ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dating Idol อยากจะรัก...เดี๋ยวจัดให้ [INFINITE&MBLAQ]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : ปฏิกิริยา

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 55




    Chapter 6  :  ปฏิกิริยา

     

               

                อูฮยอนนั่งเซ็งหน้าห้องซ้อมที่ไม่มีวี่แววว่าซองกยูจะเลิกซ้อมง่ายๆ จนชักจะเริ่มหงุดหงิดตัวเองแถมเขาก็ยังไม่อยากที่จะเข้าไปข้างในตอนนี้ อูฮยอนเดินเรื่อยๆ เพื่อออกไปหาอะไรลงกระเพาะแทนการนั่งหง่าวอยู่ต่อไป ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกลมากนักเป็นเป้าหมายของเขา แต่ในยามวิกาลขนาดนี้ทำให้บรรยากาศรอบข้างดูจะวังเวงไปเสียหน่อยเท่านั้น

                ริมถนนยังพอมีคนเดินให้เห็นบ้างแต่ไม่ทันที่อูฮยอนจะตั้งตัวเสียงกรี๊ดที่เดาได้ว่าอย่างน้อยก็สี่ถึงห้าคนก็ดังขึ้น สัญชาตญาณไอดอลของอูฮยอนทำงานทันทีแม้ยังไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ขาของเขาก็ออกวิ่งโดยอัตโนมัติ ทว่าด้วยเสียงที่ยังคงดังตามมาอย่างต่อเนื่องทั้งเรียกชื่อและฉายาอะไรต่างๆ นานาทำให้เขารู้ได้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นวิ่งตามเขามาอย่างแน่นนอน

                เป้าหมายของอูฮยอนเปลี่ยนจากร้านสะดวกซื้อเป็นที่อื่นโดยฉับพลันแต่ปลายทางก็ตามแต่ขาของเขาจะพาไปแล้วกัน ใจจริงเขาอยากจะหยุดคุยด้วยกับแฟนๆ แต่อะไรบางอย่างกลับกระซิบบอกว่าเผ่นก่อนเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ชายหนุ่มวิ่งไปจนสุดถนนเขาตัดสินใจวิ่งเลี้ยวไปที่มุมตึกแต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งกระชากเขาจนเซไปอีกด้าน

                “เฮ้ย~!/ชู่ว์~

                “อุ๊บส์~”  อูฮยอนถูกมือปริศนาปิดปากเมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเขาจะพูดอะไรหรือแหกปากออกมาอีกรอบ

                เสียงคนคุยกันผสมเสียงลมหายใจเหนื่อยหอบเริ่มกระชั้นเข้ามาใกล้ทำให้อูฮยอนเลือกที่จะนิ่งไว้ก่อนทำให้เขามีเวลาพอจะแอบมองสำรวจคนตรงหน้า รูปร่างที่ไม่สูงนักยิ่งสร้างความสงสัยให้กับอูฮยอน หมวกสีดำบนศีรษะบดบังให้ไม่เห็นหน้าได้ชัด จนเมื่อเสียงคนกลุ่มนั้นหายไปได้ซักพักมนุษย์ปริศนาตรงหน้าอูฮยอนก็ถอดหมวกออก แต่ทว่ากลับพลิกมันมาอีกด้านและกดลงบนศีรษะของเขาแทน

                Bye~  

                คนคนนั้นยกมือขึ้นลา ก่อนจะเดินออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเห็นหน้าและได้ยินเสียง อูฮยอนแน่ใจทันทีว่าเธอเป็นผู้หญิง

                “หยุดก่อน! อย่าเพิ่งไป...”  อูฮยอนตัดสินใจเรียก ซึ่งก็ทำให้เธอหันมาทำหน้าประหลาดใจใส่เขา

                “คุณคือ...ลิซ หรือเปล่าฮะ?”

                หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง เธอเพ่งมองคนที่อยู่ใต้แสงไฟถนนอีกครั้ง อูฮยอนถอดหมวกที่อยู่บนศีรษะออกก่อนจะใช้ปลายนิ้วปัดผมให้เข้าทรง และนั่นทำให้เธอมีท่าทางตกใจจนเผลอยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง เธอกลับหลังหันเตรียมวิ่ง แต่อูฮยอนดูเหมือนจะรู้ทัน เขาก้าวพรวดเข้ามาคว้าแขนเธอไว้ได้เสียก่อน

                “เอ๊... จะรีบไปไหนล่ะฮะ?”

