คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ที่ปรึกษากับคำตอบ
ผ่านไปได้ 3 วันหลังจากวันนั้นที่พวกเราไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ที่ผมได้ฟังสิ่งแปลกๆที่เคย์โตะพูด ที่ว่า ‘ซักวัน ชั้นอยากได้
รอยยิ้มสำหรับชั้นคนเดียว จากนาย’ เฮ้อ นั่นมันอะไรกันนะ รอยยิ้มสำหรับมันคนเดียว จากผม? อย่างนั้นหรอ มันหมายความว่ายังไงกันนะ แล้วทำไมล่ะผมถึงต้องตื่นเต้นกับคำพูดประโยคนั้นด้วยนะ มันเหมือนใจผมมันรู้คำตอบ แต่ผมไม่อาจเข้าใจหัวใจของผมได้อ่ะ
เฮ้ออออ ผมอยากรู้จัง คำถามมากมายที่ผมไม่อาจหาคำตอบได้
เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
“ริวจัง นายเป็นอะไรไปน่ะ ถอนหายใจอยู่ได้” อ้าวทำไมชี่ถึงมาอยู่ที่บ้านผมล่ะ
“อ้าวชี่ ทำไมนายถึงมาอยู่นี่ล่ะ” ผมถามทำเอาเค้าขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ริวทาโร่ นายเป็นอะไรมากป้ะเนี่ย ก็เนี่ยเราอยู่ที่สตูดิโอนะ กำลังรออัดรายการเพลงของพรุ่งนี้ไง” อ๋อ เออใช่ ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านนี่นา ตายแล้วผมพึ่งมารู้สึกตัวหรือนี่!?
“อ๋องั้นหรอ ชั้นลืมไปเลยอ่ะ พอดีนั่งคิดอะไรอยู่น่ะ” คิด? นั่นสิผมกำลังคิดเรื่องเคย์โตะอยู่นี่นา
“คิดหรอ คิดอะไรอยู่ นายแน่ใจนะว่าไม่เป็นไรอ่ะ” เค้าถามผมอย่างเป็นห่วงทำเอาผมรู้สึกอยากถามขึ้นมา (ไรเตอร์: อ่าวไหง อยู่ๆรู้สึกอยากถามอ่ะ - -) ไม่สิ ผมเผลอพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวอย่างหาก (ไรเตอร์: อ่อ)
“ทำไม เวลาที่ชั้นเห็นหน้าเค้า หรือตอนที่เค้าบอกว่าเป็นห่วงชั้น ชั้นถึงได้ดีใจขนาดนี้ล่ะ” ผมพูดอะไรเนี่ย!
“อะไรนะริวทาโร่! หรือว่า นาย จะ
” เค้าทำตาโตตกใจที่ผมพูด จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทน หรือว่า เค้าจะรู้อะไรยังงั้นหรอ?
“ชั้น ชั้นจะอะไร นายรู้อะไรหรอ” ผมรีบถามเค้าทันทีเผื่อจะได้คำตอบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเคย์โตะนั้น มันคืออะไรกันแน่
“เค้าที่ว่าเนี่ย คือเคย์โตะ รึเปล่าล่ะ?” ทำไมเค้ารู้ล่ะ! ผมว่าแล้วว่าเค้าต้องรู้อะไรแน่ๆ! ชัวร์!เชื่อผมเหอะ (ไรเตอร์ : ริวริวใครๆเขาก็รู้กันถ้วนหน้าทั้งนั้นแหละจ้า ถามแฟนๆหนูเอาสิ ใช่มั๊ย รีดเดอร์)(ริวริว:โกหก! แล้วทำไมชั้นไม่รู้ล่ะ) (ไรเตอร์:จะไปรู้เรอะ!)
