ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮฟเวน & บราตอส ศึกชิงดินแดนเดือด

    ลำดับตอนที่ #14 : ไฟต์ที่ 14 ไฟต์โรด (ร้านกระดาษเปื้อนหมึก)

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 49


    ไฟต์ที่ 14 ไฟต์โรด (ร้านกระดาษเปื้อนหมึก)

                    ไปซื้อหนังสือที่ร้านกระดาษเปื้อนหมึกมั้ย เอิร์นเอ่ยชักชวน

                    ไงก็ได้ เรนอนตอบด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น

    พวกเค้ายังคงเดินอยู่บนถนนที่ดูเหมือนจะไม่หลับใหลเลย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนถนนเส้นนี้ก็ยังคงมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยแสง สี เสียง ร้านค้า ผู้คน

                    นั่นไงๆ โทนี่ชี้ไปที่ร้านร้านหนึ่งที่มีคนเดินเข้าเดินออกและแบกหนังสือกันพะลุงพลัง ร้านนั้นเป็นร้านเรียบง่ายแบบตะวันตก ผนังอิฐทาสีน้ำตาล กระจกใสกรอบไม้ลงน้ำยาเคลือบ ที่สะดุดตาก็คือ ป้ายกระดาษเปล่าแผ่นใหญ่ ที่มีพู่กันลอยวนไปเวียนมาระหว่างกระดาษและขวดหนึกขวดใหญ่ที่วางอยู่หน้าร้าน พู่กันนั้นเขียนมา

    ร้านกระดาษเปื้อนหมึก

     ยินดีต้อนรับ

    ขอให้ท่านหอบหิ้วตำราต่างๆให้ดีแม้ว่าจะต้องหอบหิ้วลำบากแค่ไหน

    ถ้า

    ไม่อยากซื้อใหม่

                    พอเขียนเสร็จตัวอักษรก็หายไปแล้วตามด้วยรอยหมึกสาดกระเซ็นไปทั่วโดยฝีมือเจ้าพู่กันที่สลัดตัวราวกับสุนัขตกน้ำจากนั้นมันก็ลอยลงมาจุ่มหมึกใหม่และเขียนเช่นเดิม

                    เมื่อพวกเค้าเข้าไปข้างใน ภายในนั้นต่างๆจากภายนอกลิบลับ มันกว้างใหญ่และสูงพอๆกับห้อสมุดของโรงเรียน ภายในนั้นเต็มไปด้วยอนาลอยชายหญิงมากมาย เคาเตอร์ไม้ทีลักษณะเหมือนกับทีร้านของโบวี่ ภายหลังเคาเตอร์มีอนาลอยชายหญิงหลายคยทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์โดยมีไฟเตอร์หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งนั่งควบคุมดูแลอยู่ที่มุมหนึ่งของเคาเตอร์จิบน้ำชาและอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์ มุมซ้ายสุดของเคาเตอร์สองช่องมีป้ายเขียนไว้ว่า รายการหนังสือ อีกสี่ช่องต่อมามีป้ายเขียนว่า ชำระเงิน และสองช่องขวามือสุดมีป้ายเขียนว่า รับหนังสือ  แต่ละช่องมีคนยืนรอกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ถัดจากเคาเตอร์เข้าไปเป็นคลังหนังสือขนาดใหญ่ ชั้นหนังสือ สูงนับสิบๆเมตรหลายแถว ยาวและกว้างสุดลูกหูลูกตา มีอนาลอยเป็นกองทัพขับไซเบอร์บอร์ด พาหนะที่มีลักษณะคล้ายสเก็ตบอร์ดแต่ไม่มีล้อและมีสายบังคับอยู่ด้านหลังแทน มีที่เหยียบเร่งเครื่องด้านท้าย สามารถวิ่งได้ในทุกสถานะ ทั้งบนบก บนนำและสามารถบินในอากาศ บินวนตามชั้นหนังสือต่างๆหยิบเล่มนี้จากชั้นนั้น หยิบเล่มนั้นจากชั้นนู้น เมื่อบางคนได้ครบแล้วก็นำมาส่งที่ช่องรับหนังสือ เกลิกด์นำรายการหนังสือของทุกคนไปยืนต่อแถวและรอตามขั้นตอน ระหว่างที่เกลิกด์ยืนรอคิวอยู่นั้นเรนอนเกิดสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

