คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 18 Honey land~! ถ้ำโจรสลัด
“เฮ้อ~ เราคงพ้นแล้วล่ะยามะจัง” ยูโตะหันมาพูดกับเพื่อนร่างอวบหลังจากที่เดินผ่านพ้นประตูเข้ามาได้ซักระยะ
“…” ยามะจังไม่ตอบพลางก้มหน้านิ่ง ไม่ใช่อะไรหรอก เขากำลังเขินอยู่นั่นเอง เมื่อกี้ยูโตะหอมแก้มเค้า แถมตอนนี้ยังจับมือกันเดินเข้ามาอีก แค่นี้ก็ทำให้เขาไม่กล้าสู้หน้าคนตัวสูงแล้ว
“หือ? ยามะจังทำไมเงียบล่ะ”
“อ๊ะ อืม ปะ เปล่า ไม่มีอะไร…เอ่อคือว่ามือ /////” ยามะจังมองไปที่มือของตน ที่ถูกมือใหญ่ของร่างสูงจับจนแน่น
“อ๊ะ ขอโทษนะ! ////” ยูโตะรีบปล่อยมือทันที ให้ตายสิ ดันเผลอจับมือยามะจังซะแน่นเลย!
“มะ ไม่เป็นไร เอ่อ ยูโตะเมื่อกี้มัน…” ยามะจังนึกตอนที่ประตูทางเข้า
“เอ๊อ ขอโทษนะ ที่อยู่ๆก็ เอ่อ…หะ หอมแก้มยามะจังน่ะ ////” เสียงค่อยๆเบาลงเรื่อยๆจนแทบไม่ได้ยิน มือเกาจมูกแก้เขินพลางเบือนหน้าไปทางอื่น
“เอ่อ คือไม่เป็นไรก็มันจำเป็นนี่นา อีกอย่าง…ถ้าเป็นยูโตะล่ะก็ไม่เป็นไรหรอก”
“เอ๊ะ” เมื่อกี้ยามะจังพูดว่าอะไรนะ ถ้าเป็นยูโตะ? งั้นหรอ!
ยามะจังไม่มองหน้าเขา เดินนำเข้าไปในสวนสนุกทันที
ยูโตะเริ่มรู้สึกตัวจึงวิ่งตามไป ในใจเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่าง ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้แต่กับนานะที่บอกว่าเป็นคนรักตามพรหมลิขิตของเขา คือยังไงดีล่ะ ตอนนี้เขามีความสุขมากเลย หรือว่านี่แหละที่เรียกว่าความรัก…
แซ่กๆๆๆ เสียงพุ่มไม้ใกล้ๆบริเวณที่ทั้งสองยืนอยู่เมื่อกี้
“เรียวสุเกะ นายนี่มัน ฮึ้ย! แผลงฤทธิ์จนได้สินะ” นานะได้ยินเรื่องทั้งหมดที่ทั้งสองคุยกันอยู่เมื่อกี้ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น สายตามองไปที่คนทั้งสองที่กำลังวิ่งห่างออกไป
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงวันนี้ทั้งวัน ชั้นจะตามดูนายให้ถึงที่สุดเลย ยูโตะเป็นของชั้น!” นานะพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ถึงที่สุด มือซ้ายกระชับกระเป๋าใบเล็กแน่น ก่อนจะแอบเดินตามคนทั้งสองไป
ด้านชี่ & เคย์โตะ
“โหย นายได้ยินเมื่อกี้ป้ะ เคย์โตะ” ชี่โผล่หัวออกมาจากเสาต้นเล็กที่บังตัวเขาจนมิด
“เต็มหูเลย ยัยนี่นี่มันน่าโมโหจริงๆ” คนหัวตั้ง หรี่ตามองตามนานะที่ออกเดินตามเพื่อนรักทั้งสองของเขาไป
“อืม แล้วเอาไงดี แผนแรก…” ชี่หันไปมองหน้าเพื่อนสนิทเพื่อถามความเห็น จริงๆพวกเขาไม่ได้เตรียมแผนการเอาไว้ก่อนเหมือนโซล และ ไดกิ จึงยังไม่รู้กันว่าจะทำยังไง อะไรกันบ้าง
“ชั้นว่าเราตามพวกนั้นไปก่อนดีกว่า พอรู้ว่าเลือกเล่นอะไรค่อยคิดดีมะ” เคย์โตะเสนอ ชี่พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งสองจะตามคนสามคนที่เดินล่วงหน้าไปก่อนแล้วไปอีกที
...
