ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] [INFINITE] Series|| Voice Of My Heart :: เสียงของหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter : 1 Oppa OR Hyung ?

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 55




    [SF] Voice of my Heart

     Chapter : 1  Oppa  OR  Hyung ?

                   

                    “คิมซองกยู?” 

                ชื่อนี้ปรากฏท่ามกลางบัตรต่างๆ ที่ค้นได้จากในกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลใบหรูดูราคาแพง เจ้าตัวทำหน้ามุ่ยเมื่อพยายามคิดหาวิธีที่จะคืนให้เจ้าของโดยที่จะไม่มีเรื่องพัวพันถึงตัวอย่างเงียบๆ

                ใช่...เธอคือโอซึงอา ที่เจอกระเป๋าของผู้ชายที่ชื่อคิมซองกยูในห้องน้ำชาย ไม่ผิดหรอกมันคือห้องน้ำชาย แต่ที่ผิดคือผู้หญิงอย่างโอซึงอาดันไปเข้าห้องน้ำชายต่างหาก ครั้นจะพูดไปก็นึกอายเลยได้แต่เดินไปเดินมาให้ขาขวิดอยู่หน้าห้องน้ำนั่นแหละ

                แต่ก็โชคดีราวกับสวรรค์โปรดเมื่อมีใครที่เธอไม่รู้จักเดินตรงดิ่งมาหาแถมยังถามว่านี่ใช่ของๆ คิมซองกยูหรือเปล่า...

                “เอ่อ..ใช่ค่ะ คุณเป็นเพื่อนเขาใช่มั้ยคะ? ฝากคืนด้วยละกัน”  พูดจบซึงอาก็จ้ำอ้าวโดยแทบจะไม่หันมามองซักนิด จนคนที่รับของจากเธอแปลกใจ

                “เป็นผู้หญิงงั้นเหรอ?”

                เด็กสาวตัวขาวที่สวมเสื้อแขนยาวตัวหลวมสีขาวกับหมวกแคปสีดำและซ่อนใบหน้าหวานใสภายใต้เงาของมันพร้อมกับผมสั้นสไลด์รากไทรยาวระต้นคอก้มหน้าเดินดุ่มๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์ซุ่มซ่ามเดินชนชาวบ้านเข้าอย่างจัง

                “อุ่ย!..ขอโทษ”  ซึงอาตั้งหน้าตั้งตาขอโทษก่อนจะเก็บของที่ตกอยู่ตรงหน้าให้คู่กรณี

                ทว่า..ไม่ทันที่คู่กรณีจะกล่าวอะไร มือหนักๆ ก็วางแหมะลงบนบ่าจากด้านหลังพร้อมด้วยเสียงที่สดใส

                “รู้จักกันเหรอครับ? / อ่าว... อีซองจง นายรู้จักเหรอ?”

                “ก็นี่ไงฮะ คนที่เก็บกระเป๋าพี่ได้”

                พอได้ยินประโยคของอีซองจง ซึงอาก็เงยหน้าขึ้นพินิจเขาอย่างละเอียดโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มตรงหน้ามีผิวขาวจัด รูปหน้าเรียว จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม แต่ดวงตารีเรียวเล็กจนแทบจะเป็นเส้นตรง ทว่าเป็นผู้ชายที่ดีดูมากจริงๆ แถมยังดูดีกว่าในรูปที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์เป็นไหนๆ

                “ขอบคุณมากนะ งั้นฉันเลี้ยงข้าวนายตอบแทนละกัน”

                พูดจบก็ดึงซึงอาออกเดินแถมยังถือวิสาสะเอามือโอบไหล่ให้เดินไปด้วยกัน ทำเอาทั้งซึงอาและซองจงอึ้งเป็นเบื้อใบ้แต่ก็เดินตามไปด้วยท่าทีมึนๆ

     

    ที่ร้านอาหาร....

                คิมซองกยูและอีซองจงนั่งอยู่ฝั่งเดียวกันโดยที่อีกด้านเป็นโอซึงอาที่มีท่าทางเคอะเขินอย่างเห็นได้ชัดจนอีซองจงต้องเอ่ยปาก

                “ผมว่า...ผมข้ามไปนั่งฝั่งนู้นดีกว่า พี่จะได้นั่งสบายๆ”

                ซองจงไม่รอให้อนุญาตเขาก็ลุกมานั่งข้างๆ ซึงอาซึ่งเธอก็ส่งยิ้มบางๆ ให้

                “แล้วนายชื่ออะไร? ฉันคิมซองกยู”

                “อะ..เอ่อ.. ซึงอา  โอซึงอา”  เธอตอบพลางดึงหมวกไปพลางเพราะอยู่ดีๆ ก็เกิดเขินขึ้นมาเสียดื้อๆ

                “ฉันอีซองจง เป็นรุ่นน้องของพี่ซองกยู”

                “อายุเท่าไหร่แล้ว?”  อยู่ดีๆ ซองกยูก็ถามขึ้นมาดื้อๆ

                “...สิบเจ็ด”  น้ำเสียงที่ตอบเบาโหวง

                “งั้นนายเรียกฉันว่าพี่แล้วกัน เรียกว่า...ซองกยูฮยองน่ะ”

