ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF. HKS'] Bear' Coffee

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF. HKS'] Bear' Coffee | Part II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 225
      0
      17 ก.ค. 56

    -Bear’ Coffee-
    Part II

     
     

    -6 ปีก่อน งานรับน้องของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง-

     

    “ มาถึงเกมส์ต่อไป เราจะให้น้องๆส่งตัวแทนกลุ่มมากลุ่มละหนึ่งคนนะครับ จะหญิงจะชายก็ได้ ส่งมาเลยคร้าบ~ ”

    เสียงฮือฮาดังระหง่มขึ้นราวกับฝูงผึ้งแตกรัง เมื่อกองคนจำนวนหนึ่งที่ถูกแบ่งกลุ่มไว้เรียบร้อยแล้วต่างเริ่มหันซ้ายหันขวา บ้างก็เกี่ยงกันออกไปเป็นตัวแทนกลุ่ม บ้างก็ก้มหน้าก้มตาหลบเพราะไม่อยากออกไป บ้างก็นั่งเอ๋องงๆว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากมัวแต่นั่งสัปหงกไม่ได้ฟังกติกาที่เขาบอกเมื่อกี้...และหนึ่งในนั้น ก็มีผมรวมอยู่ในกลุ่มเอ๋อด้วย

    “ แกงส้ม ”

    “ หะ? ”

    “ รุ่นพี่เรียกให้ออกไปน่ะ ออกไปดิ ”

    “ เอ๊ะ? เราหรอ? ”

    “ เออ ลุกดิ เร็วๆ ”

    ด้วยความซื่อค่อนไปทางโง่นิดๆ ผมเลยลุกขึ้นเดินออกไปยืนหน้าแถว เสียงตบมือพากันเฮลั่นทำให้ผมกระตุกคิ้วฉงนว่าทำไมทุกคนถึงทำท่าดีออกดีใจกันขนาดนั้นด้วย...และยืนมึนไปได้สักพัก เสียงประกาศกติกาของรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งก็ทำให้ผมถึงกับหายโง่ในทันที

    “ เอาล่ะครับ! เราได้ตัวแทนของน้องๆแต่ละกลุ่มกันแล้ว เกมส์นี้มีชื่อเกมส์ว่า กลิ้งกันมันส์ สัมพันธ์แน่นแฟ้น นะครับ กติกาของเรามีอยู่ว่า เราจะใช้ผ้าผืนใหญ่พันตัวน้องๆไว้แล้วใช้เชือกมัดเพิ่มอีกชั้นให้แน่นจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้...แต่ถ้าพี่ให้น้องๆแข่งกันเองมันก็ไม่สนุกใช่ไหม? เพราะฉะนั้นพวกพี่ๆจะเข้าไปช่วยน้องๆอีกแรง...ก่อนอื่นขอให้น้องตัวแทนกลุ่มทุกท่านจับสลากที่อยู่ในไหนี้ก่อนครับ!

    ผมที่หายโง่ไปในบัดดลได้แต่ยืนเกาหัวเก้ๆกังๆ แอบด่าตัวเองในใจว่าถ้าไอ้พวกเวรนั่นจะหลอกกันได้ขนาดนี้อ่ะนะ...ก่อนที่จะมีรุ่นพี่กระเทยคนหนึ่งเดินถือไหดองปลาร้าพร้อมกับเซิ้งไหเดินไล่ให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มไล่ล้วงจับสลาก ตามด้วยรุ่นพี่ที่เป็นพิธีกรเดินไล่ประกาศชื่อรุ่นพี่ผู้โชคดีที่รุ่นน้องจับสลากได้ให้ออกมายืนประจำที่กับรุ่นน้องแต่ละคน และเมื่อถึงตาผม พอล้วงแล้วเอาออกมาเปิดอ่านดูเท่านั้นล่ะ ผมก็ต้องทำหน้าฉงน เพราะแทนที่จะเห็นชื่อของรุ่นพี่ในสลากแผ่นนี้ มันกลับเป็นคำจำกัดความของอะไรสักอย่างที่ผมอ่านแล้วค่อนข้างหมั่นไส้เจ้าของสลากแผ่นนี้มากทีเดียว

    “ มาถึงน้องแกงส้มนะครับ น้องแกงส้มได้คู่กับพี่...... ”

    สลากในมือถูกพี่ที่เป็นพิธีกรดึงไปอ่าน และพี่แกก็เกิดอาการเดียวกันกับผม คือติดสตั๊นไป 5 วินาที ก่อนที่พี่แกจะหัวเราะคิกคักราวกับรู้แล้วว่าใครคือเจ้าของสลากแผ่นนี้ ก่อนจะประกาศชื่อรุ่นพี่คนนั้นที่ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ผู้หญิงอย่างแน่นอน แถมด้วยมุมขวาของสลากยังเขียนกำกับไว้ด้วยว่า...

