ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮฟเวน & บราตอส ศึกชิงดินแดนเดือด

    ลำดับตอนที่ #10 : ไฟต์ที่ 10 ไฟต์โรด (ร้านขายไม้กายสิทธิ์ของโบวี่)(1)

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 49


    ไฟต์ที่ 10 ไฟต์โรด (ร้านขายไม้กายสิทธิ์ของโบวี่)(1)

                    นับจากวันนั้นเรนอนและเกลิกด์มีความสุขกันดีมากขึ้น อะไรๆก็รู้สึกว่าราบรื่นขึ้น ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องซ้อมและการฝึกของเรนอนด้วย แต่ในระหว่างที่ทั้งสองคนนั้นกำลังดื่มด่ำกับความรักที่ลงตัวนั้นไม่ได้เฉลียวใจเลยว่ามีใครบางคนกำลังจ้องที่จะทำลายความรักของเค้าทั้งสองอย่างมุ่งมั่น

              สำหรับวันนี้เป็นวันเสาร์เป็นวันที่นักเรียนสายเวทย์ทุกคนจะไปซื้อของใช้ที่ไฟต์โรดตามรายการที่ศาสตราจารย์สเตราค์ให้มา แต่วันนี้เรนอนยังคงโดนปลุกตั้งแต่ตีห้าเพื่อที่จะลุกขึ้นมาวิ่งเป็นสัปดาห์ที่สองแล้ว แต่คราวนี้เกลิกด์เลือกที่จะเข้าห้องของเรนอนโดยผ่านประตูที่เชื่อมกันระหว่างห้องของทั้งสองคน ภายในห้องของเรนอนค่อนข้างโล่งและสว่างเธอเลือกที่จะตกแต่งห้องโดยใช้โทนสีชมพู เตียงเหล็กสีขาวที่นอนลูกฟูกลายคิตตี้เข้าชุดทั้งผ้าห่ม หมอนและหมอนข้าง ตู้เสื้อผ้าไม้โอ๊กสีเนื้อไม้ใบใหญ่มีกระจกติดไว้ด้านหน้าที่ประตูเปิดด้านซ้าย โต๊ะคอมพิวเตอร์และโต๊ะทำงานที่วางติดกันลายไม้สวยงามมีเก้าอี้สำนักงานสีเทาวางอยู่ ผ้าม่านสีขาวลายดอกไม้ดอกใหญ่ โต๊ะเครื่องแป้งสีขาวลายเจ้าแมวน้อยคิตตี้มีกระจกบานใหญ่อยู่ตรงกลางและเครื่องสำอางและเครื่องใช้ส่วนตัวหลายๆอย่างวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ จากประตูหน้า หน้าต่างอยู่ตรงข้ามกับประตู เตียงหันหัวนอนให้หน้าต่างวางอยู่มุมห้องด้านขวา ถัดลงมาเป็นโต๊ะทำงานแลโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่หันหลังโต๊ะชนกับฝาผนัง ฝั่งซ้ายมือ ที่มุมห้องบนซ้ายถูกจัดวางด้วยตู้เสื้อผ้า ถัดลงมาเป็นประตูที่เชื่อมกับห้องของเกลิกด์ และต่อจากนั้นเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่หันกระจกให้กับตู้เสื้อผ้า กระเบื้องลายหินอ่อนสีชพู สะท้อนแสงดวงอาทิตย์ยามฟ้าสางมากระทบกับฝาผนังสีชมพูอ่อนและเข้มตามลำดับทำให้ห้องค่อนข้างสดใส

                    เกลิกด์เลือกที่จะเข้าไปนั่งลงข้างเตียงและกระซิบเบาๆว่า

                    อรุณสวัสดิ์จ้ะที่รัก

    แทนที่เรนอนจะตื่นขึ้นมาอย่างสงบเสงี่ยมและตอบรับว่าอรุณสวัสดิ์ค่ะที่รักอย่างที่เกลิกด์หวังไว้แต่เปล่าเลย เกลิกด์กลับได้คำตอบรับเป็นผ้าห่มลายคิตตี้ผืนใหญ่คลุมทั้งตัวแทน

                    ไม่เป็นไร ยังพอจะมีอารมณ์โรแมนติกอยู่ เกลิกด์ให้กำลังใจตัวเองในใจ ปัดผ้าห่มออกและลองกระซิบใหม่อีกครั้งและ...

