คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 : Birthday
Chapter 7 : Birthday
เสียงเพลงที่ดังสนั่นทั่วคลับบ่งบอกว่าหญิงสาวที่รวบหางม้าสูงยังคงอยู่ในเวลาทำงาน แต่ผู้จัดการคลับที่มีอายุสักนิดกลับบอกเธอให้ละมือจากงานที่ทำชั่วคราว หญิงสาวมีสีหน้าฉงนเล็กน้อยแต่ก็เดินตามเขาไปแต่โดยดี
ประตูห้องวีไอพีถูกเปิดออก ร่างของชายหนุ่มที่แสนคุ้นตาหันมายิ้มให้ราวกับเป็นเรื่องขบขัน ดูก็รู้ว่าเขากำลังกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่
“บังชอลยง! ยังซึงโฮ! พวกนายอีกแล้วเหรอ?!!”
ลิซแหกปากตะโกนใส่หลังจากปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว
“ฮึฮึ~! ตอนพี่เขาทำตัวเรียบร้อยเป็นทางการนั่นมันตลกเป็นบ้าเลย”
บังชอลยงหรือมีร์ยังไม่หยุดขำ หรือบางทีเขาอาจจะหยุดไม่ได้ในทันทีทันใดเพราะภาพนั้นเขาแทบไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“เฮ้..อย่าโวยวายเลยน่า ฉันมีธุระหรอกนะ”
ซึงโฮโบกมือห้ามเธอโมโหพร้อมกับยิ้มกว้าง ซึ่งมันก็... ไม่สำเร็จดีนักหรอก
“ขี้โมโหมากๆ หาแฟนยากนะครับพี่สาว” มีร์ยังคงแซวเล่นไปเรื่อย
“อยากมีจะแย่แล้ว~!” ลิซหันมาประชด
“เอาเถอะ.. เลิกทะเลาะกันก่อนเถอะ”
ลิซหันมาให้ความสนใจที่ซึงโฮทันที เพราะหากมัวแต่ทะเลาะกับหนุ่มรุ่นน้องไปก็มีแต่จะเพิ่มความโมโหให้ตัวเองเปล่าๆ
หญิงสาวเดินมานั่งโซฟาอีกด้านก่อนจะหันมองหน้าซึงโฮ เธอดูตั้งใจราวกับแกล้งทำแต่จริงแล้วไม่ใช่เลย
♥ ---------------- ♥ ---------------- ♥
ซองกยูกลิ้งไปมาอยู่ที่ที่นอน แม้ตารางงานที่เขารักจะแน่นแค่ไหนแต่เขาก็ยังชอบนอนและยังไม่อยากตื่นอยู่ดี จนสุดท้ายได้ยินเสียงดังโครมครามนั่นแหละความสงสัยของเขาถึงสั่งการให้ลุกออกจากที่นอนได้เสียที
“พวกนายทำอะไรกันอ่ะ?”
ซองกยูแทบจะทรุดเมื่อเห็นทั้งโซฟาและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ถูกย้ายออกจากที่เดิมจนดูเกะกะไปหมด
“พี่ลืมหรือไง? เราต้องทำความสะอาดวันนี้” ดงอูเตือนความจำที่ดูเหมือนคนที่ถูกเตือนจะจำอะไรไม่ได้เลย
“หึ!”
ชายหนุ่มปฏิเสธหน้ามึนๆ เพราะเขารู้ว่าตัวเองมีงานวันนี้แล้วจะมีการทำความสะอาดได้ยังไงกัน
ไม่ทันที่ดงอูจะอธิบายอะไรต่อ ซองยอลก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“นี่...พี่อย่าลืมบอกเรื่องสำคัญสิ เรื่องวันเกิดน่ะ”
“เอ้อ... คืนนี้วันเกิดรุ่นพี่ซึงโฮ ฝากเชิญพวกเราโดยเฉพาะพี่น่ะ” ดงอูหันมาบอก
“ส่วนงานวันนี้อ่ะ เลื่อนไปแล้ว” ซองจงหันมาบอกอีกคน
ซองกยูฟังแล้วพอจะเข้าใจ แต่ไอ้ที่ไม่เข้าใจคืองานวันเกิดของซึงโฮ... ทำไมต้องเชิญโดยเฉพาะเขา?
