ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เพื่อนพ่อ O_O
ฉันตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้า สูดอากาศเข้าเต็มปอดเพื่อรับรสแห่งอิสรภาพของการปิดเทอมวันแรกได้เต็มที่ แต่แล้วความสุขของฉันก็ต้องชะงักลง เมื่อสายตาพลันไปเหลือบเห็น ‘ของที่ระลึก ที่ปีศาจบ้า(แต่หล่อ) ทิ้งเอาไว้ให้’ =_= ช่างเป็นปีศาจกวนTeen
ก๊อกๆๆๆ
“ประตูไม่ได้ล็อก” ฉันตอบกลับไปด้วยความเคยชิน อย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเลยด้วยซ้ำ ก็คงเป็นแม่บ้านที่คอย เข้ามาจัดการนู้นนี้ให้ฉันอย่างเคยคนเดิมนั้นหล่ะ แต่ทำไมมันเงียบๆ ผิดปกติหล่ะ เสียงแจ่นๆ ที่คอยทักทายฉันเป็นประจำหายไปไหนกัน รึว่าเค้าเปลี่ยนคนแล้ว?=_= ว่าแล้วฉันก็เลยเงยหน้าขึ้นมอง คาดว่าจะเห็นแม่บ้านคนใหม่อย่างที่เดา
(=_=)
(=’’=)
(=O=)
“Hi !” เสียงนุ่มทุ่ม ดังขึ้นทัก
“ไปให้พ้น” =[]= ฉันทักตอบ สิ่งที่ฉันเดามันผิดอย่างมหันเลยทีเดียว แทนที่จะมีสาวรุ่น ใส่ชุดเมทเห่ยๆ(ในความคิดฉันนะ ความจริงคนอื่นๆเขาว่าน่ารัก) เข้ามา แต่สิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้คือ หน้าหล่อๆ ของไอปีศาจที่มันทำฉันสติแตก เมื่อคืน
“พูดไม่เพราะเอาซะเลย ผู้หญิงอะไร” นายนั้นพูดยี้ยวน
ยังมีหน้ามากวนประสาทฉันอีก แล้วนี้ ทำไมนายนั้นมาเดินลอยชายในบ้านคนอื่นได้อย่างสบายใจอย่างนี้หล่ะ
“นายเคาะประตูทำไม เริ่มเรียนรู้ที่จะมีมารยาทแล้วเรอะ? รึว่าผ่านประตูไม่ได้แล้ว”ฉันถาม ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่โง่ แต่ฉันว่ามันแปลกๆ อยู่นะ แทนที่ผ่านเข้ามาได้เลยสบายๆ แต่ต้องมาเสียเวลาเปิดประตู ถึงจะดูมีมารยาทแต่ไม่ใช่นิสัยของคน(ปีศาจ)อย่างหมอนี้แน่ๆ
“หึหึ เธอนี้ช่างสังเกตดีนะ ตอนนี้ฉันเป็นคน มนุษย์มีเลือดเนื้ออย่างเธอนั้นหล่ะ ฉะนั้นฉันจึงผ่านสิ่งใดๆ ไม่ได้แล้ว เธอทนอยู่ในร่างกายแบบนี้ได้ยังไง น่ารำคาญชมัด =_=” ประโยคหลังดูเหมือนเขาจะพูดกับตัวเองมากกว่าฉันนะ ถึงนายนั้นไม่ได้บอกว่าหงุดหงิดแค่ใน แต่ฉันว่าใครๆ ก็ดูออกจากสีหน้าที่แสดงออกว่ากำลัง หงุดหงิดอย่างแรง ถ้านายรำคาญมากนายก็ถอดไปสิ =_=
“งั้น ตอนนี้ นายก็คนปกติแล้วหน่ะสิ” ฉันลองแย่บถาม หึหึ ถ้าเป็นงั้นนายเสร็จฉันแน่
“ใช่”
“คนอื่นเห็นนายหมด ใช่ไหม”
“=_= ใช่”
“จับต้องนายได้ด้วยใช่เปล่า(^^)”
“ใช่ =_=” นายปีศาจตอบอย่างเซงๆ ทำท่าเหมือนฉันกำลังถามคำถามอนุบาลกับเด็กมหาลัยอยู่อะไรประมาณนั้น แต่ฉันไม่สนหรอกเพราะนายนั้นเสร็จฉันแล้ว แผนของฉันราบรื่น ฮี่ๆๆๆ >__<
