ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Heaven for their love [part3] กูจะฆ่ามึง
Heaven for their love
ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งดื่มกัน เพื่อรอคนสวยที่นัดเอาไว้ แต่แล้วผ่านไปเป็นชั่วโมงก่อนที่ร่างที่เป็นคนนัดครั้งจะยางกายเข้ามาในร้านสุดหรูแห่งนี้ได้
“ไม่มาพรุ่งนี้เลยละนายหญิง”ก่อนที่ร่างบางจะนั่งก็เจอคำทักทายของคนรออย่างหัวเสียเอ่ยคน
“ฉันเองก็กะว่าจะมามะรื่นนี้เลยดีกว่าไหม”ก่อนจะทำท่าจะเดินออกจากร้านไป
“OK พูดเล่นเองไม่เห็นต้องงอลเลย”ก่อนมือแกร่งนั้นจะดึงมือนั้นไว้ก่อนร่างบางจะนั่งลงข้างๆร่างสูงนั้นตามระเบียบ
“พี่ยูชอนแล้วริคกี้ไปไหน”คนที่มาใหม่อย่างน้องชายคนเล็กที่ก่อนจะมาบอกอยากเจอพี่ชายแต่ไหนพอมาถึงแล้วถามหาอีกคน ทั้งๆที่พึ่งจะกลับมาจากต่างประเทศแท้ๆแต่กับไม่ทักทายพี่ที่นั่งหัวโด่สองคนแม้แค่คำเดี่ยว
“ไม่คิดจะทักทายฉันก่อนหรืองัย ชางมิน”เป็นเสียงยูชอนที่พูดขึ้นเมื่อหมั่นไส้น้องชายที่เอาแค่ถามถึงแฟนแต่ไม่สนใจพี่เลย
“หวัดดีคับ พอใจหรือยังคับพี่”ก่อนจะยืนขึ้นเมื่อรอคำตอบจากพี่ชาย
“อยู่ข้างบนน่ะ โดนกักบริเวณอยู่”ก่อนคนที่ได้คำตอบจะเดินไป โดนไม่สนใจยุนโฮที่นั่งมองคนที่เอาแต่จะหาแฟนตัวเอง ได้ข่าวมาว่าเจ้าตัวแสบงอลหนีกลับมาก่อนเป็นเดือน นี้พึ่งคิดจะกลับมาง้อเขา
“นายจำรหัสผ่านได้ใช่ไหม”เสียงยูชอนตระโกนไหลหลังน้องชายที่เดินไม่สนใจใครไปยังลิฟต์สวนตัวในห้องทำงานเขาที่จะมีน้อยคนนั่งจะรู้ทางขึ้นไปจนถึงที่พักของเขา
เพราะลิฟต์ของร้านจะมีถึงแค่5ชั้นและที่เหลืออีก2ชั้น เป็นที่พักสำหรับเขา และมีทางขึ้นเพียงทางเดี่ยวที่รู้กันแค่ไม่กี่คน กระทั่งลูกน้องคนสนิมมากเท่านั้น ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่คน พอถึงเวลาทำความสะอาดบ้านก็ต้องเป็นลูกน้องคนสนิทที่พาขึ้นไปแต่ก่อนจะเข้าไปก็ต้องปิดตาชะก่อน นั้นเพราะต้องระวังตัวเอง ที่ห่วงและทำถึงขนาดนี้ก็เพราะเป็นห่วงน้องชายที่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
“นี่ก็ไม่คิดจะทักกันเลยหรืองัยกัน”ก่อนจะหันมาสนใจคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามที่ทำหน้าบูดอยู่
“ว่าไง”ก่อนที่จะทักขึ้นตามของ
“เขาเรียกว่าคำทักทายหรอเนี่ย ตัวเล็ก”ก่อนจะถามเอาคำตอบ
“แล้วจะเอางัยเนี่ยเวลาไม่ทักก็ว่าเขา”ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น ทำเป็นไม่สนใจคำพูดของคนตรงหน้า
