คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [SP] แฮปปี้เบิร์ดเดย์ オレたちの大ちゃん(2)
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาในเวลาเดิมเป็นกิจวัตรปกติ ผมลงไปอาบน้ำแล้วขึ้นมาแต่งตัวอีกครั้งทีหลัง ปรากฏว่ามีอีเมล์ส่งเข้ามาเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ ก็เพื่อนๆนั่นแหละ ดีใจจัง รู้ไหมครับ การที่แค่มีคนจำวันเกิดของเราได้ แม้ว่าจะไม่ได้รับของขวัญอะไรเลยก็ตาม แต่แค่นี้ก็มีความสุขจะแย่แล้วล่ะ
เหมือนอย่างจดหมายจากแฟนๆที่ส่งเข้ามา หรือข้อความอีเมล์สั้นๆก็เหมือนกัน แค่นี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแล้วล่ะครับ~
ผมคว้ากระเป๋าใบโปรดแล้วลงไปกินข้าวเช้าข้างล่าง คุณพ่อคุณแม่ทักทายผมอยู่ที่โต๊ะอาหาร ส่วนพี่ชายคาดว่าคงยังนอนอยู่ ช่วยไม่ได้นะ~
แต่กลับกัน หลังจากผมกินข้าวหมดไปได้แล้วไม่นาน พี่ไดสุเกะก็เดินลงมาจากห้อง ในมือถือกล่องของขวัญใบใหญ่มาให้ผม อะไรกัน กะจะเซอร์ไพร้สนี่เอง~! คุณพ่อคุณแม่เองก็มีของขวัญให้ผมเหมือนกัน อื้มม วันเกิดนี่มันดีจริงๆ~
ผมบอกลาทุกคนก่อนจะออกไปทำงาน อ้อใช่ ไม่ลืมที่จะบอกด้วยนะว่าวันนี้ผมกลับดึกหรืออาจจะไม่ได้กลับ นั่นแหละครับ ก็ครอบครัวของผมที่อยู่อีกที่นึง เขาก็อยากจะฉลองวันเกิดให้ผมด้วยนี่นา
ผมแวะซื้อนมกล่องยี่ห้อเดิมหน้าสถานีรถไฟ วันนี้ผมอายุยี่สิบแล้วนะ~! ผมคิดในใจพลางเดินชมเมืองไปช้าๆ ว่าแต่ว่า พอเป็นโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วทิวทัศน์ในเมืองก็ดูไม่เห็นจะเปลี่ยนไปเลยแฮะ แต่ก็แน่ล่ะสิ ถึงผมจะบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ผมก็ยังตัวเตี้ยเหมือนเดิมนี่นา บ๊ะ ช่างเหอะ~
ผมเดินคิดนู่นคิดนี่ไปเพลินๆจนถึงบริษัท วันนี้มีเรื่องดีกว่าเดิมอีกนั่นก็คือ ผมได้ของขวัญจากแฟนๆด้วยล่ะ! เอาล่ะสิ คราวที่แล้วผมอิจฉายามาดะที่ได้รับของขวัญมากมาย แต่ปีนี้ผมก็ได้เหมือนกันล่ะนะ~ ดีล่ะ ใช้เจ้าพวกเก้าตัวข้างบนถือให้ซะเลย!!!
ว่าแต่ ขอบคุณนะครับ ที่ส่งมาให้ ดีใจที่สุดเลย~
ว่าแต่สอง? พูดถึงยามาดะ ใช่แล้ว! ต้องเคลียซักหน่อยเมื่อคืนมันทำผมอารมณ์ค้าง?มาก ไหนจะข้อความกวนๆซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นคำอวยพรหรือคำด่าที่พวกเมมเบอร์ส่งมารึเปล่าอีก
ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป แก๊งหนุ่มหล่อสี่คนเจ้าเก่ายังคงนั่งสุมหัวกันกลางห้องดั่งเช่นทุกวัน เมื่อทุกคนหันมาเห็นผม ก็วิ่งกระโจนเข้ามากอดบ้าง หรือลูบหัวบ้างทันที
“ไดจาง แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ~~”
“โตไวๆนะ เอ้านี่ชั้นซื้อนมมาให้~”
“เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ~”
“ทีนี้กลุ่มเราก็เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว!!!”
