ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dating Idol อยากจะรัก...เดี๋ยวจัดให้ [INFINITE&MBLAQ]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : ลีดเดอร์ VS ลีดเดอร์

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 55


     
     
     
    Chapter 4  :  ลีดเดอร์ VS ลีดเดอร์
     
     
     
     
               
                ตารางงานของวงค่อนข้างแน่นทำให้ซองกยูที่ดูเหมือนคนเหนื่อยตลอดเวลาสำหรับน้องๆ ยิ่งเหนื่อยมากขึ้นไปอีก แต่พอมีคนถามถึงรายการที่เขาไปร่วมรายการและยังไม่ออกอากาศ ซองกยูที่ใจร้อนและโมโหง่ายอยู่แล้วดูจะโมโหง่ายกว่าปกติเพิ่มขึ้นไปอีกร้อยเท่า
                นัมอูฮยอนมองพี่ชายอย่างผิดสังเกต เพราะโดยปกติซองกยูโมโหง่ายก็จริงแต่ก็หายเร็ว คราวนี้น่าจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นแต่เขาไม่ยอมเล่าให้ฟังและไม่พูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว
     
                “พี่อูฮยอน ผมมีเรื่องจะบอก”  ซองยอลกระซิบเบาๆ กับอูฮยอน
     
                สองตัวแสบหันมามองหน้ากันก่อนจะรีบสุมหัวอย่างรวดเร็วราวกับมีภารกิจระดับชาติอยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขา ซองกยูหันไปมองทั้งคู่อย่างสงสัยเพราะเขาเห็นจากกระจกมองหลังก็ชักระแวงว่าจะถูกแกล้งจากเจ้าน้องชายจอมแอ๊บแบ๊วและเจ้าเด็กประถม
     
                “พวกนายทำอะไรกันน่ะ?!” 
     
    เสียงซองกยูดังมาจากทางหน้ารถทำเอาทั้งคู่สะดุ้ง แต่คนอื่นๆ ภายในรถก็สะดุ้งไปด้วยเช่นกัน
     
    “อ๋อ... ผมคุยกับพี่อูฮยอนว่าเดี๋ยวเราจะเปิดรายการที่พี่ไปออกดูกันน่ะฮะ เพราะวันนี้มาวันแรก”  เจ้าเด็กประถมซองยอลเปิดเกมส์
     
    “ดูทำไม?! เอาเวลาไปซ้อมเต้นเถอะไป๊!" 
     
    “ครับ โอเค”    ซองยอลรับคำเสียงอ่อยแต่กลับหันมายิ้มให้อูฮยอนอย่างเริ่มสนุกสนานขึ้นมาแล้ว
     
    รถของพวกเขามาถึงสถานีโทรทัศน์เจ้าของรายการ Dating Idol แถมยังใกล้เวลาออนแอร์อีกด้วยทำให้เหล่าเด็กแคระค่อนข้างตื่นเต้นกับรูปแบบรายการใหม่ยกเว้นคิมซองกยูผู้เป็นหนึ่งในสี่คู่ของรายการ
     
    “พี่... มียาฆ่าหญ้ามั้ยครับ?”  ซองกยูถามหายาฆ่าหญ้าจากผู้จัดการด้วยสีหน้าราวคนเบื่อโลกเสียเต็มประดา
     
    “เอาไปทำอะไร?”   เขาหันมาถาม (แหม...ยังอุตส่าห์...)
     
