ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องทดลองนู้นนี้

    ลำดับตอนที่ #7 : เทิร์น 6

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 52


    href="file:///C:\DOCUME~1\Admin\LOCALS~1\Temp\msohtml1\02\clip_filelist.xml" />

    เจ้าของดวงตาสองสีจับจ้องคู่ต่อสู้ด้วยสายตาวาววับ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อนหวานละมุนผิดแผกจากเดิม มือบางเอื้อมไปแกะหนังยางที่รัดผมออกช้าๆ ดวงตาจับจ้องคู่ต่อสู้อย่างลองเชิง

     

    คิดจะมาทำผมอะไรตอนนี้?หญิงสาวเรือนผมสีดำสนิทเอ่ยแขวะเขา ดวงหน้าหวานของคิริกิยังคงวาดรอยยิ้มประดับพรายอย่างแนบเนียน ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูระเรื่อจะขยับเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

     

    พวกคุณรู้หรือเปล่า...ร่างกายคนเรานะเป็นที่เก็บพลังเวทย์เชียวนะ

     

    แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วยหญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แต่ยังไม่กล้าทำอะไรมากนักเนื่องจากฤทธิ์เดชของโดคามะตนนี้ได้ประจักษ์ต่อสายตาแล้ว เสียงใสๆหัวเราะบางเบา ก่อนที่จะยิ้มหยีจนตาปิด

     

    เกี่ยวสิครับ แต่....ลองดูด้วยตัวเองจะดีกว่าทันที่ที่เสียงแว่วหวานราวกับเสียงสกุณาเอ่ยจบ เส้นผมสีน้ำเงินไพลินก็ขยับราวกับมีชีวิต ก่อนจะแหวกอากาศโจมตีใส่สู้ต่อสู้พร้อมกับบรรดาพฤกษานานาๆพันธุ์ที่โอบอ้อมอยู่ด้านหลัง คิริกิขยับยิ้มหวานฉาบบนใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงสบถแผ่วเบาจากคู่ต่อสู้ทั้งสอง

     

    ไอ้บ้า ขี้โกงนี่หว่า!!”เซ็นยูกิตะโกนโหวกแหวกไม่สมหญิง พลางปัดป้องพฤษกชาติและหลบเส้นผมที่แข็งราวกับเหล็กนั้นไปมาอย่างคล่องแคล่ว

     

    แคร๊ง!!!”เสียงของกระบี่กระทบกับสามง่ามดังก้องไปทั่ว คิ้วเรียวเหนือดวงตาสองสีนั้นขมวดเข้าหากันเป็นครั้งแรก ดวงตาสองคู่สามสีจับจ้องกันอย่างไม่ลดละ

     

    วิ้ว~นึกว่าตายจมกองเลือดไปซะแล้ว ที่แท้หาช่องว่างเองหรือเนี่ย?เซ็นยูกิผิวปากชมเชย แต่มือก็ยังสาละวนอยู่กับปัดป้องรากไม้และรากไทรที่โคดามะหนุ่มสร้างขึ้น

     

    อ่ะ!!”คิริกิอุทานแผ่วเบาเมื่อเห็นกลุ่มควันสีเทาไหลวนอยู่เหนือฝ่ามือของริว ริวอัดกลุ่มก้อนพลังนั้นใส่คิริกิ ร่างที่แลดูคล้ายผู้หญิงนั้น ลอยเหวือไปกระทบต้นไม้แถวนั้นจนพังครืนไปเป็นแถบ แต่ดูเหมือนว่าพฤษกชาติยังคงเข้าข้างคิริอยู่ เถาวัลย์เส้นหนึ่งลอยหวือเข้ามาโอบอุ้มก่อนที่เจ้าตัวจะถึงพื้น เถาวัลย์วางร่างของคิริกิลงแผ่วเบา

     

    แค่ก...น่าตกใจนะครับเนี่ยเสียงกระอั่กเลือดแผ่วเบาดังขึ้นก่อนที่เสียงที่ใสปานระฆังแก้วนั้นจะเอื้อนเอ่ย มือบางปาดเอาหยาดโลหิตที่ไหลซึมอยู่มุมปากช้าๆ ก่อนจะขยับยิ้มอีกครั้ง แม้มันจะฝืดเฝือลงไปบ้างก็ตาม ริวมองโคดามะหนุ่มที่ยิ้มราวกับคนบ้านั้นก่อนจะฉุกคิดได้

     

    .....ไอ้เวทย์ที่ใช้ก็ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่ทำไมกระเด็นไปซะไกลลิบขนาดนั้น?.....

     

    นายนะ...ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้ระยะประชิดสินะ?ริวพูด คิริกิยิ้มรับ ส่วนเซ็นทำหน้าเหวอ

     

    ครับ...ก็อย่างที่บอกไปตอนแรกไงล่ะครับดวงหน้าหวานมีรอยยิ้มวาดผ่านไปถึงดวงตา

     

    .....ความจริงที่แฝงอยู่ในคำลวง.....

     

    .....คำลวงที่แฝงไปด้วยความเป็นจริง.....

     

    .....เหมือนสายหมอกที่รู้ว่ามีอยู่แต่ไม่สามารถจับต้องได้.....