ใครพูดอะไรก็คิดกันเอาเองนะครับ ตอนนี้ผมกำลังพยายามหาทางหนีอยู่ ฮะๆ แต่ดีใจจังเลยครับ ดีใจที่ทุกวันมีเพื่อนดีๆแบบนี้อยู่ด้วยเสมอ ว่ากันว่าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วมิตรแท้จะหายากขึ้น แต่มันจะไม่เกิดขึ้นกับผมแน่นอน เพราะเพื่อนรักที่ดีที่สุดจะอยู่ด้วยกันกับผมตลอดเสมอ เป็นไงล่ะ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้แค่มองโลกในแง่ดีเท่านั้นนั้น แต่ผมน่ะโชคดีจริงๆนะ~
เมื่อเราพูดคุย อวยพร กันจนหนำใจ ก็ได้เวลาทำงานทำการซักที ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับก็แค่ซ้อมประจำวันนี่แหละ ถ้ามัวแต่มานั่งเปิดฮีตเตอร์ให้โลกร้อนอยู่เฉยๆมีหวังบาปหนักหัวแน่ (อันที่จริงจะโดนเฉดหัวจากบริษัทเสียก่อนแหละครับ)
พอเที่ยงพวกเราก็พากันลงไปหาอะไรกินกันที่โรงอาหาร ไม่นานพวกที่ไปโรงเรียนก็มาถึง โดดครึ่งวันครับเพราะมีงาน พอทุกคนเจอผมก็ทักทายในลักษณะคล้ายๆกับที่พวกเบสท์ทำ แต่ก็ไม่ถึงขั้นกระโดดเข้ามากอดหรอก ก็แน่สิ นี่มันโรงอาหารนะ กระโดดเข้ามาคนแตกตื่นกันหมดพอดี
เมื่อทักทายกันเสร็จเรียบร้อยผมก็เริ่มทำการเช็คบิลเป็นครั้งแรกในฐานะผู้ใหญ่ และคนแรกที่โดนคือ ยามาดะ หมอนี่โดนหนักหน่อยเพราะมันทำหน้าตากวนโอ๊ยชะมัด ต่อจากนั้นก็เรียงคิวเลยครับ แต่สุดท้ายทุกคนกลับหัวเราะออกมาซะงั้น เฮ้อ สรุปมีใครฟังผมบ้างไหมเนี่ย ฮะๆ
พอทำงานเสร็จเราก็มาตั้งหลักกันที่หน้าสถานนีรถไฟครับ แผนของเราก็คือจะไปบ้านใครซักคน? แล้วก็ซื้ออะไรไปกินกัน ตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นบ้านเคย์โตะเพราะเขาอยู่กับพ่อแค่สองคน แถมตอนนี้เคนซังก็ไม่อยู่อีก แต่ผลดันออกมาตรงกันข้าม เมื่อที่ๆต้องไปกลับเป็นบ้านของ…
“ทุกคน ไปบ้านชั้นกันนะ!” ยามาดะยกมือขึ้น เล่นเอาผมหันควับ! จะไม่หันได้ไง บ้านหมอนั่นน่ะสมาชิกเยอะจะตาย ไหนจะน้องหมาสองตัว หนูแกสบี้หนึ่งตัว เต่า กระตายอีก โอ้เยอะแยะครับที่สำคัญ ไกลที่สุดด้วย!