                คำว่า..ซองกยูฮยอง ทำเอาคนฝั่งตรงข้ามเงยหน้าพรึ่บ ซึงอารู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชาย ส่วนซองจงก็ไม่คิดว่าซองกยูจะเห็นว่าซึงอาเป็นผู้ชาย แถมการแต่งตัวก็ไม่ได้ใกล้เคียงอะไรมากมาย

                “ผมว่า.. ซองกยูโอปป้าน่าจะถูกต้องกว่านะฮะ”   ซองจงเอ่ย

                ซองกยูมองหน้าซึงอาแล้วพินิจ จากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ

                “แล้วแต่เถอะ ตามแต่ใจจะเรียกก็แล้วกัน”     พูดจบก็คีบหมูสามชั้นเข้าปากอย่างอารมณ์ดี ทว่าสองคนกลับลอบถอนใจแทบจะพร้อมเพรียงกัน

                ซึงอานั่งคีบอาหารกินเงียบๆ เงียบจนแทบไม่รู้สึกว่ามีตัวตนอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ สุดท้ายอดรนทนไม่ได้จนต้องโพล่งออกมา

                “ฉันไม่ใช่ผะ...”

                “แปบนะ โทรศัพท์มา”   ซองกยูขัดขึ้น แล้วออกไปด้านนอก

                “ขอโทษนะ”  ซองจงเอ่ยปาก ทว่าซึงอาก็ได้แต่โบกไม้โบกมือว่าไม่เป็นไรด้วยใบหน้าแห้งแล้งสุดๆ

                พี่ซองกยูนี่ไม่ไหวจริงๆ.... ซองจงคิดในใจ

                หลังจากซองกยูกลับมาจากโทรศัพท์ดูเหมือนบรรยากาศจะดูดีขึ้น แต่ละคนก็เริ่มผ่อนคลายจากที่เกร็งๆ กันในตอนแรกก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น แถมพอจะกลับซองกยูก็อาสาจะไปส่งให้แต่ซึงอาปฏิเสธโดยบอกว่าเพื่อนจะมารับ

                “ไปก่อนนะ เพื่อนมาแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะฮะ”

                จากนั้นก็วิ่งปรู๊ดไปหาชายหนุ่มตัวสูงที่กำลังเดินมา

                “พี่ทำไมทำอย่างนี้ละฮะ ดูไม่ออกเหรอว่าซึงอาเป็นผู้หญิงน่ะ!  ซองจงต่อว่าอย่างอึดอัด

                “ผู้หญิงอะไร? นายนี่สายตาแย่มากนะ นั่นน่ะ..ผู้ชายชัดๆ! เด็กนั่นสูงห่างจากนายไม่เท่าไหร่เอ๊ง~!

                พี่ชายตอบหน้าตายเสียจนเขาต้องทอดถอนใจด้วยความเอือมในความรั้นและเอาแต่ใจอีกครั้ง

     

     

                ซึงอาวิ่งไปหาเพื่อนหนุ่มตัวสูงด้วยความเร็ว จากนั้นก็ตบไหล่ให้เขาเดินกลับไปทางเดิมโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรแต่เขาก็เดินตามแต่โดยดี

                “มากินข้าวที่นี่ได้ไงอ่ะ”   หนุ่มตัวสูงถามด้วยความสงสัยเพราะร้านนี้ก็แพงไม่ใช่เล่น

                “นี่...ซองยอลลี่ ฉันเหมือนผู้ชายมากเลยเหรอ?”   ซึงอาชะงักเท้าแล้วหันมาถาม หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามของเขาและอาจจะไม่ได้ฟังมันด้วยซ้ำ

                “มองซ้าย มองขวาแล้ว ก็ไม่นะ”  เพื่อนของซึงอาที่มีชื่อว่าอีซองยอลพูดไปก็จับหน้าเธอพลิกไปมาประกอบการพิจารณาราวกับเป็นเรื่องหลักวิชาการยังไงยังงั้น

                “ทำไมอ่ะ?”

                “ก็นายนั่นน่ะสิ  บอกว่าชื่อฉันมันดูนุ่มนิ่มอย่างกับผู้หญิง แถมยังบอกให้เรียกเขาว่าฮยองอีกต่างหาก!

                อีซองยอลหลุดขำก๊ากจนซึงอาหันไปมองค้อนด้วยใบหน้างอง้ำ เขาถึงพยายามกลั้นหัวเราะจนตัวโยน

                “แล้ว..แกทำไงอ่ะ?”

                “รุ่นน้องเขาแก้ต่างให้แล้ว เขาก็ไม่ยอมสนใจ ฉันก็เลยเออออห่อหมก เรียกซองกยูฮยองไปน่ะสิ ไหนๆ ก็เจอกันแค่ครั้งเดียว ก็ให้มันผ่านๆ ไป!

                “เออดี แปลกดี หึหึ...”    ซองยอลยังคงขำไม่เลิก

                “หยุดเถอะน่า~ ตลกตรงไหนเนี่ย ฉันเครียด!

                ซองยอลพยายามที่จะหยุดตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมาเพื่อเอาใจซึงอา แต่ถ้าถามเขาจริงๆ หละก็... มันโคตรจะฮาเลยเหอะ!...



     

    To Be Continue…..  


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×