คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 ปีศาจจิ๋ว VS อันธพาลถังขยะ
(Ryosuke)
ไอ้หน้ายาวนี่ ใครอะ=[]= เหมือนเคยเห็นที่ไหนเลยแฮะ
ผมมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย..
“หือ นายเป็นใครอ่ะ เพื่อนเคย์โตะหรอ - -“
แต่ดูเหมือนคำถามของผมจะทำให้ชายตรงหน้าทำสีหน้าแปลกไป
อะไร?..
ผมไปรู้จักมันตอนไหน??
“ฉัน นากาจิม่า ยูโตะ..”
“...”
“เราเจอกันเมื่อคืนที่ห้องน้ำรวมไง..”
ผมค่อยๆนึกเหตุการณ์ทีละอย่าง..ทีละอย่าง..
“อ๋อ! ไอ้ขี้แตก เอ้ย! คนที่มาเข้าห้องน้ำเมื่อคืนนี้!?”
“นายจำฉันได้แล้วหรอO.o??”
“อืม..”ผมตอบรับส่งๆ
ความจริงแล้วก็ใช่ว่าผมจะจำได้หรอกนะ ฮ่าๆ ผมจำแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาเป็นยังไง ก็แค่จำได้ลางๆว่าไอ้หน้ายาวคนนี้มันจ้องผมจนแทบจะกินไปทั้งตัว..
ผมไม่อยากจะต่อบทสนนทนากับกับคนตรงหน้าสักเท่าไหร่จึงเอ่ยปากชวนเคย์โตะไปหาซื้อข้าวกินเพื่อหาโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงอย่างแนบเนียน
หลังจากที่หลุดออกมาจากชายแปลกหน้าคนนั้นที่ผมลืมชื่อไปแล้วได้ เคย์โตะก็แนะนำร้านสเต๊กร้านนึงในโรงเรียนที่พึ่งเปิดใหม่ในเทอมนี้ ดูจากเมนูอาหาร จำนวนปริมาณของมันกับราคาแล้ว ไม่แพงจนเกินไป
“เก้าร้อยห้าสิบเยนจ้ะ^^”คุณป้ายิ้มร่าจนเห็นตีนกาแตกแขนงเป็นดินแห้ง ผมยิ้มรับจานสเต๊กมาถือในอ้อมแขน จ่ายเงินจำนวนพอดีหันขวับหาที่นั่งรอเคย์โตะที่กำลังเดินไปซื้อน้ำดื่มอยู่ฝั่งตรงข้ามของฝั่งขายร้านอาหาร
ผมกระชับถาดอาหารในมือเล็งโต๊ะตัวสุดท้ายของทางเดินช่องที่2
ผลั่ก!
ผู้ชายตัวเล็กสูงเพียงปลายจมูกผมวิ่งชนหัวไหล่ผมเสียเต็มแรง จานสเต๊กลอยหวือหล่นร่วงแผละแตกกระจายอยู่บนพื้น ผมหันขวับมองไปที่ตัวต้นเหตุที่ไม่แม้แต่จะหันมาขอโทษให้ ผมรู้สึกว่าไอ้สิ่งที่ทำมันน่าให้อภัยแม้แต่สักนิด
ผมกระแทกถาดลงกลางโต๊ะที่มีผู้ชายหัวทองทั้งโต๊ะนั่งอยู่แถวนั้น อ้าปากเตรียมตัวจะพ่นไฟเต็มที่
แต่ทว่าสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าคือ..
ผู้ชายร่างเล็กคนนั้นคว้าชามก๋วยเตี๋ยวจากเด็กนักเรียนผอมกระหร่องคนนึงมาราดใส่ ผู้ชายหัวทองคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าว จากที่สังเกตุการณ์ดูโดยรวมแล้ว น้ำก๋วยเตี๋ยวนั่นต้องร้อนมากจนอาจจะทำให้ผิวหนังลอกเลยก็ว่าได้..
“โอ้ย! ร้อน! อะไรกันวะเนี่ย!!”ผู้ชายหัวทองกระโดดจากโต๊ะกินข้าว ร้องโอดครวญปัดน้ำและเศษเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เต็มกบาลออกอย่างปวดแสบปวดร้อน
เคร้ง~!
ชายร่างเล็กเขวี้ยงชามก๋วยเตี๋ยวพลาสติกลงกับพื้นจนแตกเป็นสองซีกด้วยเรี่ยวแรงช้างสารที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อหันไปมองว่ามันคือแรงของผู้ชายตัวเล็กเท่าติ่งเต่า
“เว้ย! นี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ!?”ผู้ชายหัวทองผลักไหล่ชายร่างเล็กอย่างโกรธจัด
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วปานหนึ่งชั่วอายุมดในกระทะทองแดง บรรยากาศเงียบเชียบจนเหมือนทุกคนถูกกดpauseเอาไว้
“แล้วไงวะ!! ทำไม แกจะทำอะไรชั้นได้! แกมันก็พวกสวะ!! มันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่แกทำกับพี่ชายชั้น!! แค่นี้มันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำนะโว้ย!!”เสียงแหลมปรี๊ดแว้ดขึ้นเสียงสูงเสียงดังสนั่นแก้วหูชั้นกลาง
“ห่าเอ้ย! ไอ้เตี้ย!!”
