ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จันทราแห่งเทวา

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 52


                มิน่าละเธอถึงพูดรับรองเขาเป็นมั่นเป็นเหมาะก็เจ้ารถของเขาที่เธอยืมไปนั้นกำลังแล่นบนถนนด้วยอัตราเร็วหนึ่งร้อยสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง มั่นคงจะธรรมดาหากวิ่งตามถนนชานเมือง แต่เขาเองอยากจะร้องบอกเจ้าหล่อนคนขับเสียเหลือเกินว่านี้มันถนนในกรุงเทพฯน่ะ แถมเป็นถนนที่รถติดอีกต่างหาก
              “พี่มลค่ะ ไม่คิว่ามันเร็วไปหรือค่ะ”น้องสาวเขาร้องบอกขณะที่มือยังกำเบาะนั่งของเขาแน่น
              แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากคนปลายทางแต่กลับเร่งความเร็วขึ้นทันทีที่หลุดไฟแดงมาได้ ก่อนจะหักเลี้ยวอย่างกระทันหันโดยไม่มีเค้า ทำให้หัวเขาแทบโขกกับกระจกเลยก็ว่าได้
              ‘ให้ตาย เขาก็จะไม่มีวันนั่งรถที่ผู้หญิงคนนี้ขับอีกแน่นอน’                     
    เขาคิดในใจพลางสบถด่าตัวเองที่ยอมให้ศศิวิมลขับรถในขณะที่อารมณ์ของหล่อนกำลังร้อน เขาพอจะจับความรู้สึกของคนตรงหน้าได้ว่าหล่อนอารมณ์เสียตั้งแต่อยู่ในรถแล้วแต่เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ที่รู้แน่ๆเขาจะไม่ยอมให้หล่อนแตะต้องรถคันโปรดของเขาแน่
                เขาคิดได้เท่านั้น รถที่ผ่านการขับราวจรวดก็เริ่มชะลอลงให้ผู้โดยสารใจชื้นพลางสำรวจร่างกายว่าครบสามสิบสองประการหรือไม่ แต่อย่างน้อยเว้นหัวใจเขาไปด้วยเพราะตอนนี้มันลงไปเต้นอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว หญิงสาวดับเครื่องรถพร้อมกับหันมามองหน้าทุกคนที่อยู่ในรถ
             “ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจนะค่ะ แต่มลขอจัดการธุระหน่อยนะค่ะ คุณเทวินทร์คุณพาน้องน้ำกลับไปก่อนได้เลยนะค่ะ”เธอว่าพลางเปิดประตูรถ เขามองสถานที่รอบๆตัวแล้วแถบอยากจะบ้า นี่เธอพาเขาซิ่งรถเพื่อมาโรงแรมอย่างนั้นหรือ อะไรของเธอกันพอมาถึงก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรเลยกลับเดินดุ่มๆตรงเข้าไปเฉยเลยแต่อะไรก็ไม่เท่ากับความสงสัยว่าหล่อนมาทำอะไรในที่แบบนี้ แล้วหล่อนกำลังจะไปไหน ไหนบอกว่าจะพาเขามาหาคนที่จะช่วยเขาได้ อย่าบอกนะว่าเธอจะไปหาไอ้ผู้ชายคนนั้นคนเดียวในโรงแรมนี้นะนะ
            “มลคุณจะไปไหน”เขาว่าก่อนจะเดินก้าวยาวไม่ถึงสามก้าวถึงตัวหญิงสาวพร้อมกับกระชากมือบางมาไว้ในอุ้งมือ เขาจะไม่ปล่อยให้เธอไปหาผู้ชายคนอื่นตามลำพังหรอก
            “ปล่อยมือเถอะค่ะ คุณเทวินทร์ฉันกำลังรีบ”เธอว่าแล้วพยายามแกะมือของเขาออก
            “ไม่จนกว่าคุณจะบอกผมว่าคุณจะไปไหน ไปหาใคร และทำไมด้วย”เขาเอ่ยอย่างเด็ดขาดแล้วจ้องมองหล่อน
            “มันไม่ใช่ธุระของคุณเลยนะ คุณจะมาทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ”หล่อนขึ้นเสียงอย่างอารมณ์เสีย พร้อมกับสรรพนามการเรียกตัวก็เปลี่ยนไปอย่างลืมตัวทั้งที่สัญญาไว้แล้ว
