คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 ไม่มีคำตอบ
เลิกเรียน
“เฮ้อ เหนื่อยจังเล้ยย” เคย์โตะพูดพร้อมกับบิดขี้เกียจ
“แหม นายเนี่ยน้า เรียนแค่นิดๆหน่อยๆ นี่ขนาดวันแรกของเทอมนะ แล้ววันต่อๆไปนายจะไม่เหนื่อยจนตายรึไง” ชี่อดไม่ได้
“เหอะ เรื่องของชั้นน่า ชั้นก็เป็นอย่างงี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อีกอย่างชั้นก็เอาตัวรอดอยู่แล้วหรอกน่า” ถึงเคย์โตะจะขี้เกียจเหลือเกินเวลาเรียน แต่ที่จริงเขาเป็น ท็อปเท็นของสายชั้น เหมือนๆกับชี่ และยูโตะ
“อ่ะจ้าๆๆ” ชี่เลิกพูดแล้วหันไปพูดกับเพื่อนหนุ่มอีกสองคน
“นี่ว่าไง นายสองคนน่ะ เย็นนี้ไปเที่ยวกันมั๊ย จะได้เป็นโอกาสต้อนรับยามะจังเลย”
“เออก็ดีน่ะสิ! ตกลงตามนั้น” เคย์โตะพูดอย่างดีใจที่จะได้ไปเที่ยว
“เฮ้ๆ เคย์โตะ นายจะไม่ถามยามะจังหน่อยเหรอ ว่าอยากไปรึเปล่า” ยูโตะพูดขึ้นทั้งๆที่ใจนึงก็อยากให้ไปด้วย
“ชั้นอยากไปนะ แต่วันนี้ชั้นมีนัดกลับบ้านพร้อมกันกับไดจังน่ะ ไว้พรุ่งนี้ได้มั๊ย” ยามะจังตอบอย่างรู้สึกผิด “แต่ชั้นอยากไปจริงๆนะ”
“อ่ะ ระ หรอ ช่วยไม่ได้นี่นะ” ยูโตะจ๋อยลงอย่างกะทันหัน
“เฮ้ยพวก อย่าเศร้าไป เรายังได้อยู่กันอีกนาน” เคย์โตะหันไปพูดปลอบใจเพื่อนซี้
“อืมๆ นั่นสิ งั้นพรุ่งนี้ก็ได้ อ๊ะ พี่ยูยะ!”
ชี่พูดหลังจากที่หันไปเห็นแฟนหนุ่มที่ประตูหน้าห้อง ที่ยืนอยู่กับหนุ่มน้อยแก้มป่อง หน้าใสคนนึง และก็วิ่งออกไปหา
“อ๊ะ ไดจัง!” ยามะจังวิ่งตามชี่ไปอีกคน เพื่อนทั้งสองจึงต้องเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้
“ไง พวกนาย” พี่ยูยะหันไปทักทายเคย์โตะและยูโตะที่เพิ่งเดินตามมา
“ยูริ เดี๋ยววันนี้แวะบ้านพี่หน่อยนะ คุณแม่อยากเจอน่ะ” พี่ยูยะโน้มตัวนิดๆลงมาคุยกับเพื่อนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน
“ฮะ วันนี้ผมว่าง” ชี่ตอบแฟนหนุ่มอย่างร่าเริง
“ยามะจัง เป็นเพื่อนกับยูริจังด้วยหรอ ดีจังเลยนะ” ไดจังยิ้มให้ยามะจังอย่างร่าเริงพร้อมเอามือลูบหัว
“อื้อ แล้วก็เป็นเพื่อนกับเคย์โตะและยูโตะด้วยแหละ” ยามะจังยิ้มตอบกลับพี่ชาย
