ตอนที่ 5 : ตอนที่ 4 : ฉันแก้วกานต์ดา (100%)
ตอนที่ 4 : : ฉันแก้วกานต์ดา (แม่แก้ว...)
แก้วกานต์ดามาถึงออฟฟิตก็ปาเข้าไป 9 โมงเช้าเพราะกว่าเธอจะตะเกียกตะกายขึ้นมาถึงห้องทำงานก็แทบลมจับเลยทีเดียว พอเธอเข้ามาถึงที่ทำงานได้... ก็ต้องนั่งแมะลงที่โซฟารับแขกด้านหน้าที่ออฟฟิตนั่นหล่ะ แต่โชคยังดีที่ตรงที่เธอนั่งแมะลงไปนั่นยังมีแอร์เย็นฉ่ำจึงช่วยลดความร้อนและความเหน็ดเหนื่อยลงไปได้บ้าง...
เฮ้อ... นี่มันสมกับชื่อตึกจริงๆ เลย แก้วกานต์ดาบ่นออกมากับตนเอง
ทำไมหล่ะคุณแก้ว... แม่บ้านประจำออฟฟิตที่กำลังทำความสะอาดอยู่เอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
อ้าว... ก็ชื่อตึกเร่งพัฒนา.. ไงเล่า ลิฟท์มันก็เลยเสียได้ทุกวันเลยอย่างที่เห็นๆ กันอยู่เนี้ย เธอบอกออกไปพร้อมทั้งยังมีอาการหอบจากความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องเดินขึ้นมาแทนที่จะได้ขึ้นลิฟท์
เอ่อ... นี่เสียอีกแล้วหรอคะ คุณแก้วหอบแบบนี้เพราะเดินขึ้นบันไดนั่นเอง แม่บ้านบอกออกไปเพราะตอนที่ตนขึ้นมาลิฟท์ยังไม่เสียเลยนั่นเอง
ก็ใช่น่ะสิคะ แก้วถึงได้นั่งหน้าเป็นหมาหอบแดดอยู่อย่างนี้ไงคะ แถมคนยิ่งเจ็บๆ เท้าอยู่ด้วยนะคะเนี้ย เธอบ่นออกไปเพราะความเจ็บเท้าของตนมากกว่า เพราะที่เดินขึ้นบันไดนั้นเธอเห็นว่าตึกนี้ลิฟท์เสียจนเธอชินแล้วนั่นเอง
พี่แก้ว มาแล้วเหรอคะ กลับบ้านสนุกมั้ยคะ สุนันทาทักทายออกไปเมื่อเห็นหน้าแก้วกานต์ดา
ไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลย แถมมีคนฝากรอยแผลมาให้เจ็บใจอีกด้วย เธอบอกออกไปพร้อมทั้งทำหน้าอาฆาตไอ้หนุ่มนัยตาสีฟ้าคนนั่นจริงๆ
ใครล่ะ มาทำให้พี่แก้วของเราโกรธได้คะเนี้ย สุนันทาถามออกไปเพราะคิดว่าขนาดเจ้านายยังไม่กล้วกับพี่แก้วเลยแล้วใครยังจะกล้ากับพี่แก้วได้อีกเนี้ยท่าทางใครคนนั้นคงชะตาใกล้ขาดแล้วแน่ๆ เลยเธอนึกไปก็ขำไปด้วย
เออ ! พี่แก้ว.... เจ้านายถามหาพี่ตั้งแต่เช้าแล้วนะ สุนันทานึกได้ก็รีบบอกหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โซฟาออกไปทันที
ถามหาพี่น่ะเหรอ... แล้วนิดบอกกับหัวหน้าไปว่าไงหล่ะ แก้วกานต์ดาถามออกไปด้วยความแปลกใจที่หัวหน้าถามหาเธอ
สุนันทา โชติบุตร มีชื่อเล่นว่านิด เป็นสาวไทยที่มีสีผิวพม่า นัยน์ตาแขกยิ้มอย่างซุกซนก่อนเดินเข้าไปนั่งลงใกล้ๆ กับแก้วกานต์ดา
เปล่าตอบอะไรเลยพี่ พี่ปอเขาตอบ แต่เอ๊ะ... ไหงเจ๊ท่าทางไม่ดีเลยล่ะ นิดถามออกไปเมื่อลงไปนั่งใกล้ๆ แก้วกานต์ดาแล้วเห็นสภาพเธอดูไม่ได้อย่างที่ถามออกไปเลยจริงๆ