            “ถ้าคุณไม่บอกว่าคุณจะขึ้นไปหาไอ้หมอนั่นทำไม ผมก็จะไม่ปล่อยให้คุณขึ้นไป”เขายังดื้อไม่ยอมลดละ แน่ละเขาจะไม่มีทางและไม่มีวันปล่อยเธอให้ไปเป็นของคนอื่นหรอก ชายหนุ่มคิดโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามันเป็นอารมณ์ที่เขาหึงคนตรงหน้าเขากำข้อมือบางแน่นขึ้นอีกจนเจ้าตัวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ นั้นทำให้เขารู้สึกตัวว่าเขากำลังทำเธอเจ็บ เขาคลายมือที่จับให้หลวมแล้วจับข้อมือเธอขึ้นมาพร้อมกับกล่าวขอโทษ
                  “ผมขอโทษ แต่คุณจะขึ้นไปห้องผู้ชายคนเดียวได้ยังไงกัน”เขาพยายามหาเหตุผลมาโต้แย้ง เขาเห็นหญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะมองหน้าเขา
                 “มันไม่มีอะไรจริงๆค่ะมลแค่ต้องจัดการอะไรบางอย่างและไม่อยากให้คุณขึ้นไปด้วยก็เท่านั้นเอง”
                 “แล้วทำไมผมถึงขึ้นไปไมได้”เขาถาม นี่เขาทำไมต้องพูดเหมือนหึงเธอด้วยเล่าหญิงสาวคิดในใจ ก่อนจะมองหาวิธีทางแก้ปัญหา อย่างจำยอมคนดื้อแพ่งตรงหน้า
                 “สรุปว่าคุณจะไม่ให้มลขึ้นไปคนเดียวอย่างนั้นใช่ไหมค่ะ”
    เขาพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
                “งั้นจะเอายังไง”หล่อนถาม
                  “ผมจะขึ้นไปด้วย”เขาตอบอย่างตรงๆ
                  “น้ำก็จะขึ้นไปด้วยค่ะ”นิสาชลที่ไม่รู้ลงมาจากรถเมื่อไหร่บอกในขณะที่ยืนอยู่ข้างพี่ชายของเธอ  เธอก็อยากรู้เหมื่อนกันว่าทำไม ผู้หญิงที่เธอคาดว่า จะได้เป็นพี่สะใภ้ในอนาคตของเธอรีบร้อนอะไรหนักหนา ศศิวิมลถอนหายใจกับคนดื้อทั้งสองอีกครั้งก่อนจะบอก
                “งั้นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเจออะไรก็อย่าตกใจนะคะ มล เตือนไว้ก่อน”ว่าแล้วก็สาวเท้าอย่างรวดเร็วไปที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมคุยอะไรกับพนักงานต้อนรับก่อนจะเดินดุ่มๆไปที่ลิฟต์ทำให้ทั้งสองต้องรีบเดินตามไปทันที
                ขณะที่อยู่ในลิฟต์เธอก็ล้วงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วก็กดเบอร์อะไรสักอย่างแล้วเอาแนบหูสักพักก็ได้ยิเสียงปลายสายรับ
               “อาทิตยะเหรอ   ตอนนี้ทำอะไรอยู่หรือเปล่า
               “อ๋อเหรอ อืม...อย่าพึงวางหูละ”
    สักพักลิฟต์ก็เปิดออกหญิงสาวก้าวออกจาลิฟต์ตามมาด้วยสองพี่น้องไอศุริยะสมบัติเจริญ ที่งงกับการกระทำของหญิงสาว รู้แต่ว่าคนที่เธอคุยด้วยชื่ออาทิตยะ
               เธอหยุดยยืนที่หน้าห้องหมายเลข409พร้อมกับบอกคนในสายให้วางหู
            “งั้นแค่นี้นะ โชคดีนะ”หล่อนว่าก่อนจะวางหูแล้วเก็บมือถือลงกระเป๋า
            “ช่วยถอยไปห่างๆหน่อยนะค่ะ”เธอว่าพวกเขาทำตามโดยดีเพราะรู้สึกว่าบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่ช้านี้
    ก๊อกๆๆ ก๊อกๆ
