คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter : 2 Tutor
[SF] Voice of my Heart
Chapter : 2 Tutor
ร้านกาแฟไม่ห่างจากโรงเรียนมัธยมปลายในช่วงเย็นค่อนข้างจ้อกแจ้กจอแจเพราะสาวๆ ม.ปลายก็มาจับจองที่นั่งคุยกัน อ่านหนังสือ แถมยังเป็นจุดนัดพบอีกด้วย ที่สำคัญร้านกาแฟร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในกิจการบ้านตระกูลอี หรือจะว่ากันซื่อๆ เลยก็คือร้านของอีซองยอลเพื่อนสนิทของซึงอานั่นเอง
และนั่นคือเหตุผลที่ทำไมซึงอาถึงต้องมานอนเอาหนังสือเรียนปิดหน้าแก้เซ็งอยู่ที่โซฟาตัวยาวด้านในสุดของร้านที่เป็นโซนพักผ่อนพิเศษแถมยังมีฉากกั้นมิดชิดเสียจนจะกลายเป็นห้องนอนได้อยู่แล้ว
สองสามวันมานึ้ซึงอานอนแทบไม่พอเพราะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ แต่เจ้าเพื่อนตัวแสบกลับลากออกมานั่งเป็นเพื่อนหรือเรียกง่ายๆ ว่านั่งเฝ้าจะเหมาะกว่า
อีซองยอล...ผู้ชายตัวสูงที่ต้องมาเป็นพนักงานเสิร์ฟ แถมแจกยิ้มกระจายไปทั่วร้านให้กับลูกค้าสาวๆ จนแต่ละคนแทบจะละลายลงไปกองกับพื้น ซองยอลเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีขั้นหล่อ ขี้เล่น และนิสัยน่ารัก วันนี้เขาเก็บผมข้างหนึ่งขึ้นไปโดยใช้กิ๊บติดผมสีต่างๆ ล็อคผมเอาไว้ยิ่งทำให้ดูเท่ห์มาก แต่ก็นะ...เซตผมหล่อขนาดนี้ยังต้องมาใส่ชุดพนักงานเสิร์ฟแถมผ้ากันเปื้อนสีดำชมพู... น่าขันนัก~
ซึงอายกหนังสือเล่มหนาปิดหน้าไว้เช่นเดิมด้วยความคร้านที่สุดขีด แต่ความรู้สึกบางอย่างทำให้เธอต้องยกหนังสือขึ้นพร้อมกับทะลึ่งพรวดขึ้นมานั่งจนผมกระจายตกลงมาปิดหน้าแทบมิด
“เฮ้ย~! .. นาย.. เอ่อ..คุณ..” ซึงอาสรรหาสรรพนามเรียกแทบไม่ถูก
“ซอง กยู ฮยอง..” เขาทวน
ซึงอาเสยผมแก้เก้อพลางถอนหายใจ ดวงตาหลุบลงแล้วกวาดตามองเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็ว และก็สำนึกได้ว่าชุดวันนี้ก็ยังสามารถทำให้มนุษย์ผู้ชายตรงหน้าเข้าใจผิดได้อยู่ดี
“แล้วคุณ.. เอ่อ..พี่ซองกยูมาได้ยังไงฮะ?” คงต้องเรียก ’ฮยอง’ ต่อไปสินะ
“ผ่านมา..”
