คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro :: นายแค่นอนอยู่ใช่ไหม
Intro..
"คุณหมอครับ มีทางอื่นอีกไหม"ยุนโฮถามคุณหมอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"ไม่ มีครับ ต้องเปลี่ยนหัวใจอย่างเดียว"หัวใจที่ว่านี้คือหัวใจของแจจุง ร่างบางไม่สามารถทำงานหนักหรือออกกำลังกายหนักได้เพราะหัวใจไม่โตตามตัวทำ ให้เวลาทำงานหนักจะเต้นและสูบฉีดเลือดไม่ทัน
"ผม ..ผมขอบริจาคหัวใจให้ครับ"เสียงทุ้มเอ่ย ทำให้คนในห้องถึงกับตกใจกัน
"ยุนโฮ ไม่นะลูก"คนเป็นแม่เข้ามาห้ามยุนโฮแล้วส่งสายตาอ้อนวอน
"ผมตัดสินใจแล้วครับแม่"
.
.
.
"มีคนบริจาคหัวใจให้แจจุงแล้วจริงๆหรอ"แจจุงที่นั่งเป็นขนไข้ถักไหมพรมอยู่บนเตียงแหงนหน้ามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"จริงสิ"ยิ้มกลับไปให้ร่างบาง ยิ้มที่มีความสุข ยิ้มเพราะเห็นคนข้างหน้าดีใจ
"เขาเป็นใคร แจจุงอยากไปขอบคุณเขา"
"เรื่องแบบนี้เขาห้ามบอกกัน รู้ไหม"พูดพลางลูบผมนิ่มของแจจุงอย่างอ่อนโยน
"จริง สิ แจจุงไม่รู้ก็ได้"ร่างบางหันมาถักไหมพรมต่อ หนึ่งเดือนแล้วที่เขาเข้าโรงพยาบาล พออยู่ได้2วันก็บ่นว่าไม่มีอะไรทำยุนโฮเลยซื้อไหมพรมมาให้ถักดูเผื่อจะหาย เบื่อบ้าง แล้วมันก็ทำให้หายเบื่อจริงๆ ตอนนี้แจจุงขาดไหมพรมไม่ได้เลยหละ
"แจจุง ..นายรักฉันไหม"
"ถามอะไรแบบนั้นเล่า"
"ฉันอยากรู้คำตอบของนาย"
"รัก ..รักมาก อย่าถามแบบนี้อีกได้ไหมมันเหมือนกับว่าเราต้องจากกันอย่างนั้นละ"แจจุงละไหม พรมจากมือแล้วกอดเอวยุนโฮ ซุกหน้าไปที่หน้าท้องแกร่งพร้อมกับน้ำตาเม็ดใสที่ไหลที่ค่อยๆล้นออกมาจากดวง ตาคู่โต
"มันไม่เป็นจริงสักหน่อย"เขากอดตอบอย่างอบอุ่น กอดที่มีให้กันทุกวัน แต่หลังจากนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว..
เช้าวันผ่าตัดยุนโฮเดินเข้ามาหาแจจุงที่นอนหลับอยู่บนเตียง เขาจูบไปที่หน้าผากมนและไล่มาถึงริมฝีปากที่แห้งเพราะอากาศอย่างแผ่วเบา
"ฉันรักนายนะ"เขาลูบหลังฝ่ามือนิ่มเบาๆ
"รักเหมือนกัน"แจจุงที่ตื่นพอดีก็ตอบรับคำว่ารักที่ยุนโฮมีให้