    ปี3นะจ๊ะ

     

    “ หล่อ ใจดี สปอร์ต กทม. พ่อรวยจะเป็นใครไปไม่ได้ ขอเชิญพี่ฮั่นปี 3 ออกมาคู่กับน้องแกงส้มด้วยคร้าบบบบบบบ ”

    นั่นล่ะครับคำจำกัดความที่ผมอ่านแล้วแทบหงายเงิบ คนอะไรช่างมั่นอกมั่นใจในตัวเองซะขนาดนี้...หล่องั้นหรอ? พ่อรวยหรอ? จะหล่อสักแค่ไหนกัน ก็แค่ได้รับเสียงกรี๊ดลั่นเท่านั้นเอง ไหนๆ? ไอ้รุ่นพี่คนไหนมันชื่อฮั่นกันฟะ

    ยังไม่สิ้นเสียงกรี๊ดทั้งจากของรุ่นพี่หญิงแท้และกระเทยซะส่วนใหญ่และไหนจะพวกปี 1 ที่นั่งอยู่อีก นั่นยิ่งทำให้ผมพยายามกวาดสายตาหาพี่ฮั่นอะไรนั่น และเมื่อคาดการณ์จากสายตาของรุ่นพี่ที่กระดี๊กระด๊ากันแล้ว ข้างหลัง?...เดินมาจากข้างหลังสินะ และเมื่อผมหันหลังไปดูก็แทบหงายเงิบลงไปอีกรอบ

    เหอ...กะ...ก็ดูดีนี่ฟะ ขอถอนคำพูดที่บอกว่า คนอะไรช่างมั่นอกมั่นใจในตัวเองซะขนาดนี้ก็แล้วกัน

    ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ร่างกายช่วงบนดูแข็งแรง กล้ามเนื้อที่เกิดจากการเล่นกีฬา จะว่าไป...เขาก็ดูสปอร์ตจริงๆน่ะนะ แถมใบหน้าคมเข้มที่สาวๆเห็นแล้วก็อดหลงใหลไม่ได้

    แม้แต่ผมที่เป็นผู้ชาย ก็ยังอดใจสั่นเล็กๆไม่ได้

    “ โอ้ยยยย อิจฉาอ่า! รู้งี้กูออกไปซะก็ดีหรอก กูไม่น่าพลาดเล๊ยยยย ”

    เสียงเพื่อนกระเทยในกลุ่มตะโกนบอกผม ทำให้ผมอดขำไม่ได้ ร่างสูงวิ่งมายืนอยู่ข้างๆพร้อมทั้งส่งยิ้มบางมาให้ ผมยกมือไหว้พอเป็นพิธี ก่อนที่เสียงประกาศของรุ่นพี่จะดึงจุดสนใจของทุกๆคนไปซะก่อน

    “ เอาล่ะครับ เมื่อรุ่นพี่ทุกคนประจำที่แล้ว เรามาฟังกติกากันต่อ เราจะจับน้องและพี่มัดไว้ด้วยกัน จากนั้นเราก็จะ...กลิ้งแข่งกันครับ ฮุวะฮ่าฮ่า~~~ โดยมีข้อยกเว้นว่าไม่ว่าจะรุ่นพี่หรือน้องที่เป็นคู่ผู้หญิงกับผู้ชายหรือผู้หญิงกับผู้หญิง เราจะจับทั้งคู่มัดหันหลังให้กัน แต่ถ้าเป็นผู้ชายทั้งคู่ เราจะให้หันหน้าเข้าหากันครับ กร๊ากกกกกกก!  ”

    ไอ้เหี้ยเอ๊ย ใครมันเป็นคนคิดเกมส์นี้ขึ้นมาวะ!! ผมสบทในใจทั้งหันไปหาอีกฝ่ายที่ยืนหัวเราะร่าไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนไปกับผมสักนิด เสียงฮือฮาดังขึ้นพร้อมกับรุ่นพี่ที่ถือผ้าผืนใหญ่กรูกันเข้ามาจับทุกคนมัดไว้ ผมมองกลุ่มอื่นที่เป็นคู่ชายชายนับดูแล้วรวมคู่ผมด้วยก็ประมาณสามคู่...ให้ตายสิ จะว่าไปสาขานี้ก็มีแต่เกย์กระเทยทั้งนั้นเลยนี่หว่า ไม่แปลกหรอกที่จะคิดเกมส์ส่อๆแบบนี้ขึ้นมา เอาฟะ! เล่นๆไปเดี๋ยวมันก็จบๆ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดละวะ!!

