ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF / OS Hunmin , Lumin

    ลำดับตอนที่ #1 : CAN ' T HUG - I

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 569
      4
      30 ม.ค. 57

    นิ้วมือเรียวเลื่อนดูข่าวสารที่อัปเดตอยู่บนหน้าจอเครื่องมือสื่อสารด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ รายการตลกในโทรทัศน์ตอนนี้ไม่ได้ดึงความสนใจของเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาสนใจแค่ภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์เท่านั้น ภาพนี้เป็นภาพที่เอามาต่อๆกันรวมเป็นหนึ่งภาพ ในนั้นมีภาพพี่ใหญ่และพี่รองหน้าหวานสองคนยืนจับมือกระซิบข้างใบหูกันอย่างแนบชิด สำหรับคนอื่นมันอาจดูน่ารักละมุน แต่สำหรับเขาแล้ว ภาพๆนี้มันช่างกระตุ้นโทสะและบีบเค้นหัวใจของเขาเหลือเกิน ไวกว่าความคิด เด็กชายตัวขาวรัวนิ้วพิมพ์ข้อความลงบนเครื่องมือสื่อสารอย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วก็โยนมันทิ้งไปบนโซฟาอย่างไม่สนใจใยดีอีก



     “เซฮุนนา.. ไม่เตรียมตัวออกไปเที่ยวกับพวกฮยองหรอกเหรอ? ยังไม่ทันที่จะจัดการอารมณ์โทสะของตัวเองได้ เสียงของตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาเกิดอาการแบบนี้ก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง เด็กชายตัวสูงไม่ตอบอะไรไปนอกจาก “อืม..” เพื่ออดกลั้นอารมณ์ที่พวยพุ่งไม่ให้ระเบิดใส่พี่ใหญ่ตัวเล็กให้เกิดเรื่องบาดหมาง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่รับรู้อะไร แถมยังเดินมานั่งด้วยซะอย่างนั้น


    “ทำไมล่ะ? อารมณ์ไม่ดีอยู่เหรอ”


    “ก็ใช่..”


    “งั้นเหรอ.. ออกไปเที่ยวกับฮยองดีกว่าจะได้อารมณ์ดี ไปกับฮยองกับลู่..”


    “จะไปไหนก็ไป!” ยังไม่ทันที่จะพูดจบเซฮุนก็ขัดขึ้นแล้วลุกหนีไปเสียดื้อๆ ทิ้งให้คนหน้ากลมนั่งงง


    เป็นอะไรของเค้านะ คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง


    หรือว่าเซฮุนจะรำคาญ เรามันน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ..


    คงงั้นนั่นเหละนะ .. เรามันไม่ใช่ลู่หานนี่นา


    “เฮ้ออออออ” ถอนหายใจหนักๆ ก่อนที่จะคิดอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ สายตากลมโตก็ไปปะทะกับโทรศัพท์เครื่องหรูเข้า ...ของเซฮุนนี่นา สงสัยจะลืมไว้ล่ะมั้ง..  มือบางหยิบโทรศัพท์เครื่องสวยขึ้นมา หวังจะเอาไปคืน.. แต่เมื่อความคิดหนึ่งขัดขึ้นมาทำให้เขาสไลด์ปลดล็อคหน้าจออย่างรวดเร็ว นี่คงเป็นโชคดีของเขา ที่เซฮุนไม่ได้ล็อครหัสหน้าจอเอาไว้ ขอสำรวจหน่อยก็แล้วกันนะแต่แล้วก็ต้องรู้สึกเจ็บปวดข้างในอกเมื่อได้เห็นคอมเม้นท์ที่มันยังค้างอยู่ในหน้าจอ คอมเม้นท์ที่พิมพ์ขึ้นมาในนามสมมุติของ โอเซฮุน

     
     

     

     

     ทำไมมินซอกต้องไปยุ่งกับลู่หาน ไม่เห็นเข้ากันเลยสักนิด

     

     


     

    นายคงหวงลู่หานมากสินะเซฮุน.. นายคงไม่ชอบขี้หน้าฉันเลยสินะที่ไปยุ่งกับคนที่นายรัก...  แต่นายจะรู้มั้ยนะว่า
    ฉันก็รักนายพอๆกับที่
    นายรักลู่หานนั่นแหละ