“ดี งั้น.....พ่อบ้านๆๆๆๆ มีผู้ร้ายอยู่ในห้อง ช่วยด้วยๆๆ (>O<)” วะฮะฮะๆ นายตายแน่ ก้ากๆ
“=_=”
=’’= แต่ เอ๊ะ
.ทำไมหมอนี่ทำหน้า เซ็งโลกแบบนั้นหล่ะ นายควรตกใจ แล้วรีบๆหนีสิ =*= ฮ้า ~ คุณพ่อบ้านแก่ๆที่น่าสงสารรีบวิ่งหน้าตาตื่น มาพร้อมกับชายร่างบึก อีก2 คน โธ่ๆๆ โทษซีไม่ได้นะพ่อบ้าน ต้องโทษ รปภ.นู้น หล่ะหลวมเอง กร้ากๆ อีกอย่างหมอนี้มันคนแปลกหน้าจริงๆ นี้นา>_< ซีก็ต้องตกใจ(เหรอ) ที่มีคนแปลกปลอมเข้ามาอยู่มนห้อง ต้องตะโกนเรียกพ่อบ้านมาช่วยซีเป็นธรรมดา จริงป่ะ?
“เกิดอะไรขึ้น ครับคุณหนู” คุณพ่อบ้านถามพลางหอบแห่กๆ สงสัยคงจะตกใจหน้าดู ก็ปกติฉันไม่เคยเรียกให้ใครช่วยนี้นา แถมตึกนี้ก็มีคนอยู่ไม่กี่คน นอกจากฉันก็มีแต่พ่อบ้านและคนรับใช้อีก ร้อยกว่าคนเอ๊งงง >_<(ไม่กี่คนจริงๆนะ ถ้าเทียบกับขนาดตึกอ่ะ) ฉันรีบตีหน้าตื่น แล้วชี้ไปที่ เอลดิสทันที อิอิ (^O^//) นายเสร็จช้านน โฮะๆๆ
“อ่อ คุณชายเอลดิสนี้เอง กระผมก็คิดว่าใคร ผมต้องขออภัยคุณหนูครับที่ไม่ได้รายงานให้ทราบก่อนล่วงหน้า ” เอ๊ะ? หมายความว่าไง “คุณชายคนนี้เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทท่านประธานครับ จะมาพักกับเราสักพักครับ ท่านประธานฝากบอกคุณหนูว่า ขอให้คุณหนูช่วยดูแลตอนรับคุณชายเอลดิสด้วยครับ แล้วบางทีท่านอาจจะติดต่อมาหาคุณหนูอีกที เช้านี้ครับ” พ่อบ้านพูดจบ ก็ส่งยิ้มอบอุ่นใจดีให้เอลดิส
=[]=! ห๊ะ
. ว่าไงนะ หมายความว่าไง ปะป๊าฉันไปเป็นเพื่อนกับปีศาจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แล้วฉันจะต้อง มาดูแลอีตานี่ด้วยหรอ โอ้ย ตามไม่ทันโว้ยยยย ทำไมเรื่องมันกลับตาลปัตรแบบนี้อ่ะ ฉันว่าฉันเห็นนายปีศาจเหมือนจะปล่อย ก้าก มาแว่บนึงด้วย โอ้ยๆ ยอมไม่ได้โว้ยยย หน้าแตก
“ฮะๆ... อุ๊บ ...หึหึ ผมว่าคุณพ่อบ้านกลับไปทำหน้าที่ต่อเถอะครับ ทางนี้ก็เข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว หล่ะครับ” นายเอวดิส พูดเสียงใส
“อ่ะ ครับ ขอให้คุณชายโชคดีครับ”
“ครับ เช่นกัน” แล้วพ่อบ้านก็ออกจากห้องไป ปล่อยให้ฉันเผชิญหน้าอยู่กับนายเอลดิสตามลำพัง=_= เวลาผ่านไปพักนึงอย่างเงียบเชียบ โดยมีฉันที่มีคำถามมากมายในหัวและพยายามทำความเข้าใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนตั้งตัวไม่ติด กับปีศาจหนุ่มหล่อหนึ่งตน มองหน้าฉันดูเหมือนเขากำลังพยายามกลั้นหัวเราะอยู่ด้วย =_=
“นายอยากอธิบายอะไรให้ฉันฟังไหม?” ฉันถาม ดูเหมือนคนที่จะให้คำตอบฉันได้แจ่มแจ้งที่สุดก็คงมีหมอนี่ คนเดียว ชิส์
“เอ่อ....”