ก็พี่เพิ่งจะเดินขึ้นบันได้มาน่ะสินิด แก้วกานต์ดาบอกออกไปด้วยความหงุดหงิดที่ตึกนี้เร่งพัฒนาไม่เสร็จสักที
หรอ... ลิฟท์เสียอีกแล้วสิถ้างั้นอ่ะ นิดหัวเราะร่วนเห็นเป็นเรื่องขำๆ
หนักเลยพี่อ่ะ เท้าพี่เจ็บ เห็นมั้ยเนี้ย บวมฉึ่งเลย แก้วกานต์ดาบอกให้นิดรู้พร้อมทั้งยื่นเท้าออกมาให้นิดดูว่าบวมจริงๆ
อะไรกันพี่... ไปโดนอะไรม๊าอ่ะ... โห้พี่บวมเป่งเลยนะเนี่ยพี่แก้ว นิดถามพร้อมกับทำตาโต ตกใจเอามือทาบอกตนเอง
ขณะนั่นเองกิ่งฉัตรเดินสวนออกมาพอดีกับเสียงอุทานด้วยความตกใจของนิดที่เห็นเท้าของแก้วกานต์ดา
แก้วกลับมาเมื่อไหร่จ๊ะ กิ่งฉัตรถามแก้วกานต์ดาออกไปเมื่อเจอหน้า
เมื่อวานนี้คะที่มาถึง.. เอ๋...วันนี้พี่ป้อมไม่มีงานตัดต่อหรือคะ แก้วกานต์ดาตอบพร้อมถามออกไปเนื่องจากกิ่งฉัตรต้องทำงานด้านตัดต่อจึงไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่
อืม... ยังจ๊ะ กิ่งจัตรบอกไปโดยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
ตายแล้ว ! เท้านั่นไปโดนอะไรมา.. แม่แก้ว กิ่งฉัตรหัวหน้าฝ่ายผลิตหรือป้อมของน้องๆ สาวรูปร่างเล็กร้องออกมาอย่างตกอกตกใจเป็นการใหญ่
โดนกระทืม... ตัวโตอย่างกะยักษ์ รองเท้าที่เหยียบเงี๊ยะก็ใหญ่มากๆ เลยหล่ะแล้วยังน้ำหนักอีก แก้วกานต์ดาบอกออกไปแสดงท่าทางว่าเจ็บน่าดูเลยหล่ะ
ซวยจริงๆ เลยเนอะพี่แล้ว นิดพูดไปพร้อมทั้งมองเท้าของแก้วกานต์ดาอย่างแหยงๆ
เวรกรรม... แล้วนี่เราจะทำงานสะดวกหรอ กิ่งฉัตรทำหน้าเหมือนจะเจ็บแทนเลยทีเดียว
ไม่ไหวก็หยุดพักนะโว้ย... เดี๋ยวเจ้านายจะมาหาว่าฉันโขกสับให้งานหล่อนอีก กิ่งฉัตรบอกออกไปเนื่องจากรู้ดีว่าแก้วกานต์ดาเป็นคนโปรดของเจ้านายตน
แก้วหยุดไม่ได้หรอกคะ อาทิตย์หน้าแก้วต้องออกถ่ายพร้อมสัมภาษณ์นักธุรกิจใหญ่คะ แก้วบอกสาเหตุที่เธอต้องทนเดินทางมาทำงานออกไป
แล้วจะออกไหวหรอเนี้ย เท้าแก้วบวมมากๆ เลยนะน่ะ ถ้าขืนไปเดินบ่อยๆ มันจะไม่หายเดี๋ยวก็ได้อักเสบมากขึ้นไปอีกหรอก แม่แก้ว กิ่งฉัตรถามออกไปเพราะจากที่มองเท้าของแก้วกานต์ดาแล้วมันอักเสบแล้วมากกว่าน่ะสิ
พี่ก็ไปหาหมอซิ.. ที่นี่ใช้สิทธิ์เบิกได้เต็มที่นี่นา นิดบอกออกไป
ก็คงต้องไปหาหมอแล้วหล่ะ... เพราะตอนนี้เริ่มรู้สึกว่ามันจะปวดตุบๆ ขึ้นมาแล้วหล่ะคะ แก้วกานต์ดาบอกและสีหน้าของเธอก็แสดงให้เห็นว่ามันปวดมากๆ
..............................