                    โครม....................

    เรนอนตอบสนองเกลิกด์ด้วยนาฬิกาปลุกรูปคิตตี้ที่วางอยู่หัวเตียงเล่นเอาซะเกลิกด์ลงไปนอนกับพื้นข้างเตียงแทนแล้วตอนนี้

                    อ้าว! เกล ลงไปทำอะไรตรงนั้นน่ะ เรนอนตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงงัวเงียอย่างเห็นได้ชัด

                    เปล่า แค่เห็นว่านาฬิกามันอยู่ใต้เตียงน่ะเลยเก็บให้ เกลิกด์ตอบและพยายามที่จะฝืนยิ้มๆทั้งที่เริ่มโกรธแล้วล่ะ

                    อืมหรอ งั้นชั้นนอนต่อนะ

    ไม่ทันที่เรนอนจะล้มตัวนอนเกลิกด์ก็คว้าแขนเธอและลากเธอออกจากที่นอนอันแสนจะอบอุ่น

                    ไม่ได้ ไปอาบน้ำได้แล้วจะได้ไปวิ่ง ลุกๆๆๆ

                    แต่ว่าวันนี้ต้องไปไฟต์โรดนะ ไม่วิ่งไม่ได้หรอ

    ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันบนเตียง มีเสียงพุดว่า วิ่ง สลับกับคำว่า ไม่ ดังออกมานอกห้องทำเอาคนอื่นๆในบ้านที่เดินผ่านไปมาหยุดฟังกันเป็นแถบ

                    อะไรกันหรอ จอนฮาร์ทเดินผ่านมาหน้าห้องของเรนอนเห็นสาวใช้ในชุดวันพีชกระโปรงยาวสีเทาแขนสั้นตุ๊กตาคอบัวยืนหูแนบประตูบ้าง ชะเง้อมองผ่านประตูไปบ้างหลายคนจึงได้ถามขึ้น แต่ไม่มีใครตอบแลรีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที

                    วิ่ง

                    ม่าย...

                    ลุกเร็วๆ

                    ไม่อาววววววววว

    เสียงของทั้งสองคนยังเถียงกันไม่หยุดและฟังดูเอาเป็นเอาตายซะด้วย ทำให้จอนฮาร์ทแล้วว่าอะไรถึงทำให้สาวใช้เกือบหมดมาอู้งานกันอยู่ที่นี่ ด้วยความสงสัยว่าเถียงเรื่องอะไรกันจอนฮาร์ทจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปดูในห้องของเรนอน

                    เถียงอะไรกั......... จอนฮาร์ทถามแต่ไม่ทันจะถามจบก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น

                    โทษที พ่อนึกว่าเราทะเลาะกันทีจริงก็เล่นกันอยู่นี่เอง พ่อไปและนะ อย่างเสียงดังนักล่ะ เค้าไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้และรีบก้มหน้าทำเป็นมองไม่เห็นภาพที่เกลิกด์คร่อมเรนอนอยู่บนเตียง

                    พ่อ...อย่าเข้าใจผิดนะ พ่อเกลิกด์พยายามเรียกแต่ไม่ทันซะแล้ว จอนฮาร์ทเดินออกจากห้องไปก่อน พอหันกลับมาหา เรนอนก็เจอกับฝ่ามือพิฆาตเข้าที่แก้มซ้ายดัง

                    ผัวะ............

                    ไม่คนบ้า คนผีทะเล คนฉวยโอกาส….” พอเธอต่อว่าเกลิกด์เสร็จเธอก็เดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้เกลิด์งงว่าเค้าโดนตบเรื่องอะไร

     

                    พอเรนอนอาบน้ำเสร็จทั้งสองคนก็ออกมาวิ่งเหมือนปกติแต่ว่าความรู้สึกของทั้งสองคนนี้ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปจากก่อนมาก ทั้งสองคนวิ่งไปแหย่กันไป หัวเราะกันสนุกสนาน ระหว่าง