ภาพนั้นทำให้ใครบางคนเกิดความอิจฉาเล็กๆ
“ฮะ ไดกิคุง ยามะจังเป็นคนน่ารักมากๆเลยแหละ” ชี่หันไปพูดกับพี่ชายเพื่อน
“เห ไดจัง เนี่ยหรอลูกพี่ลูกน้องนายที่ว่า น่ารักจริงๆด้วย ยินดีที่ได้รู้จักนะ แต่นายคงรู้จักชั้นแล้วล่ะ” พี่ยูยะทักทายยามะจัง
“ใช่ป้ะล่ะ ยามะจังน่ารักเหมือนชั้นไง 555” ไดจังหัวเราะอย่างร่าเริง
“ไม่อ่ะ ไม่เหมือนซักนิด 555” พี่ยูยะก็เอากะเค้ามั่ง
“ชิ เพื่อนกันป่าววะ เอ้อ ยังไงก็ พวกนาย สามคนฝากยามะจังของชั้นด้วยนะ ชั้นหวงเจ้าอ้วนนี่มากเลย อย่าให้ใครมาจีบหรือทำอะไรล่ะ 555” ไดจังหันไปฝากฝังกับเคย์โตะและยูโตะที่ยืนอยู่หลังชี่และยามะจัง พลางกอดเจ้า อ้วนที่เค้าว่าไปด้วย
“ไดจังล่ะก็ ชั้นไม่ใช่เด็กแล้วนะ แล้วก็ไม่ได้อ้วนด้วย!” ยามะจังทำหน้าบูด พลางสะบัดตัวหนี
“เอ๊า ไม่ได้นะ ก็นายน่ารักขนาดนี้เกิดเป็นอะไรขึ้นมาชั้นจะทำยังไงห๊ะ อีกอย่างไม่อ้วนเรียกว่าอะไรห๊า ”
5555+
การทะเลาะกันของไดจังและยามะจังเรียกเสียงหัวเราะจากทุกๆคนได้เป็นอย่างดี
“ไดจัง!!!!!” ยามะจังกำลังจะเถียงต่ออยู่นั้น
“Ok! มั่นใจได้เลย เคย์โตะซะอย่าง 555” (รู้สึกพี่เคย์โตะของเราจะไม่ไหว)
“เชื่อมือได้เลย ยังไงยามะจังก็เพื่อนของพวกเรา เราก็ต้องดูแลอยู่แล้ว จริงมั๊ย” ยูโตะพูดออกมา
เพื่อนหรอ? คำนี้ทำเอายามะจังสะดุ้งเล็กน้อย
“อื้อ ฝากด้วยล่ะ” ไดจังส่งยิ้มหลับสบาย คลายห่วงไร้กังวล ไปให้เพื่อนหนุ่มทั้งสองของยามะจัง
“งั้นปะ พี่ยูยะไปกันเหอะ”
“จ้า งั้นทุกคนชั้นไปก่อนนะ ไดจังชั้นกลับล่ะ”
“บ๊ายบาย”
หลังจากที่พี่ยูยะและชี่ออกไปแล้ว
“งั้นไดจังเรากลับบ้านกันเหอะ หิวจะตายอยู่แล้ว” ยามะจังหันไปเขย่าแขนไดจังที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ได้ๆๆๆ รู้สึกว่าวันนี้ แม่จะทำสตูล่ะ”
“เอ๊ะ จริงอ้ะ! เร็วเหอะ กลับกันเหอะ งั้นชั้นกลับก่อนนะ ว่าแต่นายสองคนกลับไงอ่า” ยามะจังหันไปหาเพื่อนหนุ่มทั้งสอง
“ชั้น คงกลับคนเดียวมั้ง เคย์โตะต้องไปส่งน้องริวไม่ใช่หรอ” ยูโตะตอบยามะจังและหันไปหาเคย์โตะ
“no no เค้ากลับกับเพื่อนน่ะ นานๆทีค่อยจะกลับด้วยกัน แล้วชั้นจะกลับกับนายอ่ะ”
