ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Attract Love รักร้ายอันตราย เจ้าชายปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #1 : Promise

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 52


        กาลละครั้งหนึ่ง คำสัญญา


      

     สโลแกน เดิมๆของข้าน้อย

      อ่านแล้วก้อ  เม้นสิค้าบ ^_^//

    Our promise
     
     
    When the wind stop to fan
    When the tide stop to flow
    When I stop to breathing
       That’s when; I’ll stop to love you.
     
    เมื่อไรลมหยุดพัด
    เมื่อไรกระแสน้ำหยุดไหล
    เมื่อไรฉันหยุดหายใจ
    นั้นคือเมื่อวันที่ฉันจะหยุดรักเธอ
     
             
                   ณ ทุ่งหญ้ากว้างสีเขียวสดใส ท้องฟ้าสีฟ้า ลมพัดโชยอ่อนๆ ทำให้ดอกหญ้าสีขาวเล็กๆโอนเอียงอ่อนลู่ไปตามสายลม ตรงกลางทุ่งกว้างมีเนินเขาเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียวสลับกันกับสีแดงของใบเมเปิ้ลที่ร่วงลงมาจากต้นเมเปิ้ลต้นใหญ่ ตั้งต้นตระง่านอยู่กลางเนินเขา ใต้ต้นเมเปิ้ลใหญ่มีเด็กหญิง-ชาย สองคนนั่งเล่นกันอยู่ ให้ความรู้สึกเหมือนนางฟ้าและเทวดาตัวน้อยปลอดภัยอยู่ภายใต้อ้อมกอดของต้นไม้ศักดิ์สิทธ์ บนสวรรค์ก็ไม่ปาน
     
                “เรนๆ ดูสิ วันนี้ท้องฟ้าสีสวยสดใสจังเลย  เสียงเล็กๆ ออกมาจากจีบปากสีชมพูซีดๆ เจ้าของเสียงคือเด็กหญิงผิวขาว หน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโต นัยน์ตาตาสีน้ำตาลอ่อน ประกายสดใสแสดงถึงความเป็นเด็กดี ผมยาวสีเดียวกันกับนัยน์ตาตา สะบัดพลิ้วไหวไปตามลม มือเรียวเล็กยกขึ้นชี้ท้องฟ้า เพื่อให้เด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ มองตาม
                “อืม...อ๊ะ ซี ดูนั้นสิ เด็กชายนามว่าเรน เจ้าของนัยน์ตาสีดำที่ปกติจะนิ่งสนิทอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสายตาของเด็กตัวเล็กๆ หากแต่ตอนนี้กลับฉายแววอ่อนโยนเมื่อเอ๋ยชื่อของเด็กหญิงคนข้างๆนิ้วเรียวขาว แต่กลับดูแข็งแกร่ง ชี้ไปที่ผีเสื้อสีขาวตัวน้อยสองตัวที่กำลัง เล่นอยู่คู่กัน แลดูเหมือนภาพวาด ซีริว หันมองตามเสียงเรียก ดวงตาสดใส เปล่งประกายฉายชัดให้เห็นถึงความตื่นเต้นดีใจ
     
                “โหๆ น่ารักจังเลยยยย 
     
               “หึหึ ใช่ไหมหล่ะ จากสีหน้าเรียบเฉยธรรมดา กลายเป็นอ่อนโยน ริมฝีปากบางๆที่ไม่ค่อยจะมีรอยยิ้มให้เห็น ตอนนี้ กำลังยิ้มน้อยๆอยู่ดวงตาจับจ้องอยู่ที่เด็กหญิงข้างกาย สายลมเอื่อยๆ พัดกระทบหน้าเล็กๆของโย ดอกหญ้าเล็กๆโอนเอียงคลอเคลียพวงแก้มชมพูอย่างยอกล้อ ผมยาวน้ำตาลปลิวพลิ้วไสว ซีริวในตอนนี้ในความคิดของเด็กชายคงไม่ต่างอะไรกับเทพธิดาตัวน้อยๆที่น่า ทนุทนอมบนโลกเลยที่เดียว
     
                 “...เรน...
                
                 “ห๊ะ...หือ?
     