ตอบง่ายแท้ๆ... แต่ก็ช่างเถอะ แค่เจอคนแบบซองกยูคนเดียวในชีวิต ก็ทำให้ความมั่นใจในความเป็นผู้หญิงของเธอลดวูบถึงขีดอันตรายได้แล้ว
“...จริงๆ ฉันเห็นนายน่ะก็เลยเดินเข้ามาทัก แล้วก็เอาไอ้นี่... มาคืนด้วย”
สร้อยข้อมือสีเงินวาววับปรากฏต่อหน้าเมื่อซองกยูยื่นมือออกมาให้ดู แต่เมื่อเห็นสร้อยเส้นนั้นที่มีโลมาเล็กๆ ห้อยอยู่รอบๆ ตาของซึงอาก็แทบจะโตเท่าไข่ห่านในทันที มันคือสร้อยที่อีซองยอลมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้วแถมยังค่อนข้างราคาแพงเสียด้วย
“ฉันจะคืนให้นายนะ “ ซึงอายิ้มกริ่ม “แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เพราะว่ากว่าจะหานายเจอเนี่ย ไม่ง่ายเลย...” พูดจบซองกยูก็เก็บสร้อยลงกระเป๋าเสื้อนอกที่สวมอยู่เล่นเอาซึงอาอ้าปากค้างพูดไม่ออก
“เก็บหนังสือซะ แล้วตามฉันมา”
ซองกยูสั่งง่ายๆ แล้วเดินนำออกไป ส่วนซึงอาที่นั่งอึ้งก็รีบคืนสติโกยกองหนังสือสองสามเล่มของตัวเองแล้วตามเขาออกไป เพราะหากไม่รีบแล้วหละก็... หากซองยอลรู้ขึ้นมาว่าเธอทำสร้อยหายก็คงถูกโกรธ แถมด้วยถูกบ่นจนตัวลีบตัวเล็กเท่าถั่วงอกนั่นแหละ
ชีวิตน้อยๆ ของซึงอากำลังจะเดินออกนอกประตูร้านก็ดันหันมาเจอสายตาของซองยอลเข้าอีก หญิงสาวทำมือเป็นสัญญาณว่าจะโทรหา ซึ่งซองยอลก็ทำหน้าทำรับรู้แถมด้วยเบะปากราวกับจะร้องไห้ให้ซึงอายิ่งทำให้เธออยากจะเป็นลมขึ้นมาทันทีเมื่อหวนคิดถึงความผิดที่มันค้างอยู่ ท่าจะร้องไห้คงกลายเป็นแยกเขี้ยวเขมือบหัวเป็นแน่แท้หากเขารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ซองกยูหยุดเดินแล้วหันมามองซึงอาอีกครั้ง กางเกงยีนส์ขายาวสีดำสนิทกับเสื้อฮู้ดตัวใหญ่สีดำบวกกับสนีกเกอร์สีขาว พร้อมทั้งหัวยุ่งๆ ของซึงอา ดูรวมๆ กันมันก็แค่เด็กผู้ชายหน้าหวานธรรมดาๆ ทว่ามุมปากของซองกยูก็ระบายยิ้มออกมานิดๆ จนซึงอาสงสัย
“มีอะไรรึเปล่า?”
“ฉันว่า.. ดูๆ ไป นายก็ไม่ได้เหมือนผู้ชายซักเท่าไหร่”
“ก็ฉันไม่ใช่...”
“แต่ช่างเถอะ! ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว”
พอซึงอาจะอธิบายก็กลับถูกเขาขัดขึ้น จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้พูดอย่างที่อยากจะพูดเป็นรอบที่แปดสิบจนได้ หรือไม่... หากคิมซองกยูจะสำนึกขึ้นมาบ้างซักนิดก็คงจะคิดได้เองว่าเธอเป็นผู้หญิง...
ซองกยูลากซึงอามาที่ร้านหนังสือใหญ่ ก่อนจะเดินดิ่งไปที่ชั้นหนังสือหมวดที่เขาต้องการโดยมีเด็กหน้าหวานเดินตามต้อยๆ แต่นั่นก็ยังไม่ช้ำใจเท่ามีสาวๆ หันมองทั้งคู่พร้อมๆ กับกรี๊ดกร๊าดถึงความหล่อของซองกยูและซึงอา ทำให้ความเป็นผู้หญิงของซึงอาถูกเหยียบย่ำเป็นรอบที่ร้อยจากคนตรงหน้าพ่วงด้วยสาวๆ พวกนั้น และหากว่าเจอคนรู้จักหรือคนที่เธอแอบชอบตั้งแต่สมัยก่อนขึ้นมา... ชีวิตซึงอาได้อายไปอีกร้อยปี!
“นี่...นี่..! คิดอะไรอยู่อ่ะ?” ซองกยูหันมาถามเมื่อเห็นหน้าเข่นเขี้ยวของเธอ
“ไม่มีอะไรฮะ...”
“จริงๆ แล้ว ฉันมีเรื่องให้นายช่วย”
“....”
