คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 รูมเมท
บรรยากาศภายในห้องเข้าสู่ภาวะ ตึงเครียดเล็กน้อย
(Ryosuke)
ให้ตายสิ! ผมว่าผมฆ่าไอ้ริว เอ๊ย นึกว่ามันจะไปจากชีวิตผมแล้วนะเนี่ย! แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยัง! หรือมันจะตะกายออกมาจากนรกจริงๆ! อ๊ะ อย่าบอกนะว่า!
ผมหันขวับ ไปที่ไอ้ริว ที่กำลังทำหน้าขยะแขยงผมอยู่
ไอ้ริวคือ รูมเมทของผม!!!!
(Ryutaro)
อ๊ากก ไอ้กลม! แกโผล่มาจากไหนเนี่ย!!! ชั้นนึกว่าแก กลายเป็นข้าวหน้าหมูทอดที่ชั้นไปกินมาเมื่อชาติที่แล้วซะอีกนะเนี่ย!!!
แล้วนี่อะไร ทำไมไอ้กลมมาอยู่นี่ล่ะ! มันโผล่มาจากไหน!!! ห๊ะ ถ้ามันมีกุญแจห้องนี้ งั้นหมายความว่า
ไอ้กลม คือ รูมเมทของผม!!!!
ฟิ้วว~~~~ เวลาผ่านไปซักพัก สองหนุ่ม ยืนมองหน้ากันนิ่ง ด้วยความคิดที่ไม่แตกต่างกัน
ชั้นต้องอยู่กับไอ้ริวหรอ!/ชั้นต้องอยู่กับไอ้กลมหรอ!
“
”
“
”
“นายน่ะ!/นายอ่ะ!”
มองหน้ากัน
“อย่ามาเลียนแบบ!!!/อย่ามาเลียนแบบนะ!!!”
ทำหน้าโหด
“อยากลองดีไงวะ ไอ้อ้วน!”
“ห๊า พูดงี้ก็สวยเด้! ใครอ้วนฟระ!!!”
“ในห้องก็มีแค่ชั้นกับแก แล้วใครจะอ้วนวะ!ในเมื่อชั้นไม่อ้วน!”
“อ๊ากกก นี่แกด่าชั้นอ้วนเรอะ ไอ้ริวหน้าหนู!”
“เออดิว่า นอกจากอ้วนแล้วยังโง่เหมือนหมูอีก! แล้วชั้นก็ไม่ใช่หนูด้วย!”
“แกว่าชั้นโง่หร๊อ ไอ้โรคฉี่หนู!!!”
ขณะที่สองสาว? กำลังปะทะฝีปากกันอย่างเผ็ดร้อนอยู่นั้น
แอ๊ดดดดด
“ยามะจัง ทำไมไม่ขึ้นเรียนคาบบ่ายล่ะ” เคย์โตะเดินเปิดประตูห้องเข้ามา มือสองข้างถือกระเป๋านักเรียนไว้ ข้างหนึ่งเป็นของเคย์โตะเอง ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นของยามะจัง
ร่างอวบชะงักเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนชายสมัยประถมเดินเข้ามาในห้องของตน
“เคย์โตะ! ทำไมนายรู้ล่ะว่าชั้นอยู่ห้องนี้น่ะ”
เคย์โตะเดินมาวางกระเป๋าที่โต๊ะเขียนหนังสือ แต่ยังไม่ทันได้สังเกตเห็นเพื่อนอีกคนซึ่งเป็นเจ้าของห้องเหมือนกัน ตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่า การที่เขาเข้ามาในห้องนี้ ตอนนี้ จะทำให้เขาได้พบกับสิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอด
“อ๋อ ก็ไปถาม ผอ.ไอบะมาน่ะ ว่าแต่นายยังไม่ตอบคำถามชั้นเลยนะ หนีกลับมาที่ห้องก็ไม่บอก นี่เลิกเรียนแล้วนะ”
“เอ๊ะ! นี่เลิกเรียนแล้วหรอ!!!” ยามะจังเผลอร้องเสียงดัง อะไรกัน นี่เขาทะเลาะกับไอ้ริว จนเลิกเรียนเลยหรือเนี่ย = =’’
“ชิส์ นายนี่ทำชั้นเสียเวลาจัดของจริงๆไอ้กลม!” ริวทาโร่ทำหน้าบูดบึ้ง ยืนกอดอกมองมาที่ยามะจัง ที่มัวแต่หันไปคุยกับคนที่เข้ามาใหม่
“อะไร! นายนั่นแหละ ที่ทำให้ชั้นไม่ได้เข้าเรียนบ่าย” ยามะจังไม่ยอมแพ้ หันกลับมาต่อด้วยสีหน้ามีอารมณ์
(Ryosuke & Ryutaro)
"โอ๊ยหงุดหงุดไอ้หมอนี่จริงๆ!!! "
เคย์โตะ ที่พึ่งรู้สึกตัวว่าในห้องยังมีคนอื่นอยู่นอกจากตนและเพื่อนสมัยประถม จึงเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงและก็ต้องไปพบกับ
นะ หนูแฮมสเตอร์!!!!
