คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ไฟต์ที่ 1 ชะตากำหนด
ไฟต์ที่ 1 ชะตากำหนด
ซ่า..................เสียงโทรทัศน์ที่รับสัญญาณไม่ชัด
“ต่อไปนี้จะเป็นการประกาศจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการค่ะ” เสียงผู้ประกาศข่าว
“นี่พ่อจ๊ะปรับโทรทัศน์ทีซิแม่จะฟัง” หญิงวัยกลางคนกำลังบอกสามีที่กินข้าวอยู่ในครัวแล้วเดินมาปรับโทรทัศน์
“เรื่องอะไรนะแม่”
“ก็เรื่องการเรียนม.ปลายแผนใหม่สิ”
“ลูกเรนอนจะขึ้นม.ปลายเทอมหน้านี่แล้วนา”
“ขณะนี้ทางรัฐบาลได้ยอมรับแล้วว่าพลังจิตสามารถช่วยทางรัฐบาลได้ดังที่สมาพันธ์ไฟเตอร์ได้ส่งข้อเสนอมา ดังนั้นต่อไปนี้ในปีการศึกษาหน้าโรงเรียนมัธยมหลายแห่งจะเปิดสายเวทย์ขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนนำร่อง นักเรียนที่จะเรียนสายเวทย์นั้นจะมีครูที่ส่งจากสมาพันธ์ไฟเตอร์เป็นคนคัดเลือกเอง เมื่อถูกคัดเลือกแล้วนักเรียนผู้นั้นไม่มีสิทธิ์ในการปฏิเสธ”
“เมื่อสักครู่เป็นประกาศจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดกรอรี่ แฮมเบล ค่ะ” “ต่อไปเชิญชมข่าว....” โทรทัศน์ก็ถูกปิดลง
“อะไรกันเนี่ย พลังจิต เวทย์มนต์ ไร้สาระ” สาวน้อยผมหยิกสั้นแค่คอ หน้าตาน่ารัก เอ่ย
“อ้าว! ลูกเรนอน ปิดทำไมล่ะลูก”
“ก็มันไร้สาระจริงๆนี่พ่อคะ อะไรกันก็ไม่รู้ เรียนสายเวทย์ไปจะไปทำอะไรได้สู้เรียนสายวิทย์ดีกว่า”
“ก็ตามใจลูกเถอะแต่แม่ว่านะเรนอน เรียนสายเวทย์ก็เท่ห์ดีนะลูก”
“ไม่มีทางค่ะแม่” “เรนจะเป็นคนแรกที่ไม่ได้รับคัดเลือก” “ไปนอนแล้วนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะพ่อแม่”
7 โมงเช้าที่ห้องโยธาวาทิตโรงเรียนไซแมท
เสียงเครื่องเป่าและเครื่องดนตรีอื่นๆดังอึกทึกครึกโครมมากแต่เมื่อเรนอนยืนหน้าห้องและโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณทุกคนก็หยุดเสียงทุกอย่างก็เงียบลง
“บีแฟลตคอนเสิร์ต”เสียงเรนอนสั่งจากนั้นเครื่องเป่าทุกคนก็เป่าเสียงยาวมากแล้วก็สั่งหยุด
จากนั้นเรนอนก็สั่งอย่างอื่นแล้วนักดนตรีทำตาม
คาบแรก
“เอาล่ะนักเรียน” เสียงอาจารย์เควนที่ปรึกษาผู้ใจดี “เราเหลือเวลาอีกแค่ 3 เดือนเท่านั้นนักเรียนควรจะคิดได้แล้วนะคะว่าจะเรียนอะไรต่อไป สำหรับโรงเรียนเราได้รับเกียรติให้เป็นโรงเรียนนำร่องในกานเปิดสายเวทย์ด้วยนะคะขอให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมในวันที่จะเข้ารับการคัดเลือกให้ดีนะคะ เพราะในวันนั้นเมื่อถูกคัดเลือกนักเรียนจะไม่มีโอกาสในการเปลี่ยนใจ”