ผัวะ!
ผู้ชายหัวทองเตะผู้ชายตัวอ้วนฉุเป็นแมวน้ำขึ้นอืดที่เดินผ่านมาอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กลิ้งหลุนๆไปชนซุ้มเครื่องปรุงแตกกระจุย
ผู้ชายหัวตั้งเกือบสิบคนวิ่งแห่เข้ามารั้งร่างชายหัวทองเอาไว้ไม่ให้ตรงเข้าไปต่อยหน้าชายร่างเล็กที่ยืดอกยักคิ้วอย่างกวนส้นตีนสุดๆ
ดูจากรูปการณ์แล้ว ไอ้หัวทองนี่ต้องเป็นหัวโจกของโรงเรียนแหงๆเพราะหน้าตาเพื่อนมันแต่ละคนดูเหมือนผ่านสมรภูมิสงครามเวียดนามยังไงยังงั้น หน้าตาเถื่อนสถุลที่สุด หูเหอนี่เจาะพรุนซะจนแทบจะไม่ให้ผิวหนังได้หายใจเลยด้วยซ้ำ
“เข้ามาเด่ะ! ทุ้ย!”ชายร่างเล็กถุยน้ำลายใส่ชายหัวทองที่โกรธจนแก้มสั่น ก่อนจะสะบัดตูดเดินมาทางผม
“...”มองหน้าผมแว้บนึงด้วยสายตาที่ติดกวนส้นตีนจนผมเห็นแล้วรู้สึกเหมือนเส้นประสาทถูกสะกิด
“เมื่อกี้นายเดินชนฉัน..”ผมเกริ่นพูดขึ้น ชายร่างเล็กยักคิ้วและหันหน้ามามองหน้าผมตรงๆ
“แล้ว?”
“นายควรจะขอโทษตามมารยาทที่มนุษย์ควรมีใช่มั้ย?^^”
“เผอิญว่าชั้นเป็นคนว่ะ ไม่ใช่มนุษย์”ริมฝีปากอมชมพูหยักได้รูปยิ้มมุมปากเย้ยหยันอย่างกวนประสาท
“งั้นหรอ?^-^”ผมยิ้มกลับอย่างไม่ยี่หระกับคำพูดที่ชวนเส้นประสาทขาดนั้นแม้แต่สักนิด
“เฮอะ..นายนี่มันทำหน้ากวนตีนได้เก่งจริงๆเลยนะ”
“แล้ว? ^^?”ผมยกมือขึ้นกอดอก
“....”
ผมจ้องตาไอ้กวนตีนนี่กลับอย่างไม่ยอมแพ้ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเชียบที่ดำเนินยาวนานเท่าชั่วอายุเต่า..
“เรียวสุเกะ..ใจเย็นก่อน”เคย์โตะที่พึ่งจะเรียกความกล้าขึ้นมาได้เข้ามาห้ามผมเอาไว้..
ผมเดาะลิ้นกรอกลูกตามองไปมารอบๆ
“ก็นะ..ฉันไม่สนใจพวกเศษมนุษย์แบบนี้หรอก ไปกันเถอะ^^”ผมจูงมือเคย์โตะย้อนกลับมาที่ร้านสเต๊กร้านเดิมอีกครั้งโดยที่ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรตามมาแม้แต่สักนิด..
“เรียวสุเกะ..นายรู้มั้ยว่านายไปมีเรื่องกับใครหา!”เคย์โตะเปิดประเด็นพูดขึ้นหลังจากที่เราสองคนหาที่นั่งได้แล้ว
“แล้วมันเป็นใครล่ะ?”ผมหยิบมีดพลาสติกขึ้นมาหั่นสเต๊กเนื้อในจาน
“จิเนน ยูริ! คนคนนี้ไม่สมควรไปยุ่งจะดีที่สุดนะ!”
“ชื่อยูริงั้นหรอ? ชื่อน่ารักๆแบบนั้นไม่เหมาะกับสันดานต่ำๆแบบนั้นสักนิด”ผมหยิบขวดซอสมะเขือเทศเทลงบนถ้วยพลาสติก
“ก็ใช่ที่ว่าเค้าเป็นคนนิสัยไม่ค่อยดี.. แต่ว่านายไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยนะ เพราะคนคนนี้น่ะมีฉายาในโรงเรียนว่า ‘ปีศาจจิ๋ว’ เลยนะ..”