“ใช่ ทำไมนายรู้ล่ะ” ผมทำหน้างงใส่เค้าอย่างเต็มที่ และแล้วเขาก็ยิ้มออกมา
“ว่าแล้วเชียว อิอิ นี่ เสร็จงานแล้วไปหาขนมกินกันมั๊ย” อ่าวทำไมอยู่ๆชวนผมซะล่ะ
“เอ่อ ชี่ นายตอบคำถามชั้นก่อนสิ”
“น่าๆ ใจเย็นๆ ไว้เราคุยไปหากินขนมไปดีกว่าน๊ะ ^^” เค้ายิ้มอย่างใจเย็น ประมาณจะพยามบอกผมว่า อย่าใจร้อนไปเลย
“กะ ก็ได้” ผมก้มหน้าเล็กน้อยพลางทำท่าอุบอิบ แต่เค้าก็เอามือมาลูบหัวผมพร้อมส่งยิ้มขำๆมาให้
“แหม ริวจังเนี่ยน่ารักจังเลยน้า” อะไรอ้ะ หมายความว่าไง เค้าต้องรู้อะไรแน่ๆเลย ไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากพูด
.
“เฮ้ ริวทาโร่ ชี่ เตรียมตัวได้แล้วว” เสียงยามะจังตะโกนเรียก ทำให้ผมต้องจำใจเก็บคำถามเอาไว้
..เลิกงาน
..
“เร็วๆสิ ชี่ไปกันเหอะ” ผมเร่งชี่ที่ทำหน้าใจเย็นเหลือเกิน
“แหม ริวจังจะรีบไปไหนเนี่ยย ใจเย็นๆสิจ๊ะ ^^” ก็แหม คนมันอยากรู้อ้ะ อ๊ะ เคย์โตะมา
“จะรีบไปไหนกันหรอชี่ จะเอาแฮมทาโร่ไปเดินเล่นรึไง” อึ้ย ไอ้บ้านี่ยังเหมือนเดิมเลยนะ
“เฮ้ย
นาย (ไม่เรียกแกละ มันแรงไป ><)” ผมกำลังจะทะเลาะกับมันเอาฤกษ์เอาชัย ชี่ก็มาขัดซะก่อน
“ไม่บอกหรอก ความลับจ้า อิอิ ไปกันเหอะริวจัง รีบไม่ใช่รึไง” พูดจบเค้าก็ลากผมออกไปทันที
ปึ้ง!
“
.อะไรกันบอกหน่อยก็ไม่ได้
.”
ณ ร้านขนมหวานหยดย้อย (ไรเตอร์ : ชื่อร้านทุเรศเชียว - -)
“เอ้า ริวจังสั่งเลยๆ ชั้นเลี้ยงเอง เอ่อ..คุณฮะ ผมเอาช็อตเค้ก กับ ไอซ์ทีฮะ” เค้าหันไปสั่งเค้กอย่างสบายใจ
“เอ่อ ผมเอาเลมอนไอซ์ทีละกันครับ แล้วก็เอามาร์เบิ้ลเค้กฮะ” เค้าสั่งผมก็สั่งมั่ง ผมไม่ใช่ตอไม้นะ ที่จะไม่รู้สึกอยากกินขนมกะเค้ามั่งอ่ะ - -
หลังจากที่พี่สาวบริกรยกรายการที่พวกเราสั่งมาวางไว้ให้แล้ว ผมก็คิดว่าคงเริ่มได้ซักทีละมั้งก่อนที่ผมจะ จุกอกตายโดยที่มีเค้กคาปาก (ไรเตอร์ : โถน่าอนาจมาก ริวริว YY)