“อาจารย์ครับ” เสียงเกลิกด์สุดหล่อประจำห้อง “เค้าจะคัดเลือกพวกเรายังไงครับ”
“อาจารย์บอกพวกเธอไม่ได้หรอกจ้ะเพราว่าไฟเตอร์นั้นมีวิธีของเค้า เราไม่รู้” “เอาล่ะไปเรียนวิชาต่อไปได้”
“นี่ๆ เรน เธอสนใจจะเรียนสายเวทย์มั้ย” เสียงเอิร์นเพื่อนสนิทของเรนอนเธอเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักเรียนเก่งตัวสูง
“ไม่อ่ะ ไร้สาระ” เรนอนตอบแบบไร้อารมณ์แล้วเดินหนีไป
ระหว่างที่เธอเดินไปเรียนวิชาต่อไปเธอก็ต้องสะดุ้งกับชายชุดดำผู้หนึ่งที่กำลังมองมาทางเธอและเดินมาหาเธอ
“เธอคิดว่าเวทย์มนต์เป็นอะไรที่ไร้สาระหรอเรนอน”ชายชุดดำถามด้วยเสียงเย็นเยือกน่ากลัว
“ก็มันพิสูจน์ไม่ได้นี่ แล้วก็เอาไปประกอบอาชีพไม่ได้อีกอย่างช่วยชั้นเรื่องดนตรีไม่ได้ด้วย” เรนอนยังทำเป็นใจดีสู้เสือ
“แล้วเธอจะเข้าใจเพราะชะตากำหนด” แล้วชายผู้นั้นก็เดินจากไปทิ้งให้เรนอนสงสัยในคำพูดของเค้า
“เรน”
“อะไรหรอเอิร์น”
“ทำไมเธอไม่ลงมากินข้าวกลางวันล่ะ”
“ก็กินแล้วไงซื้อขนมปังกับนมไปกินน่ะแล้วก็ซ้อมแซ็ก”
“เธอน่ะอย่ามัวแต่ซ้อมสิเป็นห่วงตัวเองบ้าง”
“ไม่เป็นไรหรอกชั้นไปซ้อมแล้วนะกลับบ้านดีๆล่ะ”
“อืม”
แล้วเรนอนกับเอิร์นก็แยกย้ายกันไป
“เรน วันนี้ชั้นซ้อมด้วยคนนะ” ไนท์ ชายหนุ่มผมทองซอยสั้นเพื่อนในวงโยธวาทิตของโรงเรียน
“ก็ตามใจดิแต่ว่าชั้นต้องซ้อมเพื่อเตรียมสอบเอนทรานน่ะ”
“ขอบใจ”
“เอาล่ะมารวมวงได้แล้ว”อาจารย์บรูโนผู้ควบคุมวงยังหนุ่มหน้าตาดีมีความสามารถสูง
“เอ้าเปิดเพลง Danny Boy” “พร้อมนะ 1...2...3...4 ” จากนั้นบทเพลงก็เริ่มขึ้น
“อ่ะ 3ทุ่มแล้วกลับบ้านได้ กลับกันดีๆล่ะ เอ้อ เรนอนเดี๋ยวมาหาครูด้วย”
“มีอะไรหรอคะถึงเรียกหนูมา”
“ว่าไงเราอยู่ปี3แล้วเทอมหน้าก็ขึ้นม.ปลายแล้วสิหน้าที่ในวงคงต้องลดลงอ่ะนะ”
“ค่ะ”
“แล้วเราจะเรียนต่อแผนอะไรล่ะ”
“เรียนสายวิทย์ค่ะ”
“อืม ก็ดีนะจากนี้ก็แบ่งเวลาดีๆล่ะ ขยันซ้อมหน่อย”
“ค่ะ”
ในระหว่างที่เรนอนกำลังเดินเข้ามาในซอยบ้านก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่างวูบวาบเธอจึงวิ่งไปดูและพบกับชายผู้หนึ่งที่กำลังฆ่าหญิงคนนั้นด้วยเวทย์มนต์อะไรซักอย่าง เมื่อชายคนนั้นเห็นเธอจึงวิ่งหนีไปเธอก็วิ่งตามแต่ไม่ทันซะแล้ว หญิงคนนั้นเป็นคุณป้าข้างบ้านเธอเอง แต่ตอนนี้คุณป้าข้างบ้านได้กลายเป็นศพไปแล้ว
