ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮเลออส โรงเรียนมหาเวทย์ : ภาค ปักษาราชันย์

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 0 โลกใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 56


    บทที่ 0 โลกใหม่

                “อือ~

                เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นจากใต้ซากกองใบไม้แห้งๆ เด็กหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นมาพร้อมกับปัดเศษใบไม้บนศีรษะของตนออกไป เส้นผมสีดำสนิทของเขาดูเปล่งประกายในความมืด เมื่อกวาดตามองสภาพรอบๆตัวผ่านดวงตาสีไพลิน ภาพที่มองเห็นก็คือ ป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีแมกไม้ใหญ่น้อยขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ เสียงของสัตว์เล็กสัตว์น้อยดังอยู่ตลอดเวลา  แสงจันทร์สีเงินยวงที่สาดส่องลงมา ทำให้ดูราวกับว่าที่นี่คือดินแดนเทพนิยาย

                อย่างกับหลุดมาอยู่ในนาเนียร์แน่ะ!

                “ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย ในโลกจำลองงั้นเหรอ?” เด็กหนุ่มพึมพำกับตนเอง เนื่องจากภาพที่เห็นเป็นสิ่งที่โลกในปัจจุบันที่เขาอยู่นั้นเหลืออยู่น้อยเต็มที ไม่ใช่ว่าสาบสูญหรืออนุรักษ์ไว้ขนาดที่ประชาชนคนธรรมดาไม่สามารถเห็นได้ แต่ก็หาได้ยากมาก และที่ที่จะมีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ได้ก็มีแต่ มิติจำลองฝันเท่านั้น

                แต่ความรู้สึกลึกๆกลับบอกว่าไม่ใช่ เขารู้สึกว่าที่นี่มันเหมือนจริงมาก โลกเสมือนยังไม่มีวิทยาการล้ำหน้าขนาดที่จะสร้างได้สมจริงขนาดนี้ ด้วยประสบการณ์ของวัยรุ่นทั่วไปในยุคปัจจุบัน สิ่งที่จะทำในโลกเสมือนคือการเล่นเกมส์ออนไลน์ จะว่าที่นี่เป็นเกมส์ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะแม้แต่เกมส์อันดับหนึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้สมจริงขนาดนี้...ถึงจะไม่เคยได้เล่นจริงๆก็เถอะ

                สิ่งที่เด็กหนุ่มตั้งข้อสังเกตอย่างแรกก็คือ การเคลื่อนไหวของต้นไม้ใบหญ้ายามเมื่อสายลมพัดผ่าน และ...รอยแผลเล็กๆจากการโดนเศษกิ่งไม้ทิ่มแทง มันสมจริงมากเกินไป และที่สำคัญ เขาจำไม่ได้เลยสักนิดว่าใส่เครื่องช่วยจำลองความฝันนั่นด้วย

                ก็แหงล่ะ...เขาไม่รวยพอที่จะซื้อของแพงๆแบบนั้นมาใช้ด้วย แค่เคยเป็นหนูทดลองทดสอบอยู่ครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง

                ถ้าอย่างนั้น...ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?

                แซกๆ

                ระหว่าที่กำลังขบคิดอยู่นั้นก็มีเสียงดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน

                ขวับ!

                สัญชาติญาณส่วนตัวร้องเตือนขึ้นมาในช่วงเสี้ยววินาทีที่ได้ยินเสียง ดวงตาสีฟ้าสดใสตวัดมองไปยังที่มาของเสียงปริศนาในทันที

                กรร~!

                เสือโคร่งตัวใหญ่ราวๆสองเมตร กำลังใช้ดวงตาสีแดงสดจ้องลงมาที่เหยื่อตัวน้อย  ขาหน้ามีกรงเล็บแหลมคมที่พร้อมโจมตี  ขาหลังที่กำลังเกร็งแสดงให้รู้ว่าพร้อมกระโจนใส่ทุกเมื่อ  เจ้าป่าตัวเขื่องค่อยๆก้าวออกมาจากพุ่มไม้ข้างหน้าอย่างช้าๆ เข้ามาหาอาหารมื้อดึกตรงหน้า

                ‘บรรลัยแล้ว!’ เด็กหนุ่มร่ำร้องอยู่ในใจ ด้วยความตกใจที่เกิดขึ้นฉับพลัน เด็กหนุ่มรีบคว้าสิ่งของรอบตัวเท่าที่พอจะหาได้ ขว้างไปทางเสือตรงหน้าทันที

                โป๊ก!

                โฮกกกก~!!!