                    เอิร์น เรนอนเรียก

                    อะไรหรอ เอิร์นตอบ

                    ดูนั่นดิ ใช่อาจารย์เพนนีรึเปล่า

                    ไหนๆๆ เอิร์นและโทนี่รีบมองหาอย่างยิ่งยวดเพื่อพยายามหาให้เจอ

                    ไหนอ่ะเรน ชั้นว่าไม่ใช่หรอกมั้ง โทนี่ตอบเมื่อความพยายามมองหาสุดลง เธออย่าลืมดิ อาจารย์จะทำงานอย่างอื่นไม่ได้นะ มันผิดกฎหมายพระราชบัญญัติความเป็นครู

                    แล้วนั่นใครล่ะ เรนอนยังคงสงสัยและชี้ไปที่ไฟเตอร์หญิงวัยกลางคนที่นั่งจิบน้ำชาอยู่หลังเคาเตอร์

                    เออ ไปถามกัน เอิร์นเสนอความคิดเห็นและพุ่งตรงไปหาผู้หญิงคนนั้นทันที

                    อาจารย์ใหญ่ ทั้งสามเรียกเธอพร้อมกัน แต่รู้สึกว่าเธอจะไม่ได้ยิน ทั้งสาคนเรียกอีก แต่เธอก็ไม่ตอบ และรู้สึกว่าทั้งสามคนจะเสียงดังเกินไป อนาลอยหนุ่มในชุดยามจึงเดินมาและจับเอิร์นกับโทนี่โยนออกไปหน้าร้านและอีกคนหนึ่งกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกับเรนอนอยู่

                    นี่ปล่อยชั้นนะเรนอนขัดขืนอย่างเต็มที่

                    ขอโทษนะครับคุณหนูพวกคุณก่อความวุ่นวายอนาลอยยามตอบ

                    โอ๊ย!” เรนอนร้องออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บเมื่ออนาลอยยามนั่นผลักเธอลงกับพื้นเกลิกด์ที่เพิ่งได้รับหนังสือก็ทิ้งหนังสือกองไว้ตรงนั้นและวิ่งตรงมาหาเธอทันที

                    เป็นไรมั้ยเรน เกลิกด์รีบเข้ามาประคบประหงม

              เปล่า เรนอนตอบ

                    หนอยแน่ะแก เกลิกด์เลือดขึ้นหน้าด้วยความโกรธและกำลังจะชักไม้กายสิทธิ์ออกมา แต่ไม่ทันที่เค้าจะได้ทำไม้กายสิทธ์แซฟวิจก็เรืองแสงขึ้น ลอยออกจากกระเป๋าและ

                    บึ้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    แซฟวิจเสกลำแสงสีแดงใส่อนาลอยยามคนนั้นและเกิดระเบิดขึ้น ร้านทั้งร้านเต็มไปด้วยหมอกควันคละคลุ้ง เสียงกระแอมกระไอ ดังขึ้นจากหลายๆคนที่อยู่ในร้านและเมื่อควันหายไป พบเพียงซากเสดเหล็กของอนาลอยยามคนนั้น

                    ใคร ใครกล้าพังอนาลอยของชั้น ไฟเตอร์หญิงคนนั้นในที่สุดเธอก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอันสุขสบายและแก้วน้ำชา

                    อาจารย์ใหญ่ เรนอนกับเกลิกด์พูดพร้อมกันด้วยความงวยงง และมีกองสนับสนุนอีกสองคนคือเอิร์นและโทนี่ทีวิ่งเข้ามาหลังจากที่โดนโยนออกไปนอกร้าน