เช้าวันต่อมาเธอก็ไปโรงเรียนตามปกติแต่เธอต้องประหลาดใจเมื่อชายชุดดำคนนั้นเข้ามายืนตรงหน้าเธอ “ชั้นบอกเธอแล้วเรนอนว่าชะตากำหนดแล้ว” แล้วชายผู้นั้นก็เดินจากไปปล่อยให้เธอยืนตัวแข็งอยู่ตรงนั้น
“อรุณสวัสดิ์เรน”เอิร์นทัก
“อะ...อรุณสวัสดิ์เอิร์น เธอรู้มั้ยว่าเวทย์มนต์อะไรที่จะปล่อยแสงสีขาว”
“ก็ไม่รู้สิแต่ที่ชั้นรู้นะแสงของเวทย์มนต์อ่ะจะต่างกันแล้วแต่ผู้ใช้”
“หรอ ขอบใจ ชั้นไปซ้อมก่อนนะ”แล้วเรนอนก็วิ่งขึ้นไปห้องโยธวาทิต
ช่วงพักกลางวัน
เรนอนมาที่ห้องสมุดและเริ่มค้นหาหนังสือเกี่ยวกับเวทย์มนต์มานั่งอ่านไม่ว่าจะเป็นประวัติของผู้ใช้เวทย์มนต์ คาถาพื้นฐานและอื่นๆ
“นี่ๆ ไหนบอกว่าเวทย์มนต์เป็นเรื่องไร้สาระไง” โทนี่เพื่อชายร่วมห้องจอมกวนดังขึ้น
“เรื่องของชั้น”เรนอนไม่สนใจแล้วลงมือหาผู้ใช้เวทย์มนต์สีขาวนั้นต่อไป
“นี่ๆเรนอนสุดสวยจ๋า ถ้าเธอคิดจะหาอะไรถามชั้นได้นะ”
“ผู้ใช้เวทย์มนต์สีขาว”
“หา....อย่าหวังเลยว่าเธอจะหาเจอ หนังสือน่ะมันไปบอกหนอนะว่าผู้ใช้เวทย์คนนี้ใช้เวทย์นี้จะมีสีนั้น ผู้ใช้เวทย์คนนั้นใช้เวทย์นั้นจะมีสีนี้ เธอบ้ารึไง”
“หรอ โอเค ขอบใจ ฝากเก็บด้วยแล้วกัน” แล้วเรนอนก็เดินจากไป ทิ้งหนังสือกองโตไว้ให้โทนี่เก็บระหว่างทางนั้นเธอก็เดินคิดไปตลอดทางว่าทำไมเวลาใช้เวทย์มนต์ถึงแสงไม่เหมือนกัน ทำไมชายคนนั้นจะต้องฆ่าคุณป้าข้างบ้านของเธอด้วย แล้วทำไมเธอจะต้องเห็นเหตุการณ์นั้นด้วย แม้แต่เวลาเรียน เวลาซ้อมเธอก็ยังไม่วายที่จะคิดเรื่องราวที่เธอเห็นเมื่อคืน
“ชั้นจะต้องสืบให้รู้ให้ได้ว่าชายคนนั้นคือใคร แล้วฆ่าคุณป้าข้างบ้านเธอทำไม ชั้นต้องรู้ให้ได้”
“เรน! เธอละเมอหรอ” เอิร์น
“ขะ...ขอโทษค่ะอาจารย์” เรนอนละเมอดังลั่นห้องในวิชาสังคมศึกษา
หลังหมดคาบเรียน
“นี่เรน เธออยากรู้อะไร”เกลิกด์เข้ามาถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“เรื่องของชั้น นายอย่ายุ่ง” เรนอนตอบอย่างตัดเยื่อใยสิ้นดี
“ก็ได้ แต่ชั้นเตือนเธอไว้อย่างนะ อย่าคิดไปยุ่งกับชายคนนั้น ชั้นเตือนเธอแล้วนะ เรนอน”
เรนอนเดินหนีไปอย่างเร็วโดยที่ไม่เก็บคำพูดของเกลิกด์มาคิดเลยแม้แต่น้อย
วันนี้เธอก็ซ้อมตามปกติแต่ระหว่างทางที่เธอเดินกลับบ้านนั้นเธอรู้สึกเหมืนมีใครเดินตามเธอมาและมองเธออยู่ เธอเริ่มเดินเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้นเรื่อยๆจนวิ่งในที่สุดและอุ๊บ!!.....
