนทรงเสน่ห์ดึงดูดคุณนายวัยทองนั่น ก็สุดยอดไปเลยครับลูกพี่!!”ลิ่วล้อคนนึงหลับหูหลับตาชมผม แม้ประโยคจะชวนระแคะระคายรูหูไปสักหน่อย แต่ผมจะไม่ถือสามันหรอก เพราะผมน่ะโดนพูดแบบนี้มาบ่อยและ..โดยเฉพาะคำว่า หล่อ เท่ห์ ดูดี แบบพูดเรียงประโยคเป็นแพคเกตแบบนี้ผมก็ได้ยินบ่อยเสียจนรู้สึกเบื่อไปซะแล้ว..

    ผลั่ก!

    เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น ผมมองไปที่ทางด้านหน้าที่เป็นช่วงตรงกลางของโรงอาหารพอดี ยูริกำลังผลักร่างของใครบางคนล้มลงกับพื้น ผมมองจากด้านหลังก็รู้ทันทีว่าเป็นยูริ

    ก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีกล่ะสิ..

    ถ้าสักวันนึงไม่ได้หาเรื่องใครมันจะเป็นสังคังหรือไง..ผมล่ะอยากรู้จริงๆ - - ให้ตายเถอะ ไอ้หมอนี่นี่มันร้ายกาจโคตรๆจริงๆ...

    “ฮ่าๆๆ!”เสียงหัวเราะแหลมๆที่ผมได้ยินบ่อยจนชินดังขึ้นมาจนแสบแก้วหู ก่อนที่จะก้มลงพูดอะไรบางอย่างกับอริที่นอนทำท่าสวยงามอยู่บนพื้น ตามมาด้วยเสียงไอ้หนุ่มหน้าเหมือนผู้หญิง ผิวขาวตะโกนด่า จับใจความได้ว่า มิน่าล่ะถึงได้ไม่มีคนคบ

    อืม..อันนี้ผมไม่เถียงนะ.. ถ้าคนอย่างหมอนี่มีคนเข้ามาคบด้วยล่ะก็ วันนั้นคงเป็นวันที่มนุษย์ทั้งโลกจะอพยพย้ายถิ่นไปอยู่ดาวดวงอื่น =__=;

    “เฮ้ย เกิดไรขึ้นวะ?”ผมถามโกคิที่วิ่งมาจากตรงที่เกิดเหตุนั้นพอดี

    “ไม่รู้ดิลูกพี่ ท่าทางอริลูกพี่เหมือนจะมีเรื่องกับไอ้เด็กหน้าจืด กับตุ๊ดคนนึงอ่ะ”

    ผมชะโงกหน้าดูฝั่งตรงข้ามของยูริ แต่ไม่ทันไรก็ถูกผู้ชายตัวสูงกว่านิดหน่อย หน้าตาโมเอ้ๆสีผิวเหมือนลูกท้อผลักกระเด็นกระแทกโต๊ะในโรงอาหาร

    “ลูกพี่..”

    “ไร..”

    “อยากลองดีนักใช่ไหม!?”เสียงสุดแมนดังออกมาจากชายโมเอ้คนนั้น..ที่กำลังจะชกหน้ายูริ

    “ลูกพี่..”

    “ไร..”

    “ลูกพี่เป็นอะไรอ่ะ ทำไมต้องกระตุกตัวแบบนั้น”ไอ้โกคิทำหน้าสงสัยมองมาที่ผม

    “กระตุกห่าไรวะ!?”

    “ก็ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว ลูกพี่กระตุกตัวเหมือนจะลุกขึ้นไปจากที่นั่งตลอดเลย”

    จริงหรือ? ผมก็นั่งอยู่เฉยๆไม่ใช่รึไง!?

    แต่ในจังหวะนั้นเอง เสียงอภิมหาดังลั่นก็ ดังขึ้นเสียก่อน...

    ผัวะ!