                “เฮ้ออออ~ 

                หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันมาหาเขาอย่างยอมจำนนซึ่งจริงๆ แล้วเธอจะไม่ยอมรับและหนีไปก็ได้ แต่ดันติดมือตุ๊กแกของอูฮยอนที่ถึงสะบัดเต็มแรงก็ยากจะหลุดไปได้นี่แหละ

                “ว้าว... ไม่คิดว่าจะได้พบกันนะครับเนี่ย”   อูฮยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แล้วแนะนำตัวเอง

    “ผม...นัมอูฮยอนครับ”

    ลิซอยากจะบอกว่ารู้แล้ว แต่ก็ยั้งไว้ทัน เพราะมันคงเป็นมารยาทที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าหากจะกวนประสาทกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จัก

    สุดท้ายอูฮยอนก็ลากลิซไปที่ห้องซ้อมของพวกเขาพร้อมด้วยของกินอีกนิดหน่อยท่ามกลางเสียงร้องห้ามแกมขอร้องของหญิงสาวที่เขาหาได้สนใจ เสียงเพลงด้านในยังคงดังอยู่แต่เสียงอื่นๆ ดูจะเงียบไป และถ้าหากใครหูดีซักหน่อยละก็... คงจะได้ยินเสียงใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะของลิซเข้าบ้าง

    อูฮยอนเปิดประตูห้องซ้อมแล้วกวาดสายตาหาลีดเดอร์ของเขา ชายหนุ่มยิ้มออกเมื่อเห็นซองกยูนั่งพิงกำแพงดื่มน้ำอยู่ที่พื้นมุมห้อง

    “พี่ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ?”  อูฮยอนถามหลังจากที่เดินไปลดเสียงเพลงให้เบาลงเรียบร้อยแล้ว

    “อืม... แล้วนายมาทำไม?” 

    “อ๋อ...ผมแค่ผ่านมา”

    คำตอบของอูฮยอนทำเอาซองกยูอยากจะหัวเราะ แต่เขาก็หัวเราะไม่ออกเมื่อน้องชายดึงคนๆ หนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้า มือที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มชะงักค้าง ซองกยูลุกขึ้นยืนมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

    “คุณมาได้ยังไง?”   เขาถามเสียงเบา

    “ก็...เอ่อ... บังเอิญผ่านมา”  

    “คุณจะบังเอิญผ่านมาได้ยังไง ในเมื่อคุณไม่ได้อยู่ที่นี่?!  เสียงของซองกยูดูหงุดหงิดนิดๆ หลังจากได้ยินคำตอบ

    “อ้าว... ก็ฉันมาอยู่ที่นี่ แล้วค่อยบังเอิญผ่านมาไง!

    ความปรารถนาของอูฮยอนดูเหมือนจะทำให้เกิดศึกมากกว่าคู่รักหวานแหววอย่างที่ตั้งใจ เขารีบเอาตัวเข้าขวางเมื่อเห็นเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ อูฮยอนดันพี่ชายกลับไปที่มุมห้อง

    ส่วนลิซ...เขาดึงเธอถอยมานั่งที่ม้านั่งยาวด้านหลังห้องแทน พร้อมกับเปิดน้ำให้เธอดื่มให้ใจเย็นอีกด้วย

    “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทักกันรุนแรงเน๊อะ”   อูฮยอนเดินกลับไปหาซองกยูแล้วหยั่งเสียง

    “นายไปเจอลิซที่ไหน?”

    “แถวๆ ถนนอ่ะ ผมเจอแฟนๆ วิ่งตามแล้วเธอช่วยไว้นิดหน่อย”

    ซองกยูมองอูฮยอนด้วยสายตาตำหนินิดหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งที่ม้านั่งยาวข้างๆ ลิซ เขายื่นขวดน้ำในมือให้เธอโดยไม่พูดอะไร ลิซมองขวดน้ำนั่นอย่างไม่แน่ใจแต่ก็รับไว้ก่อนจะยื่นของตัวเองให้เขาแทน ซองกยูรับมาและยกขึ้นดื่มหน้าตาเฉย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    “ไม่หนาวบ้างหรือไง?” 

