ตอนที่ 7 : ตอนที่ 6: เมื่อเจอซาตาน(ประจันหน้า) (100%)
ตอนที่ 6: เมื่อเจอซาตาน (ประจันหน้า)
เช้าวันนี้อากาศสดใส และภัทรพลเองก็แจ่มใสมากกว่าปกติด้วย เขาเดินไปฮัมเพลงผ่านหน้ายามประจำอาคาร ไปยังรถแล้วขับรถคู่ใจออกสู่ท้องถนน ไม่หรอกวันนี้เขาจะยังไม่เข้าไปที่ทำงานเลย แต่เขาจะแวะไปแถวๆ สะพานควายก่อนนั่นเอง
ไฮ....พอล มาแต่เช้าเชียว สาวผมสีน้ำตาลทักทายยิ้มกว้างออกมาต้อนรับทันที
เพิ่งจะแปดโมงเท่านั้นเอง วันนี้ยูไม่ได้หอบงานมา... ซาร่าถามออกไปกับความเปลี่ยนไปของชายหนุ่ม
โธ่.... ซาร่า จะหอบอะไรทุกวันหล่ะ ชายหนุ่มหลิ่วตาให้ครั้งหนึ่ง ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่แก้มขวาของเธอเบาๆ
ไอจะมาชวนยูไปออฟฟิต แวะหาคุณพ่อผมหน่อย ชายหนุ่มเอ่ยเหตุผลที่เช้ามาหาเธอแต่เช้าและไม่ได้หอบเอางานมาด้วยนั่นเอง
โอ้.... โน.... ไอยุ่งมากๆ ยูก็เห็นนี่ ป๊ะป๋าไอออกไปตั้งแต่เช้า ไอต้องดูแลทางนี้ ซาร่ปฏิเสธออกไปทันทีเนื่องจากเธอไม่ว่างเลยจริงๆ
ซาร่า ยูไม่ค่อยเปิดหูเปิดตาอะไรเลยนะ ยูทำงานหนักมากไปแล้วรู้รึเปล่า ชายหนุ่มเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับจึงเอ่ยต่อว่าออกไปอย่างโมโหเมื่อไม่ได้ดังใจ
ก็เหมือนยูไง เธอย้อนเขาไปอย่างเข้าใจกันและกัน
แล้วเมื่อไหร่ยูจะแต่งงานล่ะพอล... สาวๆ ไทยสวยๆ เยอะแยะ จะได้ช่วย... ซาร่าถามออกไปเนื่องจากรู้จักนิสัยชายหนุ่มที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่มักทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองไม่ได้อย่างใจก็ฟาดหัวฟาดห่างใส่ชาวบ้านชาวช่องเขาเนื่องจากเธอเริ่มเหนื่อยกับการต้องคอยตามใจชายหนุ่มเต็มทนแล้ว
ช่วยอะไร... ซาร่า ภัทรพลถามอย่างงงๆ เพราะหน้าตาของแหม่มซาร่าเพื่อนสาวของตนมองมาแบบมีเลศนัยพิกล
ไม่มีอะไร ไออยากรู้ว่าเจ้าสาวของยูจะเป็นคนยังไงน่ะ ซาร่าแก้ตัวออกไปพร้อมทั้งทำท่าทางนึกถึงว่าที่เจ้าสาวของชายหนุ่มและยังไม่ทันที่ภัทรพลจะตอบกลับไปประตูด้านหน้าก็เปิดออกผู้ช่วยหญิงยื่นหน้าเข้ามาอย่างเกรงๆ ด้วยท่าทางอายๆ พร้อมทั้งบอกว่ามีคนไข้คะ และยื่นใช้บัตรลดของบริษัทมา ต้องการขอพบคุณซาร่าเท่านั้นคะ
โอเค เดี๋ยวฉันออกไป ส่วนยู จะรออยู่ที่นี่หรือจะออกไปด้วยกัน ซาร่าตอบผู้ช่วยหญิงออกไป แล้วหันมาถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โซฟารับแขกภายใจห้อง
คงต้องออกไป ยูไม่ไปกับไอแล้ว งั้นเห็นทีต้องกลับเลย เออ... แล้วช่วงเที่ยงล่ะ ภัทรพลเซ็งที่หญิงสาวปฏิเสธเขาจึงคิดว่ากลับเลยดีกว่า พร้อมกับถามอย่างมีหวังว่าเที่ยงหญิงสาวจะว่าง
ยังไม่แน่... ยูไปก่อนเถอะ คนไข้รอไออยู่ ซาร่าจึงลุกขึ้นยื่นเพื่อตัดบทสนทนากับพอลทันทีแล้วเดินนำพอลออกจากห้องพักส่วนตัว
คนไข้ที่ใช้บัตร เชิญทางนี้คะ ผู้ช่วยเรียกคนไข้ พร้อมเดินนำผู้ป่วยไปยังห้องตรวจเล็กๆ ภายในห้องซึ่งมีเตียงของคนไข้เตียงเดียว และโต๊ะทำงานของหมออีกหนึ่งตัว ซาร่านั่งประจำอยู่ตรงนั่น ส่วนภัทรพลยืนอยู่ข้างๆ เธอห่างออกไปเพียงนิดเดียว
เชิญด้านในเลยคะ ผู้ช่วยกล่าวพร้อมเปิดประตูให้คนไข้ก้าวเข้าไป
