ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ง่าคิดไม่ออกง่ะ
เรือนร่างบอบบางก้าวผ่านหน้าเฟรินเพราะว่า เธอต้องไปที่ห้องสมุด ไม่รุเพราะอะไร แต่ว่าวันไหนตารางเธอไม่มีเรียนจะขลุกอยู่แต่ห้องสมุด จนเหมือนคาโลและโรเข้าไปทุกที
"ยัยหนูนั่นน่าจะเป็นเจ้าหญิงแห่งคาโนวาล ไม่ก็เป็นเจ้าหญิงแห่งเวนอลมากกว่าที่จะเป็นเจ้าหญิงแห่งเจมิไนว่ะ"โคลบ่นพึมพำ ส่วนโรเซตและอัสมาเรียนั้นอยู่ที่ป้อมอัศวินปีสอง พวกเขาเดินไปห้องสมุด พบว่าอัซเทียง่วนอยู่กับตำราในห้องสมุด มิหนำซ้ำยังเป็นเกี่ยวกับปีศาจ และเทพทุกชนิด
แต่ว่า
อัซเทียลุกขึ้นเดินผ่านพวกเขาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็หันมาก้มหัวหน่อยนึง จนทุกคนนึกสงสัย เป็นอะไรไป นัยน์ตาสีน้ำเงินดูเครียดจัดจนเห็นได้ชัด ตั้งแต่เรน ปรากฏตัว เธอก็แทบไม่พูดกับใครเลย จนกระทั่ง
โครม
ร่างบางชนใครคนหนึ่งเข้าจนต้องกระเด็นไปกองกับพื้นชนกับผนัง บุรุษผมทองนัยน์ตาสีม่วงและบุรุษผมดำนัยน์ตาสีนิล แว่นตากรอบทอง ลอเรนซ์ ดอร์น และลูคัส ซาโดเรีย
"ไงยัยหนู เป็นไรมากรึเปล่า"ลูคัสทักขึ้นก่อนที่ทั้งเขาและลอเรนซ์จะเดินไปฉุดให้ลุกขึ้น
"ไม่ค่ะ"อัซเทียตอบเย็นๆ สำนวนนั้นเป็นแบบโร คาโลและโรเวนผสมกัน พูดอย่างไม่โกหกแบบโร เสียงเย็นๆและสั้นแบบคาโล และ ท่าทางเหมือนโรเวน
"พูดจาเป็นมะนาวไม่มีน้ำเลยนา จริงมั้ยลอรี่"แล้วลูคัสก็วิ่งไปหลบหลังเจ้าหญิงเเห่งเจมิไนทันที ลอเรนซ์เผลอปามีดไป แต่ว่ามีดนั้นกลับหยุดกึกอย่างหน้าอัศจรรย์ก่อนจะตกลงพื้น อัซเทียเก็บมีดแล้วส่งคืนให้ จากนั้นก็เดินจากไป แต่ว่าทิศทางที่จะไป มันเป็นที่ๆเรนรออยู่ เรนปีศาจที่ร้ายกาจแห่งนรกอเวจี ผู้ที่แม้แต่โรเวนยังเกือบไม่รอด จนกระทั่ง โรเวนวิ่งมา นัยน์ตาสีน้ำเงินฉายแววหงุดหงิด
"อัซเทียล่ะ"เขาถามกก่อน
"ใครอ่ะ"ทั้งคู่ย้อนถามพร้อมกัน เพราะว่าตอนที่อัซเทียมาเขาก็ไม่ได้อยู่ด้วย
"เดี๋ยวก่อน ใช่เด็กผมสีฟ้าๆ ตาเหมือนนายใช่มั้ย"ลอเรนซ์เริ่มเดาอะไรได้รางๆ
"ใช่"
"ว่าแต่ทำไมอ่ะโรเวน"ลูคัสถามอย่างงงๆ เพราะไม่เคยเห็นเสนาธิการณ์ซ้ายเคยมีสีหน้าหงุดหงิดแบบนี้มาก่อน
"ไอเด็กบ้าเอ๊ย คิดจะเอาชีวิตตัวเองไปสู่ความตายรึไง"โรเวนสบถออกมา