“จะนั่งจีบกันอีกนานไหม จะได้ไม่คุยที่อื่นรอ”เป็นแจจุงที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่พูดขึ้นเมื่อเห็นน้องเขาเข้างอลอีกคนที่บอกไม่อยากเจอนักเจอหนา
“พี่แจจุง”ก่อนจะหันหาพี่ชายของตัวเอทันที ก่อนจะกินลมเข้าไปอีก ให้ใบหน้านั้นกลม
“นายหญิงว่ามาก่อนเลยแล้วกัน”เสียงร่างสูงเอ๋ยขึ้นเมื่อถึงเวลาเริมการคุยธุระสำคัญของวันนี้
“นางคุงรู้เรื่องของซีวอนแล้วใช่ไหม”ก่อนจะเริ่มการสนทนา
“รู้แน่มันพึ่งฆ่าคนของฉันไปเมื่อวานนี้เอง”สายตาที่ถูกส่งไปมีแต่ความแค้นที่มีสำหรับคนเลวที่กำลังถูกกล่าวถึง
“ฉันว่ามันเริ่ม มากไปแล้วน่ะ ที่อเมริกาก็เรื่องการเคลื่อนไหวจากแก๊งพวกมันมากขึ้น”เป็นยูชอนที่รางงานเรื่องที่อเมริกาที่พึ่งได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องทางนั้นโทรมารายงานเหตุการณ์ต่างๆ
“ฉันว่าเราต้องทำอะไรซักอย่าแล้วละ”ร่างบางเอ๋ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเรื่องทุกอย่างเริ่มจะวุ่นวายไปกันใหญ่
“ฆ่าเลยไหมพี่แจจุง”เป็นคนตัวเล็กที่นั่งเงียบอยู่นานเอ๋ยขึ้น ถ้าคนอื่นมาได้ยินคงจะตกใจกับคำพูดของคนตัวเองที่ไม่ได้เข้ากับหน้าเลย
“มันไม่ง่ายขนาดนี่นหรอน่ะ ตัวเล็ก”ยูชอนที่หันไปยิ้มให้กับความคิดของคนข้างหน้าเอ๋ยขึ้น
“มันก็คงเป็นอย่างที่จุนซูพูดถึงเราไม่ฆ่ามัน มันก็ฆ่าเรา ฉันเองก็อยากจัดการให้มันเสร็จไปซักที”ยุนโฮเอ๋ยขึ้นก็จะหันไปหาร่างบางเพื่อขอความคิดเห็นว่า สิ่งที่เขาคิดจะทำความคิดตรงกันไหม
“ฆ่างันหรอ มันก็OK น่ะ แต่มันไม่ง่ายอยากนั้น นายก็รู้จริงไหม”ร่างบางตอบกลับไปการเข้าถึงตัวชีวอนมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องอยาก ถ้ายุนโฮได้เอ๋ยออกมา เขาเชื่อว่าร่างสูงคงมีอะไรซักอย่างอยู่ในใจบางแล้ว
“แล้วเราจะเริ่มกันเมื่อไรดีละ”ยูชอนหันไปยังเพื่อนเพื่อรอคำตอบที่เขาเองรอมานานถึง 5ปี
“คุณ ยูชอนคับ”เสียงพนักงานบริการของผับวิ่งเข้ามาน่าตาตื้น
“มีอะไรว่ะ ไม่เห็นหรืองัยว่าฉันมาแขก”ร่างโปร่งตรงหน้าตะโกนออกมา กับการเสียบมารยาทของพนักงานของตัวเอง
“ซีวอน มาคับ”ก่อนจะตอบพาก้มหัว แต่คำตอบก็มาพร้อมก็ตัวต้นเรื่อง
“หวัดดี ยูชอน” ร่างสูงที่ถูกเอ๋ยถึง เดินเข้ามาทักทายที่โต๊ะของพวกเขา
“ว่าไง”ก่อนจะเห็นุนโฮที่เดินออกมาข้างหน้ายูชอนเพราะรู้ดีถ้าเพื่อนของเขาเจอเจ้าบ้านี้เมื่อไร เป็นต้องของขึ้นทุกที
“วันนี้อยู่กันครบเลยนิ”ก่อนจะหันไปทักทายคนในโต๊ะ