                ดูเหมือนว่าก้อนหินก้อนเดียวจะทำอะไรเจ้าป่าตรงหน้าไม่ได้ ซ้ำยังไปเพิ่มความโมโหให้กับมันอีกต่างหาก! ความพิโรธที่ปะทุอยู่ในดวงตาสัตว์ร้ายสื่อมาถึงเด็กหนุ่ม ตอนนี้ในมือของเขามีแท่งไม้แข็งๆยาวประมาณสามสิบเซนติเมตรอยู่  มันรู้ได้โดยทันทีว่าเหยื่อตรงหน้าคิดที่จะสู้กับมันแล้ว

                ไม่รีรออะไรอีกต่อไป เจ้าเสือออกแรงกระโดดใส่หมายที่จะกระชากเนื้อคนตรงหน้าด้วยคมเขี้ยวของตน หากแต่มนุษย์ผู้นี้กลับสามารถกลิ้งตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด ซ้ำร้ายยังใช้กิ่งไม้แหลมๆนั่นทิ่มเข้ามาบริเวณขาหน้าข้างซ้ายของมันอีกด้วย

                โฮกกกก~!!!

                มันร้องคำรามอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หาได้คำรามเพราะความหยิ่งผยอง หากแต่คำรามเพราะความเจ็บปวด ความรู้สึกสนุกกับการล่าค่อยเลือนหายไปแล้ว!!

                ด้านเด็กหนุ่ม เมื่อสร้างบาดแผลให้เจ้าเสือร้ายได้แล้ว เขาก็รีบดึงแท่งไม้ที่เป็นอาวุธชิ้นสุดท้ายกลับมาพร้อมกับเริ่มตั้งท่าสู้ เพราะรู้ดีว่าคงจะหนีไม่พ้น  จากการกระโดดที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ ถ้าหันหลังให้เมื่อไหร่คงจะโดนขย้ำทันทีแน่

                จะทำยังไงดีเด็กหนุ่มคิดขณะขยับกิ่งไม้ชุ่มเลือดในมือไปด้านหน้า แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเพราะความตื่นตระหนกอีกครั้ง เมื่อร่างยักษ์ตรงหน้ากำลังเริ่มมีเปลวไฟปะทุอยู่ในปาก แล้วยังทำท่าจะพ่นลูกไฟนั่นมาทางนี้อีกด้วย

    “เสือบ้าอะไรวะเนี่ย!!

                เฟี้ยว~

                ก้อนพลังงานความร้อนพุ่งเฉียดหน้าในจังหวะที่กำลังกระโดดหลบ ทำให้ใบหน้าเกิดรอยไหม้จางๆขึ้นมา

                ตูมมม!!

                ‘เอื้อก

                เด็กหนุ่มเกิดอาการน้ำลายหนืดคอขึ้นมาทันทีที่เหลือบไปเห็นสภาพความวินาศสันตะโรข้างหลัง ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าโดนเข้าไปเต็มๆจะเป็นยังไง

                แต่เมื่อเบนสายตากลับมามองตัวต้นเหตุ ก็เจอกับสายตาที่ทำให้อยากจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จริงๆ เพราะไอ้เสือบ้านี่มันยิ้มเยาะเขา!

                “มากไปแล้วนะไอ้เสือเวรนี่! ให้มันรู้ซะบ้างว่า แค่ลูกไฟน่ะ ทำอะไรไอ้เมฆคนนี้ไม่ได้หรอกโว้ย!” เด็กหนุ่มตะโกนก้อง ว่าแล้วก็ไม่รอช้ากระโดดถอยหลังเพื่อตั้งหลังเตรียมสู้อีกครั้ง แล้วสูดลมหายใจลึกๆ

                ในระหว่างที่กำลังรวมรวมสมาธิ เด็กหนุ่มก็ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ เขามาอยู่ในป่าแบบนี้ได้ยังไงตัวเองก็นึกไม่ออก แต่ที่นึกได้ตอนนี้คือต้องเอาชนะให้ได้!!

                เมฆก้มมองกิ่งไม้ในมืออีกครั้ง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำไห้ตอบโต้แบบไม่มีแบบแผน แต่คราวนี้ไม่เหมือนกัน เขาไม่ได้หวังโจมตีด้วยอาวุธอย่างเดียว อาวุธอีกอย่างที่ร่ำเรียนมาทั้งชีวิตก็พร้อมที่จะนำออกมาใช้แล้ว!!!

    บัดนี้ ดวงตาทั้งสองคู่จ้องประสาน หนึ่งคือราชาแห่งพงไพรที่จ้องมองด้วยความอาฆาตแค้น อีกหนึ่งคือดวงตาของของเด็กชายผู้ไม่คิดยอมแพ้ เด็กหนุ่มกำแท่งไม้ในมือซ้ายแน่น เพ่งสมาธิจิตคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องเอาชีวิตรอดให้ได้

    ต้องรอดให้ได้!!!