    “ ชื่อแปลกดีนะเรา ”

    “ เอ๊ะ?...เอ่อ พี่เองก็ชื่อแปลกนะครับ ”

    ระหว่างที่กำลังถูกจับมัด อีกฝ่ายก็ชวนผมคุยไปเรื่อย ร่างกายที่เบียดเสียดเข้าด้วยกันทำเอาผมแอบใจเต้นไม่เป็นส่ำ พยายามหันหน้าหลบอีกฝ่ายที่ใกล้กันจนแทบจะจูบกันได้อยู่แล้ว กลิ่นน้ำหอมแปลกจมูกแต่ชวนน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่สักเท่าไร ผมกลั้นใจเมื่อพวกรุ่นพี่ผู้หญิงที่เริ่มใช้เชือกมัด ดึงเชือกตึงจนผมแทบหายใจไม่ออก และด้วยความที่มันใกล้กันมาก จึงทำให้ผมได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่ายที่หายใจติดๆขัดๆอยู่เหมือนกัน

    “ เจน มัดเบาๆหน่อย พี่กับน้องแกงส้มหายใจไม่ออก (= =) ”

    “ อ๊าย ขอโทษค่ะ ”

    รู้แล้วก็ช่วยคลายเชือกหน่อย ผมจะตายอยู่แล้วครับ...อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นผมถอนหายใจพรืดออกมา และเหมือนเขาจะดูออกด้วยนะว่าผมไม่ค่อยชอบเกมส์นี้สักเท่าไรน่ะ

    “ น้องแกงส้ม ”

    “ หือ? ”

     

    ฟึ่บ

     

    อุก...เวรล่ะ ด้วยความที่ผมจะหันไปถามเขานั่นแหละครับว่ามีอะไร แต่ด้วยความที่มันใกล้กันมาก ผมเลยไม่ทันระวัง เกิดเรื่องไม่คาดฝันเข้าจนได้

    “ กรี๊ด เมื่อกี้จมูกอีแกงส้มชนกับพี่ฮั่นด้วย อีดอกกกก กูเห็นนะกูเห็น ”

    เออ...กูรู้ว่ามึงเห็น อีกระเทยปากหมา มึงเงียบปากไปก็ได้นะ (Y_Y) ถ้ามึงไม่ป่าวประกาศซะขนาดนั้นก็ไม่มีใครรู้หรอก นี่มึงเล่นแหกปากซะ กูล่ะอยากจะแทรกแผ่นดินหนีซะจริงๆ

    แล้ว...ผมจะใจเต้นแรงทำไมนะ

    “ เอ่อ ขอโทษครับ ”

    “ อ่า ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ถือหรอก ”

    พี่ไม่ถือแต่ผมถือ เพราะอีกระเทยปากหมาในกลุ่มนี่แหละที่จะทำให้ผมเสีย...โธ่ สนิทก็ไม่ได้สนิทกันยังจะมาเรียกผมว่า อีอีกนะ

    “ ว่าแต่พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ? ”

    “ อ๋อเปล่า พี่จะถามว่าขอเรียกแกงหรือส้มเฉยๆได้ไหม เรียกแกงส้มยาวไปน่ะ ”

    “ อ่า ได้ครับ ส่วนใหญ่ก็เรียกแกงสั้นๆกันนั่นแหละฮะ...เออว่าแต่ ผมอยากถามพี่ว่า ในสลากนั่นพี่เป็นคนเขียนเองหรอครับ? ”

    “ อ๋อ ฮ่าๆ เปล่าหรอก คงเป็นพวกปีสองนั่นแหละ พี่ไม่เขียนอะไรแบบนั้นหรอก (-_-’) ”