“ยามะจัง เล่นอะไรดีล่ะ อันแรก” ยูโตะยืนมองเครื่องเล่นรอบๆตัวเอง เยอะแยะไปหมดเลือกไม่ถูกเลย แถมคนเยอะอีกต่างหาก
ยามะจังเงียบไม่ตอบ ร่างอวบยืนกางแผนที่สวนสนุกอย่างตื่นเต้น ยูโตะเมื่อเห็นคนข้างๆไม่ตอบเลยชะโงกหน้าไปดูแผนที่ด้วย
“ไปล่องเรือถ้ำโจรสลัดกันตรงนั้นป้ะ” ยามะจังเงยหน้าจากแผนที่แล้วชี้ไปที่อาคารไม้เตี้ยๆ ตรงหน้าด้านข้างมีถ้ำมืดๆอยู่
“เห~ น่าสนุกนะไปสิ” ยูโตะ ยิ้มร่าเริง ก่อนจะพากันเดินไปต่อแถว
นานะ ที่เดินปนอยู่กับผู้คนแถวๆนั้นรีบสาวเท้าเดินตามทันที แน่นอน สองคู่หูของเราก็เหมือนกัน~
“เรียวสุเกะ! พายูโตะเข้าไปในนี่มืดๆแบบนั้น นายจะทำอะไรห๊ะ!! ฮึ้ย!” นานะกระแทกเสียงก่อนจะรีบวิ่งตามเข้าไป
ตึกๆๆ
“เฮ้ย เคย์โตะ ที่ๆสองคนนั้นเข้าไปมันคืออะไรอ่ะ” ชี่เอ่ยถามอย่างร้อนรน กลัวไม่ทันการ
“อย่าเร่งสิ ชั้นกำลังดูอยู่เนี่ย!” เคย์โตะเริ่มมือสั่นขณะกางแผนที่อยู่ ให้ตายสิ เขาไม่ชอบการให้ใครมาเร่งเลย
“อิอิ ว่าแต่เมื่อกี้สะใจยัยนั่นแฮะ คนรักกันจะทำอะไรกันในที่มืดๆก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนนี่ =..=” ชี่กอดอก ยิ้มกระหย่องอย่างสะใจ
“อ๊ะ เจอแล้ว! รู้สึกว่ามันจะเป็นแบบว่าล่องเรือไปในถ้ำโจรสลัดอ่ะนะ” เคย์โตะบอก แต่สายตายังคงจับจ้องไปในแผนที่พิเศษสำหรับพวกเขา ที่มีการแจกแจงรายระเอียดยิบย่อยอยู่
“เห แค่นั้นหรอ” ชี่ถามต่อ ไม่มีอะไรให้เล่นเลยรึไง หรือว่ามีไว้ดูอย่างเดียว
“เอ่อ…อืมๆ แค่ล่องเรืออย่างเดียว แต่ข้างในว่าน่ากลัวอยู่นะ เพราะว่ามืด แล้วก็จะมีพวกโครงกระดูกโจรสลัดไรเงี้ย”
“อ่อ แล้วในเรือนั่งได้กี่คนอ่ะ”
“ใหญ่อยู่นะ แถวละสี่ มีสี่แถวอ่ะ”
“สิบหกงั้นหรอ…ปะ เคย์โตะ” ชี่สะกิดเพื่อนแล้วลากกันเข้าไปต่อแถวทันที โดยจงใจเว้นระยะห่างจากนานะเล็กน้อย
“นี่ แล้วนายจะทำไงอ่ะชี่” เคย์โตะถามเพื่อนตัวเล็ก อยู่ๆก็ลากเขาเข้ามา มีแผนแล้วรึไง
“นึกอยู่เนี่ย นายก็ช่วยคิดด้วยเซ่!” อ้าว ด่าเค้าอีก =3=
“อืมมม เออ เอางี้!” ซุบซิบๆ เคย์โตะปรึกษาเพื่อนอย่างนึกสนุก คิดได้ไงเนี่ยเรา อิอิ
“ใช้ได้เลยนะเคย์โตะ! เอาล่ะไปกันเหอะ อิอิ” ชี่แสยะยิ้มร้ายก่อนจะส่งสัญญาณเรียกหาพนักงานประจำเครื่องเล่น…
...