สวัสดีคะจากบริษัทอะไรคะ ซาร่าเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มอบอุ่นถามหญิงสาวที่ก้าวเข้ามา
นี่คะนามบัตร ดิฉันมาจากที่นี่คะ หญิงสาวส่งนามบัตรให้ซาร่าดู พร้อมๆ กับนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับซาร่า และก้มหน้ามองเท้าตนเองที่ตอนนี้บวมและปวดอีกต่างหาก
หน้าตาคุณแย่มากเลยนะคะ เป็นอะไรหรือคะ ซาร่าเห็นใบหน้าหญิงสาวซีดแถมด้วยเม็ดเหงื่อที่เกาะตามใบหน้าจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความห่วงใย พร้อมๆ กันนั้นคนไข้สาวต้องค่อยๆ เงยหน้าขึ้นตอบ
เท้าดิฉันคะ... บวมยังไม่หาย และที่สำคัญตอนนี้มันปวดมากๆ เลยคะ หญิงสาวชี้ไปที่เท้าเธอพร้อมทั้งอธิบายอาการที่เป็นอยู่ให้ซาร่าได้รู้ ซาร่าจึงลุกขึ้นเดินอ้อมมาดูที่เท้าของคนไขตนทันที
ตายจริง... นี่บวมมากเลย แสดงว่าคุณไม่ได้รักษาตั้งแต่ต้นใช่ไหมคะ ซาร่าถามออกไปตามอาการปวดและบวมของเท้าคนไข้ทันทีเนื่องจากอาการมันหนักเอาการทีเดียว
ซึ่งในขณะนั่นภัทรพลได้มองหญิงสาวที่เดินเข้ามาตั้งแต่ต้น แต่เธอไม่ได้สนใจและไม่ได้มองเขาเลยด้วยซ้ำ เธอดูแปลกตาไปมาก ดูผอมลงดวงหน้าคล้ำกว่าเดิมแถมยังซีดอีกต่างหาก ที่สำคัญใส่รองเท้าแตะแบบเป็นที่คีบ แต่ดูแล้วเธอไม่ได้คีบหรอกเพราะเท้ามัมบวมมาก... เธอคงใช้เท้าคอยดันมากกว่าภัทรพลคิด.... และยังคงมองอยู่อย่างนั้น
เสื้อยืด กางเกงยีนส์ และเป้ใบใหญ่ๆ นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดพิกล สะพายไปได้อย่างไรรู้ก็รู้ว่าตัวเองเจ็บ แต่เขาก็ยังคงยืนนิ่งเพราะตกใจหรือ... ดีใจที่ได้พบเธออีกก็สุดจะเดาได้ในตอนนี้ แต่เขากลับก้าวเข้ามาโน้มตัวลงใกล้ๆ คนเจ็บ ซาร่าจึงตกใจพร้อมๆ กับแปลกใจในท่าทางเช่นนั้นของชายหนุ่ม
ทำไมเพิ่งจะมาพบหมอ! ... คุณรู้ตัวดีว่าเป็นมาก! ... ภัทรพลถามออกไปเสียงเครียดจนซาร่าเองยังตกใจ แต่คงจะน้อยกว่าคนไข้ของเธอที่เงยหน้ามองมายังภัทรพล
คุณ! ... แก้วกานต์ดา เบิกตาโตอ้าปากค้างด้วยอาการตกใจเป็นอย่างมาก
พอล... ยูรู้จักรคุณคนนี้ด้วยหรอ ซาร่ารีบพูดขึ้นทันที
ผมรู้จักเธอ... นี้มันอาทิตย์กว่าแล้วทำไมไม่คิดจะรักษาเลย เขาบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิดที่เห็นเธอไม่ใส่ใจตัวเองเลยสักนิด
ปล่อยให้มันเป็นมากขนาดนี้ได้ยังไง เขาจึงทรุดกายลงนั่งบนส้นเท้า พร้อมกับยื่นมือออกไปจะจับข้อเท้าของหญิงสาว แต่หญิงสาวกลับดึงเท้าตนถอยกลับเข้าหาตัวแต่ไม่ทันเขาจึงจับและยังคงดึงมันไว้
คงคงเดินไม่หยุดเลยหล่ะซีเนี้ย ภัทรพลบ่นไปแล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ ซึ่งทางด้านแก้วกานต์ดาเองยังตกใจไม่หาย เพราะเธอรู้สึกเหมือนใจมันหวิวๆ อย่างไรพิกล ก่อนที่ลมภายในจะแล่นวาบไปตามร่างกายของเธฮ
คุณรู้จักกันหรอกเหรอนี่ พอล ซาร่าขมวดคิ้วถามขึ้น
ก็เขานี่หล่ะที่ทำให้เท้าฉันต้องเป็นยังงี้ แก้วกานต์ดาบอกออกไปด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
แล้วฉันก็ทำอะไรไม่ได้ถนัดเลยก็เพราะมัน... เป็นเพราะคุณคนเดียว! ... เธอยังคงตะคอกออกไปด้วยความโมโหคนที่ทำให้เท้าของเธอเป็นแบบนี้
ใครจะไปรู้ว่ามันจะเป็นมากถึงขนาดนี้หล่ะ เขาว่าเสียงเบา พร้อมๆ กับยังคงคลึงที่เท้าขอหล่อนไปมาเบาๆ