    สาม... เด็กหนุ่มเริ่มตั้งท่าต่อสู้

    สอง... พญาเสือเกร็งขาหลังทั้งสองเตรียมพร้อมกระโจนใส่

    หนึ่ง... ทั้งคู่ ปล่อยจิตตามสัญชาติญาณการเอาชีวิตรอด

    เสี้ยววินาทีที่มีเสียงดังขึ้น...มันคือสัญญาณ

    ...แกรก...

     การเอาชีวิตรอดเริ่มแล้ว!!!

                สัตว์ร้ายพุ่งกระโจนใส่เด็กหนุ่มทางด้านหน้า ตวัดกรงเล็บใส่! ในจังหวะเดียวกัน เมฆกลิ้งตัวหลบไปด้านขวาแล้วใช้มือที่มีแท่งไม้แทงสวน! แต่ลูกไม้เดิมๆหรือจะได้ผล พญาเสือใช้ขาอีกข้างที่ไม่บาดเจ็บตะปบใส่มือที่กำลังจ้วงแทงเข้ามา! เด็กหนุ่มพลิกข้อมือจากที่แทงกิ่งไม้แหลมไปข้างหน้า หงายขึ้นมาแทน ทำให้ปลายแหมของกิ่งไม้แทงเฉี่ยวอุ้งเล็บ เรียกโลหิตสีแดงไหลออกมา!!

                โฮกกกกกก~~~~~!!!

                ในขณะที่พญาเสือกรีดร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด เด็กหนุ่มผู้มีดวงตาสีฟ้าอาศัยจังหวะนั้นกระโดขึ้นหลังเสือ!! ชูแขนขึ้นเหนือหัวพร้อมใช้ไม้แหลมทิ่มใส่ส่วนหัวเสือ! แต่ยังไม่ทันได้ปักไม้ลงไป เสื้อร้ายก็ดิ้นสะบัดตัว!! ปลายแหลมที่ควรจะดิ่งลงสมองจึงเบนไปเฉี่ยวที่หัวไหล่ข้างซ้ายแทน!!

                แต่เสือร้ายก็ไม่ยอมถูกทำอยู่ฝ่ายเดียว มันสะบัดตัวจนเด็กหนุ่มตกลงมา แล้วตะปบใส่ลำตัวกลางอากาศ!!

                “อ๊อกกกก” แรงกระแทกเป็นกิโล ทำให้เด็กหนุ่มกระอักเลือดออกมากลางอากาศคำโต  ...มาได้แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้วล่ะนะ... เขาคิด

                ความจริงผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้จะออกมาแบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะการที่คนๆหนึ่งจะต่อสู้กับเสือในป่าด้วยมือเปล่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อย่าว่าแต่เสือตัวนี้ไม่ใช่เสือธรรมดา แต่มันเป็นเสือแบบไหนก็ไม่รู้ ตัวก็มหาบิ๊กไซด์ พ่นไฟก็ได้อีก จนตอนนี้เมฆก็ยังคิดเหมือนเดิม คือ มันเป็นเสือบ้าอะไรวะ

                กรรร~~~!!

                เหมือนจะรู้ความคิด สัตว์ร้ายตรงหน้าเริ่มจะเดินมาหาเขาพร้อมกับส่งเสียงในลำคอเบาๆ ด้วยอาการอย่างผู้ชนะ แม้จะเดินเป๋ๆอยู่บ้างก็ตาม

                “โฮกกกก!!!!” สัตว์ร้ายคำรามขึ้นอีกครั้ง คล้ายไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ดิ้นรนต่อสู้กับมันนานขนาดนี้ ถึงได้แพ้ง่ายดายนัก แต่มันไม่ได้มีหน้าที่สงสารใคร มันก็แค่ล่าเพื่อเอาชีวิตรอด ใครแพ้ก็ซวยไป มันคือกฎของธรรมชาติ  เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดได้ว่าตัวเองแพ้แล้ว “เออ...แกชนะ”

                ในวันนี้ เด็กหนุ่มที่ชื่อเมฆา คงจะกลายเป็นอาหารเสือไปแล้ว ถ้าไม่มีเสียงปริศนาดังขึ้นมาในห้วงความคิด

                ไอ้เด็กบ้า! เจ้าอยากแพ้ก็แพ้ไป แต่อย่าทำให้ข้าตายไปด้วยสิวะ

    เมนท์กันหน่อยน้า~~~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×