คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6 ไดจัง
วันนี้เป็นวันศุกร์ ผ่านมาแล้ว 4 วัน ตั้งแต่เขาได้พบกับยามะจัง จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถ ลบล้างข้อสงสัยในตัวยามะจังได้ ยามะจังเป็นใคร เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือ แล้วทำไม เขาถึงต้องสนใจขนาดนี้ด้วยนะ
ทั้งๆที่ตอนนี้เขาควรตามหาคนในฝันของเขาไม่ใช่เหรอ หรือว่าเขาแอบมีความหวังอยู่ในส่วนนึงของหัวใจนะ ว่าคนที่เขาตามหาอยู่ คือยามะจัง
หลังจากที่เขาคุยกับ ชี่และเคย์โตะไว้ว่าจะลองถามไดกิคุงเกี่ยวกับเรื่องยามะจังดู แต่พวกเขาก็ไม่มีโอกาสเสียที แต่วันนี้แหละ พวกเขาก็สามารถนัดไดกิคุงมาคุยได้ ตอนพักเที่ยง แต่ปัญหาก็คือ เราจะปิดบังยามะจังอย่างไรดี เพราะถ้ายามะจังรู้ว่าเราจะไปถามไดกิคุงเรื่องส่วนตัวเค้า นั่นคงไม่ดีแน่
‘ชี่ๆๆ’ ยูโตะสะกิดเพื่อนตัวเล็ก
ตอนนี้พวกเขากำลังเรียน คาบ 4 อยู่ซึ่งเป็นคาบสุดท้ายก่อนลงไปกินข้าว ขณะนี้พวกเขาอยู่ในห้องแล็บ และแน่นอนว่าทั้ง 4 อยู่กลุ่มเดียวกัน
‘ว่าไง’ ที่สองคนนี้คุยกันได้เพราะยืนคนล่ะฝั่งกับยามะจัง
‘ตกลงเอาไง ระหว่างที่เราแอบไปคุย แล้วยามะจังจะอยู่ที่ไหนล่ะ’
‘ไม่ต้องห่วงชั้นบอกพวก ยูกิโอะแล้วว่าให้ไปชวนยามะจังไปทำขนมเค้กด้วยกันน่ะ’
‘แล้วยามะจังจะไปหรอ’
‘ไปอยู่แล้ว จากที่ชั้นเห็นท่ากินเค้กของยามะจังวันนั้นน่ะนะ’ ยูโตะนึกถึงวันนั้นและเข้าใจทันที
‘อ่อ งั้นก็โอเค แล้วเรื่องไดกิคุงล่ะ’
‘ชั้นให้พี่ยูยะดึงตัวไปแล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก’ ชี่พูดจบก็หันไปเนียนคุยกับยามะจัง
“นี่ๆ ยามะจัง อันนี้ผสมอะไรหรอถึงจะได้เป็นสีนี้น่ะ” ชี่พูดอย่างร่าเริง ยูโตะทึ่งในความสามารถของเพื่อนคนนี้จริงๆ
“อ๋อ ก็งี้นะ
” ยามะจังก็ดูท่าจะไม่ได้สงสัยอะไรก็ลงมือสาธิตวิธีการทำให้ชี่อย่างขะมักเขม้น ขณะที่ยูโตะหันไปสังเกตเห็นเคย์โตะที่เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
‘ทุกอย่างโอเคมั๊ย’ เคย์โตะคุยกับยูโตะด้วยโทรจิต (มีงี้ด้วย)
‘ทุกอย่างเรียบร้อย’
พักเที่ยง
“ยามะคุง ไปทำขนมเค้กกันมั๊ย” เพื่อนชาย ท่าทางดูเรียบร้อยคนหนึ่งคาดว่าชื่อ ยูกิโอะ วิ่งมาหายามะจัง แน่นอนว่าเขาลุกขึ้นในทันที
“ไป!!!” ยามะจังตอบเพื่อน สองมือเก็บข้าวกล่องลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ แล้วพวกนายไปด้วยกันมั๊ย” ไม่วายหันมาหาเพื่อนรักทั้ง 3
“อ๋อ ไม่ล่ะ พวกเราว่าจะไปเดินย่อยกันซักหน่อยน่ะ” เคย์โตะตอบยามะจัง
“อื้อ ยามะจังไปเหอะ”ชี่ส่งยิ้มให้
“แล้วเจอกันนะยามะจัง” ตบท้ายด้วยยูโตะ
“อื้อ งั้นไปนะ ยูกิโอะคุงไปกันเหอะ” ยามะจังวิ่งตาม ยูกิโอะออกไป
ตึก ตึก ตึก
ไปแล้ว!!!