“ก็อยากที่เห็น นายมีอะไรกันแน่ ชอย ซีวอน”จ้องในหน้านั้นอยากหาคำตอบ ร้อยวันพันปีคงได้เห็นหน้ากันง่ายๆไหน ถ้าไม่ใช่งานสังคมที่จำเป็นต้องทักทายกัน
“ก็แค่อยากจะมาทักทายเพื่อนเก่า”ก่อนจะยิ้มส่งกลับไป
“ถ้าจำไม่ผิด ความเป็นเพื่อนของพวกฉันกับแก่ มันจบลงวันที่แกระเบิดงานนั้น นายจำได้ไหม งานที่ทำให้พ่อแม่ของยูชอนจากไป”สายตาที่ถูกส่งไปให้กับคนที่ยืนอยู่นั้นมีแค่ความแค้น
“น่าเสียดายที่งานนั้นพวกนายไม่ได้ไปด้วย จะได้ตายกันให้หมดไม่ต้องมาเป็นมาร ขวางความเจริญฉันอยู่แบบนี้”ร้อยยิ้มเย่อยิ่งที่ถูกส่งไปให้คนทั้ง4
คนหนึ่งที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่หลังยุนโฮ มีร่างเล็กที่ค่อยจับมือนั้นเอาไว้ ร่างบางอีกคนที่ยื่นอยู่ข้าง มองไปยังคนที่มาใหม่โดยไปละสายตาไปไหน
“ต้องขอบคุณพระเจ้ามากว่าที่วันนั้น พวกฉันไม่ได้ไปด้วย ขอบคุณที่พระเจ้าให้ฉันยังมีชีวิตอยู่เพื่อฆ่ามึง จำเอาซีวอนมึงกับกูต้องได้เจอกันแน่”เป็นยูชอนที่ตะโกนขึ้น จนคนที่มาเที่ยวต่างหันมามองเป็นสายตาเดี่ยวกัน แววตาที่มีแต่ความแค้นสำหรับคนตรงหน้า
“แล้วฉันจะรอแล้วกัน จะได้รู้กันไปว่าใครกันจะโดนฆ่า”ก่อนรอยยิ้มนั้นจะทำให้ทุกคนโมโห
“มึงออกไปได้แล้ว ก่อนคนที่ถูกฆ่าตอนนี้จะเป็นมึง”มือแกล่งของยุนโฮที่ยืนถือปืนจ่อไปที่หัวของซีวอน โดยที่ร่างนั้นไม่ได้ตั้งตัวเลย เขาอยากจะเหนียวไกรมันซะตรงนี้ถ้ามันไม่ติดที่ว่าคนทั้งผับจะต้องมาเห็นมาอุจารตาของคนเลวคนนี้
“ยังไวเหมือนเดิมเลยน่ะ ยุนโฮ”ยังยิ้มลงกลับไปทั้งๆที่ปืนในมือนั้นพร้อมจะเหนี่ยวไกรได้ตลอดเวลา
“มันจะไหวกว่าที่ถ้ามึงยังยืนอยู่ตรงนี้”นิ้วเรียบนั้นกำลังจะกดลงไปเบาๆ
“ยอมแล้วๆ”ก่อนจะยกมือ2ข้างขึ้น ทั้งที่พูดแบบนั้น แต่กับกำลังหัวเราะกับท่าทางโมโหของยุนโฮและคนอื่นๆ
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งน่ะเพื่อน”ก่อนจะหันหลังกับไปพร้อมยกมือโบกไปมาจากทางด้านหลัง
ก่อนที่ทุกอยากจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติ แต่คงมีเพียงยูชอนที่เดินออกไปจากตรงนั้น เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ต้องเจอกันคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ มันทำให้ยูชอนเหมือนจะตายเมื่อเห็นคนที่ทำให้ทุกอยากของเขาต้องเปลี่ยนไป ทำให้ครอบครัว ที่เคยมีแต่ความอบอุ่นในแบบที่เขามีต้องหายไป ทำให้น้องชายของเขาต้องร้องไห้ ต้องทำให้ทุกอยากพัง
“ไปดูยูชอนหน่อยสิ จุนูซู”ก่อนคนที่โดนบอกจะเดินตามหลังคนที่เดินออกไป