“คนเยอะจังเลยเนอะ~” เสียงนุ่มเอ่ยพูด ขณะพยายามเขย่งตัวชะเง้อมองคนด้านหน้า ทำเอาคนตัวสูงกว่าขำในความน่ารักของคนคนนี้
“นั่นสิ ยามะจังเมื่อยมั๊ยล่ะ เดี๋ยวชั้นเฝ้าให้ก็ได้นะ ยามะจังออกไปนั่งรอก่อนก็ได้ เดี๋ยวใกล้แล้วชั้นโทรไป”
“ได้ไงล่ะยูโตะ มาด้วยกัน เล่นด้วยกัน ก็ต้องรอด้วยกันสิ ไม่เป็นไรหรอก มาสวนสนุกก็ต้องรอสิ จริงมั๊ย คิกๆ” ยามะจังหมุนตัวมายิ้มอารมณ์ดีให้ยูโตะ
ตึกตักๆๆ =//////= นะ น่ารักจังเลย~~~
“เอ๋ เป็นไรไปน่ะยูโตะ” หน้ากลมยื่นเข้ามาใกล้ๆ ทำให้ร่างสูงสะดุ้ง
“เอ่อ เปล่า มะ ไม่มีอะไร” อะไรกัน ความรู้สึกนี้~
“เออนี่ ยูโตะ ชั้นถามไรหน่อยสิ” ยามะจังเอ่ยถาม แต่กลับเบือนหน้าไปทางอื่น
“อะไรหรอ”
“คือ ยูโตะรักนานะมากเลยหรอ” นี่เราถามอะไรออกไปเนี่ย แต่เราอยากรู้จริงๆนี่นา แต่ว่ากลัว กลัวคำตอบจะออกมาแล้วทำให้เราเสียใจขึ้นไปอีก
ร่างอวบหลับตาปี๋ พยายามทำใจกับคำตอบที่จะได้รับ ในขณะเดียวกัน คำถามนี้ทำเอาร่างสูงชะงักด้วยเช่นกัน
รักหรอ เราไม่เคยมีความรักก็จริงเลยไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง แต่เรากลับรู้สึกว่า เราไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นกับนานะเลย แต่ว่าเรากลับ…รู้สึกอย่างนั้นเวลาอยู่ต่อหน้ายามะจังแทน
มันหมายความว่ายังไงนะ…ยูโตะยืนคิดอยู่นานจนคนถามรอจนใจระทึก
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ชั้นรู้สึกว่า ชั้นไม่ได้มีความรู้สึกอะไรแบบนั้นกับเค้าเลย เพราะอะไรกันนะ~~” ยูโตะพูดลอยๆออกมาอย่างลืมตัว
ยามะจังเบิกตา หมายความว่า ยูโตะไม่ได้รักนานะหรอ! คำตอบนี้ทำเขายิ้มออกมา หัวใจพองโตกับคำตอบที่ได้รับมา แต่อีกใจก็รู้สึกตกใจ ทำไมล่ะ ในเมื่อยูโตะเชื่อว่านานะ คือคนรักตามพรหมลิขิตของเขา แต่ทำไมเขากลับบอกว่า เขาไม่แน่ใจตัวเองล่ะ
ยูโตะเองพอรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ก็รู้สึกสงสัยและตกใจกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ทำไมเราพูดแบบนั้นออกไปนะ…แต่ว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปนั้นมันเป็นเรื่องจริง
“อ่ะ เอ่อ งั้นหรอ” ยามะจังหันมาตอบ พยายามซ่อนรอยยิ้มแห่งความดีใจไว้ ยูโตะพยักหน้าแบบเหมือนกับยังไม่หายข้องใจนัก แต่ยามะจังก็ไม่ได้ถามอะไรต่อจนกระทั่ง ถึงคิวของทั้งสอง
“เอาล่ะ คร้าบ~~~ เชิญลงเรือได้เลยนะคร้าบ ”
“อ้าว ยูโตะ! ถึงคิวแล้วๆๆๆ ปะๆๆๆ” พอได้ยินเสียงพนักงานเรียก ตัวเองก็เผลอดีใจ จนลืมเรื่องเมื่อกี้ไปชั่วขณะ จับแขนยูโตะแล้วลากลงเรือทันที
“อ๊ะ ใจเย็นๆสิยามะจัง!” ยูโตะสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงจากคนด้านหน้า จนหัวเกือบทิ่มพื้น
และทั้งสองก็ได้ลงเรือ ได้นั่ง คนที่ สามและสี่แถวหน้าล่ะ~
นานะรีบเดินหลบหลังคนกลุ่มใหญ่แล้วค่อยๆลงไปในเรือด้วย รู้สึกว่าหล่อนจะนั่งแถวที่สามคนที่สองล่ะนะ
ชั่วอึดใจเดียวกัน เคย์โตะและชี่รีบวิ่งลงเรือไปในจังหวะที่พนักงานกำลังจะกั้นประตูเพื่อเป็นการแสดงว่าที่นั่งเต็มแล้ว ทั้งสองส่งซิกพยักหน้าให้พนักงานเปิดประตูแว๊บนึง ก่อนจะค่อยๆเดินลงไปในเรือ ทั้งสองคนนั่งแถวสุดท้าย คนที่สองและสาม
‘เซฟ~!’