งั้นงานตัดต่อก็โยนไปให้พี่ตี๋เขาช่วยแล้วกันนะ จะได้เสร็จเร็วๆ แล้วก็เอาเจ้านาไปช่วยงานของเธอไปก่อนช่วงนี้นะแม่แก้ว กิ่งฉัตรสั่งงานแก้วกานต์ดาออกไปทันทีเนื่องจากดูจากสภาพของเธอแล้วคงจะทำงานได้ไม่คล่องตัวเหมือนอย่างที่เธอเคยเป็น
ขอบคุณมากๆ เลยคะพี่ป้อม แต่... แก้วว่ามันคงไม่ยุ่งยากมากขนาดนั้นมังคะพี่ป้อม แก้วกานต์ดาแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งในน้ำใจของกิ่งฉัตร แต่เธอกลับคิดว่าตนสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนถึงเพื่อนร่วมงานซึ่งพวกเขาก็งานยุ่งกันอยู่แล้วด้วย แก้วกานต์ดาจึงไม่อยากรบกวนเพื่อนร่วมงานของเธอ
แม่แก้ว... หล่อนไหวแน่นะ กิ่งฉัตรถามพร้อมทั้งจองหน้าแก้วกานต์ดาด้วยเชื่อว่าหญิงสาวจะทำไหวแน่นอนแค่เห็นเท้าที่บวมมากของหญิงสาวแล้วยิ่งทำให้กิ่งฉัตรต้องส่ายหน้าไปมาแสดงความเบื่อหน่ายกับความดื้อรั้นของหญิงสาวนั่นเอง
อ้อ... มีเหลืออีกคนไงที่ว่างงานอยู่น่ะ ก็อีอ๊อดไง อีอ๊อดที่กิ่งฉัตรนึกขึ้นมาได้อย่างกะทันหันนั้นก็คือนายสมชาย หญิงประเภทสองผู้ซึ่งพูดจาสุดฤทธิ์สุดเดชเสมอโดยเฉพาะกับใครก็ตามที่เป็นเพื่อนสนิทกันอย่างกิ่งฉัตร ทุกคนในออฟฟิตจึงไม่แปลกใจกับเสียงตอบกลับทันทีที่อ๊อดได้ยินชื่อตนจากปากของกิ่งฉัตร
ทำไมยะ ทำไมฉันนั่งอยู่ตั้งสุดกู่โน้น เสียงหล่อนยังแหล๋นไปถึงโน้นเชียวนังป้อม อ๊อดสวนออกไปทันทีที่เพียงแค่ได้ยินชื่อตนเท่านั่น
แกว่างอยู่ไม่ใช่เหรออีอ๊อด เดี๋ยวช่วยไปจองงานกับแม่แก้วมันหน่อยสิ กิ่งฉัตรสั่งออกไปอย่างเป็นการเป็นงานเนื่องจากรู้จักนิสัยของอ๊อดดี
แม้... เสด็จมาได้แล้วหรอยะหล่อน เล่นหายไปตั้งสามสี่วัน ฉันเนี้ยรับโทรศัพท์หล่อนซะจนหูงี้ชาไปเลยนะยะ อ๊อดบ่นไปก็ส่งสายตาจิกไปยังใบหน้าที่ยังคงซีดเซียวอยู่ของแก้วกานต์ดาเพราะอ๊อดเหนื่อยหน่ายกับการรับโทรศัพท์แทนแก้วกานต์ดาเอามากๆ พร้อมทั้งยกมือขึ้นท้าวสะเอวตนเชิดหน้าใช่เธอซ้ำอีกด้วย
เอ๊ะ.. แล้วทำไมเวลาแก้วอยู่ไม่ยักกะมีโทรศัพท์หล่ะ..... พี่อ๊อดอย่ามาโอเวอร์เกินไปหน่อยเลยน่า แก้วกานต์ดาบ่นกับตนเองเรื่องโทรศัพท์เพราะเวลาหล่อนอยู่ที่ทำงานปกติก็ไม่มีโทรศัพท์เข้ามามากมายเลย แก้วกานต์ดาจึงกล่าวหาอ๊อดว่าพูดเกินความเป็นจริง
ต๊าย... ต๊าย... นี่หล่อนฉันเนี้ยนะโอเวอร์ อ๊อดหญิงประเภทสองร่างยักษ์ยกมือขึ้นทาบอกอุทานออกไปแล้วส่งค้อนวงใหญ่ๆ มาให้แก้วกานต์ดาที่เธอไม่เชื่อในสิ่งที่สาวร่างยักษ์บอกออกไป
ก็จะใครซะอีกหล่ะยะ... ก็นายกฤษณะ เจ้าของบริษัทก่อสร้างที่โทรมาหาหล่อนทุกๆ ครึ่งชั่วโมงเลยมั้งจนหูฉันชาน่ะสิยะหล่อน รู้ไว้ซะด้วย สมชายหรืออีอ๊อดยกมือยกไม้แสดงท่าทางประกอบบอกให้รู้ว่ารำคาญเต็มทน
เดี๋ยว... เดี๋ยวเถอะหล่อน ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะว่าอย่าให้ฉันได้เห็นหน้าหรือเจอตัวเชียวนะ อ๊อดบ่นออกมาอย่างหมดความอดทนกับการรับโทรศัพท์ของนายกฤษณะ ทวีโชคเจ้าของธุรกิจก่อสร้างแล้ว
ทำไม.. ถ้าหล่อนเห็นหน้าเขาแล้วหล่อนจะทำอะไรเขาอีอ๊อด ป้อมเพื่อนสนิทอ๊อดถามออกไปเพราะเบื่อกับความเป็นคนช่างบ่นของอ๊อด
ก็.. จะอะไรซะอีกหล่ะยะ ก็ถ้าหนุ่มหน่อยฉันจะจับฟันน่ะสิย่ะ แกนังป้อมอย่ามาทำไร้เดียงสาหน่อยเลย... ฉันทุเรศ อ๊อดสาวร่างยักษ์บอกไปเพราะเขารู้ใจกิ่งฉัตรเพื่อนสนิทของตนดีเช่นกันนั่นเอง