“หือ?” ริวทาโร่หันหน้ามาทางเขา อะไรวะไอ้หมอนี่! อ๊ะ ลืมไป ยังด่าไอ้อ้วนไม่หมด
เคย์โตะเบิกตาโพลง ด้วยความตกตะลึง กับผู้มาใหม่ ที่สะกดตาของเขา
ทางด้านยามะจังและริวทาโร่ ก็ยังคงเถียงกันต่อไป โดยที่ไม่มีใครหันมาสนใจเคย์โตะซักคน ใครบางคนในสองคนนี้จึงไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังเป็นที่ต้องตาของคนตาตี่รูปหล่อ ที่นั่งหัวแหลมอยู่ในห้อง
“ไอ้ บ้าริวทาโร่!”
เสียงยามะจังลอยมาเข้าหูเคย์โตะ ‘ริวทาโร่’ งั้นหรอ??
ชื่อแม้จะดูโบราณนิดๆ แต่ไม่เป็นไร..หน้าตาน่ารัก... ให้อภัย ^-^
“อะไรแก? นี่ของฉัน!”ริวทาโร่เริ่มปฏิบัติการขอคืนพื้นที่จากเรียวสุเกะที่กำลังจะแย่งโต๊ะไม้ตรงกลางไปเป็นทรัพย์สินของตน
“นี่มันของโรงเรียนไม่ใช่หรือไง!”เรียวสุเกะตรงเข้าไปถีบริวทาโร่หนึ่งครั้งก่อนจะวางมันตามเดิม ริวทาโร่ที่กลิ้งหลุนๆตกไปยังเตียงอีกฝั่งถึงกับร้องครวญด้วยความเจ็บปวด ร้อนถึงเคย์โตะที่ยืนนิ่งเป็นซากเม่นพันปีวิ่งเข้าไปช่วยแทบไม่ทัน
“เจ็บหรือเปล่า”
“แกเป็นใครวะ?”ดูเหมือนริวทาโร่พึ่งจะรู้สึกได้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเคย์โตะ..
“อะ..อ่อ เป็นเพื่อนสมัยประถมของเรียวสุเกะน่ะ”เคย์โตะถึงกับเหวอเมื่อเจ้าแฮมเตอร์น้อยจิกดวงตาโตมองเขาอย่างไม่พอใจ
“หึ..เพื่อนกันนิสัยมันก็คงคล้ายๆกันแหละคบกันได้”ริวทาโร่สะบัดปัดข้อมือเคย์โตะออกอย่างรำคาญ ก่อนจะลุกขึ้นยืนทำเป็นจับเสื้อให้เข้าที่
“นี่ อยากตายหรือไงวะ!”เรียวสุเกะตั้งท่าจะพุ่งเข้าไปแลกหมัดแต่เคย์โตะขวางเอาไว้ได้ทัน
“เอ่อ..ออกไปกันเหอะ อาจารย์ให้ฉันมาตามนายเนี่ย”เคย์โตะลากเรียวสุเกะที่โกรธจนเดือดปุดเป็นหม้อไฟสุกี้ออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
(Ryosuke)
“นี่! มาลากฉันออกทำไมฮะ ไม่เห็นไอ้เวรนั่นมันพูดรึไง!?”
“ใจเย็นน่า..อย่าไปถือสาเลย” หน้าตาน่ารักๆแบบนั้นไม่ควรโดนอะไรกระแทกหน้าสักเท่าไหร่..
“ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง?”ผมหยุดมองเคย์โตะที่จู่ๆก็ทำสายตาปลาบปลื้มซะเหลือเกิน..
“อ๋อ เปล่าหรอก^^”เคย์โตะปฏิเสธกลบเกลื่อนก่อนจะวิ่งนำผมกลับไปยังห้องเรียน..
คาบเรียนจบลงแล้วจริงๆตามที่เคย์โตะบอก ในห้องเรียนเหลือเพียงอาจารย์หน้าโหดคนนึงนั่งปั้นหน้าเหี้ยมอยู่ผมถูกอาจารย์คนนั้นไล่ให้ไปถางหญ้าหลังโรงเรียน ทำโทษข้อหาโดดเรียน=_=
เพราะใครที่ทำให้ผมมาเจอชีวิตเวรกรรมแบบนี้!
เพราะมันน่ะแหละ ไอ้ริว! กลับไปแกตาย! ผมจะสับมันมัดกับเตียงแล้วเอาน้ำมันราดจากนั้นก็จุดไฟแล้วลอกเนื้อมันออกสับเป็นหมื่นชิ้น! อ๊ากก! เพราะแกคนเดียวไอ้ตัวซวย
ช่วงที่ผมกำลังสาปแช่งจิตนาการฉากโหดเหี้ยมอัมหิตอยู่นั้น..ผู้ชายหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมคนหนึ่งที่เดินนำพาผมมาถางหญ้าที่สวนหลังโรงเรียนนั้นถึงกับสะดุ้งไม่กล้าคุยกับผมไปชั่วขณะ
ทำไม? หน้าผมมันทำไม?-_-*
“เอ่อ จอบอยู่ในโรงเก็บของสังกะสีด้านในสุดนะ”เขาชี้นิ้วอันสั่นระริกไปที่บ้านสังกะสีโสมมๆเหมือนบ้านพักคนบ้าใต้สะพานลอยยังไงยังงั้น
“ครูสั่งให้ตัดตรงริมสุดตรงนั้นเพราะหญ้ามันเริ่ม..ระ..รกแล้ว”ไม่ใช่แค่มือที่สั่นแต่เสียงก็สั่นตามไปด้วย หมอนี่เป็นโรคชักกระตุกหรือเปล่าน่ะ?
“อ่อ งั้นหรอ”ผมทำเป็นพยักหน้าเข้าใจ แต่พอไอ้เจี๋ยมเจี้ยมนี่จะเดินกลับไปผมจับข้อมือมันไว้ทันที
“นี่..”ผมเขยิบร่างเข้าประชิด จากส่วนสูงแล้วผมสูงแค่ปลายคางหมอนี่เท่านั้นเอง= =*
“อะ..อะไรหรอ?”
“นายดูมือฉันสิ”ผมแบมืออมชมพูของตัวเองให้หมอนี่ดูก่อนจะทำสายตาออดอ้อน
“เน่~ ถ้าฉันจับจอบมือฉันต้องพองแน่ๆเลย นายช่วยทำให้ฉันหน่อยได้มั้ย? สอนอย่างเดียวก็ได้”
“ตะ..แต่ว่า”มันทำหน้าอึกอัก จากหน้าซีดจนเหลืองเริ่มเปลี่ยนเป็นแดงขึ้นทีละสเตป
“ได้มั้ยจ้ะ?”ผมเลื่อนจากจับมือเป็นคล้องวงแขนรอบคอหมอนี่แทน และก็ได้ผล..
“คะ...ครับ”หมอนี่พยักหน้าเหงื่อแตกพลั่ก ผมยิ้มหวานให้มันหนึ่งยกก่อนจะปล่อยอ้อมแขนออก
หุหุ..สะใจจริงๆ^^ ผมพึ่งรู้ข้อดีของตัวเองก็วันนี้นี่แหละ ฮ่าๆ^O^
ผมยืนอยู่ข้างๆหมอนี่ที่กำลังถางหญ้าด้วยจอบอย่างเมามัน เอ่อ..ผมว่าน่าจะใช้กรรไกรในนั้นมากกว่านะ มันดูลำบากยังไงไม่รู้สิ..