"น่าหมั่นไส้จริงๆเลย"ยุนโฮบีบจมูกโด่งนั้นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
"โอ๊ย เจ็บ"แจจุงบ่นอุบ ทั้งๆที่มันไม่เจ็บเลย
"ขอโทษ"
"ต้องไถ่โทษด้วย"
"อยากได้อะไรล่ะ"
"พาแจจุงไปเดินเล่นหน่อย"
"ไม่ เดี๋ยวนายเป็นอะไรจะว่ายังไง"
"ขี่หลังยุนโฮไปก็ได้ น๊าๆยุนโฮ"
"ตามใจนาย"ยุนโฮย้ายตัวมานั่งที่ข้างๆเตียงแล้วหันหน้าออกเพื่อให้แจจุงจะได้ขึ้นหลังง่ายๆ
"เย้ ไปเลยม้าหมี"แจจุงขึ้นหลังยุนโฮเสร็จก็สั่งให้ร่างสูงเดิน
"ไม่อายบ้างหรอ หื้ม"ยุนโฮรับรู้ถึงสายตาของคนรอบข้างที่มองมา หลายๆคนที่เดินผ่านอาจคิดว่าโตๆกันแล้วยังจะเล่นขี่ม้ากันอีก
"ไม่"อายุยี่สิบสองกันแล้วแต่ยังชอบทำตัวเหมือนเด็กแจจุงคนนี่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ไม่กี่นาทียุนโฮก็เดินมาถึงสวนหญ้าส่วนล่างของโรงพยาบาล เป็นพื้นที่ที่จะให้คนป่วยมาเดินออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอย่างอื่น
"จอดๆๆ แจจุงจะนั่งตรงนี้"ชี้ไปยังเก้าอี้ไม้ที่อยู่ใกล้ๆ
"อื้ม"ยุนโฮเดินไปใกล้เก้าอี้ไม้ที่แจจุงชี้แล้วทิ้งตัวให้แจจุงลงจากหลัง
"ขอบคุณ"
"ด้วยความยินดีครับ"ร่างสูงเดินไปนั่งอยู่ข้างๆแจจุง
"นานแล้วนะ ที่แจจุงไม่ได้ทำอาหารให้ยุนโฮกิน"หัวทุยๆทิ้งน้ำหนักไปที่ไหล่หนา
"นั่นสินะ"
"ถ้าแจจุงหายแล้วจะกลับไปทำแกงกิมจิหม้อใหญ่ๆหลายๆหม้อเลย"มันก็คงเป็นแค่ความฝันของแจจุง
"ฉันก็จะกินจนท้องแตกตาย"
"ใครให้นายกินกัน"
"อ้าว"
"แจจุงจะเรียกเพื่อนๆมาจัดงานปาร์ตี้แกงกิมจิที่บ้านต่างหาก ฮ่าๆๆ"
"คิดอะไรเพ้อเจ้อ"
"ไม่เพ้อเจ้อสักหน่อย"
"โอเคไม่เพ้อก็เพ้อ"
"ยุนโฮ หันหน้ามาหน่อย"
"อื้ม"เขาหันหน้าตามคำร้องขอ
"อยาก จูบนายจัง"พูดเสร็จก็ยืนหน้าไปใกล้ยุนโฮมากขึ้น ริมฝีปากบางแตะลงที่ริมฝีปากหยุ่นค้างไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่สนใจสายตาจาก ผู้คนรอบข้าง จากนั้นเจ้าตัวถอนริมฝีปากออกมาเอง
"ฮ๊าา มีความสุขจัง"แจจุงทิ้งตัวลงนอนบนตังแกร่งแล้วหลับตาลง น้ำตาเม็ดใสไหลลงอาบข้างแก้มขาวโดยที่เจ้าตัวไม่รุ้ตัว แจจุงกำลังมีความสุข มีความสุขพร้อมน้ำตา..