    “ฆ่าตัวตาย...”    ซองกยูตอบหน้าบอกบุญไม่รับเต็มที่และเดินนำไปที่ห้องพักศิลปินอย่างไม่อยากจะสนใจอะไรรอบข้างอีกแล้ว
     
    แต่เมื่อตัวอย่างรายการคู่ของซองกยูถูกยิงออกมาเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบตาไปดูจอโทรทัศน์ที่มีอยู่ทั่วตึก เพียงไม่กี่วินาทีถัดจากนั้นลีดเดอร์ขี้โมโหก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นเครียดเมื่อเห็นฉากกระซิบข้างหูระหว่างเขาและลิซ
     
    ซองกยูเดินหนีไปทันที เขาปฏิเสธไม่ได้จริงว่าเขาเปิดใจให้กับลิซและตั้งใจจะแอบคุยกับเธอหลังจากอัดรายการเสร็จแต่ทุกอย่างมันก็พังครืนลงไปตรงหน้ายิ่งได้รู้ว่าถูกหักหลังด้วยสาเหตุอะไรก็พาลตอกย้ำในหัวใจจนแทบทนไม่ได้ จนแล้วจนรอดภายในห้องก็เปิดรายการ Dating Idol ด้วยคะแนนเอกฉันท์หกต่อหนี่งแถมทุกสายตายังจับจ้องจอและดูตั้งใจยิ่งกว่าซ้อมร้องซ้อมเต้นก่อนเปิดตัวเสียอีก
     
    เหล่าแคระทั้งหกยังคงจำได้ว่าลีดเดอร์ของพวกเขาเคยแชทออนไลน์กับพวกเขาผ่านคอมพิวเตอร์ภายในห้องของลิซมาก่อน แต่เมื่อมาถึงซีนขอให้เธอเป็นแฟนสมาชิกทุกคนที่อยู่หน้าจอโทรทัศน์หันมาหาซองกยูอย่างพร้อมเพรียงทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอายขึ้นมาในทันทีกับสิ่งที่ทำไป
     
    “ถึงขั้นคุกเข่าอ้อนวอน ว๊าว~ช่างเป็นคู่ที่น่าสนใจจริงๆ”  ซองยอลหันมาแซว
     
    “มันไม่ใช่เรื่องตลก”  ซองกยูโต้
     
    “เนี่ยนะลิซนูน่า อยากรู้จริงๆ ตอนนั้นพี่คิดอะไรอยู่?”   แอลหนุ่มหล่อจอมเจ้าเล่ห์หยั่งเชิง
     
    “ฉันไม่รู้!”   ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆ
     
    “แต่เดี๋ยว...”  แอลชะงักเมื่อเห็นหน้าเธอชัดจากในจอ
     
    “มีอะไรเหรอพี่แอล?”  มักเน่ซองจงหันมาถาม
     
    “ฉันว่า...เหมือนเคยเห็นที่ไหนน้า~”  เขาทำท่านึก
     
    “ไร้สาระน่า~! ไปไป๊!!”    
     
    อูฮยอนและซองยอลมองหน้ากันอีกครั้งแล้วกระซิบกระซาบกันอย่างชอบใจ พวกเขาลงความเห็นว่าซองกยูน่าจะชอบลิซอยู่บ้างแต่ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องโมโหเกินจริงทุกครั้งที่ถามถึง ทว่าทั้งคู่ก็ยังไม่คิดที่จะเลิกเล่นเกมส์ขุดคุ้ยลีดเดอร์ซองกยูต่อ
     
                แอลกลับมาจากถ่ายละครในตอนดึกแต่ภายในห้องโถงสมาชิกยังคงอยู่กันครบ ยกเว้นซองกยูที่อ่านหนังสืออยู่ภายในห้อง หน้าตาของวงรีบเข้าไปหาอูฮยอนกับซองยอลทันที
     
                “นี่พี่...จำที่บอกเมื่อตอนบ่ายได้มั้ย? ว่าผมคุ้นหน้าลิซนูน่าน่ะ”
     
                “ย๊า~ ฉันสองคนก็อยู่บนโลกนี้นะทำไมคุยกันแค่นั้นล่ะ ฟังด้วยคนสิ”  ดงอูแอ๊บเสียงเข้มก่อนจะทำท่ากระดี๊กระด๊าลากโฮย่าเข้าวงสนทนากับเขาด้วย ส่วนโฮย่าก็สะกิดมักเน่ซองจงให้เขยิบเข้ามาอย่างรู้งาน
     