กว่าจะทำความสะอาดเสร็จก็ปาไปเป็นชั่วโมง สมาชิกทั้งหลายดูจะเสียพลังงานไปไม่น้อย ผู้ชายเจ็ดคนนอนแผ่หลาอยู่กลางห้องรับแขก แม้แต่คนที่ร้องบ่นว่าร้อนอยากจะอาบน้ำอย่างโฮย่ายังเกยตื้นอยู่แถวนั้นและยังไม่มีความคิดจะขยับไปไหน แต่ซองกยูกลับหลับไปเสียเฉยๆ
ไม่รู้ว่าซองกยูหลับไปนานเท่าไหร่ แต่เมื่อมีมือหลายๆ มือมาสะกิดให้เขาตื่น ตอนแรกก็ว่าจะไม่สนใจแต่นึกได้ว่าเหล่าน้องๆ จะไปไหนกันก็เลยลุกขึ้นมาให้ความสนใจเสียหน่อย
“ฉันไม่ได้สนิทเท่าดงอู ซองยอล ไม่ไปก็ไม่น่าเกลียดหรอกมั้ง?”
“แล้วแต่พี่ละกัน ผมจะบอกว่าพี่ฝากยินดีด้วย” ดงอูบอกอย่างรับรู้
ซองกยูยกมือเป็นสัญลักษณ์โอเค ก่อนจะย้ายตัวเองเข้าไปนอนต่อ ชายหนุ่มเอามือก่ายหน้าผากแต่มันไม่สามารถทำให้เขาหลับลงได้ เขาพลิกตัวอยู่เป็นนานก็เกิดอยากจะรู้ว่ามันมีอะไรถึงต้องชวนเป็นพิเศษ
ชายหนุ่มจัดการกับตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วจัดการโทรหาสมาชิกในวงเพื่อตามไปสบทบทันที
ประตูห้องจัดเลี้ยงขนาดกะทัดรัดในร้านอาหารบรรยากาศดีอยู่เบื้องหน้าของชายหนุ่มที่สวมแว่นกันแดดราคาแพง มือเรียวสวยของเขาแตะอยู่ที่ด้ามจับแต่ยังไม่คิดจะเปิดเข้าไป เขาก้มมองความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้งจากนั้นก็เตรียมจะเปิดประตู
“พี่ซองกยู! มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ?” เสียงของดงอูทำเขาชะงักมือค้าง
“มาๆๆ.. เข้าไปพร้อมกันเลย พี่นี่มาเร็วนะเนี่ย”
ประโยคหลังเหมือนดงอูจะพูดคนเดียวมากกว่า
ภายในห้องมีคนอยู่ไม่ต่ำกว่ายี่สิบ ซองกยูกวาดตามองบรรยากาศครึกครื้นรอบตัวแล้วเอ่ยทักทายไปตามทางโดยที่ยังคงก้าวตามดงอูที่ลากเขาเดินไปหาเจ้าของวันเกิด
ซองกยูกล่าวทักทายและอวยพรกับซึงโฮ ซึ่งเขาก็กล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจก่อนจะร้องเรียกหาแก้วเครื่องดื่มให้ซองกยู
“เฮ้~.. ขอเครื่องดื่มแก้วนึงสิ”
ซึงโฮกระชับหมวกบนศีรษะแล้วหันมายิ้มให้กับซองกยูที่ยิ้มเจื่อนๆ กลับไปอย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“อ่ะ...ได้แล้ว”
เสียงใสดังขึ้นข้างๆ ซองกยูเขาเหลือบมองไปก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้หญิงที่แสนคุ้นตา เธอรวบผมสูง แถมยังสวมกางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อเชื้อตัวบางสีน้ำเงินดูแปลกตา ซองกยูเอื้อมมือออกไปรับแก้วเครื่องดื่มแทนซึงโฮ และนั่นก็ทำให้เธอหันมามองเขาแทนก่อนจะอุทานออกมา
“ซองกยู! คุณ...!”