“โอ้!!!” แต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่คิดเหมือนผม ตอบรับกันแทบจะทันที ทั้งๆที่พวกตัวเองก็ช่วยผมถือกล่องของขวัญกันพะรุงพะรัง เอ๊ะ ผมชักเริ่มได้กลิ่นไม่ดีแล้วซิ…
พวกเราทั้งสิบมุ่งหน้าสู้บ้านยามาดะ ด้วยรถไฟอันอัดแน่น อันจริงก็ยังไม่แน่นหรอก ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานนี่นา พวกเราถึงสถานีหน้าบ้านยามาดะกันราวๆสามโมงครึ่งครับ
ผมซึ่งเริ่มหนักแล้วซิ อะไรนะ เป็นผู้ใหญ่แล้วทำไมบ่นเยอะจัง? ก็ผมเมื่อยนี่! ผมอยากรีบเดินไปถึงบ้านยามาดะเร็วๆซะเดี๋ยวนี้เลย! แต่มานี่ก็ดีเหมือนกันนะ ผมคิดถึงคูจังกับคุกกี้มากเลยล่ะ~
แต่ทั้งๆที่อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านอยู่แล้วแท้ๆ ยามาดะก็เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับข่าวอันหน้าตกใจ ว่าแต่ว่าไอ้อาการตกใจเว่อร์ๆของแต่ละคนเนี่ย มันดูน่าสงสัยอยู่นะ…
“อ๊ะ! ทุกคนแย่แล้ว แม่ออกไปตลาดอ่ะ ชั้นไม่มีกุญแจบ้านซะด้วยสิ” ยามาดะเก๊กหน้าเครียดแล้วมองหน้าทุกคน ถึงยามาดะจะเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ในสายตาของเพื่อนสนิทอย่างผม ผมว่ามันแม่งๆนะ
“โอ้ว ไม่น้า!!!” เอ้า ดูสิครับ คนบ้าอะไรจะอุทานแบบนั้น อุทานเป็นการ์ตูนตาหวานไปได้ ผมว่า ผมจะต้องโดนแผนอะไรเล่นงานเข้าให้แน่ๆเลย…
“เอาไงดีล่ะ ซักชั่วโมงได้มั้งเนี่ย” ยามาดะลูบคางหน้าเครียด ผมก็ไม่ได้พูดอะไรยืนรอดูว่ามันจะทำอะไรกัน ถึงอย่างนั้นผมก็แอบตื่นเต้นไปไม่ได้ ก็เวลาที่อยู่กับจัมพ์น่ะ มีแต่เรื่องสนุกๆนี่นา~ แต่ถ้าเวลาเจ้าพวกนี้เอาจริงขึ้นมาก็น่ากลัวเหมือนกันนะ (อันที่จริงผมเองก็เหมือนกันนั่นแหละ แต่ผมหมายถึงเรื่องแกล้งๆนะอย่าพึ่งคิดแง่ลบเกินไปสิ~)
“งั้นไปสวนสาธารณะแถวนี้ก่อนไหม” ริวทาโร่เสนอ
“เออจริงด้วย ไปสิ!” ทุกคนตอบกันอย่างพร้อมเพรียง ท่าทางแปลกๆของเมมเบอร์ทำเอาผมแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เฮ้อ นี่คงเป็นความรู้สึกของผู้ใหญ่ที่มองเด็กอยู่ล่ะมั้งเนี่ย…เอ๊ะ จู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวขึ้นมาอ้ะ!
“งั้นนำทางไปเล้ย!” เสียงฮิคารุดังขึ้นหน้าขบวน ชวนให้ผมที่กำลังคิดเพ้อเจ้อ เข้าข้างตัวเองอยู่ ต้องวนกลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วจะเดินตามทุกๆคนไป
พอถึงสวนสาธารณะ ทุกคนก็รีบหาที่เหมาะๆวางกล่องของขวัญและกระเป๋าเอาไว้ แล้วก็ดึงผมออกไปเล่นสนามเด็กเล่นด้วยกันทันที โหย อะไรกันอุตส่าห์ได้เป็นผู้ใหญ่แล้วนะเนี่ย แต่ผมเองตั้งแต่เดินผ่านสนามเด็กเล่นก็คิดเอาไว้แต่แรกเหมือนกันแหละ ว่า อยากเล่นจังเล้ย!!!