“แล้วไง?”ผมจิ้มเฟรนด์ไฟร์ลงในซอสเคี้ยวกร้วมๆอย่างเอร็ดอร่อย
“โธ่เอ้ย! นายก็จะโดนตามจอมล้างจอมผลาญน่ะสิ เจ้านั่นน่ะแสบสุดๆไปเลยนะ นายก็เห็นตอนที่ยูยะหัวหน้าแก๊งค์อันธพาลโดนไม่ใช่หรอ นั่นน่ะคู่อริของยูริเลยนะ จริงๆแล้วยูริก็มีแต่ศัตรูเต็มโรงเรียนไปหมด พึ่งย้ายกลับมาที่โรงเรียนนี้ก็เพราะไปทำให้ผู้ชายคนนึงเข้าห้องi.c.uน่ะสิ...”
“แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหน??”ผมเริ่มหั่นสเต๊กชิ้นแรกด้วยมีดพลาสติก
“ฉันก็เป็นห่วงนายน่ะสิ..”
“ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกน่า..”ผมใช้ส้อมจิ้มสเต๊กเข้าปาก
“จริงๆแล้วยูริน่ะ ไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนนี้มาก่อนหรอกนะ แต่ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเปิดเทอมมีข่าวลือออกมาว่า ยูริจะย้ายมาเรียนที่โรงเรียน ฉันไม่คิดว่าจะเป็นจริง ดูเหมือนทุกๆคนก็พึ่งจะรู้ว่ายูริย้ายมาโรงเรียนก็วันนี้เองแหละ..”
“นายรู้เรื่องหมอนั่นละเอียดจังเลยนะเคย์โตะ ชอบมันหรือไง?”
“เปล่าๆๆ ไม่ใช่อย่างนั้นนะๆ! ใครๆในโรงเรียนเค้าก็รู้ๆกันทั้งนั้นแหละ แล้วฉันก็มีคนชอบอยู่แล้วด้วย อ๊ะ!”จู่ๆเคย์โตะก็หยุดพูดไปเสียดื้อๆ
“อะไร?”
“เปล่าๆ เมื่อกี้นี้นายไม่ได้ยินอะไรใช่ไหม?”
“ก็ได้ยินหมด”
“แล้วนายไม่สงสัย..”
“ขอนั่งด้วยคนนะ!”เสียงใครบางคนดังขึ้น พร้อมกับร่างผอมสูงนั่งลงข้างๆผม
“ใครเนี่ย?”
“ก็คนที่เจอกันตอนเช้าไง นากาจิม่า ยูโตะไง!!”
“พูดเบาๆก็ได้ ทำไมต้องตะโกนด้วยบ้านอยู่ตลาดค้าปลาหรือไง หูจะแตก”
“อะไรหรอ?O.O”ชายหน้ายาวตรงหน้าทำตาโตเป็นไข่หนุมานใส่ผม พอเห็นหน้าใกล้แล้วก็พึ่งนึกออก เพราะหน้ายาวๆแบบนี้มันมีอยู่คนเดียว สรุปไอ้หมอนี่มันชื่อยูโตะสินะ..
ให้ตายสิ..ทำไมผมถึงรู้สึกรำคาญไอ้หมอนี่ยังไงไม่รู้...
ดูเกะกะลูกตาชะมัด=__=;
(Yuya)
ผมมองแผ่นหลังร่างเล็กที่หน้าตาขัดกับนิสัยแบบสุดขั้วอย่างโมโหจนตัวสั่น
ไม่ยอมหรอกโว้ยย!!
“เฮ้ย! ไอ้เตี้ย!”
“ห๊ะ!? ว่าไงนะ!?”ร่างตรงหน้าทำเป็นแคะหูก่อนจะหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าท่าทางที่กวนตีนเป็นที่สุด
“วันนี้อย่าหวังเลยว่าจะรอดไปง่ายๆน่ะ!”ผมวิ่งตรงดิ่งเข้าไปหายูริอย่างโกรธจัด
“เฮอะ~ โทษทีนะ พอดีว่าตอนนี้ชั้นไม่มีว่างพอน่ะ^^”
ผมอุ้มร่างยูริขึ้นพาดบ่าอย่างโกรธจัด ร่างเล็กร้องโวยวายทุบหลังจนผมจุกถึงตับอ่อน ผมวางกระแทกร่างยูริลงบนโต๊ะกินข้าวที่อาจารย์ต่างชาติกำลังนั่งกันอยู่..
และก็เป็นดั่งที่ผมคาดเอาไว้ไม่มีผิด กลุ่มอาจารย์แตกฮือออกเป็นวงกว้างเหมือนผึ้งถูกทะลายรัง
เพล้ง!
ผมใช้เท้ากวาดจานข้าวที่วางเกะกะอยู่เต็มโต๊ะลงกับพื้น ก่อนจะผลักร่างเล็กนอนราบกับโต๊ะอาหาร ท่ามกลางเสียงฮือฮาที่ดังก้องไปทั่วทั้งโรงอาหาร
หึ..ใครล่ะที่จะกล้าเข้ามาห้ามผม...
ลูกน้องของผมวิ่งตรงมาทางผม แต่ผมยกมือขึ้นไม่ให้มันเข้ามาใกล้..
ผมจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสีดำสนิทของยูริ..ที่เป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าทำกับผมอย่างเจ็บแสบเป็นที่สุด
นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกของผมที่โดนแบบนี้หรอก..
ความแค้นที่มีสะสมมีมาตั้งแต่วันที่ยูริประกาศตอนที่ผมอยู่โรงเรียนเก่าว่าจะตามไปก่อกวนผมจนถึงที่สุด เพียงแค่ผมไปชกหน้าพี่ชายของไอ้หมอนี่แค่นั้น
ดวงตาเรียวสวยล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนาจ้องมองผมกลับอย่างไม่ลดละสายตา แววตาที่แข็งกร้าวและใบหน้าที่เย่อหยิ่งนั้นมันทำให้ผมหมั่นไส้ขึ้นนับสิบเท่าทุกครั้งที่มองใบหน้านี้
ผมกระชากเนคไทค์ของยูริขึ้นสูง ดึงรั้งใบหน้าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากอมชมพูนั้นอย่างรุนแรง
ยูริดิ้นอยู่ใต้ร่างผม ขาเล็กๆเตะเข้าที่สีข้างของผมจนเจ็บแปลบเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต ผมยันตัวขึ้นยืนประกาศกร้าวเสียงดังว่า
“ยูริ เมื่อคืนนี้นายมันสุดยอดจริงๆว่ะ!”
“ไอ้เลว!”ยูริผลักอกผมอย่างโกรธจัด ผมไม่เคยเห็นสีหน้าที่โกรธสุดๆแบบนี้ของยูริมาก่อน
ผัวะ!
หมัดเล็กๆแต่แรงมหาศาลกระแทกเข้าที่แก้มข้างซ้ายของผมจนเลือดไหลกลบปาก
“ฮึ~~ ถ้าชั้นเลว นายมันก็เลวไม่แพ้ชั้นล่ะวะ เมื่อคืนนี้มายั่วชั้นถึงห้องนอนเลยไม่ใช่หรือไง?”
“หุบปากสั่วๆของแกเดี๋ยวนี้นะ!! ถ้าชั้นมีอะไรกับแก ชั้นยอมกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่าอีก!! เฮอะ... คิดได้แค่นี้เองสินะ ก็อย่างว่าแหละ คนเรามันมีรอยหยักบนสมองแค่นี้ มันก็คิดได้เท่านี้ล่ะนะ”ร่างเล็กหัวเราะฮึๆในลำคอ ท่าทีที่โกรธจัดเมื่อครู่เริ่มสงบลง
“นาย…กล้าพูดกับชั้นถึงขนาดนี้เลยหรอ” ผมเบิกตาอึ้ง ผมไม่เคยโดนใครด่าแล้วรู้สึกตัวเองโดนกดต่ำจนหัวติดพื้นแบบนี้ ผมพูดเสียงเย็นไปให้ยูริ กัดฟันดังครืดคราด กลิ่นคาวเลือดฟุ้งเฟ้ออยู่ในปาก
“ก็ใช่…แล้วทำไมล่ะ” ยูริตอบกลับมาด้วยสายตายียวน คิ้วเรียวบางยกขึ้นอย่างท้าทาย
ผึง!
“แก…” ผมพูดเสียงสั่นเล็ดรอดไรฟันออกมา ท่าทางและน้ำเสียงเมื่อกี้ ทำให้ความอดทนของผมขาดผึง!!!
แต่ในขณะที่ผมกำลังจะหน้ามืดตามัว พุ่งตัวสุดแรงที่ชาตินี้คิดว่าเกิดมาจะมีได้ เข้าใส่ยูริ…เสียงเย็นเยือกก็ดังขึ้นมาเหมือนจะก้องอยู่ในโสตประสาทผม จนทำให้ผมตกใจจนเผลอหยุดกึก
“ถึงนายจะคิดว่าบนโลกนี้จะไม่มีใครที่จะสู้นายได้ แต่จงจำไว้ว่า จิเนน ยูริคนนี้นี่แหละ จะมายืนอยู่เหนือหัวนายเอง” ยูริที่เข้ามาประชิดตัวผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พูดเสียงเย็นกับตัวผม เขาจงใจพูดเบาๆแล้วกดเสียงต่ำเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
หึ…
ร่างนั้นมองผมด้วยสายตาแห่งความมั่นใจ ก่อนจะเดินจากไปโดยที่ไม่แม้แต่จะหันกลับมาอีก
ผมซึ่งชะงักค้างอยู่อย่างนั้น เกิดรู้สึกขนลุกขึ้นมากะทันหัน และเริ่มรู้สึกตัวทีหลังตอนที่ลูกน้องหัวแบะ ที่ไม่รู้แม่งไว้ผมทรงห่าไรอะไร แสกกลางแถม ใส่ตุ้มหูรูปเฮลโหลคิดตี้สีชมพูอันเบ้ง ที่ผมพูดนักพูดหนาว่าถอดเหอะ ทุเรศลูกกะตา มาสะกิดผม
“ลูกพี่ โอเคป่ะ” ไอคิตตี้หัวแบะถามผมหวาดๆ
“เออ” ผมตอบมัน แล้วยกแขนขึ้นเช็ดปาก
นี่ชั้น…กำลังกลัวนายอย่างนั้นเหรอ….?