“เอ่อชี่ เรื่องที่ชั้นถามน่ะ ว่าไง ทำไมนายถึงรู้ล่ะว่าที่ชั้นกังวลคือเรื่องของเคย์โตะ” ผมเปิดประเด็นโดยการยิงคำถามไป โป้งนึง
“แค่ดูก็รู้แล้วล่ะริวจัง ถึงไอพวกบ้าซื่อบื้อคนอื่น (ไรเตอร์: หมายถึง JUMP หรอคะ) มันจะไม่รู้ก็เหอะ”
“รู้ รู้อะไรล่ะชี่” เค้าหยุดกินพร้อมมองหน้าผมตรงๆ จากนั้นก็ยิ้มให้ผม
“รู้ว่านาย ‘รักเคย์โตะ’ ยังไงล่ะ ^^”
ตาผมแทบหลุดออกมาจากเบ้าตาเลยล่ะครับ ผม ผมน่ะเหรอ รักเคย์โตะ จะเป็นไปได้ยังไงกัน! ก็ ก็ผมกับมันน่ะมีแต่ทะเลาะๆกันตลอดเวลาน่ะสิ
“นายพูดอะไรน่ะชี่ ชั้นจะไปรักเคย์โตะได้ยังไงล่ะ ก็ในเมื่อ
.” ผมกำลังจะพูดต่อแต่ชี่ก็พูดแทรกขึ้นมา
“งั้นชั้นขอถามอะไรนาย 5 ข้อนะ ตอบแค่ว่า ใช่ กับ ไม่ใช่ก็พอ ตกลงมั๊ย” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ
“เวลานายเห็นหน้าเคย์โตะ หัวใจนายมันเต้นแรงใช่มั๊ย”
“
.ใช่
..” ทำไมเค้ารู้ล่ะ!
“เวลาเคย์โตะพูดไม่ดีกับนาย นายอดไม่ได้ที่จะน้อยใจเค้าใช่มั๊ย”
“
.ใช่
..”อีกแล้ว!
“เวลานายเห็นเคย์โตะยิ้มนายอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้ม หรือมีความสุขไปกับเค้าใช่มั๊ย”
“
.ใช่
..” เค้ารู้ทั้งหมด!
“นายจะทนไม่ได้ใช่มั๊ยถ้าวันนึงไม่มีเคย์โตะอยู่ข้างๆนาย”
. คำถามนี้ทำให้ผมเงียบไปเลย นั่นสินะ ถ้าวันนึงเคย์โตะไม่อยู่กับผมล่ะ ถ้าวันนึงเขาต้องจากไปไกลล่ะ ผมจะทำยังไง
“
..ว่าไงล่ะ ริวจัง”
ไม่ ไม่เอาหรอก ถ้าเคย์โตะไม่อยู่ใครจะคอยมาทะเลาะกับผมล่ะ คนที่บอกว่าเป็นห่วงผม คนที่เป็นเจ้าของรอยยิ้มที่ตราตึง(ศัพท์โบราณมาก ยัยไรเตอร์)ในหัวใจผม คนที่ให้ความอ่อนโยนกับผมได้ไม่ต่างจากคุณพ่อคุณแม่ คนที่เหมือนเม่น (ไรเตอร์ : เอ่อ
- -) คนที่
บอกว่า อยากได้รอยยิ้มจากผมคนเดียว
.