    “สวะอย่างแกต่างหาก!!”เสียงเข้มๆขู่คำรามดังขึ้นหลังจากเกิดอะไรบางอย่าง

    ยูริถูกเด็กหน้าจืดชกหน้าเสียเต็มแรง แต่ไม่ทันไรไอ้ปีศาจจิ๋วก็สวนกลับไปในแทบจะทันที แถม แรงๆ เน้นๆ เนื้อๆด้วยอีกต่างหาก=_=; เห็นตัวเล็กแบบนั้นหมัดหนักเป็นบ้า! ผมเคยโดนจังๆอยู่ครั้งนึงตอนอยู่มอต้นที่โรงเรียนเก่า เล่นซะเห็นดาวลูกไก่เลย

    หนุ่มฮอทอย่างผมรำลึกความหลังได้ไม่นาน ไอ้โกคิก็ดันตดออกมาซะก่อน กลิ่นเหมือนควายยัดแกงกระหรี่ตายมา 10 วันลอยโชยเข้ามาในจมูกผม

    อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!” เสียงผมและลูกน้องรอบๆข้างดังขึ้นมาพร้อมๆกัน ให้ตายสิ!!! ผมตัดหัวเกรียนๆแต่ไม่ลื่นของมันไปหนึ่งที

    กินห่าไรวะ! ทำเอาขี้มูกในจมูกชั้นกันกลิ่นแกไม่ไหวเลยเนี่ย!!!!!!!!!!!”

    โกคิ ทำท่าจะร้องไห้ก้มหัววิงวอนผม

    ขอโทษครับพี่!!!!!!”

    ผมสะบัดหน้าหนี  หยิบหนังสือโป๊แถวนั้นมาโบกไล่มลพิษ

    ควับ! ควับ!

    กลิ่นเริ่มจางทำให้บรรยากาศรอบข้างผลันสดใส

    โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    เสียงดังลั่นสนั่นอีกครั้งดังออกมาจากในโรงอาหารทำให้ผมนึกได้

    ผมมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ยูริโดนถีบจนล้มลงกับพื้น ถึงจะโดนซะขนาดนั้นก็ยังไม่วายแผ่แม่เบี้ยพ่นพิษด่ากราดใส่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นกันอย่างถ้วนหน้า

    ผมโยนหนังสือโป๊ในมือทิ้ง แล้วนำมือมาบีบจมูกแทน

    ตอนนี้ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามของยูริก็ถูกล็อคอยู่กันคนละฝั่ง...

    ผมเหลือบมองยูริที่ยังยันตัวเองลุกขึ้นมาไม่ได้นั้นอย่างเวทนา ท่าทางไอ้ผู้ชายโมเอ้นั่นจะแรงช้างสารน่าดู ปรกติหมอนี่โดนหนักกว่านี้ไม่เห็นกระเทือน แต่นี่ดูจากรูปการแล้วน่าจะจุกไปถึงตับอ่อน=.= ไอ้โมเอ้นั่นคงจะเอาเรื่องน่าดูแฮะ..

    “เฮ้ย! โกคิ

    “ครับ!O.O!” โกคิเงยหน้าขึ้นมาจากพื้นหญ้า

    “จัดการเด้ะ”ผมพยักเพยิดไปทางยูริ แต่นิ้วมีเรียวหล่อ?ของผมยังคงบีบจมูกเอาไว้อยู่

    “ครับลูกพี่!!”โกคิวิ่งตรงดิ่งไปที่ร่างของยูริและอุ้มร่างนั้นขึ้นมาเหมือนอุ้มตุ๊กตายัดนุ่น เสียงเล็กๆแหลมโหวกเหวกโวยวายด่าทอ แจกสัตว์เลื้อยคลานกระจายไปทั่วทั้งโรงอาหาร ในขณะที่ไอ้โมเอ้นั่นก็ไม่ยอมแพ้ด่ากราดเป็นทหารชายแดนเขมรกราดกระสุนใส่ชายแดนไทยยังไงยังงั้น

    แต่ใน ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนดุเดือนนั้นเอง!!.

    .

    .

    .

    .

    .

    “ป้า! บะหมี่จาน ไม่แห้ง ไม่งอก ไม่ชี!..”เสียงครูโอโนะดังแทรกขึ้น พร้อมกับก้อนผมสีทองราวกับหมูหยองเข้ากันกับชุดวอร์มกีฬาของโรงเรียนสีน้ำเงินเข้มอย่างร้ายกาจ..

