คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SP] Happy birthday dear ~JUMP~
“ขอบคุณครับ!!!” สิ้นเสียงของเหล่าสต๊าฟ ทุกคนก็คลายสีหน้ายิ้มแย้ม และท่าทางที่โพสไว้ลงทันที
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันของการทำงาน และเมื่อกี้นี้ก็คือการถ่ายแบบลงนิตยสารของเดือนหน้า ครั้งนี้เป็นการถ่ายนิตยสารครั้งสุดท้ายของเดือน เพราะตลอดตั้งแต่ต้นเดือนพวกเขาก็ตระเวนถ่ายแบบกันจนเหนื่อย หลังๆนี่ ท่าที่โพสก็เริ่มซ้ำๆกันแล้ว…
“เฮ้อ งานเดือนนี้หมดแล้วววว” ยาโอโตะเมะ ฮิคารุ ยืนยืดเส้นยืดสาย
“ใช่ที่ไหน วันเสาร์นี้เราต้องไปอัดรายการ YY กันอีกนะฮิคารุ” ยาบุ โคตะ เตือนเพื่อน
“รู้แล้ว ชั้นหมายถึงงานของวงต่างหาก”
“อ๊ะ นั่นสิ งานเดือนนี้หมดแล้วจริงๆ ก็เหลือแค่งานของแต่ละคนเอง อย่างพวก school kakumei YY
แล้วก็ UMP radio” จิเนน ยูริ เปิดเช็คสมุดตารางงานที่เขาจดไว้อย่างเป็นระเบียบ
“นั่นสิ แต่มันก็เป็นเรื่องสนุกๆไม่ใช่หรอ พวกชั้น ยูโตะ แล้วก็ทาคาคิก็ต้องไปอัด shonen ด้วย” อาริโอกะ ไดกิ ยิ้มออกมาอย่างร่าเริง ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังดูตึงเครียดเล็กน้อย
เมมเบอร์ทั้ง 9 มองหน้าเขา แล้วก็ขำออกมาพร้อมๆกัน
ฮ่าๆๆๆ
“ไดจังเนี่ย เป็นคน positive จริงๆนะ” ยามาดะ เรียวสุเกะ ขำในท่าทางของเพื่อนสนิท
“เอ๊ะ? ก็จริงมั๊ยล่ะ มีแต่เรื่องสนุกๆในทำทุกวันไม่ดีรึไง” ไดกิ หรือ ไดจังยังคงยืนยันความเห็นเดิม
“ก็จริงนะเวลามาทำงานน่ะสนุกจะตาย มีอะไรสนุกๆให้ทำเยอะแยะ เสียดายงานเดือนนี้ของชั้นหมดแล้ว” อิโน
โอะ เคย์ หรือ อิโนะจังพูดอย่างเสียดาย
“ใช่อีกอย่าง พวกเราได้มาเจอกันเวลาทำงานมันสนุกดีออก ดีกว่าต้องอยู่คนเดียวอีก แล้วงานนายก็ยังไม่หมดนะอิโนะจัง” ฮิคารุเท้าสะเอวมองหน้าเพื่อน
“เอ๊ะ ก็ชั้น ริวทาโร่ เคย์โตะ ไม่มีงานต่อแล้วจริงๆนี่” อิโนะจังหันไปมองหน้ารุ่นน้องอีกสองคน
“อ๊ะ ผมกับเคย์โตะ มีอัด UMP อาทิตย์หน้า” โมริโมโตะ ริวทาโร่น้องเล็กของวงยกมือตอบ
“เออใช่ๆ อาทิตย์นี้เวรชั้นกับริวทาโร่นี่นา แล้วชั้นก็ต้องไปอัด Hyakushiki ด้วย” โอคาโมโตะ เคย์โตะ ทำท่านึกออก
“อ่อนั่นสิ พวกนายสองคนสู้ๆล่ะ เดี๋ยวเสร็จงานแล้วจะแวะไปหา” ยามาดะ หรือยามะจัง ให้กำลังใจเพื่อนร่วมกลุ่ม
“แล้วจะรอนะยามะจัง” เคย์โตะยิ้ม
“ยามะจัง ถ่ายคราวนี้เราต้องออกนอกสถานที่นะ คงกลับมาไม่ทันหรอกมั้ง” จิเนน หันไปเช็คคำตอบกับฮิคารุที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ใช่ๆ เออลืมเรื่องอิโนะจังเลย งานนายหมดที่ไหนล่ะ เคยหมดด้วยหรอ นายต้องแต่งเพลงที่เราจะร้องเพลงช้ากันในคอนครั้งต่อไปนะ” ฮิคารุยิ้ม นี่แหละ งานของนาย และงานของพวกเรา
อิโนะจังยิ้มตอบ
“เออนั่นสิเนอะ ลืมไปเลย แฟนๆรออยู่ทั้งที ชั้นจะไม่ทำงานได้ไง” อิโนะจังเกาหัวเบาๆเป็นเชิงขอโทษ
“พูดได้ดีนะ เพราะงั้น…ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเหอะ เดี๋ยวเราจะไปทำงานต่อไม่ทัน ฮ่าๆ” ทาคาคิ ยูยะพูดเตือน ทำ
ให้ทุกคนก้มลงไปมองเสื้อผ้าตัวเอง
“เออยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยนี่นา!!!” นากาจิม่า ยูโตะ พูดเสียงดัง
“มัวแต่คุยกันเพลิน ชั้นก็ฟังเพลินเหมือนกัน ฮ่าๆ” ทาคาคิ หัวเราะ
“เออนั่นสิ ใครเริ่มเนี่ย!” ยาบุแกล้งทำเป็นโมโห
ทั้ง 9 คนหันมามองผู้ที่เปรียบเสมือนรีดเดอร์ของวง
