คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter : 3 Chance
[SF] Voice of my Heart
Chapter : 3 Chance
*******************************************************
เต้นท์อาหารริมทางที่เรียงรายอยู่มากมาย มีทั้งอาหารชนิดต่างๆ รวมทั้งกลุ่มก๊วนที่กำลังดื่มทั้งหลายแหล่ หนึ่งในเต้นท์อาหารเหล่านั้นเป็นที่สิงสถิตของอีซองยอล โอซึงอา และจางดงอูรุ่นพี่ผู้เป็นพนักงานในร้านที่ตอนนี้กำลังดื่มกันอย่างได้ที่ ถ้าหากไม่ได้ควมสนิทสนมเป็นพิเศษระหว่างเจ้าของร้านกับจางดงอูเด็กสองคนนี้ก็คงไม่ได้ดื่มเหล้ากลางที่สาธารณะแบบนี้หรอก
แก้มของซึงอาขึ้นสีชมพูเรื่อๆ เพราะจำนวนโซจูที่ดื่มเข้าไป แม้จะไม่มากนักแต่ก็ไม่น้อยแถมยังสามารถทำให้วอลลุ่มเสียงของเธอเริ่มดังกว่าปกติ
“พี่ดงอู ผมว่า...เรามาดวลกันอีกซักตั้งดีกว่า ให้มันร่วง! คาโต๊ะกันไปเล้ยยยย~!”
ซองยอลเอ่ยท้าพลางขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ซึงอาเพื่อระวังไม่ให้เธอพลาดตกเก้าอี้เพราะเริ่มเห็นเธอโงนเงนนิดๆ ชายหนุ่มใช้มือซ้ายถือแก้วเล็กๆ ไว้ในมือ ส่วนมือขวาก็วางไว้ด้านหลังที่นั่งของเพื่อน
“แหมะ...ลูกชายท่านประธานสั่ง ใครน้ออออ~ จะกล้าขัด” จางดงอูรับมุกด้วยท่าทางร่าเริงอย่างนึกสนุก
“แหม...พี่อย่างเรียกแบบนี้สิ ผมไม่ชินเลยจริงๆ นะเนี่ย”
สองหนุ่มยกแก้วชนกัน แต่กลับมีแก้วที่สามยกตามขึ้นมาชน ซองยอลเห็นมือที่ยกขึ้นมาก็รู้ทันทีว่าซึงอาเล่นตลกใส่อีกแล้ว เขายกแก้วเล็กๆ ขึ้นกระดกแล้วรีบคว้าโซจูในมือของเพื่อนสาวเอาไว้ได้ทันก่อนจะถูกเธอเทมันลงคอไป โดยมีจางดงอูหัวเราะอย่างขันๆ กับท่าทีลุกลี้ลุกลนของลูกชายท่านประธาน
ซึงอาย่นจมูกใส่ซองยอลอย่างขัดใจ หญิงสาวสะบัดแขนไปกระแทกแขนของเขาที่วางไว้ด้านหลังเพื่อกันตกด้วยความหมั่นไส้ ซองยอลจึงยกขึ้นมายีผมของเธอจนยุ่งเป็นการแก้เผ็ด
“อ๊ากกกกกก~ ซองยอลลี่! แกตายซะเถอะ~!”