    ทางผ่านใครก็ทักเค้าไปทั่ว

                    คุณลุงคุณป้าคะ สวัสดีค่ะ เรนอนทักคุณพ่อคุณแม่ของเอิร์นเมื่อวิ่งผ่านหน้าบ้านรั้วสีฟ้ามีรถจอดสองคัน กำแพงคอนครีตสีขาว และวิ่งต่อไป

                    คุณอาครับ อรุณสวัสดิ์ครับ เกลิกด์ทักทายอาของเกลิกด์ที่กำลังจัดร้านขายหนังสือสีเหลืองกระจกหน้าร้านบานใหญ่อย่างขะมักเขม้น

                    ขยันกันจังเลยนะ เสียงของโทนี่ตะโกนลงมาจากชั้นสองของตัวบ้านทรงญี่ปุ่นประยุกต์ข้างๆร้านขายหนังสือของคุณอา

                    ออกจากห้องได้แล้วโทนี่ อาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวอีกซักพักจะมารับไปไฟต์โรด

    เกลิกด์ตะโกนตอบขึ้นไปโทนี่ทำสัญญาณมือตกลงแล้วปิดหน้าต่างหายไปไหนห้องนอนของเค้า

     

                    ทั้งสองคนวิ่งมาถึงบ้านและเข้ไปอาบน้ำแต่งตัวและพร้อมที่จะลงมาทานอาหารเช้ากับครอบครัว

                    คุณคะ วันนี้ทั้งสองคนแต่งตัวนานผิดปกติรึเปล่าคะคุณ กอล์เลียร์ ถามจอนฮาร์ทด้วยความสงสัย

                    ผมก็ไม่รู้สิคุณว่าไงเฮเลน

                    สงสัยว่าเพราะต้องไปไฟต์โรดกันล่ะมั้งคะ ถึงได้แต่งสวยแต่งหล่อกันนานนิดนึง เฮเลนเสนอความคิดเห็น

                    นั่นไงมากันแล้วค่ะ คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย คุณนาย คะ ดูสิ สวยหล่อกันมาเชียว ป้าซูบอกทั้งสามคนทีรออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว

                    เกลิกด์เลือกที่จะแต่งตัวสบายๆเสื้อยืดเข้ารูปเล็กน้อยสีขาวมีแถบสีดำคาดจากไหล่ถึงปลายแขนเสื้อแขนสั้น มีปก กางเกงยีนริมแดงพับโชว์ขอบสองทบ เข็มขัดหนังสีดำมีปุ่มหนามสีเงินรอบเข็มขัด ผมตั้ง ถุงเท้าสีดำ

                    ส่วนเรนอนเลือกที่จะแต่งตัวน่ารักหวานๆแบบผู้หญิงๆ เสื้อครึ่งตัวผูกหน้าสีชมพูโปร่ง มีเสื้อทับสายเดี่ยวสีขาวเต็มตัวข้างใน กระโปรงยีนต์มิดเข่าจีบหน้าและหลัง กระเป๋าถือลาย

    สตอร์เบอร์รี่สีชมพูทีตุ๊กตารูปคนห้อยไว้ด้วย

              นี่ลูกๆจ๊ะ เราจะไปซื้อของกันไม่ใช่หรอ แต่งซะสวยหล่อกันเชียว กอล์เลียร์ทักเชิงแซวทั้งสองคน ไม่มีใครว่าอะไรได้แต่อมยิ้มและทานข้าวกัน

     

     

                    ณ ไฟต์โรด

    ทั้งสี่คนเกลิกด์ เรนอน โทนี่และเอิร์น มาถึงไฟต์โรด ถนนไฟเตอร์ ซึ่งมีซุ้มไม้เถาขนาดใหญ่โค้งสวยงามสูงราวๆตึกสี่ชั้น ตรงกลางมีตัวอักษรที่ทำจากไม้เถาสีขาวซึ่งตัดกับพื้นสีเขียวว่า ไฟต์โรดเรนอนกับโทนี่ซึ่งเพิ่งมาเป็นครั้งแรกตื่นตาตื่นใจกับผู้คนที่พลุกพล่านมากมาย ร้านค้าต่างๆที่แต่งร้านให้มีจุดขายเป็นเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดลูกค้า เช่นร้านขายไม้กายสิทธิ์ตรงหัวมุมร้านแรกของซุ้มประตูทางเข้าด้านขวามือหน้าร้านตกแต่งด้วยไฟนีออนสีม่วงสลับเขียวว่า