                 “ฉันโชคดีจังเลยนะ ที่ได้เรนมาเป็นเพื่อนน่ะ โยพูดพลางยิ้มสดใสให้
     
                “หืม ? มามุกไหนเนี้ย เรนถามติดตลก
     
                “จริงๆ นะ เราน่ะโชคดีสุดในโลกแล้ว เพื่อนคนอื่นไม่ชอบเราไม่เป็นไร เราขอมีเรนคนเดียวก็พอแล้ว เพราะงั้นเรนก็ไม่ต้องไปทะเลาะกับเพื่อนเพราะเราแล้วนะ เพราะเราไม่สนใจหรอก จริงๆนะ
     
              เรนหันมองหน้าไร้เดียงสาของซีริว มองตากลมโตบ๊องแบ๊วแสดงให้เห็นความจริงใจเปิดเผย ดวงตาสวยนิ่งสบกับตาของโยอยู่เนิ่นนาน ไม่อยากจะเชื่อ ก็เป็นซะอย่างนี้ใครจะทนมองเธอถูกรังแกได้
     
                “ฉันเล่านิทานให้ฟังนะ เรนไม่ตอบคำขอของโย เพราะคิดว่าตัวเองคงทำตามไม่ได้แต่ความน่ารักของเธอกลับทำให้เค้าอยากเล่านิทานให้นางฟ้าตัวน้อยๆฟัง
             
                “อ๊ะ จริงหรอ เอาสิๆ
     
                “อืม มันคือตำนานของดอก Forget me notนะ รู้จักไหม”
     
                “รู้สิ ที่นี่ก็มีนะตรงนู้นน่ะ” ซีริว ตอบ มือบางชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของทุ่งหญ้ากว้างใกล้เส้นขอบฟ้าตรงที่มีสีม่วงอยู่เต็มไปหมด มันคือทุ่งForget me not ที่ขึ้นตามธรรมชาติ
     
               “อืม...กาลละครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ อาณาจักรที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ ที่อาณาจักรนั้นมีเจ้าหญิงที่เลืองชื่อเรื่องความงดงาม อ่อนหวานอยู่องค์หนึ่งมีชื่อว่าอลิส  ไม่ว่าชายใดก็ต่างใฝ่ฝันถึงเธอ แม่มดชั่วร้ายนึกอิจฉา จึงสาปแช่งให้เจ้าหญิงอลิส พูดไม่ได้จนกว่าเจ้าหญิงจะพบกับรักแท้ ที่ไม่ใช่เพียงหลงแต่รูปภายนอก    เมื่อพระราชารู้ก็สั่งให้ข้าราชบริพาร จัดหาผู้เหมาะสมมาแต่งงานกับเจ้าหญิงอลิส แต่ทว่าเรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อ ไม่มีใครรักองค์หญิงอลิสที่ไร้เสียง แถมยังพากันรังเกียจอีก เจ้าหญิงท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อ ทุกๆคืนเจ้าหญิงจะนั่งร้องไห้อยู่ที่สวนดอกไม้ หลังพระราชวังติดกับป่าใกล้ลำธาร จนกระทั่งคืนหนึ่งเจ้าชายเอริคจากแคว้นอันห่างไกล ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆจึงเดินมาตามเสียงเรื่อยๆ จนพบกับเจ้าหญิงที่นั่งร้องไห้อยู่ เจ้าชายตกหลุมรักเจ้าหญิงทันที ถึงแม้ภายหลังเจ้าชายจะรู้ว่าองค์หญิงพูดไม่ได้ เมื่อแม่มดรู้เข้าจึงโกรธมาก กระทั่งในคืนๆ หนึ่ง เจ้าชายเอริคกำลังจะขอเจ้าหญิงแต่งงาน ณ สวนดอกไม้ที่เจ้าชายเจอเจ้าหญิงครั้งแรก เจ้าชายเดินจูงมือเจ้าหญิงมานั่งบนโขดหินข้างลำธาร บอกให้เจ้าหญิงนั่งรออยู่ตรงนี้ เจ้าชายเดินไปเก็บดอกไม้สีขาวแสนสวยตรงข้างๆลำธาร แม่มดชั่วร้ายเห็นโอกาสจึงเสกพายุหมุนพัดให้เจ้าชายตกลงไปใน กระแสน้ำไหลเชี่ยว เจ้าหญิงตกใจมากไม่รู้จะทำยังไปจึงวิ่งเลียบขอบลำธารตามเจ้าชายเอริคไป ก่อนที่เจ้าชายจะจมลงไปใต้น้ำ เจ้าชายได้โยนดอกไม้ในมือไปให้เจ้าหญิง พร้อม กับตะโกนว่า ‘forget me not’ ทันใดนั้นคำสาปของแม่มดก็สลายหายไปทันทีด้วยอานุภาพของรักแท้ที่ทั้งสองมีให้กัน เจ้าหญิงตะโกนบอกเจ้าชายว่า My heart will be your forever แล้วเจ้าชายเอริคก็จมหายไป เจ้าหญิงเศร้าเสียใจมาก ขณะที่มือสัมผัสได้ถึงอะไรที่แตกต่างไปจากดอกไม้ มันคือแหวนทองคำขาวเกลี้ยง สลักคำว่า Aris&Arik จากนั้นวิญญาณของเจ้าชายเอริค จึงกลายเป็ยเทพพิทักษ์คอยปกป้องดูแลเจ้าหญิง แม้ทั้งสองไม่อาจสื่อสารกันได้ แต่ใจของพวกเขาสัมผัสถึงกันเสมอ”
     