“ก็ยาบุคุงนั่น!!!!!!!!” ทั้งเก้าพูดพร้อมกัน ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา
“เอ๋ ชั้นเองเหรอ แฮะๆ” คนโดนว่า ยิ้มเขินๆ แล้วก็เดินนำออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ณ ห้องแต่งตัว
“นี่ก็เหลือสัมภาษณ์ลงนิตยสารวันนี้ใช่มะ” ไดจังถามขณะกำลังเช็ดเครื่องสำอางอยู่
“ใช่ๆ อ๊ะ ริวทาโร่ หยิบเสื้อตัวนั้นให้หน่อยสิ” ทาคาคิที่กำลังเดินหาเสื้อตัวเองอยู่ หันหลังมาตอบ
“รับนะ!” ริวทาโร่โยนเสื้อทาคาคิข้ามหัวยูโตะไป
“เฮ้ย! อะไรเนี่ย!” บังเอิญยูโตะกำลังลุกขึ้นมาพอดี เสื้อของทาคาคิเลยหล่นใส่หัวเขาแทน
“ฮะๆ ขอโทษๆ นายดันยืนก่อนทำไมล่ะ” ทาคาคิขอโทษขอโพย แล้วเดินไปหยิบเสื้อออกมาจากหัวยูโตะ ต่างกับริวทาโร่ที่เป็นตัวการโยนเสื้อ เดินชิ่งไปไหนแล้วก็ไม่รู้ (ไรเตอร์ : น้องชายพี่นิสัยดีจริงๆ)
“แล้วสัมภาษณ์หัวข้ออะไรล่ะ” อิโนะจังที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เดินมานั่งหยิบเอกสารชี้แจงงานขึ้นมาอ่าน
“อะไร สามๆเนี่ยแหละ จำไม่ได้” ยาบุที่กำลังนั่งกินน้ำอยู่ตรงข้ามพูด
“ห๊ะ อะไรสาม” ยามาดะ ขมวดคิ้ว ช่วงนี้ที่ฮิตๆ ชอบถามพวกเราเรื่อง No.1 ไม่ใช่หรอ แล้วอะไร สาม
“อ๋อๆ เกี่ยวกับพวกสามปีที่ผ่านมาพวกเราเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างไงล่ะ…เออใช่! ศุกร์นี้มันวันครบรอบสามปี
ของเรานี่!” อิโนะจังที่พึ่งนึกขึ้นได้ ทำตาโตตื่นเต้น
“จริงด้วย!” คนทั้งห้องนึกออกพร้อมกัน
“โหย ลืมไปได้ไงเนี่ย” ยาบุทำท่าเสียดาย
“นั่นสิ เร็วจังนะ” ฮิคารุพูดลอยๆพลางทำท่านึกอดีต
“ปีที่แล้วที่เค้าถามคำถามนี้ว่า คุณเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างเท่าไหร่นะ” อิโนะจังพูด
“นั่นสิ ชั้นก็ว่างั้นแหละ ไม่รู้จะตอบไงดี” ยูโตะนั่งลงข้างๆอิโนะจัง แล้วชะโงกหน้ามาดูเอกสารด้วย
“แต่ตอนนี้ชั้นว่าพวกเรา เห็นได้ถึงความแตกต่างเยอะเลยนะ ตัวอย่างชั้นเป็นต้นไง ฮ่าๆ” เคย์โตะพูดยิ้มๆ เหมือนนึกขำตัวเองเมื่อก่อน
“เออนั่นสิ พูดถึงเคย์โตะ รู้สึกช่วงนี้จะพูดเยอะขึ้นนะ ถ้าไม่นับเวลาอยู่กับยูโตะ” ไดจังอ้อมมานั่งข้างๆ
“ถูก! ถ้าไม่นับเวลาอยู่กับชั้นนะ” ยูโตะพูดอย่างมั่นใจ ก็เขากับเคย์โตะสนิทกันนี่นา
“พอเลย ยูโตะชั้นเขินนะ”
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
“ถ้าพูดเรื่องเปลี่ยน ทาคาคิก็เปลี่ยนนะ” ยาบุหันไปมองทางเพื่อนสนิทอีกคน ที่กำลังวุ่นอยู่กับการหาของในกระเป๋าอยู่
“เอ๋?” ทาคาคิที่โดนเรียกด้วยไม่รู้ตัว เงยหน้าขึ้นมามองแบบงงๆ
“ฮ่าๆๆ นายนี่ไม่ไหวเลย! เสียภาพพจน์ชะมัด” ยาบุหัวเราะ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
“เอ๋ พวกนายพูดเรื่องอะไรกันน่ะ” ทาคาคิที่ยังไม่เข้าใจ รีบเดินมาเค้นความจริง
ฮิคารุอธิบาย เรื่องหัวข้อสัมภาษณ์ของวันนี้
“อ๋อ ชั้นเปลี่ยนหรอ” หลังจากที่เข้าใจ ก็เอานิ้วชี้กลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง เขาไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนเท่าไหร่เลย
“ก็ยิ่งนานเข้า นิสัยก็ยิ่งเด็กลงไง” จิเนนเหน็บ
“ถูก!!! นั่นแหละใช่เลย!” ทุกคนตบมือดังฉาด ก่อนจะชี้นิ้วมาที่ทาคาคิ
“เฮ้ๆๆ พวกนายให้มันน้อยๆหน่อยนะ!” ทาคาคิบอกปัด
“ก็มันจริงมั๊ยล่ะ เจ้าเท่ห์แต่เปลือกนอกเอ๊ย” ยาบุแซวอีกรอบ
“ตกลงนายจะชมแล้วก็ด่าชั้นพร้อมๆกันเลยรึไง” ทาคาคิขำ ตกลงพวกนายต้องการไรกันแน่เนี่ย!
