ฟิคบารามอส (ไม่ต้องเข้ามาอ่านแล้ววว)

ลำดับตอนที่ #4 : เปิดเผยตัวจริงมาซะโร เซวาเรส

"ทางที่ดี ไปคุยกะโรดีป่ะ"คิลเสนอขึ้นมา

"ก็ดี"คาโลตอบสั้นๆ สั้นทั้งปี เฮ้อ

แล้วทุกๆคนก็ไปที่ห้องสมุดกัน ระหว่างเดิน

"นี่ๆอัซเทีย"โรเซตสะกิดเด็กสาวเบาๆ

"ทำไม"

"เธอจะเลือกใครหรอ"โรเซตถามขึ้นก่อน ซึ่งอัซเทียทำสีหน้าปลงตก

"เลือกไม่ถูก"

 
ห้องสมุด

โรนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ คราวนี้เฟรินจึงวิ่งไปหาทันที โรเงยหน้าขึ้นมาแล้วแย้มรอยยิ้มน้อยๆ

"มีอะไรเนี่ย นายกินยาผิดรึเปล่าถึงมาห้องสมุด"

"ไม่ได้ผิดโว้ย"

"แล้วมีเรื่องอะไรล่ะเฟริน"โรย้อนถามแต่สีหน้ายังมีรอยยิ้มอยู่ ทำให้เฟรินและคาโลนึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ วิลเลี่ยม กรีนส์ หรือวิลเลี่ยม โบแด็ง เหมือนกันมาก ต้องใช่แน่ๆ

"เราต้องมาคุยกันให้รู้เรื่อง ชาเบรียน โบแด็ง เดอะ ปรินซ์ ออฟ เวนอล"เฟรินตะโกนเสียงดังลั่นห้องสมุด ทุกสายตามองมาอย่างตื่นตกใจ เจ้าชายชาเบรียนแห่งเวนอลที่ตายไปแล้วหรอ โรเริ่มทำสีหน้าเย็นเยียบแบบเจ้าชายอีกเป็นครั้งที่สองหลังจากที่เฟรินเคยได้เห็นมา

"ชั้นไม่ใช่"โรปฏิเสธเสียงแข็ง คราวนี้คาโลก้าวฉับๆมาบ้าง แล้วเรียกตราจักรพรรดิเวนอลออกมาที่ถูกผ่ามาครึ่งนึง แล้วเฟรินก็ดึงเหรียญอีกครึ่งที่โรห้อยคออยู่มา พอเอามาต่อกัน ปรากฏว่า ต่อได้พอดิบพอดี

"หึ ในเมื่อพวกนายรู้ตัวจริงของชั้นแล้ว จะทำยังไง"โร หรือชาเบรียนถาม เพราะว่า ทุกคนรู้แล้ว

"กลับไปเวนอล ไปเผยตัวจริง แล้วครองเวนอลแทนวิเวียน"เฟรินและคิลตอบพร้อมๆกัน แต่ว่าอัซเทีย โรเซต และอัสมาเรียก็ขัดขึ้น

"มันเป็นไปไม่ได้"ทั้งสามแย้งขึ้นพร้อมๆกัน

"หมายความว่าไง"คิลหันมาถามด้วยสีหน้าสงสัย

"สามคนนี้พูดถูก"คาโลเอ่ยเนิบๆ

"พี่โรหรือเจ้าชายชาเบรียน ต้องมาใช้หนี้ให้ทริสทอร์ค่ะ เพราะเวนอลน่ะ ปู่ของพี่โร ได้ไปชิงตัวรัชทายาทของทริสทอร์มาเป็นราชินี ตอนนี้ ทริสทอร์ไม่มีรัชทายาทเหลือแล้ว ทริสทอร์เลยให้เวนอล ส่งรัชทายาทมาให้ และพี่โร ก็เป็นคนใช้หนี้แห่งเกียรติยศ ส่วนเรื่องเจมิไนและเวนอล ก็ลำบาก พี่โรเวน ได้ผูกมิตรกับจักรพรรดิวิลเลี่ยมที่สามไปแล้ว บางที เจมิไนอาจจะต้องโดนไปด้วย เรายังไม่แน่ใจ ส่วนอัซ เป็นหนึ่งในเจ็ดตัวแทนพระเจ้า มีคนต้องการเป็นราชินีเยอะมาก สังเกตุได้จากสาส์นขอแต่งงาน มาวันละไม่ต่ำกว่าสิบ แล้วการที่จะให้อัซปกครองเจมิไน มันเป็นเรื่องยาก ต้องให้พี่โรเวนเป็นคนปกครอง ถึงจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น"อัซเทียอธิบายเสียงดังฟังชัด

