คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : ปฏิกิริยา
Chapter 6 : ปฏิกิริยา
อูฮยอนนั่งเซ็งหน้าห้องซ้อมที่ไม่มีวี่แววว่าซองกยูจะเลิกซ้อมง่ายๆ จนชักจะเริ่มหงุดหงิดตัวเองแถมเขาก็ยังไม่อยากที่จะเข้าไปข้างในตอนนี้ อูฮยอนเดินเรื่อยๆ เพื่อออกไปหาอะไรลงกระเพาะแทนการนั่งหง่าวอยู่ต่อไป ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกลมากนักเป็นเป้าหมายของเขา แต่ในยามวิกาลขนาดนี้ทำให้บรรยากาศรอบข้างดูจะวังเวงไปเสียหน่อยเท่านั้น
ริมถนนยังพอมีคนเดินให้เห็นบ้างแต่ไม่ทันที่อูฮยอนจะตั้งตัวเสียงกรี๊ดที่เดาได้ว่าอย่างน้อยก็สี่ถึงห้าคนก็ดังขึ้น สัญชาตญาณไอดอลของอูฮยอนทำงานทันทีแม้ยังไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ขาของเขาก็ออกวิ่งโดยอัตโนมัติ ทว่าด้วยเสียงที่ยังคงดังตามมาอย่างต่อเนื่องทั้งเรียกชื่อและฉายาอะไรต่างๆ นานาทำให้เขารู้ได้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นวิ่งตามเขามาอย่างแน่นนอน
เป้าหมายของอูฮยอนเปลี่ยนจากร้านสะดวกซื้อเป็นที่อื่นโดยฉับพลันแต่ปลายทางก็ตามแต่ขาของเขาจะพาไปแล้วกัน ใจจริงเขาอยากจะหยุดคุยด้วยกับแฟนๆ แต่อะไรบางอย่างกลับกระซิบบอกว่าเผ่นก่อนเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ชายหนุ่มวิ่งไปจนสุดถนนเขาตัดสินใจวิ่งเลี้ยวไปที่มุมตึกแต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งกระชากเขาจนเซไปอีกด้าน
“เฮ้ย~!/ชู่ว์~”
“อุ๊บส์~” อูฮยอนถูกมือปริศนาปิดปากเมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเขาจะพูดอะไรหรือแหกปากออกมาอีกรอบ
เสียงคนคุยกันผสมเสียงลมหายใจเหนื่อยหอบเริ่มกระชั้นเข้ามาใกล้ทำให้อูฮยอนเลือกที่จะนิ่งไว้ก่อนทำให้เขามีเวลาพอจะแอบมองสำรวจคนตรงหน้า รูปร่างที่ไม่สูงนักยิ่งสร้างความสงสัยให้กับอูฮยอน หมวกสีดำบนศีรษะบดบังให้ไม่เห็นหน้าได้ชัด จนเมื่อเสียงคนกลุ่มนั้นหายไปได้ซักพักมนุษย์ปริศนาตรงหน้าอูฮยอนก็ถอดหมวกออก แต่ทว่ากลับพลิกมันมาอีกด้านและกดลงบนศีรษะของเขาแทน
“Bye~”
คนคนนั้นยกมือขึ้นลา ก่อนจะเดินออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเห็นหน้าและได้ยินเสียง อูฮยอนแน่ใจทันทีว่าเธอเป็นผู้หญิง
“หยุดก่อน! อย่าเพิ่งไป...” อูฮยอนตัดสินใจเรียก ซึ่งก็ทำให้เธอหันมาทำหน้าประหลาดใจใส่เขา
“คุณคือ...ลิซ หรือเปล่าฮะ?”
หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง เธอเพ่งมองคนที่อยู่ใต้แสงไฟถนนอีกครั้ง อูฮยอนถอดหมวกที่อยู่บนศีรษะออกก่อนจะใช้ปลายนิ้วปัดผมให้เข้าทรง และนั่นทำให้เธอมีท่าทางตกใจจนเผลอยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง เธอกลับหลังหันเตรียมวิ่ง แต่อูฮยอนดูเหมือนจะรู้ทัน เขาก้าวพรวดเข้ามาคว้าแขนเธอไว้ได้เสียก่อน
“เอ๊... จะรีบไปไหนล่ะฮะ?”