“ช่วงนี้ฉันเรียนหนักมาก เพื่อนๆ ทุกคนก็เรียนหนัก ก็เลยมีปัญหานิดหน่อย... ฉันเลยอยากจะจ้างนายเป็นผู้ช่วย สนมั้ยล่ะ?”
“แต่ผมก็เรียนหนักนะ… พี่เห็นหนังสือนี่มั้ย?!” ซึงอายื่นหนังสือของเธอให้เขาดูจนเกือบจะทิ่มหน้าของซองกยู
“นายได้ค่าจ้าง แถมมีคนช่วยติวไอ้หนังสือนี่ ส่วนฉัน.. ได้ผู้ช่วยไม่ดีเหรอ?” ซองกยูใช้นิ้วดันหนังสือออกไป แล้วยื่นหน้าลงมาถามแทนทำเอาซึงอาหน้าร้อนผ่าว
ซองกยูทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาในห้องตัวเองอย่างอารมณ์ดีโดยมีซองจงเดินตามมาด้วย เขาเลิกคิ้วมองหนุ่มรุ่นน้องที่ทำหน้าเหมือนแบกตึกไว้ทั้งตึกอย่างสงสัย
“ตามฉันมา.. นายมีอะไร?”
“ผมก็แค่อยากจะถาม มันข้องใจน่ะ”
“ข้องใจอะไร?”
“พี่ตั้งใจจะแกล้งซึงอาใช่มั้ย?”
“แกล้ง? ใครแกล้ง? นี่ฉันทุ่มทุนสร้างเป็นติวเตอร์ให้นี่ก็สุดยอดแล้วนะ” ซองกยูปฏิเสธ
“พี่เป็นติวเตอร์น่ะใช่ แต่ทำไมต้องเอาเขามาเป็นผู้ช่วยล่ะ คนเก่งอย่างพี่จำเป็นต้องมีผู้ช่วยด้วยหรือไง?” ซองจงชักโมโห
“นายนี่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องนะ ถ้าหาผู้ช่วยก็ต้องจำเป็นสิ” ซองกยูส่ายศีรษะให้รุ่นน้องราวกับถูกถามอะไรที่ไม่น่าจะถาม
“ฮึ๊ยยยย~! พี่นี่มัน…!” ซองจงหงุดหงิดจนพูดไม่ออก ได้แต่สะบัดหน้าพรืดกลับห้องของตัวเองไป โชคยังดีที่เป็นหอนอกมหาวิทยาลัย ถ้าหากเป็นหอในมหาวิทยาลัย....อีซองจงคงอกแตกตาย!
สิบห้านาทีก่อนหน้านี้.......
ซองจงบังเอิญพบกับซึงอาที่ล็อบบี้และยิ่งตกใจที่ภายในมือของเธอถือถุงอะไรก็ไม่รู้ของซองกยูอีกสองสามถุง ถามไปถามมาเลยได้ความถึงข้อเสนอและขอแลกเปลี่ยนของทั้งคู่ ทำเอาซองจงหัวเสียกับนิสัยดื้อรั้นและเอาแต่ใจของพี่ชายของเขา
แต่ด้วยความที่ซองกยูเดินออกมาขัดจังหวะเสียก่อน ทำให้ซองจงไม่ได้คุยกับซึงอามากมายนัก โดยได้รับสายตาโหดๆ จากซองกยูมาเป็นของแถมจนต้องเก็บปากเงียบราวกับทำปากหล่นหายไว้ที่ไหนสักแห่งอย่างกะทันหัน
“กลับก่อนนะฮะซองจงฮยอง” ซึงอาพูดเสียงเบา
ซองจงได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้เธอ แต่แม้กระทั่งยิ้มยังถูกคิมซองกยูจ้องเขม็ง จนรู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ
สุดท้ายซองจงก็อดรนทนไม่ไหวก็เลยต้องตามซองกยูมาที่ห้องเพื่อถามให้รู้เรื่อง แต่ก็ยังไม่ได้เรื่องอยู่ดี