'ติ๊ดๆ ติ๊ด'เสียงโทรศัพท์มือถือของยุนโฮดังขึ้น ยุนโฮรีบหยิบมันออกมาแล้วรับสาย
"ฮาโหล ครับ"
"ยุ นโฮอยู่ไหนลูก แจจุงอยู่กับลูกใช่หรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาผ่าตัดแล้วนะ"คนเป็นแม่ร้องถามเพราะเดินไปหาที่ห้องก็ไม่เห็น ทั้งสองคนอยู่ในห้อง
"ครับผมจะไปเดี๋ยวนี้"รับคำกับแม่กดแล้วกดวางสาย"แจจุง ไปขึ้นข้างบนกัน"
"อื้ม"
"ยุนโฮอยู่กับแจจุงจนยาสลบออกฤทธิ์ได้ไหม"แจจุงร้องขอยุนโฮขณะที่บุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นไปยังห้อง
"อื้มได้สิ"เพราะยังไงเขาเองก็ต้องเข้าห้องฝ่าตัดด้วยเหมือนกัน
บุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นไปจนถึงห้องผ่าตัด และให้คุณหมอได้คุยปรับความเข้าใจกับคนไข้เรื่องการผ่าตัดก่อนจะผ่าจริง
"ขึ้นไปนอนบนเตียงนะครับ"
"ฮะ"แจจุงพยักหน้าแล้วขึ้นไปนั่งอยู่บนเตียง"ยุนโฮ"ก้นนิ่มแตะเตียงไม่ถึงวิก็เรียกร่างสูงที่อยู่หน้าประตูให้มายืนข้างเตียง
"ทานยานะครับ ยาจะออกฤทธิ์ภายใน5นาที"คุณหมอยื่นมือข้างที่ถือถ้วยยาอยู่ส่งให้แจจุง
"ฮะ"แจจุงรับมาโดยดีแล้วกระดกถ้วยนั้นเข้าปากพร้อมกับน้ำสะอาดเข้าไปตามอึกใหญ่
"แจจุงกลัว"
"ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย ฉันสัญญาแล้วว่าจะอยู่กับนาย"
"ถึงเวลายาออกฤทธิ์ยุนโฮก็ออกไปอยู่ดีอะ"
"เอาหน่า"มือหนาขยี้กลุ่มผมนิ่มเล่น
"อ้า เริ่มทนไม่ไหวแล้วสิ"เริ่มรู้สึกมึนๆเพราะฤทธิ์ยาเข้าแล้ว
"นอนไปเถอะ อย่าฝืนตัวเอง"
"แล้วเจอกันนะยุนโฮ"ฉีกยิ้มกว้างๆให้กับยุนโฮก่อนจะล้มตัวลงนอนกันเตียง
"อ่า แล้วเจอกัน"ยุนโฮยิ้มตอบเช่นกัน
"เชิญคุณยุนโฮนอนที่เตียงนะครับ"คุณหมอเข้ามาเชิญตัวยุนโฮเมื่อเห็นว่าบทสนทนาของทั้งคุ่จบลงแล้ว
"ครับ"ยุนโฮเดินมาที่เตียงข้างๆซึ่งมีแค่ม่านกั้นอยู่
"คุณตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม"
"ผมตัดสินใจดีแล้วครับ"
"ทานยานะครับ"
.
.
.
การ ผ่าตัดได้เริ่มขึ้นแล้ว คุณหมอได้กรีดมีดลงบนอกแกร่งถึงสองครั้งแล้วแหวกเนื้อให้ออกจากกัน จากนั้นก็นำมีดเล็กมากรีดลงเส้นเลือดทั้งหมดให้ขาดออกจากกันแล้วนำหัวใจที่ กำลังเต้นตุ๊บๆอยู่ไปใส่ให้อีกร่างข้างๆกัน
ตอนนี้ยุนโฮไม่มีหัวใจแล้ว เขากำลังหยุดหายใจอย่างช้าๆ เลือดในตัวที่กำลังไหลเวียนทั่วร่างกายก็อ่อนตัวลงจนหยุดทำงาน อวัยวะทุกอย่างกำลังจะหยุดทำงานเพราะขาดเลือด
คุณหมอได้ผ่าหน้า อกข้างซ้ายของแจจุง เอาหัวใจของแจจุงออกมาแล้วนำหัวใจของอีกคนใส่เข้าไป และสุดท้ายก็เย็บจนมันเนื้อเดียวกันเป็นอันจบการผ่าตัดนี้