“เก็บปือได้แล้วยุนโฮ”ก่อนร่างบางที่ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆคนที่ยังคงกำปืนแน่นอยู่ในมือ
“ทำไหมฉันไม่ฆ่ามันชะ”ร่างสูงพูดขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้มองใบหน้าของร่างบางนั้น แต่กลับเป็นมือร่างนั้นโอบใบหน้าของร่างสูงหันมาทีเขา
“นายทำถูกแล้ว ถ้าฆ่ามันตอนนี้จะไปสนุกอะไร”ก่อนจะกดขึ้นของร่างสูงลงที่ไหล่นั้น รู้ดีว่ายุนโฮเองรู้สึกแย่มาตลอด
ถ้าวันนั้นเขาไม่สบายจนต้องให้พ่อกับแม่ไปเฝ้าที่โรงพยาบาล เลยจำเป็นต้องให้พ่อกับแม่ของยูชอนไปเป็นตัวแทน รู้สึกผิดมาตลาดว่าเป็นความผิดของเขา ว่าเป็นต้นเหตุของการจากไปของพ่อแม่ยูชอน ทั้งๆที่ยูชอนเองไม่ไม่เคยโกรธยุนโฮเลย
เป็นเพราะยุนโฮไม่สบายเป็นยูชอนที่ต้องไปนั่งคุยเป็นเพื่อน ร่วมไปถึงพ่อแม่ ทั้งครอบครัว ของแจจุง ที่ตกลงกันว่าจะให้พ่อแม่ของยูชอนไปงานนั้นแล้วกลับมาทุกคนจะไปนั่งฉลองกัน แต่เพราะวันนั้นเกิดระเบิดขึ้น งานฉลอวที่คิดเอาไว้กลับเป็นงานไวอาลัยกับการจากไปของพ่อแม่ยูชอน
To Be Continue
จบไปอีกหนึ่ง ตอน ที่ไม่มีอารายที่หน้าตื้นเต้นเลย
รอหน่อยน่ะ มันอาจจะยาวหน่อยกับเรื่อง องประกอบของเรื่อง
เราพยายามถึงที่สุดเลย
ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งดื่มกัน เพื่อรอคนสวยที่นัดเอาไว้ แต่แล้วผ่านไปเป็นชั่วโมงก่อนที่ร่างที่เป็นคนนัดครั้งจะยางกายเข้ามาในร้านสุดหรูแห่งนี้ได้
“ไม่มาพรุ่งนี้เลยละนายหญิง”ก่อนที่ร่างบางจะนั่งก็เจอคำทักทายของคนรออย่างหัวเสียเอ่ยคน
“ฉันเองก็กะว่าจะมามะรื่นนี้เลยดีกว่าไหม”ก่อนจะทำท่าจะเดินออกจากร้านไป
“OK พูดเล่นเองไม่เห็นต้องงอลเลย”ก่อนมือแกร่งนั้นจะดึงมือนั้นไว้ก่อนร่างบางจะนั่งลงข้างๆร่างสูงนั้นตามระเบียบ
“พี่ยูชอนแล้วริคกี้ไปไหน”คนที่มาใหม่อย่างน้องชายคนเล็กที่ก่อนจะมาบอกอยากเจอพี่ชายแต่ไหนพอมาถึงแล้วถามหาอีกคน ทั้งๆที่พึ่งจะกลับมาจากต่างประเทศแท้ๆแต่กับไม่ทักทายพี่ที่นั่งหัวโด่สองคนแม้แค่คำเดี่ยว
“ไม่คิดจะทักทายฉันก่อนหรืองัย ชางมิน”เป็นเสียงยูชอนที่พูดขึ้นเมื่อหมั่นไส้น้องชายที่เอาแค่ถามถึงแฟนแต่ไม่สนใจพี่เลย
“หวัดดีคับ พอใจหรือยังคับพี่”ก่อนจะยืนขึ้นเมื่อรอคำตอบจากพี่ชาย
“อยู่ข้างบนน่ะ โดนกักบริเวณอยู่”ก่อนคนที่ได้คำตอบจะเดินไป โดนไม่สนใจยุนโฮที่นั่งมองคนที่เอาแต่จะหาแฟนตัวเอง ได้ข่าวมาว่าเจ้าตัวแสบงอลหนีกลับมาก่อนเป็นเดือน นี้พึ่งคิดจะกลับมาง้อเขา