โชคดีที่วันนี้ไม่มีเด็กมาเล่นเลย พวกผมเลยไม่ต้องอายใคร (อันที่จริงถ้ากล้าเล่นกันขนาดนี้แล้ว ถึงมีคนก็คงไม่อายหรอก) ขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับทาคาคิ ขณะที่เรากำลังจะสไลด์ สไลด์เดอร์ลงมาจากปราสาทไปข้างล่างด้วยกัน ผมก็เห็น ฮิคารุ ยาบุ เคย์โตะ ยูโตะ และยามาดะ วิ่งถือกระป๋องน้ำกันเข้ามาทางผม
พอทั้งห้าคนเข้ามาใกล้มากขึ้น อิโนะจังกับจิเนนก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ที่ด้านข้างสไลด์เดอร์ ทั้งสองคนจับแขนผมเอาไว้คนละข้าง แล้วก็ฉุดผมให้สไลด์ลงไปทันทีโดยผมไม่ทันได้ตั้งตัว ส่วนทาคาคิที่นั่งข้างหลังผมก็ไม่นั่งว่าง ใช้เท้า?ถีบผมลงมาเป็นแรงส่ง
“ฮะ เฮ้ย!!!!!!!” ผมเผลอร้องดังลั่น ก็ตรงนี้น่ะค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกันถึงจะไม่มากมาย แต่จู่ๆก็โดนถีบกับโดนฉุดลงไปมันก็ตกใจไม่ใช่น้อยเลยนะ!
“เหวอออออออออออออออออ อั่ก! โอ๊ยเจ็บ!” ผมสไลด์ลงจากปราสาทเด็กเล่นด้วยความเร็วสุดขีด(เพราะลูกถีบของทาคาคิ) ทำให้ก้นกระแทกจ้ำบ๊ะ ลงกับบ่อทรายด้านล่างอย่างแรง ตึง! ทันทีที่ก้นผมสัมผัสผืนทรายด้วยความปวดร้าว ทั้งห้าคนเมื่อกี้ก็วิ่งมาถึงตัวผม ทุกคนสาดน้ำใส่ผมพร้อมกันทั้งห้าถัง!
ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“แว้ก!!!! เย็นๆๆๆๆ!!!!!! อะไรกันเนี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
น้ำเย็นจำนวนมากถูกสาดใส่หน้าผมจนหัวใจแทบหยุดเต้น ผมพยายามตั้งสติและปัดหน้าม้าที่เปียกน้ำออกไปให้พ้นทาง เพื่อเงยหน้าขึ้นมามองคนร้าย เจ้าห้าตัวนั่นโผล่หน้าออกมาจากหลังกระป๋องน้ำใบใหญ่
แฮ่ๆ~~~~!
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะไดจัง~!!!”
ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง!!!!!!
!!??
ทั้งห้าคนรวมกับคนที่เหลือเดินมาข้างหน้าผมและตะโกนแฮปปี้เบิร์ดเดย์พร้อมๆกัน โดยมีจิเนนจุดผลุปาร์ตี้อยู่ใกล้ๆผม
เส้นสายรุ้งหลากสีจากผลุหล่นลงมาเต็มหัว ผมช็อกและงง จนเผลออ้าปาก อิโนะจังกับริวทาโร่อาศัยทีเผลอปะแป้งที่หน้าของผมจนขาวจั๊วะ! ตอนนี้สภาพผมคงดูไม่จืดแหงๆ
“อะ อะไรเนี่ยพวกนาย!” ผมเริ่มได้สติ หันมองหน้าแต่ละคนสลับไปมาเร็วระวิง แต่ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน คือผมยังอึ้งอยู่ครับ
“อ้าวอะไรกัน นายไม่รู้จักวันสงกรานต์หรอไดจัง~” ฮิคารุที่เป็นคนนำทีมโผล่หน้ามาพูดกับผม
“เอ๋ วันสงกรานต์?” ออกเสียงยากจังมันคืออะไรครับ
“ก็ตั้งแต่เมื่อวันที่สิบสามจนถึงวันนี้น่ะเป็นเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ของเมืองไทยเขาน่ะสิ!” ยาบุเสริม
“เมืองไทยหรอ!!!”