                “ไม่ใช่ที่พี่กยู ส่งรูปมาให้พวกเราหรือไงล่ะ?”    น้ำเสียงของอูฮยอนดูไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่นัก
     
                “ไม่ใช่!”  แอลปฏิเสธทำให้สามารถเรียกความน่าสนใจจากสมาชิกในวงได้อีกครั้งทันที
     
                “ที่ไหนๆ”  ซองยอลเร่งอย่างอยากรู้
     
                “โทรศัพท์มือถือของ...พี่ซึงโฮ”
     
                “ซึงโฮไหน? พูดชัดๆ ไปเลย!” ซองยอลอดรนทนไม่ได้ที่แอลตอบแบบกั๊กๆ จนต่อมความอยากรู้อยากเห็นของเขาแทบระเบิด
     
                “ฟังดีๆ นะ...  หน้าจอโทรศัพท์มือถือของลีดเดอร์ ยัง ซึง โฮ ชัดมั้ย?” 
     
               
    ---------------- ----------------
     
     
    ที่หน้าหอพักของยังซึงโฮ ชายหนุ่มกำลังตรวจความเรียบร้อยของรถเพื่อที่จะออกไปทำธุระข้างนอก แต่ก็หาได้รอดพ้นสายตาของจีโอที่กำลังยืนมองอยู่
     
    “จะไปด้วยกันมั้ย?”  ซึงโฮหันมาถาม
     
    “เชิญหนีไปเดทตามสบาย”  จีโอปฏิเสธ
     
    ซึงโฮละมือจากรถแล้วเดินเข้ามาหาจีโอก่อนจะตบบ่าเพื่อนเบาๆ
     
    “เดทอะไร? เพื่อนกันนายก็รู้”
     
    “แต่ว่า...รายการที่แอลบอกมันออกอากาศแล้วนะ ระวังคนจะจำได้ล่ะ”  จีโอหันมาเตือนแล้วเดินกลับเข้าไปด้านในซึงโฮได้แต่มองตามพลางถอนหายใจ
     
    คลับที่ซึงโฮมาบ่อยๆ ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้ต้องการมาดื่มแต่ว่านัดคนคนหนึ่งเอาไว้ต่างหาก ชายหนุ่มสวมหมวกใบเก่งก่อนจะรีบจ้ำเข้าไปด้านใน แสงสีภายในมีแต่สปอร์ตไลท์และเลเซอร์ที่ยิงอยู่โดยรอบ เพลงจังหวะเร้าใจเสียงดังกระหึ่ม ทว่าซึงโฮกำลังสอดส่ายสายตาของเขาในความมืดนั้นเพื่อหาใครบางคนเลยไม่มีแก่ใจจะหลงใหลสิ่งรอบตัว
     
    เขาใช้เวลาไม่นานนักก็พบ ชายหนุ่มดึงหมวกให้หลุบลงพลางเดินแหวกผู้คนที่แน่นขนัดอยู่หน้าบาร์เครื่องดื่มเข้าไปด้านหน้าจนได้
     
    Hi~”   เขาทักพร้อมโบกมือให้
     
    คนถูกทักหันมองด้วยแววตาสงสัยแล้วเอียงคอมองเขาอีกครั้ง
     
    “อ้าว...ลีดเดอร์โอป้า~”   
     
    “อย่าเรียกแบบนี้เลยเหอะ ฟังแล้วขนลุก” ชายหนุ่มทำท่าขนลุกใส่
     
    “ทำไม? แค่นี้ทนฟังไม่ได้รึไง?” 
     
    “ขอร้องเถอะลิซซี่”  เขาทำหน้าอ้อนวอนแถมจะยกมือไหว้เข้าอีกทำให้เธอต้องห้ามเขาแทบไม่ทัน
     
    “ย่าห์..~! หยุดเลย ไม่งั้นฉันร้องจริงๆ นะเอ้า!” 
     