     

     

     

    ไม้กายสิทธิ์ของคุณหักแล้วใช่มั้ย

    หรือว่าต้องการอันที่ดีกว่า

    มันทำให้คุณอึไม่ออกรึเปล่าเวลาใช้คาถาผิด

    เชิญทางนี้ เรามีมัน

                   

                    ส่วนทางซ้ายเป็นร้านขายเสื้อผ้าทุกประเภทมีป้ายติดไว้อย่างหรูหราว่า

     

    ร้านเสื้อผ้า ฟรีดอม

                   

    แทบทุกร้านที่นี่จะมีผู้คนเดินพลุกพล่านเข้าออกตลอดเวลาจนแทบมองไม่เห็นร้านที่อยู่ลึกเข้าไปเพราะคนเดินกันมากจนบังหน้าร้านเกือบหมด

                    นี่ๆ นั่นร้านขายไม้กายสิทธิ์หรอเกล เรนอนถามเกลิกด์อย่างกระตือรือร้น

                    อืม นั่นน่ะร้านชายไม้กายสิทธิ์ของโบวี่พี่ชายชั้นเอง เราจะไปซื้อไม้กายสิทธิ์กันที่ร้านนั้นแหละ เกลิกด์ตอบอย่างเอ็นดู

                    นี่ๆ เรนเรียกเกลิกด์ว่า เกล หรอ เมื่อกี๊น่ะเอิร์นถามขึ้นพลางเหล่ทั้งสองคน

                    สนิทกันถึงขั้นนั้นแล้วหรอ โทนี่ถามบ้างอย่างอยากรู้อยากเห็น

                    แล้วจะทำไมเล่า ไปซื้อของเหอะ ไปเร็ว เกลิกด์ตอบเก้อๆปัดๆไป เอิร์นและโทนี่แอบหัวเราะกับเบาๆเมื่อเกลิกด์และเรนอนหันหลังไป เรนอนไม่พูดอะไรนอกจากหน้าแดง และแดงเสียยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศอีกตอนนี้เพราะว่าโดนเกลิกด์โอบไหล่เดินด้วยกัน

     

     

                    ภายในร้านไม้กายสิทธิ์ของโบวี่นั้นมีตู้โชว์ไม้สักทอประกายอร่ามมากมายต่างกับป้ายโฆษณาหน้าร้านสิ้นดีทั้งหมดนั้นล้วนแต่บรรจุด้วยไม้กายสิทธิ์ลักษณะต่างๆกันไป พื้นห้องที่ปูด้วยกระเบื้องลายครามสีน้ำตาลดูเป็นผู้ใหญ่ เคาเตอร์ไม้สักมีแคชเชียร์อนาลอยซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่เหมือนคนทุกอย่างทำอะไรๆได้เหมือนคนทุกอย่างยกเว้นอาหารเป็นน้ำมันและเวลาขับถ่ายก็เป็นน้ำมันเท่านั้นเอง

                    สวัสดีค่ะคุณเกลิกด์ เจ้านายอยู่หลังร้านค่ะ เดี๋ยวจะไปตามให้นะคะ อนาลอยเคตี้ หุ่นยนต์สาวสวยน่ารักผมหยิกเป็นลอนสวยสีทองใส่ชุดแบบเซเลอร์มูนสีเหลือง ทักเกลิกด์อย่างเป็นกันเอง

              ขอบคุณครับเคตี้ เกลิกด์ตอบรับอนาลอยสาวอย่างสนิทสนม

                    สวัสดีค่ะคุณเกลิกด์ วันนี้พาเพื่อนๆมาเยี่ยมเจ้านายหรอคะ เชิญทางนี้ก่อนค่ะ เดี๋ยวจูดี้จะเอาน้ำ เอาขนมมาให้นะคะ จูดี้ อนาลอยสาวสวยฝาแฝดกับเคตี้แต่ใส่ชุดเซเลอร์มูนสีส้ม เข้ามาทักทายต้อนรับเกลิกด์อย่างดี วันนี้ลูกค้าเยอะมากเลยค่ะคุณเกลิกด์ขอโทษด้วยนะคะที่มาต้อนรับช้า