Ryu part
ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวันครับ อ๊ะ จะถามว่าผมไม่กินข้าวงั้นเหรอ? ไม่ๆ ผมกินแล้ว ไปกินกับเพื่อนในห้องมาน่ะ อันที่จริงผมก็รู้สึกดีอยู่หน่อยๆที่เพื่อนๆหยิบยื่นมิตรภาพมาให้ ผมที่ต้องกลับเนื้อกลับใจ เลิกยาให้ได้ เอ๊ย! เป็นเด็กดีให้ได้เพื่อพ่อกับแม่ของผมจะได้ภูมิใจซักที (ว่าไปนั่น) ผมก็เลยยอมรับมิตรภาพนั้นมา
แต่พออิ่มแล้ว ผมก็ชักอยากจะนอนแล้วสิ~ ก็เลยแยกตัวออกมาก่อนน่ะ เห็นมั๊ย ผมก็ไม่ได้เดินหนีออกมานะ (ปกติผมจะไปไหนผมก็หนีออกมาเลย)
อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาขึ้นเรียน เฮ้อออ อากาศดีจัง อยู่เงียบๆก็ดี ตอนกลางคืนดันฝันร้าย - -‘’ สงสัยเพราะไอ้อ้วนนอนกรนอยู่ข้างๆ โว้ย! เห็นหน้าหมูแล้วอยากกินข้าวมันไก่!
“โว้ยยยยย นอนดีกว่า!” ผมทิ้งตัวลงนอนบนพื้นหญ้า แล้วหลับตา
แต่ขณะที่ผมเริ่มจะเคลิ้มอยู่นั้น….
งุ้งงิ้ง งุ้งงิ้ง
เสียงแมลงตดที่ไหนร้องหาแม่มันฟระ = = ผมค่อยๆลืมตา คิ้วขมวดเข้าหากัน
ผมยังไมได้ฝันนะ! ผมได้ยินจริงๆ! เสียงเหมือนมีใครบ่นอะไรซักอย่างอยู่แถวๆนี้ โว้ยยยยยย มานั่งฝึกสารภาพรักกับแม่แกตรงนี้ทำไมฟระ! โรงเรียนออกจะใหญ่อย่างกับสนามกีฬาโอลิมปิก!!!!
ผมกลั้นใจหลับตาอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
.
.
.
“…ทำไมด้วยอ้ะ แค่นี้ก็อยู่ด้วยไม่ได้” เสียงแมลงตดที่ว่าเริ่มดังขึ้นจนชัดเจน - - ห่า ยังไม่เลิกอีก
หงุดหงิดๆ
…. อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ชาติหน้าตอนหกโมงเย็น ชั้นจะได้นอนมั๊ยวะเนี่ย!!!!!!!!!!!
พรวด!
ผมเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอนสีเขียวธรรมชาติไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว เดินไปแหวกพงหญ้า? ใกล้ๆตัวอย่างหงุดหงิดและโมโห งุ่นง่าน!
“หนวกหูเว้ย ไอ้แมลงตดงี่เง่า! คนเขาจะหลับจะนอน! แกไปฝึกสารภาพรักบนห้องพระไป๊!!!” แฮมทาโร่ โมโหแล้วนะเว่ย!!!
หลังจากที่ผมระเบิดพลังตด เอ๊ย! พลังโกรธออกไปจนหมดแล้ว ไหน ขอดูหน้าแมลงตดตัวผู้ให้ชัดๆหน่อยเห๊อะ!
“อ่ะ เอ่อ โทษที ชั้นไม่รู้ว่ามีคนอยู่น่ะ” แมลงตดตัวผู้ขอโทษผมแบบเกรงๆ
“เออเด่ะ ถ้ารู้แล้วก็นั่งเงียบๆซะ” หืม? แมลงตดตัวนี้หน้าตาดีนี่หว่า หล่อใช้ได้ แต่น้อยกว่าผมนิดนึง ผมยืนลูบคางพิจารณาใบหน้าและรูปร่างของแมลงตดพันธุ์ใหม่
“อืมๆ ขอโทษนะ” แมลงตดยิ้มให้ผมแบบไม่คิดมาก เอ๊า แปลกคนอีก ปกติถ้าใครมาเจอโดนด่าแบบนี้ก็คงโมโหไม่ใช่เหรอ ยังมายิ้มให้อีก พิลึกคน สงสัยช่วงแมลงตดผสมพันธุ์เลยอารมณ์ดีมั้ง…
หืม? แต่เมื่อกี้มันดูหงุดหงิดนี่หว่า (เห็นนั่งบ่น) ประหลาด…
ผมชายตามองแมลงตดหน้าตาดีก่อนนิดนึง แล้วก็กำลังจะหันหลังเดินกลับไปบนที่นอนสวรรค์แบบไม่เสียตัง
แต่ดูเหมือนแมลงตดอยากจะสนทนาพาทีกับผมต่อ - -
“อ๊ะ เดี๋ยว นายหน้าใหม่นี่ พึ่งเข้าหรอ” ฮ่วย คนจะหลับจะนอน แต่เอาวะ ตอบให้เป็นบุญหูแมลงตดหน้าตาดีที่มันไม่ด่าผมกลับ
ผมหันหน้ากลับไปแบบตะหงิดๆ?