    ก็ว่าอยู่น่ะ เพราะคงไม่มีใครบ้าหลงตัวเองถึงขนาดกล้าเขียนลงไปแบบนั้นแน่ๆ ถึงพี่ฮั่นจะเป็นอย่างที่คำจำกัดความนั่นว่าจริงๆก็เถอะ แต่พี่เขาดูไม่น่าจะโรคจิตถึงขนาดสรรเสริญเยินยอตัวเองขนาดนั้นหรอก (= =)

    “ เอ่อ ขอโทษนะ ”

    “ ครับ? ”

    “ ขอโทษไว้ก่อนน่ะ ถ้าพี่เผลอไปโดนอะไรเข้าก็...เอิ่ม ขอโทษไว้ก่อน (= =”) ”

    “ อ่อ เช่นกันครับ ”

    ไอ้โดนอะไรนี่มันคืออะไร จะโดนอะไรอะไรกันนะ?...อ่า ช่างเถอะ โดนมัดแบบนี้ขยับตัวลำบากชะมัด ผมกับพี่ฮั่นเลยได้แต่ยืนทื่อเป็นหินและต่างคนต่างหันหน้าไปอีกทาง เนื่องจากมันใกล้กันจนแบบ...เอิ่ม แทบจะได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้ว ไอ้บ้าเอ๊ย! ใครมันคิดเกมส์นี้ฟะ พ่อจะแช่งให้มันเป็นหมันไปสิบชาติเลย เหอะ!

    ผมมองเพื่อนในกลุ่มที่นั่งจับกลุ่มนินทากันสนุกปาก แล้วทำท่าแบบว่ากลัวผมจะไม่รู้ละมั้งว่ามันนินทาผม เล่นชี้โบ้ชี้เบ้มาทางผมกันใหญ่...หึ! อิจฉากูล่ะสิอีกระเทยหน้าผี ชะนีหน้าปลวก พวกมึงหลอกกูดีนัก กูจะเล่นพี่ฮั่นให้ตกเป็นของกูเลยคอยดู...แม่ง (-w-) จริงๆผมไม่ใช่คนปากจัดหรอกนะครับ แต่พวกนี้นี่มันเหลือทนจริงๆ เพิ่งเข้ามาเรียนได้ไม่ถึงอาทิตย์มันก็ทำตัวแย่กันแล้ว...ฮึ่ม!นับแต่นี้เป็นต้นไปผมจะไม่คุยกับยัยพวกนี้ไปจนกว่าจะเรียนจบเลยคอยดูดิ

    ฟังพี่พิธีกรบอกกติกาจนจบ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจเนือยๆ...นี่ผมต้องกลิ้งไปกับพื้นด้วยสภาพแบบนี้เนี่ยน้า~ โธ่ T^T ฆ่ากันให้ตายซะยังดีกว่ามั้ง!!

    “ แกง โอเคนะ? ”

    “ อ่า ครับ ”

    “ เดี๋ยวพี่เป็นฝ่ายนอนลงก่อน แกงจะได้ไม่เจ็บ และพยายามอย่าหันหน้ามานะ ถ้าเจ็บหรือเกิดอะไรขึ้นรีบบอกพี่เลยรู้ไหมครับ? ”

    “ ครับ ”

    อีกฝ่ายบอกผมในขณะที่เกมส์กำลังจะเริ่ม น้ำเสียงเข้มๆที่ฟังดูอ่อนโยนนั่นทำเอาผมแอบใจสั่นได้ไม่น้อย...ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่พี่เขาดูเป็นสุภาพบุรุษยังไงไม่รู้สิ ที่เขาบอกว่าจะเป็นฝ่ายนอนลงรับน้ำหนักตัวผมไว้น่ะ แต่ก็นะ...เขาอาจจะทำไปเพราะหน้าที่ของเขานั่นแหละ ก็เขาเป็นรุ่นพี่นี่หว่า รุ่นพี่ก็ต้องดูแลรุ่นน้องสิเนอะ...ไม่แปลกหรอกที่เขาจะทำแบบนั้น

     

    ปี๊ด!!

     

    “ เริ่มได้!!! เฮ้!!!

     

    ตุบ!!!!

     

    “ อึก!