“
ชะ ใช่แล้ว
..” น้ำตาผมเริ่มไหล ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะ ที่แล้วๆมา ไม่ว่าจะตอนที่เราไปเที่ยวกัน หรือตอนที่มันไปรับผมที่บ้าน หรือสิ่งที่เราคุยกันหลังทานข้าว หรือไม่ว่าจะตอนไหนๆก็ตาม มันก็คือ สิ่งที่แสดงออกมาว่า ‘รัก’
ชี่ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน พร้อมเอ่ยปากขึ้น
“เอาล่ะ คำถามสุดท้ายนะ นายอยากให้เคย์โตะอยู่ข้างๆนายตลอดไปรึเปล่า”
“ครับ!” ผมเงยหน้าขึ้นมา ใช่แล้วล่ะ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว การที่ชั้นจะมีนายมาอยู่ข้างๆชั้น ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนก็ตามขอแค่มีนายอยู่ชั้นก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
“อืมๆๆ ดีมาก ^^ เข้าใจแล้วสินะ มันง่ายนิดเดียวเอง แค่นายฟังและก็เชื่อหัวใจของนายเองก็พอแล้วล่ะ” ชี่เอามือลูบหัวผมอีกครั้งนึง
“ขอบคุณมากนะชี่ ขอบคุณจริงๆ” ผมเอ่ยออกมาจากใจจริง พร้อมโค้งให้เค้าเป็นการขอบคุณ
“ไม่เป็นไรๆ เราก็เป็น เมมเบอร์ JUMP ที่สำคัญซึ่งกันและกันอยู่แล้วนี่นา ^^ อีกอย่างหลังจากนี้นายควรจะบอกความรู้สึกของตัวเองให้เคย์โตะเค้ารู้นะ” ผมถึงกับสะอึก
“เอ่อ เรื่องนั้น เคย์โตะเขาคงไม่ได้คิดแบบนั้นกับชั้นหรอก บอกไปก็อาจจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ดีๆของเราก็ได้” ใช่ ผมกลัว ผมกลัวว่าถ้าผมบอกไปมันก็จะไม่เป็นเหมือนเดิมอีก
“ไม่หรอก เคย์โตะไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนายก็รู้นี่ ชั้นว่าเคย์โตะก็คงรู้สึกดีไม่น้อยเลยล่ะ”จะ จริงสินะ มันไม่ใช่คนนิสัยแย่ขนาดนั้นนี่นา แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดีแหละ อ๊ะ ใช่ๆผมควรจะถามความหมายที่เคย์โตะพูดกับผมวันนั้นสินะ ผมว่าผมเล่าให้เค้าฟังดีกว่า
หลังจากผมเล่าเรื่องจบเค้าก็ยิ้มออกมา (ที่จริงเขายิ้มตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องแล้วล่ะ)
“นี่ริวจัง ชั้นว่า นายรีบๆไปบอกความรู้สึกดีกว่านะ” ว่าแล้วก็กลับไปกินเค้กต่อ
“เอ๊ะ หมายความว่ายังไงอ่ะชี่” ทำไมเค้าไม่ตอบผมล่ะว่าที่เคย์โตะพูดหมายความว่ายังไง แถมยังจะให้ผมรีบไปบอกมันอีก
“รีบๆกินเข้าสิ น้ำแข็งละลายหมดแล้วน้า” เขาพูดยิ้มๆโดยไม่สนใจคำถามผมเลย ผมก็เลยเลิกตื้อเพราะท่าทางเขาก็คงไม่บอกผมหรอก เราอาจจะรู้หลังจากที่เราบอกความรู้สึกก็ได้ล่ะมั้ง (ถึงได้เร่งให้เรารีบ - -)
“อืม
.” ผมตอบพลางหันไปดูดน้ำ แหวะ จืดชิบ! ไม่น่าเล้ย
แต่ยังไงวันนี้ ผมก็ได้คำตอบที่ค้างคาในใจผมมาตลอด 2 เดือนครึ่ง (ไรเตอร์: น๊านนน มีครึ่งด้วย) แล้วล่ะว่า
‘ผมรักเคย์โตะ’
To be con
HBD ทาคิจังย้อนหลังค่าาาาาาา ขอให้พี่หล่อขึ้นน้า(ทั้งที่หล่ออยู่แล้ว) อิอิ
มาอัพแล้วจ้า พอดีไรเตอร์ไปเข้าค่ายมาเลยไม่ได้มาอัพ อีกอย่างคนอ่านไม่ค่อยมีเลยไม่รู้จะลงทำไม TT แต่พอเห็นคอมเม้นช่วงที่ไม่อยู่ก็รู้สึกดีมากๆเลยล่ะ ^^ ขอบคุณมากน้าาา
เอ้อ ตอนไรเตอร์เข้าค่ายไรเตอร์ได้อยู่ สีม่วง!!!! ด้วยแหละ หมายความว่าไงกันเนี่ย?!!!! เหอๆ
ความคิดเห็น