คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เด็กชายผู้มีดวงตาสีชมพู
ต้นฤดูใบไม้ผลิสายลมอ่อนพัดพาลมหนาวที่ยังหลงเหลืออยู่กระจายไปทั่วทุกแดน ถึงแม้พระอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้า แต่อากาศกลับเย็นสบายจนน่านอนกลางวันสักงีบ บวกกับเสียงนกร้องยิ่งขับกล่อมชวนให้เคลิ้มหลับใหลจนไม่อยากตื่นไปถึงเย็น
เด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนต้นไม้ก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบวันที่อากาศกำลังสบายแบบนี้ เขามักมางีบหลับกลางวันบนต้นไม้เป็นประจำหลังข้าวเที่ยง ก่อนจะไปฝึกซ้อมดาบต่อในช่วงบ่ายกับลุงของเขา
วิชาดาบป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบมากที่สุดแต่ก็ชอบรองลงมาจากลุงจิน ผู้ซึ่งเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังแบเบาะ ลุงจินรักและเอ็นดูเขาเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ตัวเขาเองก็รักและเคารพลุงจินเหมือนพ่อแท้ๆเช่นกัน พ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใครนั้นลุงจินไม่เคยบอกเขาเรื่องนี้ และตัวเขาเองไม่คิดที่จะถามเช่นกัน ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่กับลุงจินก็มีความสุขดีอยู่แล้ว เรื่องอื่นก็คงไม่จำเป็น(มั้ง!) ไม่แน่สักวันเขาคงจะถามแต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอก!
นอกจากวิชาดาบที่เขาชื่นชอบและถนัดมากที่สุดแล้ว ก็คงไม่มีเรื่องไหนที่เขาถนัดอีก ทำอาหารไม่เป็น หลงทิศหลงทางประจำ ซื่อๆจนเกือบจะซื่อบื้อด้วยซ้ำ ยิ่งเรื่องเวทมนตร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่เอาอ่าวเลย ไม่สิ! ต้องเรียกว่า ‘ ห่วยขั้นเทพ ’ ถึงจะถูก! ไม่ว่าจะพยายามเรียนแค่ไหนก็ทำได้แค่เสกลูกไฟได้เท่าหัวแม่มือ อ้อ! แต่มีเวทบทหนึ่งที่ถูกลุงจินเคี่ยวเข็ญไม่ว่ายังไงก็ต้องใช้ให้ได้ เขาฝึกเวทบทนี้เกือบสิบปีกว่าจะใช้ได้และคงสภาพเอาไว้ได้นาน เด็กหนุ่มตั้งชื่อเล่นมันว่า ‘ เวททรมานทรกรรม ’ ( เพราะถูกบังคับให้เรียนให้สำเร็จ ) ซึ่งชื่อจริงๆของเวทบทนี้คือ ‘ เวทแปลงกาย ’
เขาใช้เวลาสิบปีในการเรียนเวทบทนี้เพียงเพื่อเปลี่ยนสีตาเท่านั้น! ซึ่งนั่นก็ถือว่าเยี่ยมยอดแล้วสำหรับคนที่ไม่ถนัดเวทอย่างเขา เขาใช้เวทบทนี้ เพื่อปกปิดสีตาที่แท้จริงจากคนภายนอก เพราะมันคือจุดเด่นที่จะยืนยันตัวตนที่แท้จริงของเขา ดวงตาสีชมพูสดใส งดงามดั่งอัญมณีน้ำงาม ลักษณะเฉพาะของชนเผ่าออร์แลนไทล์ ซึ่งมันก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชนเผ่าออร์แลนไทล์ถูกมนุษย์ล่าจับตัวเอาไปขายเป็นของดูเล่นให้กับพวกเศรษฐีที่ชอบสะสมของแปลก
ดวงตาที่งดงามและสีที่ไม่เหมือนมนุษย์คงไม่ใช่เหตุผลเดียวที่พวกนั้นจะเสี่ยงชีวิตเข้าไปล่าออร์แลนไทล์ใจกลางป่าลึก ยังมีรูปลักษณ์อื่นที่เป็นสาเหตุให้พวกนักล่ายอมเสี่ยงถึงขั้นเอาชีวิตไปทิ้งหากโชคร้ายเจอเข้ากับออร์แลนไทล์ที่ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง! หากสู้กันตัวต่อตัวรับรองว่าชาวออร์แลนไทล์เป็นฝ่ายชนะแน่! เพราะพวกเขามีพลังเวทที่แข็งแกร่งไม่เป็นรองใคร ฝีมือการใช้อาวุธก็ยอดเยี่ยมพอตัว แต่ถ้าหากโดนรุมก็ไม่แน่ว่าชาวออร์แลนไทล์จะเป็นฝ่ายได้ชัย!