~กริ่ง~กริ๊ง
ก่อนที่นายปีศาจ(ซึ้งตอนนี้เป็นคน) จะพูดอะไรกับฉันเสียง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน =_=หมาตัวไหนมันโทรมาตอนนี้วะ? ขณะที่ฉันลังเลว่าควรจะไปรับโทรศัพท์หรือว่าจะไปถอดสายมันออก แล้วมาฟังนายนั้น อธิบายสิ่งที่ฉันสงสัยดี แล้วเสียงนุ่มทุ่มก็ดังขึ้นมาจากปากบาง
“เธอควรไปรับโทรศัพท์ ก่อนนะ ฉันว่าเรายังมีเวลาอีกนานที่จะคุยกัน เชื่อฉันสิ” =_= ทำเป็นรู้ดี แต่ก็จริง ฉันค่อยๆ เดินไปรับโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดมากขึ้นตามลำดับ
“มีอะไร!” ฉันกระชากหูโทรศัพท์ขึ้น แล้วกระแทกเสียงลงไป
“Hey ! Girl. Why’re u shooting ur dad ha!!” เฮ้ยย!! นั้นพ่อฉัน O_O
“Papa!!” ฉันร้องออกไปอย่างตกใจ เหมือนมีใครพูดกับฉันเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ป๊า ฉันจะโทรมานะ
“Yeah..it’s me, how do u do girl. Have u known Eldiz yet?”
“If u means the prince of devil .Yes I know him already, in a minute ago.’’ ฉันตอบรู้สึกประหลาดใจตัวเองนิดหน่อยที่ จำยศเต็มๆของ ตานั้นได้ขึ้นมาทันทีทันใด
“ Maybe he’s. So I hope u’ll take care ‘n be gentle with him.” ว่าไงนะ จะให้ฉันทำตัวสุภาพแล้วก็ดูแล หมอนั้นเนี้ยนะ ปะป๊าบ้าไปแล้ว
“ไม่นะ ปะป๊า ทำงี้ได้ไง” ฉันโพล่งเป็นภาษาไทยไปอย่างไม่พอใจ
“ ไม่มีข้อแม้ลูกรัก ห้ามทำตัวร้ายกาจกับเค้าเด็ดขาด ดูแลเค้าอย่างดีและป๊าคาดว่าหนูควรพาเอลดิสเค้าเที่ยวด้วยนะ เพราะเค้าไม่เคยไปไทยมาก่อน” ป๊าฉันพูดน้ำเสียงเด็ดขาด และเปลี่ยนภาษาตามที่ฉันพูด ไม่ต้องงงว่า ทำไมอยู่ๆ ป๊าฉันพูดภาษาไทยได้ เพราะป๊าฉันทำธุรกิจใหญ่โตมาก ก็เลยต้องเดินทางทั่วโลก ดังนั้น ภาษาที่ป๊าฉันพูดได้ก็ทั่วโลกเช่นกัน=_= และด้วยเพราะว่า พ่อฉันชอบพูดหลายภาษา ฉันจึงต้องรู้หลายภาษาไปด้วย=_=
“ป๊า” ฉันพูดอะไรไม่ออก เลยพูดได้แค่นั้น ถ้าคำว่าเด็ดขาดออกจากปากปะป๊าฉันเมื่อไหร่ คุณจะไม่มีทางโต้แย้งได้เลยไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม เผด็จการจริงๆ=’’=
“เอาหล่ะ ตอนนี้ป๊า อยู่เยอรมันลูกอยากได้อะไรไหม” น้ำเสียงของผู้เป็นพ่อฉันเริ่มอ่อนลง
“อยากได้ Veyron =[]=” ฉันตอบไปอย่างไม่ต้องคิด ฉันอยากได้จริงๆนะ อยากได้มากๆแล้วด้วย และฉันพูดถึงเรื่องนี้หลายรอบแล้ว(เมื่อสามวันก่อน) แต่ป๊าไม่ซื้อให้ฉันซะที่นี้สิ เคืองๆ
“หึหึ ถ้าเรื่องนั้น ป๊าว่าหนูลองไปถามๆ เอลดิสดูดีกว่า หนูต้องทึ่งแน่ๆ ” เสียงขำๆ เล็ดลอดออกมาตามสาย แต่ฉันว่ามันฟังดู มีเลศนัย ยังไงชอบกล
“ป๊า หมายความว่าไงอ่ะ”
“ป๊า ต้องไปประชุมแล้ว หนูต้องดูแลเค้าดีๆนะ เข้าใจไหม?”