                    ไม่เป็นไรหรอกจูดี้ เกลิกด์ตอบกับอนาลอยสาวสวย ซื้ออนาลอยมาใหม่หรอ เห็นมีเพิ่มอีกนี่

                    จูดี้พาเกลิกด์และเพื่อนๆมานั่งที่มุมรับรองแขกหลังเคาเตอร์ ที่มีโซฟาสีดำหนังแท้เงางาม และโต๊ะหินแกรนิตแท้วางอยู่อย่างเข้าที่เข้าทาง พร้อมกับคุกกี้และน้ำส้มคั้นที่จูดี้เตรียมไว้ให้

                    ใช่ค่ะ เป็นอนาลอยผู้ชายค่ะ ผมสีทองน่ะชื่อโรบิน ส่วนผมเงินน่ะชื่อโรเบิร์ตค่ะเป็นฝาแฝดกันเดี๋ยวจะเรียกมาให้รู้จักนะคะ จูดี่ตอบอนาลอยหนุ่มหล่อที่แต่งชุดเป็นเสื้อแขนกระบอกยาวสีดำมีกระดุมผ่ากลางตลอดและกางเกงขากระบอกสีดำยาว

                    ไม่ต้องหรอกจูดี้ รู้สึกว่าเค้ากำลังยุ่งนะ เธอเองก็ด้วย ไปทำงานเถอะ ไม่ต้องดูแลพวกชั้นมากหรอก ขอบคุณนะ

                    ค่ะ แล้วจูดี้ก็เดินไปทำงานของเธอต่อพอดีกับเวลาที่โบวี่เดินออกมาจากหลังร้านกับเคตี้

                    ว่าไงพรรคพวก วันนี้พาใครมาด้วยเอ่ย น้องรัก ชายผมยาวยุ่งเหยิง รุงรังราวกับว่าไม่เคยสระผมเลยในชีวิตนี้ แต่งตัวแนวอาร์ตสุดเหวี่ยงเสื้อลายดอกตัวใหญ่มากประมาณว่าพวกเค้าสี่คนใส่เสื้อตัวนี้ยังมีพื้นที่เหลือ กางเกงเลย์ตัวใหญ่ยาวสีน้ำตาลแดงรองเท้าเกี๊ยสีน้าตามลายไม้ แถมหนวดเครายังห้อยรุงรังอีกต่างหาก ออกมาทักเค้าราวกับว่าสนิทสนมกับมาตั้งแต่ชาติปางก่อน เค้าเดินมานั่งกอดคอเกลิกด์ยอย่างแนบแน่น เหมือนกับว่าไม่เห็นเรนอนนั่งอยู่เลย

                    เอ่อ ผมพาเพื่อนๆมาซื้อไม้กายสิทธิ์น่ะครับ ซื้อของผมเองด้วย เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้มันจำเป็นต้องใช้ซะแล้ว เกลิกด์บอกกับโบวี่ซึ่งยังนั่งกอดคอเค้าอยู่

                    หรอ เลิกกลัวไม้กายสิทธิ์แล้วรึไงเราอ่ะ โดนคาถาผกผันของชั้นเข้าไปซะเต็มๆเลยนี่นะ ตอนนั้นน่ะ หน้านายนี่ดูไม่ได้เลย หน้าดำตัวขาว แขนใหญ่ ขาน้อยนึง ฮะๆๆๆ นึกแล้วยังขำไม่หาย โบวี่เริ่มเล่าเรื่องอะไรซักอย่างที่พวกเค้าที่เหลือไม่เข้าใจ แต่ก็แอบหัวเราะเพราะกลัวว่าเกลิกด์จะน้อยใจ

                    คาถาผกผันหรอคะ เป็นคาถาที่น่าสนุกจัง คุณใช้มันเพราะอะไรหรอคะ แล้วทำไมเกลิกด์ถึงเป็น...แบบนั้น เอิร์นถามอย่างสนอกสนใจและพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้อย่างสุดกำลัง