ปล่อยเท้าฉันเดี๋ยวนี้นะ... นายเป็นหมอรึไงหึ เธอว่าเขาเสียงห้วนทันที
เดี๋ยวคะ... พอลคุณออกไปก่อนนะคะ ฉันคิดว่าจะตรวจดูกระดูกก่อน ซาร่าเอ่ยแทรกขึ้นมาห้ามทัพทันที แล้วให้ชายหนุ่มออกไปรอด้านนอกเพื่อที่เธอจะได้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ซาร่า... มันไม่แตกหรอกนะกระดูกน่ะ แต่มันเป็นเพราะว่าเขาเดินมากเกินไปเท่านั้นเอง ชายหนุ่มบอกเหตุผลออกไป แถมยังมีทีท่าว่าจะไม่ลุกออกไปง่ายๆ เสียด้วยสิ
โอเค คะ ยูออกไปก่อนนะ อ้าว... คุณคะนั่นจะไปไหน ซาร่าพยักหน้ารับกับข้อมูลที่ชายหนุ่มบอก ซาร่าหันไปทางคนไข้สาวที่พยายามลากเป้ใบใหญ่ออกเดินไปที่ประตู หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องโกรธที่เห็นเขาที่นี่ เขาทำเธอเจ็บมากทั้งที่เท้าและที่ใจ เธอไม่อยากให้เขามาเห็นเธอในสภาพนี้เลย
นั่นคุณจะไปไหน ภัทรพลปราดเข้าไปถึงตัวเธอก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น
แล้วนี้ถือเข้าไปได้ยังไงไอ้เป้บ้าๆ นี่ เท้าเจ็บออกอยางงี้ เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวค่อนข้างแรง จนเธอรู้สึกเจ็บขึ้นมา
ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะฉันเจ็บนะ เธอตกใจไม่ใช่น้อย เขาเองก็ตกใจที่เขากล้าเข้าไปจับตัวเธอได้ยังไงกันนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาคิดในใจ
คุณ.. คุณจะทำให้ฉันเจ็ไปถึงไหน แค่นี้ก็พอแล้วนะ เธอตะโกนออกไปต่อว่าเขาด้วยความตกใจและโมโหที่เขากล้าเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวเธอแบบนี้
คุณก็กลับไปนั่งให้หมอตรวจสิ เขาว่าห้วนๆ แล้วยอมปล่อยมือออกจากไหล่เธอแต่โดยดี
ฉันจัดการเองดีกว่... คุณนะคุณ ซาร่าเดินเข้ามาหาคนไขแล้วหันไปค้อนชายหนุ่มที่ยืนดักด้านหน้าประตูไว้เพื่อนกันไม่ให้เธอออกไปได้
ฉันไม่ตรวจแล้วคะ... ฉันจะกลับแล้ว แก้วกานต์ดารู้สึกโมโหที่เธอทำอะไรไม่ค่อยถนัดและเขายังมาเห็นเธอให้สภาพแบบนี้อีกมันน่าเจ็บใจจริงๆ เธอจึงอยากออกไปให้พ้นๆ จากสถานการณ์แบบนี้เต็มที่แล้ว
คุณเดินออกจากที่นี่เมื่อไหร่ ผมจับคุณมัดติดกับเก้าอี้แน่! ... ภัทรพลพูดออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและส่งสายตาบอกให้รู้ว่าที่พูดออกไปนั้นเขาทำจริงแน่นอน
ก็ลองดูสิ คุณเป็นใครมิทราบ เธอว่าพร้อมทั้งเชิดหน้าใส่
บ้านเมืองมีคุกไว้ขังคน ไม่ใช่ขัง.... อุ๊ย เมือที่เพิ่งยอมปล่อยออกจากไหล่เธอก็ขยุ้มลงมาอีกรอบ และคราวนี้เขาออกแรงดันพาร่างของเธอมาที่เก้าอี้กดร่างให้นั่งลง ไม่สนใจเสียงร้องของเธอและซาร่าเลยสักนิดที่กำลังตกอกตกใจกันอยู่เลย
บอกให้ปล่อยฉัน แก้วกานต์ดายังไม่ละความพยายามยังคงดิ้นเพื่อให้หลุดจากการถูกมือทั้งสองข้างกดไหล่ไว้
คุณต้องตรวจเท้าคุณก่อน แล้วก็ทิ้งไอ้เป้บ้าๆ นี้ได้แล้ว เขาบอกเสียงเครียด แล้วกระชากเป้ของหญิงสาวออกแล้วโยนกระเด็นไปตรงมุมหนึ่งของห้องทันที
ขึ้นเตียงดีกว่านะคะ ซาร่าบอกคนไข้ด้วยน้ำเสียงเย็นขึ้นเพื่อต้องการแสดงความเป็นมิตรกับหญิงสาว และก่อนที่จะคาดคิดภัทรพลก็ตวัดร่างของหญิงสาวขึ้นในอ้อมแขนทันทีแล้วเดินตรงไปที่เตียง ทำให้แก้วกานต์ดาตกใจสุดขีด....