เอ๊ะ.. แต่นิดได้เห็นแล้วนะคะ หน้าตาท่าทางก็ใช้ได้คะ ถ้า... ไม่ติดว่าตี๋ไปหน่อยน่ะคะ สุนันทาเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งฟังทุกคนเถียงกันไปมาอยู่พักหนึ่งเพราะเธอเคยเจอกับนายกฤษณะเจ้าของธุระกิจก่อสร้างมาแล้วนั่นเอง
จะตี๋เต๋อฉันไม่สนใจหรอกยะ.. ว่าแต่หล่อนเถอะแม่แก้ว อ๊อดสาวร่างยักษ์หันไปถามแก้วกานต์ดาเมื่อฟังจากที่สุนันทาบอกเล่าเกี่ยวกับนายกฤกษณะเจ้าของธุรกิจก่อสร้าง
อะไรหรอคะ... แล้วเขาโทรมาฝากเรื่องอะไรไว้กับพี่อ๊อดหรือเปล่าคะ แก้วกานต์ดาตอบออกไปแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเนื่องจากเธอไม่ได้สนใจนายกฤษณะอะไรนั่นซะหน่อย แต่ที่เธอสนใจคือข้อมูลที่นายกฤกษณะโทรมาหาเธอต่างหากเพราะเธอเกรงว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานของเธอ
เปล้า... แต่ถ้าหล่อนวางมือฉันเองก็จะทำหน้าที่แทน... อ๊อดสาวร่างยักษ์พูดลอยๆออกไปแบบมีเลศนัย
อุ๊ย.. จริงหรอพี่.. เอาไปเลยพี่ แก้วยินดีมากๆ เลยหล่ะ แก้วกานต์ดารีบบอกสาวร่างยักษ์ด้วยใบหน้าและท่าทางแสดงความดีใจจนออกนอกหน้าทันทีเลยเมื่ออ๊อดเสนอตัวจะทำแทนเธอ
แต่... ใช่ฉันจะใจร้ายหรอกนะยะ แต่ฉันอยากให้ผู้หญิงในออฟฟิตนี้ขายออกสักคนบ้างนะสิยะ ดูสิจะแห้งเหี่ยวตายกันหมดแล้วเนี้ย อ๊อดสาวร่างยักษ์ยกมืองทั้งสองข้างชี้ขึ้นไปยังสาวๆ ในออฟฟิตตน และหยุดชี้ไปที่ใครคนหนึ่ง
ยิ่งหล่อนเนี้ยปาไปสามสิบกว่าแล้วนังป้อม แกควรจะรู้จักหาผัวได้แล้วไม่ใช่บ้างานอยู่อย่างนี้ยะ อ๊อดแว๊ดออกไปทันทีจนกิ่งฉัตรทำหน้างงๆ ไปพักหนึ่ง
อีอ๊อด! แล้วแกมายุ่งอะไรกับเรื่องส่วนตัวของฉัน แกเองยังหาเหยื่อไม่ได้เลยนะยะว่าแต่คนอื่นเขา กิ่งฉัตรพอหายงงก็ตวาดกับสาวร่างยักษ์ที่กำลังเดินกลับไปยังที่โต๊ะทำงานของตนเอง จากนั้นการตั้งกลุ่มสนทนาขนาดย่อมๆ ประจำออฟฟิตก็เป็นอันสิ้นสุดลงทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตนเอง
หลังจากผ่านช่วงมื้อกลางวันไปแล้วทุกคนในออฟฟิตก็เริ่มทยอยกันเข้ามาทำงานของตนต่อ จะมีก็แต่แก้วกานต์ดากับธนิดาที่เร่งทานมื้อเที่ยงแล้วยังต้องเร่งรีบกับการจัดเตรียมเอกสารเพื่อที่จะออกไปยังบริษัทของลูกค้าที่ส่งจดหมายตอบรับการขอนัดสัมภาษณ์กลับมาแล้ว จากนั้นทั้งสองสาวจึงได้ขึ้นไปนั่งประจำที่เบาะด้านหลังของรถตู้บริษัทที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อออกเดินทาง ในมือของแก้วกานต์ดานั้นเต็มไปด้วยเอกสารและหนังสือมากมาย จนทำให้ ธนิดาไม่กล้าเสนอตัวเข้าช่วยเหลือเพราะไม่กล้าที่จะถามกับสีหน้ายุ่งๆ ของแก้วกานต์ดา แม้ว่าเธออยากจะช่วยมาแค่ไหนก็ตาม เพราะธนิดาและทุกคนในออฟฟิตเป็นที่รู้กันดีว่าแก้วกานต์ดานั่นถ้าลองเธอมีใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดีหล่ะก็ต้องมีใครสักคนที่โชคไม่มีถึงขั้นร้องไม่ออกเลยเชียวหล่ะ
ดา... หนังสือตอบรับของบริษัทไปไหน พี่หาหลายรอบจนเหนื่อยแล้ว ดาได้เตรียมมาด้วยรึเปล่า แก้วกานต์ดาถามออกธนิดาไปแต่เธอนั่นก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาหาหนังสือตอบรับฉบับนั้นต่อไปเรื่อยๆ
