ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : -Intro- (100%)
Fic One Piece X Fairy Tail
Pairing: fairy tail + one piece
Rate: PG
แจ้ง-ฟิคเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งล้วนๆ ซึ่งไรต์อยากจะให้ทุกๆคนที่เข้ามาอ่านที่นี่ทำใจให้กว้างๆไว้ระหว่างเรื่อแฟรี่เทลกับวันพีชฟิคนี้คือจินตนาการบ้าๆบอๆของไรต์เองที่อยู่ๆก็คิดจะเอาการ์ตูนที่อยู่คนละโลกกันมารวมกันจึงอยากให้ทุกคนทำใจไว้หน่อยค่ะหากใครที่เกิดไม่ชอบด้วยเหตุผลประการใดกรุณากดxออกไปได้เลยค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++
Intro
ณ แมกโนเลีย ปีX791
หลังจากที่จบศึกกับทาร์ทารอสโดยนัตสึได้จัดการกับมาสเตอร์E.N.D.ปีศาจแห่งหนังสือแห่งเซเรฟได้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากคนในกิลล์แฟรี่เทลรวมไปถึงกิลล์อื่นๆอย่างเซเบอร์ธูทด้วย นัตสึได้รับรู้และพบเจอกับอิกนีลอีกครั้งในการสู้กับแอคโนโลเกียซึ่งความจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับมังกรที่หายไปเมื่อวันที่7กรกฎาคมปีX777ก็ได้ปรากฎขึ้นมาจากปากของอิกนีลหลังเสร็จศึกก่อนที่อิกนีลนั้นจะกลับเข้าไปอยู่ในตัวของนัตสึดังเดิมและ ณ ตอนนี้ดราก้อนสเลเยอร์ทั้ง7รวมไปถึงกิลด์ต่างๆนั้นเอง ก็ได้เตรียมตัวที่จะออกรบครั้งสุดท้ายกับเซเรฟ
แล้วหากแต่......
"....." ตอนนี้กิลด์ที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในฟิโอเล่ทั้งในอดีตและปัจจุบัน กิลด์ที่ไม่น่าจะเงียบได้หากมีสมาชิกของทีมที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ด้วยกิลด์นี้ก็คือแฟรี่เทล หลังจากที่ทุกๆคนช่วยกันซ่อมแซมกิลด์จนกระทั่งกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วแต่กิลด์ก็ยังคงเงียบอย่างน่าหดหู่ เพราะตั้งแต่จบศึกในครั้งนี้ ทั้งลูซี่ เอลซ่า เวนดี้ กาซิล ลัคซัส เกรย์ หรือนัตสึเอง ก็ยังคงไม่กลับมาที่กิลด์เลยสักคนไม่มีใครได้ข่าวคราวไม่ไม่ใครพบเห็นและในขณะเดียวกันก็ไม่มีใครพบศพด้วยเช่นกันจึงยังไม่มีใครตัดสินว่าพวกนัตสึได้ตายไปแล้วสักคน เพราะยังมีหวัง หวังว่าพวกเขาทุกคนจะยังอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ปัง!!!!
"เฮ้ยๆ!!มัวนั่งทำอะไรกันอยู่เจ้าพวกเด็กบ้า!! งานมีให้ทำทำไมไม่ทำกันห๊ะ!!!!" เสียงของมาสเตอร์ร่างเล็กที่มีอายุมากที่สุดและส่วนสูงน้อยที่สุดในกิลด์ตะโกนขึ้นมาท่ามกลางความเงียบที่โรยตัวมากว่า10วันนี้
"........"
"....เฮ้อ~~" เสียงถอนหายใจยาวจากมาสเตอร์ที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ดังขึ้นอีกก่อนที่จะเงียบไป
"เป็นห่วงอยู่สินะคะมาสเตอร์" เสียงหนึ่งดังมาจากหลังเคาน์เตอร์เอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
"เหอะ! ยังไงซะเจ้าพวกนั้นก็เป็นลูกๆของฉันนะ" สบถพร้อมกับบ่นอุบขึ้นมาเบาๆแต้ก็ไม่รอดพ้นหูของมิร่าเจนไปได้
"ฮุฮุฮุ(?)"
"..........."
"..........."
กิลด์กลับมาเงียบอีกครั้งไม่มีใครพูดหรือสนใจอะไรเลยทุกคนล้วนแต่นั่นก้มหน้าจมอยู่กับความคิดของตนไปเรื่อยๆ
"..........."