    ซองกยูถามเมื่อเห็นว่าเธอสวมกางเกงขาสั้นกับรองเท้าผ้าใบที่แทบไม่ต่างจากตอนพบเธอวันแรกเลย ลิซหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วใช้ศอกกระทุ้งไปที่แขนซองกยูอย่างหมั่นไส้ที่เขาทำเป็นเข้มในตอนแรก  ชายหนุ่มเซไปเล็กน้อย เขาตีหน้าขรึมได้ไม่นานก็หันมายิ้มให้เธอเหมือนเคย

     

     

    ซองกยูกลับมานอนก่ายหน้าผากอยู่ที่หอพักอย่างรู้สึกขัดใจตัวเอง ทั้งที่ยังโกรธเรื่องที่ถูกเธอหลอกแท้ๆ แต่พอเห็นลิซมาอยู่ตรงหน้าจริงๆ ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เขารู้สึกหงุดหงิดตัวเองอยู่ไม่น้อยทีเดียว โชคยังดีที่วันรุ่งขึ้นพวกเขาไม่ได้ติดงานที่ไหนจะมีก็แต่ซ้อมร้องและเต้นทำให้การนอนตอนเช้าของซองกยูและอูฮยอนไม่ได้สร้างปัญหา

    อูฮยอนตื่นมาปักหลักนอนที่ห้องโถงเพื่อรอดูรายการที่ซองกยูได้ถ่ายทำกับลิซผู้หญิงที่เขาพบเมื่อคืน สมาชิกภายในวงมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ที่อยู่ดีๆ ก็เห็นอูฮยอนออกมานอนเฝ้าโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ทั้งที่ตัวเองหลับแต่กลับถือรีโมทเอาไว้ในมือและถ้าหากใครหน้าไหนหาญกล้าไปแงะมันออกมาโดยที่เขายังสะลึมสะลืออยู่ละก็คงโดนเตะกระเด็นออกมาแน่ๆ แต่ว่า...

    “เฮ้!อูฮยอน เอารีโมทมาหน่อยดิ่”    อยู่ดีๆ ดงอูที่มาจากทางไหนไม่รู้ก็แทรกตัวไปกระแซะอูฮยอนอย่างไม่ได้สนใจรอบข้างเลยซักนิด

    ดงอูแงะรีโมทออกจากมือของอูฮยอนและกดเปลี่ยนช่องไปมาเพื่อหารายการต่างๆ ดู โดยที่อูฮยอนก็ผงกศีรษะขึ้นมาเหล่ตามองทั้งที่ตัวเองยังคงง่วงนอนอยู่ ดูเหมือนว่าจางดงอูจะไม่รู้สึกถึงรังสีอำมหิตจากสายตาของเขาทำให้อูฮยอนต้องถอนหายใจและทิ้งศีรษะกลับไปที่หมอนอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านี้

    “เหลือแค่เราสองคนแน่ๆ หละ เพราะเดี๋ยวพี่แอลกับพี่โฮย่าต้องออกไปถ่ายละครแล้ว”  น้องเล็กซองจงหันมากระซิบกับพี่ชายซองยอลที่มักจะขัดคอกันอยู่ตลอดแต่มาวันนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยอย่างไม่น่าเชื่อ

    “เอาเถอะ มันต้องมีอะไรสนุกๆ บ้างหละน่า”

    พูดไม่ทันขาดคำประตูห้องของซองกยูเปิดออกโดยมีลีดเดอร์หน้าตาสะลืมสะลือเดินเปะปะและมาแหมะกองรวมกับอูฮยอนและดงอู

    “ไม่ได้มีอะไรที่ดูสภาพดีเลย”   ซองจงบ่น

    แต่เมื่อดงอูที่ยังคงกดรีโมทเปิดไปเจอรายการ Dating Idol พอดี พี่น้องสองซอง (ซองจงและซองยอล) ก็ร้องเสียงดังลั่นแล้ววิ่งมาเกยตื้นอยู่ข้างๆ ดงอูพร้อมดึงรีโมทไปหน้าตาเฉยอย่างไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนช่องอีก ท่ามกลางสายตางงๆ ของดงอูและซองกยู

    “โห... รุนแรงจริงๆ”  ดงอูบ่นใส่ลมใส่แล้ง

    “ชู่ว์~  

    ซองยอลหันมาจุ๊ปากใส่เบาๆ แล้วชี้ไปที่หน้าจอ ดงอูหันมองตามมือก็เห็นตัวอย่างปรากฏขึ้น เขาเข้าใจได้ทันทีว่าพี่น้องสองซองกำลังจดจ่อกับอะไรแต่ก็ไม่วายปรายตาไปที่พี่ใหญ่ซอง(ซองกยู)ที่ยังคงไม่ได้สนใจแถมยังเอาแต่นอนลูกเดียวแม้ใกล้กันแค่คืบ สุดท้ายดงอูก็เข้าร่วมสมาคมสังเกตการณ์ไปด้วยอีกคนโดยปริยาย