เตรียมซีคะ... ดาเสียบไว้กับจดหมายของพี่ตรงแป้นรองเขียนบนโต๊ะนั่นล่ะคะ ธนิดาตอบด้วยความกลัวว่าตนจะทำเอกสารของแก้วกานต์ดาหายไปจึงรีบชี้แจ้งออกไปทันที
หรอ.. ดาลืมแน่ๆ เลย แล้วนี้ก็รีบด้วย แต่พี่ก็เตือนดาแล้วนี่นา แก้วกานต์ดาหยุดหาและหันมาบอกกับธนิดาอย่างไม่พอใจในการทำงานของเธอแถมส่งสายตามแสดงการตำหนิออกมาอย่างชัดเจน
เอ้อ.. เออ... ดาขอโทษนะคะ ดาคงลืมจริงๆ แล้ว... แล้วเราจะกลับไปเอาไหมคะพี่แก้ว ธนิดาเอ่ยออกไปอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้แก้วกานต์ดาไม่พอใจ และเอกสารที่ต้องใช้ก็ไม่ครบที่จะนำไปติดต่อกับทางลูกค้าอาจจะขอเข้าพบทางลูกค้าไม่ได้อีกเธอต้องเดือดร้อนแน่ๆ เลย
ไม่ต้อง... มาจนถึงครึ่งทางแล้ว ไงก็ต้องเลยตามเลย... แก้วกานต์ดาพูดอย่างพยายามระงับความหงุดหงิดเอาไงอย่างเต็มทีแม้จะทำได้ไม่เนียนนักก็ตามแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องการให้แสดงออกมาทางสีหน้ามากนักไม่งั้นใครก็ใครต้องได้กระเจิงเป็นแน่แท้ และอาจเป็นเพราะตอนนี้ไอ้เท้าที่บวมอยู่เริ่มมีอาการปวดตุบๆ อีกแล้วก็ได้เธอจึงต้องพยายามระงับความหงุดหงิดเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
ส่วนธนิดาไม่ต้องพูดถึงเลยก็ว่าได้ เพราะเธอได้แต่นั่งก้มหน้าเงียบกริบไปเลยทำตัวเหมือนกับไม่ได้นั่งมาในรถคันเดียวกับแก้วกานต์ดาก็ไม่ปาน
ดา.. ดาขอโทษจริงๆ คะ ก็.. ก็ดาเข้าใจว่าเก็บของเสร็จ และเตรียมจดหมายแล้วด้วย ธนิดาก้มหน้าก้มตาขอโทษอีกรอบพร้อมกับชี้แจงให้แก้วกานต์ดาฟังเพราะกลัวว่าตนจะทำให้เสียงานครั้งนี้ไป
อืม... เป็นเพราะงานดาเยอะมากจนเกินไปรึเปล่า แก้วกานต์ดาซึ่งกำลังนั่งสงบสติอารมณ์ และใช้ความคิดอยู่ได้ยินธนิดาเอ่ยขอโทษเสียอ่อยๆ จึงหันไปถามด้วยน้ำเสียงที่น่าฟังมากขึ้น
ขอโทษครับ... ไม่ทราบว่าจะให้ผมเอารถเข้าไปในตึกเลยรึเปล่าครับ พนักงานขับรถตู้ประจำบริษัทมองกระจกมองหลังแล้วเอ่ยถามขึ้นมาขณะที่ใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
อ๋อถึงแล้วเหรอ... นั่งจนลืมเลย แก้วกานต์ดาหันซ้ายแลขวาก่อนจะมองขึ้นไปบนตึกสูงด้านหน้าที่มีป้ายเขียนชื่อตึกชัดเจนว่าอาคารอดุลกิจเจริญ
เอาเลย... ดำเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานจอดรถเลย ดาเตรียมของและเอกสารที่เหลือให้พร้อมแล้วตามพี่ขึ้นไปด้วยนะ แก้วกานต์ดาสั่งพนักงานขับรถบริษัทที่ชื่อดำให้เข้าไปเลี้ยวรถเข้าไปภายในอาคารได้เลย แล้วตามด้วยหันไปสั่งงานธนิดาอย่างคล่องแคล่วว่องไว
แก้วกานต์ดากับธนิดาแลกบัตรกับพนักงานตอนรับภายในอาคารโดยแจ้งว่ามาติดต่องานที่ชั้น 15 ภายในตัวอาคารจากนั้นก็ทั้งสองสาวก็ขึ้นลิฟ์ทไปยังชั้น 20 พอออกจากลิฟ์ททั้งสองสาวก็เดินผ่านแผนกต่างๆ ลึกเข้าไปเพื่อตรงไปยังห้องของประธานบริษัท แก้วกานต์ดาทราบดีว่าที่นี่ทำงานอย่างมีระบบเนื่องจากเธอศึกษาและค้นประวัติของบริษัทมาก่อนที่จะดำเนินเรื่องขอเข้าพบเธอจึงทราบเป็นอย่างดีว่าที่นี่เขาทำงานสไตล์ของฝรั่งโดยแท้ ดังนั้นเวลาคือสิ่งสำคัญ ความสะอาดก็เช่นกัน