“เฮ้ออออ~”
หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันมาหาเขาอย่างยอมจำนนซึ่งจริงๆ แล้วเธอจะไม่ยอมรับและหนีไปก็ได้ แต่ดันติดมือตุ๊กแกของอูฮยอนที่ถึงสะบัดเต็มแรงก็ยากจะหลุดไปได้นี่แหละ
“ว้าว... ไม่คิดว่าจะได้พบกันนะครับเนี่ย” อูฮยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แล้วแนะนำตัวเอง
“ผม...นัมอูฮยอนครับ”
ลิซอยากจะบอกว่ารู้แล้ว แต่ก็ยั้งไว้ทัน เพราะมันคงเป็นมารยาทที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าหากจะกวนประสาทกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จัก
สุดท้ายอูฮยอนก็ลากลิซไปที่ห้องซ้อมของพวกเขาพร้อมด้วยของกินอีกนิดหน่อยท่ามกลางเสียงร้องห้ามแกมขอร้องของหญิงสาวที่เขาหาได้สนใจ เสียงเพลงด้านในยังคงดังอยู่แต่เสียงอื่นๆ ดูจะเงียบไป และถ้าหากใครหูดีซักหน่อยละก็... คงจะได้ยินเสียงใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะของลิซเข้าบ้าง
อูฮยอนเปิดประตูห้องซ้อมแล้วกวาดสายตาหาลีดเดอร์ของเขา ชายหนุ่มยิ้มออกเมื่อเห็นซองกยูนั่งพิงกำแพงดื่มน้ำอยู่ที่พื้นมุมห้อง
“พี่ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ?” อูฮยอนถามหลังจากที่เดินไปลดเสียงเพลงให้เบาลงเรียบร้อยแล้ว
“อืม... แล้วนายมาทำไม?”
“อ๋อ...ผมแค่ผ่านมา”
คำตอบของอูฮยอนทำเอาซองกยูอยากจะหัวเราะ แต่เขาก็หัวเราะไม่ออกเมื่อน้องชายดึงคนๆ หนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้า มือที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มชะงักค้าง ซองกยูลุกขึ้นยืนมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“คุณมาได้ยังไง?” เขาถามเสียงเบา
“ก็...เอ่อ... บังเอิญผ่านมา”
“คุณจะบังเอิญผ่านมาได้ยังไง ในเมื่อคุณไม่ได้อยู่ที่นี่?!” เสียงของซองกยูดูหงุดหงิดนิดๆ หลังจากได้ยินคำตอบ
“อ้าว... ก็ฉันมาอยู่ที่นี่ แล้วค่อยบังเอิญผ่านมาไง!”
ความปรารถนาของอูฮยอนดูเหมือนจะทำให้เกิดศึกมากกว่าคู่รักหวานแหววอย่างที่ตั้งใจ เขารีบเอาตัวเข้าขวางเมื่อเห็นเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ อูฮยอนดันพี่ชายกลับไปที่มุมห้อง
ส่วนลิซ...เขาดึงเธอถอยมานั่งที่ม้านั่งยาวด้านหลังห้องแทน พร้อมกับเปิดน้ำให้เธอดื่มให้ใจเย็นอีกด้วย
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทักกันรุนแรงเน๊อะ” อูฮยอนเดินกลับไปหาซองกยูแล้วหยั่งเสียง
“นายไปเจอลิซที่ไหน?”
“แถวๆ ถนนอ่ะ ผมเจอแฟนๆ วิ่งตามแล้วเธอช่วยไว้นิดหน่อย”
ซองกยูมองอูฮยอนด้วยสายตาตำหนินิดหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งที่ม้านั่งยาวข้างๆ ลิซ เขายื่นขวดน้ำในมือให้เธอโดยไม่พูดอะไร ลิซมองขวดน้ำนั่นอย่างไม่แน่ใจแต่ก็รับไว้ก่อนจะยื่นของตัวเองให้เขาแทน ซองกยูรับมาและยกขึ้นดื่มหน้าตาเฉย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่หนาวบ้างหรือไง?”