“นายจำรหัสผ่านได้ใช่ไหม”เสียงยูชอนตระโกนไหลหลังน้องชายที่เดินไม่สนใจใครไปยังลิฟต์สวนตัวในห้องทำงานเขาที่จะมีน้อยคนนั่งจะรู้ทางขึ้นไปจนถึงที่พักของเขา
เพราะลิฟต์ของร้านจะมีถึงแค่5ชั้นและที่เหลืออีก2ชั้น เป็นที่พักสำหรับเขา และมีทางขึ้นเพียงทางเดี่ยวที่รู้กันแค่ไม่กี่คน กระทั่งลูกน้องคนสนิมมากเท่านั้น ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่คน พอถึงเวลาทำความสะอาดบ้านก็ต้องเป็นลูกน้องคนสนิทที่พาขึ้นไปแต่ก่อนจะเข้าไปก็ต้องปิดตาชะก่อน นั้นเพราะต้องระวังตัวเอง ที่ห่วงและทำถึงขนาดนี้ก็เพราะเป็นห่วงน้องชายที่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
“นี่ก็ไม่คิดจะทักกันเลยหรืองัยกัน”ก่อนจะหันมาสนใจคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามที่ทำหน้าบูดอยู่
“ว่าไง”ก่อนที่จะทักขึ้นตามของ
“เขาเรียกว่าคำทักทายหรอเนี่ย ตัวเล็ก”ก่อนจะถามเอาคำตอบ
“แล้วจะเอางัยเนี่ยเวลาไม่ทักก็ว่าเขา”ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น ทำเป็นไม่สนใจคำพูดของคนตรงหน้า
“จะนั่งจีบกันอีกนานไหม จะได้ไม่คุยที่อื่นรอ”เป็นแจจุงที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่พูดขึ้นเมื่อเห็นน้องเขาเข้างอลอีกคนที่บอกไม่อยากเจอนักเจอหนา
“พี่แจจุง”ก่อนจะหันหาพี่ชายของตัวเอทันที ก่อนจะกินลมเข้าไปอีก ให้ใบหน้านั้นกลม
“นายหญิงว่ามาก่อนเลยแล้วกัน”เสียงร่างสูงเอ๋ยขึ้นเมื่อถึงเวลาเริมการคุยธุระสำคัญของวันนี้
“นางคุงรู้เรื่องของซีวอนแล้วใช่ไหม”ก่อนจะเริ่มการสนทนา
“รู้แน่มันพึ่งฆ่าคนของฉันไปเมื่อวานนี้เอง”สายตาที่ถูกส่งไปมีแต่ความแค้นที่มีสำหรับคนเลวที่กำลังถูกกล่าวถึง
“ฉันว่ามันเริ่ม มากไปแล้วน่ะ ที่อเมริกาก็เรื่องการเคลื่อนไหวจากแก๊งพวกมันมากขึ้น”เป็นยูชอนที่รางงานเรื่องที่อเมริกาที่พึ่งได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องทางนั้นโทรมารายงานเหตุการณ์ต่างๆ
“ฉันว่าเราต้องทำอะไรซักอย่าแล้วละ”ร่างบางเอ๋ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเรื่องทุกอย่างเริ่มจะวุ่นวายไปกันใหญ่
“ฆ่าเลยไหมพี่แจจุง”เป็นคนตัวเล็กที่นั่งเงียบอยู่นานเอ๋ยขึ้น ถ้าคนอื่นมาได้ยินคงจะตกใจกับคำพูดของคนตัวเองที่ไม่ได้เข้ากับหน้าเลย
“มันไม่ง่ายขนาดนี่นหรอน่ะ ตัวเล็ก”ยูชอนที่หันไปยิ้มให้กับความคิดของคนข้างหน้าเอ๋ยขึ้น