     

    .....เฉกเช่นเดียวกับชื่อ.....

     

    ให้ตายสิ...ร้ายชะมัด..ไม่สิ...ต้องบอกว่าสมชื่อซะมากกว่าเซ็นยูกิขยับรอยยิ้มแสยะ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงชวนสยองทำเอาคนในสนามถึงกับขนลุกชันโดยไม่ยาก

     

    ขอบคุณที่ชมครับโคดามะหนุ่มยังคงแย้มยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์

     

    ......ให้ตายสิ...การประลองกลายเป็นนั่งจับเข่าคุยกันไปแล้วหรือ?......

     

    อืม...หรือว่ามีใครเกิดจับอะไรได้ขึ้นมา?หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีพฤกษานามทิวลิเอื้อนเอ่ย หลังจากเจ้าสร้อยเส้นเล็กเปล่งเสียงออกมาได้ไม่นาน

     

    ข้า..ไม่คิดเช่นนั้นหรอก..เทพหนุ่มที่ปล่อยให้สร้อยพล่ามมานานจนดูราวกับว่าเป็นใบ้ เอ่ยเสียงที่ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงสายวาโยที่แผ่วเบานี้เลย

     

    เอาล่ะ..คุยกันมามากแล้ว ข้าว่าเราควรจะรีบประลองกันสักทีริวเอ่ย มือเรียวบางกระชับกระบี่เล่มคมเอาไว้อย่างมั่นคง

     

    ฉันว่า..น่าจะเริ่มได้ตั้งนานแล้ว!!! เคร้ง!!”เซ็นยูกิหญิงสาวผู้มีความใจร้อนเสียยิ่งกว่าผู้ใด วาดอาวุธที่รูปร่างคล้ายง้าวโจมตีใส่โคดามะหนุ่มในทันที เรียวแขนเล็กแลดูบอบบางของคิริกินั้นยกสามง่ามคู่กายรับไว้ทันท่วงที มือบางกดสามง่ามลงให้ใบมีดของอาวุธรูปร่างคล้ายง้าวนั้นลงล๊อคกับสามง่าม ก่อนจะเหวี่ยงร่างของเซ็นยูกกิออกห่างจากตัว

     

    “Misente”เวทย์ง่ายๆแต่อานุภาพไม่ได้ง่ายตามถูกร่ายขึ้น แผ่นดินตรงส่วนที่คู่ต่อสู้ทั้งสองของคิริกิยืนอยู่กลับพังทลายกลายเป็นเหวลึก แต่ใช่ว่าทั้งสองจะกระจอกถึงขนาดหลบไม่ได้ ร่างเพรียวราวกับผู้หญิงของคิริกิใช้โอกาสนี้ถอยร่นออกห่างจากทั้งสอง

     

    ฉึก!!”อยู่เสียงกระบี่เล่มคมก็เจาะทะลุเนื้อเข้ามา ดวงตาสองสีเบิกกว้างก่อนจะหันไปทางผู้ที่ทำร้ายตนด้วยแววประหลาดใจ และสั่นไหวอย่างประหลาด

     

    คึหึหึ...อาศัยตอนเผลอสร้างภาพลวงตาแล้วดักรอสินะครับ? ร้ายจริงๆดวงตาสองสีนั้นหยียิ้มจนดูหน้าถีบ หยาดโลหิตที่ไหลร่วงหล่นลงมากลับกลายเป็นต้นพฤกษาโจมตีใส่ผู้ประทุษร้ายกับนายของมัน เมื่อกระบี่ที่ฝังตัวอยู่ในหลุดออกหยาดโลหิตสีแดงชาติก็ไหลรินออกมาจากปากแผลตามธรรมชาติ

     

    นายนะ...ที่หลังถ้าไม่อยากยิ้มก็ไม่ต้องยิ้ม เห็นแล้วระคายลูกตาริวเอ่ยช้าๆเนิบๆ ดวงตาสีทองอร่ามจับจ้องใบหน้างามที่เปลี่ยนที่ท่าเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

     

    อึ๊ก!..ร่างบางนั้นทรุดฮวบลงมากองกับพื้น ดวงหน้างามนั้นยังคงรอยยิ้มไว้เสมอแม้ดวงตานั้นจะฉายชัดถึงความเจ็บปวดที่แล่นริ้ว

     

    เฮ้อ...ฉันไม่ชอบทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้ คิดว่าเซ็นยูกิก็คงเหมือนกัน นายยอมแพ้ซะเถอะริวเอ่ย แต่ริมฝีปากบางยังคงขยับคลี่รอยยิ้มหวานฉ่ำเสียยิ่งกว่าเก่า

     

    พวกคุณลืมอะไรไปอย่างนะครับ

     

    วูบ!!”สิ้นเสียงของโคดามะหนุ่ม จู่ๆก็เกิดกลุ่มก้อนควันสีเทาโรยตัวลงมารายล้อมทั่วอาณาบริเวณ ก้อนกลุ่มก้อนควันจะตรึงตัวทั้งสองเอาไว้

     