"...ทั้งๆที่" เสียงของแฮปปี้ดังขึ้นจากโต๊ะตัวหนึ่งในกิลด์เรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
"ทั้งๆที่สัณญาว่าจะกลับมาแท้ๆ" จบคำหลายๆคนในกิลด์ก็เริ่มทำหน้าเศร้าหดหู่ใจไปมากกว่าเดิมโดยเฉพาะตัวคนพูดเองที่เริ่มมีน้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของตน
"..เจ้าแมว" เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลังของแฮปปี้
เป็นเสียงที่คุ้น คุ้นมากเลยจริงๆ
"อย่ามาร้องไห้แถวนี้"
"........."
"........."
"...เอ๊ะ?"
"ลัคซัส!!!?"
เสียงตะโกนของทั้งกิลด์ดังขึ้นเพราะการปรากฏตัวของ1ในบุคคลที่กำลังพูดถึงอยู่เมื่อสักครู่ที่อยู่ดีๆก็มาปรากฎตัวอยู่ภายในกิลด์
"หนวกหูซะจริง" ตามด้วยเสียงบ่นจากบุคคลที่เดินมายืนอยู่ข้างๆกับลัคซัสเมื่อครู่
"กะ กาซิล!!!!?"
"แล้วจะตะโกนทำไมเล่า!!!...เฮ้ย!!!!?"
โครม!!!!!
.......
หลังจากที่ทุกอย่างภายในกิลด์กลับมาสงบอีกครั้งด้วยฝีมือของมาสเตอร์มาคารฟที่เข้ามาห้ามทัพให้ก่อนทกิลด์จะพังไปมากกว่านี้เพราะวิธีแสดงความคิดถึงของทุกๆคน
"เอาล่ะ...จะเล่ามาได้รึยัง?" มาคารอฟเอ่ยขึ้นจากทางเคาน์เตอร์ที่ประจำ
"ก็ไม่มีอะไรนี่" กาซิลเอ่ยตอบขึ้น
"ใครมันจะเชื่อฟร้ะ!!!" เป็นอีกครั้งที่ทุกคนในกิลด์ตะโกนออกมาพร้อมกัน
"กว่า10วันเลยนะกาซิล ที่พวกนายหายไปน่ะแล้วนี่พวกนัตสึล่ะ?พวกนัตสึไปไหน แล้วลูซี่ล่ะ เกรย์ เอลซ่าแล้วก็เวนดี้ด้วย พวกเขาอยู่ที่ไหนล่ะ" แฮปปี้ที่ดูเหมือนจะเงียบมาตั้งนานแล้วพูดขึ้นรัวเร็วจนลิ้นแทบพันจะพันกัน บวกกับที่ปกติแล้วตัวเองก็ติดนัตสึมากๆเรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยแยกจากกันไกลเลยก็ว่าได้อยู่แล้วจึงทำให้สติหลุดไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว
"เจ้าซาลามานเดอร์กับคนอื่นๆน่ะไม่เป็นไรอีกสักวันสองวันก็คงกลับมาเองนั่นแหละ" กาซิลบอกปัดอย่างนึกรำคาญแฮปปี้นิดๆก่อนจะเดินออกไปหาลิลี่ที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งกับชาร์ล
"ลัคซัส..." เสียงของมาสเตอร์เอ่ยขึ้นเชิงถามกับลัคซัสหลังจากที่ลองไตร่ตรองข้อมูลที่กาซิลบอกมาแล้วปรากฎว่าแทบจะไม่รู้เรื่องเลย
"หลังจากที่นัตสึจัดการกับE.N.D.แล้วเจ้านั่นก็ไปหาเซเรฟ..."