สามวัน ผ่านไปแจจุงลืมตาขึ้นเป็นวันแรกหลังจากวันผ่าตัด ความเจ็บปวดจากแผลหน้าอกด้านซ้ายมือเจ็บแปลบเข้าสู่โสดประสาท เขาพยามมองหายุนโฮรอบห้องแต่ก็ไม่เจอใครเลย
'ยุนโฮไปไหนนะ'อย่างแรกที่เขาคิดได้ ปกติยุนโฮจะเป็นคนอยู่กับเขาตลอดเวลาที่เข้าโรงพยาบาล ติดกันยิ่งกว่าอะไร
"ตื่น แล้วหรอจ้ะแจจุง ทานน้ำหน่อยไหม"คุณแม่ของยุนโฮซึ่งแจจุงเองก็เรียกว่าแม่เหมือนกันเขานับถือ เหมือนเป็นแม่แท้ๆของตัวเอง วางข้าวของที่ซื้อมาไว้ที่โต๊ะริมผนังแล้วเดินไปที่เตียงคนไข้
"ก็ดีฮะ"เสียงเขาดูแหบแห้งไม่ค่อยดีเท่าไหร่
"จ้ะ"คุณแม่จับแก้วน้ำแล้วยืนส่วนที่เป็นหลอดหันให้แจจุง
"ขอบคุณฮะ"แจจุงดื่มน้ำเข้าไปครึ่งแก้ว"ยุนโฮไปไหนหรอฮะ"ถอนหลอดออกมาจากปากแล้วถามด้วยความสงสัย
"เอ่อ.. ไปทานอาหารจ้ะ เดี๋ยวก็มา"รู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อแจจุงถามถึงลูกของตัวเอง ยุนโฮขอร้องเขาไว้ว่าไม่ให้บอกความจริงกับแจจุงจนกว่าแจจุงจะรู้ด้วยตัวเอง ให้โกหกไปเรื่อยๆว่าเขายังอยู่และเมื่อแจจุงรู้ความจริงแล้วก็ให้เอาไดอารี่ เล่มที่เขาเขียนเป็นประจำให้แจจุง
"อ่อฮ่ะ"
"แม่ไปแจ้งคุณหมอก่อนนะว่าแจจุงฟื้นแล้ว"
"ฮะ"
แจ จุงยังคงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ตื่นมาก็เบื่อไม่มีอะไรทำอีกเช่นเคย ถ้ายุนโฮอยู่ก็คงได้คุยกันเขาเอื้อมหยิบไหมพรมที่วางไว้ที่โต๊ะข้างๆแล้วมา ถักต่อแจจุงกะจะถักให้มันเป็นผ้าพันคอให้ยุนโฮใส่ ผ้าพันคอสีชมพูมีลายคำว่ายุนแจอยู่ตรงกลางมันดูน่ารักมากและก็จะดีใจมากหาก ยุนโฮยอมใส่มันจริงๆ
"ยุนโฮยังไม่เข้ามาอีกหรอฮ่ะ"เขาหลับมาตื่นนึงแล้วตอนนี้ก็6โมงเย็น ทำไมยังไม่เจอยุนโฮเลย
"ยุนโฮเพิ่งกลับบ้านไปเมื่อกี้เองอ่าจ้ะ"คนเป็นแม่พูดขณะที่กำลังปลอกเปลือกผลไม้
"อ๊า ทำไมผมไม่เจอเขาเลยหละ"รู้สึกน้อยใจตัวเองนิดๆที่ตื่นมาไม่ทันเวลาทุกที
"ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ยุนโฮเขาอยากให้แจจุงพักผ่อนมากๆนอนเยอะๆแผลจะได้หายไวๆ"
"ก็ได้ฮะ"เขาล้มตัวลงนอนแล้วหันหน้าไปทางหน้าต่างมองพระอาทิตย์กำลังตกดินและถูกแทนที่ด้วยพระจันทร์กับดวงดาว
ตก ดึกเวลาประมาณเที่ยงคืนเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง วันนี้เขานอนไปมากจนนอนไม่หลับแล้วหละ ภายในห้องมีเขาอยู่คนเดียว คนอื่นๆก็คงกลับบ้านกันหมด แล้วยุนโฮไปไหนอีกแล้ว.. ไม่อยู่เป็นเพื่อนกันเลย
แจจุงลุกขึ้นมาจากเตียง ถอดที่ครอบออกซิเจนออกพร้อมกันลากเสาสำหรับแขวนน้ำเกลือออกจากห้องไป บรรยากาศตอนเที่ยงคืนที่แสนเงียบสงัดมีพยาบาลอยู่ไม่กี่คน เขาเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