ซองกยูถามเมื่อเห็นว่าเธอสวมกางเกงขาสั้นกับรองเท้าผ้าใบที่แทบไม่ต่างจากตอนพบเธอวันแรกเลย ลิซหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วใช้ศอกกระทุ้งไปที่แขนซองกยูอย่างหมั่นไส้ที่เขาทำเป็นเข้มในตอนแรก ชายหนุ่มเซไปเล็กน้อย เขาตีหน้าขรึมได้ไม่นานก็หันมายิ้มให้เธอเหมือนเคย
ซองกยูกลับมานอนก่ายหน้าผากอยู่ที่หอพักอย่างรู้สึกขัดใจตัวเอง ทั้งที่ยังโกรธเรื่องที่ถูกเธอหลอกแท้ๆ แต่พอเห็นลิซมาอยู่ตรงหน้าจริงๆ ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เขารู้สึกหงุดหงิดตัวเองอยู่ไม่น้อยทีเดียว โชคยังดีที่วันรุ่งขึ้นพวกเขาไม่ได้ติดงานที่ไหนจะมีก็แต่ซ้อมร้องและเต้นทำให้การนอนตอนเช้าของซองกยูและอูฮยอนไม่ได้สร้างปัญหา
อูฮยอนตื่นมาปักหลักนอนที่ห้องโถงเพื่อรอดูรายการที่ซองกยูได้ถ่ายทำกับลิซผู้หญิงที่เขาพบเมื่อคืน สมาชิกภายในวงมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ที่อยู่ดีๆ ก็เห็นอูฮยอนออกมานอนเฝ้าโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ทั้งที่ตัวเองหลับแต่กลับถือรีโมทเอาไว้ในมือและถ้าหากใครหน้าไหนหาญกล้าไปแงะมันออกมาโดยที่เขายังสะลึมสะลืออยู่ละก็คงโดนเตะกระเด็นออกมาแน่ๆ แต่ว่า...
“เฮ้!อูฮยอน เอารีโมทมาหน่อยดิ่” อยู่ดีๆ ดงอูที่มาจากทางไหนไม่รู้ก็แทรกตัวไปกระแซะอูฮยอนอย่างไม่ได้สนใจรอบข้างเลยซักนิด
ดงอูแงะรีโมทออกจากมือของอูฮยอนและกดเปลี่ยนช่องไปมาเพื่อหารายการต่างๆ ดู โดยที่อูฮยอนก็ผงกศีรษะขึ้นมาเหล่ตามองทั้งที่ตัวเองยังคงง่วงนอนอยู่ ดูเหมือนว่าจางดงอูจะไม่รู้สึกถึงรังสีอำมหิตจากสายตาของเขาทำให้อูฮยอนต้องถอนหายใจและทิ้งศีรษะกลับไปที่หมอนอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านี้
“เหลือแค่เราสองคนแน่ๆ หละ เพราะเดี๋ยวพี่แอลกับพี่โฮย่าต้องออกไปถ่ายละครแล้ว” น้องเล็กซองจงหันมากระซิบกับพี่ชายซองยอลที่มักจะขัดคอกันอยู่ตลอดแต่มาวันนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยอย่างไม่น่าเชื่อ
“เอาเถอะ มันต้องมีอะไรสนุกๆ บ้างหละน่า”
พูดไม่ทันขาดคำประตูห้องของซองกยูเปิดออกโดยมีลีดเดอร์หน้าตาสะลืมสะลือเดินเปะปะและมาแหมะกองรวมกับอูฮยอนและดงอู
“ไม่ได้มีอะไรที่ดูสภาพดีเลย” ซองจงบ่น
แต่เมื่อดงอูที่ยังคงกดรีโมทเปิดไปเจอรายการ Dating Idol พอดี พี่น้องสองซอง (ซองจงและซองยอล) ก็ร้องเสียงดังลั่นแล้ววิ่งมาเกยตื้นอยู่ข้างๆ ดงอูพร้อมดึงรีโมทไปหน้าตาเฉยอย่างไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนช่องอีก ท่ามกลางสายตางงๆ ของดงอูและซองกยู
“โห... รุนแรงจริงๆ” ดงอูบ่นใส่ลมใส่แล้ง
“ชู่ว์~”
ซองยอลหันมาจุ๊ปากใส่เบาๆ แล้วชี้ไปที่หน้าจอ ดงอูหันมองตามมือก็เห็นตัวอย่างปรากฏขึ้น เขาเข้าใจได้ทันทีว่าพี่น้องสองซองกำลังจดจ่อกับอะไรแต่ก็ไม่วายปรายตาไปที่พี่ใหญ่ซอง(ซองกยู)ที่ยังคงไม่ได้สนใจแถมยังเอาแต่นอนลูกเดียวแม้ใกล้กันแค่คืบ สุดท้ายดงอูก็เข้าร่วมสมาคมสังเกตการณ์ไปด้วยอีกคนโดยปริยาย
♥ ---------------- ♥ ---------------- ♥
ลิซถูกเสียงกดออดปลุกให้ลุกจากเตียง หญิงสาวลากสังขารขึ้นมาดูอย่างคร้านสุดๆ โดยที่ลากผ้าห่มติดออกมาด้วย แต่เมื่อเห็นคนที่มาเยือนเธอเองก็อยากจะนำพาตัวเองกลับไปนอนแต่ติดตรงที่คนตรงหน้าประตูยังคงโหวกเหวกโวยวายกวนใจไม่หยุดหย่อน
“ไม่กลัวเสียภาพกันบ้างหรือไง?” ลิซบ่น
“นี่ฉันตั้งใจมาดูโทรทัศน์กับเธอเลยนะ” จีโอบอกอย่างไม่สะทกสะท้าน
“พวกนายไม่มีงานมีการทำกันเหรอ?”