"เซเรฟรึ" มาคารอฟพูดทวนให้แน่ใจอีกครั้งในชื่อที่อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นมา และคำตอบรับจากลัคซัสก็คือการพยักหน้าเพียงเบาๆและเริ่มเล่าต่อ
"ฉันและพวกเอลซ่าเองก็ตามนัตสึไปด้วยแต่..." ลัคซัสเว้นช่วงการพูดไว้สักพักเหมือนกับไม่ค่อยอยากจะเอ่ยถึงสักเท่าไหร่
".....".ทุกๆคนเองก็ทำเพียงรอต่อไปให้ลัคซัสเล่าออกมาเอง...ไม่มีการคาดคั้นอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
"พวกเราไม่สามารถไปพบกับเจ้านั่นได้"
"หมายความว่ายังไง!?" มาคารอฟถามขึ้น
"เจ้านั่น..เซเรฟมันให้แค่นัตสึเท่านั้นที่เข้าไปพบมันได้ เราจึงไม่รู้ว่าเซเรฟกับนัตสึพูดอะไรกันบ้างแถมนัตสึเองก็ไม่ยอมเล่าอะไรให้ใครฟังด้วย" ลัคซัสเล่าต่อไปเรื่อยๆคล้ายจะรำพันกับตัวเองเสียมากกว่า
"แล้วหลังจากนั้นพวกนายหายไปไหนกัน?" เสียงของมาคาโอและโรมิโอที่เป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันถามขึ้น เลยทำให้ความสนใจทั้งหมดมุ่งไปที่คำตอบของคำถามข้อนี้ที่ทุกคนเองเป็นห่วงมากว่า10วันโดยฉะเพราะพวกแมวทั้ง3ตัวที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะข้างๆเคาน์เตอร์ที่มีมาสเตอร์มาคารอฟนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย
"หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่ได้ไปไหนหรอก ก็แค่อาศัยบ้านเรือนแถวนั้นอยู่รักษาตัวก่อนน่ะ" คำตอบนี้ทำให้ทุกคนภายในกิลด์ต่างพยักหน้ากันไปตามๆกันเพราะการเอาชนะทาร์ทารอสได้ก็คงไม่มีใครอยู่ในสภาพที่จะเดินเหินไปไหนมาไหนได้โดยเฉพาะนัตสึที่ต้องจัดการกับจอมมารและมาสเตอร์E.N.D.ด้วยแล้ว...คงจะสาหัสกว่าใครเป็นแน่
"แล้วพวกนัตสึล่ะ?ทำไมถึงไม่กลับมาพร้อมกับพวกนาย2คนล่ะ" แฮปปี้พูดขึ้น
"พวกนั้นก็น่าจะกลับมานั่นแหละแต่นัตสึบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับคนอื่นๆให้ฉันกับกาซิลกลับมาก่อน" พูดพร้อมกับทำหน้าเซ็ง
"เจ้านั่นเดี๋ยวนี้ชักจะมีความลับเยอะเกินไปแล้ว ชิ" กาซิลที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เล็กๆ
"เอาน่าๆกาซิลอย่างน้อยก็ดีแล้วที่พวกเขาปลอดภัย" เลวี่เอ่ยขึ้นเพื่อไม่ให้กาซิลหงุดหงิดไปมากกว่านี้
"หึ!" และนี่คือคำตอบรับ
"แล้วอาการบาดเจ็บของพวกนายเป็นอย่างไรบ้างล่ะ" มาคารอฟถามขึ้น
"พวกเขาไม่เป็นอะไรแล้วจะมีก็แค่นัตสึที่ต้องพักและรักษาตัวต่อไปอีกและฉันเองก็ได้ให้คำแนะนำไปกับเวนดี้เรียบร้อยแล้วด้วย ฉันจึงกลับมาพร้อมกับลัคซัสและกาซิล" เสียงหวานเล็กของเด็กหญิงคนหนึ่งที่จู่ๆก็โผล่มานั่งอยู่ข้างๆกับมาคารอฟเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"รุ่นที่1!!!!" เสียงของทุกคนในกิลด์ยกเว้นลัคซัสกับกาซิลเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงกับการปรากฏตัวของเด็กหญิงตัวเล็กมาสเตอร์รุ่นแรกผู้ก่อตั้งกิลด์จอมเวทย์แฟรี่เทลที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่เริ่มเปิดศึกกับE.N.D.แล้ว
"ทะ ท่านไม่ได้กลับไปอยู่ที่เกาะแล้วหรอกรึครับ?" มาคารอฟเอ่ยถามขึ้น