“แต่สำหรับชั้นนะ ชั้นว่าริวทาโร่เปลี่ยนมากที่สุดล่ะ” ยามาดะ เสนอบ้าง
“เอ๋ ชั้นหรอ” ริวทาโร่ที่นั่งเงียบอยู่มองหันไปมองหน้ายามาดะ ที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
“ใช่ริวน่ะ เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย สูงอีกด้วย (แอบเจ็บใจ) แต่ก็ยังเด็กอยู่ล่ะนะ” ยามาดะหัวเราะใหญ่
“ตกลงยังไงเนี่ย!”
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
“ใช่ ริวทาโร่น่ะ เวลาพูดอะไรแบบนี้จะใช้คำแบบผู้ใหญ่ตลอดเลยนะ แต่เวลาทะเลาะกับยามะจังเนี่ย ยังไงๆก็เด็ก
ประถมชัดๆ” อิโนะจังล้อ
“ใช่ๆ!!! นั่นแหละๆ!!!!” ทั้งหมดพูดพร้อมกันอีกครั้ง
“ผมอยู่ ปีสามแล้วนะ!” ริวทาโร่เถียงเจ้าพวกพี่ขี้แกล้ง
“เดี๋ยว! นี่พวกนายรวมชั้นด้วยหรอ!” ยามาดะชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“ก็บางทีนะ ฮ่าๆ! แต่นายก็มีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวสูงมากเลยนะ ยามาดะ” ไดจังทำท่าเอ่ยชม
“อืมใช่ๆ ยามะจังค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่มากๆเลย” ฮิคารุพยักหน้าขึ้นลงอย่างเห็นด้วย คนอื่นๆก็เหมือนกัน
“เอ๊! จริงหรอ ไม่หรอกๆ” ยามาดะบอกปัด
“จริงๆนะ ยามะจังเป็นคนที่ทำงานจริงจังมาก มีอะไรก็มักจะคิดถึงงานก่อนเสมอ แถมยังคอยให้กำลังใจคนอื่นๆ
อีก ที่สำคัญรู้สึกยามะจังจะกลายเป็นครูสอนเต้นอีกคนของจัมพ์ไปเลยจริงๆนะเนี่ย” จิเนนสาธยาย
“อืมก็จริงนะ ชั้นมักจะโดนยามะจังสอนเรื่องท่าเต้นเสมอเลย” เคย์โตะพูดเสียงเบา
“เอ๋? จิเนนก็พูดเกินไปแล้ว ส่วนเคย์โตะนายมาขอให้ชั้นสอนเองไม่ใช่รึไง” ยามะจังหัวเราะ
“ชั้นเอง บางทีก็อายยามะจังนะ เพราะชั้นบางทีก็เผลอเล่นมากไปหน่อย แต่พอหันไปเห็นยามะจังซ้อมเต้นแล้ว ชั้น
ก็มักจะคิดว่า ชั้นนี่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆน่ะ” ยาบุพูด
“เห~ ไม่ขนาดนั้นหรอก อีกอย่างยาบุคุง ไม่สิ ทุกคนก็ตั้งใจทำงานเหมือนกันหมดแหละน่า”
“ก็ตั้งใจไง แต่บางทีพวกชั้นก็รู้สึกว่า พวกเราไม่ตั้งใจได้เท่านาย ที่มักจะตั้งใจและจริงจังตลอดเวลาน่ะ” ทาคาคิพูดเขินๆ รู้สึกเหมือนกำลังด่าตัวเองอยู่เลย
“ชั้นไม่คิดแบบนั้นนะ เราต่างก็พยายามในแบบของเราเองไม่ใช่หรอ”
“อืม ก็จริงนะ แต่ก็นั่นแหละ เห็นนายจริงจังพวกเราก็เกรงๆอยู่ดี” ยูโตะเสริม
“โกหกน่า~” ยามาดะดูท่าจะไม่ยอมเชื่อ
“พวกเราพูดจริงนะ เพราะงั้นช่วยเป็นอย่างนี้ต่อไปนานๆด้วยล่ะ ฮะๆ” ฮิคารุย้ำ พร้อมกับขำออกมา
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว!” ยามาดะขานรับ
“อืม~ อิโนะจังตอนนี้ก็เป็นนักศึกษามหาลัยแล้วสิเนอะ สามปีที่แล้วยังไม่จบม.ปลายเลย” จิเนน วางมือบนโต๊ะ
ก่อนจะเริ่มพูด
“อ๊ะใช่ๆ! นายพยายามได้ดีมากเลย!” ยาบุเอื้อมมือไปตบไหล่คนตรงข้าม ตามด้วยคนที่เหลือ
ดีมาก!!!
“ฮะๆ ขอบคุณนะ ชีวิตม.ปลาย กับ มหาลัยมันช่างแตกต่างกันจริงๆ” อิโนะจังทำท่านึกถึงสมัยก่อน
“แล้วมันสนุกมั๊ยล่ะ” เคย์โตะผู้มีความฝันจะเรียนต่อในระดับมหาลัยถามอย่างตื่นเต้น
“สนุกมากๆเลย พวกนายถ้ามีโอกาสก็ลองมาเรียนดูสิ” อิโนะจังเอ่ยชวน
เคย์โตะพยักหน้าขึ้นลงทันที แต่คนอื่นๆก็มีท่าทีลังเลไม่น้อย
“แต่มหาลัยมันเรียนหนักนี่ ไหนจะต้องทำงานอีก ผมก็ไม่รู้ว่าจะไหวรึเปล่า” จิเนนยิ้มฝืด
“ชั้นยังไหวเลย! เพราะมันสนุกทั้งสองอย่างน่ะสิ! ถึงการใช้ชีวิตการทำงานของชั้นจะต่างจากสมัยอยู่ม.ปลายบ้าง แต่มันก็สนุกไปอีกแบบนะ”
“ไว้พวกเราจะคิดดูนะ ฮ่าๆ” ยามาดะสรุป
“ถ้าเรียนมหาลัยแล้วจะมีเทพเจ้าแห่งมุขตลกลงมาสถิตแบบอิโนะจังรึเปล่า” ไดจังแซว
ฮ่าๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!