เส้นผมสีทองเหลือบเงินที่อ่อนนุ่มดุจใยไหม ผิวที่ขาวราวหิมะ รูปร่างสูงเพรียวบาง ใบหน้าอันงดงามดั่งภาพวาดจนแยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชาย และอีกหนึ่งลักษณะเด่นที่ทำให้พวกออร์แลนไทล์มีค่าตัวสูงมาก มากซะจนทำให้กลายเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืนได้เลย มันคือ เส้นผม! ยามเมื่อเส้นผมสีทองต้องแสงจันทรา เส้นผมสีทองเหลือบเงินจักแปรเปลี่ยนเป็นสีเงินดั่งแสงดาวกระจ่างฟ้า!
เหล่านี้คือลักษณะเด่นที่พวกเศรษฐีชอบสะสมของแปลกต่างหมายปองและจับจ้องเพื่อให้ได้มาครอบครองเป็นของตน ไม่ว่าต้องเสียเงินทองมากมายสักเพียงใด หรือต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
นอกจากความงดงามแปลกตาที่ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตไหนบนโลกใบนี้แล้ว ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พวกเศรษฐีพวกนี้ต่างขวนขวายเพื่อให้ได้ครอบครองชาวออร์แลนไทล์สักคนหนึ่ง มันคือเวทรักษา!
ชนเผ่าออร์แลนไทล์มีความชำนาญทางด้านเวทรักษาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าโรคภัยจะร้ายแรงแค่ไหนหรือบาดแผลจะสาหัสสักเพียงใด พวกเขาสามารถรักษาให้หายเป็นปกติเหมือนไม่เคยเป็นโรคหรือได้รับบาดเจ็บมาก่อน
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับเลือดของชนเผ่าออร์แลนไทล์ว่ามันเป็นยาอายุวัฒนะ หากได้ดื่มเพียงอึกเดียวอายุจะยืนขึ้นอีกสิบปี ซึ่งมันจริงแท้แค่ไหนนั้นตอนนี้ยังคงไม่มีใครได้เคยลอง!
ปัจจุบันไม่พบแม้แต่เงาของชาวออร์แลนไทล์ให้เห็นในป่าอีกต่อไป ( ถึงแม้ปกติเปอร์เซ็นต์จะพบชาวออร์แลนไทล์เดินเล่นอยู่ตามป่าเขาจะน้อยก็เถอะ ) หรือแม้แต่ในตลาดกลางค้าทาสก็เช่นกัน แต่ความต้องการชาวออร์แลนไทล์ไว้เลี้ยงดูเล่นของพวกเศรษฐีว่างงานจัดกลับไม่ลดลงแม้แต่น้อย เลยยิ่งทำให้ราคาค่าตัวชาวออร์แลนไทล์พุ่งสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนในจำนวนตัวเลขที่น่าตกใจ! ถึงขนาดมีกินมีใช้ไปตลอดทั้งชาติแบบไม่อดตาย!