"ไงพี่ๆ"เสียงหวานใสเสียงหนึ่งทักขึ้น ปรากฏว่าเป็นเฟริน คิลและคาโล
"ยุ่งเชียว"คิลเอ่ยขึ้นบ้าง
"ยัยบ้าอัซกำลังจะเอาชีวิตตัวเองไปให้กับเจ้าเรนเพื่อสงบศึกแก่ทุกคน"โรเวนเริ่มพูดเสียงกร้าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน่วนคนอื่นๆช๊อคไปเรียบร้อย
"เล่นอย่างงี้เลยหรอ"คิลร้องจ๊ากออกมาทันที แล้วทุกคนก็ลงไปที่ลานสนามหญ้าพร้อมๆกัน
ลานสนามหญ้า
"ดีมากเจ้าหญิงอัซเทีย ฮาเวิร์ด เดอะ ปรินเซส ออฟ เจมิไน"ปีศาจเรนยิ้มเหยียดเมื่ออัซเทียเดินมาถึงเรือนผมสีฟ้าพลิ้วตามสายลม นัยน์ตาสีน้ำเงินดูเย็นชา
"เราแค่จะรักษาชีวิตทุกคนเอาไว้"อัซเทียตอบเรื่อยๆ แต่เรนกลับยิ้ม
"หึ เป็นความคิดที่งี่เง่าสิ้นดี เราไปกันได้แล้ว"
"ก็ดี เพราะชั้นไม่อยากให้ใครรู้"อัซเทียว่าอย่างเฉยเมยและแล้วเสียงฝีเท้าของคนหลายคนก็ดังขึ้นเรื่อยๆแล้วเสียงตะโกนของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็ดังขึ้น
"อัซเทีย จะบ้ารึไง เอาตัวเองไปตายเนี่ยนะ" หญิงสาวชะงักกึก เรนหันมาจ้องด้วยสายตาอาฆาต
"ไหนว่าเธอไม่บอกใครไง"
"......."ร่างบางไม่ตอบแต่ว่ากลับหยุดนิ่ง เรนเลยคว้าร่างมาแล้วบรรจุไอเวทใส่ ทันใดนั้น นัยน์ตาสีน้ำเงินก็ไร้แวว ว่างเปล่า พอพวกเฟรินมาถึงเธอก็เรียกปักษาวารีพุ่งเข้าใส่คนเป็นพี่ชาย
ลอเรนซ์กางคัมภีร์มนต์สวรรค์ทันทีแต่โรเวนกลับห้ามไว้ ตัวเองยืนนิ่งทำให้อัซเทียถึงกับหยุดกึก
"ท่านพี่"อัซเทียพึมพำเบาๆ เก็บปักษาวารีเข้าฝัก มนต์ล้างสมองย่อมเอาเด็กคนนี้อยู่หมัด เธอยังไม่ใจร้ายพอจะฆ่าคน มือบางจับข้อมือของคนตรงหน้า ที่ยืนนิ่งแต่มีรอยแผลจากปักษาวารี ทำไม เธอเล่นรุนแรงขนาดนี้ กลับไม่โกรธ มือบางบีบแน่นจนกระทั่งผ่ามิติก็ปรากฎเข้าในมือท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคน
"พี่เค้าไม่ได้เรียกมานิหว่า มันมาได้ไง"คิลเกาหัวแกรกๆ ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น
"พลังแห่งพระเจ้า สามารถเรียกได้แม้กระทั่งของๆคนอื่น เพราะอย่างงี้ ดาบผ่ามิติจึงถูกเรียกออกมา "เป็นเสียงของโร
"แกนี่น้า ชอบโผล่มาข้างหลังอยู่เรื่อย"เฟรินกระเซ้า "ว่าแต่ รู้สึกว่ามันแปลกๆแฮะ พอจะฆ่า ก็หยุด"