“ใช่แล้ว~ ตอนเด็กๆที่ชั้นกับยาบุไปเที่ยวมาไง สามวันนี้เขาจะเล่นน้ำสงกรานต์กันล่ะ สาดน้ำกันทั้งเมืองเลย! แล้วก็ปะแป้งที่หน้าเป็นการอวยพรกันด้วย~~!!” ฮิคารุยิ้มภูมิใจกับการอธิบาย ตอนนี้ผมชักเริ่มจะเก็ทขึ้นแล้ว
“พวกนายก็เลยมาสาดน้ำสงกรานต์ใส่ชั้นเนี่ยนะ” ผมชี้หน้าตัวเอง
“ช่ายแล้ว!!!!” ทั้งหมดตอบพร้อมกัน ใบหน้ายิ้มแฉ่แป้นแล่นแลดูตลก
.
.
.
อุ๊บ!
“ฮ่าๆๆ!!! โอ๊ย อะไรของพวกนายเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆ ตกใจหมดเลยจู่ๆก็โดนสาดน้ำใส่ ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมหัวเราะไม่หยุด โอ๊ย ขำอ่ะครับ! ฮ่าๆๆๆ เล่นอะไรกันเนี่ย สงกรานต์งั้นเหรอ มีเทศกาลสนุกๆในช่วงวันเกิดผมด้วยหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ สนุกจัง!!!
“ฮ่าๆๆๆ เห็นไหมชั้นบอกแล้วไดจังต้องชอบ!” ฮิคารุเรียกคะแนน
“ไชโย! ถือเป็นการฉลองจากจัมพ์ให้ไดจังนะเนี่ย!!” ยามาดะเดินถือกระป๋องน้ำใบใหม่เข้ามาหา
“ใช่ๆๆๆโชคดีนะที่มีเทศกาลสนุกๆแบบนี้” ยูโตะเอ่ยชมด้วยใบหน้าตื่นเต้นดูท่าทางสนุกใหญ่
“จริงด้วย~ ขอบคุณนะทุกคน สนุกมากเลยล่ะ!!!!!” ผมยิ้มขอบคุณทุกคนทำให้ทุกคนยิ้มตามผมกันยกใหญ่ ดูท่าทางพวกเขาจะดีใจนะเนี่ยที่ผมชอบน่ะ~ ว่าแต่ มันหนาวนะ!!!!
แต่แล้ว…
“งั้น…เราก็มาสนุกกันต่อเล้ย!!!” ซ่า!!!!!!!! ยามาดะตะโกนเสียงดังแล้วสาดน้ำใส่พวกเราที่ยืนล้อมวงกันอยู่จนกระจายกันไปคนละทิศละทาง
“แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
แต่ผมซึ่งยังนั่งอยู่ขยับไปไหนไม่ทันเลยโดนเต็มๆไปเลยคนเดียวอีกครั้ง
แกร๊ง! เสียงกระป๋องของใครซักคนที่เผลอปล่อยหลุดมือตอนวิ่งหนีกลิ้งมาหาผม…
ผมดันตัวเองลุกขึ้นอย่างอาจหาญเหมือนนักรบกำลังจะไปออกศึก!
“เฮ้ย ยามาดะ! นายเล่นงี้เลยเรอะ หนอยยแน่!!!” ผมคว้ากระป๋องใบนั้นและวิ่งไปตักน้ำทันที!
“แบร่~!!! แน่จริงก็มาเลยเด้ะ!!!” ยามาดะแลบลิ้นใส่ผมอย่างท้าทาย แล้วก็วิ่งถือกระป๋องตัวเองไปตักน้ำเช่นกัน
“คอยดูก็แล้วกัน!” ผมรับคำท้า ชั้นไม่ยอมแพ้นายหรอกน่า!!!!!!!!!!!!!
ซ่า!!!!!!!!!!!
ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมกับยามาดะสู้กันอย่างเร้าร้อนราวกับสมรภูมิเดือน หลบได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็นั่นแหละ ยังไงผมก็ทำให้เขาเปียกแหมะไปทั้งตัวเหมือนผมได้แล้ว~!
คนอื่นๆยืนมองกันอยู่พักนึงก่อนจะเริ่มคว้ากระป๋องของตัวเองแล้ววิ่งไปตักน้ำ
“ชั้นเล่นด้วยเซ่!!!”
“เล่นกันสองคนขี้โกงนี่หว่า!!!”
“เฮ้ย! นี่แกสาดชั้นหรอ!!!”
“ไม่เอาๆ! แป้งมันฟุ้ง เย้ย!!!!”
ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
และแล้วสวนสาธารณะข้างบ้านยามาดะก็กลายเป็นสมรภูมิรบขนาดย่อมไปในทันที ทั่วทั้งสวนเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำ(เลือด)และซากอาวุธ(แป้ง)กระจัดกระจายจนดูไม่ได้…
พวกเราเล่นกันเพลินจนลืมเวลา ตะวันใกล้จะตกดินอยู่แล้ว~ คุณแม่ของยามาดะซึ่งรู้ว่าพวกนั้นวางแผนอะไรกันจึงเดินมาออกมาตามเมื่อเห็นพวกเราจะไปไม่ถึงบ้านซักที พอมาเห็นก็แทบจะลมจับเมื่อเห็นสภาพของพวกผมแต่ละคน จากนั้นไล่พวกผมเข้าบ้านไปอาบน้ำซะตะเลิดเปิดเปิงไปหมด~~!
ฮะๆๆๆๆ!!! ว่าสนุกจังเลย! ผมสนุกที่สุดเลย!!!!!!!!!
แต่ทว่า…
.
.
.
“ฮัดเช้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงจามของพวกเราทั้งสิบดังลั่นบ้านยามาดะแรงเหมือนกับมีอ๊าฟเตอร์ช็อค พวกเราเล่นกันตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงเกือบหกโมง แถมที่สำคัญ เรายังเล่นสาดน้ำกันในวันฤดูใบไม้ผลิอีก!!!!
ด้วยอุณภูมิปกติที่ ยี่สิบสององศา บวกกับท้องฟ้าที่มืดเร็ว อากาศลดต่ำลงจนเหลือเกือบสิบแปดองศา เล่นสาดน้ำกันอย่างบ้าคลั่งกลางแจ้งอย่างนั้น ไม่เป็นหวัดก็ให้มันรู้ไป!
“ฮัดเช้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
โอยยย ฟืดด ไม่ไหวแล้วครับ ผมจะเป็นปอดปวมตายไหมเนี่ย ทุกคนเองก็มีสภาพไม่ต่างไปกับผมเลยเหมือนกัน ห้องอาบน้ำก็มีแค่ห้องเดียวก็เลยต้องรอกันเป็นคิวๆไป โชคดีที่ทุกคนสำนึกผิด? เลยเสียสละให้ผมอาบก่อน
“แฮะๆ ไดจังนายอาบก่อนเลย พวกเราผิดเองที่ชวนนายเล่นน่ะ นายอาบเลยๆพวกเรารอได้ ฮัดเช้ย!!!!” น้ำปริศนากระจายเข้าเต็มหน้าผม ดีนะเนี่ย ผมปิดตาทัน
ผมพยักหน้าและเตรียมจะเข้าห้องน้ำ แต่พอดีดูเหมือนว่ายามาดะต้องไปแต่งหน้าเค้กที่เขาทำเอาไว้ให้ผมต่อ ผมเลยเสียสละให้เขาเข้าไปอาบก่อนโดยผมขอเดินเข้าไปล้างหน้านิดๆหน่อยๆก่อนจะกลับมานั่งรอ
ทีแรกเขาไม่ยอมท่าเดียว แต่สุดท้ายก็ยอมเข้าไปอาบน้ำ เขาอาบแป๊บเดียว และผมก็ได้อาบต่อ
“ฮัดเช้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ขณะที่ผมกำลังอาบน้ำ เสียงจามด้านนอกก็ดังลั่นสนั่นไม่หยุด สงสัยผมต้องรีบแล้วล่ะ ฮะๆๆๆๆ ว่าแต่สนุกจัง ไม่คิดเลยว่าพวกนั้นจะทำอะไรแบบนี้ ทีแรกก็ตกใจอยู่หรอก จู่ๆก็สาดน้ำเย็นเจี๊ยบใส่ ที่ไหนได้เป็นเทศกาลสงกรานต์ของไทยนี่เอง แต่ก็นั่นแหละ นี่มันหนาวนะเนี่ย!!!