‘ เอาล่ะ ลุย!’
“เรือจะออกแล้วนะคร๊าบบ~~” เสียงพนักงานประกาศเสียงใส ก่อนที่เรือลำใหญ่ จะค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากริมฝั่งที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ออกสู่ทางด้านหน้า
“โห ยูโตะสวยจังเลย” ยามะจังชี้ให้ยูโตะดูที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำ แถบนั้นเต็มไปด้วย หมู่สัตว์และนกนานาชนิดมากมาย เปรียบเสมือนเกาะมหาสมบัติแสนสวยอย่างไงอย่างงั้น
“นั่นสิ อ๊ะ ยามะจังดูสิ นกตัวนั้นน่ารักจังเลย” ยูโตะชี้ให้ดูนกขมิ้นสีเหลืองอ่อนตัวหนึ่งซึ่งกำลังบินไปกินผลไม้อยู่
“ไหนๆ อ๊ะ จริงด้วยน่ารักจัง~~”
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ยูโตะเองก็ชอบแอบมองยามะจังด้วยสายตาอันอ่อนโยนทุกครั้ง ทำเอาคนนั่งด้านหลังเริ่มกระวนกระวายใจเพราะภาพตรงหน้า
‘อะไรกัน ทำไมอยู่ๆก็ดูสนิทกันขนาดนี้นะ! ที่โรงเรียนยังไม่เห็นมีอะไรนี่นา’ นานะคิดในใจ พลางชะเง้อไปชะเง้อมามองสองคนด้านหน้าที่กำลังคุยกันอย่างออกรสอยู่ จนคนด้านข้างของเธอเริ่มมองเธอด้วยด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจ
‘แหมๆ หวานกันจริงๆเลยนะ สองคนนั้นน่ะ พึ่งก้าวผ่านประตูมาได้แป๊บเดียวเองนะ’ เคย์โตะกระซิบคุยกับเพื่อนด้านข้าง ปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ ส่งสายตาล้อเลียนไปยังเพื่อนสองคนด้านหน้า
‘แหม เคย์โตะ ก็ก่อนเข้ามาสองคนนี้เขาทำอะไรกันมาล่ะ อิอิ เหมือนแฟนกันจริงๆเลยสิน้า~ ไม่เหมือนใครบางคน ชะเง้อ หึงหวง แต่ทำอะไรไม่ได้ จนคนด้านข้างจะถีบตกน้ำอยู่แล้วมั้งนั่น ฮะๆ’ ชี่มองคนด้านหน้าตนอย่างขำๆ
‘นั่นสิ หึหึ เมื่อไหร่จะได้เข้าถ้ำซักทีน้า’
‘ใกล้แล้วล่ะ ด้านหน้าไงๆ เตรียมตัวดีๆล่ะเคย์โตะ’ ชี่หันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนสนิท
‘แน่นอนชี่ รับรอง’
เรือค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านป่าดงดิบจำลองไปเรื่อยๆจนมาถึงปากถ้ำ เงาดำค่อยๆคืบคลานมาปกคลุมเรือทีละนิดๆก่อนที่ เรือทั้งลำจะถูกดึงเข้าไปในถ้ำที่มืดมิด
ภายในถ้ำมืดมิดบรรยากาศวังเวง กลิ่นชื้นๆและเหม็นสาบ ลอยโชยมา แต่ไม่ถึงขั้นต้องปิดจมูกหนี เส้นทางรอบข้างเริ่มมีแสงเทียนอ่อนๆ คอยนำทางเมื่อถึงจุดที่มีโจรสลัดและสมบัติต่างๆตั้งอยู่
“โหหหหหหหห”
“ว้าวว ของจริงป่าวเนี่ย!”
