ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic hey!say!jump] Special Short Fic

    ลำดับตอนที่ #2 : [SP] Thank you that you were born (2)

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 53




              เวลาตลอดหนึ่งอาทิตย์ พวกผมทุ่มซ้อมกันจนสุดตัว เพื่อคอนเสิร์ตที่ออกมาให้ดีและเยี่ยมที่สุด เราเหนื่อยกันทุกวัน แต่พวกเราก็มีความสุข ถึงจะเหนื่อยแต่ทุกคนก็คอยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี เวลาพักก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จึงทำให้ผมลืมความเหนื่อยไปได้ทุกครั้งเลยทีเดียว เทียบกับเวลาที่ผมทำงานคนเดียวแล้ว แบบนี้ดีกว่าเยอะ ถึงจะเหนื่อยเหมือนกัน แต่มันแตกต่างตรงที่ ณ ตรงนั้นมีใครคอยอยู่เคียงข้างเราด้วยรึเปล่า สำหรับผม ผมไม่ต้องการชื่อเสียง ผมขอแค่ได้ทำงานโดยมีสมาชิกทุกคนอยู่เคียงข้างก็พอแล้วล่ะ ไม่อยากจะออกไปทำงานและเหนื่อยเพียงลำพังอีกแล้ว แต่ผมทำไม่ได้ ทำไมน่ะหรอเพราะผมต้องทำไงล่ะ แต่เพื่อใครล่ะ ผมยังไม่รู้ถึงข้อนี้แต่ก้นบึ้งของหัวใจมันบอกว่า ต้องทำ เพื่อใครที่ผมยังไม่รู้ว่าใคร

     





              ในที่สุดวันที่ต้องเล่นคอนเสิร์ตก็มาถึง มันเป็นวันที่
    8 เดือนพฤษภาคม เป็นวันเสาร์ วันนี้เป็นวันขึ้นคอนเสิร์ตวันแรกและรอบแรก โดยจะขึ้นรอบสองในวันที่ 11 ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่เราจะเว้นประมาณสองถึงสามวัน ในการขึ้นคอนเสิร์ตแต่ละรอบ แถมรอบที่สองยังเป็นช่วงเย็นอีกด้วย เลยทำให้พวกผมมีเวลาพักผ่อนกันมากขึ้นเลยล่ะ

     



    ก่อนขึ้นเวที



    เอาล่ะทุกคน ลุยกันเถอะ!” ยาบุคุงเป็นคนกล่าวเริ่ม



    โอ้ว ไปทำคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดกันนะพวกเรา เย้!” ตามด้วยฮิคารคุง เป็นปกติอยู่แล้ว ที่ฮิคารุคุงกับยาบุคุงจะเป็นคนที่ อืม เรียกว่าอะไรดีล่ะ รวมพลังให้พวกเรามั้ง (หัวเราะ)



    โอ้!!!!!” ทุกคนพูดพร้อมกันด้วยรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นและดีใจ



    เอาล่ะ ทุกคนเอามือมารวมกันนะยาบุคงวางมือไปคนแรก ตามด้วยพวกเราวางตามลงไป



    ความเหน็ดเหนื่อยและตั้งใจของพวกเรา มีเพื่อวันนี้! เพราะฉะนั้น ทำให้เต็มที่ แล้วสนุกกันให้สุดๆไปเล้ย!!!”



    เย้!!!!!!”






             ปึป
    ! เสียงทุกคนยกมือขึ้นเฮ พร้อมกัน เวลานั้นผมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมันเงียบลงอย่างน่าประหลาด ผมมักเป็นอย่างนี้เสมอเวลาจะขึ้นคอนเสิร์ต และผมคิดว่าทุกคนก็เป็นเหมือนกัน มันตื่นเต้นและตื้นตัน จนทำให้เผลอยิ้มออกมาอย่างหุบไม่ได้เลยทีเดียว




    อ๊ะ
    เหมือนผมจะเริ่มนึกออกแล้วนะ ว่าผมทำเพื่อใคร



    วินาทีเดียวกับที่ผมพูดกับตัวเองเมื่อกี้ ก็มีเสียงดังกระหึ่มเข้ามาจากทางด้านหน้าของเวที



    “Jump!”