    อะไรกันฟ่ะเนี่ย!!”เสียงสบถไม่สมหญิงดังขึ้น

     

    เหมี๊ยว~นายท่านค่ะ คุโรมุจัดการเรียบร้อยแล้วค่ะเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่าง ร่างหนึ่งที่เดินออกมา เธอมีเรือนผมสีม่วงและตาสีม่วงดุจอเมทิตย์ มีหูแมวสีม่วงและหางสองหางที่เป็นสีม่วง

     

    หรือว่า...แมวตัวนั้น....ริวเอ่ยลองเชิง

     

    ใช่แล้วครับ คุโรมุก็คือแมวตัวเมื่อครู่ เอาล่ะมาต่อรองจริงๆสักที พวกคุณต่างหากที่ควรพูดว่ายอมแพ้คิริกิเอ่ยพลางกรีดรอยยิ้มหวานหยดย้อยอย่างน่าขนลุก

     

    พวกเรามีศักดิ์ศรีพอ...จะฆ่าก็ฆ่าซะ!!”เซ็นยูกิเอ่ยโดยไม่สนคนที่โดนตรึงอยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสองสีนั้นฉายแววลังเลอย่างประหลาด ก่อนจะหลุบลงต่ำคลายกับสับสน

     

    ขอร้องล่ะครับ...ช่วยพูดว่ายอมแพ้ทีเถอะ!!”คิริกิเอ่ย ดวงตาสองสีนั้นฉายความลังเล อ่อนโยนออกมาอย่างชัดเจน ดวงตาทอแววสั่นระริกหยาดน้ำตาใสหยดลงมาเพียงครู่ก่อนจะแห้งเหือดไปราวกับเวทย์มนต์

     

    .....นิสัยจริงๆ...ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่เลยนี่?.....

     

    .....ก็แค่พวกเก็บกด เก็บความรู้สึก.....

     

    ฟุ่บ...คงจะเป็นเพราะว่าเจ้านายของตนเกิดความลังเล คุโรมุจึงเกิดอาการลังเลด้วย เวทย์ที่เกิดจากความลังเลนั้นจึงไม่สมบูรณ์ และสามารถทำลายได้โดยง่าย

     

    ในสนามประลองนะ..ไม่มีคำว่าลังเลหรอกนะเจ้าหนูเซ็นยูกิเอ่ย เธอตวัดง้าวเตรียมแทงร่างบางตรงหน้าทันที

     

    เคร๊ง!!ขบวนท่าที่13บุฟพาโลกันต์!!”ร่างบางตวัดดาบรับไว้ทันท่วงที่ ก่อนจะประกาศก้อง กลีบดอกไม้นานาพันธุ์รายล้อมไปทั่ว

     

    กริ๊ดดดดดด!!”อยู่ๆหญิงสาวผมดำนามเซ็นยูกิผู้ถูกฤทธิ์แห่งมนตรากับกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เธอทำท่าเหมือนกันเห็นในสิ่งที่หวาดกลัวที่สุดในชีวิต

     

    เพลงดาบที่13..คือภาพหลอนเสมือนจริงที่จะดึงเอาภาพความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดมาฉายซ้ำคิริกิเอ่ย ดวงตาสองสีหลุบต่ำลงอย่างหนักใจ คล้ายกับลังเลว่าจะปลิดชีพทั้งสองเลยดีหรือไม่

     

    ต่อไปตาคุณสินะครับ?

     

    ถ้าเจ้ายังคงมีความลังเลอยู่เช่นนี้ เจ้าไม่มีทางชนะข้าได้แน่เจ้าของนัยน์ตาสีทองเอื้อนเอ่ย ก่อนจะตวัดสายตาคมกริบมองร่างบางตรงหน้า

     

    จะแน่หรอครับ?...แต่.....ไม่ลองคงไม่รู้สินะ?คิริกิพูด เขาเหยียดยิ้มขึ้นก่อนะเอียงคอนิดอย่างน่า เรือนผมสีน้ำเงินพลิ้วไปตามสายลมที่อบอุ่น กลีบพฤกษชาติล้อเล่นคลอไปตามเส้นผม

     

    .....เสน่ห์แห่งภูติพราย.....

     

    .....หากผู้ใดหลงใหลคงจะจบชีวิตลงไปสินะ?.....

     

    .....หยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาจาก ดวงตาแปลกสีนั้น..ก็คงจะเป็นหนึ่งในมารยาเช่นกัน.....

     

    ใช่...ไม่ลองไม่รู้...

     

    บางที...ข้าอาจจะชนะเจ้า ทั้งๆที่สู้อยู่ในสนามที่เจ้าได้เปรียบก็เป็นได้

     

    ผมพอจะรู้ครับว่าแพ้เพราะอะไร...ดวงหน้าหวานแย้มยิ้มอีกครั้งก่อนจะกระชับสามง่ามในมือ

     

    .....ที่แพ้อาจจะเป็นเพราะ...ความอ่อนแอของเราก็เป็นได้......

     

    .....จะเจอไหมนะ?...สิ่งที่เรียกว่ารักนั้นนะ.....     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ได้กลิ่นน้ำเน่าโชยมาไหมค่ะ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×