“อยากเอากลับบ้านจัง~~”
ทั่วทั้งเรือเกิดเสียงคุยกันเล็กน้อย อย่างตื่นเต้น
“โหยๆดูสิ ยูโตะ มีโครงกระดูกด้วยอ้ะ น่ากลัว” ยามะจังมองโครงกระดูกบนฝั่งอย่างหวาดๆ ถูกตั้งวางในท่านั่งอยู่ข้างๆ สมบัติเหมือนกับ มันกำลังเฝ้าสมบัติไว้อยู่
“ไม่เห็นต้องกลัวเลยยามะจังนั่นมันของปลอมนะ” ยูโตะแกล้งแย่ ชี้ให้เพื่อนร่างอวบดูโครงกระดูกตัวที่ถูกวางใกล้กับเรือ
“ไม่เอ๊า ยูโตะชั้นไม่ชอบนะ!” ยามะจังพยายาม กระเถิบตัวหนีจากยูโตะที่พยายามแกล้งเขาอยู่ ก็ตอนที่เรือเคลื่อนช้าๆแบบนี้ ยูโตะก็ไปดึงแขนโครงกระดูกเข้ามาใกล้ๆหมายจะให้ไปจิ้มตัวเขาน่ะสิ
“อิอิ อ่ะน่าๆๆ โอ๋ๆ ขอโทษๆ” ยูโตะลูบหัวเพื่อนเป็นเชิงง้อๆ
ยามะจังทำแก้มพองลม เบือนหน้าหนี ชิ น่ากลัวจะตาย เล่นอะไรของนายเนี่ย ถึงเป็นยูโตะก็ไม่ยกโทษให้หรอกนะ มันน่ากลัวรู้มั๊ย!
เห็นอย่างงี้แล้ว ยูโตะแทบอยากหัวเราะออกมาดังๆ แก้มของยามะจังเนี่ยปกติก็กลมป่องอยู่แล้วยิ่งเวลางอนยิ่งป่องเข้าไปใหญ่เลย ตลกดี ฮ่ะๆ แต่ก็น่ารักนะ~
“ทำหน้างั้น หมายความว่าไง” เจ้าของแก้มหันหน้ามาอย่างไม่สบอารมณ์
“เปล่าไม่มีอะไร” ยูโตะทำเป็นลอยหน้าลอยตา นั่นยิ่งทำให้แก้มกลมๆยิ่งป่องขึ้นไปกว่าเดิมอีก…
‘ชิ คิดว่าน่ารักแล้วหรอ เรียวสุเกะ! ของปลอมแค่เนี้ย ทำเป็นสำออย!’ นานะส่งสายตาหมั่นไส้ไปทางคนแก้มป่อง โดยที่ตัวเองก็รู้สึกวังเวงๆกับบรรยากาศแบบนี้เหมือนกัน ให้ตายสิ! เล่นไรไม่เล่น ทำไมเลือกมาเล่นในที่แบบนี้ก็ไม่รู้!
‘อิอิ อุ้ย โกรธใหญ่เชียว’ ชี่ขำอย่างสะใจ แต่เงียบงันอย่างสามารถ
‘อ่ะ ชี่ๆได้เวลาแล้วๆ’ เคย์โตะหันไปสังเกตเห็นสัญญาณที่พนักงานควบคุมเรือ ส่งถึงเขาสองคนอยู่ ใช่แล้ว พวกเขาวางแผนไว้ว่า จะให้พนักงานคุมเรือ กระตุกเรือซักหน่อยพอเป็นพิธี ให้เพียงพอที่คนสองคนข้างๆกันจะเอนเข้าหากันได้
เอ๋? ฟังดูแผนตื้นๆธรรมดาๆงั้นหรอ? เคย์โตะซะอย่างครับ มันไม่ใช่แค่นี้แน่นอน มันล้ำลึกกว่านั้น =..=
จบการอธิบายได้ไม่ถึงสามวินาที เรือทั้งลำก็สะดุดกึก อย่างตั้งใจ และรุนแรง แน่นอน ทุกคนคาดเข็มขัดเอาไว้จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด
กึง!!!
“อ๊ะ!”
“เหวอ!”
“เฮ้ย!”
ทุกคนในเรือต่างตกใจกันยกใหญ่ แน่นอนนานะก็ด้วย
“เรือบ้า! ขับยังไงนะ!” หล่อนสบทออกมาอย่างเหลืออด กลัวจะตายอยู่แล้วยังจะมาทำให้ตกใจอีก!
‘อุฮิๆๆๆ’
‘ก๊ากกก’ สองคู่หูของเราถึงกับขำอย่างสะใจ แต่ก็นะด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยม พวกเขาเลยสามารถหัวเราะอย่างสะใจได้โดยทั้งๆที่ไม่มีเสียง
แต่ว่าช่วงนาทีที่เรือสะดุด คนด้านหน้าทั้งสองเนี่ยสิ ก็รู้ๆกันอยู่ว่า เครื่องเล่นพวกนี้ พวกนั่งหน้าเนี่ย โดนหนักสุด
“อ๊ะๆๆๆ เหวอ!!” ยามะจังทรงตัวไม่อยู่เมื่อเรือสะดุด
“อ๊ะๆๆ” ยูโตะเองก็เช่นกัน แหงล่ะเขานั่งข้างๆกันนี่
ตุบ!