    .. ความคิดต่างๆประเดประดังเข้ามาในหัวจนหยาดน้ำตาหลายหยดไหลลงมาอาบแก้มสวยไม่ขาดสาย เสียงสะอื่นน้อยๆไม่อาจเพียงพอต่อความอัดอั้นภายในใจ แต่ก็ต้องกลั้นไว้ไม่ให้ใครได้ยิน มือบางค่อยๆวางโทรศัพท์เอาไว้ที่เดิมแล้ว
    นั่งชันเข่าร้องไห้

    “ฮึก...ฮยองมันคงน่ารำคาญมากสินะ”

    “ ฮยองคงไม่เคยมีอะไรดีในสายตานายเลยสินะ”

    “ฮยองมันไม่ควรค่า.... กับการมีใครเลยสินะ”

    “ถึงฮยองจะเปลี่ยนตัวเองยังไง...นายคงไม่เคยคิดแม้แต่จะชายตามองสินะ ฮึก..โอเซฮุน ฮือออ ” ตัดพ้อออกมากอย่างน้อยใจ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในอกอีกครั้ง.. จนกระทั่ง ...

     

     

     

     

     

     

     

     






    เสียงฝีเท้าหนึ่งดังใกล้เข้ามาจากข้างหลัง สัมผัสอ่อนโยนอบอุ่นถูกทาบทับมาที่กลุ่มผมนิ่ม มินซอกเงยหน้าขึ้นทั้งๆที่ยังมีคราบน้ำตา แต่เมื่อถูกโอบกอดไว้ด้วยสัมผัสที่ปลอบประโลมทำให้คลื่นน้ำตาระลอกใหม่ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง หมุนตัวกลมๆเอาหน้าไปซุกกับไหล่กว้างอย่างต้องการที่พึ่งพึง คนที่กอดเห็นดังนั้นจึงใช้มือหนาลูบหลังของอีกคนเป็นการปลอบโยน “ไม่เป็นไรนะเปาจื่อ ลู่เก่ออยู่ตรงนี้นะ” เสี่ยวลู่หานเอื้อนเอ่ยพร้อมกับเชยปลายคางของคนในอ้อมกอดขึ้นมา “เปาจื่ออย่าเป็นแบบนี้สิ ลู่เก่อชอบตอนซาลาเปาลูกนี้ยิ้มมากกว่านะ” พูดแล้วประทับริมฝีปากละมุนลงบนปากอวบอิ่มนั่นเบาๆ ทำเอาคนโดนจูบถึงกับหยุดสะอื้นแล้วเบิกตาโต “ละ..ลู่ หาน” หน้าแดงก่ำด้วยความขวยเขินทำให้คนถูกเรียกยิ่งได้ใจ ยื่นหน้าไปใกล้แล้วพูดว่า “ถึงคนอื่นจะไม่รักไม่เป็นไร แต่รู้ไว้อย่างนึงว่า.. ลู่เก่อ.. รักเปาจื่อนะครับ” ยิ่งได้ฟังมินซอกยิ่งหน้าแดงจัด ก้มหน้างุด “แล้วเปาจื่อ.. ให้โอกาสเก่อคนนี้ได้มั้ย? ” 

    “อะ .. ไอ้บ้า ลู่หาน” มินซอกทุบกำปั้นลงบนอกลู่หานดังอั๊ก รีบมุดออกจากอ้อมกอดแล้วเดินหนีไป ทิ้งไว้แต่รอยยิ้มจางๆของเก่อขี้แกล้ง

    ไม่ใช่ว่าลู่หานจะไม่รู้ว่าคนตัวเล็กนั่นน่ะชอบเซฮุน เพราะเจ้าตัวก็ป็นคนบอกเองตั้งแต่แรก ที่เริ่มสนิทกัน ... แต่ทำไงได้ ก็เขาหลงรักแก้มกลมๆนั่นจนถอนตัวไม่ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้วนี่นา.. 

     

     

     

     

     

     

     

     

     























    ขายาวๆคู่หนึ่งรีบก้าวลงบันไดอย่างรีบเร่ง เมื่อรู้ตัวว่าโทรศัพท์มือถือของตนนั้นหายไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยสะอื้นไห้อยู่ในที่ๆตนเดินจากมา เด็กชายตัวสูงหันหลังพิงผนังบันไดซึ่งเชื่อมต่อกับโถงนั่งเล่น แอบมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพรางครุ่นคิดหาต้นเหตุที่ทำให้คนน่ารักนั่งร้องไห้ แต่ก็ได้คำตอบเมื่อมือบางค่อยๆวางโทรศัพท์เอาไว้ที่เดิมและเริ่มนั่งชันเข่า ฮยองเห็นแล้วสินะ.. เด็กชายตัวสูงก้าวขาขึ้นบันได พยายามสะบัดความคิดที่จะเข้าไปปลอบให้ออกไป แต่ขาเรียวๆนั่นก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงตัดพ้อเอื้อยเอ่ยประโยคที่ทำให้เขานั้นสับสน

    “ฮึก...ฮยองมันคงน่ารำคาญมากสินะ”

    ไม่ใช่สักหน่อย..