                    อ๋อ! เรื่องก็มีอยู่ว่า ชั้นไปเที่ยวที่บ้านหมอนี่ตอนเกลมันประมาณห้าขวบได้ล่ะมั้ง คุณลุงกำลังสอนอะไรชั้นซักอย่างนี่ล่ะจำไม่ได้แล้ว ทีนี้เจ้าหมอนี่ก็นั่งดูอย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะ คุณลุงเค้าเสกคำแช่งใส่ชั้น และชั้นก็ใช้คาถาผกผันนี่แหละ คุณลุงเค้าดันหลบได้ เกลมันเลยโดนไปเต็มๆแถมคูณสองอีกตะหากเพราะพลังของคาถาผกผันน่ะ ถ้าพวกเธอเห็นมันตอนนั้นนะ รับรองเลยว่าเธอจะขำจนท้องขดท้องแข็งเลยล่ะ ทั้งหมดหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เมื่อโบวี่เริ่มเล่าความหลังต่างๆ

                    แล้วทำไม เกล ถึงกลัวไม้กายสิทธิ์ล่ะ เรนอนถามขึ้นระหว่างที่ทุกคนยังคงสนุกกับเรื่องเล่าต่างๆ

                    ก็เพราะไอ้คาถาบ้านั่นน่ะแหละเกลิกด์รีบชิงตอบก่อนที่โบวี่จะตอบและเล่าเรื่องอันหน้าขายหน้าของเค้าอีก    

                    เออนี่ แล้วตกลงพวกเธอมาทำอะไรกันล่ะ โบวี่เริ่มเข้าเรื่องหลังจากที่พล่ามถึงเรื่องต่าง

    ๆที่เค้าทำมาและเรื่องหน้าขายหน้าของเกลิกด์อีกมากมาย แต่เกลิกด์ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

                    เรามาซื้อไม้กายสิทธิ์ครับ โทนี่ตอบ

                    ผมว่าผมบอกพี่แล้วนะแต่พี่น่ะ ชวนออกนอกเรื่อง เกลิกด์เริ่มพูดแบบหยามคืนบ้าง

                    แกก็รู้ว่า พอชั้นพูดแล้วก็พูดไม่หยุด เอาล่ะ สนใจไม้อันไหนมั่งล่ะ เดินดูกันรึยัง

                    ยังเลยค่ะ เรนอนตอบ

                    ก็ลองเดินดูเอานะ มีคำอธิบายลักษณะของไม้ไว้ที่แท่นวางไม้น่ะ อ่านเอา แล้วก็ขอเตือนไว้อย่างนึง ไม้จะเป็นคนเลือกเรา ไม่ใช่เราเลือกมัน เดินดูเอานะ ชั้นไปหลังร้านและ ยังมีไม้กายสิทธิ์ที่ทำค้างไว้อีกน่ะ เชิญตามสบายครับ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ โบวี่ยืนขึ้นและโค้งคำนับให้พวกเค้าหนึ่งครั้งแล้วเดินเข้าไปหลังร้าน

                    ไม้จะเป็นเลือกเราหรอ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าไม้อันไหนจะเลือกเรา โทนี่ถามงงกับเพื่อนๆ

                    ไม่ใช่ปัญหาครับคุณโทนี่ เชิญทางนี้ อนาลอย โรเบิร์ตโผล่พรวดมาจากข้างหลังนี่เล่นเอาทุกคนใจหายใจคว่ำ

                    คะ...ครับ โทนี่ตอบตะกุกตะกักเพราะยังไม่หายตกใจ

                    ไม้จะรับรู้ถึงพลังของเราทุกคนครับ โรเบิร์ตเริ่มอธิบายเมื่อพาพวกเค้าไปตามตู้ต่างๆ และจะแสดงออกไม่เหมือนกันเมื่อเจอคนที่มันคิดว่าเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าของ