ซาร่า เร็วหน่อยตรวจได้เลย แก้วกานต์ดาอ้าปาก ตาค้าง แม้ว่าเขาจะวางเธอลงบนเตียงแล้ว แต่เข้าก็ยังคงกดไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวเอาไว้ ด้านซาร่ารู้สึกงงๆ แต่ก็รับคำไปอย่างคนมีอาการมึนๆ อยู่
ฉันซวยตลอดเลยที่ฉันเจอคุณ เธอว่าเขานัยน์ตาขวาง
ทำไมคุณจะต้อง... จะต้องทำอย่างนี้ด้วย หญิงสาวเริ่มมีอาการน้อยใจขึ้นมาเมื่อไม่สามารถสู้แรงชายหนุ่มได้เลยสักนิด
ก็คุณดื้อรั้นนักนี่ แผลก็เจ็บจะตาย แล้วยังทำเก่งอีก ภัทรพลก้มลงมองร่างเล็กบอบบาง... เธอเริ่มนอนนิ่งไม่มีการโต้ตอบ นอกจากส่งสายตาที่แสดงความจงเกลียดจงชังในตัวชายหนุ่มนั่นเอง
ทางด้านธนิดา ได้ยืนรอการกลับมาของแก้วกานต์ดาอย่างกระสับกระส่าย จนต้องลุกเดินกลับไปกลับมา ไปเป็นอันทำการทำงานเลย
นี่... นี่แม่ดายะ เธอเดินอยู่นี่ ฉันคิดระยะทางแล้วก็คงถึงเชียงใหม่แล้วมั้ง ฉันเวียนหัวเข้าใจไหม อ๊อดบ่นออกไปเพราะธนิดาทำให้เธอเวียนหัวจริงๆ ไม่รู้จะเดินไปเดินมาให้ได้อะไร
ก็หนูไม่รู้จะทำยังไงนี่เจ๊อ๊อด ธนิดาหันมาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
พี่แก้วไปตั้งแต่เช้า บอกให้หนูเตรียมงานรอหนูนัดมือกล้องเพื่อบันทึกภาพไว้บ่ายโมง คุณกฤษณะก็มานั่งรอนานแล้ว รถก็พร้อมจะออกเดินทางอีก พี่เขายังไม่กลับมาเลย... ธนิดาบ่นให้อ๊อดฟังด้วยกลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้วเธอจะแก้ไขยังไงหล่ะเนี้ยเธอไม่ได้เก่งอย่างพี่แก้วด้วยสิ
อุ๊ย! ... ตายจริงหล่อน แล้วไม่นัดกันให้รู้เรื่องก่อนล่ะยะฮึ อ๊อดว่าออกไป
ก็ทำตามที่พี่แก้วสั่งทั้งหมดทุกอย่างนี่คะ ธนิดาบอกไปว่าก็เตรียมตามที่สั่งไว้ทุกอย่างแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันจะเกิดปัญหานี่นาเธอคิดออกมา
ถ้าเขาสั่ง .. เขาก็คงมาซียะ อีอ๊อดยังคงจีบปากจีบคอพูด
แต่นี่หนูติดต่อพี่เขาไม่ได้เลย แล้วถ้ากล้องมาถึง ช่างแต่งหน้าทำผมมาถึงจะทำยังไงเจ๊ เราต้องไปถึงตราด ใช่ใกล้ๆ ... ไหนจะฝ่ายฉากอีก โอ๊ยตายแน่ๆ ธนิดาบ่นไปพร้อมกับสีหน้าเริ่มไม่สู้ดีนักเนื่องจากกลัวจะเกิดความผิดพลาดได้
แก้วเขาไม่บอกอะไรไว้บ้างเลยเหรอ กิ่งฉัตรถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาสมทบอีกคน
ไม่คะพี่ป้อม บอกแค่ว่าจะรีบมาให้ทัน ธนิดาบอกแต่สีหน้ายังคงกังวล
หนูเองก็ไม่กล้าถามว่าจะไปไหน หน้าตาพี่แก้วเขาไม่ยิ้มเลยด้วย ธนิดาเล่าออกไปให้ทั้งเจ๊อ๊อด และกิ่งฉัตรฟัง
เขาไม่สบายรึเปล่า เท้ามันเจ็บนี่ อีอ๊อดบอกขึ้นมา
เออ นั่นน่ะซิ ฉันเห็นเขาเดินน่าสงสาร บอกให้ไปตรวจ.. ไปรึยังก็ไม่รู้ กิ่งฉันเสริมขึ้นทันที
เดี๋ยวฉันออกไปรับหน้าคุณกฤษณะให้เอง อีอ๊อดทำท่ากรีดกรายพักหนึ่ง แล้วหันมาทางเพื่อนสาว
ส่วนหล่อนนังป้อม ช่วยเรื่องคิวที่เขากำลังจะมาถึงนะยะ อีอ๊อดเพื่อนสาวออกไปแล้วเดินไปรับหน้าคุณกฤษณะอย่างที่บอกไว้
ทางด้านแก้วกานต์ดา นั่งเงียบมาให้รถของภัทรพลโดยไม่ยอมปริปากอะไรเลยตั้งแต่ออกจากคลีนิก โดยที่เขาอาสามาส่งทั้งๆ ที่เธอปฏิเสธเสียงแข็ง แต่เขาก็เล่นอุ้มเธอออกมาจากคลีนิกแล้วยัดเธอเข้าไปให้รถของเขาหน้าตาเฉย
ผมถามคุณสามครั้งแล้วนะ คุณไม่ตอบผมแวะเข้าบ้านผมก่อนแล้วกันนะ เขาทำท่าจะหักพวงมาลัยรถเข้าข้างทาง เธอจึงรีบร้องห้าม
ไม่.. ไม่ได้นะ ฉันมีงานต้องทำ ชายหนุ่มยิ้มในหน้าเมื่อเธอเริ่มพูดออกมาแล้วถึงแม้จะไม่ไพเราะเท่าไหร่ก็ตามแต่
