ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮฟเวน & บราตอส ศึกชิงดินแดนเดือด

    ลำดับตอนที่ #11 : ไฟต์ที่ 11 ไฟโรด (ร้านขายไม้กายสิทธิ์ของโบวี่) (2)

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 49


    ไฟต์ที่ 11 ไฟโรด (ร้านขายไม้กายสิทธิ์ของโบวี่) (2)

              เสียงอะไรน่ะเกลเรนอนถามเกลิกด์ที่เดินโอบไหล่อยู่ข้างเพราะกลัวว่าเจ้าอนาลอยรูปหล่อจะมาจีบ

                    เสียงไรอ่ะ

                    นั่นไง

                    กึกๆๆๆ  กึกๆๆๆๆๆ

                    อ๊ะ นั่นไง เรนอนชี้ไปที่ตู้ใบหนึ่งที่เป็นตู้ไม้ที่ถูกวางแอบอยู่หลังทางเข้าหลังร้านไม่ใช่ตู้กระจกเหมือนตู้อื่นๆและปิดสนิทพร้อมลั่นกุญแจเรียบร้อย

                    ไปดูกันเกล เรนอชวน

                    อืม เดี๋ยวเรน โรบิน ในตู้นั้นมีอะไร

                    เออ...คือ...โรบินตอบอึกอัก

    เรนอนวิ่งที่ตู้นั่นโดยไม่สนใจใคร และไม่ฟังโรบินที่ตะโกนไล่หลังมาว่า

                    อันตราย อย่าเข้าไป

    ทุกคนที่เหลือไม่สนใจและวิ่งตามเรนอนไปที่ตู้นั่นพร้อมกับโรบินที่ยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง  เมื่อเรนอนมาถึงเธอพยายามเปิดตู้นั่นอย่างสุดกำลัง

                    ทำอะไรน่ะหนู อ้าวเพื่อนเกลนี่ จะทำอะไรน่ะ โบวี่เดินมาดูและดึงเรนอนออกจากตู้อย่างรุนแรง

                    เปิดมัน ของของชั้น ของของชั้นอยู่ในนั้น มันต้องการให้ชั้นช่วย มันเรียกชั้น ชั้นจะเปิดมัน หลบไป เรนอนวิ่งเข้าไปผลักโบวี่ออกและเริ่มเขย่าตู้อย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง

                    เรน พอ หยุดเดี๋ยวนี้ เกลิกด์ตามมาและกอดรัดเธอไว้จากข้างหลัง เรนอนดิ้นรนเต็มที่เพื่อที่จะให้หลุดจากพันธนาการนี้

                    เธอรู้มั้ยในนั้นมีอะไร มันเป็นไม้ต้องห้ามนะ มันเป็นไม้ที่ชั่วร้าย โบวี่กดไหล่เธอและพยายามอธิบายให้เธอเลิกคลั่งและไม่ต้องการมัน

                    แซฟวิจ เธอตะโกนลั่นร้านและตู้นั้นก็ระเบิดขึ้นพร้อมไม้กายสิทธิ์สีเลือดลอยอยู่กลางอากาศและค่อยๆตรงมาหาเธออย่างสง่างาม อันนี้น่ะหรอ ไม้กายสิทธิ์ของชั้น

     

              เรน เอร์นพูดด้วยเสียงสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้เธมีสีหน้าไม่ต่างจากโบวี่มากเลย ทั้งคตู่ดูหวาดหลัวอย่างกับว่าชีวิตจะสิ้นสุดลง แซฟวิจ ไม้กายสิทธิ์ของราชาปีศาจแห่ง

    บราตอสผู้โหดเหี้ยม แซฟวิจ เดมอน ท่านจ้าวแงบราตอส เธอรู้ชื่อมัน เธอรู้จักมันได้ยังไง เอิร์นตะหวาดใส่เรนอนอย่างควบคุมสติแทบไม่อยู่และเขย่าเรนอนอย่างบ้าคลั่ง

     

                    ชั้นไม่รู้ มันพูดออกมาเอง ชั้นไม่รู้ โอ๊ย! เลิกบ้าซะทีเอิร์น ชั้นเจ็บเอิร์นยอมปล่อย

    เรนอนแต่โดยดี ตั้งสติกันหน่อยสิ

                    เอาล่ะทุกคนเงียบ โบวี่พูดออกมาจนได้ในที่สุดแม้ยังมีท่าทีหวาดกลัวอยู่บ้าง ตามชั้นมา โบวี่พาพวกเค้าขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวร้าน และพาไปที่ห้องๆหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่ค่อนข้างรกและเต็มไปด้วยไม้ชนิดต่างๆ และซากไม้กายสิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์

                    โบวี่พาพวกเค้ามานั่งที่มุมหนึ่งของห้องซึ่งมีเพียงโต๊ะไม้และเก้าอี้หนึ่งตัววางอยู่

                    รอตรงนี้ก่อนนะ โบวี่สั่งพวกเค้า โบวี่เดินไปหาอะไรซักอย่างจากกล่องใบใหญ่ ในนั้นมีหนังสือมากมาย โบวี่รื้อมันอย่างลนลานทำให้มันกระจัดกระจายเต็มห้อง ในที่สุดเค้าก็หยิบหนังสือปกแข็งสีดำสนิท มีตัวหนังสือสีทองเขียนไว้อย่างสวยงามว่า

     


                    โบวี่ยื่นหนังสือเล่มนั้นให้ เรนอนรับมาและเปิดอย่างผ่านๆ แต่ต้องสดุดกับคำว่า

    แซฟวิจ ไม้กายสิทธิ์ ของท่านจ้าวผู้ยิ่งใหญ่

     