ซึงอาพูดพร้อมหันไปมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เธอยกมือขึ้นบีบคออีซองยอลแล้วเขย่าจนชายหนุ่มต้องรีบแงะมือทั้งสองข้างออกจากคอ ทว่ากลับมีนิ้วเรียวยาวที่ไม่คุ้นตามาช่วยดึงซึงอาออกไป แต่ก็สร้างความแปลกใจให้กับซองยอล และจางดงอูไม่น้อย
“หวัดดี เดี๋ยวฉันพาเขากลับเอง พวกคุณดื่มกันต่อเถอะ”
ซองยอลสะบัดศีรษะไล่ความมึนงงเมื่อเห็นว่าคนที่มาใหม่คือ.. คิมซองกยู คนคนนั้นที่คลับคล้ายคลับคลาว่าเจอวันที่ซึงอาไปกินอาหารร้านหรูและเธอก็กลับมาเล่าให้ฟัง ซองยอลแทบจะทรุดเพราะความไวเป็นลิงของเขาที่ดึงซึงอาให้ลุกขึ้นยืน แม้ว่าเธอจะขัดขืน ทว่าเมื่อเขาเดินตามออกไปกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของทั้งคู่ยิ่งทำให้หัวเสียจนอยากจะแหกปากร้อง
ดงอูเดินตามมาอย่างเป็นห่วง มือหนักๆ ของเขาสัมผัสลงบ่าของซองยอลอย่างปลอบใจ แต่คำพูดของเขากลับแทงใจยิ่งกว่า
“ผมเข้าใจ... แฟนโดนฉกต่อหน้าต่อตาเลยนี่นะครับ”
อีซองยอลพยายามโทรศัพท์เข้าเครื่องของซึงอาอยู่หลายรอบรอบละหลายๆ ครั้งจนครึ่งชั่วโมงผ่านไปถึงได้มีคนรับสายแต่เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของซึงอา
“อยู่ที่ไหน?” ไม่มีการทักทาย มีแต่เพียงน้ำเสียงเคร่งเครียดที่แฝงไปด้วยความร้อนรน
[หลับแล้ว ไว้ค่อยโทรพรุ่งนี้อีกทีละกัน]
“เดี๋ยว! คุณอยู่ที่ไหน? ผมจะไปรับเพื่อนผมกลับเดี๋ยวนี้!” ซองยอลเริ่มโมโห และนึกรู้ว่านั่นคือเสียงของซองกยู
[ฉันไม่ทำมิดีมิร้ายเพื่อนนายหรอกน่า นายเองก็กลับบ้านได้ละ แค่นี้นะ]
“เดี๋ยวๆ~! เดี๋ยวเซ่~! โธ่เว้ย!!!”
ปลายสายวางไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแถมโทรกลับไปอีกก็ปิดเครื่องหนีไปแล้ว ซองยอลรู้สึกเป็นห่วงซึงอา ระคนแปลกใจกับอากัปกิริยาของนายคิมซองกยูอะไรนั่นที่อยู่ดีๆ ก็มาลากเพื่อนของเขาหายไปต่อหน้าต่อตา
คืนนั้นทั้งคืนซองยอลแทบหลับไม่ลง ยังดีที่เขานัดกับซึงอาไว้ที่ร้านในวันพรุ่งนี้ และหากเธอไม่ลืมเสียก่อนเขาก็จะรอเธออยู่ที่นั่นจนกว่าร้านจะปิด
คิมซองกยูนั่งมองเด็กหนุ่มหน้าหวานตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องไปทำอะไรน่าอายแบบนั้น เพราะเด็กนี่ก็แค่ดื่มเหล้ากับเพื่อน แต่ทว่าเขากลับลากซึงอาออกมา ในตอนนั้นเขารู้สึกไม่ดีจริงๆ ที่เด็กนี่นั่งโงนเงนโดยมีแขนของผู้ชายคนนั้นแทบจะโอบเอาไว้แม้ว่ามันจะเป็นความหวังดี แต่อีกใจนึงก็รู้สึกว่าตัวเองทำถูกแล้วเพราะหากพินิจดูจริงๆ จังๆ ซึงอาก็ไม่ค่อยจะเหมือนเดิมซักเท่าไหร่แล้ว (ฤทธิ์แอลกอฮอลล์ซึมซาบ)
นิ้วเรียวยาวของซองกยูยื่นไปแตะที่หน้าผากของซึงอาก่อนจะพลิกใช้หลังมือสัมผัสแทนเพื่อวัดไข้ อุณหภูมิร่างกายของซึงอาสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ทว่าคงจะมาจากที่ดื่มโซจูเข้าไปมากกว่า ผ้าห่มสีเทาเข้มถูกดึงให้คลุมจนถึงคอ อย่างน้อยถ้าเมาก็ควรจะได้นอนสบาย และขอบอกตรงนี้เลยว่าถ้าเป็นที่นอนของซองกยูหละก็...นอนสบายที่สุดแล้ว
เจ้าของห้องมองเจ้าเด็กบนเตียงอีกครั้งแล้วออกไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมกับกางเกงวอร์มสีเทา เสื้อกล้ามสีขาวสวมทับด้วยเสื้อวอร์มสีเดียวกับกางเกง จากนั้นก็ล้มตัวลงบนที่นอนอีกด้านที่ว่างอยู่ภายใต้ผ้าห่มสีเทาเข้มผืนเดียวกับซึงอา
แสงแดดที่ลอดผ่านหน้ากระจกทำให้คนตัวเล็กกว่างัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความไม่ชอบใจราวกับถูกขัดเวลาแห่งความสุข แต่แขนหนักๆ ที่พาดอยู่ที่เอวทำให้เธอแทบช็อค เมื่อหันไปเห็นว่าเจ้าของแขนขาวๆ นั่นเป็นใคร
พรึ่บ...~! พรั่บ~!.. ตุ้บ...!!!!