“ฝากดูแลเพื่อนแปบนึงนะลิซซี่.. ตามสบายนะซองกยูอา~” ประโยคหลังซึงโฮหันมาบอกกับเขา
“เฮ้ย..ซึงโฮ! ยังซึงโฮ~!” หญิงสาวเค้นเสียงเรียกแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจจนลิซแอบหงุดหงิด
“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?” ซองกยูหันมาถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ฉันเหรอ? ก็มาทำงานน่ะสิ? ไม่คิดเลยนะ..ว่าจะเจอคุณที่นี่”
“ทำไมล่ะ? ไม่อยากเจอหน้าเหรอไง?” ซองกยูหยั่งเสียงถาม
“เปล่าหรอก... ไม่ใช่แบบที่คุณคิดหรอกน่า” ลิซบอกปัด
บรรยากาศในงานที่สบายๆ ทำให้ซองกยูไม่รู้สึกอึดอัดอะไรเพราะทุกคนก็รู้จักกันหมดเพียงแค่สนิทกันมากแค่ไหนเท่านั้นเอง แต่สายตาของเขาก็เหลือบมองลิซที่เดินเสิร์ฟเครื่องดื่มอยู่บ่อยๆ เธอยิ่งแตกต่างไปในทุกๆ วัน สำหรับซองกยู ลิซดูห่างจากเขาไปมากขึ้นทุกทีแถมยิ่งเธออยู่กับซึงโฮนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกๆ อยู่ในใจ
“เฮ้.. ซองกยู มานับถอยหลังกันดีกว่า จะหมดวันเกิดของฉันแล้ว”
ซึงโฮเดินมาบอกซองกยูที่กำลังเหม่อ ก่อนจะหันไปขว้าแขนของลิซที่ยืนคุยอยู่กับจีโอไปด้านหน้าเวทีเล็กๆ ของห้องและเริ่มประกาศออกไมค์
“อ่า... สนใจกันหน่อยครับ”
เสียงอื้ออึงในห้องเริ่มเงียบลง ลิซก้มมองมือของซึงโฮที่จับข้อมือพลางกระตุกเตือนเบาๆ เพราะแม้เขาและเธอจะค่อนข้างคุ้นเคยกัน แต่เธอก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่จะแสดงความสนิทสนมต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
“วันเกิดของผมต้องนับถอยหลังแล้วอีกไม่ถึงนาที ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับที่มาร่วมสนุกกัน แต่ว่า.. ยังมีอีกคนที่ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่วันเกิดแทน ...และเราจะนับถอยหลังเพื่ออวยพรวันเกิดให้เป็นคนแรก เพื่อนของผมครับ.. ลิซ!”