“โอ๊ย!” ยามะจังทรงตัวไม่อยู่จนในที่สุด คนด้านข้างของเขาก็ดันเอนล้มมาทับเขาทำให้เขา ล้มลงไปกอดยูโตะพอดิบพอดี!!
“อ๊า!!!” นานะร้องเสียงหลงเมื่อหันไปเห็นภาพตรงหน้า จนทุกคนตกใจ
‘เป็นไปตามแผน! แต่มันไม่ใช่แค่นี้หรอกนะ!’
สิ้นความคิด ไฟในถ้ำทั้งหมดก็ดับลง
“เฮ้ยไฟดับ!”
“น่ากลัวอ้า”
“ไฟๆ! ขอไฟหน่อย!”
เริ่มมีเสียงโหวกเหวกโวยวาย ด้วยความตื่นตกใจของคนในเรือ ยกเว้นทั้งสองคนที่นั่งอยู่แถวสุดท้าย ที่กำลังสนุกสนานที่ได้ทำตามแผน แถมยังได้แกล้งคนอื่นอีก
ทุกคนเริ่มส่งเสียงกันมากขึ้น นานะเองก็เช่นกัน เธอพยายามเพ่งตรงส่วนหน้าเรือที่สุด เพื่อจะได้รู้ว่าสองคนนั้นทำอะไรกันรึเปล่า! มันมืดแบบนี้ ไม่แน่ เรียวสุเกะอาจจะฉวยโอกาสให้ได้!!
และแล้ว ก็มีเสียงๆนึงลอดผ่านโสตประสาทของทั้งสามคนที่ท้ายเรือเข้ามา
“อื้อ~ ยูโตะ”
*O*!!!!
‘เฮ้ย! ของจริงหรอวะ!!!’
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ทำอะไรกันน่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” นานะโมโหจัด พอได้ยินเสียงส่อความคิดนั้น ความยับยั้งอดทนหมดเลย กรี๊ดออกมาจนลั่นถ้ำ
.
.
.
.
.
และแล้วไฟก็ติด
พรึ่บ!
“ไฟมาแล้ว!”
“เย้ๆ!”
“เฮ้ย ชั้นว่า เขาไม่ประกาศไรเงี้ยสงสัยเป็น เพราะเครื่องเล่นแหงๆ แบบว่าให้ไฟดับพอดีน่ะ”
“เออๆจริงด้วยๆๆ”
คนอื่นๆเริ่มคุยกันแล้ว
“เมื่อกี้เสียงใครน่ะ เหมือนนานะเลย อ๊ะ ยามะจัง เป็นไงบ้าง” ยูโตะ ตกใจเมื่อกี้ อยู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงกรี๊ดขึ้นมาแถมเหมือนนานะอีก…อืม~~ ไม่หรอกมั้ง ผู้หญิงก็เสียงเหมือนกันๆกันหมดแหละ อ๊ะ ใช่ ยามะจัง เมื่อกี้คนข้างๆล้มมา ยามะจังเลยล้มมาทับเขา
“อื้อ ไม่เป็นไรนะ โทษทีที่ล้มทับ แล้วยังเอาหัวไปกระแทกตัวยูโตะอีก” ยามะจัง ค่อยๆดันตัวเองขึ้นมา ให้ตายสิ เขินจังเลย~ >///< แต่ก็นะมันมืด แล้วก็เร็วไปหน่อย เลยไม่ได้อะไรมาก
“ไม่เป็นไรๆ ไม่เจ็บตรงไหนนะ”
“ไม่เป็นไรๆ ขอบใจนะ”
เคย์โตะที่แอบฟังอยู่ กระจ่างแจ้ง
‘อ๋อ ที่แท้ยามะจังล้มทับนั่นเอง เสียงเมื่อกี้คงเพราะหัวไปกระแทกตัวยูโตะแหละ’
‘แหม น่าเสียดาย~ นึกว่าจริงซะอีก =3= แต่ช่างเหอะ ยังไงคงตรงหน้าเราก็เชื่อล่ะ อิอิ’
‘ไม่ๆยังไม่พอชี่ เราต้องเล่นละครซักหน่อย’
พูดจบเคย์โตะก็แกล้งดัดเสียงแล้วทำเป็นคุยเรื่องเหตุการณ์เมื่อกี้กับชี่
“นี่ๆ เมื่อกี้ตอนที่ไฟดับนะ ได้ยินเสียงอะไรมั๊ย ชั้นได้ยินแหละ! โหย พอเมื่อกี้ชั้นพยายามเพ่งๆดูนะ สุดยอดเลย!”