                    แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ เรนอนถามโรเบิร์ต

                    ไม่ยากครับคุณหนูเรนอนผู้น่ารัก คุณหนูลองเดินให้ครบทุกตู้ทุกอันนะครับแล้วคุณหนูสนใจอันไหนก็จำชื่อมันไว้ ดูให้ครบก่อนนะครับ ถ้าสนใจหลายอันก็จำหลายชื่อ แล้วก็นู่นเลยครับ มายืนต่อคิวที่เคาเตอร์พอถึงคิวก็เรียกชื่อไม้กายสิทธิ์ในใจ ถ้ามันเลือกเรามันก็จะโผล่มาที่เคาเตอร์ถ้าไม่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ระหว่างที่เดินดูก็สังเกตดูไม้กายสิทธิ์แต่ละอันด้วยนะครับว่ามันแสดงออกกับเรายังไง เดี๋ยวโรบินจะมารับช่วงต่อจากผมนะครับ ขอให้คุณได้ไม้กายสิทธิ์สมใจนึกครับ พออธิบายเสร็จโรเบิร์ตก็เดินไปหาลูกค้ากลุ่มอื่นต่อไป และโรบินเดินมาพาพวกเค้าไปชมตู้ต่างๆต่อไป

                    เอาล่ะครับตู้นี้จะเป็นไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากไม้มะกอกทั้งหมดนะครับ โรบินเริ่มสาธยายถึงคุณสมบัติต่างๆของไม้ อันนี้ชื่อวิเวลครับเป็นไม้มะกอกลงอาคมโดยเซ็นทอร์มืดในคืนพระจันทร์เต็มดวง ผสมกับผงเขายูนิคอร์นบดละเอียดครับ เค้ายังคงพูดต่อไปถึงไม้กายสิทธ์

    แต่ละอันๆ

              กึกๆๆๆ  กึกๆๆๆๆ

                    เสียงอะไรน่ะเกล

                   

                    เสียงอะไรน่ะเกลเรนอนถามเกลิกด์ที่เดินโอบไหล่อยู่ข้างเพราะกลัวว่าเจ้าอนาลอยรูปหล่อจะมาจีบ

                    เสียงไรอ่ะ

                    นั่นไง

                    กึกๆๆๆ  กึกๆๆๆๆๆ

                    อ๊ะ นั่นไง เรนอนชี้ไปที่ตู้ใบหนึ่งที่เป็นตู้ไม้ที่ถูกวางแอบอยู่หลังทางเข้าหลังร้านไม่ใช่ตู้กระจกเหมือนตู้อื่นๆและปิดสนิทพร้อมลั่นกุญแจเรียบร้อย

                    ไปดูกันเกล เรนอชวน

                    อืม เดี๋ยวเรน โรบิน ในตู้นั้นมีอะไร

                    เออ...คือ...โรบินตอบอึกอัก

    เรนอนวิ่งที่ตู้นั่นโดยไม่สนใจใคร และไม่ฟังโรบินที่ตะโกนไล่หลังมาว่า

                    อันตราย อย่าเข้าไป

    ทุกคนที่เหลือไม่สนใจและวิ่งตามเรนอนไปที่ตู้นั่นพร้อมกับโรบินที่ยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง  เมื่อเรนอนมาถึงเธอพยายามเปิดตู้นั่นอย่างสุดกำลัง

                    ทำอะไรน่ะหนู อ้าวเพื่อนเกลนี่ จะทำอะไรน่ะ โบวี่เดินมาดูและดึงเรนอนออกจากตู้อย่างรุนแรง

                    เปิดมัน ของของชั้น ของของชั้นอยู่ในนั้น มันต้องการให้ชั้นช่วย มันเรียกชั้น ชั้นจะเปิดมัน หลบไป เรนอนวิ่งเข้าไปผลักโบวี่ออกและเริ่มเขย่าตู้อย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง

                    เรน พอ หยุดเดี๋ยวนี้ เกลิกด์ตามมาและกอดรัดเธอไว้จากข้างหลัง เรนอนดิ้นรนเต็มที่เพื่อที่จะให้หลุดจากพันธนาการนี้

                    เธอรู้มั้ยในนั้นมีอะไร มันเป็นไม้ต้องห้ามนะ มันเป็นไม้ที่ชั่วร้าย โบวี่กดไหล่เธอและพยายามอธิบายให้เธอเลิกคลั่งและไม่ต้องการมัน

                    แซฟวิจ เธอตะโกนลั่นร้านและตู้นั้นก็ระเบิดขึ้นพร้อมไม้กายสิทธิ์สีเลือดลอยอยู่กลางอากาศและค่อยๆตรงมาหาเธออย่างสง่างาม อันนี้น่ะหรอ ไม้กายสิทธิ์ของชั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×