เลขาสาวสวยนั่งประจำหน้าห้องของประธานบริษัท เงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะเห็นหน้าสองสาวก็ส่งรอยยิ้มด้วยไมตรีมายังแขกที่เพิ่มมาเยือน แม้จะมีแววค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีการแต่งตัวแถมด้วยท่าเดินของหญิงสาวอีกคนที่เขย่งๆ เดินของฝ่ายมาเยือนอยู่บ้างก็ตาม
สวัสดีคะ จากที่ไหนคะ ต้องการพบใครคะ แล้วได้นัดไว้หรือเปล่าคะ เลขาสาวสาวหน้าห้องส่งยิ้มพร้อมกับถามออกไปตามมารยาทของการขอเขาพบท่านประธานของบริษัท
นัดคะ นี่คะนามบัตร แก้วกานต์ดาบอกพร้อมยื่นนามบัตรให้กับเลขาสาวสวยได้ดูนามบัตรของเธอ เลขาสาวสวยรับมาพร้อมกับพลิกดูแว๊บหนึ่งก่อนเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้อีกรอบ
อ๋อ... ตั้งรอแป๊ปหนึ่งนะคะ พอดีท่านติดธุระด่วนจริงๆ ต้องขอโทษด้วยคะ เออ... เชิญทางนี้ก่อนนะคะ เลขาสาวสวยชี้แจงพร้อมผายมือเชิญหญิงสาวสองคนให้เดินตามเธอไป
แก้วกานต์ดาส่ายหน้าด้วยความหงุดหงิด เกิดอาการเซ็งอย่างสุดซึ้ง อดที่จะนึกถึงคนร่างยักษ์ที่เธอจงใจเรียกเช่นนั่นและเกลียดในท่าทางของเขาเข้ากระดูกดำ ถ้าเธอไม่โดนเหยียบเท้าจนเป็นแบบนี้เธอคงจะทำอะไรคล่องตัวมากกว่านี้เป็นแน่
พี่แก้ว... เท้าแก้วทำไมมันบวมมากจังเลยหล่ะคะน่ะ ธนิดาเห็นแก้วกานต์ดานเดินเขย่งๆ และเท้าที่บวมมากๆ จึงถามออกไปด้วยความสงสัย
มันเหยียบลงมาหนักมากๆ เลยหล่ะดา แถมขยี้ด้วย... รองเท้าส้นหนาๆ น่ะ แก้วกานต์ดาอธิบายแถบมองเห็นภาพ แถมยังนึกโมโหชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้านั่นอีกต่างหาก
ที่จริงพี่ก็นึกว่าจะไม่บวมมากมายขนาดนี้หรอกนะ คงเป็นเพราะพี่เดิน และใช้งานเท้ามากไปแล้วจริงๆ แก้วกานต์ดาบ่นกับความคิดตอนแรกของตนเองที่น่าจะหายามาทาซะตั้งแต่แรกแล้วก็ดีจะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้
แล้วทำไมพี่แก้วไม่หาอะไรมาทา หรือนวดบ้างหล่ะคะ ธนิดาบอกด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากมันบวมจนน่ากลัวจริงๆ
ก็..พี่กลับถึงบ้านที่ไรพี่ก็หลับเลยทุกทีน่ะสิ แก้วกานต์ดาบอกขณะที่สายตาเริ่มสอดส่ายมองหาเลขาสาวสวยเนื่องจากเธอรู้สึกว่าเริ่มรอนานแล้ว
ไม่ได้นะคะ ขืนพี่เดินไม่หยุดอย่างนี้ เดี๋ยวอักเสบข้างในได้นะคะ ธนิดาว่าไปตามที่สายตาเห็นว่าเท้าของแก้วกานต์ดาบวมมากไปแล้ว
แล้วนี่พี่ยังไม่ได้ไปให้หมอดูให้อีกหรอคะเนี้ย ธนิดายังคงถามแก้วกานต์ดาเนื่องจากเธอเป็นห่วงหญิงสาว แต่แก้วกานต์ดากลับสอดส่ายสายตามองหาร่างเลขาสาวสวยด้วยว่าทำไมยังไม่มาเชิญเธอไปพบประธานบริษัทสักทีเนื่องจากเลยเวลามามากแล้ว และยังไม่ทันที่แก้วกานต์ดาจะได้โต้ตอบกับธนิดา สาวงามนางหนึ่งก็เดินสวนออกจากห้องท่านประธานอย่างสง่างามสมกับหุ่นและรูปร่างของเธอ และปากที่แต่งแต้มสีไว้อย่างชวนให้น่ามองเป็นอย่างยิ่งแถมเลขาสาวสวยก็เดินเข้ามาพอดีเลขาสาวสวยจึงโค้งให้พร้อมส่งยิ้มเยื้อนให้เธอคนนั้น
เหมือนใครคนหนึ่ง แต่ดาก็นึกไม่ออกคะพี่ ธนิดาเองก็มองไปยังร่างที่ก้าวออกมาจากห้องท่านประธานเช่นกันจึงเอ่ยบอกกับแก้วกานต์ดาไป
โอ้โอ๋... มีบอร์ดี้การ์ดซะด้วย ใหญ่น่าดู หญิงสาวในชุดแดงสดตัดกับผิวขาวสีน้ำนมผ่านหน้าสองสาวออกไปพร้อมๆ กับชายร่างใหญ่อีกสองนาย ซึ่งไม่แม้แต่จะปรายตามองคนที่นั่งอยู่ด้วยซ้ำ