“ไดจังคิดได้ไงเนี่ย!” ยาบุขำน้ำตาเล็ด
“ชั้นเปล่านะ ยามาดะเคยพูดให้ชั้นฟังน่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“จำได้ด้วยหรอไดจัง ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ใช่ จริงนะ แบบเมื่อก่อนชั้นโคตรมั่นใจในมุขของตัวเองเลยอ่ะ แต่แบบพออิโนะจังขึ้นมหาลัยปุ๊บ ความมั่นใจของ
ชั้นก็ค่อยๆหมดลง ฮ่าๆๆๆ” ฮิคารุหัวเราะ พลางทำท่าตบหน้าผากตัวเอง
ฮ่าๆ!!!
“ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้น! ไม่รู้สิ ไม่แน่ถ้าพวกนายมาเรียน อาจจะได้เทพเจ้าแห่งมุขตลกไปเคียงกายบ้างเหมือนกันนะ”
ฮ่าๆๆ!!!!!!
“จิเนนก็โตขึ้นนะ” ริวทาโร่พูดหลังจากหยุดหัวเราะได้ซักที
“อะไรกันริวทาโร่ นายเด็กกว่าชั้นอีกนะ ฮ่าๆ” จิเนนหัวเราะ ทำเอาริวทาโร่เขิน
“ก็มันจริงนี่!”
“ใช่ๆ แล้วก็วิธีการพูดของนายมันดูน่าโมโหขึ้นเยอะ” ยามาดะพูดแล้วมองหน้าจิเนนแบบล้อเลียน
“เอ๊ ไหงพูดงี้ล่ะยามะจัง!” จิเนนทำแก้มพองลม
“ก็มันจริงนี่ แต่ก็ยังขี้อ้อนอยู่ดี แล้วเมื่อไหร่จะเลิกมานั่งตักชั้นซักทีห๊ะ ฮ่าๆ” ไดกิหัวเราะ
“ถูก! ขี้อ้อนเหมือนเดิมเลย” ทาคาคิเสริมเพื่อนแก้มป่อง
เห็นด้วย!!!!!!
“ฮ่าๆ อันนี้ชั้นยอมรับ ก็ชั้นชอบอ้อนคนอื่นนี่นา แล้วตักของไดจังก็นิ่มด้วยอีกอย่างช่วงนี้ยามะจังก็ไม่ค่อยยอมให้ชั้นนั่งตักแล้ว” จิเนนแกล้งงอน
“เปล่าซักหน่อย! ก็ช่วงนี้นายอ้อนชั้นอยู่คนเดียวไง ก็เลยให้ไปอ้อนคนอื่นบ้าง ชั้นก็เมื่อยเหมือนกันนะ ฮ่าๆ”
“ตัวนายไม่ใช่เล็กๆแล้วนะ แล้วเมื่อไหร่จะสูงซักที” ยาบุลูบหัวรุ่นน้องตัวเล็ก
“ยาบุคุง พูดงี้มันกระทบชั้นนะ!” ไดกิแย้งทันที
ฮ่าๆๆๆ
“โหย กระทบชั้นด้วยอีกคน” ยามาดะหัวเราะ
“เดี๋ยวชั้นก็สูงแล้ว คอยดูละกัน อีกอย่างชั้นก็คิดว่าชั้นตัวเล็กแบบนี้ก็ดีออก น่ารักจะตาย จริงมั๊ย” จิเนนยืดอกอย่างมั่นใจ
ก็จริงนะ ฮ่าๆ!!!
“งั้นจะรอดูละกัน” ฮิคารุยิ้ม
“พูดถึงเรื่องสูง ยูโตะสูงที่สุดในพวกเราเลยสินะ” เคย์โตะหันไปมองหน้าเพื่อน
ใช่เลย!!!!!
“อ๊ะ ใช่ๆนั่นสิ ชั้นกลายเป็นคนสูงที่สุดไปได้ไงเนี่ย ฮ่าๆ” ยูโตะเกาหัวแกรกๆ
“พอเลย นายมันน่าหมั่นไส้!” ไดกิพูดอย่างขอซักที
“ไดจัง! ห้ามพูดแบบนั้นนะ! ฮ่าๆๆๆๆ” ยาบุห้าม
“ก็มันน่าหมั่นไส้จริงๆนี่ ยูโตะน่ะ เห็นกันมาตั้งแต่เด็กเลย นิสัยนายไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่เลยนะ น่ารำคาญยังไงก็
อย่างงั้นเลย ฮ่าๆ” ไดกิเล่า
“อ่าใช่ ตอน JJ express ชั้น อิโนะจัง ไดจังก็ได้ทำงานกับยูโตะตลอดเลยนะ” ทาคาคิพูดขึ้นบ้าง
“อย่างที่ว่าแหละ นายแทบไม่เปลี่ยนเลยจริงๆนะยูโตะ” อิโนะจังเสริม
“เอ่อ ชั้นก็คิดแบบนั้นนะ” ยูโตะพูดอ้อมแอ้ม
“แต่นายก็โตขึ้นมากนะ ดูแมนขึ้นเย๊อ เมื่อก่อนดูน่ารักแต่ตอนนี้นายหล่อมากเลยล่ะ” ยาบุส่งยิ้มแบบแซวๆไปให้ทำ
เอายูโตะ ม้วนอายใหญ่
“บ้า! ยาบุคุงพูดอะไรเนี่ย!”
ฮ่าๆๆ!!!!!
“อายหรอ ฮิ้วว เขินใหญ่เลยย ยูโตะริน~~” ฮิคารุทำท่าล้อเลียนชื่อเล่นของยูโตะ
“ยูโตะริน~~” ทุกคนเริ่มสนุกใหญ่เลยเรียกตามบ้าง ยูโตะริน~~~ ฮาอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
“พอเลย! พวกนายเลิกแกล้งชั้นซักที!!!” ยูโตะชักเริ่มอายจนทนไม่ไหว แกล้งกันชัดๆ เล่นอะไรเป็นเด็กอยู่ได้!!!