นอกจากเลี้ยงไว้ดูเล่นและเพื่อจุดประสงค์อื่นแล้ว ชาวออร์แลนไทล์ยังเป็นสิ่งบ่งบอกฐานะของคนที่ได้ครอบครองพวกเขาด้วย ว่าไม่ได้เป็นแค่เศรษฐีธรรมดาแต่เป็นถึงมหาเศรษฐีหรือไม่ก็อภิมหาเศรษฐี เนื่องด้วยราคาที่แพง แพงแบบชนิดที่ว่าเศรษฐีธรรมดาที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังแบบมีกินมีใช้ไปทั้งชาติก็ไม่หมดไม่อาจซื้อได้
ด้วยเหตุนี้ทำให้ชาวออร์แลนไทล์ลดจำนวนลงเป็นจำนวนมากจนเกือบสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ และหายสาบสูญไปเมื่อยี่สิบปีก่อน ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าพวกเขาหายไปไหน มีแต่เพียงเสียงเล่าลือ บ้างก็ลือว่าพวกเขาถูกพวกมนุษย์ล่าจับเอาไปขายจนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ บ้างก็เล่าว่าพวกเขาอพยพย้ายถิ่นไปยังดินแดนที่พวกมนุษย์ไม่มีวันย่างกรายเข้าไปถึง ดินแดนที่เป็นของชาวออร์แลนไทล์อย่างแท้จริง
“ ฟราน! ”
“ ว้ากกก! ”
เสียงของหนักๆหล่นกระแทกกิ่งไม้ ตามด้วยเสียงกิ่งไม้หักไม่ขาดสาย และ
ตุ้บ!
เสียงของหนักๆกระแทกพื้นดังขนาดที่ว่าทำเอานกที่เกาะต้นไม้ใกล้ๆแถวนั้นบินกระเจิดกระเจิงด้วยความตกใจ
โอย เจ็บๆๆๆๆๆ
ฟราน เด็กหนุ่มที่เพิ่งหล่นจากต้นไม้นั่งชันเข่ามือลูบหลังน้ำตาเล็ด ความเจ็บปวดแผ่ซ่านทั่วทุกรูขุมขนบนร่าง
“ เป็นอะไรมากไหม? ”
ลุงจินถามอาการหลานชายอย่างห่วงใย แต่ใบหน้ากลับอมยิ้มพยายามกลั้นหัวเราะ
“ พื้นน่ะ ”
ฟรานค้อนให้ลุงจินวงเบ้อเริ่ม ทำหน้างอนแก้มป่องอย่างกับเด็กๆ
“ โหย ไม่ห่วงหลานชายสุดที่เลิฟเลยนะคร้าบ เจ็บก้นระบมจนลุกไม่ขึ้นแล้วเนี่ย ”
ฟรานร้องอุทธรณ์อย่างเง้างอน ลุงจินมองสำรวจทั่วตัวหลานชายทำสีหน้าเหมือนเป็นห่วงแต่กลับอมยิ้มที่มุมปาก เขาอดขำไม่ได้กับอาการงอนแบบเด็กๆของหลานชายทั้งๆที่อายุปาเข้าไปตั้ง 17 ปีแล้ว ลุงจินขยี้ศีรษะฟรานอย่างเอ็นดูก่อนจะส่งมือให้ฟรานจับและช่วยพยุงเขาลุกขึ้นมา
“ ห่วงก็ห่วงอยู่หรอก แต่ตกจากที่สูงไม่กี่เมตรแถมมีกิ่งไม้รองรับมาตลอดทาง เสียงตกกระแทกพื้นก็ไม่ได้ดังสักเท่าไหร่ เจ้าน่ะถึกออกจะตาย คงไม่น่าเจ็บมากหรอก พอนึกถึงท่าที่เจ้าตกลงมามันก็อดขำไม่ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นท่าตกต้นไม้ที่พิสดารน่าดู ฮ่าฮ่าฮ่า ”
ลุงจินหัวเราะเสียงดังจนท้องแข็ง ฝ่ามือหนาใหญ่และแข็งกร้านขยี้ศีรษะฟรานอย่างเอ็นดูจนฟรานหน้าเกือบทิ่ม
ฟรานปัดมือลุงจินออก ส่งค้อนให้ลุงจินอีกวง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ
“ โห ลุงจินไม่ห่วงข้าจริงด้วยอ่ะ งอนแล้ว ”
ลุงจินเข้าล็อคคอฟราน ขยี้หัวเขาอย่างเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเจือเสียงหัวเราะ
“ ลุงล้อเล่นน่ะ แค่นี้ทำงอนเป็นเด็กไปได้ ฮ่าฮ่าฮ่า ”
ฟรานส่งค้อนให้อีกวง เขาเลิ่กคิ้วเหมือนนึกขึ้นได้ว่าลุงจินมาตามหาเขาด้วยเรื่องอะไรหรือว่า...