    เธอเงยหน้ามามองโบวี่ เหมือนพยายามจะหาคำอธิบายและได้คำตอบเพียง อ่านซะ

    เธอเริ่มต้นอ่านทันที

                    แซฟวิจ ชื่อนี้มาจากชื่อของท่านจ้าวผู้ยิ่งใหญ่แห่งบราตอสเมื่อสมัยกว่าพันปีมาแล้ว

    แซฟวิจทำจากซากฟอสซิลกระดูกคน และลงอาคมโดยพ่อมดดำแห่งบราตอส เป็นเวลาสิบสองปี อาบด้วยเลือดของสาวบริสุทธิ์ชาวเฮฟเวนหนึ่งในคืนพระจันทร์เต็มดวงกลางปีของแต่ละปีเป็นเวลาสิบสองปี รวมแล้วใช้สาวบริสุทธิ์สิบสอง รกเด็กทารกแรกเกิดไม่เว้นหญิงชายชาวเฮฟเวนที่เกิดในคืนพระจันทร์เต็มดวงกลางปีสิบสองปี ขนยูนิคอร์นแรกเกิดตัวละหนึ่งเส้นสิบสองตัว เขายูนิคอร์นสิบสองตัวบดละเอียดผสมกับเลือดเซ็นทอร์สิบสองตัว ส่วนประกอบทั้งหมดนี้จัดหาและทำในคืนพระจันทร์เต็มดวงกลางปีเท่านั้น จึงทำให้มีความรุนแรงทางพลังค่อนข้างสูง ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงไม้กายสิทธิ์นี้จะมีพลังอำนาจมากที่สุด เคยมีตำนานเล่าขานกันมาว่าผู้ที่ใช้ไม้กายสิทธิ์นี้ไม่เคยมีใครใช้ได้เกินพระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกได้เลยแม้แต่คนเดียว บางคนสติฟั่นเฟือนหรือว่าบ้าก่อนที่จะมีโอกาสได้ใช้ในคืนพระจันทร์เต็มดวง บางคนมีโอกาสได้ใช้ในคืนพระจันทร์เต็มดวงแต่ก็เสียชีวิตหลังจากนั้น ผู้คนต่างพากันเชื่อว่าไม้กายสิทธิ์นี้เป็นไม้กายสิทธิ์ดูดวิญญาณ ผู้ที่ใช้ทุกคนพลังจะลดลงๆ จนเป็นบ้าหรือตายไป คุณสามารถศึกษาประวัติของแซฟวิจเพิ่มเติมได้จากหนังสือเกี่ยวกับไม้กาวสิทธิ์อื่นๆและหนังสือที่มีประวัติของแซฟวิจ เดมอน

     

                    เรนอนปิดหนังสือลงและหันมามองหน้าเพื่อนๆทุกคนที่ฟังอย่างใจจดใจจ่อรวมทั้งโบวี่ที่ยืนหันหลังให้เธอ

     

                    แล้วจะให้ชั้นทำไงต่อ เรนอนเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศความเงียบรอบๆตัว

                    หาไม้อันใหม่ซะถ้าเธอไม่อยากตาย โบวี่พูดขึ้นแม้จะยังคงหันหลังอยู่ก็ตาม

                    แล้วจะเอาอันไหนให้ชั้นล่ะคะ

                    ก็ตามวิธีที่โรบินบอกไง โทนี่ตอบ

                    งั้นลงไปลองดูก็ได้

                    ทุกคนลงมาและเริ่มลองเรียกชื่อไม้กายสิทธิ์ที่ตนเองสนใจ เอิร์นได้ไม้ที่ชื่อว่าไลม์ ทำจากไม้มะฮอกกานี ขนนกฟินิกส์และดีงูเห่า โทนี่ได้ไม้กายสิทธิ์ที่ชื่อว่า ฟอเรส ทำจากไม้สักทอง

    ผงเขายูนิคอร์น น้ำตานกฟินิกส์ เกลิกด์ได้ไม้กายสิทธิ์พิเศษที่โบวี่ทำโดยเฉพาะชื่อเอนเจลทำจากทองคำแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ลงอาคมโดยท่านผู้เฒ่าของสมาพันธ์ไฟเตอร์ทั้งสิงสองคนเป็นเวลาหนึ่งปี ขนยูนิคอร์นและน้ำตานกฟินิกส์ แต่เรนอนไม่ว่าจะเรียกชื่อไม้อันไหนก็ไม่มีอันใดโผล่มาหาเธอเลย และเธอก็ไม่สามารถใช้ไม้กายสิทธิ์อันใดได้เลยแม้แต่อันที่ดีที่สุดของโบวี่ที่มีอยู่ยกเว้นของเกลิกด์ เธอก็ไม่พอใจซักอัน

                    ไม่เป็นไรหรอกเชื่อชั้นสิ เรนอนเอ่ยกับทุกๆคน

              แต่เธอก็เห็นแล้วไม่ใช่หรอว่าผลที่ตามมามันเป็นยังไง เอิร์นคัดค้านอย่างเป็นห่วงและวิตก

                    ชั้นควบคุมมันได้

                    ไม่

                    ได้

                    ไม่

    เกิดศึกขึ้นระหว่างเรนอนกับเอิร์นซึ่งเถียงกันอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ

                    เอาล่ะๆ ในเมื่อมันเลือกเธอ โบวี่พูดขึ้นเพื่อสงบศึกของทั้งสองคน นับจากนี้ไป มันเป็นของเธอแล้ว อย่าลืม ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลยังไง ทิ้งมันไปซะแล้วมาหาชั้น ชั้นจะหาไม้ที่ดีที่สุดมาให้เธอ

                    โบวี่ ทั้งสามคนที่เหลือพูดพร้อมกันอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

                    ค่ะ เรนอนตอบรับ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×