“ฮ่าๆ เขินหรอ น่ารักดีออก” ยามาดะยังไม่หยุดหัวเราะ
“หยุดเลยยามะจัง พอแค่นั้นแหละ” ยูโตะเกาจมูกแก้เขิน เฮ้อ พวกนี้นิ
“แต่เพราะมีนาย มาคอยก่อกวนแบบนี้มันก็ทำให้สนุกดีเนอะ” ทาคาคิยิ้ม ห้องมันไม่เงียบดีอ่ะ~ มีหมอนี่มานั่งบ่น
นั่งพล่ามอยู่ข้างๆก็เพลินดีเหมือนกัน
เห็นด้วย!!!
“อีกแล้ว! ตกลงพวกนายชมหรือด่าชั้นกันแน่เนี่ย!!! ฮ่าๆๆๆ”
“นายก็โดนเหมือนชั้นแหละ ยูโตะ ไม่แน่ใจว่าจะชมหรือด่ากันแน่ ฮ่าๆๆๆ” ทาคาคิเสริม แต่จะว่าไปตอนที่เขาโดนเมื่อกี้ ยูโตะมันก็ร่วมด้วยนี่หว่า สมน้ำหน้า
“ถึงยูโตะจะเป็นแบบนั้น แต่ก็มักจะเป็นที่พึ่งที่ดีเสมอเลยนะ เพราะเป็นคนที่จริงจังอยู่ลึกๆ ย้ำนะ ลึกๆ ฮะๆ” เคย์โตะ พูดทำอะไรทุกคนหัวเราะไปตามๆกัน
ฮ่าๆๆ!!!!!
“จริงหรอ ดีใจจัง” ยูโตะยิ้ม เล่นมาซะตั้งนาน อยู่ๆมาชมกันตรงๆเนี่ย ดีใจชะมัด
“จริงสิ จากนี้ไปก็ฝากด้วยล่ะ แต่หยุดพล่ามบ้างก็ดีนะ รำคาญ ฮ่าๆๆๆ” ริวทาโร่พูดเสียงเรียบ ทุกคนเลยตกใจกันใหญ่
“ริวจัง แรง!!!!!” ทุกคนแซว
“อะไรเล่า! พอเลย เปลี่ยนเรื่องได้แล้ว!” ริวทาโร่ เมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังจะโดนแกล้งอีก รีบเปลี่ยนเรื่องใหญ่
“ริวทาโร่ นายพูดงี้ชั้นเสียใจนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ” ยูโตะขำใหญ่เมื่อเห็นท่าทางของริวทาโร่
“ฮ่าๆ นายนี่มันปากเสียจริงๆเลยนะ ไอ้เด็กดื้อเอ๊ย” ยามาดะขอเขกหัวเด็กนี่ซักทีเหอะ
“อะไร! ใครปากเสีย แล้วชั้นก็ไม่ได้ดื้อด้วย!” ริวทาโร่ไม่ยอมแพ้ พยายามดันยามาดะออกไป
ยามาดะก็สนุกใหญ่ เห็นทีก็ยิ่งแกล้งขึ้นไปอีก
“อะไรๆพูดให้มันดีๆหน่อยคิดว่าจะชนะชั้นได้หรอ ไม่มีทางหรอก ฮ่าๆๆ”
ฮ่าๆๆๆ!!!!!!
“นายอย่าท้าชั้นนะ!”
“ก็ลองเด้!!!” ทั้งสองเตรียมท่าจะสู้กัน ไดกิก็เดินมาจับแยกทันที
“พอเลย เจ้าพวกเด็กประถมทะเลาะกัน เรามาคุยกันต่อดีกว่า” ไดกิเดินกลับไปนั่งที่ตัวเอง แล้วเริ่มคุยต่อ
“เด็กจริงๆนะพวกนายเนี่ย เห็นแล้วนึกถึงสมัยที่ชั้นกับยาบุเล่นกันตอนเด็กๆเลย” ฮิคารุนั่งเท้าคาง
“อ่า~ จริงด้วยสินะ จะว่าไปเราสองคนเป็นเพื่อนกันมานานแล้วเนาะ” ยาบุหันหน้าไปถาม
“นานสิ นานมากๆเลยล่ะ ฮะๆ” ฮิคารุยิ้มร่าเริง
“ฮิคารุคุงกับยาบุคุงน่ะ มักจะเป็นผู้นำให้พวกเราเสมอ ขอบคุณนะ” จิเนนพูดขอบคุณจากใจ พร้อมส่งยิ้มหวานให้
“ไม่ขนาดนั้นหรอกจิเนน ฮะๆ เขินนะเนี่ย อันที่จริงเป็นเพราะชั้นแก่ที่สุดในวง ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องคอยดูแล
พวกนาย แต่เรื่องผู้นำแล้ว ชั้นว่าฮิคารุต่างหากล่ะ”
“เฮ้ย! ไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะ ผู้นำจริงๆคือยาบุต่างหาก ชั้นก็แค่คอยช่วยในฐานะสมาชิกคนนึงเหมือนคนอื่นๆ
แหละ ใช่มั๊ยพวกเรา” ฮิคารุหันไปขอเสียงจากเพื่อนๆ
ใช่~!!!!
“เห็นมั๊ยล่า~”
“เห~~ โกหกน่า” ยาบุยิ้มจนตาหยี
“จริงนะ ยาบุน่ะ จะคอยเป็นผู้นำให้พวกเราตลอด เพราะว่านายทำงานมานานแล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้ใหญ่มากๆด้วย คอยดูแล เอาใจใส่ และจัดระเบียบให้พวกเราตลอด” ทาคาคิพูด
“อย่างที่ทาคาคิว่าแหละ นายเหมือนพี่ชายคนโตของพวกเราจริงๆนะ ยิ่งถ้าเทียบกับพวกยามะจังแล้ว ยังไงนายมันก็เป็นพี่ชายคนโตชัดๆ ฮ่าๆๆๆ”
“เอ่อ อิโนะจัง นายต้องการจะสื่ออะไรกันแน่น่ะ” ไดกิถามหน้าแหยงๆ เพื่อนเขาพูดอะไรเนี่ย วนไปวนมา =[]= แล้วไอ้สองประโยคที่พูดเมื่อกี้มันก็ความหมายเหมือนกันเด๊ะเลย จะไปสลับไปสลับมาทำไมเนี่ย!