    อ๊ากกกกกก T^T เจ็บเป็นบ้า!...ผมนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกเสียดตามร่างกาย แต่นั่นคงไม่เท่าอีกฝ่ายที่รองรับน้ำหนักตัวผมไว้หรอก เสียงเชียร์ปะปนกับเสียงหัวเราะดังลั่นสนามจนฟังแทบไม่ออก ผมเงยหน้าเล็กน้อยพยายามหันไปหาอีกฝ่ายหมายจะถามว่าเขายังพอไหวไหม แต่ยังไม่ทันจะได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็ขยับยึกๆพลางเอียงหน้าหันมาสบตาผมเล็กน้อย

    “ ค่อยๆไปนะ ไม่ต้องรีบ ”

    “ อะ..เอ่อ ฮะ ”

    “ อ่ะ หนึ่ง สอง...สาม! ฮึบ!

    ผมพยายามพลิกตัวโดยที่อีกฝ่ายก็ออกแรงพลิกด้วยเช่นกัน โดยที่พี่ฮั่นให้จังหวะในการพลิกในแต่ละครั้ง ผมขบริมฝีปากเมื่อรู้สึกเจ็บและมันก็แทบจะทุกครั้งเวลาพลิกตัว คือกลิ้งนี่ไม่ได้กลิ้งบนปูนซีเมนต์นะครับ แต่เขามีเบาะยาวๆรองไว้ให้ มันก็ช่วยได้เยอะอยู่ แต่ในบางครั้งมันก็แทบไม่ช่วยอะไรเลย (U_U)...โฮก นี่ผมต้องกลิ้งอีกกี่ตลบถึงจะถึงเส้นชัยกันวะ! ระบมไปหมดแล้วนะ!

    เสียงกรีดร้อง เสียงเชียร์ เสียงหัวเราะ ปนกันมั่วจนสมองตื้อไปหมด จะได้ยินก็แต่เสียงของพี่ฮั่นที่นับให้จังหวะอยู่ข้างหูผมเท่านั้น ทางฝ่ายนั้นเป็นยังไงผมไม่รู้ เพราะเขาสั่งให้ผมหันหน้าไปอีกทาง เพื่อที่จะได้ไม่พลาดไปโดนอะไรต่อมิอะไรของกันและกันอ่ะนะ แต่คาดว่าเขาเองก็คงเจ็บไปไม่น้อยกว่าผมเท่าไรหรอก ก็ฟังจากเสียงลมหายใจแล้วดูเขาจะเหนื่อยใช้เล่น แต่ผมไม่เห็นเหนื่อยเท่าไรเลยแฮะ หรือเพราะผมไม่ค่อยออกแรงเท่าไรละมั้ง (= =)a

    “ ใกล้ถึงแล้ว อีกนิด อดทนหน่อยนะ ”

    “ อื้ม!

    ผมตอบรับและแอบสงสารพี่ฮั่นอยู่นิดๆที่ผมเล่นเห็นแก่ตัวไม่ค่อยช่วยเขาออกแรงเท่าไร แถมเขายังดูเป็นห่วงเป็นใยรุ่นน้องอย่างผมมากกว่าตัวเองซะอีก เห็นดังนั้นผมเลยใช้แรงเฮือกสุดท้ายใส่ไม่ยั้ง พาพี่ฮั่นกลิ้งขลุกๆไปจนถึงเส้นชัยที่มีคู่อื่นถึงก่อนเราไปหลายคู่แล้ว แต่นั่นมันไม่สำคัญหรอก เพราะผมไม่ได้ต้องการชัยชนะ แค่ต้องการให้เกมส์มันจบๆไปก็เท่านั้น

    “ เฮ้อ~ ”

     

    ฟึ่บ

     

    “ อะ... ”

    อะ...อา...เอ๊ะ?

    บะ...บรรลัยล่ะ

     

    “ กรี๊ดดดดดด~~~~ ”

    เอิ่ม ไม่ต้องตกใจไปครับ เสียงกรีดร้องโหยหวนนั่นของอีกระเทยหน้าผีเองแหละ ผมจำได้...และผมก็ออกจะแปลกใจไปสักนิด นี่มันเล่นจ้องผมกับพี่ฮั่นไม่ให้คลาดสายตาเลยหรือไงวะ? มันถึงได้เห็นช็อตเด็ดโดนใจที่ก่อนหน้านี้ผมแอบคิดที่จะแก้แค้นมันอยู่ในใจ ที่ว่าจะให้พี่ฮั่นตกเป็นของผมน่ะ...เอาตรงๆนะครับ นั่นน่ะ ผมก็ไม่ได้คิดจะทำจริงหรอกนะ ก็แค่คิดเล่นๆเท่านั้นเอง...แต่ไม่รู้ทำไม พระเจ้าถึงเข้าข้างผมนักหนา กะทำให้พี่ฮั่นตกเป็นของผมจริงๆสินะ (T///T)