"ฉันเองก็แค่อยากจะเฝ้าดูความเจริญเติบโตของภูตหนุ่มสาวเท่านั้นค่ะ" เมวิสพูดพลางส่งสายตามุ่งมั่นมาทางมาคารอฟที่นั่งเหงื่อตกอยู่ข้างๆตน
"คะ ครับ"
"เดี๋ยวฉันจะขอใช้ลาคลีม่าสำหรับสื่อสารทางไกลสักหน่อยนะคะ" เมวิสพูดขึ้นมาในอีกประเด็นหนึ่ง
"เอ๋!?จะเอาไปทำอะไรหรือครับ" มาคารอฟถามอย่างสงสัยแต่ก็ยอมสั่งคนให้ไปเตรียมมาให้เด็กหญิงร่างเล็กคนนี้อยู่ดี
"ฉันจำเป็นต้องใช้มันในการสื่อสารกับบุคคลสำคัญที่จะมาเป็นตัวช่วยในการชนะศึกในครั้งนี้ค่ะ" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเด็กหญิงคนนี้ทำให้บรรยากาศในกิลด์เริ่มตึงเครียดขึ้น
"เซเรฟ..." ใช่ ทุกคนรู้ความหมายของสิ่งที่รุ่นที่1พูดดีเป้าหมายของศึกในครั้งนี้คือจอมเวทย์ดำเซเรฟบุคคลที่เป็นคนสร้างปีศาจมากมายที่ทาร์ทารอสรวมถึงปีศาจที่มีชื่อว่าE.N.D.ด้วย บุคคลที่อันตรายที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด
"แต่เมื่อสักครู่นี้ท่านรุ่นที่1บอกว่าตัวช่วยหรือคะ?" ลิซาน่าที่เอะใจเป็นคนเเรกเอ่ยขึ้น
"ค่ะ ตัวช่วย" เมวิสพูดพลางนิ้มกับตัวเองอย่างแฝงความนัย
"ใครหรือครับ"
"ถึงเวลาก็รู้เองล่ะค่ะ" พูดพลางทำหน้านึกสนุกอย่างถึงที่สุด
"....."
"อย่าถามให้เสียเวลาเลยตาแก่ ฉันก็เคยถามดูแล้วแต่ยัยนี่ก็ไม่ยอมบอกอะไรเลย" กาซิลพูดตัดความพยายามของมาคารอฟทันทีพลางเหล่สายตาไปมองเด็กหญิงที่นั่นอยู่ข้างๆมาคารอฟ "นอกจากเจ้าซาลามานเดอร์แล้วก็มียัยนี่นั่นแหละที่รู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้านั่นคุยกับเซเรฟน่ะแล้วยังทำเป็นอมพะนำไม่ยอมพูดดีๆอยู่นั่น"
"...นั่นเป็นความลับระหว่างพวกเรา4คนค่ะ" เมวิสพูดขึ้นพลางอมยิ้มอย่างน่ารักหากแต่ดวงตานั้นกลับไม่ยิ้มด้วยเลยสักนิด "นัตสึเองก็ต้องการแบบนั้นเช่นกัน"
------------------------------------------
อีกด้านหนึ่ง ณ เกาะซากุระในโลกใหม่
"งั้นหรอ..."
ภายในมุมมืดของเกาะที่มีแต่ต้นซากุระสีชมพูที่บานตลอดปีนี้หากลองเงียบหูฟังดูดีๆก็จะได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นมาแผ่วๆและถ้าลองสังเกตุให้ดีๆก็จะเห็นเงาของใคนบางคนยืนอยู่ท่ามกลางเงาของต้นซากุระที่ยืนต้นสูงใหญ่อยู่ล้อมรอบตัวเอง
"ตอนนี้เราต้องการหมอฝีมือดีๆกับคนที่เดินทะเลเก่งๆน่ะ" เสียงหวานเล็กที่เหมือนกับจะกลืนหายไปกับเสียงของลมที่พัดผ่านไปมานั้นดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่งภายในความมืดนี้
"ลำบากแย่เลยนะ เดี๋ยวจะลองหาดูให้" เสียงตอบรับของร่างเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ในขณะนี้ดังขึ้นอย่างเรียบง่ายโดยไม่รีบร้อน
"เร็วหน่อยจะดีกว่าเดี๋ยวทางนี้จะขอฝากคนไปอยู่ทางนั้นสัก2คนนะ" เสียงที่ไร้ที่มาก็ยังคงดังขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้คำพูดของอีกฝ่ายต่อไปเรื่อยๆ
"ทางนี้ไม่มีปัญหาหรอก ไม่มีอยู่แล้ว"
"งั้นรึ ก็คิดไว้อยู่แล้วล่ะ" น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นไร้ความสงสัยใดๆเลยสักนิด "อีก2วันฉันจะส่งพวกเขาไปหาที่นั่นแล้วค่อยกลับมาเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเถอะ"
"วางแผนอะไรไว้แล้วรึ?"