เสียเวลาอาบน้ำกันไปซะนาน ในที่สุดเราก็ได้เริ่มปาร์ตี้กันซักที อาหารวันนี้อร่อยที่สุดเลย!!! สมแล้วที่เป็นบ้านยามาดะ อ๊ะ แต่เกี๊ยวซ่าฝีมือคุณแม่ผมเมื่อวานก็อร่อยสุดๆไปเลยเหมือนกันนะ~
แน่นอนมีของกินย่อมเกิดสงคราม แต่เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการสาดน้ำสงกรานต์กันมาอย่างแรงแล้ว ศึกคืนนี้เลยไม่รุนแรงเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดเผลอมัวเหม่อนิดเดียวล่ะก็ ไก่ทอดในมือคุณก็อาจจะหายไปได้…
.
.
.
ในที่สุดไคล์แม็กซ์ของงานก็มาถึง เค้กก้อนใหญ่ถูกยกเข้ามา ในห้องปิดไฟมืด เทียนยี่สิบเล่มถูกปักพร้อมจุดไฟสว่างไสวบนเค้กก้อนใหญ่เคลื่อนที่เข้ามา ผมแอบได้ยินใครร้องว่า โห ด้วยล่ะ
คุณแม่ยามาดะกระซิบว่า เค้กก้อนนี้ยามาดะเขาเป็นคนทำเองกับมือ ตั้งแต่ซื้อวัตถุดิบเลยทีเดียว ไม่แปลกที่ทุกคนก็พึ่งจะได้เห็นมันพร้อมกันกับผม
ยามาดะค่อยๆถือมาเค้กมาอย่างระมัดระวัง ผมเห็นยามาดะใช้เท้าเขี่ยๆคูกับกับคุกกี้ที่เดินเข้ามานัวเนียเขาด้วยล่ะ หน้าทำเครียดเชียว สงสัยจะกลัวทำตก ฮะๆ
แต่ในใจผมนั้นตื่นเต้นยิ่งกว่า…
เมื่อยามาดะวางเค้กก้อนใหญ่ลงบนโต๊ะ ทุกคนก็เดินเข้ามารุมก้อนเค้กทันที โดยมีครอบครัวยามาดะคนอื่นยืนล้อมอยู่วงนอก ทุกคนร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้ผม…
ตรงกลางมีข้อความที่เขียนโดยใช้เนื้อครีมสีแดงเด่น เป็นลายมือที่ผมคุ้นเคย…
‘Happy birthday オレたちの大ちゃん’ (สุขสันต์วันเกิดนะ ไดจังของพวกเรา)
น้ำตาผมแทบไหล จมูกเริ่มเป็นสีแดง ที่ผมรู้ก็เพราะผมรู้สึกร้อนๆอยู่ที่ใบหน้าทั้งๆที่อากาศเย็น ภายใต้แสงเทียนที่เรืองรอง ใบหน้าของเมมเบอร์ทุกคนมองมาทางผม ทุกคนพูดพร้อมกัน…
“อธิษฐานสิ…~”
ผมเม้มปากแล้วพยักหน้าและหลับตาอธิษฐาน…เมื่อทุกคนเห็นผมลืมตา ก็พูดขึ้นมาพร้อมกันดังๆอีกทีว่า
“เป่าเล้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เมื่อได้สัญญาณผม ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆก้อนเค้กและลงมือรวบรวมพลังปอดเอาไว้ให้ได้มากที่สุดแล้วก็เป่าเทียนทั้งยี่สิบเล่ม
ฟู่~!!!!!!!!!!
“เย้!!!!!!!!” เมื่อแสงเทียนทั้งหมดดับลง เสียงเฮและเสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมๆกับไฟในบ้านค่อยๆสว่าง
“ยินดีด้วยนะ~!”