    ก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ...แค่สภาพตอนนี้คือผมเป็นฝ่ายนอนทับเขาอยู่ข้างบน และผมก็แค่ถอนหายใจโล่งอกพลางหันไปหาเขาจวบจังหวะกับที่เขาหันมาพอดี ทั้งที่พี่แกก็ย้ำนักย้ำหนาแล้วนะว่าพยายามอย่าหันมา อย่าหันมา แต่ผมก็ลืมไง แล้วมันก็ใกล้กันมากไง แล้วจมูกก็ชนกันไง แล้วผมก็รู้สึกอุ่นๆที่ริมฝีปากไง ละ..แล้วก็...

     

    ฟึ่บ!!

     

    “ ขะ...ขอโทษครับ!!

    “ อ...เอ่อ ”

    “ ขอโทษครับพี่!!

    “ มะ...ไม่เป็นไร...ครับ ”

    ว๊ากกกกกกกกกกกกก ไม่มีอะไรที่ซวยไปมากกว่านี้อีกแล้ว!! ทำไมผมต้องซวยซ้ำซ้อนขนาดนี้ด้วยวะ!! แล้วทำไมต้องใจเต้นแรงกับผู้ชายด้วย (T[]T) กะอีแค่จูบ กะอีแค่จูบแค่นั้นเอง กะอีแค่จูบแรกของกูเท่านั้นเอ๊งงงงงง~~~~~

    อึก...ในขณะที่ผมกับพี่ฮั่นกำลังติดสตั๊นกันอยู่นั้น ผมกลับไปรู้สึกอะไรที่มันไม่น่าจะมารู้สึกตอนนี้เนี่ยสิ มันใช่เวลาไหม? ดันเสือกมาคิดลามกอะไรตอนนี้ละว้า~!!!

    ก็ ไอ้นั่น ของพี่ฮั่นน่ะสิ มันโตขึ้นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้! แต่ผมเสือกเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ แถมมันยังโดน ไอ้นั่นของผมเข้าจังๆ ทำให้ ไอ้นั่นของผมเบ่งบานขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่!!

    นอกจากอีกระเทยนั่น ขออย่าให้มีใครมาเห็นช็อตเสียตัวของผมเลยเหอะ!!!

    ฮือออออ.. ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้มาก่อนเลย T T แม่จ๋า~

    “ พี่ครับ ช่วยมาแกะให้หน่อยสิครับ อึดอัดจะตายแล้วครับ ”

    ผมเรียกรุ่นพี่ที่ยืนเอ๋ออยู่ใกล้ๆให้มาช่วยกันแกะเชือกออกจากตัว ไม่นานผมกับพี่ฮั่นก็เป็นอิสระออกจากกัน ผมหันไปมองอีกฝ่ายที่ยืนบิดไปบิดมาคลายความเมื่อย ก่อนที่เขาจะหันมาสบตากับผม นั่นทำให้ผมต้องรีบหลบตาเขาอย่างรวดเร็ว

    ละ...แล้วผมจะหลบตาเขาทำไมล่ะฟะ!?

    “ แกง ”

    “ หะ!! คะ..ครับ!?

    “ พี่ขอโทษนะ ”

    “ เอ่อ ผมก็ขอโทษ ”

    “ แกงโอเคนะ? ”

    “ อ่า โอ..โอเคครับ แต่รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ขอตัวก่อนนะครับ ”

    ผมเดินไปหารุ่นพี่ผู้หญิงฝ่ายพยาบาลแล้วบอกว่าผมรู้สึกไม่สบาย ก่อนที่พี่เขาจะพาผมเข้าไปนั่งตากแอร์ในห้องห้องหนึ่ง...จริงๆแล้วผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากหนี แค่คิดว่าถ้ายืนอยู่ตรงนั้นต่อไป

    หัวใจคงไม่หยุดเต้นแรงง่ายๆแน่

     

    ......

