คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : t a k e 1 ; 35 %
เสียงเบสกระหึ่มดังในช่วงเวลาค่ำวิกาลในสถานที่บันเทิงแห่งหนึ่ง ผู้คนมากมายต่างโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงที่ได้ยินอย่างสนุกสนาน บางกลุ่มก็นั่งกันคุยกันพร้อมแก้วเหล้าสีต่างๆในมือไปพร้อมๆกัน
“ชีวิตโสดนี่ดี๊ดีนะพวกแกอ่ะ” หญิงสาวปรายตามองพวกเพื่อนๆที่เอาแต่ส่งสายตาทำท่ายั่วยวนไปให้พวกเพศตรงข้ามอย่างหน่ายๆ
“ดีอยู่แล้ว ถามจริงเหอะว่ะเจสแกแต่งงานมานี่ไม่มีความสุขเลยหรือไง? แล้วตานั่นไมถึงได้ให้แกมีเวลาออกมาเที่ยวเล่นกับพวกเราแบบนี้” ฮวังทิฟฟานี่เพื่อนสนิทของเจสสิก้าถามขึ้นพร้อมหันไปส่งรอยยิ้มให้ชายหนุ่มที่มองๆมา
“นั่นสิคะพี่สิก้า ซอก็อยากรู้เหมือนกัน” เจสสิก้ามองหน้าเพื่อนที่อายุน้อยกว่าแล้วก็รักเหมือนดั่งน้องสาวอย่างซอฮยอนก็ได้แต่ยิ้มอย่างหน่ายๆแล้วส่ายหน้า
“ซอก็รู้ว่าพี่แต่งงานกับคริสแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจที่พ่อกับแม่จัดการเท่านั้น ออกงานก็ค่อยทำเป็นว่ารักกัน ลับหลังก็แล้วแต่คุณเลยอะไรเงี๊ยะ”
“อืม.. ค่ะ แต่ว่านะคะพี่สิก้าพี่ไม่หวั่นไหวบ้างเลยรึไง พี่คริสก็ออกจะดูแลเทคแคร์พี่สิก้าดีจะตายไป” ซอฮยอนขมวดคิ้วออกมานิดๆ
“ถามจริงเถอะเจสแกเคยไอนั่นกันบ้างป่ะ?” ชเวซูยองที่ละสายตาจากสมาร์ทโฟนขึ้นมาจ้องหน้าถามอีกคนด้วยความอยากรู้
“ไอนั่นคือไรอ่ะแก?” เจสสิก้าขมวดคิ้วด้วยความงงนิดๆ
“ก็ไอนั่นไงแก!” ทิฟฟานี่ที่เกิดความอยากรู้ด้วยจึงแสดงท่าทางประกอบโดยการเอามือมาปะกบกันแล้วทำให้มีเสียงแล้วทำตาโตใส่อีกคนที่ตอนนี้หน้าคงตึงไปแล้ว
“บ้าเหรอแก! ฉัน ..ไม่เคย” เจสสิก้าหันหน้ามองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาของเพื่อนอีกสามคนที่มองมาด้วยความตะลึง
“แกๆ อย่าไปบอกใครนะวาเจสสิก้าซีอีโอหญิงอันดับต้นๆของเกาหลีอายุปาเข้าไปอีกสามปีก็สามสิบกากำลังจะลอยมาแปะรอยไว้บนใบหน้าแล้วยังไม่เคยมีเซ็กส์” ทิฟฟานี่หันไปพูดกับซอฮยอนและซูยอง
“ใช่ๆแก อย่างบอกใครนะว่าเจสสิก้าวัยอายุยี่สิบเจ็ด ภรรยาจำเป็นของคริส อู๋ฟาน แต่งงานกันมาเป็นปีๆแล้วยังยั่วผัวให้เอากันไม่ได้”
“พี่ๆคะ อย่าล้อพี่สิก้าวัยไกล้จะสามสิบสิคะ นี่ดูสิหน้าขาวหน้าแดงอย่างกะไข่ต้มแล้ว” หลังซอฮยอนพูดจบทั้งสามคนก็ปล่อยหัวเราะกันออกมาทันทีเว้นแต่เจ้าของชื่อที่กำลังนั่งกรอกตาไปมาอยู่
“ก็ยังไม่เจอใครที่อยากจะให้เปิดนี่!” เจสสิก้าที่เห็นเพื่อนๆหัวเราะกันยังไม่ยอมหยุดซักทีก็ได้แต่หัวเสียกระดกเหล้าเข้าปากทันที
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย” ทิฟฟานี่ที่หัวเราะก็ยิ่งขำเข้าไปอีกที่เพื่อนสาวหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้ขนาดนี้
“แต่ฉันว่านะแก.. มันก็น่าลองดูซักครั้งเหมือนกัน” ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมาจากปากเจสสิก้าทั้งสามคนก็ได้แต่อ้าปากค้างแล้วทำตาปริบๆมองไปยังเพื่อนคนสวยที่เบนหน้าออกไปทางอื่น
“เจสตอนนอนนี่แกนอนแยกห้องกับคริสใช่ป่ะ?” ซูยองถามทันทีที่หยุดหัวเราะ
“เออดิ”
“เอาเลยแก ฉันเชียร์” พูดจบซูยองก็ยกแก้วมาชนกับเจสสิก้าทันที
“พี่จะบ้าเหรอคะ! พี่เจสแต่งงานแล้วนะ” ซอฮยอนเห็นท่าไม่ดีเลยเอ่ยห้ามขึ้นมาทันที