"ก็ลองวางไว้คร่าวๆแล้วจะเหลือก็แค่ฉันไม่สามารถคาดการการเคลื่อนไหวของเขาคนนั้นได้สักเท่าไหร่ เจาสามารถไปที่ไหนหรือทำอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการในเวลาอันสั้นโดยใช้ความสามารถของเขาเองซึ่งฉันก็ยังไม่เคนเห็นรูปแบบความสามารถนั้นได้อย่างเต็มตาเลยสักครั้งจึงทำให้ยังคำณวนค่าเปอร์เซ็นค์ในทิศทางการรบของเขาไม่ได้เท่าที่ควร แต่ตอนนี้ก็ยังพอหาทางยืดเวลาออกไปให้ทางเราพักฟื้นสภาพร่างกายกันก่อนเพื่อเตรียมตัวในการรบครั้งนี้ได้" เสีนงอธิบายที่ยืดยาวอย่างไม่มีสะดุดดังขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อนนักเพื่อให้อีกฝ่ายที่กำลังฟังอยู่นั้นเข้าใจในทุกๆความหมายที่ต้องการจะสื่อให้แน่ชัด
"เธอนี่สุดยอดจริงๆเลยนะถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่แค่รู้ว่ายังมีเวลาให้พวกนั้นพักแค่นี้ห็พอใจแล้วล่ะ" แต่ดูเหมือนความพยายามของเสียงที่ดังขึ้นมาเมื่อครู่นั้นจะสูญเปล่าไปในทันทีเมื่ออีกคนที่ยืนฟังอยู่จนจบนั้นไม่มีท่าทีว่าจะเข้าใจเลยสักนิด
"ชิชิชิ ศึกนี้จะเป็นศึกสุดท้ายจริงรึป่าวน้า~" สายลมที่พัดผ่านนำพาให้ต้นไม้ใหญ่นั้นสั่นไหวและเปิดทางให้แสงอาทิตย์ยามเช้าได้สาดส่องเข้าที่ร่างของคนๆนั้นและปรากฏเป็นร่างของชายหนุ่มที่มีหมวกฟางใบเก่าๆแขวนอยู่ที่คอกำลังทำท่าทำทางสนุกสนานอย่างที่สุดโดยลืมสิ่งที่เสียงนั้นอธิบายมาเมื่อสักครู่จนหมดสิ้น ก่อนที่อีกเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอีกอย่านึกปลง
"ไม่รู้สิ แต่ทางเราก็หวังอย่างนั้นไว้อยู่แล้วหากครั้งนี้เราแพ้ล่ะก็..นี่ก็คงจะเป็นศึกสุดท้ายจริ.."
"ไม่หรอก" เสียงของชายสวมหมวกฟางเอ่ยตัดขึ้น "ศึกนี้จะไม่มีฝ่ายไหนแพ้"
"...."
"การต่อสู้ระหว่างเซเรฟกับกิลด์..ไม่สิ กับจอมเวทย์จะเกิดขึ้นแต่เมื่อถึงตอนจบนั่นจะไม่ใช่ตอนจบของเซเรฟและจะไม่ใช่ตอนจบของจอมเวทย์ด้วย"
"หมายความว่าอย่างไร?"
"...นั่นสิ มันหมายความว่าอย่างไรนะ?"
"...นี่.."
"ชิชิชิ ลืมไปซะแล้วสิ" ตอนนี้น้ำเสียงและท่าทางของเขาดูจะไม่ยี่หร่ะกับสิ่งที่ตนพูดไปก่อนหน้านี้เลยสักนิดแล้วยังแถมมาด้วยเสียงหัวเราะที่เป็นนิสัยเฉพาะของเจ้าตัวอีกด้วย "เอาน่าๆ เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เอง"
"นั่นสินะ.." และเสียงนั้นก็เงียบไป
"ลูฟี่!!!!"
"นายอยู่ไหนน่ะ ลูฟี่!!!!!"
"ลูฟี่!!!!!!!"