    “ ฮยองคงไม่เคยมีอะไรดีในสายตานายเลยสินะ”

    ใครพูดกัน..  ฮยองออกจะน่าครอบครองขนาดนั้น.. ลู่หานฮยองบอกงั้นเหรอ...

    “ฮยองมันไม่ควรค่า.... กับการมีใครเลยสินะ”

    ฮยองน่ะคู่ควรกับผมนะ..  คู่ควรกับผมมากกว่าลู่หานฮยอง

    “ถึงฮยองจะเปลี่ยนตัวเองยังไง...นายคงไม่เคยคิดแม้แต่จะชายตามองสินะ

    ถึงคนอื่นจะไม่มองแต่ผมมองฮยองอยู่ตลอดนะ..

     “ ฮึก..โอเซฮุน ฮือออ ” เจ้าของชื่อเบิกตากว้าง.. อะไรนะเมื่อกี้มินซอกเรียกชื่อเขางั้นเหรอ.. เขายืนตะลึงอยู่สักพัก แต่แล้วก็พึ่งนึกได้ว่าควรที่จะเดินเข้าไปปลอบ จึงรีบวิ่งลงบันไดไปอีกครั้ง และ ก็ต้องหยุดยืนอยู่บันไดขั้นที่สองเมื่อเห็นพี่รองหน้าหวานของวงเดินเข้าไปกอดคนตัวเล็กบนโซฟาจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตลงบนกลุ่มผมนิ่ม

     ห้ามแตะต้องตัวมินซอกนะ! ฮยองเขาเป็นของผมอยากจะวิ่งเข้าไปกระชากเสี่ยวลู่หานให้ออกจากตัวคิมมินซอกใจจะขาดแต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น .. เขาไม่มีสิทธิอะไรจะไปทำแบบนั้น.. มินซอกยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย..





    “ไม่เป็นไรนะเปาจื่อ ลู่เก่ออยู่ตรงนี้นะ” เสี่ยวลู่หานพูดพร้อมกับเชยคางคิมมินซอกขึ้นมาแล้วพูดว่า..

     




    “เปาจื่ออย่าเป็นแบบนี้สิ ลู่เก่อชอบตอนซาลาเปาลูกนี้ยิ้มมากกว่านะ” แล้วประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากนิ่ม.. ที่เขาอยากจะครอบครองนักหนา

     



    ลู่เก่อ.. รักเปาจื่อนะครับ”

     





    “แล้วเปาจื่อ.. ให้โอกาสเก่อคนนี้ได้มั้ย? ” 

     

     




    เซฮุนรีบวิ่งขึ้นบันไดไปไม่อยากจะอยู่ฟังคำตอบจากมินซอก ... เขารู้   รู้ทั้งรู้ว่ามินซอกคงไม่มีทางตอบว่าได้ ถ้าหากคนแก้มกลมชอบเขาอยู่ ... แต่ว่านะ ถ้าคำตอบที่ออกจากปากอวบๆนั่นมันเป็นคำว่า ได้ ล่ะ หัวใจของเขาคงจะฉีกขาดอยู่ตรงนั้น..

     

     

    ไม่ใช่ว่าเธอรออยู่บนฟ้าไกล



    เธออยู่ตรงนี้ไม่ไกล.. แค่ลมหายใจ



    พระเจ้าครับ.. ทำไมไม่ให้ผมได้รับรู้ความจริงเร็วกว่านี้



    อยากจะเอาสองมือกอดเธอไว้ไม่ให้ไกล




    อยากจะซบอิงไหล่ไปยืนเคียงข้างกาย


     

     

    ตอนนี้มันช่างสายเกินไป.. ที่ผมจะพูดคำๆนั้น






     

     

    แต่ต่อให้รักเท่าไหร่
     

     




    แม้..ใกล้.. แค่ไหนก็  “กอดเธอไม่ได้”











    “ผมก็รักฮยองเหมือนกันนะมินนี่” 















    และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคนนั้นทำฮยองเสียใจ....ผมจะกลับไปทวงของๆผมคืนมา





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×