     

     


    “Jump!”

     

     


    “Jump!”

     


            เสียงเรียกจากผู้คนด้านนอกที่ตะโกนเรียกพวกผมอยู่ มันทำให้หัวใจผมเต้นแรง ความรู้สึกนี้อีกแล้ว มันเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อผมจะขึ้นเวที และมีผู้คนที่กำลังเรียกผมอยู่ ยืนอยู่ตรงหน้า คนพวกนี้ทำไมนะ เขาถึงมาดูพวกผมกันทุกๆครั้ง แต่นั่นแหละ ถึงผมจะสงสัยแต่พวกเขาก็ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องการพวกเขา อยากให้เขามาหา อยากให้เขามาดู อยากให้เขามาเรียกชื่อของพวกผม
    !!!




    เอาล่ะไปกันเล้ย!”



         เมื่อได้ยินเสียงยาบุคุงเรียก เสียงเพลงเปิดก็ดังกระหึ่มแข่งกับเสียงแห่งความยินดีของผู้คนที่มาดูพวกผมอยู่ที่ด้านนอก ราวกับว่ากำลังรอคอยพวกผมอยู่



    ผมก้าวขึ้นเวทีและจับไมค์ให้มั่น พร้อมที่จะส่งเสียงเพลงที่ออกมาจากใจ จากความรู้สึกทั้งหมด

    .

     


    .

     


    .

     


    .

     


    .



            บนเวที ผมมองเห็นหน้าผู้ชมทุกคน ทุกคนยิ้ม
    ยิ้มให้พวกผมทุกคนที่อยู่บนเวที ผมเห็นแล้วอดรู้สึกขอบคุณ และยิ้มตอบกลับไปไม่ได้ ความรู้สึกที่สุขล้นขนาดนี้ ผมเคยสงสัยนะว่าจะหาได้อีกที่ไหน ถ้าไม่ใช่ที่นี่ ผมเห็นป้ายชื่อผม ที่ทุกคนถืออยู่ลานตา สลับกับชื่อสมาชิกคนอื่นๆอยู่มากมาย ชื่อชื่อของผม

     



         …
    ผมรู้แล้วล่ะ ว่าผมทำเพื่อใคร ผมทำเพื่อพวกเขาไงล่ะ เพื่อแฟนๆที่แสนสำคัญของผม ผมนี่ใช้ไม่ได้จริงๆลืมได้ยังไงนะ ว่าผมทำเพื่อใคร ในเมื่อผมมีแฟนๆที่คอยติดตามและเฝ้ามองผมอยู่ตลอดเวลา และยินดีทุกครั้งเมื่อเจอผม ไม่ว่าจะเจอกันตรงหน้าหรือผ่านจอทีวี แต่ทุกคนก็มักจะมองผมด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ

     



       

           …
    ผมรู้สึกโล่งใจแล้ว ความเหนื่อยทั้งหมดของผมเมื่ออาทิตย์ก่อน มันจางหายไปหมดแล้วล่ะ ใช่แล้ว เพราะผมได้รู้ว่า ผมได้ทำเพื่อใคร ผมได้ทำและต้องทำเพื่อแฟนๆที่ผมรัก และรักผม(ผมเห็นเขาเขียนว่ารักผมนะ ในป้ายที่ถือกันอยู่น่ะ (ยิ้ม)) และยังเฝ้าคอยผม ดังนั้น ผมจึงทำเพื่อรอยยิ้มของแฟนๆของผม ทำเพื่อให้ทุกคนดีใจ ที่ได้เห็นผลงานของผม ทำเพื่อให้ทุกคนมีความสุข

     





            หลังจบคอนเสิร์ต ผมลงจากเวทีด้วยความตื้นตันใจ จากความรักและรอยยิ้มจากแฟนๆที่มอบให้ผมตลอดสองชั่วโมงนี้ แค่นี้ผมก็รู้สึกว่า พลังชีวิตที่สมาชิกบอกว่า ถูกละครหฤโหด (หัวเราะ) ที่ผมแสดงดูดไป กลับคืนมาหมดแล้วล่ะครับ