    ได้ยินประโยคนั้นลีดเดอร์ยังซึงโฮถึงกับชะงักเขารีบโบกไม้โบกมือใส่แถมทำหน้ารำคาญเหมือนสิ่งต่างๆ เมื่อครู่เป็นเรื่องไร้สาระไม่น่าจดจำเสียเต็มประดา
     
    “เกรียนชะมัด”  เธอบ่นเป็นภาษาไทย แต่ซึ่งโฮกลับหูดีได้ยินและทำหน้าสงสัย คราวนี้หญิงสาวโบกไม้โบกมือแถมยังทำหน้ารำคาญใส่เขาไปบ้าง แต่ซึ่งโฮก็ไม่ได้สนใจเขาจับข้อมือเธอไว้แล้วเหล่ตามองเพื่อขู่บังคับให้เธอบอก ลิซซี่ไม่ขัดขืนแต่กลับทำเมินและแลบลิ้นใส่อย่างกวนประสาท
     
    ที่ห้องวีไอพีด้านบนของคลับซึงโฮกำลังกระดกเหล้าเข้าปาก ร่างของหญิงสาวปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้เขาชะงักไปชั่วครู่เมื่ออยู่ดีๆ โผล่มาจากนั้นก็กรอกแอลกอฮอล์ลงคออีกรอบ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามเขา
     
    “ทำไมไม่บอกฉันเรื่องที่เคยอัดรายการกับซองกยูมาก่อน!”  ซึงโฮเข้าโหมดเฉยชาทันที
     
    “ซึงโฮโอป้า... อะไรกันเนี่ย?” 
     
    “ลิซซี่...ถ้าเธอเรียกฉันว่าโอป้าอีกทีเจอดีแน่!” 
     
    “ทำไม? ฉันเป็นน้องนายนะ!”  ลิซซี่ขึ้นเสียง
     
    “แค่วันเดียว ตลกเหอะ! เธอเก็บเอาไว้ขำวันหลังแล้วกัน”  ซึงโฮโต้
     
    “ชิส์~!”
     
    “เธอยังไม่ตอบฉันเลย”   ซึงโฮยังคงย้อนกลับมาเรื่องเดิมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
     
    “โห..ยังไม่ลืมอีก ก็แค่...เรื่องบังเอิญ”
     
    “บังเอิญ? ไหนว่าอยากอยู่เงียบๆ ไง? ทำไมเธอถึงทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้วไม่บอกฉัน? ไม่รู้หรือไง..ว่ารายการนี้ดังมาก ฉันละไม่อยากนึกภาพเลยจริงๆ”   ซึงโฮร่ายยาวแถมยังทำหน้าราวกับเพิ่งพบสิ่งน่าสยดสยองมาหมาดๆ
     
    “ฉันไม่ใช่น้องในวงนายนะลีดเดอร์ มันจำเป็น...เข้าใจว่ามันจำเป็นมะห๊ะ?!”
     
    ลิซและซึงโฮทำท่าจะทะเลาะกันจริงจังเพราะหลังจากนั้นทั้งคู่เริ่มเถียงกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครจนเสียงดังลั่นห้อง ยังดีที่มีผนังกรองเสียงช่วยไว้ทำให้เหตุการณ์ทั่วไปยังคงปกติแต่บรรยากาศภายในห้องแทบทะลุองศาเดือดเต็มทน
     
    “เรื่องจำเป็นอะไรถึงบอกไม่ได้ เธอมีความลับอะไรนักหนา!” 
     
    “ไม่มี! ฉันโดนบังคับไง!”  ลิซหันมาตะโกนใส่ซึงโฮ
     
    “แล้วทำไมไม่บอกฉัน?! คิดว่าฉันช่วยเธอไม่ได้รึไงห๊ะ?!!"  ซึงโฮของขึ้น
     
    “ยังซึงโฮ...! นายเป็นอุลตร้าแมนหรือซุปเปอร์แมนล่ะ!”  
     