ทันทีที่ซึงโฮพูดจบ เสียงพลุกระดาษก็ดังขึ้นและนั่นมาจากเหล่าสมาชิกเอ็มแบล็คที่ดูเหมือนว่าจะเตรียมการกันมาอยู่แล้ว ซึงโฮหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นหน้าลิซดูประหลาดใจและมีอาการอึ้งไปกับเซอร์ไพรส์วันเกิดของเธอเอง แถมยังเซอร์ไพรส์คนในงานอีกด้วย
“สุขสันต์วันเกิด... มีความสุขมากๆ นะ” ซึงโฮกระซิบยิ้มๆ ก่อนจะปล่อยมือที่จับเธอไว้ แล้วเอื้อมไปหยิบของจากกระเป๋ากางเกง
“ของขวัญวันเกิดชิ้นแรกของเธอในปีนี้”
“ขอบคุณนะ” ลิซหันมามองของขวัญอย่างรู้สึกตื้นตันและขอบคุณซึงโฮเบาๆ เขาดึงเธอเข้ามากอดเมื่อเห็นเธอน้ำตาคลอ ทว่าคนที่ไม่เข้าใจกลายเป็นซองกยูที่ยืนมองด้วยอาการนิ่งอึ้งอย่างคาดไม่ถึง
♥ ---------------- ♥ ---------------- ♥
“ถึงแล้วน่า...ไม่ต้องห่วงหรอก ฝันดีนะ”
ลิซกรอกเสียงตอบใส่โทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี เธอหันมองรูปที่เธอถ่ายกับซึงโฮและจีโอยิ้มๆ ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงเพื่อเตรียมพักผ่อนเสียทีหลังจากเหนื่อยมาตั้งแต่บ่ายยันข้ามวันข้ามคืนในวันพิเศษแบบนี้ ปฏิทินตั้งโต๊ะที่ถูกเขียนวันที่อยู่ใกล้กับกรอบรูป ลิซเหลือบไปมองนิดหนึ่งและก็ไม่ได้ให้ความสนใจมันอีก
ลิซยังคงนอนไม่หลับทั้งที่เกือบจะเช้าจากนั้นก็ลุกขึ้นมาราวกับเพิ่งนึกอะไรได้ เธอเดินไปที่ชั้นหนังสือที่วางของขวัญของซึงโฮเอาไว้ก่อนจะนำมันมานั่งแกะบนที่นอน
“นายจะให้อะไรฉันน้า~”
กล่องยาวๆ ทำให้เธอคาดเดาไปต่างๆ นานากับสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ จนแกะกระดาษออกนั่นแหละเธอจึงเห็นนาฬิกาสีเงินวาวอยู่ในกล่องนั้น
“ว้าว~…นาฬิกาเลยเหรอยังซึงโฮ!” ลิซอุทานอย่างตื่นเต้น
ลิซมองของขวัญยิ้มๆ เธอไม่คิดว่าซึงโฮจะซื้อนาฬิกาที่ค่อนข้างราคาแพงให้กับเธอเพราะเธอก็แค่เพื่อนธรรมดาๆ ที่บางครั้งดูเหมือนคนหลงทางเสียมากกว่า หญิงสาวเก็บนาฬิกาลงลิ้นชักหัวเตียงแล้วล้มตัวลงนอน และเธอก็ควรจะนอนให้หลับได้เสียทีไม่อย่างนั้นตอนกลางวันคงไม่ได้ตื่นมาทำอะไรแน่ๆ
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้... แสงจากด้านนอกเริ่มสาดเข้ามาแยงตาคนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง ไม่นานนักเจ้าตัวก็ขยับเพราะความร้อนเริ่มมากขึ้นจนไม่สามารถนอนต่อไปอย่างเป็นสุขได้อีกแล้ว ลิซปัดผ้าห่มออกจากตัว เธอก้าวลงจากเตียงเพื่อไปปิดม่านทั้งที่แทบจะไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองดูเลยสักนิดดูเหมือนจะใช้จิตวิญญาณล้วนๆ เลยเสียมากกว่า
ลิซเดินโซเซกลับไปที่เตียงแล้วกลับไปนอนสภาพเดิม แต่อะไรบางอย่างทำให้เธอฉุกคิดได้ว่า...เมื่อสักครู่เห็นเงาอะไรแปลกๆ หญิงสาวค่อยๆ หรี่ตาขึ้นภายใต้ผ้าห่มที่ถูกใช้เป็นเกราะกำบัง เธอกวาดตาหาสิ่งแปลกปลอมทว่าไม่ได้เริ่มเธอก็พบกับต้นตอของสิ่งนั้นปรากฏอยู่ตรงหน้าทันที
“ยังซึงโฮเองเหรอ~?” ลิซพยักหน้าหงึกหงักเป็นการรับรู้ แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงทันควัน
“เฮ้ย!~ ซึงโฮ~!! เข้ามาได้ยังไง!!!!”