ซึงอาวิ่งหน้าตั้งพร้อมหนังสือหนักๆ กลับมาที่ร้านกาแฟของซองยอล ตอนไปก็ปาไปบ่ายแก่ๆ ส่วนอีตอนกลับก็แทบจะถึงเวลาปิดร้าน นี่ถ้าอีซองยอลไม่โทรตามบวกกับมีชนักติดหลังอยู่ละก็... ไม่มาให้เหนื่อยเลยจริงๆ (-__-)
เธอยืนพักเพื่อแสวงหาออกซิเจนเข้าปอดจนพอใจ จึงเริ่มต้นทำตัวเป็นปกติอย่างกับไม่เคยรีบร้อนตาเหลือกมาก่อนหน้านี้แล้วผลักประตูเข้าไปด้านใน
“เฮลโหลลลลลลล~”
ซึงอาเอ่ยทักซองยอลที่นั่งหันหลังให้ประตูอยู่ที่โซนพิเศษ
“ทำไมถึงมาช้า.. ไหนว่าอยู่ไม่ไกลไง?” ซองยอลวางหนังสือในมือแล้วหันมาต่อว่า
“โธ่... ไม่ไกล แต่ฉันเดินมานะ”
ซึงอาทรุดตัวลงนั่งที่ที่ว่างข้างๆ ซองยอลจนเขาต้องเขยิบให้เธอนั่งสบายขึ้น จากนั้นก็พลิกตัวเอาหลังพิงไหล่ซึงอา
“นวดให้หน่อยสิ~” ซองยอลบอกเสียงอ้อน แถมยังหันมาทำตาปริบๆ ใส่ จนซึงอาทนไม่ได้
“พอแล้วน่า ก็ได้ๆ ทำให้ก็ได้”
ซึงอาหันมาใช้สองมือนวดลงที่ไหล่ทั้งสองข้างของซองยอล ส่วนชายหนุ่มก็นั่งดีๆ ให้นวดอย่างชอบใจ
“เนี่ยน้า.. แกไม่อยู่ ฉันทำงานคนเดียวเหนื่อยจะแย่ แถมยังยิ้มให้สาวๆ จนปากจะฉีกถึงรูหูอยู่แล้ว”
ซองยอลบ่นยาว ทำให้ซึงอาต้องแอบหัวเราะและแกล้งเย้า
“ยิ้มให้สาวเยอะๆ ร้านแกจะเจริญรุ่งเรือง แถมหาแฟนในเวลาเดียวกันก็ได้นะ”
คราวนี้ซองยอลไม่พูดอะไรแต่กลับยกสองมือขึ้นจับมือซึงอาที่กำลังนวดอยู่ให้หยุดแล้วพลิกกลับมาหาเธอทั้งที่ยังไม่ปล่อยมือ
“ไม่ต้องหาหรอกแฟนน่ะ แกเป็นผู้หญิงใช่มั้ยล่ะ? ก็นี่แหละ คนนี้แหละ”
ทั้งที่แสนจะสนิทกัน ทั้งที่แสนจะคุ้นเคย ทั้งที่คุยเล่นกันอยู่เป็นประจำ แต่วันนี้ทั้งคำพูดและสายตาของอีซองยอลทำให้ซึงอารู้สึกแปลกๆ หรือเป็นเพราะเจอลูกไม้ของคิมซองกยูมากไปจนสมองเบลอก็เกินกว่าคาดเดาได้
“เฮ้ยยยยย~…. แกจะตลกไปไหน ดึกแล้ว”
ฟังดูก็รู้ว่าเป็นคำพูดแก้เขิน ซองยอลยิ้มขำๆ จากนั้นก็พลิกตัวกลับไปและวางมือของซึงอาลงบนบ่าของเขา
“ร้านก็ยังไม่ปิด เด็กเสิร์ฟอู้งาน ระวังโดนตัดเงินเดือน”
“งั้นก็ปิดมันซะเลย!~ เด็กเสิร์ฟคนนี้แหละจะปิดร้านก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ลูกค้าในร้านก็ไม่มี ใครจะกล้าดุ...ถ้าบอกว่าพาโอซึงอาไปกินข้าว!”
“ดงอูฮยองฮะ! ปิดร้านกันเถอะ!” ซองยอลตะโกนบอกหนุ่มรุ่นพี่ที่เป็นพนักงานในร้านอีกคนทั้งที่ยังมองหน้าหญิงสาวอยู่พร้อมกับยิ้มท้าทายให้เธอ
ความคิดเห็น