“ ถึงเวลาฝึกแล้วเหรอครับ ถึงมาเรียกข้าเนี่ย ”
ฟรานปัดเศษใบไม้ เศษดินที่ติดตามตัวและหัวออก อาการเจ็บแปลบที่ก้นเริ่มปวดระบมเป็นระยะ
“ ก็ไม่เชิง แต่มันมีภารกิจด่วนเข้ามาเลยต้องยกเลิกการฝึกช่วงบ่ายไปก่อน ”
“ ภารกิจอะไรครับ ”
นานๆทีจะมีภารกิจระดับด่วนเข้ามาฟรานจึงสนใจเป็นพิเศษ
“ ภารกิจคุ้มครองเจ้าชายน่ะ ”
“ เจ้าชาย? นี่มันภารกิจระดับบิ๊กเลยไม่ใช่เหรอครับ ”
ฟรานแววตาเป็นประกาย ยิ้มดีใจอย่างที่สุด ภารกิจคุ้มครองคนระดับสำคัญจะได้ค่าว่าจ้างค่อนข้างสูง ยิ่งคนที่คุ้มครองมีตำแหน่งสูงหรือมีความสำคัญต่ออาณาจักรนั้นๆเท่าไหร่ ค่าว่าจ้างก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย และแน่นอนความเสี่ยงถึงชีวิตย่อมตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่มันก็คุ้มค่าหากทำภารกิจสำเร็จ ค่าตอบแทนจำนวนมหาศาลและชื่อเสียงที่จะตามมา ไม่ว่านักรับจ้างคนไหนก็คงจะรีบตะครุบภารกิจแบบนี้เอาไว้ในมือให้ได้
“ ใช่ แต่กว่าจะรับภารกิจนี้ได้ต้องผ่านการทดสอบซะก่อน ”
“ อ้าว? ต้องทดสอบด้วยเหรอ ไม่ใช่ว่าลุงจินรับภารกิจนี้มาแล้วเหรอ ”
“ มันก็ไม่เชิงหรอก จะว่าไงดีล่ะ คือ...เจ้าของภารกิจนี้เขารับสมัครคนเพื่อทำภารกิจคุ้มครองเจ้าชายโดยมีเงื่อนไขว่าคนที่จะสามารถทำภารกิจนี้ได้จะต้องสามารถสอบเข้าโรงเรียนแซงเคอร์ให้ได้ซะก่อน ”
“ ให้สอบเข้าแซงเคอร์เนี่ยนะ! โรงเรียนนั่นมีแต่พวกหัวกะทิทั้งนั้น ไอ้คนอย่างข้าที่วิชาเวทห่วยขั้นเทพแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ เดี๋ยว! แล้วมันเกี่ยวอะไรกะการคุ้มครองเจ้าชายด้วยอ่ะ ”
ฟรานคิ้วมุ่นเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจทำไมต้องตั้งเงื่อนไขแบบนั้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการคุ้มครองเจ้าชาย
“ อ้าว? ลุงยังไม่ได้บอกหรอว่าเจ้าชายจะเข้าเรียนที่นั่น ”
“ ยังครับ! ลุงจินแค่บอกว่าเป็นภารกิจคุ้มครองเจ้าชาย กับเงื่อนไขบ้าๆที่ต้องสอบเข้าแซงเคอร์ให้ได้ถึงจะสามารถรับภารกิจนี้ได้ ”