“แบบนี้นะ”เขาเริ่มทำให้ดูทีละขั้นตอน ผมทำเป็นร้องอ๋อทำหน้าเข้าใจ แต่พอทำก็แกล้งทำไม่เป็น ให้หมอนี่สอนหลายรอบกว่าจะรู้ตัวก็ถูกใช้ถางหญ้าไปจนหมดแล้ว
เสียใจด้วย...วันนี้นายไม่มีโชคเอาซะเลย ^-^
ผมพาชายผู้โชคร้ายนั่นไปเลี้ยงไอติมของโรงเรียน ดึงมากอดมอบไมตรีนิดๆหน่อยๆเป็นการขอบคุณทางอ้อมที่ถางหญ้าไถ่โทษให้ผม อิอิ><
“นี่ นายชื่ออะไร?”
“อ๋อ..ผะ..ผม .. ผม ชิโนเกะครับ”
“ทำไมไม่กินล่ะ ละลายหมดแล้ว”ผมมองไปที่ไอติมโคนที่เจ้าชิโนเกะถืออย่างอาลัยอาวรณ์ อุตส่าห์เลี้ยงนะเฟ้ย! กินเข้าไปเดี๋ยวนี้! >O<
“อะ..อ๋อ”เขาทำท่าจะกินแต่ก็หยุดค้างเสียดื้อๆ..
“เรียวสุเกะคุงมองใกล้ๆแล้วน่ารักจังเลยนะครับ”
“เอ๋?”
“เปล่าครับ”ชิโนเกะลุกขึ้นยืนถือไอติมวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ผมนั่งงงอยู่ตรงม้านั่งหน้าโรงอาหาร ผมนั่งจัดการไอติมจนหมด ตรงโรงอาหารเริ่มมีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะไปอออยู่ที่ร้านสะดวกซื้อมากกว่า เห็นเพื่อนในห้องคุยกันว่าร้านนี้พึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีที่แล้ว..
ขณะที่ผมนั่งกินไอติมไปเรื่อยๆ พลางมองสำรวจพื้นที่รอบๆอยู่นั้น สายตาผมก็ไปสะดุดอยู่ที่ โอโนะเซนเซ ที่กำลังยืนสั่งราเมนอยู่ในโรงอาหาร
“ป้า! ทำไมมีหมูแค่สองชิ้นอ่ะ ในรูปเขียนไว้ตั้งสี่ชิ้น” โอโนะเซนเซ กำลังสอบถามรายละเอียดกับป้าขายราเมนและกำลังพยายามเรียกร้องสิทธิผู้บริโภคดังลั่นโรงอาหาร ราวกับกำลังจะป่าวประกาศจุดยืนของตัวเองอยู่
O.O
“โห อิตาครูคนนั้นเนี่ย ต๊องไม่เบาแฮะ นึกว่าจะโหด เข้มซะอีก” ผมคิดในใจ พอๆกับไอบะเซนเซเลยอ่ะ = =’’
ผมลากสายตาอีกครั้ง ไม่อยากจะนั่งมองคนบ้าหาเรื่องเรียกร้องสิทธิผู้บริโภคนานๆ เรื่อยไปเรื่อยๆจน ผมวนกับมาที่เซ็นเตอร์เดิม ชิส์ ไอติมหมดแล้วอ่า ผมคาบช้อนไอติมอย่างเซ็งๆ สองมือเท้าคาง
เฮ้อ~ ทำไรต่อดีอ่ะ ไม่อยากกลับห้องเว่ย ไม่อยากเจอไอ้โรคฉี่หนูนั่น อ๊ากกก คืนนี้ชั้นจะนอนหลับมั๊ยวะเนี่ย!!! ขณะที่ผมกำลังหัวเสียอยู่นั้น เคย์โตะก็เดินถือเค้กเข้ามาหาผม
แกร๊ก เคย์โตะวางเค้กลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามผม
ผมปรายตามองเคย์โตะนิดๆก่อนจะหันไปเจอกับของโปรดของผมวางอยู่ตรงหน้า
เค้กสตรอเบอรี่!!!