             มือเรียวบางเคาะประตูก่อนที่จะได้ยินเสียงคนจากข้างในเดินตามทางเพื่อมาเปิดประตูแต่ท่าทางจะอารมณ์เสียพอควรเพราะเทวินทร์ได้ยินเสียงสบถ พอประตูเปิดออกมาได้เท่านั้นแหละ สิ่งไม่คาดคิดว่าจะเห็นก็คือ ร่างของสาวน้อยเรือนร่างอรชรกำลังวาดลวดลายอย่างสวยงามแล้วส่งลูกถีบใส่คนที่เปิดประตูทำให้ชายคนนั้นล้มลงกระแทกประตูดังโครม
                “พี่มล!”ชายคนนั้นเอ่ยอย่างตกใจ
                “เอ่อ....ฉันเอง...ฉันให้เวลาแกสามนาที แกจะอัญเชิญผู้หญิงของแกออกไปดีๆหรือว่าจะให้ฉันเป็นคนอัญเชิญ”หล่อนว่าพลางเท้าสะเอว
    แต่ก่อนที่อะไรอะไรมันจะเกิดขึ้นหญิงสาวร่างอรชรก็นวยนาดออกมาจากห้องข้างใน ในสภาพชุดคลุมอาบน้ำ ทำให้หญิงสาวนามว่ามล หลับตานับหนึ่งถึงสิบในใจแต่แล้วตบะก็ต้องแตกเมื่อเจ้าหล่อนในชุดคลุมอาบน้ำเริ่มเอ่ย
               “อาทิต มีอะไรค่ะ เราไปต่อกันดีกว่านะ”ไม่ว่าเปล่ายังเอามือมาเกาะแขนน้องชายเธออีกด้วย อาทิตยะมองเห็นสีหน้าของพี่สาวก็เริ่มแหย่ เอามือแกะมือของหญิงสาวตรงหน้าออก
               “อร คุณกลับไปก่อนเถอะนะ”เขาว่า
               “ทำไมล่ะค่ะ เรายังไม่สนุกกันถึงไหนเลยนะ”คำพูดลุ่นๆของหญิงสาวที่สวยแต่รูปทำให้นิสาชลหน้าแดงเถือกเกาะแขนพี่ชายแน่น ส่วนผู้เป็นพี่ชายก็ได้แต่มองเหตุการณ์ต่อไปอย่างระวัง
               “ผมว่าคุณกลับไปก่อนเถอะนะ”เขาว่าทำให้หญิงสาวมองค้อนก่อนจะเดินเข้าไปในห้องสักพักหล่อนก็เปลี่ยนชุดเดินถือกระเป๋ากระแทกส้นเท้าออกไป พอลับสายตาจากหญิงสาวไปอาทิตยะก็เหลือบมามองบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ นายเทวินทร์กับสาวน้อยที่เขาช่วยไว้ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกกับรังสีอำมหิต
             “อาทิตยะ ตามฉันเข้ามาหน่อยสิ”หญิงสาวพูดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องชายหนุ่มนามอาทิตยะเดินคอตกกลับเข้าห้องก่อนจะปิดประตูตามหลังปล่อยให้สองพี่น้องยืนเอ่ออยู่หน้าห้อง
              สักพักประตูก็เปิดออก หญิงสาวนามว่าศศิวิมลโผล่หน้าออกมาพร้อมกับเชื้อเชิญแขกเข้าไปในห้องพัก
                “คุณเทวินทร์ คุณน้ำค่ะเข้ามาก่อนสิค่ะ” เธอบอกแล้วเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อให้คนทั้งสองเข้ามา
               สภาพภายในห้องดูน่าอยู่มาก ถ้าไม่นับร่างที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นแล้วมีเลือดกลบปากนะ
               “ฉันให้เวลาแกอีก 5นาที ไปจัดการกับตัวเองแล้วออกมาต้อนรับแขกด้วย”เธอว่าก่อนจะเดินเข้าไปในครัวพร้อมกับถือถาดน้ำพร้อมกับน้ำ2ที่
               “เชิญคุณเทวินทร์กับคุณน้ำ ดื่มน้ำก่อนเถอะค่ะ”หล่อนว่าพร้อมกับจัดแจงวางแก้วน้ำทั้งสองใบลงตรงหน้าแขกผู้มาเยือนทั้งสองที่มองหน้ากันด้วยตาปริบๆ
             “ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่ต้องทำให้เจอภาพแบบนี้ แต่ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ก็เอาอาทิตยะไม่อยู่หรอกค่ะ”หล่อนบอกพร้อมมองหน้าเขาแล้วยิ้ม