เสียงเรียกหาของคนหลายๆคนที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ชายสวมหมวกฟางต้องหันเหความสนใจออกไปจากเดิมเล็กน้อยก่อนจะตอบรับคำเรียกของพวกพ้องที่พร้อมใจกันออกตามหาเขาที่หายไปจากเรือตั้งแต่ที่เรือจอดเทียบท่าที่เกาะนี้แล้วและเดินตามเสียงของเพื่อนๆกลับไป
"นี่!!เจอลูฟี่แล้วทุกคน!!!!" เสียงของพลซุ่มยิงประจำเรืออุซปซึ่งเป็นผู้พบเห็นตัวของลูฟี่ก่อนใครดังขึ้นเพื่อทำให้คนอื่นๆที่แยกกันไปตามหาตามที่ต่างๆได้รับรู้กันอย่างทั่วถึง
"นี่นายหายไปไหนมาย๊ะ! แล้วนี่เข้ามาทำไมในป่าลึกขนาดนี้เนี่ย" เสียงของต้นหนสาวแสนสวยที่เข้ามาหลังจากอุซปเป็นคนแรกเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายใจที่กัปตันเรือของตนทำอะไรตามอำเภอใจจนทำให้คนอื่นๆเขายุ่งไปทั่วแบบนี้
"ชิชิชิ พอดีมาเดินเล่นน่ะเห็นอากาศมันดี" ในเวลาที่ปรกติแล้วลูฟี่จะเป็นคนที่โกหกได้อย่างมีพิรุธที่สุดแต่ในเวลาแบบนี้เขากับโกหกพวกพ้องของตนเองได้อย่างแนบเนียน ถึงจะเป็นแค่การพูดคุยกับคนอื่นที่ดูธรรมดาแต่ตอนนี้จะให้ทุกคนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังจะทำอยู่นี้ไม่ได้เด็ดขาด นั่นคือความคิดของกัปตันหมวกฟางลูฟี่ที่มีต่อคนอื่นๆในตอนนี้ ซึ่งเป็นความคิดที่จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงต่อไปหากไม่จำเป็น
"อย่างนายเนี่ยนะเดินเล่นเพราะอากาศดี เหลือเชื่อแหะ" และเสียงที่ตามมาอีกเสียงนี้ก็คือเสียงของกุ๊กประจำเรือซันจิที่เดินเข้ามาได้ไม่นานหลังจากนามิ แต่ตัวคนที่ถูกกล่าวหานั้นไม่สนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเลยแม้แต่น้อย
"ซันจิ!!!หิวข้าว..เนื้อ!!!!!!" และดูเหมือว่าเมื่อกัปตันเจ้าปัญหาเห็นกุ๊กหนุ่มคนนี้ท้องของเจ้ากรรมที่ไม่ได้แตะอะไรมาตั้งแต่เช้าก็เริ่มทำงานเสียแล้ว
"เฮ้อ~~…เสบียงจะหมดแล้วนะถึงเกาะข้างหน้าเมื่อไหร่คงต้องแวะซื้อเสบียงตุนไว้บ้างแล้วล่ะ..กลับเรือได้แล้วตอนนี้แฟรงกี้กำลังไปตามตัวไอ้บ้าหัวมอสที่ดันออกไปตามหานายคนเดียวโดยไม่ยอมดูสังขารตัวเองอยู่ส่วนโรบิ้นจัง บรู้ค ช็อปเปอร์กับลอว์น่ะไปกลับไปรอที่เรือแล้ว เดี๋ยวจะหาอะไรให้กิน" ซันจิพูดออกมาเป็นชุดกับทุกคนแต่ประโยคท้ายสุดนั้นพูดกับตัวลูฟี่เพียงคนเดียวเพราะตอนนี้เองก็เลยเวลาอาหารเช้ามาแล้วด้วย
"โอ้ว!!!ขอบใจนะซันจิ กลับเรือซันนี่กันเหอะ ไปกินข้าว!!!!!!!" ลูฟี่พูดอย่างดีใจพร้อมทั้งกระโดดไปมาและรีบวิ่งตรงกลับไปในทิศทางที่เรือซันนี่จอดอยู่ทันที
.......