“เฮ้... เดี๋ยวสิ ป๊ายังไม่ตอบซีเลย”
“เดี๋ยวหนูก็รู้เองแหล่ะ voir you .bye” =_= นั้นภาษาฝรั่งเศส
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
[Special Eldiz] ผมยืนมองหญิงร่างเล็กดูบอบบางน่าทะนุทนอม เดินไปรับโทรศัพท์ ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ให้ตายสิ นิสัยของเธอไม่น่าทะนุทนอมเอาซะเลย ทำไมกัน เท่าที่ผมรู้มาเธอคือคนที่น่ารัก อ่อนแอ มีแต่คนรังแกนี่ แล้วทำไมที่ผมเห็น ดูเหมือนเธอจะเป็นคนคอยแกล้งคนอื่นซะมากกว่า(=’’=) เธอดูเข้มแข็งและไม่ยอมคน กาลเวลาทำให้คนเปลี่ยนขนาดนี้เชียวหรอ แต่ผมไม่สนหรอกว่า เธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เพราะไม่ว่ายังไงผมก็ต้องทำตามสัญญา ผมตั้งใจไว้แล้ว
มีอีกเรื่องที่กวนใจผมมาตลอดทั้งคืน นั้นคือเรื่องตู้เสื้อผ้า =_= บางทีตู้เสื้อผ้าที่บ้าน (ตึก) ของยัยนี่ อาจจะแตกต่างกับตู้ธรรมดาทั่วไป ผมเลยว่าจะขอสำรวจซะหน่อย และเมื่อซีริวกระแทกเสียงใส่โทรศัพท์ ผมก็เดินไปหาตู้เสื้อผ้าทันที [Special Eldiz End]
ฉันจ้องมองโทรศัพท์ที่ถือค้างไว้ในมือ ด้วยอารมณ์สับสน ที่ป๊าฉันพูดนี้มันหมายความว่าไง=_= หมอนั้นมันเกี่ยวอะไรกับ Veyron ที่รักของฉัน ขณะที่ฉันกำลังทำใจเรื่องที่ต้องดูแลผู้ชายที่ไหนไม่รู้อยู่ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่านายนั้นจะต้องอธิบายสิ่งที่ค้างคาให้ฉันกระจ่างก่อน ฉันค่อยๆบรรจงวางโทรศัพท์ลง เพื่อไม่ให้มันสึกหร่อไปมากกว่านี้ หลังจากที่ฉันกระชากมันอย่างไม่ปราณีด้วยความหงุดหงิดเมื่อนาทีก่อน ฉันแอบมองเห็นว่า สายมันจะหลุดด้วย =’’= บอบบางดีแท้ ฉันค่อยๆ หันหน้ากลับไปมองที่ๆนายเอลดิสเคยยืนอยู่ แต่ฉันกลับมองเห็นแต่ความว่างป่าวบนพรมเท่านั้น ฉันค่อยๆไล่สายตาเพื่อมองหาเขา และฉันก็เจอ O_Oเฮ้... นั้นเขาทำอะไรอยู่กับตู้เสื้อผ้าฉันหน่ะ
รักพี่สาวจัง ขอบคุณที่แนะนำให้เค้าน้า >__<
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น