ทั้งสามลุกขึ้นยืนแทบจะพร้อมกัน
หลังโรงเรียน
“ยูริจัง ทางนี้ๆ” พี่ยูยะโบกมือเรียกมาทางโต๊ะหินอ่อนโต๊ะหนึ่ง โดยมีพี่ยูยะกับไดกิคุงนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
ทั้งสาม เดินมานั่งล้อมวงกัน
“ว่าไง พวกนายมีอะไรจะถามชั้นหรอ” ไดกิคุงถามอย่างอารมณ์ดี ทั้งสามเริ่มลังเลที่จะพูด แต่อุตส่าห์นัดมาแล้วก็ต้องถาม
“เอ่อ คือ ไดกิคุง คือ
ยามะจังเขาย้ายมาโตเกียวทำไมหรอ” ยูโตะถามด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย คำถามนี้ทำให้รุ่นพี่แก้มป่อง ตกใจเล็กน้อยกับคำถาม จากนั้นก็ค่อยๆยิ้มออกมา
“นายจะอยากรู้ไปทำไมหรอ” ไดกิยิ้มและถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พร้อมกับยกมือขึ้นมาประสานกัน
“เอ่อ ก็คือ” ยูโตะอึกอัก ชี่เลยพูดขึ้นแทน
“คือตอนแรกพวกเราคิดว่า ยามะจังย้ายตามพ่อแม่มาน่ะ แต่ก็ไม่ใช่ พวกผมเลยอยากรู้ว่าเกิดปัญหาอะไรรึเปล่าน่ะ ฮะ ก็เท่านั้นเอง” ชี่พูดจบพร้อมส่งยิ้มแห้งๆไปให้รุ่นพี่
ไดกิเงียบ ไม่ยอมตอบคำถาม โดยที่สายตาหลุบต่ำจ้องมือของตนที่ประสานวางไว้บนโต๊ะ ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“คือ พวกเราคิดว่า ถ้ามีอะไรที่พวกเราช่วยได้น่ะ
คือ พวกเราต้องอยู่กันอีกนานก็เลย อยากจะรู้ถึงปัญหาของเพื่อน” เคย์โตะพูดรัว
ไดกิยังคงเงียบ พี่ยูยะก็หันมามองหน้าเพื่อนสนิทอย่างกังวล เพราะเขาไม่เคยเห็นเพื่อนเขาเป็นอย่างนี้มาก่อนตั้งแต่คบกันมา
บรรยากาศน่าอึดอัด ซักพักหนึ่ง
“ฮะ ฮะ ฮ่าๆ” อยู่ๆไดกิก็หัวเราะขึ้นมา
ทำเอาทั้ง 4 ทำหน้างง
“อะ อะไรหรอไดจัง” พี่ยูยะถามขึ้น ด้วยสีหน้าเกรงๆ ไดกิตอบเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนด้วยยิ้มตามแบบฉบับของเขา และเอามือไปหยิกแก้มเพื่อนรัก
“แหมๆ ยูยัง อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ”
“อำ อะ ไอ อ้ะ ไออัง (ทำอะไรอ้ะไดจัง)”
ไดกิคุงหยิกแก้มพี่ยูยะจนหนำใจแล้วก็หันหน้ามาทาง รุ่นน้องทั้งสามที่ยังคง นั่ง งงอยู่
“ขอบใจมากนะ ที่เป็นห่วงยามะจังน่ะ เค้าไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก เพียงแต่ว่า เค้าต้องมาน่ะ” ไดกิตอบด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร เหมือนทุกๆครั้งที่พบกัน
“นั่นแหละครับ! ทำไมต้องมา พวกผมก็ถาม เค้าก็ตอบมาแบบนี้เหมือนกันทำไมล่ะ ครับทำไมต้องมา” ยูโตะพูดรัว เหมือนกันความอยากรู้มันดุนดันเขาอยู่
ไดกิยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี พลางหันไปชมนกชมไม้รอบๆข้าง เหมือนพยายามจะบอกรุ่นน้องว่า ใจเย็นๆ
“ช่วยบอกพวกเราด้วยเถอะครับ” เคย์โตะพูดเสียงจริงจังอย่างหน้าประหลาด ที่เขาจริงจังก็เพราะ เขามีลางสังหรณ์แปลกๆในคำตอบของไดกิและยามะจัง ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับเพื่อนเขา
“ไดกิคุง” ชี่เรียกให้เขาหันมาสนใจ
ไดกิค่อยๆ หันหน้ามาทางพวกเขา ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ชั้นไม่ได้โกหกนะ ไม่ได้ปิดบังด้วย แต่เพราะยามะจังต้องมา เขาก็เลยมาน่ะ” ไดกิยิ้มและหันมาทางยูโตะ
“
เค้ามาหาน่ะ” ประโยคนี้ทำให้ยูโตะ ชี่และเคย์โตะ ตาโต
“เอ๊ะ!” ทั้งสามพูดพร้อมกัน
“หา หาอะไรครับ!” ยูโตะจับมือไดกิพร้อมเขย่าแรงๆ ราวกับจะเค้นคำตอบออกมาให้ได้ คำตอบที่เค้าหวังจะได้ยิน
ไดกิยกมืออีกข้างของตัวเองมาลูบเบาๆบนมือของยูโตะ ราวกับกำลังปลอบประโลม
“ชั้นรู้แค่นี้แหละ ชั้นไม่รู้อะไรมากไปกว่านี้แล้ว” พร้อมส่งยิ้มให้อีกครั้งหนึ่ง
“ไปเหอะ ยูยะ” ไดกิปล่อยมือยูโตะแล้วหันไปลากเพื่อนรักกลับห้อง
ยูโตะยังคงค้างอยู่ในลักษณะเดิม ในหัวมีแต่เสียงของไดกิก้องอยู่ในหู ‘เค้ามาหาน่ะ’ คำคำนี้ คืออะไร มาหา? มาหาอะไรล่ะ
“ยามะจังมาหาอะไรงั้นหรอ” ชี่ทำท่าคิด โดยที่ยูโตะค่อยๆกลับมานั่งในท่าปกติ
“นี่ ชี่ ชั้นรู้สึกมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่างเกี่ยวกับพี่น้องคู่นี้น่ะ” เคย์โตะพูดขึ้น
“นายหมายความว่ายังไง”
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมือนสองคนนี้ ไม่สิ เหมือนไดกิคุงจะรู้อะไรบางอย่างน่ะ อะไรบางอย่างที่ยามะจังให้ความสำคัญมากๆ หรือก็คงจะเป็นเหตุผลที่ต้องมาไงล่ะ และก็รู้ด้วยว่า มาหาอะไร”
“อืม ที่จริงชั้นก็คิดเหมือนกันนะ ชั้นคิดว่าไดกิคุงต้องรู้อะไรมากกว่านี้แน่ แต่เขาไม่บอกเรา”
“นั่นสินะ แต่ยังไง เหตุผลแค่นี้ก็ตัดสินไม่ได้หรอก ว่ายามะจังอาจจะเป็นคนๆนั้นน่ะ” ยูโตะพูดเสียงตัดพ้อ ใช่ ถึงแม้ไดกิคุงจะบอกว่า ยามะจังมาหาอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่คิดว่า ยามะจังจะมาหาคนรักตามพรหมลิขิตหรอก อาจจะแค่มาหาเพื่อนหรือมาหาของก็เป็นได้
“จริงอย่างที่ยูโตะว่า แค่นี้เราไม่อาจตัดสินอะไรได้หรอก” ชี่พูด
“เฮ้อ
อะไรกันนะเนี่ย”เคย์โตะ พูดออกมาอย่างเซ็งๆ
“แต่ชั้นคิดว่า ยามะจังต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคนรักตามพรหมลิขิตของยูโตะแน่ๆ” ชี่พูดขึ้น
“เอ๊ะ” เพื่อนทั้งสองหันหน้าไปทางเขา