“โอ๊ย~... งานฉันน่ะเยอะ! แต่ฉันก็มีเวลาว่างๆ อย่างคนอื่นเหมือนกันแหละน่า” จีโอตอบโดยที่มือยังคงวุ่นวายกับการหาสายปลั๊กโทรทัศน์ท่ามกลางสายต่างๆ ที่พันกันยุ่งไปหมด
“แล้วนายล่ะมีจุดประสงค์อะไร?” ลิซหันมาทางซึงโฮที่ตั้งแต่เข้ามายังคงไม่ได้พูดอะไรออกมาซักคำเดียว
“เมื่อคืนไปไหนมา?” เขาตอบกลับด้วยคำถาม
“ยังซึงโฮ... ฉันไม่ได้มีเพื่อนที่เกาหลีแค่ 2 หรือว่า 5 คนหรอกนะ”
“ใช่...! เธอยังมีอีกตั้ง 7 คน!” ซึงโฮประชด
“โอ๋~ งอนอะไรเหรอคะซึงโฮโอป้า~” ไม่พูดเปล่าๆ ลิซยังอ้อมมาด้านหลังแล้วเอาคางเกยไหล่ซึงโฮแบบอ้อนๆ อีกต่างหากทำเอาชายหนุ่มออกอาการขัดเขินไปเล็กน้อย
“สวีทไม่เกรงใจชาวบ้านเลยนะ” เสียงจีโอดังลอยมาทั้งที่มือยังคงกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ แต่เอ๊ะ!เขาเปิดมันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ลิซเลิกอ้อนซึงโฮและเดินไปหาจีโอที่อยู่หน้าโทรทัศน์อย่างสนใจแทบจะในทันที
“นายทำได้ยังไงอ่ะ รู้มั้ยว่า...ฉันไม่ได้ดูมาตั้งเกือบอาทิตย์แล้วนะ!”
“ถ้าเธอบอกซึงโฮ เธอก็จะได้ดูตั้งแต่วันแรกที่มันเจ๊งแล้ว”
“ไว้คราวหน้าฉันจะบอกตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นมันพังแล้วกัน!” ลิซตอบส่งเดชไปเรื่อยด้วยความหมั่นไส้
“อย่าลืมคำพูดเธอนะ” ซึงโฮเอ่ยเรียบๆ
“ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ฉันก็ลืม” เธอตอบกลับอย่างกวนประสาท โดยที่ไม่หันมามอง
ซึงโฮถอนหายใจเบาๆ ...ถ้าการถอนหายใจแล้วอายุสั้นลงเป็นเรื่องจริงช่วงเดือนกว่าๆ มานี้เขาคงอายุสั้นกุดไปหลายปีแล้ว
“เดี๋ยวสวีท... เดี๋ยวสงคราม... ฉันหละเดาอารมณ์เธอไม่ถูกเลยลิซซี่!”
จีโอเอ่ยอย่างอ่อนใจ แต่กลับได้สายตาว่างเปล่ากลับมาจากลิซทำเอาชายหนุ่มชะงัก ลิซเดินลากผ้าห่มกลับไปที่โซฟาและทิ้งตัวลงนอนดูเหมือนอาการง่วงนอนก่อนหน้านี้ได้กลับมาเกาะกุมเธออีกครั้ง แต่คำถามของซึงโฮทำให้เธอต้องปรือตาขึ้นมอง
“กลับเช้าเลยใช่มั้ยเนี่ย?”