     

    ---------------- ----------------

     

    ลิซถูกเสียงกดออดปลุกให้ลุกจากเตียง หญิงสาวลากสังขารขึ้นมาดูอย่างคร้านสุดๆ โดยที่ลากผ้าห่มติดออกมาด้วย แต่เมื่อเห็นคนที่มาเยือนเธอเองก็อยากจะนำพาตัวเองกลับไปนอนแต่ติดตรงที่คนตรงหน้าประตูยังคงโหวกเหวกโวยวายกวนใจไม่หยุดหย่อน

    “ไม่กลัวเสียภาพกันบ้างหรือไง?” ลิซบ่น

    “นี่ฉันตั้งใจมาดูโทรทัศน์กับเธอเลยนะ”  จีโอบอกอย่างไม่สะทกสะท้าน

    “พวกนายไม่มีงานมีการทำกันเหรอ?” 

    “โอ๊ย~... งานฉันน่ะเยอะ! แต่ฉันก็มีเวลาว่างๆ อย่างคนอื่นเหมือนกันแหละน่า” จีโอตอบโดยที่มือยังคงวุ่นวายกับการหาสายปลั๊กโทรทัศน์ท่ามกลางสายต่างๆ ที่พันกันยุ่งไปหมด

    “แล้วนายล่ะมีจุดประสงค์อะไร?”  ลิซหันมาทางซึงโฮที่ตั้งแต่เข้ามายังคงไม่ได้พูดอะไรออกมาซักคำเดียว

    “เมื่อคืนไปไหนมา?”   เขาตอบกลับด้วยคำถาม

    “ยังซึงโฮ... ฉันไม่ได้มีเพื่อนที่เกาหลีแค่ 2 หรือว่า 5 คนหรอกนะ”

    “ใช่...! เธอยังมีอีกตั้ง 7 คน!   ซึงโฮประชด

    “โอ๋~ งอนอะไรเหรอคะซึงโฮโอป้า~   ไม่พูดเปล่าๆ ลิซยังอ้อมมาด้านหลังแล้วเอาคางเกยไหล่ซึงโฮแบบอ้อนๆ อีกต่างหากทำเอาชายหนุ่มออกอาการขัดเขินไปเล็กน้อย

    “สวีทไม่เกรงใจชาวบ้านเลยนะ”   เสียงจีโอดังลอยมาทั้งที่มือยังคงกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ  แต่เอ๊ะ!เขาเปิดมันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

    ลิซเลิกอ้อนซึงโฮและเดินไปหาจีโอที่อยู่หน้าโทรทัศน์อย่างสนใจแทบจะในทันที

    “นายทำได้ยังไงอ่ะ รู้มั้ยว่า...ฉันไม่ได้ดูมาตั้งเกือบอาทิตย์แล้วนะ!

    “ถ้าเธอบอกซึงโฮ เธอก็จะได้ดูตั้งแต่วันแรกที่มันเจ๊งแล้ว” 

    “ไว้คราวหน้าฉันจะบอกตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นมันพังแล้วกัน!   ลิซตอบส่งเดชไปเรื่อยด้วยความหมั่นไส้

    “อย่าลืมคำพูดเธอนะ”  ซึงโฮเอ่ยเรียบๆ

    “ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ฉันก็ลืม”  เธอตอบกลับอย่างกวนประสาท โดยที่ไม่หันมามอง

    ซึงโฮถอนหายใจเบาๆ ...ถ้าการถอนหายใจแล้วอายุสั้นลงเป็นเรื่องจริงช่วงเดือนกว่าๆ มานี้เขาคงอายุสั้นกุดไปหลายปีแล้ว

    “เดี๋ยวสวีท... เดี๋ยวสงคราม... ฉันหละเดาอารมณ์เธอไม่ถูกเลยลิซซี่!  