"อ่ะนี่" เสียงของซันจิดังขึ้นภายในห้องอาหารพร้อมทั้งส่งอาหารที่อยู่ในเต็มมือทั้ง2ข้างไปให้ลูฟี่ที่นั่งน้ำลายหกรออยู่แล้วตั้งแต่กลับมาถึงเรือซันนี่
"เนื้อ!!!ขอบใจนะซันจิ!" ลูฟี่เอ่ยพลางใช้มือหยิบเนื้อติดกระดูกที่อยู่ในจานใบหนึ่งออกมาก่อนที่ซันจิจะวางจานถึงโต๊ะเสียอีกและกัดกินเข้าไปทันที
"ถ้าหิวซะขนาดนั้นทำไมไม่อยู่กินกับคนอื่นก่อนจะไปเดินเล่นล่ะ" ซันจิที่ยืนมองท่าทางของลูฟี่ที่กินอย่าง(สวาปาม)หิวโหยไม่เลือกมาสักพักก็เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบอาหารและเนื้อมาให้อีกชุดเพื่อให้กัปตันตัวแสบที่ออกมาเดินเล่นแต่เช้ามืดโดยไม่ยอมอยู่กินข้าวเช้ากับคนอื่นกินได้อย่างไม่มีสะดุด
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะน่า..ถึงยังไงซันจิก็หาข้าวมาให้ฉันกินได้ตลอดนี่นะ" กัปตันตัวดีพูดทั้งๆที่เนื้อยังคาปากอยู่อย่างอารมณ์ดี
"หึ นั่นสินะ" เอ่ยขึ้นยิ้มๆเพียงเท่านั้นก็หยิบบุหร่แท่งใหม่ขึ้นมาจุดสูบแล้วเดินมาเก็บจานเข้าไปในครัวเพื่อที่จะล้างจานให้เพราะรู้ว่าถ้าเกิดปล่อยให้กัปตันคนนี้ทำเองล่ะก็จานคงไม่เหลือกลับมาแน่
ลูฟี่นั่งอยู่ที่เดิมสักพักก่อนจะเดินออกไปข้างนอก จุดหมายของเขาตอนนี้คือตรงหัวของเรือซันนี่ที่นั่งประจำของตนเพื่อจะได้นั่งรับลมได้สบายๆ
"คุณนามิ~ผมทำพายองุ่นมาอยากลองชิมดูไหมคร๊าบ~มีของโรบิ้นจังด้วยนะคร๊าบ~~"
"อ๊ะ ขอฉันด้วยสิซันจิ~~"
"อยู่ในครัวน่ะไปเอาสิไป!"
"เอาไปฝากลอว์ด้วยนะ"
"ผมขอด้วยสิคร๊าบ~คุณซันจิโยโฮ่ๆๆ"
"อร่อย~!!!!"
ชิชิชิ หาเป็นปกติตัวเขาเองคงจะรีบโดดไปกินพายแสนอร่อยของซันจิกับคนอื่นๆด้วยแล้ว แต่เฉพาะตอนนี้ตอนนี้เท่านั้นที่เขาจะขอเมินขนมแสนอร่อยของซันจิตอนนี้เขาขอนั่งสบายๆฟังเสียงของพวกพ้องทุกๆคนและความสุขของทุกคนต่อไปเรื่อยๆ สำหรับตอนนี้แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว ชิชิชิ
"เฮ้!!!!ลูฟี่หลับอยู่หรอ มากินด้วยกันสิ!!!" จู่ๆท่ามกลางเสียงที่ดังไปมาของทุกคนก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากคุณหมอร่างเล็กที่ถือพายองุ่นอยู่ในมือพลางโบกมืออีกข้างที่ว่างไปมามาทางที่กัปตันของตนนั่งหลับตาสบายใจอยู่ "ซันจิทำพายอร่อยมากเลยนะ!!!"
"โยโฮ่ๆๆ มีของกินอร่อยๆอยู่แบบนี้ถ้าไม่มีคุณลูฟี่มากินด้วยมันก็ดูแปลกนะครับ!" เสียงของนักดนตรีประจำเรือหรืออาจจะควบตำแหน่งผีประจำเรือไปด้วยเอ่ยขึ้นสมทบกับคุณหมอร่างเล็ก
"ใช่ๆมากินด้วยกันสิลูฟี่!ซันจิทำไว้ตั้งเยอะแน่ะ!!" อุซปที่เดินเขามาพร้อมเนื้อที่เต็ม2มือตะโกนเรียกอีกคน
"อร่อยแบบซุปเปอร์!!!!!"