ฮ่าๆๆ!!!!
“สมเป็นอิโนะจัง!”
“ส่วนฮิคารุคุง ก็เป็นคนกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบสูงมากๆ มักจะเป็นคนเสนอไอเดียงานของเรามาตลอด ถ้า
ไม่ได้คำแนะนำจากฮิคารุคุง ชั้นก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่ทุกครั้งแบบนี้หรอก” ยูโตะบอกฮิคารุด้วยรอยยิ้มเขินๆ
“นายก็พูดเกินไปแล้ว! ชั้นก็ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย!” ฮิคารุเริ่มเขินตาม พึ่งเคยโดนพูดแบบนี้ใส่ต่อหน้าก็วันนี้นี่แหละ
“แต่มันก็เป็นเรื่องจริงนะ ฮ่าๆ” ทุกคนพูดพร้อมกัน
ฮ่าๆๆๆ!!!!
“สรุป ฮิคารุกับยาบุน่ะ คือเสาหลักของพวกเราทั้งคู่แหละ จากนี้ไปฝากด้วยนะ” อิโนะจังลุกขึ้นยืนแล้วโค้งงามๆให้หนึ่งที
ฝากด้วยนะ! คนที่เหลือลุกขึ้นแล้วโค้งให้เสาหลักทั้งสองอย่างยิ้มๆ
“พวกนายก็เกินไปแล้ว! //// พะ พวกชั้นก็ฝากตัวด้วยเหมือนกัน” ยาบุเขิน แล้วก็ก้มหน้าโค้งลงตอบ
“ใช่ ฝะ ฝากด้วยเหมือนกัน ////” ฮิคารุเม้มปากอย่างตื้นตัน ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าโค้งให้
“ฝากด้วยล่ะ!!!”
.
.
.
.
.
“โหย สามปีนี่ผ่านไปเร็วเนอะ”
“นั่นสิ เร็วมากเลย”
“แต่ก็ได้อยู่กับแฟนๆตลอดสามปีนี่ดีใจจังเลยนะ”
“ใช่! แล้วก็หวังว่า จากนี้ไปอีกสี่ปี หรือสิบปี ก็อยากอยู่กับแฟนๆอย่างงี้เหมือนเดิมนะ”
“อื้ม!!!”
ทั้ง 10 คุยกันต่อเรื่อยเปื่อย นึกเรื่องนู้นเรื่องนี้ คอนเสิร์ตตอนปีแรกที่เดบิวต์ หรือ แต่ละครั้งๆที่ได้ทำงานร่วมกัน ได้อยู่เพื่อแฟนๆร่วมกันมาตลอดสามปี แต่ละเรื่องมันช่างเต็มไปด้วยความทรงจำที่มีค่าเสียเหลือเกิน มีค่าเกินกว่าที่จะลืมได้ ต่างคนต่างคิดว่า ตลอดสามปีที่ผ่านมาช่างสนุกสนานและมีความสุขมากเหลือเกิน มีมากมายหลายครั้งที่ต้องทุกข์ และลำบากทั้งกายและใจ แต่เพราะอยู่ด้วยกัน 10 คน มีกันและกันอยู่เสมอ ทั้งหมดเลยสามารถผ่านพ้นอุปสรรค์ทั้งหลายมาได้…ขอบคุณนะ ทุกคน
「どんなときも、この10人でならガンバレるんだ!!!」
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน ถ้าเป็นพวกเรา 10 คนละก็ สู้ตาย!!!
~僕たちからメンバーへ~
สามปีที่ผ่านมานี้นายพัฒนาขึ้นมากจริงๆนะเคย์โตะ。
เจ้าตัวเล็กยูโตะก็เหมือนกันตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ。
ริวทาโร่ที่คอยนั่งฟังเรื่องบ้าๆกับผมเสมอ。
เรื่องที่ผมรักทาคาคิที่สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เนี่ยมันช่วยไม่ได้ไม่ใช่หรอ。
ทั้งยามะจังที่ส่งเมล์มาว่า “summary สู้ๆนะ”และจิเนนที่โทรมาให้กำลังใจผมน่ะ ดีใจสุดๆไปเลย。
ไดจังที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ。
ยาบุที่แม้ไม่ต้องอาศัยคำพูดก็มักจะเข้าใจผมเสมอ。
ความใจดีของฮิคารุน่ะ ผมน่ะเข้าใจดีเลยล่ะ。
แค่ทุกคนมาอยู่ด้วยกันมันก็สนุกแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขอบคุณเสมอเลยนะ!…伊野尾慧
ยูโตะที่คอยขำมุขของผมเสมอ。
ยามาดะที่ไม่ว่าจะอะไรก็จะคอยให้คำปรึษาได้ทุกอย่าง。
บางครั้งที่เห็นหน้าตาของเด็กอายุ 15 อย่างริวทาโร่แล้วความรู้สึกเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลย。
อิโนะจังที่คอยทำให้ผมหัวเราะอยู่เสมอ。
เคย์โตะที่มักจะคิดถึงเรื่องของเมมเบอร์มากกว่าเรื่องของตัวเองตลอด。
ฮิคารุคุงที่คอยสอนเรื่องดนตรีและการทำงานให้ผม。
จิเนนที่คอยมองดูผมอยู่เสมอมา。
ทาคาคิแสนใจดี ที่มักจะรู้สึกถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆของผมเสมอ。
ในตอนแรกพวกเราลำบากมากก็จริง แต่ผมคิดว่า การที่เราได้มาเป็นเมมเบอร์จัมพ์ด้วยกันแบบนี้ มันเป็นอะไรที่โชคดีมากเลยล่ะ!ขอบคุณนะ! …有岡大貴
ทั้งริวทาโร่ที่มักจะชมการแต่งตัวของผมทำให้ผมดีใจ แล้วก็ได้ฟังเรื่องของอิโนะจังที่ทำให้ผมยิ้มได้。
ทั้งเคย์โตะที่คอยช่วยสอนภาษาให้ผม กับยาบุคุงที่อุตส่าห์คอยฟังตามคำพูดที่คลุมเครือของผมอยู่ตลอด。 (เหมือนว่ายูโตะพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่แต่ก็ยังคอยฟังตามน่ะ)
จิเนนที่คอยช่วยกันนั่งทำการบ้านด้วยกัน。
ฮิคารุคุงที่ช่วยเป็นโปรดิวเซอร์เรื่องดนตรีให้กับผม。
ความรู้สึกอยากขอบคุณไดจังที่มักจะคอยรับฟังผมเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม。
ความรู้สึกเอาใจใส่ของทาคาคิคุง ที่ไม่รู้ทำไมมันทำให้ผมมักรู้สึกสบายใจเสมอ และคำว่า “ไม่เป็นไรนะ”ของยามะจังน่ะ มันช่วยทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นทุกทีเลย。
การที่เราเชื่อใจคนคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ มันสุดยอดไปเลยไม่ใช่หรอ?