                 เขาสาบานเลยว่าอนาคตเขาจะไม่ทำให้เธอโกรธเด็ดขาดเลย
                 “เอ่อคุณ ทำแบบนี้กับน้องตลอดเลยเหรอ”เขาถาม
                “ก็ไม่บ่อยหรอกค่ะแค่อาทิย์ละครั้ง”
                 “ห๋า”นิสาชลกับเทวินทร์อุทานพร้อมกันแต่คนที่คิดไม่ตกอย่างหนักคือนิสาชล หล่อนจำเขาได้ดีเพราะเขาคือคนที่ช่วยหล่อนไว้จากพวกวินเซนต์และก็บังเอิญอย่างเหลือเชื่อว่าเขาคือน้องชายของศศิวิมล แถมวันนี้ยังได้ดูลีลาบู๊ของสาวตรงหน้าอีกด้วย สงสัยว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตจะน่ากลัวแฮะ แล้วนี่พี่วินทร์จะสู้เขาได้ไหมหนอ
                สักพักชายหนุ่มที่เดินเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำก็ออกมาพร้อมกับผ้าประคบที่ใบหน้าตรงบริเวณที่มีเลือดออก
                  “อ้าว ไงสาวน้อยเจอกันอีกแล้วนะ”แต่เขากลับไม่มองผู้เป็นพี่สาวแต่กลับกันมาทักเธอแทน ทำให้เทวินทร์หันควับมาทันที
                 “หมายความว่าไงน้ำที่ว่าเจอกันอีกแล้ว”เขาถามพลางหรี่ตามาองน้องสาว
                   มาอีกแล้วไงไอ้อาการห่วงน้องสาว หญิงสาวคิดอย่างอ่อนใจ
                 “คุณน้ำ นิสาชลไม่ได้บอกคุณหรือว่าคนที่ช่วยคุณนิสาชลคือใคร”เขาเอ่ยต่อแล้วนั่งลงบนโซฟาข้างหญิงสาวที่เจ้าหล่อนสะดุ้งก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้พี่ชายมากขึ้น
                   “หมายความว่า”เทวินทร์เอ่ยค้างไว้แค่นั้นนิสาชลก็พยักหน้าว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นถูกต้องที่เดียว
                  “แหม..แต่ให้ตายเถอะพี่รู้ได้ไงว่าผมอยู่นี่ อุตส่าห์แอบแล้วนะเนี่ย”เขาบ่นอย่างเสียดายไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย
                  “โชคร้ายหน่อยนะที่ฉันดันเห็นซะก่อน”หล่อนพูด “นี่คุณเทวินทร์เจ้านายของพี่ และคุณนิสาชลน้องสาวของคุณเทวินทร์”หล่อนแนะนำ
                  “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเทวินทร์”เขายื่นมือเพื่อไปจับกับมือของนายเทวินทร์ก่อนจะหันมามองนิสาชลด้วยแววตาแปลกๆก่อนจะยื่นมือออกไปข้างหน้าหมายจะจับมือทักทายกับหญิงสาวแต่ผู้เป็นพี่ชายออกตัวแทนเสียก่อน
                     “ขอโทษที นิสาชลเรียนที่ไทยตลอดเลยไม่ค่อยชินกับวัฒนธรรมการจับมือ”เทวินทร์กล่าวพลางมองอาทิตยะตาขวางกับแววตาของเขา ทำไมเขาจะไม่รู้ผู้ชายด้วยกันย่อมรู้ดีไอ้สายตาแบบนั้นนะมันแสดงท่าทีว่าสนใจน้องสาวเขาเสียเต็มประดา
                     “โอะโอ๋ ..งั้นไม่เป็นไรเราคงรู้จักกันมาบ้างพอสมควรใช่ไหมครับคุณนิสาชล”เขาพูดเป็นนัยๆ
                     “อาทิตยะ!”เสียงแหลมสูงดังผ่านมาตามอากาศก่อนจะดังฉึกเข้าหูเขาแล้วกันมามองพี่สาว
                     “คร้าบๆ”
                     “ว่าแต่พี่มีเรื่องอะไรถึงตามผมมาถึงนี่”เขาถามแล้วเอามือกุมหน้าผาก ศศิวิมลมองหน้าน้องชายก่อนที่จะหันมามองหน้าของเทวินทร์