“อือ พึ่งเข้าใหม่”
“หรอ ^^~ แล้วเข้าปีไหนเนี่ย แต่ไม่เห็นได้ข่าวเลยว่าจะมีเด็กย้ายมาใหม่ เอ้อใช่ เห็นมีแค่คนเดียว แต่รู้สึกจะไม่ใช่นายนะ” แมลงตดถามผมต่อ ฮ่วย ถามอยู่ได้ - -
“เข้า ปีสอง งั้นหรอ ก็ดีแล้ว” ผมตอบส่งๆ เอองั้นหรอ เจ็บใจนิดๆมีแต่คนรู้จักไออ้วน เอ๊อ ช่างเห๊อะ ก็ดีเหมือนกัน น่ารำคาญ
ว่าแต่…หมดคำถามเอ็งแล้วใช่มั๊ย ข้าจะได้ไปนอน - - ผมนิ่งคิดในใจ เมื่อแมลงตดทำท่าจะไม่พูดต่อ ผมเลยหันหลังกลับเป็นรอบที่ สอง
แต่แล้ว…!
“นายคิดดูสิ! ชั้นน่ะโคตรน้อยใจเพื่อนเลย!” จู่ๆไอ้แมลงตบก็สะดิ้งออกมา?!!!!
ผมหันกลับไปแทบไม่ทัน!
“ห๊ะ!!!” คิ้วผมกระตุกขึ้นลง สมองปวดตุบๆกับแมลงตดหน้าหล่อ อะไรของมันเนี่ย!!!!
“ก็เพื่อนสนิทชั้นน่ะ มันเป็นเพื่อนเก่าของคนที่ชั้นชอบแท้ๆ แต่ก็ดันไม่ช่วยอะไรชั้นเลย! แถมเมื่อกี้ชั้นโดนคนที่ชั้นชอบไล่ออกมา เหตุผลที่ว่า ชั้นมันน่ารำคาญเสียงดัง แล้วก็พาเพื่อนสนิทชั้นเดินไปทางอื่นเฉยเลย! นายคิดดูนะ แทนที่มันจะห้าม ไม่ก็เอาชั้นไปด้วย มันกลับโบกมือบ๊ายบายชั้นเฉยเลย! มันน่าโมโหมั๊ยเนี่ย!”
แมลงตดพล่ามภาษาคนเป็นล็อต จนผมเกือบตกใจคิดว่าตัวเองเผลอยื่นวุ้นแปลภาษาให้มันกิน! อ๊ากกกกก เกรงใจน่ะมีมั่งมั๊ยวะ! แล้วคิดจะถามซักคำมั๊ยว่าชั้นอยากฟังรึเปล่า!
“ห๊ะ นายพูดไรเนี่ย” ผมถาม แต่ดูเหมือนแมลงตดจะหูไม่ดี ไอ้นี่ - - เหมือนเม่นเลยวุ้ย ความทรงจำในหัวฉายภาพเม่นพันปีออกมาเป็นหนังย้อนยุค นอกจากจะไม่ฟังใครแล้ว ยังน่ารำคาญ ไม่เกรงใจ แถมหูไม่ดีอีกต่างหาก! หรือว่าเม่นกับแมลงตดจะสปีชีย์เดียวกัน?
“เซงอ่ะ!!!! คนสวยก็เหมือนกัน ใจร้ายใจดำจริงๆ ชั้นมันน่ารำคาญตรงไหน” แมลงตดทำหน้าน้อยใจ หยิบหินก้อนเล็กข้างๆปาลงไปในสระน้ำใหญ่ตรงหน้า
ให้ตายสิ - - มันชักจะบ้าไปใหญ่แล้ว ผมส่ายหัว ถามมาด๊ายย น่ารำคาญตรงไหน ก็ตรงนี้ไงวะ! สงสารคนสวยอะไรของมันจริงๆ เอ๊ะ จะว่าไป นี่มัน รร ชายล้วนไม่ใช่เหรอวะ - -
“แต่เค้าสวยจริงๆนะ~~ ไม่น่าเชื่อเลย ผิวก็ขาว หน้ากลมๆ แก้มยุ้ยๆ แบบนั้น ไหนจะคำพูดแรงๆที่ด่าชั้นอีก โอ๊ย! เรียกว่าตกหลุมรักแรกพบเลยก็ว่าได้นะเนี่ย! นี่สินะ ที่เรียกว่า ลิขิตแห่ง ปูปลาร้า~~ ” แมลงตดหน้าหล่อยิ้มเพ้อ อะไรของมันเนี่ย เปลี่ยน’รมณเร็วชะมัด - -
ว่าแต่ ผมชักสนใจไอ้บ้านี่แหละสิ แม่งฮาดี ไหนๆก็ว่าง ลองฟังมันหน่อยละกัน คิดได้ผมก็เดินลงไปนั่งลงข้างๆแมลงตด เว้นระยะห่างพองาม ว่าแต่ แมลงตดนี่เหม็นมั๊ยครับ - - ?