ฉันต้องเดินทางไปตราดวันนี้ ฉันเสียเวลาเพราะคุณมามากแล้ว เข้าใจไหม แก้วกานต์ดาตะคอกออกไปอย่างหงุดหงิดเพราะเธอต้องรีบไปเนื่องจากมีงานสำคัญมากๆ รอเธออยู่
ครับผม เขาโค้งศีรษะรับผิดแต่เพียงผู้เดียว แถมเหล่ตามองไปยังใบหน้าที่งอของหญิงสาวแล้วยิ้มที่มุมปากเหมือนเขามีความสุขยังไงพิกลที่ได้เจอกับเธออีกรอบในวันนี้
ที่ทำงานคุณอยู่ที่ไหน ชายหนุ่มเอ่ยถามเส้นทางกับหญิงสาว โดยแกล้งไม่สนใจกับท่าทางโมโหของเธอ
ขณะที่ทั้งสองหนุ่มสาวมั่งหน้ามายังออฟฟิตนั้นทางด้านของอ๊อดตั้งใช้วิทยยุทธต้อนรับนายกฤษณะเอาไว้จนเหงื่อตกแล้วตกอีกทีเดียว เพราะเขาเอะอะโวยวายที่เลยเวลามามากแล้ว
อุ๊ย.. ใจเย็นๆ สิค๊า อีอ๊อดเบียดร่างเข้าหานายกฤษณะ
อ๊อดว่าน้องเค้าต้องติดธุระจริงๆ เพราะไม่งั้นคงไม่ผิดเวลาอย่างนี้หรอกคะ อ๊อดอธิบายออกไปตามความคิดของตนเพราะปกติแก้วไม่ใช่คนไม่รักษาเวลาอย่างนี้แน่นอน
นี่ผมมารอตั้งแต่สิบเอ็ดโมง นี่มันสามชั่วโมงแล้วนะครับคุณ... กฤษณะว่าอย่างโกรธๆ สมชายค้อนประหลับประเหลือกค่อนขอดในใจดังๆ
แหม....ก็พอมหาจำเริญดันโผล่มาก่อนเวลานัดเป็นชั่วโมงนี่ยะ มันไม่นานจะไหวเหรอ อ๊อดคิดอย่างโมโหๆ
เออ... ต้องขอโทษด้วยนะคะ ธนิดาโผล่หน้าเข้ามาขัดจังหวะพอดี
เชิญคุณกฤษณะด้านล่างเลยนะคะ พี่แก้วมาถึงแล้วคะ ธนิดารีบแจ้งให้กฤษณะทราบในทันที พร้อมทั้งถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไปที
อ๋อ... มาแล้วเหรอยะ อีอ๊อดผุดลุกขึ้นมองตามร่างของกฤษณะ
นี่เจ๊อ๊อดไม่ลงไปเหรอ วันนี้พี่แก้วมาแปลกนะ ตื่นเต้นพิลึก ธนิดาบอกรู้ เพราะเธอเองก็แปลกใจเหมือนกัน
ทำไมยะ หน้ามันหุ้มทองมารึไง อีอ๊อดพูดออกไปอย่างอารมณ์เสีย
เจ๊อ๊อด พี่แก้วเขาให้แฟนมาส่ง โอ๊ย.... หล่อระเบิดเถิดเทิงเชียว ลูกครึ่งซะด้วยนะ พอธนิดาบอกเจ๊อ๊อดเท่านั้นเจ๊อ๊อดก็ทำตาโตยกมือทาบอก
วุ๊ย... จริงหรอ อีอ๊อดรีบเดินนำออกจากห้องทันที ธนิดาเองก็รีบหันหลังเดินตามออกไปทันทีเช่นกัน
ยายดา.. จริงหรอยะที่หล่อนพูด นี่! ..ยายดาเดินเร็วๆ หน่อยสิยะ อ๊อดถามออกไปเพื่อความแน่ใจแถมด้วยเร่งให้ธนิดาเดินตามมาเร็วๆ
ด้านแก้วกานต์ดา ขณะนี้เธอปั้นหน้าถูกเมื่อก้าวลงจากรถเพราะที่ลาดจอดรถตรงทางขึ้นตึกนั้นรถของกองถ่ายได้จอดเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว ช่างไฟ ช่างผม ช่างกล้อง และคนอื่นๆ ในทีมยืนกันเต็มไปหมด ที่หนักไปกว่านั้นกิ่งฉัตรยืนอยู่ด้วย ทุกคนจ้องมองมาที่เธอและภัทรพลกันเป็นตาเดียวเลยเชียวหล่ะ
ผมต้องขอโทษแทนคุณแก้วกานต์ดาด้วยนะครับ เขาว่าเมื่อเดินลงมายืนต่อหน้าทุกคน ด้านหญิงสาวได้แต่ยืนหน้าชาพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว
คือ... เราเสียเวลากับเท้าที่เจ็บของเธอน่ะครับ ภัทรพลบอก หญิงสาวจึงคิดด่าชายหนุ่มในใจว่าพูดเป็นต่อยหอยเลยนะ ยังกับรู้จักกับทีมงานของเธอมานานปีซะอย่างนั้นหล่ะ
พี่ป้อมคะ คือต้องขอโทษมากๆ เลยคะพี่ แก้วกานต์ดากระอ้อมกระแอมพูดแทรกขึ้นมาบ้าง
เผอิญว่าแก้วต้องเอ็กซ์เรย์ แล้วรอผลเลยน่ะคะ แก้วกานต์ดาชี้แจงออกไปถึงเหตุที่ทำให้เธอต้องมาช้าในครั้งนี้
แล้วจะไปตราดได้เหรอจ๊ะ กิ่งฉัตรพูดยิ้มๆ แล้วหันมาหลิ่วตามองเพื่อนรุ่นน้อง
เออ... ไม่แนะนำหรอจ๊ะ กิ่งฉัตรใช้ศอกกระทุ้ง ทางชายหนุ่มเห็นและได้ยินเขาจึงยิ้มๆ แล้วรีบรายงานตัว แก้วกานต์ดาจึงต้องแนะนำว่าใครเป็นใครกันบ้าง เขาทักทายทุกคนอย่างไม่เคอะเขินพูดเสียงดังฟังชัดอีกต่างหาก