                    ใครคืออาจารย์ใหญ่ยะ ชั้นเพนเซอร์ รับเบอร์ ถ้าอาจารย์ใหญ่ล่ะก็ลูกชั้นโน่นชื่อ เพนนี ชั้นเป็นพ่อเค้า แล้วนี่พวกแกกล้าดียังไงมาพัง อนาลอยชั้นฮะ

                    เดี๋ยวคะ คือว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ แซฟวิจมันทำเอง เรนอนตอบอย่างกล้าๆกลัวๆและกลั้นหัวเราะไปด้วยในตัว ใครจะไปนึกถึงว่าอาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนไซแมทจะมีคุณพ่อเป็นกระเทยที่แปลงเพศแล้วเรียบร้อยด้วย

                    อะไรนะ เธอพูดว่าอะไรนะ เพนเซอร์พูดเพื่อให้เรนอนย้ำอีกครั้งทั้งๆที่เค้ายังคงยืนตระหง่านอยู่เหนือร่างเด็กๆทั้งสองที่นั่งอยู่บนพื้น

                    แซฟวิจค่ะ แซฟวิจเสกคาถานั่นเอง เรนอนตอบอีกครั้งโดยเน้นทีละคำๆ

                    แซฟวิจ อย่าบอกนะว่า.... เพนเซอร์เว้นวรรคไปและหันหน้ามามองที่มือของเรนอนที่ขณะนี้แซฟวิจลอยกลับมาอยู่ในมือแล้ว

                    โอ้! ไม่ เดือดร้อนแน่ เพนเซอร์พิมพัมคเดียวแต่รู้สึกว่ามันออกจะดังไปซักนิด

                    อะไรที่ว่าเดือดร้อนคะ เอิร์นรีบยิงคำถาม

                    เธอเป็นใคร ไม่มีอะไร ไม่ใช่เรื่องของเธอ เพนเซอร์บอกปัดอย่างไม่ใยดีแต่สีหน้ายังคงกังวล

                    เธอเพนเซอร์หันมาพูดเสียงเย็นเยียบใส่เรนอน ชื่ออะไร

                    เรนอนค่ะ

                    เรนอนหรอ เค้าทำท่าคิดอยู่ซักครู่และถามต่อ นามสกลุล่ะ

                    เดอลาปัวค่ะ เรนอน เดอลาปัว เรนอนทวนให้ฟังเต็มๆอีกครั้ง

                    ว่าไงนะ เดอลาปัวหรอ เพนเซอร์มีท่าทีตกใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินนามสกุลของเรนอน

                    ค่ะ

                    แล้วเธอล่ะ เพนเซอร์หนมาถามเกลิกด์บ้างด้วยเสียงมีเลศนัยน์ยังไงพิกล

                    คุณจะรู้ไปทำไม เกลิกด์ตอบแบบระวังตัวที่สุด

                    ชั้นต้องการจะรู้เพราะฉะนั้นเธอต้องบอก

                    ไม่ ไม่ใช่เรื่องของคุณที่จะต้องรู้ เกลิกด์ยืนขึ้น ตาประสานตา และพ้อมทีจะพุ่งเข้าใส่เสมอ

                    ไม่เป็นไร ไปได้แล้ว เพนเซอร์พูดขึ้นอย่างกับว่าพวกเค้าทำงานให้เธอผิดพลาดและไล่ออกไป เอ้อ ! เดี๋ยว อยุ่โรงเรียนไซแมทใช่มั้ย ไม่มีใครตอบทั้งสี่คนเก็บหนังสือที่เกลิกด์ทิ้งไปตอนที่วิ่งเข้ามาหาเรนอนและเดินออกจากร้านไป

     

     

     

                    เพนเซอร์ใช้ไม้กาวสิทธิ์ชี้ไปที่ซากของอนาลอยชิ้นหนึ่งซากพวกนั้นก็สลายหายไปกับสายลม และเธอเดินหายไปชั้นสองของร้าน ชั้นสองของร้าเป็นเหมือนบ้านพักทั่วไป มีห้องน้ำ ห้องนอน และที่ไม่เหมือนคือ ห้องลับ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×