         เล่าจบ เรนก็หันไปมองซีริว ดวงตาสุกใสของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาราวกับจะหยดลงได้ทุกเมื่อ ทะให้เธอดูบอบบางยิ่งกว่าเดิม
     
           “นะ..น่าสงสาร เจ้าหญิงจังเลย” ซีริวพูดเสียงสั่น
          
            “อืม นั้นสินะ แต่เจ้าชายซีริคก็อยู่กับเจ้าหญิงตลอดเวลานะ คอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา”
     
             “อื้อ”
     
            “พวกเขายังอยู่ด้วยกันเสมอ รู้สึกถึงกันได้เสมอ ที่ตรงนี้”เรนพูดพลางเอามือทาบที่อกข้างซ้ายของตัวเอง เงียบไปซักพัก
     
            “...เรน จ๋า าาา” โยเรียกเรนเสียงหวาน สายตาออดอ้อนเต็มที่
     
            “หืม..?”
     
           “ร้องเพลงให้ฟังบ้างสิ”
     
            “.......”
       
            “น้า าาา อยากฟัง”
     
             “......”
     
              “เรนนนน”ดวงตาสุกใส ส่องประกายเว้าวอนสุดความสามารถ
     
             “......”
     
             “เรน” ซีริวเริ่มทำแก้มป่อง
     
             “เอาไว้ร้องเก่งๆ แล้วจะร้องไห้ฟัง” เรนตอบ
     
            “จริงนะ” ซีริวถามตาเป็นประกาย
     
            “อือ”
     
          “สัญญานะ” ซีริวพูดอีกครั้งพร้อมยกนิ้วก้อยสัญญา ขึ้นมา
     
           “อืม” เรนตอบพร้อมยกนิ้วก้อยเรียวยาวไปเกี่ยวกับนิ้วเล็กๆ
     
     
     
     +++++++++++++++++++Aris&Zeric+++++++++++++++
     
     
     
     
     
     
     (วันสอบปลายภาคชั้นประถมปีที่2วันสุดท้าย)
     
       ‘..ติ งตอง   ติ๊ง   ต๋อง   ต่อง   ติง   ติ๊ง   ตอง….’
     
             สัญญาณหมดเวลาสอบคาบสุคท้ายดังขึ้น นักเรียนทุกคนต่างเก็บอุปกรณ์ แยกย้ายกลับบ้าน เสียงคุยดังจ้อกแจ้กตามทางเดิน โยเดินออกจากห้องสอบพบกับเรนที่ยืนรอเธออยู่ที่เดิม เด็กชายยิ้มน้อยๆ ให้เด็กหญิงเหมือนเคย แต่เธอกลับรู้สึกว่าใบหน้านั้นดูไม่เหมือนเดิม ดวงตาของเรนดูศร้อยสร้อย
     
              “ปิดเทอมแล้วนะ เรน”
     
               “อืม ใช่ ปิดเทอมแล้ว”
     
               “ปิดเทอมนี้ ทำอะไรกันดีนะ”  ซีริวถามพลางจ้องเรนตาแป่ว
     
               “...ถึงเวลาแล้วสินะ ไวจริง..เห้อ”
     
                “ห๊ะ เรนพูดว่าอะไรนะ ซีไม่ได้ยิน” ซีริวถาม ขึ้นเมื่อได้ยินที่เรนพูดไม่ถนัด
     
                “อ่อ เปล่าหรอก เราพึมพรำกับตัวเอง น่ะ ซีถามว่าไงนะ”
     
                “เราถามเรนว่า ปิดเทอมนี้ เราจะทำอะไรกันดี   เราไปที่ทุ่งดอกไม้นั้นกันทุกวันเลยดีไหม ”  โยถามเรนเสียงสดใส เรนชะงักหยุดเดินแล้วหัวหน้ามามองเด็กหญิงตัวน้อยสายตาจริงจัง ซีริวมองเรนตาแป่ว งงกับ อาการผิดปกติของคนตรงหน้า
     
                “ ซีริว ”เรนพูด สีหน้าของเด็กชายหน้าที่ปกติจะนิ่งตอนนี้ดูลำบากใจ
     
                “อะไรหรอ” เด็กหญิงถามตาเป็นประกาย
     
                 “ เราต้องไป อังกฤษ ”
     