ลิซไม่ตอบแต่กลับย้ายหมอนมาวางบนตักของซึงโฮก่อนจะทิ้งศีรษะของตัวเองตามมา ชายหนุ่มหันมองจีโอทันทีทว่าคนถูกมองได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ
“เพราะเป็นแบบนี้ไงล่ะ ซึงโฮถึงเป็นห่วงเธอมากน่ะ” จีโองึมงำอยู่ในคอ
ซึงโฮที่ไม่ได้ขยับไปไหนเพราะลิซนอนอยู่ทำให้เขาต้องดูรายการที่เธอถ่ายกับซองกยูไปโดยปริยายเพราะจีโอไม่ยอมเปลี่ยนช่องและท่าทางเขาจะสนใจมันมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว
แต่ไม่นานนักซึงโฮที่ท่าทางเบื่อๆ ก็กลับสนใจขึ้นมาฉับพลันกับภาพที่เขาเคยเห็นเมื่อนานมาแล้วคือการแต่งตัวของลิซ เธอใส่ทั้งเดรสและส้นสูงแถมผมยังรวบเป็นทรงอย่างตั้งใจ ซึงโฮกับจีโอพร้อมใจกันหันมามองลิซที่กำลังเอาจริงเอาจังในการนอนอย่างคาดไม่ถึงเพราะทั้งคู่เคยเห็นภาพแบบนี้ก็ตอนที่เธอมาทำงานเป็นล่ามพิเศษให้พวกเขาเท่านั้นและยังไม่จัดเต็มขนาดนี้อีกต่างหาก
จีโอมีสีหน้าที่เครียดนิดๆ กับภาพในจอที่ออกมาเรื่อยๆ ชายหนุ่มชักไม่แน่ใจว่าการที่เขาสนใจและเปิดรายการนี้ดูนั้นคิดถูกหรือผิดกันแน่ ส่วนซึงโฮเองก็นิ่งไปเมื่อเห็นซองกยูสวมสร้อยให้กับลิซ เขารู้สึกเหมือนการแสดงออกของซองกยูดูจริงจังและธรรมชาติจนชวนให้คิดไปสักหน่อย
“นี่ถ้าไม่ใช่ถ่ายรายการ ฉันคิดไปไกลแล้วนะเนี่ย!” จีโอออกความเห็นอย่างอดไม่ได้
“อย่าว่าแต่นาย... ฉันก็คิด” ซึงโฮเห็นด้วยกับเพื่อนซี้
“ยัยนี่ล่ะ คิดรึเปล่า?”
คำพูดและสายตาของจีโอที่หันมามองลิซทำให้ซึงโฮต้องหันมามองเธอด้วยเหมือนกัน เขาเอื้อมมือมาปัดผมที่ปรกหน้าเธอให้อย่างแผ่วเบา
ซึงโฮไม่รู้หรอกว่าลิซรู้สึกหรือไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้เขารู้สึกกลัวใจตัวเองมากกว่า อาจเป็นเพราะตั้งแต่ทำงานมาเขาก็ไม่ได้ไปสังคมที่ไหนนอกเหนือจากสังคมไอดอลเท่าไหร่นักจึงทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีเธอเข้ามาเติมส่วนที่ขาดหายไป
“นายคิดอะไรอยู่?”
เสียงของจีโอเหมือนจะเรียกสติของซึงโฮกลับมาได้
“เปล่านี่” ซึงโฮปฏิเสธ
“เปล่าอะไร? ฉันเห็นนายมองลิซซี่อยู่ตั้งนานละ” จีโอยังคงคาดคั้นแกมจับผิด
“ทำไมล่ะ? มอง... ก็แค่มอง”
“ให้มันจริงเถอะ ลิซซี่น่ารักนะ เข้ากับนายได้ด้วย...รู้ตัวรึเปล่า?”
“พูดเป็นเล่น!”