เชิญคุณทั้งสองคนได้เลยคะ เสียงของเลขาสาวสวยทำให้หญิงสาวทั้งสองตื่นออกจากภวังค์สู่โลกของความจริง
ตามดิฉันมาเลยคะ เลขาสาวผายมือเชื้อเชิญแล้วเดินพอสองสาวเดินเข้าสู่ห้องกว้าง ที่ภายในตกแต่งไว้อย่างหรูหรา สวยงาม มีหลากหลายมุมซึ่งแต่ละมุมก็ล้วนสวยแตกต่างกันออกไปและล้วนจัดในสไตล์แบบไทยๆ ทั้งนั้น จากนั้นเลขาสาวสวยก็เดินออกไปพร้อมปิดประตูห้องเสร็จสรรพ
-----------------------------------
โอเค... ผมต้องขอโทษด้วยนะหนู เสียงทักดังมาจากทางด้านหลังของสองสาวที่มาหยุดยืนอยู่ภายในห้อง ทั้งสองสาวสะดุ้งเบาๆ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาทในการมาเข้าพบกับทางลูกค้า เสียงทักของผู้ชายฝรั่งร่างใหญ่จึงยืนยิ้มมองออกไปยังท่าทางของสองสาวอย่างเปิดเผยซึ่งผิดคลาดกับที่แก้วกานต์ดานึกเอาไว้ทั้งหมดเนื่องจากชายฝรั่งผู้นี้ดูมีความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว และเปิดเผยที่สำคัญดูไม่น่ากลัวอย่างที่นึกเอาไว้ อายุก็คงราวๆ ห้าสิบกว่าๆ ได้ และที่สำคัญพูดภาษาไทยได้ดีพอสมควรทีเดียว
สวัสดีคะท่าน แก้วกานต์ดาเอ่ยทักทายอย่างเป็นทางการพร้อมด้วยยกมือทั้งสองข้างขึ้นไหว้อย่างนอบน้อมธนิดาเองก็ทำเช่นกัน ชายเจ้าของห้องจึงมองอย่างยิ้มๆ
เอ๊า... เชิญนั่งเลยดีกว่า ชายเจ้าของห้องผายมือเชิญให้ทั้งสองสาวซึ่งน่าจะเป็นรุ่นหลานของเขาได้นั่งที่ส่วนของมุมรับรองแขก
เผอิญผมมีแขก แล้วก็มีธุระด่วน เลยต้องให้เขาเข้าพบตัดหน้าคุณไปก่อน ชายเจ้าของห้องชี้แจงเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองสาวต้องรอนานพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งนั่นถือเป็นการเสียมารยาทอย่างมากตามธรรมเนียมของฝรั่ง
อ๋อ.. เลขาท่านเรียนให้ทราบแล้วคะ แก้วกานต์ดาได้บอกออกไปตามความเป็นจริงซึ่งเธอก็เข้าใจเหตุผลเพราะมันเป็นเรื่องของธุรกิจ
เอ้า.. เอาน้ำอะไรดี หรือทานข้าวกันมารึยัง ชายเจ้าของห้องถามออกไปเมื่อคิดว่าทั้งสองสาวคงมารอนานพอสมควรเลยทีเดียวจึงเอ่ยชวนออกไป
อุ๊ย. ไม่เป็นไรคะ ขอบพระคุณท่านมาก เราสองคนเรียบร้อยมาแล้วคะ แก้วกานต์ดาบอกออกไปด้วยความเกรงใจและต้องการที่จะคุยงานที่ตนมาขอเข้าพบในวันนี้
ก็ทานไปด้วยคุยกันไปด้วยก็ได้นี่คุณ ชายเจ้าของห้องก็ยังคงเอ่ยชวนพร้อมส่งยิ้มเชิญชวนด้วยความเต็มใจและที่สำคัญชายเจ้าของห้องยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลยด้วยซ้ำเนื่องจากวันนี้แขกที่มาพบเยอะจริงๆ
คือดิฉันเอง เพียงอยากมาทำความเข้าใจกับท่านบางอย่าง ก่อนการบันทึกจริงในอาทิตย์ที่จะถึงนี้น่ะคะ จะได้ไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น แก้วกานต์ดาเริ่มพูดเข้าเรื่องงานทันทีด้วยความมั่นใจที่เธอเตรียมข้อมูลมาพร้อมอยู่แล้ว
ดิฉันจะได้อธิบายเป้าหมายรายการของเราอีกครั้ง คือ... เพิ่มเติมจากที่น้องเขาเคยทำเป็นหนังสือแจ้งมาทางท่านแล้วน่ะคะท่าน แก้วกานต์ดาชี้แจงข้อมูลให้ชายเจ้าของห้องทราบออกไปในทันที
แม่หนูนี่พูดเก่งจังเลยนะ ชายเจ้าของห้องหัวเราะออกมาเสียงดังๆ อย่างเปิดเผย พร้อมๆ กับที่มองหล่อนอย่างไม่เกรงใจ แถมยังแอบชื่นชมในความมั่นใจของเธอในใจ แต่หญิงสาวอีกคนกลับมานั่งเงียบเพื่อจดข้อมูลการสนทนาอย่างเดียวจริงๆ