ฟรานถอนหายใจเฮือกให้กับความขี้หลงขี้ลืมของลุงจิน ลุงจินยิ้มแห้งเกาหัวแก้ขัดเขิน ถึงแม้ลุงจินจะเป็นนักดาบรับจ้างฝีมือฉกาจหาตัวจับยาก แต่เรื่องขี้หลงขี้ลืมนี่ต้องยกนิ้วให้เลย ลุงจินกระแอมหนึ่งทีวางมาดใหม่ก่อนจะเล่ารายละเอียดต่อทำสีหน้าจริงจัง
“ ภารกิจนี้เป็นภารกิจคุ้มครองเจ้าชายขณะที่พระองค์กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนแซงเคอร์ ”
“ เดี๋ยว! ก่อนหน้านี้ลุงบอกว่าเจ้าชายจะเข้าเรียนที่นั่น ก็แสดงว่าตอนนี้เจ้าชายยังไม่ได้เข้าเรียนแต่กำลังจะสอบเข้าใช่ไหม ”
“ ใช่ ”
“ แล้วทำไมถึงบอกว่าเป็นภารกิจคุ้มครองเจ้าชายขณะที่พระองค์กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนล่ะ ก็ในเมื่อเจ้าชายยังไม่ได้สอบเข้าเลยแล้วรู้ได้ยังไงว่าเจ้าชายจะสอบติดน่ะ ”
“ เจ้าชายอัจฉริยะขนาดนั้นไม่ติดก็เวอร์ละ ”
“ เก่งขนาดนั้นเลยหรอ ”
“ ใช่ ”
“ ... ”
“ ทางฝ่ายหน่วยองครักษ์สืบรู้มาว่ามีคนคิดลอบปลงพระชนม์เจ้าชาย การจะส่งองครักษ์เข้าไปคุ้มกันเจ้าชายในโรงเรียนมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เจ้าชายกลับปฏิเสธเพราะไม่อยากให้มันดูเอิกเกริกและไม่อยากทำให้คนรอบข้างเดือดร้อน เจ้าชายอยากใช้ชีวิตในโรงเรียนแบบเด็กสามัญทั่วไป หัวหน้าหน่วยองครักษ์เลยคิดใช้วิธีให้ปลอมตัวเข้าไปคุ้มครองเจ้าชายอย่างลับๆ แต่ว่าเจ้าชายดันจำหน้าทหารองรักษ์ได้ทุกคนและที่สำคัญพวกเขาอายุเกินเกณฑ์ที่จะเข้าโรงเรียนแล้วด้วย ขืนปลอมตัวเข้าไปมีหวังเจ้าชายจับได้พอดี ”
“ ก็เลยเปิดรับสมัครคนมารับทำภารกิจนี้แทน แน่นอนว่าคนคนนั้นจะต้องมีอายุพอๆกับเจ้าชาย และต้องสอบเข้าโรงเรียนแซงเคอร์ให้ได้ด้วย ถ้าทำได้ก็รับภารกิจนี้ไป เงื่อนไขง่ายๆแค่นี้เอง ”
“ ลุงคงไม่คิดสอบเข้าแซงเคอร์เองใช่ไหมครับ ถึงจะคิดยังงั้นแต่ลุงจินก็สอบไม่ได้อยู่ดีเพราะอายุเกินแล้ว เอ... ”
ลุงจินมองหลานชายสุดที่รักแววตาเป็นประกายแบบแอบแฝงความคาดหวังอะไรบางอย่าง ทำเอาฟรานขนลุก ไม่อยากจะคาดเดาความคิดของลุงจินเล๊ย ทุกครั้งที่ลุงทำสายตาแบบนี้งานมักเข้าฟรานเสมอ และงานแต่ละอย่างก็แทบจะเกินขีดความสามารถเขาซะทุกครั้ง งานนี้ก็คงเหมือนกัน หนีไม่พ้นอีกแล้วหรอเนี่ยเฮ้อ!