“อะ เอ๋ อ๋อ อะไรหรอ!” ตอนแรกงงๆ แต่ซักแป๊บ ชี่ก็รู้จุดประสงค์ของเคย์โตะได้ในเวลาอันรวดเร็ว
“เธอไม่เห็นหรอ เขาจูบกันแหละ!”
ห๊ะ!!! เรียวสุเกะ กับ ยูโตะจูบกันงั้นหรอ!!!!!!!
“กรี๊ดดดดดดดด!!!! ไม่จริ๊ง!!!!!!!” นานะ กรี๊ดออกมาอย่างสุดเสียงอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงเคย์โตะกับชี่ที่แกล้งทำเป็นคุยกันด้านหลัง ทำเอาคนด้านข้างทนไม่ไหว
“นี่หล่อน! หัดมีมารยาทซะมั่งนะ! ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ชั้นชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!”
‘ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สมน้ำหน้า!’
‘สะใจโว้ย! ได้ผลเกินคาด~!’
และแล้ว เรือก็เข้าเทียบฝั่ง
“สนุกจังเลย~ ยูโตะ” ยามะจังจับมือยูโตะที่ขึ้นไปก่อน และค่อยๆดึงตัวเองขึ้นไป
“นั่นนิ ตอนปิดไฟเนี่ยตื่นเต้นเนอะ~” ยูโตะพูด ขณะที่กำลังเดินออกมาด้านนอก
“ใช่ๆ ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรของเขานะ อยู่ๆก็กรี๊ด แล้วก็โวยวาย” สงสัยจะเป็นนานะแฮะ สะใจๆๆ ฮี่ๆ
“นั่นสิ อ๊ะ แต่ก็โดนคนด้านข้างว่าเอาใช่มะ โคตรขำเลย ชั้นน่ะ” ยูโตะส่ายหน้า อย่างขำๆ ผู้หญิงอะไร๊
“ชั้นก็เหมือนกันแหละ ฮ่าๆๆ” ยูโตะ นายไม่รู้หรอว่า ผู้หญิงคนนั้นแหละ คือนานะ คิกๆ
“ช่างเหอะ~~ ไปกันต่อเหอะ ยามะจัง เครื่องชักติดแล้วสิ!” ยูโตะ ทำท่าตื่นเต้นมองหาเครื่องเล่นชิ้นใหม่
“โอเค๊! ไปกันเล้ย อ๊ะๆ ยูโตะแวะซื้อไอติมก่อน” ยามะจังตั้งท่าจะเดินไปที่เครื่องเล่นชิ้นต่อไป แต่ก็ดันไปสะดุดตากับไอติมรูปตุ๊กตาหมีน่ากินเสียก่อน เลยเปลี่ยนเป้าหมาย
“เฮ้ย ยามะจัง จะกินเลยหรอ เราพึ่งเล่นกันได้ที่เดียวเองนะ~” ยูโตะแซวขำๆ ก่อนจะเดินตามไปจ่ายเงินให้ อยู่กับยามะจังเนี่ย มีเรื่องให้ยิ้มตลอดเลยจริงๆนะ…
หน้าประตูทางออก (ไม่ห่างจากร้านไอติมเท่าไหร่)
“โอ๊ย! เพราะนายคนเดียวเรียวสุเกะ ทำให้ชั้นต้องอับอาย!!!” นานะกระทืบเท้าอย่างโกรธเกรี้ยว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเข้าใจผิด กับ คู่รัก? ด้านหลังเธอที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป เธอก็คงไม่โดนด่าประจานแบบเมื่อกี้หรอก!
“นายนี่มัน มารร้ายชัดๆ เรียวสุเกะ!” นานะทิ้งท้ายที่เครื่องเล่นชิ้นแรก ก่อนจะเดินตามทั้งสองต่อไป
คู่หูตัวป่วน
“ก๊ากกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ยยย ขำชะมัดเลยชี่ ก๊ากกกกกกก” เคย์โตะยืนขำปวดท้องอยู่หน้าห้องพัก พนักงาน หลังจากที่ทั้งสองเดินเข้าไปขอบคุณพนักงานเมื่อกี้ที่ช่วยทำตามแผนให้
“ก๊ากกกกกกกกกกกกก ชั้นก็ขำเหมือนกัน ไม่นึกว่า จะได้ผลดีเกินคาดขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” ชี่แทบลงไปนอนกลิ้งกับพื้น เพราะก่อนเข้าไปขอบคุณพนักงาน เขาไปยืนดูคนๆนั้น ด่านานะอยู่นะสิ แบบว่าสะใจชี่มาก! ทำเอาคนอื่น ขำนานะกันใหญ่เลย โฮะๆ สะใจ!