     

    หลังจากวันนั้น งานรับน้องจบอย่างไรผมไม่รู้ เพราะขอตัวกลับก่อน เนื่องจากโกหกว่าไม่สบายทั้งที่จริงๆแล้วผมช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่สามารถร่วมกิจกรรมต่อไปได้...ถ้ายังมีพี่ฮั่นอยู่ ผมคงอยู่ต่อไปไม่ได้จริงๆ เพราะขืนฝืนอยู่ต่อผมได้คิดฟุ้งซ่านจนเกิดอาการแปลกๆขึ้นกับตัวเองเป็นแน่

    และถัดจากงานรับน้องมาหนึ่งอาทิตย์...ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกจนได้

    ตามธรรมเนียมของสาขาที่ผมเรียน การจะมีพี่รหัสน้องรหัสได้นั้น ทำได้โดยการให้รุ่นน้องจับสลากซึ่งในนั้นจะเขียนไว้เพียงเบอร์โทรของพี่ไว้เท่านั้น แล้วน้องจะไปตามหายังไงนั่นก็แล้วแต่ศรัทธา...ซึ่งให้เบอร์มา มันจะเอาไปทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจากโทรน่ะ (- -) และเนื่องจากผมเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะดีใจกับการมีพี่รหัสมาก พอจับสลากปุ๊บก็โทรปั๊บทันที (= =”) เพื่อนบางคนมันก็มีแอบๆเปลี่ยนกันบ้าง แต่ผมว่าเปลี่ยนไปมันก็มีค่าเท่ากัน เขาให้มาแค่เบอร์ จะไปรู้ได้ยังไงว่าได้พี่ผู้หญิงหรือผู้ชาย เผลอๆได้พี่โหดๆอีกล่ะแย่เลยดิ เพราะงั้นผมเลยไม่คิดจะเปลี่ยนกับใครแล้วตัดสินใจโทรทันที เผื่อพี่เขาอาจจะดีใจก็ได้ที่ได้มีน้องรหัสน่ารักๆอย่างผมน่ะ (^^)

    “ ฮัลโหลค่า ”

    “ อะ ฮะโหลครับ...พี่ ”

    “ ใครค้า? ”  เอิ่ม เสียงคุ้นๆแฮะ เหมือนเคยได้ยินเสียงนี้ชัดๆใกล้ๆหูที่ไหนสักที่นึงนี่แหละ

    “ เอ่อ...ผม ผมชื่อแกงส้มครับ เป็นน้องรหัสพี่ครับ ”

    “ อะ! อ๋อออออ! อ๊ายยยย น้องแกงส้มหรอจ๊ะ ว๊าย! กูได้น้องแกงส้ม ”

    “ อ่า พี่คือ? (= =) ”

    “ นี่พี่เจนนะจ้ะ พี่ที่มัดน้องแกงส้มกับพี่ฮั่นเมื่อวันรับน้องไง จำได้ไหม? ”

    “ อ๋อ จำได้ครับ ”

    อ...อ๋อออออ! ถึงว่าเสียงคุ้นๆ พี่คนที่น่ารักๆดูตลกๆคนนั้นนี่เอง! จะว่าไป ผมเองก็มีดวงในการจับสลากเหมือนกันแฮะ จับได้แต่คนหน้าตาดีๆทั้งน้านนนนน

    “ แหม โลกกล๊มกลมเนอะ! อ๊ะ! งั้นดีเลย เย็นนี้ว่างหรือเปล่า? ไปทานข้าวกันเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง เย้!

    “ ค..คะ..ครับ ว่างก็ว่างครับ ”

    คือผมสมควรจะดีใจใช่ไหม? ที่ได้พี่รหัสที่ร่าเริงแจ่มใสได้ทุกเวลาขนาดนี้? เอาเถอะ ที่บ้านก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องกลับบ้านช้าอยู่แล้ว แถมจะได้กินข้าวฟรีอีกต่างหาก อิ่มกายสบายกระเป๋า (>.<)

    เมื่อนัดสถานที่ไปเจอกันเรียบร้อยแล้ว ตกเย็นผมเลยไปรอพี่เจนที่โรงอาหารของคณะ ซึ่งมันก็ไม่ค่อยจะมีคนแล้วน่ะนะ และไม่นานร่างบางในชุดนักศึกษากระโปรงพีทประมาณเข่าก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโรงอาหาร

    “ พี่เจน สวัสดีครับ ”

    “ จ้า~ น้องแกงส้ม รอนานไหมคะ? ”

    “ ไม่ครับ ^^ ผมก็เพิ่งมาเมื่อกี้ ว่าแต่เราจะไปไหนกันหรอครับ? ”

