สิงร่างมา 5 ปี - นิยาย สิงร่างมา 5 ปี : Dek-D.com - Writer
×

    สิงร่างมา 5 ปี

    ผู้เข้าชมรวม

    109

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    109

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ค. 63 / 13:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินตำนานผีต่างๆกันมานักต่อนักโดยเป็นการเล่าต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นหรือจากเพื่อนหรือคนรู้จักแต่...ผมนั้นกลับต่างกันถึงแม้ผมจะเคยได้ยินเรื่องเล่าเหล่านี้มาตั้งแต่เด็กจนโตเหมือนทุกคนผมก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของผมเอง
         ย้อนอดีตไปเมื่อ 7 ปีที่แล้วครับตอนนั้นผมเรียนอยู่ม.2 อายุ14ปีกำลังแตกหนุ่มเลยก็ว่าได้โดยผมอาศัยอยู่กับพ่อแม่พ่อแม่ พ่อแม่ผมอายุ50กว่าๆทั้งคู่แล้วก็หลานอีก1คนครับซึ่งคือลูกของพี่สาวส่วนพี่สาวผมอีกสองคนซื้อบ้านอยู่ต่างจังหวัดครับเลยอาศัยอยู่ที่นั้นโดยบ้านที่ผมอยู่สมัยนั้นรอบบ้านเป็นสวนและเป็นป่าหมดเลยครับข้างหลังบ้านเป็นป่าไผ่มีก่อไผ่หลายสิบกอมืดสงัดบวกกับต้นยางต้นกับไม้สักสูงชะลูดผมมองไปในตอนเย็นแต่ละครั้งขนลุกวาบแถมยังมีเสียงจิ้งหรีดกับเสียงกาที่มาทำรังในป่านี้ร้องอยู่ทุกวันแค่ผมคิดก็ขนลุกแล้วครับส่วนข้างขวาเป็นสวนกล้วยและข้างซ้ายเป็นป่าไผ่เหมือนกันครับจะมีแค่หน้าบ้านที่เป็นถนน
       จุดเริ่มเรื่องสยองๆเริ่มจากตรงนี้ครับในคืนหนึ่งขณะผมนอนอยู่ในห้องของตัวเองผมได้ยินเสียงพ่อร้องตะโกน แซ็ก แซ็ก !!ซึ่งคือชื่อผมเองครับเสียงพ่อที่ร้องตะโกนเรียกผมนั้นพ่อพูดว่ามาดูแม่หน่อยแม่เป็นอะไรไม่รู้ผมเข้าไปในห้องเห็นพ่อกำลังนั่งดูแม่อยู่พลางๆผมวิ่งไปเปิดไฟเห็นแม่นอนเหมือนคนชักแม่ร้องไห้ผมกับพ่อเรียกแม่อยู่สักพักแม่เริ่มได้สติแม่บอกว่ามีคนตัวดำสองคนมาบีบคอคนหนึ่งยืนเฝ้าประตูห้องแม่อยู่หลังประตูคนหนึ่งเข้ามาบีบคอแม่ ผมผงะและขนลุกซู่เลยจนคืนนั้นไม่มีใครนอนจนกระทั่งรุ่งเช้าพอเช้ามาผมถามแม่ถามว่าแม่ฝันไปหรือป่าวแม่ก็ตอบว่าไม่ได้ฝันเพราะตอนถูกบีบคอมีสติครบเพียงแต่ทำอะไรไม่ได้ กลัว และหายใจไม่ออกเรื่องนี้ถูกเล่าสู่หูญาติๆญาติบางคนก็ว่าผีบรรพบุรุษบางคนว่าผีป่าบางคนว่าสัมภเวสีแต่ญาติจะว่ายังไงก็เป็นแค่ความคิดครับแต่แม่ผมนี่สิครับเริ่มมีอาการแปลกเริ่มกลัวอะไรต่างๆตกใจง่ายเหมือนคนเสียขวัญหลังจากนั้นน้าผมก็บอกให้พ่อพาแม่ไปหาหมอดูที่ต่างหมู่บ้านดูวันนั้นมน่าจะไปเรียนผมเลยไม่ได้ไปด้วยพอตกเย็นมาผมถามแม่ว่าหมอดูว่ายังไงบ้างแม่ หมอดูบอกว่ามีผีแม่หม้ายกำลังตามแม่อยู่ ผมนี่กลัวเลยครับเพราะผมกลัวผีมากๆด้วยความที่เป็นเด็กอีสานก็มักจะได้ยินเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เด็กตั้งแต่คนในหมู่บ้านถูกปอบสิง พวกลุงๆอีกหมู่บ้านหนึ่งไล่ยิงผีโพง หรือกระทั่งรำผีหมอ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ผมชินหรือหายกลัวเลยหลังจากนั้นผมกับพ่อก็หาเสื้อสีแดงมาติดไว้หน้าบ้านใส่หุ่นฟางเอาไว้หน้าบ้านบวกกับช่วงนั้นคนในตำบลตายหมู่บ้านละสองถึงสามคนติดๆกันเลยกลัวหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ผผมอีกเลย
        เวลาผ่านไปประมาณสองเดือนเกิดเหตุการณ์แปลกๆขึ้นอีกช่วงตี1ในคืนนั้นหมาหอนเป็นทางจากปากซอยจนมาถึงบ้านผมมีหมาดำสองตัวมากัดหมาที่บ้านผมเลี้ยงไว้ตอนพ่อเอาไฟฉายออกไปส่องดูเห็นเป็นหมาตัวใหญ่สองตัวสูงมากมันมองมาตัวหนึ่งแล้วก็วิ่งหนีไปทั้งคู่เรื่องนี้เกิดขึ้นก็ทำให้ผมกลัวเลยคิดไปว่าใช่หมาผีหรือป่าวว่ะผมคิดในใจเพราะคนตัวดำที่มาบีบคอแม่ก็สองคนทำให้ผมขนลุกเย็นวาบทั้งตัว
    หลังจากนั้นทำให้ผมเริ่มกลัวบ้านตัวเองมาโดยตลอดผมเลยเริ่มสนใจเรื่องพระเครื่องและพวกว่านต่างๆหลังจากนั้นผมก็เลยเริ่มห้องพระและจะเอาว่านไพรมาตัดเป็นชิ้นๆวางไว้รอบบ้านตั้งประประตูหน้าต่างในบ้านด้วยความเชื่อของคนอีสานว่าว่านไพรกันผีได้โดยดฉพาะผีปอบเพราะตอนที่ผมเป็นเด็กผมไปบ้านย่าที่ต่างจังหวัดย่าจะสอบเอาว่านไพร่ให้ผมทุกครั้งพอกลับบ้านมาผมก็เก็บไว้ที่หิ้งพระผมเลยคิดว่าน่าจะกันผีได้เลยลองทำดูอย่างน้อยก็ช่วยทำให้ผมหายกลัวได้มากขึ้นหลังจากนนั้นก็ไม่มีอะไรมาพักหนึ่งเลยครับ
         จนกระทั่งผ่านมา 1 ปี เรื่องราวก็ปะทุชวนระทึกทำให้ผมกลัวขึ้นอีกแม่ผมเริ่มมีอาการหัวเราะแปลกๆเวลาเจอหน้าคนแม้กระทั่งเห็นหน้าเด็กเล็กๆกับปวดแข้งปวดขาทุกวันทุกคืนผมกับพ่อต้องนวดแข้งขาให้แม่ทุกวัน แค่นั้นไม่พอเริ่มมีอาการเหมือนถูกเข้าสิงและร้องไห้...........................................................
    (รอติดตามตอนต่อไปครับผม)ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับผม

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น