“ ลุงจินจะให้ผมสอบเข้าแซงเคอร์ใช่ไหมครับ ”
ฟรานถามทั้งๆที่คาดเดาคำตอบได้อยู่แล้วว่าลุงจินจะตอบว่ายังไง
“ ถูกต้องแล้วคร้าบ ลุงก็อยากจะเข้าสอบอยู่เหมือนกันล่ะน๊า แต่อายุมันดันเกินนี่สิ ”
เกินมากด้วย
“ แต่ว่า...หลานน่ะ ”
ลุงจินลากเสียงยาวจับไหล่ทั้งสองข้างของฟรานแน่น ทำสีหน้าจริงจัง ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีชมพูของฟราน ฟรานกลืนน้ำลายเอื๊อกเหมือนรู้ชะตากรรมของตน ฟรานเบือนหน้าหลบสายตาที่จ้องมองของลุงจิน แต่ลุงจินดันจับหน้าเขาหันกลับมา พร้อมกับยิ้มหวานตาหยีให้เขา ฟรานได้แต่ยิ้มแห้งทำหน้าละเหี่ยถอนใจเฮือกยอมรับชะตากรรมอันมืดมนของตน
“ ปีนี้ฟรานก็อายุ 17 แล้วใช่ไหม ”
“ ครับ ”
เริ่มแล้วไง
“ มันก็ถึงวัยที่ต้องเข้าเรียนแล้วสินะ ”
“ เหรอครับ ”
งานเข้าข้าแน่ๆ
“ เจ้าก็พยายามสอบเข้าให้ได้ละกันถือซะว่าทำภารกิจไปด้วยเรียนไปด้วยในตัวเลย..ละกันนะ ”
ลุงจินตบไหล่เบาๆฝากความหวังเต็มที่ มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าหลานสุดที่รักจะคว้าภารกิจนี้ไว้ในกำมือได้ แถมยังได้เรียนในโรงเรียนระดับชั้นแนวหน้าของโลกแบบฟรีไม่เสียตังค์สักกะแดงอีกต่างหากเพราะเจ้าของภารกิจนี้จะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ฟรานหัวเราะหึหึ ไม่รู้จะทำหน้ายังไงได้แต่กระตุกยิ้มจำยอมรับชะตากรรมอันหฤโหดเบื้องหน้า
“ แซงเคอร์สอบเข้าไม่ยากหรอกง่ายจะตายไป สู้ๆนะหลานรัก ”
ลุงจินยิ้มกว้างตบไหล่ฟรานให้กำลังใจหลานสุดที่รัก ฟรานทำสีหน้าประมาณว่ามันง่ายตรงไหนเนี่ย แซงเคอร์ไม่ได้สอบเข้าง่ายๆ มีแต่พวกระดับหัวกะทิมาสอบทั้งนั้น เห็นทีภารกิจนี้อาจชวดแหะ
โอ้วววว เงินก้อนโตกำลังบินจากไป!!!
ฟรานคอตก มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะสอบเข้าแซงเคอร์ได้สักกะติ๊ด คนที่วิชาเวทห่วยบรมอย่างเขามีดีแค่ฝีมือดาบธรรมดา แล้วจะเอาความสามารถไหนไปสู้กะเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นแต่อนาคตที่มืดมน เงินก้อนโตกำลังจะบินจากเขาไปแล้วจริงๆ โฮๆๆๆ
“ หลานรัก ถ้าเจ้าคว้าภารกิจนี้มาได้ มันหมายถึงเงินก้อนโตกำลังรอเราอยู่เลยนะ ทีนี้พวกเราจะได้หลุดพ้นจากชีวิตอันอัตคัตนี่สักที ”
เพราะใครกันล่ะ! รับแต่ละภารกิจทีไม่ตามหาของหาย ก็คนหายหรือไม่ก็สัตว์เลี้ยงหาย เงินดีทั้งนั้น!