เพราะผมเชื่อมั่นในตัวทุกคนยังไงล่ะ!…中島裕翔
ยาบุคุงที่ทำหน้าที่คอยรวบรวมพวกเรา。
ฮิคารุคุงที่ใจดี。
ทาคาคิคุงที่อยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่สมัย Hey!Say!7。
เรื่องตลกของอิโนะจังที่คอยทำให้อารมณ์ดีอยู่เสมอ。
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังชอบนั่งตักของไดจังอยู่เลย。
ยามะจังที่แม้ไม่ต้องพูดก็เขาก็มักจะเข้าใจผม。
ยูตี้ที่มักจะคอยมองเห็นจุดเล็กๆน้อยๆของผมเสมอ。
เคย์โตะที่มักจะไม่ค่อยระมัดระวังตัวเอง。
ริวทาโร่ที่มักเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวผ่อนคลายลงเสมอ。
ผมอยากจะไล่ตามความฝันไปด้วยกัน กับเหล่าคนที่แสนสำคัญของผมตลอดไป。จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยนะ…知念侑李
ยามาดะที่มักจะมีรอยยิ้มที่ดูแล้วทำให้ผมผ่อนคลายลงเสมอ。
ทาคาคิที่มักจะเล่นอะไรบ้าๆด้วยกันกับผม。
สำหรับผมไดจังเป็นเหมือนแฟนของผมเลย。
ไม่มีทางโกรธใครได้,เคย์โตะเป็นสุภาพบุรุษโดยแท้จริงๆ。
ยูโตะที่คอยแนะนำเรื่องดนตรีให้ผมอย่างอ่อนโยน。
อิโนะจังที่ไม่ว่าผมจะพูดเรื่องอะไร ก็มักจะเข้าใจผมเสมอ。
รอยยิ้มน่ารักๆของริวทาโร่ที่มองแล้วมักทำให้ผมหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง。
ผมมักจะรู้สึกว่าจิเนนเป็นคนที่มีบรรยากาศการคุยในเรื่องเดียวกับผมอยู่ตลอด (เป็นพวกเดียวกัน)。
ฮิคารุที่ยังคงทำให้ผมสบายใจอยู่เสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง。
แม้ว่าภายนอก JUMP จะดูเหมือนกับเด็กธรรมดาทั่วๆไปเหมือนๆกับคนอื่นในสมัยนี้ แต่จริงๆแล้ว ทุกคนร้อนแรงเสมอนะ! รักนะทุกคน…薮宏太
ยาบุคุงที่เปรียบเหมือนคนคอยรวบรวมทีมของเรา。
ทั้งอิโนะจังที่จากนี้ไปอยากจะรู้จักกันให้มากขึ้น และฮิคารุที่มีตำแหน่งเป็นนักสร้างบรรยายกาศของจัมพ์。
เคย์โตะที่พยายามในเรื่องเต้นมาตลอด。
ไดจัง,ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ขอให้เป็นเหมือนเดิมแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลงนะ。
ยูโตะที่มีความสนใจหลายอย่าง ผมอยากให้เขาได้ลองท้าทายทำในสิ่งที่เขาสนใจดูทั้งหมด。
จิเนน,อย่ากลายเป็นผู้ใหญ่ไปกะทันหันนะ。
ริวทาโร่ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังเป็นเด็กอยู่อย่างนี้ตลอด。
ทุกคนขอบคุณมากจริงๆนะ หลังจากนี้ไปก็จะรักพวกนายตลอดไปเลย!… 高木雄也
ริวทาโร่ที่แค่มองก็ทำให้รู้สึกรีแลค。
ยูโตะที่มักจะทำตัวเป็นเด็กกับผมเสมอ และอิโนะจังที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น。
ฮิคารุคุงที่เป็นคนที่คอยช่วยสอนงานผมอยู่เสมอ。
ไดจังก็เหมือนกัน จากนี้ไปช่วยส่งยิ้มน่ารักๆแบบนี้มาให้ผมเหมือนเดิมนะ。
จิเนน surudoi tsuccomi (ความรู้สึกคล้ายๆคอยช่วยเตือน หรือช่วยขัดเวลาพูด)น่ะ ขอบคุณนะ。
ทาคาคิคุงที่มีลักษณะการคุยที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ผมชอบมากเลยล่ะ。
อีกทั้งได้รับการดูแลอย่างดีจากยามะจังมาเสมอ。
ยาบุคุง、จากนี้ไปก็ช่วยตักเตือนผมด้วยความใจดีแบบนี้ต่อไปด้วยนะ。
ผมในตอนนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก แต่ว่าจากนี้ไปเพื่อที่จะวิ่งไล่ตามทุกคนให้ได้ทัน ผมจะพยายามนะ ฝากตัวด้วยล่ะ。…岡本圭人