    “ อะ~ เออใช่ พี่จะบอกว่าพี่ปีสามน่ะ ลุงรหัสของน้องแกงส้มอ่ะ จะเป็นคนพาไปเลี้ยงนะ (^_^) ”

    “ อ้าว หรอครับ? ”  ลุงรหัส? ผู้ชายสินะ

    “ ช่าย~ พอพี่โทรไปบอก พี่เขาก็อาสาจะพาไปเลี้ยงเลยนะ ก็ดีเหมือนกัน ประหยัดเงินพี่ ฮ่าๆๆๆ ”

    เอ่อ...บางทีพี่เจนก็เป็นคนน่ารักที่พูดตรงและร่าเริงเกินไปหรือเปล่า (= =) แต่จริงๆก็เป็นสเน่ห์ของพี่เขาเหมือนกันนะครับ เวลาพี่เขายิ้มที มองใกล้ๆแล้วน่ารักเป็นบ้า...อยากรู้ซะแล้วว่าพี่เขามีแฟนหรือยัง ถ้าจีบพี่รหัสตัวเองนี่จะผิดไหมนะ (>//<)

    “ ป่ะ! ไปรอตรงนั้นกัน เดี๋ยวพี่เขาขับรถมารับน่ะ ”

    “ ขับรถมารับเลยหรอครับ? ”

    “ เยสเซอร์! เห็นว่าจะพาไปกินเอ็มเคมั้ง? พี่บ่นๆว่าอยากกินเป็ดย่างเอ็มเคน่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ”

    สรุปว่างานนี้คุณลุงรหัสจะพาพี่รหัสผมไปเลี้ยง แล้วพี่รหัสก็เลยพ่วงเอาผมไปด้วย เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่เสียตังค์ใช่ไหม (= =) ผมควรจะดีใจสินะ ที่มีพี่รหัสน่ารักนิสัยดีแบบนี้ (= =”)

    ว่าแต่...พี่เจนยังไม่ได้บอกเลยนี่นะ ว่าพี่รหัสพี่เจนและยังเป็นลุงรหัสของผมคนนั้นคือใคร

    “ เอ็มเคเลยหรอฮะ? ”

    “ โอ้ย~ พี่เขารวยๆ เลี้ยงแค่นี้จิ๊บๆ ”

    “ เออ แล้วพี่เขาชื่ออะไรหรอครับ?”

    “ น่าๆ เดี๋ยวแกงส้มเห็นก็รู้เองแหละ ”

    ผมขมวดคิ้วมุ่น เมื่ออีกฝ่ายมีลับลมคนในแปลกๆ พลางเดินตามพี่เจนไปหน้าคณะ...แต่พยายามคิดไปได้ไม่เท่าไร ผมก็ต้องสะดุดกับรถเก๋งสีดำมันเงาวิบวับมาแต่ไกล และเมื่อผมเงยหน้ามองพี่เจนที่โบกไม้โบกมือเรียกรถคันนั้น ผมถึงได้รู้ว่ารถคันนั้นคือรถของว่าที่ลุงรหัสของผมนั่นเอง

    “ ป่ะแกงส้ม ไปนั่งข้างหน้ากับพี่เขานะ เดี๋ยวพี่นั่งข้างหลัง ถ้านั่งหน้ามันจะดูไม่ดีน่ะ ”

    “ อะ...เอ่อ ครับ ”

    ร่างเพรียวบางเปิดประตูรถแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งราวกับเคยชินกับการนั่งรถคันนี้มาหลายต่อหลายครั้ง และไหงถึงให้ผมนั่งข้างหน้าละเนี่ย พี่คนนั้นเป็นใครผมก็ยังไม่รู้จัก เกรงใจก็เกรงใจ...แต่เอาฟะ เดี๋ยวขึ้นไปนั่งก็รู้เองแหละ!

    ผมเดินไปเปิดประตูรถข้างคนขับ ก้มลงไปยกมือสวัสดี ก่อนจะเงยหน้ามองว่าที่ลุงรหัสที่ยิ้มแป้นพยักหน้ารับเบาๆ

    แล้วผมก็แทบหงายเงิบ...เมื่อพบว่า...ว่าที่ลุงรหัสคนนั้นคือ...

     

    “ พี่ฮั่น!?

     

    นั่นแหละครับ...มันคือเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับผมอีกเป็นครั้งที่สอง





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×