“มันก็คงเป็นอย่างที่จุนซูพูดถึงเราไม่ฆ่ามัน มันก็ฆ่าเรา ฉันเองก็อยากจัดการให้มันเสร็จไปซักที”ยุนโฮเอ๋ยขึ้นก็จะหันไปหาร่างบางเพื่อขอความคิดเห็นว่า สิ่งที่เขาคิดจะทำความคิดตรงกันไหม
“ฆ่างันหรอ มันก็OK น่ะ แต่มันไม่ง่ายอยากนั้น นายก็รู้จริงไหม”ร่างบางตอบกลับไปการเข้าถึงตัวชีวอนมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องอยาก ถ้ายุนโฮได้เอ๋ยออกมา เขาเชื่อว่าร่างสูงคงมีอะไรซักอย่างอยู่ในใจบางแล้ว
“แล้วเราจะเริ่มกันเมื่อไรดีละ”ยูชอนหันไปยังเพื่อนเพื่อรอคำตอบที่เขาเองรอมานานถึง 5ปี
“คุณ ยูชอนคับ”เสียงพนักงานบริการของผับวิ่งเข้ามาน่าตาตื้น
“มีอะไรว่ะ ไม่เห็นหรืองัยว่าฉันมาแขก”ร่างโปร่งตรงหน้าตะโกนออกมา กับการเสียบมารยาทของพนักงานของตัวเอง
“ซีวอน มาคับ”ก่อนจะตอบพาก้มหัว แต่คำตอบก็มาพร้อมก็ตัวต้นเรื่อง
“หวัดดี ยูชอน” ร่างสูงที่ถูกเอ๋ยถึง เดินเข้ามาทักทายที่โต๊ะของพวกเขา
“ว่าไง”ก่อนจะเห็นุนโฮที่เดินออกมาข้างหน้ายูชอนเพราะรู้ดีถ้าเพื่อนของเขาเจอเจ้าบ้านี้เมื่อไร เป็นต้องของขึ้นทุกที
“วันนี้อยู่กันครบเลยนิ”ก่อนจะหันไปทักทายคนในโต๊ะ
“ก็อยากที่เห็น นายมีอะไรกันแน่ ชอย ซีวอน”จ้องในหน้านั้นอยากหาคำตอบ ร้อยวันพันปีคงได้เห็นหน้ากันง่ายๆไหน ถ้าไม่ใช่งานสังคมที่จำเป็นต้องทักทายกัน
“ก็แค่อยากจะมาทักทายเพื่อนเก่า”ก่อนจะยิ้มส่งกลับไป
“ถ้าจำไม่ผิด ความเป็นเพื่อนของพวกฉันกับแก่ มันจบลงวันที่แกระเบิดงานนั้น นายจำได้ไหม งานที่ทำให้พ่อแม่ของยูชอนจากไป”สายตาที่ถูกส่งไปให้กับคนที่ยืนอยู่นั้นมีแค่ความแค้น
“น่าเสียดายที่งานนั้นพวกนายไม่ได้ไปด้วย จะได้ตายกันให้หมดไม่ต้องมาเป็นมาร ขวางความเจริญฉันอยู่แบบนี้”ร้อยยิ้มเย่อยิ่งที่ถูกส่งไปให้คนทั้ง4
คนหนึ่งที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่หลังยุนโฮ มีร่างเล็กที่ค่อยจับมือนั้นเอาไว้ ร่างบางอีกคนที่ยื่นอยู่ข้าง มองไปยังคนที่มาใหม่โดยไปละสายตาไปไหน
“ต้องขอบคุณพระเจ้ามากว่าที่วันนั้น พวกฉันไม่ได้ไปด้วย ขอบคุณที่พระเจ้าให้ฉันยังมีชีวิตอยู่เพื่อฆ่ามึง จำเอาซีวอนมึงกับกูต้องได้เจอกันแน่”เป็นยูชอนที่ตะโกนขึ้น จนคนที่มาเที่ยวต่างหันมามองเป็นสายตาเดี่ยวกัน แววตาที่มีแต่ความแค้นสำหรับคนตรงหน้า
“แล้วฉันจะรอแล้วกัน จะได้รู้กันไปว่าใครกันจะโดนฆ่า”ก่อนรอยยิ้มนั้นจะทำให้ทุกคนโมโห
“มึงออกไปได้แล้ว ก่อนคนที่ถูกฆ่าตอนนี้จะเป็นมึง”มือแกล่งของยุนโฮที่ยืนถือปืนจ่อไปที่หัวของซีวอน โดยที่ร่างนั้นไม่ได้ตั้งตัวเลย เขาอยากจะเหนียวไกรมันซะตรงนี้ถ้ามันไม่ติดที่ว่าคนทั้งผับจะต้องมาเห็นมาอุจารตาของคนเลวคนนี้