“อยู่เฉยๆ ถ้ายังไม่อยากตาย”
“ปล่อยชั้น!!! ชั้นหายใจไม่ออกนะ”
“โทษที ชู่ว.....เงียบๆ”
“แม่ง...ไวจริง อย่าให้เจอแล้วกันฮึ้ย”
“นั่น...คนที่ฆ่าป้าข้างบ้านนี่นา”
“ใช่น่ะสิ อยากตายนักรึไงฮึถึงได้เดินกลับบ้านดึกดื่นคนเดียวป่านนี้”
“ว่าแต่นายเป็นใครเนี่ย เลิกกอดชั้นได้แล้ว อึดอัด”
“อุ๊ย!!! ขอโทษ ชั้นเอง”
“ชั้นเองน่ะใครล่ะ”
“เก....... ชั้นไปแล้วนะ ชั้นจะคอยปกป้องเธอ เรนอน เดอลาปัว”
“เดี๋ยวสิ” และแล้วชายลึกลับที่ช่วยเรนอนไว้คืนนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นเรนอนก็เดินกลับบ้านต่อไป
เช้าวันรุ่งขึ้น
“เรน”
“เรน”
“เรนอน เดอลาปัว”
“จะตื่นได้รึยัง”
“จ๋า........แม่ ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว”
“ขอโทษนะคะ วันนี้เรนมีงานเช้า ไปก่อนนะคะพ่อ-แม่”
แล้วสาวน้อยก็หอมแก้มคุณพ่อกับคุณแม่แล้ววิ่งออกจากบ้านไป
เรนอนออกงานคนเสิร์ตของโรงเรียนวันนี้มีคนดูคับคั่ง ผลงานแสดงออกมาได้ดี เป็นที่ชื่นชมของผู้ชมแต่หน้าตาของผู้แสดงอย่างเรนอนนั้นไม่แสดงออกเลยว่าชื่นชมแต่กลับหมกมุ่นกลับเรื่องเมื่อคืนอย่างมาก
“เรน เธอเครียดอะไรรึเปล่า”
“อืม นั่นสิ ชั้นเห็นเธอหน้าบูดเป็นก้นลิงตั้งแต่เช้าแล้ว” เอิร์นกับโทนี่เข้ามาทักทาย
“เปล่า แค่นอนไม่หลับน่ะ”
“คิดเรื่องอะไรล่ะ เรื่องไฟเตอร์คนนั้นน่ะหรอ”
“เธอว่าอะไรนะเอิร์น ไฟเตอร์หรอ”
“อือฮึ ก็ผู้ที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้น่ะเค้าเรียกว่าไฟเตอร์จ้ะ”
“ชื่อเท่ดีใช่มั้ยล่ะ” โทนี่เสริมทันใด
“ไม่เห็นจะเท่ตรงไหน นิสัยก็ไม่ดี” เรนอนกล่าวด้วยอารมณ์หงุดหงิดอย่างแรง
“เรนอน...ไฟเตอร์น่ะ ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดทุกคนหรอกนะ” อยู่ดีๆเกลิกด์ก็มายืนอยู่ข้างหลังพวกเค้าโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยแล้วก็เดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ชิ...อย่างน้อยถ้าหนึ่งในไฟเตอร์เป็นนายก็ใช่คนนึงล่ะ” เรนอนตะโกนไล่หลังเกลิกด์ไปด้วยน้ำเสียงกวนๆ แต่เกลิกด์ไปไกลกินกว่าที่จะได้ยินเสียงของเธอซะแล้ว และแล้วออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น
“ไปเรียนคาบบ่ายกันเถอะ” เอิร์นเอ่ยขึ้นก่อนที่เพื่อนๆของเธอจะคิดโดดเรียน ระหว่างเดินขึ้นไปเรียนวิชาคณิตศาสตร์นั้นเสียงของชายชุดดำคนนั้นก็ผ่านเข้ามาในโสตประสาทของเรนอนอีกครั้ง
“ชั้นบอกเธอแล้วเรนอน ว่าชะตาได้กำหนดไว้แล้ว เธอไม่มีวันหนีมันพ้น เธอจะได้ในสิ่งที่เธอไม่อยากได้ เธอจะป็นในสิ่งที่ไม่อยากเป็น และจะได้รับในสิ่งที่ไม่คาดคิด ฮ่า..........” “อ๊าย.............................................”