“ชั้นก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้ผลเกินคาดขนาดนี้ ฮะๆๆ เอาล่ะ ชี่ แผนแรกสำเร็จ!” เคย์โตะชูมือขึ้นมา
แทค!
ชี่ยกมือขึ้นมาตีมือเคย์โตะ ด้วยเหมือนกัน
“แผนแรกสำเร็จ เรามาสนุกกันต่อดีกว่า หึหึ”
“โอ้!” และทั้งสองก็เดินตามนานะต่อไปอีกเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน โซลและไดกิก็กำลัง…
ณ บ้านผีสิง
“โอ๊ย พี่ แต่งหน้าอยู่นั่นแหละ น่ากลัวจะตายอยู่แล้ว~” โซลยืนบ่นพี่ชายอยู่ในห้องแต่งตัวพนักงาน ก็ดูพี่สิ เลือกชุดก็นาน แต่งหน้าก็นาน แล้วแบบยิ่งแต่งยิ่งเหมือนอ่ะ น่ากลัว
“โหย โซล ลงทุนทีก็ให้มันคุ้มๆหน่อยดิ” ไดกิเงยหน้าขึ้นมาแย้ง ทำเอาโซลเบ้หน้า
“รู้แล้วๆ แต่พอก่อนเหอะ พี่โคตรน่ากลัวเลยอ่ะ”
“จริงดิ งั้นพอแล้วก็ได้” ไดกิวางอุปกรณ์ทั้งหมดก่อนจะเดินมาที่โต๊ะวางของที่เต็มไปด้วยกระดาษ และ แผนที่ภายในบ้านผีสิง
“เมื่อกี้เคย์โตะคุงกับยูริคุง ส่งข่าวมาล่ะ โคตรสะใจอ่ะ พี่ ก๊ากกกก” โซลหัวเราะซะลั่นห้อง บวกด้วยอยู่ในสภาพชุดผี เลยยิ่งทำให้ดูหลอนเข้าไปใหญ่
“เฮ้ย จริงดิ สองคนนั้นทำแผนแรกสำเร็จงั้นหรอ!”
“ใช่ โหยพี่เดี๋ยวเล่าให้ฟัง~~” โซลใช้เวลาเล่าได้ไม่นาน ไดกิก็มีปฏิกิริยาตอบสนองไม่ต่างจากน้องสาวออกมา
“จริงป้ะเนี่ย!!! ก๊ากกกกกก ฮ่าๆๆๆ ก๊ากกก โอ๊ย โซลพี่ปวดท้องเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ!” ไดกิหัวเราะจนน้ำตาไหลตามประสาคนบ้าจี้ ทำให้เครื่องสำอางที่แต่งเอาไว้เริ่มไหลเยิ้ม จนเข้าขั้นสยองสุดๆ
“ใช่มะๆๆๆๆ หนูแบบ โหย ยกย่องสองคนนั้นอ่ะคิดได้งะ…” โซลตั้งท่าจะหันไปคุยกับพี่ชาย แต่ก็ดันตกใจใบหน้าอันสุดแสนจะ…ของพี่ชายซะก่อน
“แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกก ผีหลอกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”
To be con…
แน่ะใคร~ โน่นไง~ แฝงตัวร่มเงาไม้ใหญ่ ใช่ใครนกเขาคู่มัน~ ก๊ากกก แบบว่า นกเขาคูรักมาแต่ไกล นากายามะ ฮ่าๆ โหย สะใจอ้ะ ก๊ากกก ได้ยินเสียงบาดหูไม่พอ โดนด่าประจานอีก ก๊ากกกก ยกความดีให้คุณเคตไปนะคะ โฮะๆ โซลแบบว่าตอนแต่ง กางแผนที่ดิสนีย์แลนด์ดูเลยทีเดียว =[]= ฮ่าๆ หวังว่าจะสะใจกันล่ะ(มั้ง) =3= รู้สึกไม่มั่นใจเลยเหอๆ (เคยมั่นใจไรปะ) = =’’
ความคิดเห็น