เฮ้อ! นานๆทีถึงจะมีงานที่มันเข้าท่าหน่อย ล่าสุดเมื่อ 3 เดือนก่อนไปเป็นคนคุ้มกันให้กับกองคาราวานได้เงินดีอยู่แต่มันก็อยุ่ได้ไม่ถึงเดือน!
“ ได้กินอาหารดีๆไม่ต้องกินแต่ผักกับผลไม้ในป่าอีก ”
กินแต่ผักกับผลไม้ในป่ามานานจนชินละ นานน๊านนานทีถึงจะมีเนื้อตกถึงท้องบ้าง
“ ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไม่ต้องทนใส่เสื้อผ้ามอซอแบบนี้อีกแล้วนา "
จะว่าไปเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้ก็เก่าซะจนเอาไปทำเป็นผ้าขี้ริ้วได้เลย แถมถูกคนรอบข้างมองเหยียดอีกต่างหาก เมื่อเดือนก่อนนั่งรอลุงจินอยู่ข้างทางมีคนโยนเหรียญมาให้ เจ้านั่นคิดว่าเขาเป็นขอทานรึไงนะ แค่ใส่เสื้อผ้าเก่าแค่นี้ หน้าตาข้าเหมือนขอทานตรงไหนกัน หน้าตาออกจะดูดีแถมเท่ห์ขนาดนี้ เจ้านั่นมีตาแต่ไร้แววจริงๆ ดันมองแต่เสื้อผ้า ไม่ยอมดูหน้าตาซะก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นเว้ย! ถ้าข้ามีเงินสักก้อนจะแต่งตัวให้ดูดีเป็นเทพบุตรให้สาวๆหันมามองเป็นตาเดียวไปเลยคอยดูสิ! เงินหรอ? จะว่าไปภารกิจตรงหน้ามันก็เงินก้อนโตซะด้วย!
“ ค่าตอบแทนมหาศาลขนาดนี้ ไม่มีมากันบ่อยๆนา ”
“ ... ”
“ พวกเรา ลุงหลานจะได้หลุดพ้นชีวิตขัดสนนี่สักที ”
ลุงจินทำสายตาวิบวับเว้าวอน กุมมือฟรานทำหน้าวิงวอนแบบสุดๆ ฟรานถอนใจเฮือกไม่ค่อยอยากจะรับปากเท่าไหร่ แต่ค่าตอบแทนที่จะได้นี่สิ มันช่างเย้ายวนเหลือเกิน มันจะทำให้ชีวิตพวกเขาสบายไปอีกหลายเดือน ฟรานพยักหน้าตกปากรับคำแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ ก็ได้ครับ ข้าจะทำงานนี้ ”
“ เยี่ยม! ดีมากหลานรัก ลุงรักเจ้าที่สุดเลย ฮ่าฮ่าฮ่า ”
“ ว้ากกก! ปล่อยข้าน๊า ข้าไม่ใช่เด็กๆแล้วน๊า ”
ลุงจินกอดฟรานแน่น แถมยังหอมหลานรักอีกหลายฟอด ตบท้ายด้วยการขยี้หัวฟรานอย่างมั่นไส้แบบเอ็นดู
“ ข้าต้องทำงานนี้คนเดียวใช่ไหมอ่ะ ”
ฟรานจัดแต่งผมให้เป็นทรงหลังจากโดนลุงสุดที่รักขยี้ซะจนกลายเป็นรังนกกระจอกดีๆนี่เอง
“ ใช่ ”
“ งานนี้เป็นงานแรกที่ข้าต้องโชว์เดี่ยวเลยอ่ะ แล้วข้าจะทำได้ไหมเนี่ย ”
ฟรานไม่มั่นใจเพราะทุกครั้งที่ผ่านมาเขาจะเป็นแค่ลูกมือคอยช่วยลุงอยู่ตลอด ไม่เคยฉายเดี่ยวแบบนี้
“ มั่นใจหน่อย เจ้าต้องทำได้แน่เชื่อลุงสิ นึกเข้าไว้ เงินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป้าหมายของเราคือเงินค่าจ้างในครั้งนี้ ถ้าเรามีเป้าหมายแล้วล่ะก็ไม่ว่าเรื่องอะไรย่อมต้องทำได้สำเร็จแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า ”
เกี่ยวกันไหมล่ะนั่น เฮ้อ!