               ซีริว อึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน เวลาหยุดเดิน ไม่รับรู้ถึงสิ่งรอบข้าง สิ่งที่เธอได้ยินตอนนี้มีแต่คำว่า เราต้องไปอังกฤษ ซ้ำไปซ้ำมา เด็กทั้งสองต่างรู้สึกว่าการเดินแต่ละย่างก้าวนั้นช่างหนักหน่วง
     
                เด็กทั้งสองเดินมาเรื่อยๆจน ถึงทุ่งดอกไม้ที่พวกเขามาเสมอๆ ทุกอย่างยังคงงดงามเหมือนเดิม แต่พวกเขากลับไปรู้สึก สดใส อย่างเคย
     
               เ รนเข้าไปทรุดตัวนั่งอยู่ใต้ต้นเมเปิ้ลใหญ่ต้นเดิม ซีริวนั่งตามทุกสิ่งยังคงเดิม เวลาเดิม สถานที่เดิม ใต้ต้นไม้ต้นเดิม แต่ความรู้สึกของพวกเขาไม่เหมือนเดิม ไม่มีคำพูดใดๆ มีเพียงเสียงสายลมโชยแผ่วเบา เวลาผ่านไปเนิ่นนาน หรือบางทีอาจเพียงเสี้ยวนาที ในที่สุดซีริวก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
     
               “จะไปเมื่อไหร่หรอ” เสียงเล็กถามดวงตาที่เคยสดใส ตอนนี้เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
     
               “พรุ่งนี้” เรนตอบเสียงเรียบ แต่เจือไปด้วยความเศร้าสร้อยอย่างปิดไม่มิด
     
               “เรน ไปเรียนต่อที่ไหนหรอ” เด็กหญิงถามอีกครั้ง เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นน้ำตา
     
               “โรงเรียน Eton รู้จักไหม”
     
              “รู้สิ โรงเรียนผู้ดีอังกฤษ” ซีริวตอบ น้ำตาที่เอ่อคลอทำให้เธอเริ่มมองเห็นทุกสิ่งพร่ามัว
              “อือ”
     
              “ ไปนานแค่ไหนหรอ” ซีริวถามขึ้นอีกครั้ง   เรนส่ายน้อยๆแทนคำตอบ
     
                “ซี หลับตาลงสิ” เรนบอก ซีริลทำตามอย่างว่าง่าย เรนล้วงเอาสร้อยงินเล็กๆ ที่มีแหวนเงินวงสวยห้อยอยู่ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วลุกขึ้นนั่งคุกเข่าใส่สร้อยคอให้โย   ริมฝีปากบางก้มจุมพิตที่ปากน้อยๆ อย่างแผ่วเบา และผละออกมาอย่างรวดเร็ว แก้มขาวเจือสีแดงจางๆ   ขณะที่แก้มของซีริว แดงเป็นลูกมะเขือเทศสุก ดวงตาคมมองสบกับดวงตากลมโตที่เอ่อไปด้วยน้ำตาเหมือนจะไหลลงมาได้ทุกเวลาเนิ่นนาน  
     
               “เราจะกลับมาหาเธอ ” เรนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เด็กหญิงคลี้ยิ้มบาง น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ บัดนี้พรั้งพราย ออกมาเหมือนเขื่อนแตก เธออยากพูดสิ่งต่างๆมากมาย แต่กลับพูดไม่ออก ทำได้แต่พยายามกลั้นน้ำตา การร้องไห้ครั้งนี้ไร้เสียง มีเพียงเสียงสะอื้นที่พยายามข่มไว้จนตัวโยน
            
                “เมื่อไหร่ที่โยคิดถึงเรา ระลึกไว้เสมอนะว่าเราอยู่กับเธอเสมอ ตรงนี้” เรนพูดพร้อมกับชี้ที่หัวใจเด็กหญิง ซีริวยิ้มพลางพยักหน้าทั้งๆที่น้ำตานองหน้า
     
                “ซีจะรอนะ จะรอ...” เด็กหญิงพูดขึ้น มือเล็กบางกำหระโปรงแน่น จนผิวบริเวณนั้นซีด
     
                 “มะ..ฮึก..ไม่ว่าจะ สิบปี ยี่สิบปี หรือ จะต้องรอไปตลอดชีวิตก็จะรอ รอจนกว่าเธอจะมา ฮึกๆ ” ซีริวพูดพลางพยายามกลั้นก้อนสะอื้น เรนเอื้อมมือมาจับมือเด็กหญิงออกจากกระโปรง แล้วกุมมือบางไว้แน่น
     
                “จำไว้นะซี ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง ใจฉันจะอยู่กับเธอเสมอ”
     
                “ ฮึก..สัญญานะ”
     
               “สัญญา”
     
     
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×