อันที่จริงผมก็รู้จักกับทางเจ้านายของคุณอยู่บ้างนะ ถึงแม้จะไม่ค่อยคุ้นเคยกันเป็นการส่วนตัวก็ตาม ชายเจ้าของห้องบอกออกไปตามความเป็นจริง
ขอบคุณมากคะ ที่ท่านติดตามนิตยสารของเรา แก้วกานต์ดากล่าวแสดงการขอบคุณอย่างเป็นทางการกับชายเจ้าของห้อง
ผมชอบนะ ถ้ามีเวลาผมก็มักจะหยิบขึ้นมาอ่านบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดน่ะ ชายเจ้าของห้องบอกถึงความสนใจให้นิตยสารที่เขาตอบตกลงให้สัมภาษณ์ไปทั้งที่จริงๆ แล้วตัวเขาเองไม่ชอบเลยกับการที่ต้องมานั่งให้สัมภาษณ์บอกเล่าเรื่องต่างๆ ให้กับคนอื่นๆ ได้รับรู้แต่เขาเห็นว่านิตยสารฉบับนี้มีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริง และเขาก็เห็นว่ามันเป็นประโยชน์ต่อการโฆษณาโปรเจคสินค้าตัวใหม่ของเขานั่นเอง
คะ เรื่องของท่านก็จะลงในนิตยสารปักษ์หน้านะคะ แก้วกานต์ดาบอกออกไปเพื่อให้เขาจะได้รับรู้การออกวางแผงของนิตยสาร
เหรอ.... อืมดีนี่ ชายเจ้าของห้องเอ่ยอย่างยิ้มๆ พยักหน้ารับรู้ พร้อมกับแสดงความตื่นเต้นนัยน์ตาเป็นประกาย และในขณะนั้นเองแก้วกานต์ดาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของชายเจ้าของห้องเพราะมันทำให้เธอนึกถึงนายร่างยักษ์นันย์ตาสีฟ้านั่นที่เป็นต้นให้ทำให้เท้าของเธอต้องเป็นแบบนี้ซึ่งทำไมช่างละม้ายคล้ายคลึงกับชายเจ้าของห้องคนนี้นักนะ แต่เธอก็ยังคงเก็บอาการตกใจของเธอได้เป็นอย่างดี
อืม.. ผมตัดสินใจอนุมัติให้ใช้สถานที่และให้สัมภาษณ์ครั้งนี้นะหนู เขาบอกออกไปเมื่อตัดสินใจแล้วว่าผลที่ออกมาจะเป็นผลดีกับทางบริษัทมากขึ้น
ส่วนคนที่จะต้องถูกสัมภาษณ์... ไม่ใช่ผมหรอกนะ เขายิ้มอย่างอารมณ์ดีและเป็นกันเองมากขึ้น เมื่อเห็นแก้วกานต์ดานิ่วหน้าแสดงอาการงงกับข้อมูลที่ได้รับรู้ในขณะนั้น
ขอบคุณคะ... เอ้อ... สำหรับผู้ให้สัมภาษณ์ก็ต้องแล้วแต่ความกรุณาของท่านคะ แก้วกานต์ดาตอบออกไปอย่างนั้น... เพราะทีแรกหลังดีใจที่จะได้สัมภาษณ์เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่เคยเปิดให้โอกาสกับทางสำนักพิมพ์หรือรายการไหนมาก่อนเลย ซึ่งทีมของเธอจะต้องเป็นที่ถูกกล่าวขวัญถึงแน่นอน ถ้าใด้ทำเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เธอเริ่มชักไม่แน่ใจเสียแล้วสิ
----------------------------------------------------------------------------------
อิอิ... เริ่มจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ แล้วหล่ะคะ
คอมเม้นกันมาเยอะๆ นะคะ (กันแอบขอกำลังใจหน่อย)
แอบติดไว้ก่อนนะคะ แล้วจะมาอัพต่อนะคะ....
----------------------------------------------------------------------------------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สู้สู้.....นะจ๊ะ
รอเสมอนะจ๊ะรีบมาอัพนะ รออยู่จ๊ะ
อ่านแล้วจ้า ก็โอนะรีบอัพจ้า
จริง ๆ แก้วกานต์ดา น่าเป็นแก่นแก้วนะจ๊ะ คิก ๆ
ใครจะเป็นคนสัมภาษณ์แก่นแก้วน๊า ????
เป็นกำลังใจให้พี่กันนะจ๊ะ จุ๊ฟ ๆๆ
ตามมาเชียร์ เย่ ๆๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ ^O^
มาอ่านแว้ววววววววว อัพเร็วๆๆๆนาอัพนิดเดียวแล้วมันขาดตอนอะ
อื่อ ๆ รอบทเต็มนะจ๊ะ ^^
อ่านแล้ว อ่านแล้ว จร้าๆๆ... มาอัพเร็วๆๆแล้วกันรออ่านเด้อ