     





              แต่พูดๆไป ก็รู้สึกดีมากๆเลยนะ ที่ได้ทำอะไรๆเพื่อคนที่เรารัก คนที่ไม่เคยไปจากผมเลย มีแต่อยู่เคียงข้างผมเสมอ ตอนนี้ผมไม่หวั่นเรื่องงานแล้วล่ะครับ ในเมื่อผมรู้แล้วผมว่าทำเพื่อใคร และไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ผมก็พร้อมที่จะพยายามสู้และเต็มที่กับมัน เพื่อแฟนๆที่ผมรักยังไงล่ะครับ (ยิ้ม)

     






             วันนี้เป็นวันที่
    9 ผมออกจากบ้านมาแต่เช้า โดยที่คนในบ้านยังไม่มีใครตื่น ก็นะ วันอาทิตย์นี่นา ส่วนผมเป็นเพราะเมื่อวานอิ่มใจ (และก็เหนื่อย (หัวเราะ)) ล่ะมั้งครับพอถึงบ้านผมเลยหลับสนิททันที เลยตื่นเช้าน่ะ แต่ว่าวันนี้ทำไมรู้สึกเหมือนลืมอะไรนะ ผมลืมอะไรใช่รึเปล่าครับ ผมนึกไม่ออก (หัวเราะ)

     




             ผมไปถึงบริษัท และมุ่งหน้าไปที่ห้องพักของพวกเรา ในนั้นมีไดจังนอนอยู่บนโซฟาเพียงคนเดียว แถมจะยังไม่ตื่นด้วยนะ ทั้งๆที่ผมเข้ามาแล้ว ผมเลยตัดสินใจไม่ปลุกเขา และผมก็พบกล่องเหล็กใบใหญ่ใบนึง รอบๆมีกล่องของขวัญและดอกไม้วางเต็มไปหมด จนเกือบหล่นจากโต๊ะ ผมขมวดคิ้วแล้วคิด





           …
    ของใครกันนะ เยอะแยะเชียว





           ผมเดินไปจับๆกล่องเหล็กใบนั้น และลองเขย่าดู หือ
    ข้างในเป็นกระดาษหรอ ขณะที่ผมกำลังวิเคราะห์กล่องใบนั้นอยู่ ไดจังก็พูดขึ้นมา ทั้งๆที่ตายังปิด




    ยามะจังของบนโต๊ะน่ะของยามะจังนะไดจังพูดด้วยเสียงงัวเงียเล็กน้อย



    เอ๊ะ ทั้งหมดเลยหรอไดจังผมเผลอร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ



    อืม ทั้งหมดนั่นแหละไดจังตอบแล้วก็ดูเหมือนจะหลับต่อไปอีกครั้ง





            ผมยืนทำตาโตอยู่หน้าโต๊ะที่เต็มไปด้วยของขวัญ นี่มันอะไรกันนะ ทำไมถึงมีของขวัญส่งมาล่ะ ผมทำอะไรหรอ หรือว่าแสดงความยินดีเรื่องละคร อืม
    แต่มันก็นานแล้วนะ อีกอย่างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดส่งของขวัญมา อีกอย่างใครกันนะส่งมาเยอะแยะเชียว ผมคิดไปก็จับๆนับๆของขวัญดู นี่มันเยอะมากเลยนะเนี่ย มีทั้งกล่องเล็กกล่องใหญ่ แล้วผมจะเอากลับบ้านยังไงล่ะ

     






           ผมยืนคิดเรื่องการขนส่งซักพัก ก็นึกถึงกล่องเหล็กใบนั้นขึ้นมา จริงสิ เปิดดูดีกว่า ข้างในเป็นอะไร พอผมเปิดออกมา รู้มั๊ยว่าผมอึ้งและตกใจแค่ไหน ในนั้นน่ะ เต็มไปด้วยการ์ดวันเกิดและจดหมายมากมายอยู่เต็มกล่องเลยล่ะ วันนี้วันเกิดผมนี่นา
    ! ผมลืมไปได้ยังไงนะ ถึงว่าสิ สงสัยเราจะทำงานหนักไป (หัวเราะ) ผมขำในความป้ำๆเป๋อๆของตัวเอง พลางหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน

     





                ว่าแต่นี่จากแฟนๆทั้งนั้นเลยหรอเนี่ย ดีใจจังเลย พวกเขาไม่ลืมด้วย (ขนาดตัวผมเองยังลืม) อุตส่าห์จำไว้ เป็นส่วนนึงของความทรงจำ ของขวัญก็ด้วยสินะ ทำไงดี ผมดีใจจังเลย
    (ยิ้ม)

     




    ขอบคุณมากนะทุกคน ที่รักและจดจำวันเกิดของผม

     





              ผมพูดกับตัวเองยิ้มๆ ไม่สิ หุบยิ้มไม่ลงต่างหาก แต่ว่านะ แค่จดหมายฉบับเดียว ผมก็ดีใจจนทะลักแล้ว แต่นี่มีเป็นร้อยฉบับแถมของขวัญอีก ตอนนี้ผมคงกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วล่ะ

     





              ผมสะดุดตาการ์ดใบนึงฮะ มันก็เหมือนการ์ดใบอื่นๆในกล่อง (แต่สำหรับผมทุกฉบับมีค่ามากนะ) ไม่รู้ทำไมถึงสะดุดตาก็ไม่รู้ ผมรู้สึกเหมือนมีความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาจากการ์ดใบนั้นมากกว่าใบอื่น ในนั้นเขียนประโยคสั้นๆไว้แค่ประโยคเดียวเท่านั้น เป็นภาษาอังกฤษ

     

           

                                                  

     

     


            ผมอ่านข้อความนั้นนิ่ง ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่รอบ ผมยิ้มกว้าง มันเป็นประโยคสั้นๆแค่ประโยคเดียว แต่ความหมายมันลึกซึ้ง เกินกว่าที่จะบรรยยายออกมาได้เชียวล่ะ
    ผมเอาการ์ดใบนั้นมาแนบที่หน้าอกและหลับตาลง เพื่อซึมซับความรู้สึกของคนเขียนที่เขาฝากความรู้สึกของตัวเองผ่านการ์ดใบนี้มาให้ผม

     





    ……..
    (พูดอะไรบางอย่างขณะที่หลับตา แล้วคุณจะรู้ฮะ ว่าผมพูดอะไร ผมจะบอกตอนสุดท้าย)

     




    หลังจากนั้นผมก็เก็บการ์ดลงกล่อง ทันทีที่ผมปิดฝา ไฟทั้งห้องก็ดับลง ไดจังก็หายไปแล้ว




    “Happy birthday to you~ Happy birthday to you~~”




    ผมได้ยินเสียงเปิดประตู ดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงเพลงเบาๆ ซึ่งเป็นเสียงของผู้คนที่ผมรู้จักดี




         
           น้ำตาผมไหลด้วยความซาบซึ้ง และยิ้มกว้าง สมาชิกทุกคนเดินถือเค้กสตรอเบอร์รี่ก้อนใหญ่ เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับร้องเพลง แฮปปี้เบิร์ดเดย์




    “Happy birthday to you~~~~~~~~~~”





    ผมหลับตาอธิฐาน และเป่าเค้ก ตามด้วยเสียงปรบมือของทุกคน

     





              วันเกิดปีนี้เป็นปีที่ผมมีความสุขที่สุดเลยล่ะ ขอบคุณทุกคนมากๆนะ รวมทั้งแฟนๆที่ผมรักทุกคนด้วย แม้ว่าผมอายุ
    17 แล้ว แต่ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองโตขึ้นมากเท่าไหร่ สำหรับผม ผมคิดว่าผมสามารถเติบโตขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ผมเติบโตมาได้ ด้วยกำลังใจจากทุกคนครับ

     

    .

     



    .

     



    .

     



    .


    ขอบคุณนะ ที่ยินดีที่ผมเกิดขึ้นมา

     



    …End…






    ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน แต่ก็ขอให้เธอรู้ไว้ว่าชั้นมีตัวตนอยู่ตรงนี้

    Happy birthday to you... Yamada Ryosuke

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×