                     “นี่คืออาทิตยะน้องชายของฉันเองค่ะ เขาเสียมารยาทอีกแล้วต้องขอโทษอีครั้งนะค่ะ แต่คนๆนี้แหละค่ะที่ฉันบอก”
                     “ผมไม่รู้หรอกนะว่าหมอนี่จะเป็นใคร แต่ผมจะไม่ยอมให้คนที่มีนิสัยเจ้าชู้อย่างนี้เข้าใกล้น้องผมเด็ดขาด”นายเทวินทร์กล่าวขึ้นทันที่พร้อมกับมองไปที่อาทิตยะ เขาไม่ชอบหน้าหมอนี่ตั้งแต่เห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่ในห้องแล้วผู้ชายที่หาเศษหาเลยกับผู้หญิงเขาจะไม่มีวันให้เข้าใกล้น้องสาวเด็ดขาด
                     “หมายความว่าไงกันพี่มล”อาทิตยะถามผู้เป็นพี่สาว
                      “ก็คือว่า”หญิงสาวเริ่มก่อนจะเล่าเรื่องให้ทั้งสองที่ยังไม่รู้เรื่องฟัง
                      หลังจากที่ฟังจบปฏิกริยาจากผู้เป็นน้องทั้งสองคือ
                      “ไม่!”
                      “พี่วินทร์น้ำไม่เอาบอร์ดี้การ์ดนะ”น้ำอ้อนผู้มีศักดิ์เป็นพี่
                     “ไม่มีทางยังไงผมก็ไม่มีทางไปเป็นบอร์ดี้การ์ดให้ยัยเด็กกะโปโลนี่หรอก”
                     “ใครเด็กกะโปโลกัน”หญิงสาวแว๊ดอย่างลืมตัว
                    “ก็คุณนั้นแหละ”อาทิตยะสวนเข้าให้
                     “พอกันเถอะค่ะ คุณเทวินทร์ฉันแค่เสนอทางเลือกให้คุณเท่านั้นเองค่ะ ถ้าคุณไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร ฉันจะลองหาคนอื่นให้ก็ได้” เธอบอกอย่างเนือย
                     “งั้นก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะอาทิตยะ โทษทีละกันที่รบกวน”ศศิวิมลว่าก่อนจะหันมาทางสองพี่น้องไอศุริยะสมบัติตระกูล
                    “คุณเทวินทร์จะกลับบ้านเลยหรือเปล่าค่ะ”
                    “อะ..เอ่อก็ว่จะกลับไปส่งน้ำก่อนแล้วจะเข้าบริษัทต่อนะ”เขาว่า
                   “ฉันก็ต้องไปเอาแฟ้มเอกสารที่บริษัทเหมือนกันค่ะจะเป็นไรไหมค่ะถ้าจะขอติดรถของคุณเทวินทร์ไปหน่อยนะค่ะ” หล่อนถามเขา
                       แน่นอนเขานะยินดีเสมอแหละ แต่ความยินดีก็มีได้ไม่นานเมื่ออีกหนึ่งหนุ่มพูดขัดตาทัพขึ้นมาเหมือนจะรู้ทัน
                     “ไม่ต้องหรอกฮะพี่ รบกวนคุณเทวินทร์เปล่าๆผมขับไปส่งก็ได้ไหนๆก็ไม่มีอะไรทำแล้ว”อาทิตยะพูดออกมาลอยๆแต่ตากลับจ้องอีกบุรุษหนึ่งไม่วางตา
                     ตาสบตา
               ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่  ฝันไปเถอะว่าฉันจะยอมให้พี่ฉันนั่งไปตามลำพังกับนาย : อาทิตะ
               หน่อยทำมาเป็นสู่รู้ ไม่คราวนี้ก็คราวหน้าละว่ะ : เทวินทร์
               ฝันไปก่อนละกัน ฉันจะคอยขวางแกเอง : อาทิตยะ
              คอยดูละกัน เพราะฉันท่าจะถูกใจพี่ของนายแล้วเฟ้ย ฮ่าๆๆ: เทวินทร์
              หน่อยแนะ! แต่ว่าฉันก็ชักจะถูกใจน้องนายเหมือนกันว่ะ น่ารักน่าหม่ำดี:อาทิตยะ
              อย่ามายุ่งกับน้องฉันนะเว้ย : เทวินทร์
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×