ซึงอาตกใจจนหล่นมาเอียงกระเท่เร่อยู่ข้างเตียงพร้อมด้วยผ้าห่มสีเทาเข้มที่คลุมร่างทั้งเธอและซองกยูเอาไว้ทำให้ผู้ชายตัวโตกว่าที่อยู่บนเตียงตื่นขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ
“อ้าว...นายตื่นแล้วเหรอ” ซองกยูเอ่ยทักอย่างไม่คิดอะไร
“เฮ้ย~! คุณ.. คุณ.. คุณ...” ซึงอาได้แต่ชี้นิ้วอย่างตะลึงตะลาน ทว่ากลับพูดอะไรไม่ออก ได้แต่กระชับผ้าห่มสีเทาเข้มเข้าหาตัว
“...อะไร? ฉันไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสผู้ชายด้วยกันหรอกน่ะ” พูดจบก็พลิกตัวหนีไปอีกด้าน
ซึงอาก้มมองสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าตัวเองก่อนจะเป่าปากอย่างโล่งอก
“แล้วทำไม...? เอ่อ.. ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ซึงอายังมึนๆ งงๆ
“หืม...” ซองกยูพลิกตัวกลับมา แต่ดูเหมือนว่าเมื่อเธอเห็นดวงตาเรียวจ้องมองอยู่ หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกว่าจะไม่อยากได้คำตอบเสียแล้ว
“อ่อ.. งั้น... งั้นผมกลับหละ สวัสดีฮะ”
คิดไปคิดมา...นี่ก็โชคดีเท่าไหร่แล้วที่คิมซองกยูไม่ได้เป็นคนดีเลิศขนาดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงอกแตกตาย ไม่สิ.. คิมซองกยูนั่นแหละจะตกใจตาย แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นเธออาจจะไม่เหลือแม้แต่ซากอะไรต่อมิอะไรกลับบ้านไปอย่างปลอดภัยยังมีหน้าจะไปอยากรู้อีก
พลันซึงอาก็โยนผ้าห่มในมือให้เขาก่อนจะวิ่งออกไปด้วยความเร็วแสง แต่ก็ต้องวิ่งกลับมาอีกรอบแล้วละล่ำละลักถาม
“ท..ทะ..โทรศัพท์~ ยะ..อยู่.. อยู่ไหนฮะ?!”
ซองกยูชี้ไปที่หน้าทีวีจอแบนเครื่องใหญ่บิ๊กบึ้มที่ฝั่งตรงข้าม ซึงอามองตามพลางกวาดตาหา เมื่อเห็นสิ่งที่ต้องการเธอก็โค้งให้เขาหนึ่งทีจนหัวแทบจะโขกกับเข่าตัวเอง เธอเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์แล้วหายไปจากสายตาของเจ้าของห้องอย่างรวดเร็ว
ซึงอายกมือขึ้นยีผมบนศีรษะอย่างปวดประสาท ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะกลับบ้านก่อนดี หรือจะไปหาอีซองยอลก่อนดี แถมยังไม่รู้อีกต่างหากว่ามาโผล่ที่บ้านซองกยูได้ยังไงหรือเธอควรจะโทรหาซองยอลเป็นอันดับแรก แต่หากซองยอลไม่รู้เรื่องมาก่อนก็คงจะรู้คราวนี้
“โอ๊ย.. ไปเลยแล้วกัน!”
คิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบกลับไปหาซองยอลที่ร้านกาแฟทันที โดยที่ทั้งหมดนั่นอยู่ในสายตาของคิมซองกยูที่ยืนกอดอกมองลงมาจากระเบียงห้องทุกกระเบียด
*************************************************
“โอซึงอา!!”