"อย่าเข้ามาใกล้นะ"
ถ้าเกิดไม่มีใครเอ่ยขึ้นมาล่ะก็เขาเองคงตัดใจกับพายในครั้งนี้ได้แล้วแท้ๆแต่ในเมื่อมีคนเรียกแบบนี้แถมยังเป็นเพื่อนๆที่เขารักด้วยแล้วมีหรือที่ตัวเขาจะทำเป็นเมินต่อไปได้อีก...
"โอ้ว!!!พายนี่!!!!!!เอามากินด้วย~~!!!!!!!!!" ลูฟี่ตาลุกวาวเป็นประกายแล้วก็กระโดดเขาไปหยิบพายจากอุซปมากินทันทีและหลังจากนั้นก็เกิดศึกชิงพายเล็กเกิดขึ้นโดยมีคุณหมอร่างสูงซึ่งยืนดูความวุ่นวายนี้อยู่ห่างเพราะกลัวจะโดนดึงเข้าไปมีเอี่ยวด้วยแบบทุกๆครั้งและคิดหรือว่าครั้งนี้เขาจะรอดเมื่อจู่มือยาวๆของลูฟี่ก็โผล่ออกมาแล้วหยิบเอาพายที่เขากำลัง(จะ)กัดออกไปเสียดื้อๆแต่มีหรือที่เขาจะปล่อยไปตอนเช้าเขาก็กินข้าวไปได้เพียงนิดเดียวเนื่องด้วยสปีดการกินอาหารของคนบนเรือนี้มันทำให้เขากินไม่ค่อยทันถึงหลังๆมานี้จะเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตบนโต๊ะอาหารของเรือลำนี้ได้แล้วก็เถอะและนั่นก็ทำให้คุณหมอร่างสูงคนนี้ก้าวเข้าไปมีเอี่ยวกับศึกการแย่งพายเล็กๆ(?)นี้เข้าจนได้...
เพราะ'รัก'จึงอยากปกป้อง
ปกป้องความหวังและความฝันนั้น
เพราะ'รัก'จึงอยากอยู่เคียงข้าง
อยู่เคียงข้างและคอยให้กำลังใจ
เพราะ'รัก'จึงอยากให้อภัย
ให้อภัยในสิ่งที่เขาทำทั้งผิดและถูก
เพราะ'รัก'จึงอยากให้เขาปลอดภัย
ปลอดภัยจากอันตรายที่รายล้อม
เพราะคำคำนี้ที่เรียกว่า'รัก'จึงยอมทำทุกอย่างแม้นตัวตายก็ยอม ยอมเพื่อให่เหล่าคนที่รักนั้นปลอดภัย
เพราะ'รัก'จึงยอมเจ็บ
ยอมเจ็บเพื่อที่จะปกป้องทุกคนได้
เพราะ'รัก'จึงยอมเชื่อใจ
ยอมเชื่อใจและอยู่เคียงข้างเพื่อเป็นกำลังใจ
เพราะ'รัก'จึงยอมช่วย
ยอมช่วยและให้อภัยเสมอมา
เพราะ'รัก'จึงยอมโกหก
ยอมโกหกเพื่อให้เขาปลอดภัยจากสิ่งที่จะตามมา
เพราะคำคำนี้ที่เรียกว่า'รัก'จึงยอมในหลายๆสิ่งเพื่อให้เหล่าคนที่รักปลอดภัยและมีความสุขเพื่อให้ทุกคนนั้นยิ้มได้และมีความสุข ขอเพียงเท่านี้...เท่านี้เท่านั้นแม้ต้องปิดบัง แม้ต้องหลอกลวง แม้ต้องเจ็บปวด แม้ต้องร้องไห้หรือแม้แต่ต้องตายเขาก็ยอม
และเพราะอย่างนี้ถึงต้องเสี่ยงขนาดไหนเขาก็ต้องช่วยและปกป้องพวกพ้องและคนที่เปรียบเสมือนตัวเขาอีกคนหนึ่งให้ได้!!!!!
_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_
100% แล้วค่ะมีใครอ่านบ้างไหม? Intro มานี่มีแต่คำถามกับความลับทั้งนั้น555+ งงบ้างไหมเอ่ย80%ของคนที่อ่านต้องงงชัวๆ เม้นท์กันบ้างนะคะวิจารย์กันหน่อย
ถ้าว่างๆจะมาลงให้อีกนะคะ บาย~~~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น