"แต่ว่า แก้สัญญาไม่ได้หรอ"ลูคัสหันมาถาม

"ไม่ได้ค่ะ ถึงจะเป็นพี่เฟรินที่เป็นเจ้าหญิงแห่งเอเดนและเดมอส พี่คาโลที่เป็นเจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาล ถ้าเกิดไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้ ทุกอย่างจะบานปลายทั้งหมด ข้อหาล่วงละเมิดทางการเมือง ไม่มีคิงหรือควีนไหนจะมาแก้ได้ เราต้องดูว่าทริสทอร์จะมีรัชทายาทรึเปล่า ถ้ามี พี่โรก็สามารถเปิดเผยตัวจริงได้ เจ้าหญิงวิเวียนจะได้มาเจมิไน"

"อัซเทีย เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอก็ได้นิ แล้วจัดการซะเอง"ไธนอสเสนอ "เธอเป็นเจ้าหญิงผู้ที่เป็นหัวใจแห่งเจมิไนด้วยนะ"

"เข้าใจค่ะ แต่ว่า งานล้นมือมาก พวกนรกเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ทั้งอัซเอง โรเซต และมาเรีย จะต้องระวังตัว ถ้าเกิดเจ้าเรนได้ตัวไป ทั้งโลกมนุษย์จะพังทันที เพราะพลังแห่งพระเจ้า ถ้าถูกลักพาตัวไปประกอบพิธีกรรมแห่งแพนเดโมเนีย ตัวแทนพระเจ้าจะตายทั้งหมด โลกจะทรุดโทรม บ้านเรือนพัง การเป็นตัวแทนพระเจ้าและเจ้าหญิง มันหนักยิ่งกว่าคิงอีกนะคะ"

ถ้าได้ตัวสามคนนี้ไป โลกจะพังทันที แต่ว่าถ้าไม่ได้ตัวไป เรื่องรักวุ่นๆจะไม่สมหวัง

"แต่ว่า จะลองหาวิธีดูก็ได้ค่ะ"อัสมาเรียว่า บางคนเริ่มสงสัยแล้วว่า พิธีกรรมแพนเดโมเนีย คืออะไร

"พิธีกรรม แพนๆอะไรเนี่ยมันเป็นยังไงอ่ะ"เฟรินถาม(คราวนี้ห่างเรื่องรักไปทุกที)

"พิธีกรรมแพนเดโมเนียค่ะ"โรเซตทวน"ไม่รู้เหมือนกัน อัซพอรู้มั้ยล่ะ"

"รู้"เด็กสาวพยักหน้ารู้ "พิธีกรรมนั้น มันใช้สำหรับทำลายโดยเฉพาะ แต่ว่า การที่จะทำได้ จะต้องรวบรวมตัวแทนพระเจ้าทั้งเจ็ดคนมา เมื่อพลังถูกสูบหมด ปีศาจจะจับฆ่าทิ้ง ถ้าตัวแทนพระเจ้าตายหมด นั่นจะเป็นการเข้าสู่ยุคมืด"

"แต่พลังพระเจ้ามันมีแต่ด้านบวกนิ"คิลค้าน

"ไม่ค่ะ มีทั้งสองด้านเลย แล้วแต่ร่างจะบังคับ พลังด้านลบ ก็คือ มาร กิเลส ความชั่วของโลกมนุษย์มารวมกัน และสิงสถิตในร่างของตัวแทนพระเจ้าทุกๆคน ถ้าถูกปลดออกมา ก็ไม่อยากจะพูดถึง..."


เพล้ง...

กระจกห้องสมุดแตก ทุกคนลุกพรวด หยุดสนทนากัน ไฟดับพรึบ ท้องฟ้าตกอยู่ในความมึดสนิท ฝนเทลงมา แต่ว่านั่นเป็นฝนเลือด และลูกเห็บเลือด..พออัซเทียทำท่าจะเดินไป ลอเรนซ์ก็กระชากตัวมาก่อน

"นี่ ดึงทำไม"อัซเทียหันไปโวยใส่

"เรายังไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพราะฉะนั้นอยู่นิ่งๆ"ลอเรนซ์สั่งเหมือนพ่อสั่งลูก แต่ว่าดาบเรียวสีฟ้าก็ทาบที่ต้นคอซะก่อน