“ยินดีด้วย~”
ทุกคนเข้ามากอดและแสดงความยินดีกับผมอีกครั้ง ครอบครัวยามาดะเองก็ให้ของขวัญวันเกิดผมด้วยเหมือนกัน ผมขอบคุณแล้วขอบคุณอีกก็ยังไม่หายตื้นตันกับสิ่งที่ทุกคนทำให้ผม
จิเนนเดินถือมีดมาให้ผมตัดแบ่ง ผมแจกเค้กทุกคนให้ในปริมาณเท่าๆกันจนครบ แต่เพราะเค้กที่ยามาดะทำไว้มันใหญ่เกินไป จึงเหลืออีกตั้งเกือบครึ่งก้อนที่ไม่มีเจ้าของ ยามาดะก็รีบหยิบถาดเค้กที่เหลือมาถือเอาไว้ทันที
“นี่ส่วนของชั้นกับไดจังนะ” คำพูดของเขาเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างดี ฮะๆๆ ก็มันเยอะนี่นา แต่ผมกับเขาน่ะกินหมดอยู่แล้ว เอาล่ะลุ้ย!!!
.
.
.
ฝีมือยามาดะเนี่ยอร่อยจริงๆ ทุกคนเอ่ยชมกันไม่ขาดปากจนยามาดะตัวลอยแล้วลอยอีกจนผมชักจะคว้าเขาไว้ไม่อยู่
ผมเอ่ยขอบคุณทุกคนอีกครั้ง หลังจากกินเสร็จทุกคนก็ค่อยๆยื่นของขวัญให้ผมทีละคนๆแล้วก็ช่วยกันเก็บล้างจาน เราตกลงกันว่าจะนอนกันที่นี่เพราะว่ามันดึกแล้ว
ขอบคุณมากนะทุกคน ทุกคนทำให้ปีที่ยี่สิบนี้เป็นปีที่มีความหมายมากมาย ผมไม่เคยสนุกจนน้ำตาไหลขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ขอบคุณนะทุกคน นี่น่ะก็ถือว่าฤกษ์ดีที่จะก้าวต่อไปในฐานะผู้ใหญ่ที่ดีด้วยใช่ไหมนะ~~
.
.
.
.
.
Happy birthday 私たちの有岡大貴~
(แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ อาริโอกะ ไดกิของพวกเรา)
End…
โซล : มาแฮปปี้เบิร์ดเดย์พี่ไดกิงตอนสายๆ? เร็วจังนะหนึ่งปีเนี่ย โซลแทบไม่คิดเลยว่าพี่บรรลุนิติภาวะแล้ว (กร๊ากกกกกกกกกกกกกก) พี่ไดกิงน่ารักจริงๆนะ โซลรักพี่ม๊ากมากกก ตอนนี้พี่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วขอให้พี่จงอย่าลืมความสุขในวัยเด็กที่ผ่านมาทั้งหมดไปนะ และขอให้พี่เดินหน้าต่อไปในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งได้อย่างแข็งแกร่งและเข้มแข็ง โซลเองก็ไม่มีอะไรจะพูดมากมาย แต่อยากขอให้พี่มีความสุข สนุก และปลอดภัย ทั้งพี่และรวมถึงคนที่พี่รัก และหวังอยากจะให้รอบตัวพี่มีแต่คนที่พี่รักและรักพี่ตลอดไป อย่างน้อยๆก็ขอให้ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องนี้ รักพี่ยิ่งขึ้นนะคะ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ขอแสดงความยินดีด้วยจากใจจริง ^^
ปล.ขอพูดถึงในเรื่องนิดๆ แต่งแล้วสนุกนะ เป็นเรื่องที่สดใสมากเลย >< หลายๆอย่างโซลก็นำนิสัยของพี่ไดกิงที่โซลได้รู้จักพี่เขามากขึ้นจากการอ่านและแปลนิตยสารต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์การเล่นสงกรานต์?แบบหนาวๆที่ญี่ปุ่น อิอิ ปีนี้เกิดอะไรหลายๆอย่างขึ้นกับญี่ปุ่นมากมายรวมถึงโซล อีกอย่างปีนี้โซลก็ไม่ได้เล่นน้ำด้วย(เกี่ยวหรอ) ก็เลยนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนได้ขึ้นมา หุหุ ยังไงก็เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องดีๆที่อยากจะแต่งขึ้นมาให้พี่ไดกิงและทุกๆคนได้อ่านกันนะจ๊ะ >3< เอ้อ เรียวจังกับพี่ไดกิงน่ะ ไม่ได้ดันนะ แต่มันเรียลลิตี้!
ความคิดเห็น