“อ่อ โอเค งั้นก็แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะยามะจัง อย่ากินเยอะล่ะ แล้วก็ห้ามกินแล้วนอนด้วยเข้าใจมั๊ย” ยูโตะหันไปพูดกับยามะจังน้ำเสียงปนดุๆเล็กๆ
“โอเค เข้าใจแล้ว”
“เหๆๆๆๆ ยูโตะเป็นคนแรกนะเนี่ย ที่เตือนยามะจังได้น่ะ ทั้งชั้นและแม่ นะ บอกยังไงก็ไม่ฟังหลับไปก่อนทุกทีเลย 555” ไดจังเริ่มเปิดฉากการนินทาระยะเผาขน
“ปุ้ด!ฮ่าๆ”“ฮ่าๆๆๆๆ” ทำเอาโตะทั้งสองหัวเราะออกมา อย่างสุดๆ
“ไดจัง! อย่าเผาชั้นสิ นายสองคนก็อย่าหัวเราะดิ้!!!! กลับแล้ว!” ยามะจังก็เดินตึงตังออกจากห้องไปเลย
“เฮ้ย รอชั้นด้วยสิ ยามะจ๊างงงงง” ไดจังเลยต้องวิ่งตามยามะจังออกไป
“ฮ่าๆ งั้นเรากลับกันเหอะ ยูโตะ” เคย์โตะ เช็ดน้ำตา(ขำมาก) แล้วหันไปคว้ากระเป๋า
“อื้อ กลับกันเหอะ”
ระหว่างทาง
“เฮ้ย ยูโตะ”
“ว่าไง”
“ทำไมวันนี้นายดูแปลกๆวะ ชอบเหม่อไปทางยามะจังอยู่เรื่อยเลย
อ่ะ ระ หรือว่านาย
” เคย์โตะค่อยๆชี้นิ้วมามาที่ยูโตะพร้อมทำหน้าตกใจจนโอเว่อร์
“อะไรของนายน่ะ ไม่หรอก” ยูโตะปัดนิ้วเพื่อนรักออกไป
“เฮ้ย แต่นายน่ะ แปลกๆนะ เวลามองยามะจังทีไร ทำหน้า อย่างกับคนหลงอยู่ในความฝันยังไงยังงั้นแหละ” เคย์โตะถามต่อด้วยสีหน้าปกติ
“อืม นั่นดิ ชั้นก็ว่างั้นแหละ ชั้นก็ไม่รู้ทำไม เผลอมองทุกทีเลย อย่างเมื่อกี้ตอนที่เห็นยามะจังกับไดกิคุงเล่นกัน ชั้นก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมานิดๆ ได้ยังไงก็ไม่รู้สิ” ยูโตะพูดทำหน้าเครียด เฮ้อ ไม่เค้าใจตัวเองจริงๆ
ยูโตะคิด
“เฮ้ ชั้นว่ามันไม่ธรรมดาแล้วนา ชั้นรู้นิสัยนายดีน่า มันต้องมีอะไรซักอย่าง แน่ๆ” เคย์โตะทำท่าคิดเหมือนนักวิเคราะห์
“เคย์โตะ
.หรือว่าชั้น จะหลงรักยามะจังเหมือนอย่างที่นายคิดจริงๆนะ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คนในฝันชั้นล่ะ เฮ้อออ” ยูโตะพูดมาอย่างลอยๆแล้วก็ดันมาเข้าหูเพื่อนสนิทพอดี
“เออ ใช่!” ปิ๊ง!หลอดไฟบนหัวเคย์โตะแว๊บออกมา
“นายตามชั้นมานี่ เร็ว” เคย์โตะพูดพร้อมลากมือเพื่อนให้เดินตามไป
“เฮ้ นายจะไปไหนน่ะ ไม่กลับบ้านรึไง!”