ผมขอโทษที่ทำให้ทุกคนเสียเวลาครับ ภัทรพลเอ่ยขอโทษพร้อมทั้งก้มหัวลงเล็กน้อย แก้วกานต์ดาที่ยืนข้างๆ ตกใจเอ๊ะ... ตอนแรกที่รู้จักกันเขาไม่พูดเก่งขนาดนี้นี่นา ทำไมคราวนี้พูดเป็นไฟเลยหล่ะ
แก้วไม่ผิดครับ ผมบังคับเขาตรวจเอง หญิงสาวทำหน้ายุ่งไม่จะรู้ขัดจังหวะเขาอย่างไรดี
หมอบอกให้แก้วพักผ่อนมากๆ ไม่อยากให้เขาใช้เท้าข้างนี้มาก... น่ะครับคุณกิ่งฉัตร ชายหนุ่มยังคงไม่หยุดพูดแถมบอกยังกิ่งฉัตรกลายๆ ว่าควรให้หญิงสาวได้พักผ่อนมากกว่าจะลากเธอให้ออกไปทำงานเช่นนี้
อุ๊ย... บอกเขาเองนะคะ ทางเราไม่ว่าเรื่องพัก กิ่งฉัตรชิงตอบออกไปทันทีแถมบอกออกไปกลายๆ ว่าคนที่ดื้อรั้นเป็นแก้วกานต์ดาเองต่างหาก
นี่... คุณอย่ายุ่งมากกว่านี้ ได้ไหม แก้วกานต์ดาเงยหน้าพูดเสียงหลอดไรฟันพอได้ยินกันสองคน ภัทรพลก้มลงพูดออกมาหน้าเฉย
ก็ผมเป็นห่วงคุณนี่... มันผิดนักรึไง ชายบอกจ้องไปยังใบหน้าของเธอ ทำไห้ทุกคนได้ยินกันหมดรวมทั้งนายกฤษณะที่เพิ่งเดินเขามาหยุดยืนอยู่ใกล้ ถึงกับหน้าแดงด้วยความโกรธ
อะไรกันคุณแก้ว กฤษณะทักขึ้นเสียงดัง
ผมมารถคุณนานมากเลยนะครับ เขาบอกด้วยใบหน้าแดงจากความโกรธอย่างเห็นได้ชัดเจน
คุณกฤษณะ สวัสดีคะ แก้วกานต์ดาหันไปหาเขาพร้อมกับยกมือไหว้แววตาแสดงออกถึงการขอโทษ... ภัทรพลยังพูดต่อ
คุณทุ่มกับมันได้เรื่องงาน... แต่คุณควรมีเวลาให้ตัวเองบ้าง คุณเจ็บอยู่นะ แม้ว่าคุณจะไม่มีเวลาให้ผม... แต่ผมไม่เคยว่าอะไรคุณสักครั้งนะ
คุณ... นี่คุณจะบ้าไปแล้วหรอ คุณกลับไปได้แล้ว บ้าจริงๆ เธอหันกลับมาทำหน้ายักษ์ใส่เขาทันที่แต่เขายังคงทำเฉย
ผมไม่เข้าใจพวกคุณเลย จะเอายังไงผมเสียเวลานะ กฤษณะพูดสั้นห้วนด้วยความโกรธเขามองใบหน้าภัทรพลแสดงให้รู้ว่าเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ขอโทษจริงๆ นะคะคุณกฤษณะ เท้าแก้วเจ็บน่ะคะ กฤษณะได้ยินดังนั้นจึงมองไปที่เท้าของเธอแล้วเอ่ยกับหล่อนแบบขอโทษกลับ เขาทำท่าทางเป็นห่วงเธอจนออกนอกหน้าและขอดูเท้าและแตะที่เท้าเธอ เท่านั้นหล่ะภัทรพลหน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นแก้วกานต์ดายื่นเท้าให้มันดูโดยที่ไม่ว่าอะไรเลยสักคำ ทีกับเราจะจับทำเป็นเรื่องมาก แม่คุณเอ๊ย...
อ๊อด ไปช่วยแก้วเขาหน่อยนะเที่ยวนี้ เขาเดินไม่สะดวกต้องอยู่หลายวัน กิ่งฉัตรหันหน้าสู่เพื่อนประเภทสองซ่อนยิ้มในหน้าที่เห็นเพื่อนมองหนุ่มร่างสูงสมาร์ทตาโตสีฟ้า ก็ทำให้นึกสมน้ำหน้านายกฤษณะ
ถ้างั้นพวกเราก็เคลื่อนทัพได้แล้วคะ แก้วกานต์ดาหันไปบอกกับทุกคนให้เริ่มออกเดินทาง ส่วนตัวเธอเองหันกลับมาที่กฤษณะ
แก้วคงต้องขอติดรถไปพร้อมกับคุณฤกษณะ พี่อ๊อดไปเป็นเพื่อนแก้วนะคะ เธอขยับทำท่าจะเดินแต่ก็ช้ากว่ามือของภัทรพลที่คว้าไหล่ขวาเอาไว้ได้
คุณแน่ใจนะว่าที่คุณพูดนั่นไม่ใช่เพราะพิษปวดเท้า จนทำให้คุณเพ้อ ภัทรพลกัดฟันกรอดๆ ถามออกไปอย่างโกรธเอามากๆ ทีเดียว
เพ้อ.. แพ้.. อะไรฉันเตรียมงานกันมาเป็นเดือน เธอว่านัยน์ตาขวาง
คุณเองก็กลับไปซะทีซิ อ๋อ.. ขอบคุณที่มาส่ง เธอว่าเขาแล้วไล่เขาออกไปทันที
คุณจะต้องนั่งรถไปกับไอ้หน้าจืดนั่นนะเหรอ เขาไม่สนใจจะฟังอะไรทั้งสิ้น แล้วยังคงถามออกไปอีกเป็นรอบที่สอง
เอ๊ะ... นี่คุณจะเอายังไงบอกมาเลย เธอเงยหน้าขึ้นจ้อง ขณะที่รถคันหนึ่งเคลื่อนตัวออกไปแล้ว
ฉันไม่เหมือนคนอื่นนะจะบอกให้ เธอแหวใส่เขาทันที