"นี่เธอ ฉันได้ข่าวมาว่ามีคู่รักคู่หนึ่งสละหัวใจให้กันด้วยละ"พยาบาลยืนจับกลุ่มกัน เมาท์แตกเพราะไม่มีงานทำ แจจุงได้ยินแล้วหลบฟังอยู่ข้างๆเสา
"จริงสิ รักกันขนาดสละหัวใจให้กันเลย ชาตินี้จะมีคนรักฉันแบบนี้ไหม"
"คนที่สละหัวใจให้หล่อมากๆ ฉันไปแอบเปิดประวัติมาชื่อยุนๆอะไรสักอย่าง ว้าเสียดายจัง แต่แฟนเขาก็น่ารักดีนะถึงจะเป็นผู้ชายก็เถอะ"
"ผู้ชายโลกนี้มีตั้งหลายคน แกหนะเพ้อจริงๆ"
"อะ แฮ่ม จับกลุ่มนินทาคนไข้ไม่ดีนะจ้ะสาวๆ"หัวหน้าแผนกพยาบาลเดินเข้ามาขัดการสนทนา ทำให้เหล่าพยาบาลที่จับกลุ่มคุยกันก็ออกไปทำงานของตัวเอง
"พี่สาวฮะ คือคนเมื่อกี้ที่พี่สาวพูดถึงชื่อยุนโฮใช่ไหมฮะ"แจจุงรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปถาม
"ใช่ค่ะ"เขาตอบแล้วเงยหน้าขึ้นก็อึ้งไปสักพักเพราะหน้าที่เขาเห็นคือหน้าคนไข้ในประวัติที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจ"เอ่อ.. คือ"
"คนที่ชื่อยุนโฮเขาอยู่ไหน พี่รู้ไหมฮะ"น้ำเสียงแจจุงเริ่มสั่นคลอเพราะน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาโต
"ดะ ..เดี๋ยวเช็คให้นะค่ะ"ความแตกซะแล้วสิ ไม่น่าพูดเลยปากไม่ดีจริงๆเรา"ห้องC612 ชั้น6ค่ะ"
"ขอบคุณฮ่ะ"แจจุงอยากไปดูหน้า อยากไปเห็นด้วยตาจริงๆ คงไม่ใช่ยุนโฮของเขาใช่ไหม
ติ๊ง~ เสียงลิฟต์ดังขึ้นบ่งบอกว่าลิฟต์ได้จอดสนิทแล้วประตูเปิดออก แจจุงเดินออกมาคนเดียวจากลิฟต์แล้วมองหน้าห้องC612 เจอแล้ว เขาเจอห้องนี้แล้ว แจจุงผลักประตูเข้าไปเดินเข้าไปยังเตียงที่มีผู้ป่วยนอนอยู่ แต่ไม่มีสายน้ำเกลือหรืออะไรที่ใช้สำหรับพยาบาลทั้งสิ้นห้องทั้งห้องเต็มไป ด้วยไอเย็นของแอร์ที่เหมือนจะทำให้กลายเป็นน้ำแข็งได้ แต่ทว่ามีร่างของใครบางคนบนเตียงถูกคลุมหน้าด้วยผ้าสีขาวอยู่..
แจ จุงใจสั่นไปหมด ถ้าให้เขาเดาการคลุมหน้าด้วยผ้าสีขาวแสดงว่าร่างตรงหน้าคงไม่มีลมหายใจแล้ว เขาค่อยๆเลื่อนผ้าสีขาวนั้นลงด้วยความกลัว แต่แล้วก็ตกใจอย่างที่สุดเมื่อคนตรงหน้าที่นอนอยู่คือยุนโฮนั่นเอง แจจุงไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ปลายนิ้วป้อมจ่อไปที่ปลายจมูกโด่งเพื่อเช็คลมหายใจแต่ก็ไม่มีปฎิกิริยาอะไร ตอบกลับมา ทำให้ความหวังนั้นหริบหรี่ลงทุกที
"ยุนโฮนายไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้นที่พวกพยาบาลเขาพูดกันใช่ไหม"แจจุงเข้าไปกอดร่างตรงหน้า
"นายหลับอยู่ใช่ไหม ฮึก นายตื่นสิ"แจจุงกอดร่างตรงหน้าอย่างแน่นโดยไม่รังเกียจว่าร่างตรงหน้าตอนนี้จะเป็นศพ