    ลิซพยายามข่มอารมณ์ตัวเองให้เย็นลง แต่ท่ามกลางพายุที่กำลังกระหน่ำก็เกิดปรากฏการณ์ฟ้าสว่างขึ้นมากะทันหันเมื่อมีคนที่สามเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ลิซและซึงโฮที่กำลังปะทะอารมณ์กันเหลือบมองนิดหนึ่งแล้วหยุดทะเลาะกันทันทีราวกับปิดสวิตช์
     
    “ว่าแล้ว... กำลังทะเลาะกันอยู่สิท่า”  
     
    จีโอเดาเหตุการณ์ขาดหลังจากเห็นอากัปกิริยาของทั้งคู่ เขาเอื้อมมือไปดึงลิซให้นั่งลงก่อนจะอ้อมมาอีกด้านแล้วกดไหล่ซึงโฮที่กำลังยืนหัวเสียให้นั่งลงที่โซฟาด้วยอีกคน
     
    “ถ้าฉันไม่มา... มีหวังได้เป็นข่าวแน่”  
     
    “ไงอ่ะนูน่า.. เอาซะซึงโฮโกรธจนตาแทบทะลักเลยนะ”   จีโอแซวอย่างไม่ทุกข์ร้อน
     
    “บยองฮี เลิกเรียกฉันว่านูน่าซักทีเหอะ! เอาเพื่อนนายกลับไปด้วย”   ลิซรู้ว่าเขาแกล้ง แต่เธออารมณ์ไม่ดีพอจะเล่นด้วยจริงๆ ณ เวลานี้
     
    ซึงโฮได้ยินประโยคหลังแล้วปรี๊ดขึ้นมาทันที เขาเตรียมจะเปิดสงครามน้ำลายอีกรอบแต่ยังดีที่มีจีโอห้ามไว้เสียก่อน
     
    “อ๊า... ฉันพาซึงโฮกลับก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเราค่อยคุยกันอีกที บ๊ายบาย~”
     
    จีโอฉุดซึงโฮให้ลุกตามแถมยังส่งสายตาบังคับแกมขู่ให้เพื่อนรู้สึกตัวจนทำตามโดยง่าย ชายหนุ่มยัดซึงโฮใส่รถแล้วขับกลับหอพักแต่ยิ่งเห็นเพื่อนนิ่งเงียบเขาก็ชักเริ่มเป็นห่วง
     
    “ซึงโฮนายเครียดเรื่องอะไรบอกฉันได้ ทำไมต้องไปทะเลาะกับเธอด้วย ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะ”  จีโอทำลายความเงียบ
     
    “คิดว่าฉันอยากทำหรือไง? เห็นฉันเป็นอะไร?”  
     
    จีโอไม่แน่ใจว่าประโยคหลังซึงโฮพูดกับเขาหรือเปล่าแต่ก็เริ่มเห็นเค้าลางความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้าเด่นชัดเลยทีเดียว
     
     
    ---------------- ----------------
     
     
     
    “ซวยแล้ว~”   อูฮยอนรำพึง
     
                “เวรแท้~”    มักเน่อุทานเสียงอ่อย
     
                “ดับอนาถ” ซองยอลส่ายหัวดิก
     
                “รอดยาก”  ดงอูคอตก
     
                “จบเห่”  โฮย่าสรุป
     
                “อะไรกันเนี่ย? ประหลาดกันจริงเลย”   แอลมองทุกคนอย่างงงๆ ที่อยู่ดีๆ ทุกคนก็มารวมตัวอัดกันราวกับปลากระป๋องที่ที่นอนเล็กๆ ของเขา
     
                “ที่พี่กยูหงุดหงิด โมโหบ่อยๆ ที่เราพูดถึงลิซนูน่าคงเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า?”   มักเน่ สันนิษฐาน
     
                “ไม่หรอกน่า... พี่เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำเรื่องพี่ซึงโฮ”  แอลบอกทุกคน
     
                “นายรู้ได้ยังไง?”  ซองยอลถาม
     
                “เขายืนอยู่นั่น...”  
     