ณ ร้านหมอดูทำนายชะตาชีวิต คิดดีทำดี เป็นศรีแก่ตน
“เฮ้ย เคย์โตะ นายพาชั้นมาที่นี่ทำไมวะ”
“ก็มาถามเขาให้รู้แน่ชัดไปเลย ว่าคนในฝันนายน่ะ มันเป็นใคร อยู่ที่ไหน ที่นี่แม่นมากนะ แม่ชั้นบอกมา” เคย์โตะ พูดอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม มันเอาจริงแฮะ
“ตะ แต่ถ้าเค้าอยู่ไกลมากๆล่ะ หรือเค้าอาจจะไม่อยากเจอชั้นก็ได้” หน้ายูโตะฉายแววกังวลออกมา
“นายไม่ต้องห่วง เพราะชั้นสงสัยว่ายามะจังเนี่ยแหละ คือคนในฝันของนาย” เคย์โตะพูดพลางเดินไปต่อคิว
“เอ๊ะ! ทะ ทำไมนายคิดอย่างนั้นล่ะ” ยูโตะค่อนข้างตกใจกับคำตอบของเพื่อนรักมาก
“ก็จากที่นายบอกถึงความรู้สึกที่เห็นยามะจังครั้งแรก กับนายจะเปลี่ยนไปเวลาอยู่กับยามะจังน่ะ ชั้นเลยคิดว่า อาจจะใช่ แล้วมันก็ตรงกับที่ชั้นกับชี่คิดไว้ ก็คือ ในฝันเมื่อคืนนายเห็นหน้าเค้า พวกเราเลยคาดการว่า จะได้เจอกันวันนี้ไง และวันนี้ยามะจังก็เข้ามาพอดี” เคย์โตะอธิบาย
“แต่ว่า อาจเป็นเรื่องบัญเอิญที่ยามะจังย้ายเข้ามาวันนี้ก็ได้นี่นา อีกอย่างถ้าเป็นยามะจังจริง ทำไมชั้นถึงจำหน้า และ เสียงเค้าไม่ได้ล่ะ ถึงความทรงจำจะเลือนรางแต่ถ้าได้เห็นหรือได้ยิน ก็น่าจะระแคะระคายมั่งสิ”
“นั่นแหละ Friend! เพราะอย่างนี้ไงเราถึงต้องมาถามหมอดูว่ามันเป็นยังไงกันแน่ อีกอย่างความบัญเอิญไม่มีในโลกหรอก ทุกอย่างเกิดขึ้นมาตามพรหมลิขิตที่ได้ถูกลิขิตไว้แล้ว ซึ่งใครก็ไม่อาจรู้ได้” เคย์โตะพูดจบและก็ยิ้มออกมา
ยูโตะก็เข้าใจความหมายของเคย์โตะ จึงยืนรอต่อไปโดยไม่บ่นอีก
10 นาทีต่อมา
“เชิญเข้ามาเลย” เสียงเรียกดังออกมาจากในม่านกำมะหยี่สี่ม่วงเข้ม
“เฮ้ยๆ เค้าเรียกแล้ว” เคย์โตะพูดอย่างตื่นเต้นพร้อมเดินนำเข้าไป พวกเขาพบกับหญิงคนหนึ่งมีผ้าผืนบางสีแดงเลือดหมูปิดตั้งแต่จมูกลงมา แต่ก็พอจะมองเห็นหน้าทั้งหน้าได้
“พวกเธอโชคดีนะ เป็นคนสุดท้ายพอดี เอ้าเชิญนั่ง ” หล่อนเชิญให้พวกเขาสองคนนั่งลง ณ ตรงหน้า ของหล่อน
“เอ่อ งั้นรบกวนหน่อยนะครับ” สองหนุ่มค่อยๆนั่งลงอย่างเกรงใจ
“เอ้า ว่ามา มีเรื่องอะไร” หล่อนถามหลังจากที่ปล่อยให้สองหนุ่มหายตื่นเต้น
“คือ เรื่องเพื่อนผมคนนี้น่ะครับ” เคย์โตะชี้ไปทางเพื่อนรัก
หล่อนหันไปจ้องหน้ายูโตะ
“อ่าฮะ” หล่อนตอบพร้อมเงียบไปซักพัก ทำเอาสองหนุ่มรู้สึกอึดอัด
และอยู่ๆหล่อนก็พูดขึ้นมา หลังจากเงียบอยู่นาน
“เธอน่ะ!”
“ค ครับ!” ยูโตะสะดุ้งเมื่อถูกหญิงตรงหน้าเรียกชื่อ
“เคยฝันเห็นพรหมลิขิตของตัวเองใช่มั๊ย”
คำถามนี้ทำเอาสองหนุ่มของเราอึ้งไปทีเดียว เค้ารู้ได้ยังไงกัน!
“ช ใช่ครับ!”