จิเนนที่มักจะมีรอยยิ้มที่เปล่งประกายมาให้ผมเสมอ。
ริวทาโร่ที่แค่อยู่ด้วยกันแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายได้。
กับเคย์โตะที่มีความสนใจที่เข้ากันนั้น เวลาอยู่ด้วยกันมันช่างสนุกจริงๆเลย!。
ทั้งอิโนะจังที่จริงๆแล้วเป็นผู้ใหญ่ และฮิคารุคุงที่เป็นคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน ทั้งสองคนมักจะคอยสอนอะไรๆให้ผมเสมอ。
พอเห็นยูโตะที่พยายามซ้อมกลองอย่างหนักแล้ว พวกเรา (ตัวเองกับไดจัง)ก็เกิดความรู้สึกเหมือนกันว่า พวกเราคงยังพยายามได้ไม่ดีพอเท่ายูโตะเลย。
กับไดจังแล้ว พวกเราจะพยายามสู้ไปด้วยกันอยู่เสมอ。
และก็อยากขอบคุณยาบุคุงจากใจ ที่มักจะคอยสนับสนุนผมอยู่ตลอด。
ทาคาคิคุงที่พอเห็นใครลำบากแล้วก็มักจะเข้าไปช่วยเสมอ。
ถึงทุกคน、ทั้งความรักและความเชื่อมั่นในตัวทุกคนแล้ว มันกำลังค่อยๆเพิ่มขึ้นอยู่เสมอนะ!…山田涼介
ยาบุที่ไม่ว่าผมจะมีอะไร ก็มักจะเข้าใจผมอยู่เสมอ。
อิโนะจังที่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็มักจะใจดีกับผมเสมอ。
ทาคาคิที่มักจะหัวเราะกับมุขตลกของผมอยู่ทันทีตลอดทุกครั้ง。
ทั้งไดจังที่เป็นมาเนีย (พวกคลั่งไคล้ เป็นมากกว่าโอตาคุ) เสียงดนตรี และเคย์โตะที่มีชีวิตอยู่กับเครื่องดนตรี。
คำพูดที่แสนใจดีของยามาดะที่มักพูดให้ผมฟังเสมอนั้น ขอบคุณจริงๆนะ。
เสียงหัวเราะที่ออกมาจากใจของยูโตะ มันช่วยทำให้ผมรู้สึกหายเหนื่อยเสมอเลย。
จิเนนที่มักคุยกับผมอย่างร่าเริง。
ถึงจะยังเป็นเด็ก、แต่ริวทาโร่ก็เป็นน้องชายที่แสนน่ารักของผมนะ。
ทุกคน、มาช่วยกันมองหาสิ่งที่เรายังทำได้ไม่ดีพอและจุดมุ่งหมายของพวกเรากันเถอะ จากนี้ไปค่อยๆเติบโตไปด้วยกันนะ。…八乙女光
ทั้งยาบุคุงที่ช่วยเหลือผมเวลาช่วง MC และอิโนะจังที่พอถึงเวลาแสดงจริงแล้ว ก็มักทำให้พวกเรายิ้มออกมาได้ตลอดทุกครั้ง。
ฮิคารุคุงที่คอยให้คำปรึษาเรื่องทรงผมเวลาช่วงส่วนอยู่ตลอด。
ทาคาคิคุงที่มักจะคอยเล่นกับผมด้วยกันมาตลอด。
ไดจังที่น่ารักมาเสมอตั้งแต่ก่อนเดบิวต์。
จิเนนที่ตอนที่ผมเข้าบริษัทครั้งแรกก็จะคอยอยู่ข้างๆผมเสมอ。
ทั้งเคย์โตะที่มีคาแรกเตอร์ที่ แค่เห็นก็สบายใจแล้ว กับยูโตะที่เป็นคนที่เติบโตขึ้นมากที่สุดในเมมเบอร์。
ยามะจังที่เข้าบริษัทพร้อมกัน、จากนี้ไปผม(ทะเลาะ)ไม่แพ้ยามะจังแน่!
ตั้งแต่เดบิวต์ที่ทุกคนช่วยเข้ามาสนิทกับผม ขอบคุณจริงๆนะ。จากนี้ไปช่วยอยู่เป็นคนสำคัญของผมตลอดไปแบบนี้ด้วยเถอะ。…森本龍太郎
Credit : Popolo 2010.11
Translated by Zaol-chan
END…
Happy birthday dear~ JUMP ~
2007.09.24~2010.09.24
สามปีแล้วสินะ JUMP มาช้าไปนิด อิอิ ไม่ว่างจริงๆ ไม่ได้อ้างนะ ยกเครื่องไป โรงเรียนเลยเนี่ย ฮ่าๆ ตอนเมสเซสตอนท้ายทั้งหมด เอามาจาก popolo เดือนนี้นะจ๊ะ โซลว่าแปลแล้วแปลกมากมาย (แต่ก็ยังจะทำ) ฮ่าๆ โซลไม่เคยแปลให้ใครฟัง ก็เลยได้แค่เนี้ย =[]= มีปัญญาแค่พูดอย่างเดียว คงต้องไล่ตัวเองไปเรียนใหม่ - - (แต่ไม่มีตังเรียนแล้ว) ฮ่าๆ ถ้าอยากให้ซึ้งกว่านี้ก็อ่านเอง? ไม่ก็ เดี๋ยวโซลอ่านให้ฟังนะ กร๊ากกก (ไร้สาระแล้ว) สุดท้าย รักจัมพ์นะ
ความคิดเห็น