“ใช่แล้วแก แกแต่งงานแล้วนะอย่างนี้มันเรียกว่ามึงกำลังจะมีชู้!” ทิฟฟานี่พูดเห็นด้วยอีกคนนึง ก่อนที่สายตาจะจับจุดโฟกัสไปที่ชายหนุ่มคนนึงทันที
“เจสฉันรู้ คนนั้นสเปคแก” พูดจบทิฟฟานี่ก็ชี้ไปยังกลุ่มผู้ชายที่เดินเข้ามาใหม่
“พี่ฟานี่เปลี่ยนฝั่งง่ายไปนะคะ” ซอฮยอนเบ้ปาก
“คนไหนวะแก?” เจสสิก้าพยายามจับจุดโฟกัสทันที
“คนที่ใส่เสื้อเชิร์ตสีน้ำเงิน ผิวขาวๆอ่ะแก!” ทั้งสี่คนมองไปยังจุดๆเดียวกันทันที
“อ๋อ โอ เซฮุนนี่เอง” ชเวซูยองที่มองหน้าอีกฝ่ายได้แต่ประมวลผลออกมาเป็นชื่อจนเพื่อนทั้งสามคนหันมามองเจ้าหล่อนเป็นตาเดียวทันที
“แกรู้จักได้ยังไง?” เจสสิก้าถามอีกคนอย่างสนอกสนใจ
“เป็นญาติกัน” พูดจบทั้งโต๊ะก็หันไปมองโอเซฮุนใหม่แล้วหันมามองหน้าซูยองทันที
“ญาติห่างๆกันอ่ะแก”
“อ๋อ” ทั้งสามคนจึงร้องอ๋อออกมาพร้อมกัน โดยไม่ได้สังเกตถึงแววตาของเจสสิก้าและมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมา
-
“นี่.. ให้เค้าเป็นคนเปิดได้ป่ะแก?”
“แกจะบ้าเหรอเจส!!!” ทิฟฟานี่ตีไหล่อีกคนแรงๆ
“นั่นสิคะ พี่สิก้าเลิกคิดเลยนะคะ!” ซอฮยอนดุอีกคนเล็กน้อยก่อนจะจับใบหน้าของเจสสิก้าที่กำลังจ้องอีกคนให้หันกลับมา
“ก็แล้วแต่แกสิ” ซูยองพูดออกมานั่นทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกันทันที
“แกจะบ้าเหรอไอ้หยอง!” ทิฟฟานี่รัวกำปั้นน้อยๆลงไปบนไหล่ของซูยองก่อนจะหยุดฟังเหตุผลที่อีกคนพูด
“โอ๊ย! แกลองฟังฉันนะอีอ้วน แกลองคิดดูสิแต่งงานกันมาเป็นปีๆแล้วยัยเจสก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวแถมอะไรอย่างนั้นให้ชุ่มฉ่ำหัวใจก็ไม่มี ให้พวกแกลองคิดดูถ้าเป็นพวกแกทนมาได้เป็นปีๆแล้ว.. คำถามคือ ยังจะทนอีกนานมั้ย?” พูดเสร็จซูยองก็ยกแก้วเหล้าที่วางไว้ขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วตั้งลงทันทีจนเกิดเสียงดัง
ปึก!
“มีความสุขมั้ย?” แล้วก็สบตาเจสสิก้าที่กำลังมองมาอยู่อย่างต้องการคำตอบ
“ก็จริงนะ แต่.. ไอ้หยองเมื่อกี้แกเรียกฉันว่าอีอ้วน! อย่าอยู่เลยแก!!” ทิฟฟานี่ทำตาเขียวใส่ซูยองก่อนจะเข้ามายีผมของซูยองที่ปล่อยไว้ให้ยุ่งจนพันกัน
“โอ๊ย! มันเป็นชื่อที่แกสมควรที่สุดแล้ว!!” ด้านซูยองก็พยายามจับมืออีกคนที่กำลังทำร้ายผมของเธอเอาไว้ ซอฮยอนที่นั่งมองทั้งสองคนที่กำลังเล่นทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาก่อนหันไปถามเจสสิก้า
“ว่ายังไงคะพี่สิก้า?”
เจสสิก้าหันมาสบตาซอฮยอนก่อนจะยิ้มให้อีกคนอ่อนๆ ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่วางไว้มากระดกให้ไหลลงคอไป
ปึก!
“ทนมั้ย? ก็คงจะต้องทนให้ธุรกิจอยู่ตัวมากกว่านี้ก่อนซักพักยาวๆ..” พูดจบเจสสิก้าก็ก้มหน้าถอนหายใจออกมาอย่างเซงๆ ซอฮยอนที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่เอื้อมมือไปบีบไหล่เบาๆเพื่อเป็นกำลังใจให้อีกคน ซูยองกับทิฟฟานี่ก็เลิกเล่นกันก่อนจะหันมาสบตากันแล้วหันหน้าไปมองเพื่อนอย่างหงอยตามกัน
“ส่วนที่ถามว่า มีความสุขมั้ย?..” เจสสิก้าเงยหน้าหันไปมองชายหนุ่มที่เมื่อกี้เป็นเป้าหมายในวงสนทนาที่ตอนนี้กำลังชนแก้วกับเพื่อนๆของเขาแล้วยิ้มออกมานั่นทำให้เจสสิก้ามองภาพนั้นอย่างเหม่อลอย
“..ไม่ลองเปิดก็ไม่รู้” ก่อนจะยิ้มออกมาเพราะรอยยิ้มนั้น
“แก ฉันว่าเจสมันคงเข้าใจคำถามสุดท้ายฉันผิดประเด็น” ซูยองหันไปพูดกับทิฟฟานี่ก่อนจะได้รับสายตาฉันก็ว่าเหมือนแกกลับมา
4 0 %
ความคิดเห็น