ผมทำตาโต อ๊ากกก เค้กสตรอเบอรี่! อยากกินอ่า T^T
ผมหันไปสบตาปิ๊งๆอ้อน เคย์โตะ
‘เคย์โตะ~~ นายมีเค้กตั้งสองก้อน ชั้นขอก้อนนี้ได้มั๊ยอ่า’ ผมพยายามส่งสายตาวิงวอน
“อ๊ะ กินซะสิ ชั้นซื้อมาให้นายนี่แหละ” เคย์โตะเข้าใจว่าผมต้องการอะไร และเลื่อนจานเค้กเข้ามาใกล้ๆผม
“อ๊ะ จริงหรอ ขอบคุณนะ!” ผมรับเค้กไปอย่างดีใจและลงมือเขมือบทันที
“ฮะๆ เหมือนเมื่อก่อนจริงๆเลยนะ ยามะจังชอบกินสตรอเบอรี่นี่นา” เคย์โตะพูดก่อนจะค่อยๆลงมือกินเค้กด้านหน้าตัวเอง
“เอ๊ะ จำได้ด้วยหรอ” ผมเสียสละเวลาในการกินอันมีค่า ขึ้นมาฟังเคย์โตะพูด
“ฮะๆ จำได้สิ เอ้อ นี่ยามะจัง
” เคย์โตะเบาเสียงลงเล็กน้อย แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง ทำให้ผมรู้สึกสนใจ จึงยัดเค้กที่เหลือทั้งหมดเข้าปาก แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเคย์โตะดีๆ
“มีไรหรอ” ผมพูดเสียงอู้อี้นิดๆ แต่คิดว่าเคย์โตะน่าจะฟังออก (บางทีนะ)
“เอ่อ คือ คนในห้องเมื่อกี้ใครหรอ” เคย์โตะพูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อนิดๆ แต่ผมไม่เห็นหรอก แค่ได้ยิน ก็ขึ้นแล้ว!
“ห๊า! ไอ้เวรริวนั่นน่ะน๊ะ มันเป็นศัตรูของช้านนน อ๊ากก ไม่อยากเอ่ยชื่อ!!” หน้าผมเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อบ้าง แต่คิดว่าคงคนละฟีล?
“ทำไมต้องโกรธกันขนาดนั้นด้วยหรอ” ทำไมต้องขนาดนั้นด้วยล่ะ ออกจะน่ารักขนาดนั้น >< ใครจะไปโกรธลง
“ห๊า เหตุผลน่ะหรอ ลืมไปแล้ว =3=” ผมตอบหน้าตาย ชัดถ้อยชัดคำ พลางสะบัดหน้าหนี เชอะ ใครจะไปอยากจำ
“=O=’ ลืมไปแล้วเนี่ยนะ” ให้ตายสิ เพี้ยนไปแล้วรึไงนะ ถ้าลืมไปแล้วทำไมไม่ดีกันเล่า!
“ใช่!!” ผมตอบอย่างหนักแน่น
“อีกอย่างนะ ชั้นนึกว่าชั้นจับมันมุดรูเดิมกลับบ้านไปแล้วนะเนี่ย อยู่ๆก็โผล่มา แถมยังมาเป็นรูมเมทชั้นอีก อ๊ากก จะบ้าตาย!” ผมเอามือกุมหัวอย่างบ้าคลั่ง
เคย์โตะส่ายหัวเบาๆ น่าตาก็น่ารักทั้งคู่ ทำไมถึงได้รุนแรงกันขนาดนี้เนี่ย
“เอ่อ
หรอ แล้วเค้าชื่ออะไรอ่ะ”
ผมหันขวับ จ้องสายตาพิฆาตไปหาเคย์โตะ ที่ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นผม
..เงียบ..
“โมริโมโตะ ริวทาโร่!!!!” ผมกระแทกเสียงดัง จนคนที่อยู่ในแถบๆนั้นหันหน้ามาทางผมทุกคน และผมก็เดินออกไป
เคย์โตะ หันไปขอโทษทุกๆคนในบริเวณนั้น อย่างยากลำบาก - -‘’ (ทำไมเพื่อนเขาน่ากลัวอย่างนี้นะ)
หลังจากขอโทษเสร็จ ก็นั่งลงอย่างเดิม มือหนาหยิบช้อนเค้กขึ้นมาวนบนจานเล่นเบาๆ
.
.
.
.
.
โมริโมโตะ ริวทาโร่อย่างนั้นหรอ
To be con...
ความคิดเห็น