“ยังไวเหมือนเดิมเลยน่ะ ยุนโฮ”ยังยิ้มลงกลับไปทั้งๆที่ปืนในมือนั้นพร้อมจะเหนี่ยวไกรได้ตลอดเวลา
“มันจะไหวกว่าที่ถ้ามึงยังยืนอยู่ตรงนี้”นิ้วเรียบนั้นกำลังจะกดลงไปเบาๆ
“ยอมแล้วๆ”ก่อนจะยกมือ2ข้างขึ้น ทั้งที่พูดแบบนั้น แต่กับกำลังหัวเราะกับท่าทางโมโหของยุนโฮและคนอื่นๆ
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งน่ะเพื่อน”ก่อนจะหันหลังกับไปพร้อมยกมือโบกไปมาจากทางด้านหลัง
ก่อนที่ทุกอยากจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติ แต่คงมีเพียงยูชอนที่เดินออกไปจากตรงนั้น เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ต้องเจอกันคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ มันทำให้ยูชอนเหมือนจะตายเมื่อเห็นคนที่ทำให้ทุกอยากของเขาต้องเปลี่ยนไป ทำให้ครอบครัว ที่เคยมีแต่ความอบอุ่นในแบบที่เขามีต้องหายไป ทำให้น้องชายของเขาต้องร้องไห้ ต้องทำให้ทุกอยากพัง
“ไปดูยูชอนหน่อยสิ จุนูซู”ก่อนคนที่โดนบอกจะเดินตามหลังคนที่เดินออกไป
“เก็บปือได้แล้วยุนโฮ”ก่อนร่างบางที่ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆคนที่ยังคงกำปืนแน่นอยู่ในมือ
“ทำไหมฉันไม่ฆ่ามันชะ”ร่างสูงพูดขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้มองใบหน้าของร่างบางนั้น แต่กลับเป็นมือร่างนั้นโอบใบหน้าของร่างสูงหันมาทีเขา
“นายทำถูกแล้ว ถ้าฆ่ามันตอนนี้จะไปสนุกอะไร”ก่อนจะกดขึ้นของร่างสูงลงที่ไหล่นั้น รู้ดีว่ายุนโฮเองรู้สึกแย่มาตลอด
ถ้าวันนั้นเขาไม่สบายจนต้องให้พ่อกับแม่ไปเฝ้าที่โรงพยาบาล เลยจำเป็นต้องให้พ่อกับแม่ของยูชอนไปเป็นตัวแทน รู้สึกผิดมาตลาดว่าเป็นความผิดของเขา ว่าเป็นต้นเหตุของการจากไปของพ่อแม่ยูชอน ทั้งๆที่ยูชอนเองไม่ไม่เคยโกรธยุนโฮเลย
เป็นเพราะยุนโฮไม่สบายเป็นยูชอนที่ต้องไปนั่งคุยเป็นเพื่อน ร่วมไปถึงพ่อแม่ ทั้งครอบครัว ของแจจุง ที่ตกลงกันว่าจะให้พ่อแม่ของยูชอนไปงานนั้นแล้วกลับมาทุกคนจะไปนั่งฉลองกัน แต่เพราะวันนั้นเกิดระเบิดขึ้น งานฉลอวที่คิดเอาไว้กลับเป็นงานไวอาลัยกับการจากไปของพ่อแม่ยูชอน
To Be Continue
จบไปอีกหนึ่ง ตอน ที่ไม่มีอารายที่หน้าตื้นเต้นเลย
รอหน่อยน่ะ มันอาจจะยาวหน่อยกับเรื่อง องประกอบของเรื่อง
เราพยายามถึงที่สุดเลย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น