“อืม ไหนลองเล่ามาซิ”
“ผมฝันว่า
” และยูโตะก็เล่าเรื่องราวในความฝันทั้งหมด ตั้งแต่ฝันครั้งแรก และครั้งล่าสุดที่เห็นหน้าเธอแล้วจำหน้าไม่ได้ จนถึงเรื่องที่พบกับยามะจังวันนี้และความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้น
“
จนถึงตอนนี้ความรู้สึกตอนที่ผมเห็นหน้าเค้าครั้งแรก ก็ยังติดอยู่ในความทรงจำของผมอยู่เลยครับ”
หล่อนเงียบไม่ตอบ และหลับตาลง
“เธอน่ะกำลังถูกโชคชะตาทดสอบอยู่น่ะสิ” หล่อนพูดทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
“ ทดสอบ? มะ หมายความว่ายังไงครับ” ยูโตะขมวดคิ้วอย่างสงสัย
หล่อนค่อยๆลืมตาแล้วพูดว่า
“การที่เธอจำหน้า หรือ เสียงของเค้าไม่ได้ เป็นเพราะโชคชะตากำลังทดสอบเธออยู่”
หล่อนหันไปจิบกาแฟที่วางอยู่ข้างๆ
“แล้วมันทดสอบอะไรครับ แล้วทำยังไงผมถึงจะจำหน้าเธอได้” ยูโตะรีบถาม เพื่อหวังจะได้คำตอบแต่แล้ว คำตอบที่ได้กลับทำให้เกิดคำถามขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วน
“แล้วเธอก็จะรู้เองแหละ เรื่องแบบนี้มันบอกกันไม่ได้หรอก” หล่อนยิ้มน้อยๆให้ยูโตะ
หมายความว่ายังไงกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเมื่อไหร่ชั้นจะได้เจอเธอ
.
เงียบซักพัก
หล่อนก็พูดขึ้นมาเหมือนอ่านใจเขาได้
“ถ้าพรหมขิลิตบอกว่า เราเป็นคู่รักกัน ไม่ว่าจะไกลหรือ นานแค่ไหน ก็จะต้องได้พบกันอย่างแน่นอน ขอเพียงเธอรอจนถึงวันนั้น แหละไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่จะมาขวางกั้น เท่านั้นก็พอแล้วล่ะ”
นั่นสินะ เราจะต้องได้พบกันอย่างแน่นอน แต่จนกว่าจะถึงวันนั้นชั้นก็จะตามหาเธอต่อไป
.
.
.
.
“เอ่อ คือ แล้วเรื่องของเพื่อนใหม่กับความรู้สึกแปลกๆล่ะครับ” เคย์โตะทวนคำถามอีกครั้งเพื่อย้ำขอคำตอบ ยูโตะเองก็เหมือนนึกขึ้นได้ ใช่แล้ว! ยามะจังล่ะ
“ข้อนี้ชั้นก็ตอบไม่ได้เหมือนกันแหละ แต่เธอสองคนน่ะผูกพันกันมากเลยนะ” หล่อนยิ้มอีกครั้ง
“เอาเป็นว่า อย่ามองข้ามความผูกพันนั้น แล้วให้ความสำคัญกับความรู้สึกนั้นให้มากละกัน เพราะบางที อาจมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้”
.
สองหนุ่มยังคงทำหน้า งง ต่อไป แต่ก็ต้องจำใจกลับทั้งๆที่ยังรู้สึกคาใจอยู่
“ครับผมจะจำไว้ ขอบคุณมากนะครับ”
“ขอบคุณครับ” สองหนุ่มโค้งให้หล่อนและก็ค่อยๆหันหลังเดินกลับไปทางประตูผ้าม่าน
“อย่าลืมนะ! อย่ามองข้ามความผูกพันนั้น แล้วให้ความสำคัญกับความรู้สึกนั้นให้มาก” หล่อนยิ้มกว้าง
ยูโตะ ยิ้มตอบและพยักหน้าให้
ครืด! (เสียงแหวกผ้าม่าน)
หลังจากที่สองหนุ่มออกไปแล้ว หล่อนก็เปิดผ้าปิดหน้าออก
“เฮ้ออออ ทั้งๆที่ได้พบกันแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่รู้สึกตัวสิน้า”
.
To be con
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ยาวเฟื้อยยย ฮ่าๆๆ เริ่มงงกันแล้วใช่ม้าา โซลก็งงเหมือนกัน เหอะๆ
TT มีไรก็ถามมาน้าา (เครียด)
ความคิดเห็น