ฟุดฟิดๆ
ผมยื่นหน้าเข้าไปดมแมลงตดหน้าหล่อติ๊งต๊องข้างๆ อืมม ไม่มีกลิ่นแฮะ~ ค่อยยังชั่ว ว่าแต่ว่า ทำไมรู้สึกเหมือนได้กลิ่นอะไรคุ้นๆ - -
“แล้วไงต่อ ว่าแต่คนสวยของนายเนี่ยคืออะไร ที่นี่มีผู้หญิงด้วยเหรอ” ผมเปิดหัวข้อด้วยคำถามชวนคิด นั่นสิ มีผู้หญิงด้วยหรอ ยังไม่เห็นชะนีซักตัว - - เห็นแต่ เม่น หมู แล้วก็แมลงตด แมลงหวี่ แมลงสาบ แล้วก็หนอน ไส้เดือน บลาๆ
แมลงตดสะดุ้งเมื่อเห็นผมนั่งลงข้างๆแล้ว ฮู้ย ไอนี่หล่อจริงๆแฮะ ชักเขิน =////=
“อ๋อ ผู้ชายนี่แหละ แต่เค้าน่ะ หน้าสวยมากกก ผิวก็ขาว หน้าบานๆ เอ๊ย ใบหน้ากลม น่ารักมากเลยล่ะ” แมลงตดยิ้มให้ผม ตอนที่พูดเรื่องคนที่ตัวเองชอบเนี่ย สีหน้าดูมีความสุขจังแฮะ
งั้นหรอ ผมไม่เคยมีความรักก็เลยไม่รู้
“อ๋องั้นหรอ นายชอบผู้ชายไง้” ผมแกล้งจงใจเสียดสีนิดๆ ยังไงก็ผู้ชายแหละหว้า - - แต่ก็คงไม่แปลกก็นี่มันชายล้วนนี่หว่า อีกอย่างเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ ซึ่งผมเองก็ไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว ก็ดี๊ พวก ผู้หญิงน่ารำคาญจะตาย มาหาว่าผมเป็นตุ๊ด - -* พูดแล้วก็แค้น!
“ฮะๆ นายนี่ถามตรงดีนะ อืม ไม่รู้อ่ะ ก็ไม่ได้ชอบเพศไหนหรืออะไรเจาะจงอ่ะ แต่จะว่าไป คนๆนี้เป็นคนแรกที่เป็นผู้ชายนะ ไม่สิ ชั้นไม่คิดว่าเค้าเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ ฮะๆ”
พิลึก - -
“งั้นหรอ แล้ว…เขาว่ารำคาญนายหรอ แล้วจะไปชอบต่อทำไม” ผมถาม ผมไม่เข้าใจจริงๆ เพื่อนๆที่ รร เก่าก็เห็นพูดกันแบบนี้ อย่างทะเลาะกับแฟนแต่ก็ยังรักยังห่วงกัน เขาด่าก็ยังแอบชอบต่อ อะไรนักหนา - - บ้าป่าว เป็นผมนะ ด่ามาผมก็เลิกแล้ว จะมาคอยตามให้ปวดขรี้ทำไม
แต่ก็ไม่อยากถาม ขี้เกียจอ่ะ ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่แล้ว แต่วันนี้ฤกษ์ดี ถามไอ้แมลงตดหน้าหล่อนี่เอาละกัน
“เอ๋ ก็เค้าน่ารักนี่นา~~ ” แมลงตดเพ้อ
แค่เนี้ย!!!!!! ไรวะ
ผมทำหน้าแหยงปนทึ่ง ฮู้ย ไรเนี่ย ไม่เห็นเข้าใจเลย - -
“ทำไมทำหน้างั้น นายไม่เคยมีคนที่ชอบรึไง” แมลงตดถามตรงใจ ไม่มีอ้ะ - -
ผมมองหน้ามัน แล้วส่ายหน้า
แมลงตดหน้าหล่อยิ้ม
“หาโอกาสซักที ก็จะรู้เองแหละ ^^~~” เออ ขอบใจ - -
“เรื่องของชั้นน่า น่าเบื่อจะตาย แค่ต้องมาอยู่กับศัตรูก็เซ็งจะแย่อยู่แล้ว ไม่มีเวลามาสนใจความรักสีชมพูหรอก” จนถึงตรงนี้ จานดาวเทียม รูปหมูก็ลอยขึ้นมา อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
“ศัตรูงั้นเหรอ? ”
“ก็ใช่น่ะสิ!!! นายรู้มั๊ย! ตอนที่ชั้นรู้ว่ารูมเมทชั้นคือให้หมูถั่วเหลืองนั่น! ชั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่า ได้ย่างขาลงไปในกระทะทอดหมุแล้ว!!! อ๊ากกกกกกกกกก ให้ตายสิ! แค่ได้กลิ่นตัวมันก็คลื่นไส้แล้ว!!!” ผมระบายอย่างบ้าคลั่ง อย่างลืมตัว กลิ่นที่ติดอยู่บนเสื้อแมลงตดไร้กลิ่น ลอยมาแตะจมูกผมอย่างกับจะท้าทาย
ฟุดฟิด หืม? คุ้นอีกแล้ว - - ทำไมได้กลิ่นแล้วอยากอ๊อกอ่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
“ปู๊ด! ฮ่าๆๆ นายนี่ตลกจัง” แมลงตดหัวเราะ ผมที่กำลังทำหน้าปั้นยากอยากอ้วกอยู่ข้างๆมัน หัวเราะซะผมอายตัวเอง =/////=
“จะขำไรนักหนา ไม่ตลกนะ!”