จีโอขำน้อยๆ เมื่อเห็นเพื่อนผู้เป็นลีดเดอร์ทรงพลังทำหน้าเลิ่กลั่กแกมเขิน แถมยังไม่กล้าสบตา ชายหนุ่มลุกจากโซฟาเพื่อไปหาของอร่อยๆ ลงท้องฆ่าเวลา ทิ้งให้เจ้าเพื่อนบ้าที่กลายสภาพเป็นหมอนชั่วคราวเพ้อพกทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ไยดี
♥ ---------------- ♥ ---------------- ♥
อีกด้านหนึ่ง... ซองกยูที่ไม่ได้สนใจภาพในจอแต่แรกพลิกตัวกลับมาเหลือบมองดูหลังจากที่ได้ยินเสียงอิ๊อ๊ะราวกับถูกใจและขัดใจสลับกันไปมา
แต่ภาพตรงหน้าแทบจะทำเอาตาตี่ๆ ของเขาเบิกโพลงโตเท่าไข่ห่านในบัดดล เขารู้ซึ้งถึงต้นตอของเสียงเหล่านั้นแล้ว ซองกยูทะลึ่งตัวพรวดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยก่อนจะหันไปหาอูฮยอนกับดงอูที่เอาแต่กอดหมอนแน่นโดยไม่มีแม้แต่เสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา
“อูฮยอน ดงอู ได้อัดไว้หรือเปล่า?”
ดงอูหันหน้ามามองพี่ชายแล้วยิ้ม ทว่าอูฮยอนก็แทรกเสียงตอบให้ในทันที
“รายการทีวีเนี่ยนะ แถมยิ่งเป็นของพี่กับ... ใครจะอัดไว้ล่ะ!”
แม้เสียงของอูฮยอนจะไม่รื่นหูแต่สีหน้าแววตาของเขาช่างดูกรุ้มกริ่มผิดกับคำพูดเสียเหลือเกิน แต่อะไรไม่เท่าเสียงประหลาดๆ ของเจ้าเด็กประถมที่ดังแทรกมาเป็นระยะ
“ว้ะ!..ว้ะ!.. ว้าวววว!!!~”
อีซองยอลแหกปากยาวทำให้ทั้งซองกยู ดงอู และอูฮยอนหันกลับไปสนใจที่โทรทัศน์อีกครั้งอย่างอัตโนมัติ
ภาพที่ซองกยูสวมสร้อยให้ลิซก่อกำเนิดให้เจ้าตัวหน้าแดงจนลามไปถึงใบหูอย่างรวดเร็ว สายตาของซองยอล ซองจง ดงอู และอูฮยอนรวมเป็นจุดเดียวที่ซองกยูอย่างไม่ได้นัดหมายจนเขาก็เริ่มจะแก้ความเก้อเขินด้วยการดุเจ้าพวกนั้น
“พวกนายนี่ไม่มีอะไรทำกันรึไง?!”
“ม่ายมีหรอก...” ซองยอลยานคางตอบพร้อมใบหน้ายิ้มเยิ้มหยดล้อเลียนเต็มเหนี่ยว
“นายล่ะอีซองจง! ว่างมากเหรอ?!”
“ว่างพอๆ กับที่พี่ว่างนั่นแหละ” ซองจงยิ้มร้าย
“นายละ...”
“ฮึ้ย~ ไม่ต้องถาม พี่ก็รู้ว่าว่าง แล้วพี่จะถามทำไม? แก้เขินหล่ะสิ ฮิฮิฮิ~”
อูฮยอนตัวแสบเบรกคำถามของซองกยูเพราะรู้ทันทำเอาลีดเดอร์หน้าแดงเป็นปื้นไปอีกรอบ ...เขินเก่ายังไม่ทันหาย เขินใหม่นี่ตามมาติดๆ (สุภาษิตอะไร?)
“เขินอะไร? พวกนายมันมั่ว! ไปดีกว่า..”
ซองกยูลุกขึ้นเดินผ่ากลางวงเดินเข้าห้องอย่างหาเรื่อง แต่หาได้มีใครสนใจเขาเพราะมัวแต่รวมหัวกันแซวอย่างสนุกสนาน แต่ดงอูก็เรียกเสียงหัวเราะให้กับเหล่าสังเกตการณ์ส่งท้ายก่อนลีดกยูจะปิดประตูห้องนอนใส่จนเสียงดังลั่น
“เข้าไปเพราะรายการจบแล้วใช่มั้ยล่ะ!! ซองกยูฮยองเจ๋งมาก!!”
♥ ---------------- ♥ ---------------- ♥
ความคิดเห็น