    ทั่วทั้งโรงอาหาร ไม่เว้นแต่เหล่าบรรดาสัตว์เลื้อยคลานและกระสุนปืนที่ยูริ กับ เจ้าหนุ่มโมเอ้นั่นปล่อยออกมา ยังถึงกับเงียบและหันไปจ้องครูโอโนะด้วยเป็นสายตาเดียว

    ชิ้งงงงงง งงงง!!

    .

    .

    .

    ปู้ดไอ้โกคิตดปุ๋งนึงอีกครั้ง ผมซึ่งอยู่ห่างไกลรับรู้ได้ถึงสัญชาตญาณ ดังขึ้นพร้อมกับเสียงออดโรงเรียนดัง

    ติ๊งหน่อง ต๊องหนิ่ง ดิ่งดิงดิ๊งด่อง~~

    เสียงออดหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้นมาทันทีหลังจากที่ครูโอโนะสั่งเมนูโปรดจบ..

    ครูหัวหมูหยองเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกา แล้วหันหน้ากลับลงมาทางเหล่าบรรดานักเรียน

    “เฮ้ย! พวกแก! มัวโอ้เอ้อยู่ทำไม!? เข้าห้องเรียนเด้!”

    ปังๆๆๆ!!!!

    ไม้ไผ่อาวุธประจำกายกระแทกลงบนโต๊ะอาหารตรงข้ามผมเสียงดังสนั่น เด็กนักเรียนแตกฮือเป็นวงไผ่หนีหมาต๋า

    “ว๊ากกกกกกกกก>O<!!”ยูริแหกปากเสียงดังสนั่น พร้อมกับสีหน้าพะอืดพะอมเพราะมือไม่สามารถยกขึ้นมาอุดจมูกได้

    “ลูกพี่ เอาไงดีครับ” โกคิถาม บนบ่ามียูริดิ้นไป เป็นดักแด้เมาขี้หมาอยู่

    “กองแม่งไว้ตรงนั้นแหละ!” ผมสั่ง ในขณะที่มือข้างที่ว่างถือหนังสือโป๊เล่มเดิมโบกไปมา

    แอ๊ก!!!!!!!!!! ผลั่ก!!!!!

    เสียงยูริโดนปล่อยลงพื้น พร้อมกับผมที่เดินจากโรงอาหารไปอย่างสุดเท่ห์เหนือใครเปรียบ

     


    โปรดติดตามตอนต่อไป.. กร๊ากกก



    โซล :ดีใจจังมีคนทวงเยอะ?กรั่กๆๆ แต่งกันมันส์มากก หลังจากนี้จะ....ล่ะ?พอดีไปนั่งคิดกันมาแล้วไฟกำลังลุกโชน!!เลยคิดว่า คงจะยังไม่ดองแน่ๆ น้าา ToT คงไม่มีใครเชื่อเราอีกแล้ว เฮ้อ พูดงี้ทุกทีสุดท้ายก็ดอง - - คือ แง เราสองคนแปลทรานส์ แล้วก็ทำซับ ยันยัน ด้วยซึ่งหนักหนามากก =「」= เราต้องจัดการพวกนั้นได้ก่อนถึงจะมาแต่งแต่ละทีได้ ขอโทษด้วยน้า แงงงง อย่างอันนี้ก็ยังไม่ได้ทำยันยันเลย กร๊ากกก แต่มันยากและเครียดมากเลยหนีมาแต่งฟิคกัน ซึ่งฟิคเรื่องนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดเล้ยยยยย อิอิ ขอบคุณและก็ขอโทษทุกคนด้วยน้าา แต่ก็ยังติดตามและคอยทวง ซิกๆ จากนี้ไปจะพยายามจ๊าา! TOT

    วีนัส : ตอนนี้เราสองคนก็วางแผนไว้กันเป็นตอนๆไว้แล้ว ก็คงจะทยอยลงมาเรื่อยๆ แต่ว่าคงไม่ได้แต่งแย่ใช่มั้ย ไม่ได้แต่งนานจริงๆT^T


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×