“ แล้วกำหนดสอบวันไหนอ่ะ ”
“ มะรืนนี้ ”
“ ห๊ะ! มะรืนนี้ แซงเคอร์อยู่ถัดจากนี่ไปอีกสามเมืองใช้เวลาสามวันกว่าจะไปถึง แล้วเราจะไปทันเหรอคร้าบ ”
“ ทันสิ ก็ที่ข้ามาเรียกเจ้าก็จะให้ไปเตรียมตัวเก็บข้าวของเตรียมออกเดินทางเย็นนี้ไงเล่า ”
“ เย็นนี้! ต่อให้เดินทางเย็นนี้กว่าจะถึงก็อีกสามวัน มันก็ไม่ทันอยู่ดี ”
“ เอาน่า ไปถึงทันแน่ ข้ามีวิธีก็แล้วกัน ”
ฟรานทำหน้าไม่อยากเชื่อ มองลุงจินสงสัยสุดๆ ต่อให้ใช้ม้าฝีเท้าเร็วขนาดไหนหรือเดินทางทั้งวันทั้งคืนแบบไม่หยุดพักมันก็ไม่ทันอยู่ดีเพราะอย่างเร็วสุดก็ใช้เวลาถึงสองวันเต็มกว่าจะไปถึง แล้วลุงจินจะใช้วิธีไหนกันแน่ ฟรานพยามยามถามอยู่หลายรอบ ลุงจินกลับอุบเงียบบอกว่าเดี๋ยวไม่ตื่นเต้นให้ไปลุ้นเองเมื่อไปถึงที่ เชอะ! ไม่บอกก็ไม่อยากรู้หรอก! แต่ถึงจะคิดยังงั้นฟรานก็พยายามหลอกถามอยู่หลายครั้งลุงจินก็ไม่เผลอหลุดบอกออกมาสักที ลุงจินนี่ปากแข็งสุดๆ!
“ ฟรานก่อนออกเดินทาง อย่าลืมใช้เวทเปลี่ยนสีตาให้เรียบร้อยซะล่ะ ”
“ อ่อ ครับ ”
เวลาที่ฟรานหลับเขาจะคลายเวทเปลี่ยนสีตาออก เมื่อกี้ที่เขาถูกปลุกและไม่ได้เปลี่ยนสีตาเพราะรู้ว่าเป็นลุงจิน
“ จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเจ้าเป็นออร์แลนไทล์ ไม่งั้นเจ้าได้ถูกตามล่าไปชั่วชีวิตแน่ เจ้าพวกพ่อค้าพวกนั้นคงไม่คิดปล่อยให้ขุมสมบัติมหาศาลอย่างเจ้าหลุดรอดไปได้ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมาไม่พบแม้แต่เงาออร์แลนไทล์เลยสักคน ยิ่งทำให้ราคาออร์แลนไทล์พุ่งสูงขึ้นจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นราคาได้ ”
“ ครับ ”
ฟรานรู้เรื่องนี้ดีอยู่แก่ใจ ถึงไม่บอกเขาก็ระวังตัวสุดๆอยู่แล้ว เพราะยังไม่อยากกลายเป็นของดูเล่นอยู่ในกรงของพวกเศรษฐีโรคจิตหรอก!
................................................................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น