เสียงซองยอลดังลั่นเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในร้านกาแฟจนลูกค้าต่างก็หันไปมองเป็นตาเดียว ทำเอาดงอูที่เช็ดแก้วอยู่แอบหัวเราะให้ความขี้โวยวายของเจ้านาย
“พี่ดงอูขอชาร้อน กับ โกโก้เย็นอย่างละแก้วฮะ”
ซองยอลหันไปสั่ง ก่อนจะดึงเพื่อนที่เดินอย่างเชื่องช้าสุดๆ มานั่ง พลางจับเธอพลิกซ้ายขวาหน้าหลังอย่างเป็นห่วง จนซึงอาแปลกใจในความโอเว่อร์
“ซองยอลลี่... เดี๋ยวๆๆๆๆ เป็นอะไรเนี่ย?”
“นี่ยังไม่สำนึก? เฮ้อ~…” ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยถามเสียแข็ง
“เมื่อคืนแกจำอะไรได้มั้ยว่าถูกลากหายไปไหนมา!”
ซึงอาเข้าใจได้ทันทีว่าซองยอลรู้เรื่องทั้งหมด หญิงสาวได้แต่ยิ้มฝืดเคืองแถมยังไม่รู้จะทำหน้ายังไงเมื่อเจอกับสายตาเครียดขึงของเขา
“ไปเลย... ไปอาบน้ำใหม่เดี๋ยวนี้เลย สภาพดูได้ที่ไหน! แล้วเล่ามาให้หมดนะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง!”
“พี่ฮะ ห้องข้างบนนะ รบกวนด้วย”
ซองยอลหันมาบอกกับดงอูก่อนจะลากซึงอาขึ้นไปที่ห้องพักที่อยู่ด้านบนสุดของร้านเพื่อให้เธอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เพราะอีซองยอลเดาว่าเพื่อนของเขาคงจะตกใจตาเหลือกเลยแหละถ้าหากตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและพบว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
จางดงอูมองตามทั้งสองคนด้วยสายตาวิบวับ ตัวเขาเองอยากจะให้เพื่อนเจ้านายถามใจจะขาดเหลือเกินว่าเจ้านายของเขาทำอะไรไปบ้าง ถ้ามีโอกาสนั้นจางดงอูจะแฉให้หมดพร้อมทั้งใส่สีตีไข่ให้เจ้านายกลายเป็นเทวดาตัวน้อยๆ จนเธอประทับใจและตกหลุมรักเลยเอ้า!
ปากก็บอกว่าไม่คิดอะไร แต่การกระทำล้ำหน้าไปไกล...
ต่อให้จางดงอูเป็นคนนิสัยซื่อตรงแค่ไหน ก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นดูไม่ออก
แต่สำหรับเพื่อนเจ้านายคนนี้... ทั้งคู่สนิทกันมากไป ทำให้ยากที่จะรู้สึกถึงอะไรแบบนั้น....
ซึงอาหลับไปแล้วอย่างสบายใจบนเตียงนุ่ม โดยมีซองยอลสวมแว่นนอนอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟาชุดรับแขกภายในห้องแต่ก็มีท่าทางอิดโรยอยู่บ้างเนื่องจากนอนไม่หลับแทบทั้งคืนเพราะเป็นห่วงใครบางคน และตั้งแต่คิดได้ว่าตัวเองคงไม่อาจข่มตาหลับ เขาก็เตรียมเสื้อผ้ามาให้เธอไว้เปลี่ยน และยังให้แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องนี้ไว้ตั้งแต่เช้า โชคยังดีที่ซึงอาอาศัยอยู่ในโซลคนเดียวไม่อย่างนั้นเขาคงต้องเป็นคนรับหน้าที่คอยช่วยตอบคำถามกับพ่อแม่ของเธอแน่ๆ
ชายหนุ่มยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากเมื่อคิดถึงผู้ชายผิวขาวจัดคนเมื่อวานที่ดูท่าจะอายุมากกว่าเขาแค่ไม่เท่าไหร่ แต่อะไรบางอย่างกลับบอกว่าอีซองยอลคนนี้ด้อยกว่าเขาหลายด้านนัก
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขากลัวคือเสียซึงอาเพื่อนสนิทของเขาให้กับผู้ชายคนนั้น แม้เธอจะยืนยันว่าเขาเห็นเธอเป็นเด็กผู้ชายหน้าหวานกะโหลกกะลาทั่วๆ ไป แต่ก็ยังไม่อยากวางใจ
อีซองยอลถอนหายใจระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากปอดอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง หรือบางที...เขาอาจจะคิดมากไปเอง..
To Be Continue…..
ความคิดเห็น