                ซองกยูที่ยืนอยู่หน้าประตูทำเอาสมาชิกที่เหลือสะดุ้งเฮือก การนินทาที่เป็นความลับทั้งหมดซองกยูได้ยินจนหมดแล้ว เหล่าสมาชิกทั้งหลายอยากจะสลายตัวแต่ติดที่ลีดเดอร์ยืนขวางประตูไว้ไม่ให้ออกแถมยังดูหัวเสียมากทีเดียว
     
                แอลจำต้องเล่าเรื่องรูปหน้าจอโทรศัพท์ของซึงโฮที่เขาเห็นตอนไปกองถ่ายให้ฟังอีกครั้ง โดยมีสายตาอำมหิตของซองกยูเปล่งประกายอยู่ข้างๆ
     
                “แล้วพี่ซึงโฮรู้เรื่องรายการรึเปล่า?”  ซองกยูถามขึ้นนิ่งๆ
     
                “อ่า... รู้สิ เพราะโทรทัศน์ยิงTeaser ออกมาพอดี”   อยู่ดีๆ แอลก็ไม่กล้าสบตาซองกยูขึ้นมาเสียอย่างนั้น
     
                “อ่าห์~~…” 
     
                ซองกยูร้องพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้นกดขมับทำให้ทั้งหมดงงกับปฏิกิริยานั้น ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินโซเซไปมาราวคนเสียศูนย์ก่อนจะหันมาพูดกับมักเน่ซองจงโดยที่มักเน่พยายามมองตาเขาเพื่อจับความรู้สึกแต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ (ไม่เห็นตาล่ะสิ...)
     
                “อีซองจง ขอยืมตุ๊กตานายหน่อย”
     
                มักเน่หยิบตุ๊กตาหมีเพื่อนรักส่งให้โดยที่ไม่มีข้อโต้แย้งทั้งที่ยังดูงงๆ กับสถานการณ์ ซองกยูใช้มือซ้ายถือตุ๊กตาไว้  เขามองมันแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มต่อยมันอย่างหงุดหงิดท่ามกลางความตกตะลึงของสมาชิกทั้งหมด
     
                “ย่าห์ๆๆๆๆๆ...!!!”  ลีดกยูกำลังเป็นบ้า
     
                ทั้งหกคนได้แต่มอง ใจหนึ่งอูฮยอนก็อยากจะห้ามแต่อีกใจเขาก็แอบกังวลว่าแหย่เข้าไปตอนนี้มีหวังตายหมู่ได้ง่ายๆ เลยตัดสินใจนิ่งเฉยไปก่อนดีกว่า เมื่อพอใจแล้วซองกยูก็คืนตุ๊กตาให้ซองจงและเดินออกไปจากห้องนั้น แต่ก็ยังได้ยินเสียงร้องของลีดเดอร์แว่วมาเป็นระยะ
     
                “อาการหนักไม่ใช่น้อยเลยนะ”  ซองจงเอ่ย
     
                “แอล! นายอ่ะไปจัดการเลย” 
     
    ซองยอลสั่งง่ายๆ แต่แอลกลับชื้ตัวเองอย่างงงๆ ว่าเขาไปเกี่ยวอะไรด้วย
     
    “แค่อยากรู้ว่า...ใช่คนเดียวกันจริงหรือเปล่า? อีกข้อคือ...เขาเป็นอะไรกัน?”
     
    “ฉันเหรอ?”  แอลยังลังเล
     
    “ถ้าไม่ใช่นาย จะให้พี่ซองกยูไปถามหรือไง? แล้วถ้าไปถามเองคิดว่าจะถามว่าอะไร?”  ซองยอลย้อน
     
     
     
                ---------------- ----------------
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×