    จีโอเอ่ยอย่างอ่อนใจ แต่กลับได้สายตาว่างเปล่ากลับมาจากลิซทำเอาชายหนุ่มชะงัก ลิซเดินลากผ้าห่มกลับไปที่โซฟาและทิ้งตัวลงนอนดูเหมือนอาการง่วงนอนก่อนหน้านี้ได้กลับมาเกาะกุมเธออีกครั้ง แต่คำถามของซึงโฮทำให้เธอต้องปรือตาขึ้นมอง

    “กลับเช้าเลยใช่มั้ยเนี่ย?”

    ลิซไม่ตอบแต่กลับย้ายหมอนมาวางบนตักของซึงโฮก่อนจะทิ้งศีรษะของตัวเองตามมา ชายหนุ่มหันมองจีโอทันทีทว่าคนถูกมองได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ

    “เพราะเป็นแบบนี้ไงล่ะ ซึงโฮถึงเป็นห่วงเธอมากน่ะ”  จีโองึมงำอยู่ในคอ

    ซึงโฮที่ไม่ได้ขยับไปไหนเพราะลิซนอนอยู่ทำให้เขาต้องดูรายการที่เธอถ่ายกับซองกยูไปโดยปริยายเพราะจีโอไม่ยอมเปลี่ยนช่องและท่าทางเขาจะสนใจมันมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว

    แต่ไม่นานนักซึงโฮที่ท่าทางเบื่อๆ ก็กลับสนใจขึ้นมาฉับพลันกับภาพที่เขาเคยเห็นเมื่อนานมาแล้วคือการแต่งตัวของลิซ เธอใส่ทั้งเดรสและส้นสูงแถมผมยังรวบเป็นทรงอย่างตั้งใจ ซึงโฮกับจีโอพร้อมใจกันหันมามองลิซที่กำลังเอาจริงเอาจังในการนอนอย่างคาดไม่ถึงเพราะทั้งคู่เคยเห็นภาพแบบนี้ก็ตอนที่เธอมาทำงานเป็นล่ามพิเศษให้พวกเขาเท่านั้นและยังไม่จัดเต็มขนาดนี้อีกต่างหาก

    จีโอมีสีหน้าที่เครียดนิดๆ กับภาพในจอที่ออกมาเรื่อยๆ ชายหนุ่มชักไม่แน่ใจว่าการที่เขาสนใจและเปิดรายการนี้ดูนั้นคิดถูกหรือผิดกันแน่ ส่วนซึงโฮเองก็นิ่งไปเมื่อเห็นซองกยูสวมสร้อยให้กับลิซ เขารู้สึกเหมือนการแสดงออกของซองกยูดูจริงจังและธรรมชาติจนชวนให้คิดไปสักหน่อย

    “นี่ถ้าไม่ใช่ถ่ายรายการ ฉันคิดไปไกลแล้วนะเนี่ย!   จีโอออกความเห็นอย่างอดไม่ได้

    “อย่าว่าแต่นาย... ฉันก็คิด”   ซึงโฮเห็นด้วยกับเพื่อนซี้

    “ยัยนี่ล่ะ คิดรึเปล่า?”

    คำพูดและสายตาของจีโอที่หันมามองลิซทำให้ซึงโฮต้องหันมามองเธอด้วยเหมือนกัน เขาเอื้อมมือมาปัดผมที่ปรกหน้าเธอให้อย่างแผ่วเบา

    ซึงโฮไม่รู้หรอกว่าลิซรู้สึกหรือไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้เขารู้สึกกลัวใจตัวเองมากกว่า อาจเป็นเพราะตั้งแต่ทำงานมาเขาก็ไม่ได้ไปสังคมที่ไหนนอกเหนือจากสังคมไอดอลเท่าไหร่นักจึงทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีเธอเข้ามาเติมส่วนที่ขาดหายไป

    “นายคิดอะไรอยู่?”

    เสียงของจีโอเหมือนจะเรียกสติของซึงโฮกลับมาได้

    “เปล่านี่”   ซึงโฮปฏิเสธ

    “เปล่าอะไร? ฉันเห็นนายมองลิซซี่อยู่ตั้งนานละ”  จีโอยังคงคาดคั้นแกมจับผิด

    “ทำไมล่ะ? มอง... ก็แค่มอง”  

    “ให้มันจริงเถอะ ลิซซี่น่ารักนะ เข้ากับนายได้ด้วย...รู้ตัวรึเปล่า?”

    “พูดเป็นเล่น!”