“ชั้นลองคิดๆดูนะ ตอนที่นายเล่าให้ฟังว่า นายกำลังถูกพรหมลิตทดสอบอยู่น่ะ บางทีบททดสอบอาจจะเป็นเรื่องนี้ก็ได้ หรือหมายถึงยามะจังอาจเป็นคนถือกุญแจในเรื่องนี้อยู่ ลองคิดดูนะ ถึงยามะจังจะมีปัญหาจริงๆเขาก็น่าจะบอกเราสิ เพราะเราเป็นเพื่อนใหม่ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็คงจะสามารถเล่าปัญหาให้ฟังได้ มนุษย์น่ะ มักเล่าปัญหาที่ร้ายแรง หรือ ความลับของตัวเองให้คนนอกฟัง แทนที่จะเล่าให้คนในหรือคนรู้จักฟังน่ะ รู้รึเปล่า เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่เขาจะปิดบังเรา แต่ที่จริงมันก็เป็นไปได้ ที่จะไม่อยากบอกจริงๆ อีกอย่างถ้าเขาตั้งใจจะปิดบังจริงๆ ทำไมถึงต้องตอบคำถามคลุมเครือด้วยล่ะ แทนที่จะปฏิเสธไปเลยตรงๆ ราวกับว่า พยามจะให้เราเข้าใจถึงอะไรบางอย่างยังงั้นแหละ”
คำวิเคราะห์ของชี่มีเหตุผลทีเดียว เหมือนจะอยากบอกอะไรให้เรารู้ แต่ก็ไม่อยากหรือไม่อาจพูดออกมาตรงๆได้
“ชั้นเข้าใจแล้ว นายหมายถึงว่า ถ้าเราสามารถเข้าใจในสิ่งที่ยามะจังกับไดกิคุง จะบอกได้ เราก็อาจได้รู้อะไรๆเกี่ยวกับคนๆนั้นใช่รึเปล่า” เคย์โตะตั้งแง่ขึ้นมา
“ใช่ อย่างน้อยๆนี่ก็เป็นเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ เว้นแต่ มันจะเป็นแค่ลักษณะการปฏิเสธเฉพาะตัวของครอบครัวนี้” (หมายถึง วิธีการปฏิเสธคนอื่น ในกรณีที่เราไม่อยากบอกหรืออยากทำ)
“ชั้นว่ามันก็สมเหตุสมผลอยู่นะ อีกอย่างมันก็จะสามารถอธิบายได้ถึงความผูกพันของยูโตะกับยามะจังได้ยังไงล่ะ ก็คือเพราะยามะจังเป็นคนถือกุญแจเกี่ยวกับคนๆนั้นอยู่ ก็เลยทำให้ผูกพัน” ชี่หันหน้าไปขอความเห็นของเพื่อนทั้งสอง
“ถูกของชี่ ชั้นว่าสิ่งที่ชี่คิดน่าจะเป็นไปได้” ยูโตะตอบขึ้นมา
“งั้นเค้ามาหาอะไรนะ ถึงขนาดต้องย้ายมาคนเดียวแบบนี้” เคย์โตะพูดทิ้งท้ายก่อนที่ทั้งสามจะเดินกลับห้องเรียน
.
.
.
.
.
ยามะจังนายมาหาอะไร มาหาใครกันแน่นะ นายคงไม่ได้
มาตามหาคนรักในพรหมลิขิตใช่หรือเปล่า
To be con
ตอนนี้มันออกแนว ซีรีย์สืบสวนนะเนี่ย เหอะๆ สารภาพตามตรงไรเตอร์บ้านิยายสืบสวนค่ะ - -(อาการโคม่าด้วย) เพราะงั้นถ้ามีอะไรแนวๆนี้หลุดมาบ้างก็อย่าว่ากันเลยนะ อิอิ
วันนี้วันเกิดไรเตอร์ค่าา T^T (ซึ้ง เพื่อ?!) ไรเตอร์จึงอยากจะเลี้ยงวันเกิดโดยการอัพฟิคค่ะ ฮ่าๆ (แม้จะไม่ค่อยมีคนอยากอ่าน - -) เพราะงั้นมาสนุก?กับ ปาร์ตี้ฉลองวันเกิดของไรเตอร์กันดีกว่า ฮ่าๆๆ
แล้วตอนเย็นๆจะมีของหวานเป็นโอคาริวมาเสิร์ฟ ฮ่าๆๆๆ
รักรีดเดอร์ทุกคนค่า
ความคิดเห็น