รู้... ว่าไม่เหมือน ถึงไม่ค่อยไว้ใจไง โดยเฉพาะไอ้หน้าจืดนั่น ภัทรพลบอกออกไปตรงๆ อย่างไม่ปิดบังแถมแสดงท่าทางหึงในตัวหญิงสาวจนออกนอกหน้าซึ่งแก้วกานต์ดาก็งงกับท่าทีแบบนี้ของเขาว่ามันคืออะไรกัน หรือต้องการจะแกล้งเธอแน่
คุณไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขาอย่างนั้นนะ หลบไป... ฉันจะไปยกของ หญิงสาวออกแรกผลัก แต่ดูเหมือนแทบจะไม่มีแรงเลยเพราะเขาไม่ขยับเลยสักนิด
ให้ผมช่วยคุณดีกว่าไหมครับคุณแก้ว จะได้เร็วขึ้นเพราะกว่าจะถึงตราดคงดึกแน่ กฤกษณะเสนอตัวเข้าช่วยแล้วขยับเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แถมยังแอบเหล่ไปยังชายหนุ่มที่ยืนหน้ามุ้ยอยู่
ไม่เป็นไรคะ คุณไปถอยรถรถออกมาดีกว่านะคะ แก้วกานต์ดาบอกออกไปแล้วเขาก็ว่าง่ายเมื่อเห็นว่าเธอจะไปรถคันเดียวกับเขาจริงๆ เพราะทุกคนก็ออกไปกันหมดแล้วก็เหลือแค่เธอกับเขาสองคนเท่านั้น
แก้วกานต์ดาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นจนภัทรพลต้องนั่งยองๆ ทำท่าประคองด้วยกลัวเธอล้มลงไปท่าทีของเขาดูจะอ่อนโยนขึ้นทันที
คุณกลับไปได้แล้ว เงินที่คุณออกค่ารักษาพยาบาลก็ติดไว้ก่อน เพราะฉันมีสิทธิ์เบิกได้... คุณกลับไปเถอะ หญิงสาวบอกออกไปอย่างเหนื่อยๆ และเริ่มจะเพลียเพราะฤทธิ์ของยาที่กินเข้าไปนั่นเอง
ไล่จริงนะ คำก็ไล่สองคำก็ไล่... ทำไมคุณไม่เหมือนที่พ่อคุณบอกไว้เลย ไม่เหมือนสักนิดเดียว ภัทรพลบ่นให้หญิงสาวฟังอย่างเหนื่อยใจ แถมยังหลุดเรื่องของพ่อเธอออกไปอีกด้วย
คุณไปรู้จักกับพ่อฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ แก้วกานต์ดาตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจึงหันหน้ากับไม่มองเขาแล้วถามออกไปด้วยความไม่แน่ใจ
ผมรู้จักแล้วกันน่ะ รู้มากด้วย รวมทั้งเรื่องของคุณเกือบทุกเรื่อง ชายหนุ่มจึงเอ่ยออกไปตามตรงเนื่องจากหลังจากที่ได้พบกับหญิงสาวครั้งแรกเขาก็ยอมรับกับตัวเองว่าเขาสนใจในตัวหญิงสาวขาใหญ่ประจำหมู่บ้านคลองจิกเข้าให้แล้ว ดังนั้นเมื่อเขามีเวลาว่างจากการทำงานเขามักชวนไอ้เมฆไปเป็นเพื่อนในช่วงแรกๆ โดยให้ทางผู้ใหญ่บ้านพาตนกับเพื่อนไปแนะนำให้ทางบ้านของหญิงสาวได้รู้จักจนซึ่งคนในบ้านของหญิงสาวทุกคนมีอัธยาศัยดีเขาจึงเข้าร่วมพูดคุยได้ไม่ยากนัก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มที่จะเดินทางไปกลับเองโดยลำพังโดยไม่ต้องมีไอ้เมฆไปเป็นเพื่อนเลยในตอนนี้ ชายหนุ่มนึกขึ้นพร้อมทั้งส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปยังหญิงสาว
ฉันบอกให้คุณกลับไปยังไงหล่ะ เรื่องที่ว่า... นี่คุณอย่ามาอำฉันซะให้ยากเลย แก้วกานต์ดาบอกออกไปเพราะเธอไม่เชื่อในสิ่งที่ชายหนุ่มบอก
นี่ถือว่าดวงผมดีจริงๆ นะ พ่อคุณถามผมว่าได้เจอคุณไหม ผมบอกว่าเจอ ไม่นึกว่าจะเจอจริงๆ ชายหนุ่มยังคงย้ำออกไปตามความเป็นจริง
ฉันจะบ้า ฉันเหนื่อยนะ ปวดเท้าด้วยฉันไม่อยากเถียงกับคุณอีก หญิงสาวเบื่อเถียงกับชายหนุ่มเต็มทนจึงเอ่ยออกไป
อะแฮ้ม... ขอโทษนะฮ้า ที่เข้ามาขัดจังหวะคือเราพร้อมแล้วฮะ ไม่ทราบคุณ... อ๊อดเดินเข้ามาแล้วก้มลงถามทั้งสองหนุ่มสาวออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างสุดๆ สายตาก็ส่งไปยังชายหนุ่มซะมากกว่า
เอ้อ... คุณจะไปกับเราด้วยไหมครับ อ๊อดถามออกไปอย่างเป็นทางการทันทีด้วยแอบมีความหวังอยู่ลึกๆ นั่นเอง
อ๋อ... คนนอกไปด้วยได้ใช่ไหมครับ ภัทรพลหันมาส่งยิ้มให้อ๊อด เล่นเอาอีสาวอกสามศอกหัวใจพองโต