“หืม.. นี่มันกี่เดซิเบลกันนะ? เป็นมลพิษรึเปล่า?” เขาพูดไปก็เอานิ้วไชหูไปมาเพราะเสียงทำลายประสาทหูชั้นนอกถึงชั้นในอย่างมีประสิทธิภาพของเจ้าของห้อง
“ฮึ้ย~!” หญิงสาวปาตุ๊กตาตัวย่อมใส่ซึงโฮที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความขัดใจ
“อืม.. น่ารักดีนะ”
“ยังซึงโฮ~! นายบุกเข้าห้องผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง?!” หลังจากคำถามแห่งความไม่พอใจ ซึงโฮก็ชะงักทันที
“เอ่อ...” ชายหนุ่มอึกอัก “ฉันคงลืมไปว่าเธอ...เป็นผู้หญิงมั้ง?”
คำตอบของเขาทำเอาลิซเดือดปุดจนลืมตัวคว้าข้าวของบนเตียงปาใส่ไม่ยั้งมือ โดยที่คนโดนปาก็ได้แต่ยกแขนขึ้นปัดหรือไม่ก็กระโดดหลบแล้วแต่สถานการณ์จะอำนวย หญิงสาวปาตุ๊กตาหลายตัวใส่เขาจนหมดเตียงสุดท้ายเธอหันไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงแล้วคว้ากล่องนาฬิกาของขวัญวันเกิดที่ซึงโฮให้เตรียมเล็งเป้าหมาย แต่เมื่อซึงโฮเห็นเขาก็รีบพุ่งมาจับมือเธอไว้อย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย
“ลิซซี่!ของขวัญเลยนะ!!”
“ก็ใช่น่ะสิ! หึหึ..” ลิซขำใส่ด้วยน้ำเสียงร้ายๆ จนซึงโฮรู้สึกได้
ปั้ก!!...~
“โอ๊ย~!!!”
“แบร่~…”
ลิซปล่อยกล่องนาฬิกาจากมือที่ถูกจับไว้ใส่มืออีกข้างแล้วเอากล่องนาฬิกาตีหัวซึงโฮจนร้องลั่น ก่อนจะกระโดดลงจากที่นอนมาแลบลิ้นใส่อย่างสนุกสนานแกมสะใจ
♥ ---------------- ♥ ---------------- ♥
หลังออกจากสตูดิโออัดรายการ... รถแวนสีดำก็เคลื่อนตัวออกเพื่อพาทุกคนไปเตรียมตัวทำงานต่อในตอนค่ำ ดวงตาเล็กหรี่ตามองลอดแว่นกันแดดออกไปที่บรรยากาศของถนนด้านนอกอย่างครุ่นคิด เขานิ่งเงียบไม่พูดอะไรกับใคร แม้ว่าจะมีใครถามก็ได้แต่พยักหน้ารับแกนๆ ไปอย่างนั้น
รถแวนสีดำจอดติดไฟแดงอยู่ที่แยกๆ หนึ่งของย่านชอปปิ้ง สายตาของซองกยูที่มองออกด้านนอกตลอดเวลาสะดุดตาที่ร้านหนึ่ง ชายหนุ่มหันมาถามผู้จัดการที่กำลังขับรถอยู่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“พี่ฮะ... มีเวลาพอมั้ย?”
“ทำไมล่ะ?”
“ผมขอซื้อของ 5 นาที” ซองกยูกางห้านิ้วให้ดูประกอบคำขอ จากก็รอลุ้นว่าผู้จัดการจะอนุญาตหรือเปล่า แต่สุดท้ายการพยักหน้ารับของผู้จัดการทำให้เขายิ้มออกมาได้
ชายหนุ่มรีบวิ่งตื๋ดไปทันทีที่รถจอด เขาหยิบนั่นวางนี่อย่างเร่งรีบ จนไปเจอของชิ้นหนึ่งที่เขาถูกใจ เขารีบเอาไปจ่ายเงินทว่าต้องเบิ่งตากว้างเมื่อจากหยิบเงินแล้วหากระเป๋าไม่เจอ สรุปว่าซองกยูลืมกระเป๋าเงินไว้ในรถ แต่อยู่ดีๆ กระเป๋าเงินของเขาก็มาโผล่ตรงหน้าจากมือๆ หนึ่งที่ยื่นมาจากด้านหลัง
“พี่จะซื้อของแต่ไม่เอาเงินมา ร้านเค้าจะขายให้พี่เหรอไง?”