    จีโอขำน้อยๆ เมื่อเห็นเพื่อนผู้เป็นลีดเดอร์ทรงพลังทำหน้าเลิ่กลั่กแกมเขิน แถมยังไม่กล้าสบตา ชายหนุ่มลุกจากโซฟาเพื่อไปหาของอร่อยๆ ลงท้องฆ่าเวลา ทิ้งให้เจ้าเพื่อนบ้าที่กลายสภาพเป็นหมอนชั่วคราวเพ้อพกทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ไยดี

    ---------------- ----------------

     

    อีกด้านหนึ่ง... ซองกยูที่ไม่ได้สนใจภาพในจอแต่แรกพลิกตัวกลับมาเหลือบมองดูหลังจากที่ได้ยินเสียงอิ๊อ๊ะราวกับถูกใจและขัดใจสลับกันไปมา

    แต่ภาพตรงหน้าแทบจะทำเอาตาตี่ๆ ของเขาเบิกโพลงโตเท่าไข่ห่านในบัดดล เขารู้ซึ้งถึงต้นตอของเสียงเหล่านั้นแล้ว ซองกยูทะลึ่งตัวพรวดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยก่อนจะหันไปหาอูฮยอนกับดงอูที่เอาแต่กอดหมอนแน่นโดยไม่มีแม้แต่เสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา

    “อูฮยอน ดงอู ได้อัดไว้หรือเปล่า?” 

    ดงอูหันหน้ามามองพี่ชายแล้วยิ้ม ทว่าอูฮยอนก็แทรกเสียงตอบให้ในทันที

    “รายการทีวีเนี่ยนะ แถมยิ่งเป็นของพี่กับ... ใครจะอัดไว้ล่ะ!

    แม้เสียงของอูฮยอนจะไม่รื่นหูแต่สีหน้าแววตาของเขาช่างดูกรุ้มกริ่มผิดกับคำพูดเสียเหลือเกิน แต่อะไรไม่เท่าเสียงประหลาดๆ ของเจ้าเด็กประถมที่ดังแทรกมาเป็นระยะ

    “ว้ะ!..ว้ะ!.. ว้าวววว!!!~  

    อีซองยอลแหกปากยาวทำให้ทั้งซองกยู ดงอู และอูฮยอนหันกลับไปสนใจที่โทรทัศน์อีกครั้งอย่างอัตโนมัติ

    ภาพที่ซองกยูสวมสร้อยให้ลิซก่อกำเนิดให้เจ้าตัวหน้าแดงจนลามไปถึงใบหูอย่างรวดเร็ว สายตาของซองยอล ซองจง ดงอู และอูฮยอนรวมเป็นจุดเดียวที่ซองกยูอย่างไม่ได้นัดหมายจนเขาก็เริ่มจะแก้ความเก้อเขินด้วยการดุเจ้าพวกนั้น

    “พวกนายนี่ไม่มีอะไรทำกันรึไง?! 

    “ม่ายมีหรอก...”  ซองยอลยานคางตอบพร้อมใบหน้ายิ้มเยิ้มหยดล้อเลียนเต็มเหนี่ยว

    “นายล่ะอีซองจง! ว่างมากเหรอ?!  

    “ว่างพอๆ กับที่พี่ว่างนั่นแหละ”   ซองจงยิ้มร้าย

    “นายละ...”

    “ฮึ้ย~ ไม่ต้องถาม พี่ก็รู้ว่าว่าง แล้วพี่จะถามทำไม? แก้เขินหล่ะสิ  ฮิฮิฮิ~ 

    อูฮยอนตัวแสบเบรกคำถามของซองกยูเพราะรู้ทันทำเอาลีดเดอร์หน้าแดงเป็นปื้นไปอีกรอบ ...เขินเก่ายังไม่ทันหาย เขินใหม่นี่ตามมาติดๆ (สุภาษิตอะไร?)

    “เขินอะไร? พวกนายมันมั่ว! ไปดีกว่า..” 

    ซองกยูลุกขึ้นเดินผ่ากลางวงเดินเข้าห้องอย่างหาเรื่อง แต่หาได้มีใครสนใจเขาเพราะมัวแต่รวมหัวกันแซวอย่างสนุกสนาน แต่ดงอูก็เรียกเสียงหัวเราะให้กับเหล่าสังเกตการณ์ส่งท้ายก่อนลีดกยูจะปิดประตูห้องนอนใส่จนเสียงดังลั่น

    “เข้าไปเพราะรายการจบแล้วใช่มั้ยล่ะ!! ซองกยูฮยองเจ๋งมาก!!

     

    ---------------- ----------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×