“ฮ่าๆ โอเคๆ ต่อๆแล้วไงอีก”
“เหอะ ก็แค่นั้นแหละ ไปและ ชั้นขึ้นห้องดีกว่า โชคดีล่ะ” ผมเริ่มเบื่อและ (อายต่างหาก ดันเผลอลืมตัวทำอะไรแปลกๆต่อหน้าแมลงตดแปลกหน้าซะได้)
ผมลุกขึ้นปัดก้นนิดหน่อยพอเป็นไอเดีย ไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายคำอวยพรอันศักดิ์สิทธิ์ไว้ ให้แมลงตดผู้ต่ำต้อยก่อนจะเตรียมตัวขึ้นห้องเรียน (แต่ไม่ได้เรียน)
“นายก็เหมือนกัน”
ผมพยักหน้านิดๆแล้วเดินไป จะว่าไปชักแปลก ทำไมจู่ๆผมมานั่งคุยกับมันนะ - - ตอนแรกผมจะมาด่ามันไม่ใช่เหรอ เออช่างเหอะ…
.
.
.
เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ…ที่มันพูดถึงคนสวยของมันเมื่อกี้ มันดูคล้ายๆไอ้อ้วนป้ะ? ผมดีดนิ้วดังเป๊าะ แล้วหยุดนิ่ง แต่อืม….ใครมันจะสติสัมปชัญญะพิการไปหลงรักหมูทอดกระเทียม…
อีกด้านหนึ่ง
“อ๊ะ! จริงด้วย ลืมถามชื่อเลยแฮะ” แมลงตดหน้าหล่อเกาหัวตัวเอง คุยซะตั้งนานลืมถามชื่อซะได้ เอ๊ะ ปีสอง ก็ปีเดียวกันนี่นา ทำไมดูน่าเด็กจัง ตัวก็เล็กๆ น่ารัก แบ๊วอีกต่างหาก อย่างกับแฮมสเตอร์น้อยเลย~~ แต่ปากเนี่ย ที่สุดไปเลยนะ
ดูรวมๆไปก็เหมือนคนสวยเลยแฮะ~ สงสัยต้องไปแนะนำให้เจ้าเพื่อนยากที่ทิ้งเรารู้จักซะและ~~~
.
.
.
ว่าแต่? ศัตรูของเจ้านั่นน่ะ ใครกันนะ…
โซล & วีนัส : อ๊ากกกกกกกกกกก เรามาช้ากันอยู่แล้วววววว ฮ่าๆๆ มัวแต่แปลทรานส์กันอยู่~~ ฝากทรานส์แล้วก็ฟิคด้วยน้าาาาาา ตอนนี้คิดพล็อตฟิคเต็มเลยยยยยย แต่งต่อแน่ๆ เพราะเราว่างกันแล้ววว โฮะๆๆ สลับกับทรานส์น้า เรื่องทรานส์ หัวข้อน่ะ เราคิดกันเองนะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องจริง กร๊ากกกกก แล้วก็อาจมีผิดและไม่ตรงกับคนอื่นบ้างเพราะความสามารถล้วนๆ โฮะๆ (เอิ่ม คือได้แค่นั้นอ่ะ) ทรานส์ไม่ต้องเม้นก็ได้นะจ๊ะ แค่เข้ามาอ่านและเข้าใจที่เราแปลเราก็ดีใจกันมากแล้ว ^^
http://writer.dek-d.com/poochnoy/writer/view.php?id=582122
ส่วนฟิคน่ะ ทุกคนก็เม้นอยู่แล้วใช่ม้าาาา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ จุ๊บๆ =3=~~
ความคิดเห็น