"ยุ่ง พี่ลอเรนซ์น่ะควรจะอยู่นิ่งๆซะมากกว่า"แล้วเด็กสาวก็กระชากจี้ไม้กางเขนที่ห้อยออกมา ทำให้มีเลือดไหลตามลำคอระหงแล้วขว้างใส่พื้นเสียงดัง จากนั้น แสงสีทองก็สว่าง ไฟทุกดวงถูกจุดพรึบ แล้วก็มีแสงสีทองที่เรียงกันเป็นรูปไม้กางเขน ขนาดใหญ่ ฝนเลือดที่พุ่งเข้ามาก็สลายไปทันที

"ใจเด็ดชะมัด"เฟรินกระซิบ เมื่อเห็นเลือดอาบคอระหง แต่เด็กสาวก็กัดฟันทนร่ายเวทรักษาก่อนที่จะเดินก้าวฉับๆไปที่นอกกางเขน โรเซตและอัสมาเรียต้องวิ่งตาม

"การสร้างอนาเขตกั้นปีศาจ"โรเอ่ยขึ้น "ไม่ว่าจะเป็นปีศาจที่เก่งขนาดไหน จะตายในอนาเขตนี้ทันที คนที่จะทำได้ จะต้องมีดวงจิตเทพระดับพระเจ้าเท่านั้น" แล้วสิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้นกับเจ้าหญิงแห่งเจมิไน ร่างบางเปล่งออร่าสีทอง พร้อมด้วยปีกนุ่มๆสีขาวประกายทองขนาดใหญ่ก่อนจะบินลงไปข้างล่าง โรเซตและอัสมาเรียก็ไม่ต่างกัน


ตูม

"กรี๊ดดดดดดดดดด เฮ้ยยยยยยยยยย ว๊ากกกก"เสียงนักเรียนทุกคนร้องลั่นไปทั่ว เลโมธีเดินออกมาแล้วร่ายเวทสกัด แต่ว่าเสียงหนึ่งก็ขัดขึ้น

"ไม่มีประโยชน์หรอกครับที่จะร่ายเวท ครั้งนี้พวกเราขอจัดการเอง"เป็นเสียงที่ดูเท่ห์ แต่เย็นชา ไม่ใช่เสียงคาโลแน่ๆ แต่ว่า ทำไมมันคล้ายกันอย่างนี้ พอหันไปปุ๊ป

ชายหนุ่มคนหนึ่งวัยประมาณสิบหกปี ผมสีทองเหมือนคิงบาโรระต้นคอ ผิวขาว และนัยน์ตาสีฟ้าคู่เย็นชาเหมือนคาโล!!!

และ

หญิงสาวคนหนึ่ง ที่ดูดีสวยน่ารักแบบสดใส เรือนผมสีน้ำตาลทองเหมือนอลิเซียเปี๊ยป นัยน์ตาสีน้ำตาล เหมือนเฟริน!!!


"สองคนที่เกิดจากพลังแห่งพระเจ้า แต่ว่าเป็นลูกของคิงบาโร อีกคนเป็นลูกสาวจ้าวเอวิเดส สองในเจ็ดตัวแทนพระเจ้า ถึงจะน่าแปลกที่ราชินีอลิเซียสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่ก่อนสิ้นพระชนม์ ได้มีแสงลึกลับพุ่งเข้าหาก่อน และแสงนั้นอยู่มาเป็นเวลาหนึ่งปี ก่อนจะกลายเป็นเด็ก มากันครบทีมเลยนะ ตัวแทนพระเจ้า อาโรว์ วาเนบลีแห่งคาโนวาล และเฟลิเซีย เกรเดเวลแห่งบารามอสและเดมอส กลับมาจากสโนว์แลนด์แล้วสินะ"เลโมธีเอ่ยขึ้น

"เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนก็ลำบากเหมือนกันนะคะ พอดีรู้สึกว่าไอปีศาจมันเต็มไปหมด เลยรีบกลับมา แล้วอัซเทีย โรเซต และอัสมาเรียล่ะค่ะ"หญิงสาวนามเฟลิเซียถามขึ้นพลางมองซ้ายมองขวา

"เห็นกระโดดลงไปก่อน"เฟรินเป็นฝ่ายตอบ

"ค่ะ พี่หญิงเฟลิโอน่า"เจ้าหญิงเฟลิเซียหันมาโค้งให้ แล้วร่างของหญิงสาวก็มีออร่าสีทอง จากนั้นปีกขนาดใหญ่ก็กางออก ดาบสีใสปรากฏในมือ ก่อนที่เจ้าตัวจะลงไปก่อน

"โชคดีนะครับ ท่านพี่"เจ้าชายอาโรว์หันมาทางพี่ตัวเองแล้วก็ใช้วิธีเหมือนกันและตามลงไป