อุ๊ย... ได้ค๊า... มีที่พักพร้อม สะดวกค๊า อีอ๊อดยิ้มทั้งใบหน้าตอบออกไปทันที
อืม.. ผมอาจจะตามไป อ้อ... คุณกฤษณะผมฝากแฟนผมด้วยนะครับ ภัทรพลหันไปบอกทางกฤษณะที่จอดรถรอแล้วลงมาเพื่อที่จะรอรับแก้วกานต์ดาขึ้นรถไปพร้อมๆ กับเขา
แฟน... อุ๊ยตาย ว๊ายกรี๊ด... แฟน อ๊อดอุทานออกมาทันที และอย่าว่าแต่อีอ๊อดตกใจเลยทางแก้วกานต์ดาเองก็ถึงกับเซถลาอย่างงงๆ จนภัทรพลต้องยึดไหล่ของเธอเอาไว้
ได้ยินแค่นี้จะเป็นลมเลยหรอคุณ เขาถามยั่วเย้าออกไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนกฤษณะที่ยืนอยู่ได้ยินเข้าถึงกับหน้าซีดเซียวถอดสีไปเลย แถมยังทำอะไรไม่ถูกไปเลยทีเดียว
ทำไมเขาถึงกล้าพูดอย่างนี้... เป็นเพราะความห่ามของเขารึเปล่านะ จะด้วยเหตุผลอะไรก็เถอะ คำพูดของเขามันทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ ได้เลยนะเนี้ย
คุณแก้วครับ กฤษณะเรียกออกไปเสียงเบาหวิว
เราไปที่รถกันเถอะคะคุณกฤษณะ แก้วจะไปพร้อมกับคุณคะ เธอเน้นย้ำ
งั้นเดี๋ยวอ๊อดจะไปหยิบกระเป๋ามานะคะ อีอ๊อดผละออกไปด้วยความเร็ว กฤษณะมองแก้วกานต์ดาอย่างช่างใจ ก่อนที่จะเดินนำไปที่รถ ด้านภัทรพลก็กระแอมเบาๆ เมื่อหญิงสาวกำลังจะเดินจากไปอีกคน
คุณกฤษณะเขามีส่วนอะไรกับกล้องถ่ายถึงมีสิทธิ์ไปด้วย ภัทรพลถามออกไปด้วยความยากรู้ทันทีเพราะดูหญิงสาวจะดูแลเขาเป็นพิเศษซะเหลือเกิน
คุณจะอยากรู้ไปทำไม เธอหันมาถามห้วนๆ
ไม่เป็นไรนี่คุณ ถ้ามันเป็นความลับ เขาตัดบทเอาดื้อๆ ยักไหล่เหมือนกับว่าเรื่องที่ถามไม่สำคัญนัก
เอ้า.. รีบไปซีคุณแฟนคุณเขานั่งรอในรถนานแล้ว ภัทรพลจึงไล่ให้เธอไปที่รถเขาอย่างประชดประชัน
นี่! คุณอย่ามาพูดอย่างนี้กับฉันนะ เธอบอกเสียงห้วนนัยน์ตาวาวโรจน์
อ๋อ... โกรธ เขายังไหล่อีกครั้ง
แล้วคุณจะให้ผมเรียกเขาว่าอะไรดี เขาเลยถามออกไปแบบกวนน้ำให้ขุ่น
นี่! ... เธอขึ้นเสียงสูงห้วน
ฉันไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่คนที่คุณจะมาว่าเล่นๆ นะ เธอบอกเขาเสียงห้วนด้วยความโกรธ
ผมไปว่าอะไรคุณเล่นๆ ล่ะครับ ภัทรพลยักไหล่แล้วส่งยิ้มที่มุมปากใส่หน้าเธอ
อย่ามาทำหน้ากับฉันอย่างนี้นะ เธอโกรธจนหน้าใบหน้าเริ่มแดงแล้ว
แล้ว... คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาจับฉันเป็นแฟนคนนั้น คนนี้ เด็ดขาด แก้วกานต์ดากัดฟันว่าเขาออกไปอย่างเคืองแค้นเอามากๆ เลยทีเดียวที่เขามาก่อเรื่องในที่ทำงานของเธอ
มันก็ไม่แน่... หรอกคุณ... ผมอาจจะมีสิทธิ์ก็ได้ใครจะไปรู้ ชายหนุ่มเอ่ยด้วยใบหน้าทะเล้นจนหญิงสาวหมั่นใส้เต็มทน
หมายความว่าไง แก้วกานต์ดาถามออกไปด้วยความสงสัย
โอเค.... โอเค... ผมกลับก่อนดีกว่านะ คุณอย่าใช้เท้าที่เจ็บบ่อยนักนะ แทนที่ชายหนุ่มจะตอบคำถามหญิงสาว เขากลับเอ่ยตัดบทบอกลาทันทีแล้วเดินออกไปทันที
แก้วกานต์ดาเองก็เดินงงๆ ไปขึ้นรถพร้อมกับอ๊อดแล้วจึงออกเดินทางทันที เนื่องจากรถคันของเธอออกเป็นคันสุดท้ายเลยนั่นเอง
-----------------------------------------
กันฝากให้น้องๆ และเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกคนช่วยคอมเม้นด้วยนะคะ
เพื่อการพัฒนาของคนเขียนนะคะ
-------------------------------------------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะจ๊ะ
อยากเขาชุดปฐมพยาบาลให้เจ๊แก่นแก้ว เอ๊ย แก้วกานต์ดาจังเลยค่ะ
เก่ง อึด สวย ห้าว ครบเลยน่าเอกเรา คิก ๆ