อูฮยอนยัดกระเป๋าเงินใส่มือซองกยูแล้วเลื่อนตัวมาพิงเค้าน์เตอร์จ่ายเงิน ก่อนจะหยิบกล่องของขวัญใบเล็กวางข้างๆ ของที่ซองกยูเลือก
“ถ้าจะซื้อของขวัญ...ก็น่าจะซื้อกล่องใส่ด้วยนะฮะ”
ซองกยูเลื่อนของทั้งสองอย่างให้พนักงานคิดเงิน แต่สายตายังคงเหล่อูฮยอนลอดแว่นกันแดดอย่างระแวงในความคิดของเจ้าน้องชายตัวแสบ
“ทำไมอ่ะ... ผมหวังดีนะเนี่ย! ทำไมต้องมองด้วยเล่า!?” อูฮยอนชักรู้สึกว่ามันร้อนวูบวาบเหมือนถูกอะไรซักอย่างพ่นไฟใส่
ซองกยูหันกลับมาจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านโดยมีอูฮยอนเดินตาม
“นึกว่าพี่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ซะอีก...” อูฮยอนยังคงพูดไม่หยุด
“เรื่องอะไร?”
“ผมน่ะมันตัวร้ายใช่มั้ยล่ะ?..” อูฮยอนยิ้มแล้วล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองขณะที่ทั้งคู่กำลังยืนรอข้ามถนน
“แต่ผมเก็บอะไรได้มาอันนึงแหละ” เขายังคงพูดต่อไปโดยที่ไม่สนใจหรอกว่าซองกยูจะฟังรึเปล่า แต่ถึงอย่างไรถึงไม่ได้ฟังก็ได้ยินอยู่ดีนั่นแหละ
“นายจะบอกอะไรก็บอกมาเหอะ เอาแต่พูดนั่นพูดนี่อยู่ได้”
ซองกยูบอกพร้อมกับก้าวขาข้ามถนนไปด้วยโดยมีอูฮยอนเดินตามมาติดๆ ไม่รู้ที่เดินติดๆ เนี่ยเพราะกำลังข้ามถนนอยู่หรือเพราะต้องการกวนประสาทซองกยูกันแน่
อูฮยอนหันหน้าจอมือถือของเขาให้ซองกยูดูตอนที่จะเขาจะเปิดประตูรถ แต่เมื่อซองกยูเห็นรูปนั่น เขาก็รีบคว้ามันจากมือเจ้าน้องชายตัวแสบ และเปิดประตูตอนหลังของรถออกพร้อมกับไล่ที่คนอื่นๆ ราวกับไล่มดไล่ยุง
“นี่.. ใครก็ได้ไปนั่งหน้าที ฉันจะนั่งหลังสุดกับอูฮยอน เปลี่ยนที่ให้หน่อย!”
ตอนแรกก็ได้ยินเสียงโหวกเหวก แต่พวกเขาเห็นซองกยูยังคงโบกมือให้สลับที่กันน้องๆ ก็จำต้องแลกที่กันชุลมุนไปหมด จนสุดท้ายซองกยูก็ล็อคตัวอูฮยอนมานั่งด้านหลังจนได้
“พี่ตกใจมากเกินไปรึเปล่า?” อูฮยอนกระซิบน้ำเสียงขำๆ
“จริงๆ ฉันไม่ได้ตกใจขนาดนั้นหรอก... แต่ที่ตกใจขนาดนี้เพราะเป็นนายต่างหาก!”
♥ ---------------- ♥ ---------------- ♥
ความคิดเห็น