เรนอนลืมตามาเจอกับเพดานห้องห้องหนึ่ง
“นี่ห้องอะไรเนี่ย”
รอบๆห้องนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทุกคนล้วนแต่แต่งกายด้วยชุดสีดำ เสื้อกั๊กสีดำ กางเกงขายาวสีดำและเสื้อคลุมสีดำยาวเลยเข่าไปเล็กน้อย ทุกคนนั้นไม่มีใครเห็นเธอ ทุคนนั่งกันอยู่ที่โต๊ะกลมสีเงินที่ทำจากกระจกและทำหน้าเคร่งเครียดอะไรบางอย่าง และแล้วชายชราผู้หนึ่งผมขาวไปทั้งหัวดูท่าทางน่าจะอาวุโสที่สุดในที่นั้นก็เอ่ยขึ้น
“ข้าในนามของประธานสมาพันธ์ไฟเตอร์”
“ไฟเตอร์หรอ” เรนอนเผลอหลุดปากด้วยความตกใจลั่นแต่ไม่มีใครได้ยินเธอ
“ข้าคิดว่าพวกเราจำเป็นที่จะต้องอัญเชิญดวงวิญญาณขององค์ราชาและองค์ราชินีให้มากำเนิดบนโลกไปนี้แล้ว เพราะพวกบราตอสเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่งแล้ว ข้าคิดว่าราชาของพวกมันก็คงจะกลับมาอีกครั้งเช่นกัน ทุกท่านคิดเช่นไร”
“ข้ามีความคิดว่าเราน่าจะจัดการกับบรรดาทาสรับใช้ของราชาแห่งบราตอสให้สิ้นซากเสียก่อน” ชายวัยกลางคนผมคำขลับยาวถึงต้นคอเสนอความคิดเห็น
“มีใครมีความคิดอย่างไรอีก” ชายชราถาม “ในเมื่อไม่มีแล้ว ข้าจะเอาทั้งสองวิธีนี้ไปเข้าที่ประชุมของท่านอาวุโสอีกครั้งหนึ่งได้ความเช่นไรข้าจะมาประกาศให้ทุกท่านทราบอีกครั้งปิดประชุม” ระหว่างที่คนเหล่านั้นกำลังลุกออกจากที่ประชุมเรนอนก็หันไปเห็นชายคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาคับคล้ายคับคลาเหมือนเธอเคยเห็นแต่เธอนึก นึก นึก นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก และแล้ว
“เรนอนตื่นแล้วหรอ” เกลิกด์ถาม
“นี่นาย มาที่นี่ได้ไง แล้วที่นี่ที่ไหน”
“ห้องพยาบาล ก็เธอเป็นลมแล้วโทนี่ก็ไปตามชั้นมาแล้วชั้นก็พาเธอมาห้องพยาบาลนี่ไง แล้วก็เฝ้าเธออยู่เนี่ย จะขอบใจซักคำก็ไม่มี”
“เดี๋ยวนะเกลิกด์ นายบอกว่านายพาชั้นมาที่นี่หรอ”
“อืม”
“แล้วโทนี่ล่ะ ทำไมโทนี่ถึงไม่พามา”
“ก็เอิร์นเค้าเห็นเธอเป็นลมก็เลยเข่าอ่อนอีกคนน่ะสิ โทนี่เลยพากลับห้องเรียนไปแล้ว”
“ชั้นว่าชั้นเห็นใครซักคนในฝันนะ นายมีฝาแฝดที่ไหนรึเปล่า”
“ไม่มี”
“แต่ชั้น........อ๊ะ!!! ชั้นเห็นนายใน..........”
“หวัดดี เป็นไงบ้างล่ะจ๊ะเรน อยู่ๆก็เป็นลมตกใจหมดเลย” โทนี่
“อืม ก็เป็นไรแล้ว”
“เอาล่ะในเมื่อไม่เป็นไรแล้วก็กลับบ้านเถอะ วันนี้เธอไม่ต้องไปซ้อมหรอกเดี๋ยวชั้นบอกอาจารย์ให้”
“นี่ๆหยุดเดี๋ยวนี้เลยเกลิกด์ชั้นจะไปซ้อม ลองวงขาดมืออัลโต้แซ็กโซโฟนอย่างชั้นวงจะเหงา”
“ถึงวงจะขาดมือแซ็กอย่างเธอแต่ก็มีมือทรอมโบนอย่างชั้นก็ไม่เห็นเป็นไรนี่”
“มันเหมือนกันที่ไหนเล่าเกลิกด์บ้า”
“จะไปซ้อมหรือว่าจะไปหาใครกันแน่”
“นี่นาย....”
“เอาเถอะๆ เรนจะไปซ้อมก็ไปเถอะนะ เกลิกด์เอิร์นฝากเพื่อนเอิร์นด้วยนะ”
“แล้วเพื่อนของเอิร์นอยากให้ชั้นดูแลรึเปล่าล่ะ”
“ชั้นดูแลตัวเองได้ยะ”
แล้วเรนอนก็เดินสะบัดก้นลุกจากเตียงไปซ้อมดนตรีตามปกติ
คืนนั้นเรนอนได้แต่คิดทั้งคืนว่าชะตากำหนด ราชาและราชินี ราชาแห่งบราตอส ชายคนที่เธอเห็น คนที่ฆ่าคุณป้าข้างบ้าน คนที่ไล่ฆ่าเธอคืนนั้น และคนที่ช่วยเธอคืนนั้น มันอะไรกันแน่
“โอ๊ย!!! งงงงงงงงงงงงง อะไรกันนักกันหนานะ ชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเวทย์มนต์ โธ่................”
ความคิดเห็น