"อย่า ทิ้งฉันไปได้ไหม อย่าให้ฉันต้องอยู่คนเดียว ไหนนายบอกว่าจะเจอกันไง มันไม่ใช่แบบนี้"แจจุงพูดอยู่คนเดียว และเมื่อพูดจบสิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ
"ฮืออ"แจจุงร้องไห้ อย่างหนัก เขาทิ้งตัวลงนอนเตียงเดียวกับยุนโฮแล้วดึงร่างของยุนโฮเข้ามากอด ตัวของยุนโฮเย็นมากและไอเย็นจากแอร์ที่กำลังจะทำให้ร่างบางแข็ง แจจุงไม่มีทางเลือกเลยต้องเอาผ้าที่คลุมยุนโฮนั้นห่มตัว
เองไปด้วย
"ฉัน จะอยู่กับนาย ไปตลอดทั้งชีวิต"แจจุงวางแขนที่แขนข้างซ้ายของยุนโฮ ดวงตาโตมองไปที่รอยแผลที่อกข้างซ้ายแล้วลูบมันด้วยมือเบาๆ"ไม่มีอะไรพรากเรา จากกันแล้วนะ"พูดไปก็ร้องไห้ไป เขาข่มตานอนร้องไห้ ร้องไปเรื่อยๆจนกว่าจะสบายใจ อยากจะร้องจนน้ำตากลายเป็นสายเลือดหากมันทำให้ยุนโฮกลับมาได้
เช้า ของวันนั้นคุณแม่เดินเข้ามาที่ห้องอย่างปกติทุกวัน เดินถือผลไม้จนมาถึงหน้าห้องแล้วผลักประตูเข้าไปก็ไม่พบร่างบางนอนอยู่ เลยไปแจ้งฝ่ายพยาบาลทำให้ต้องหาตัวกันให้วุ่น สุดท้ายก็ต้องพึ่งกล้องวงจรกว่าจะหาตัวได้
"แจจุง"คุณแม่เดิน เข้ามาปลุกแจจุง ตอนแรกที่เดินเข้ามาก็ตกใจเหมือนกันไม่คิดว่าแจจุงจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่คิด ว่าจะรู้ความจริงเร็วขนาดนี้ และภาพที่เขาเห็นคือแจจุงกำลังนอนข้างๆร่างของลูกชายเขาอยู่
". . ."แจจุงนิ่งไม่มีความเคลื่อนไหว คราบของน้ำตายังคงติดอยู่ที่ปลายขนตาทำให้คนที่เห็นรู้ได้ว่าต้องร้องไห้มาแน่ๆ
"แจจุงจ้ะ ตื่นเถอะลูก"คนเป็นแม่เขย่าไปที่แขนแจจุงให้ร่างบางรับรู้ความรู้สึก
"คุณแม่ฮะ"แจจุงลืมตาขึ้นแล้วหันไปเห็นคุณแม่ยืนอยู่ก็พูดขึ้น"ทำไมคุณแม่ไม่ยอมบอกผม อึก"เขาเริ่มร้องไห้อีกแล้ว
"ยุนโฮเขามาขอร้องแม่ไว้ ไม่ให้บอกความจริงก่อนที่แจจุงจะรู้ด้วยตัวเอง"คนเป็นแม่ก็เสียงสั่น กำลังจะร้องไห้เช่นกัน
"ทำไมเขา.."แจจุงร้องไห้จนพูดไม่ออก
"แม่ ก็ห้ามยุนโฮแล้วเหมือนกัน แต่ยุนโฮอยากเห็นแจจุงมีความสุข ได้ยิ้ม มีอนาคตดีๆ อ่อ นี่เขาฝากให้แม่เอามาให้หลังจากที่แจจุงรู้ความจริงแล้ว"คุณแม่ยื่นไดอารี่ เล่มหนึ่งให้ ร่างบางก็รับไว้โดยดี
"ผมขอให้เก็บร่างเขาเอาไว้ ได้ไหมฮะ"หันไปลูบใบหน้าหล่อที่ซีดเผือก
"จ้ะ"คุณแม่เดินเข้าไปกอดแจจุง และทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ของทั้งสองคน
5วันผ่านไป
แจจุงนั่งอยู่บนเตียงคนไข้แล้วหยิบไดอารี่เล่มนั้นมาไว้ที่มือตัวเองเขาเปิดไล่มันตั้งแต่หน้าแรก
'ไดอารี่ของชอง ยุนโฮ&คิม แจจุง'
TBC. to Grade 1
Talk~
ขอบคุณทุกคอมเม้นนะค่ะ
ความคิดเห็น