"อัซเทีย มีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ เวทล้างสมองแทบจะไม่ได้ผลกับเธอเลย ทำให้เวลาจะฆ่าใคร มนต์จะเริ่มคลายโดยอัตโนมัติ"
โรบอก
อัซเทียกัดริมฝีปากเล็กน้อย ออร่าสีทองพุ่งมาจากฝ่ามือทำให้แผลหายอย่างรวดเร็ว ไม่มีแผลเป็น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!ร่างเล็กๆบังคับดาบในมือของพี่ชาย แล้วแทงทะลวงเข้าที่ร่างตัวเอง
"ช่วยไม่ได้ ถ้าท่านพี่ไม่ฆ่า อัซก็จะฆ่าตัวเอง เพราะสมัยเด็ก ท่านพี่ไม่เคยรักน้องสาวเลย"อัซเทียพูดแค่นั้นแล้วก็ล้มลงไปทันที นัยน์ตาสีน้ำเงินเบิกกว้างอย่างตกใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกอย่างเริ่มต้นในวันนั้น
.......ปีที่แล้ว สงครามเอเดนและเดมอส........
"ท่านพี่"เสียงหวานๆเจื้อยแจ้วมาแต่ไกล แล้วร่างบางร่างหนึ่งก็ปรากฎจากมุมมืด เรือนผมสีฟ้าสวย นัยน์ตาสีน้ำเงินใส ในมือถือดาบผ่ามิติ โรเวนเบือนสายตามาสบ
"มีอะไร"เขาถามก่อน
"ผ่ามิติซ่อมเสร็จแล้ว ไม่อยากเชื่อพลังของเจ้าชายแห่งคาโนวาลเล้ย เล่นทีเกือบทำดาบในตำนานอย่างผ่ามิติเกือบหักๆได้"อัซเทียบ่นเบาๆ แล้ววางกล่องดาบที่โต๊ะทำงาน
"ฝีมือเหลือร้าย"โรเวนพยักหน้าเห็นด้วย
"อ้อ ขออะไรอย่างหนึ่งนะ ถ้าท่านพี่น่ะกลายเป็นซาตานเมื่อไหร่ อัซจะหยุดยั้ง เพราะว่า ตอนที่อัซไปเจอพี่น่ะ พี่กลายเป็นปีศาจร้าย เล่นแทบตกใจกลัวแทบแย่ กว่าจะใช้ออร่าประหลาดๆนั้นหยุดยั้งได้ เล่นเอาเหนื่อย"อัซเทียบ่นๆๆๆๆๆ
"ถ้าเธอไม่ชอบ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับพี่"เขาว่า
"ไม่ได้ไม่ชอบนะ"
"งั้นจะพูดทำไม เธอเองก็มีพลังประหลาดๆไม่ใช่รึไง ไม่ว่าจะเป็น คำสาปจิตที่ทำอะไรไม่ได้ รักษาคนได้โดยใช้ออร่าสีทอง แต่ว่านะ พี่ไม่ค่อยชอบคนที่พิเศษมากเท่าไหร่"คำพูดที่ทำให้เด็กสาวถึงกับปล่อยปากกาที่ถือไว้ เธอลองแปลความหมายนั้นดู ท่านพี่โรเวนเกลียดเรา เกลียดที่มีพลังพิเศษ
"ดี ถ้าพี่เกลียดอัซ เราก็จะไม่เป็นพี่น้องกันอีก"เจ้าหญิงแห่งเจมิไนพูดแค่นั้นแล้วกระแทกม่านกระโจม หายออกไป
..............................................................
ห้องพยาบาล
เจ้าชายแห่งเจมิไนหยุดคิด เขาไม่หน้าพูดอย่างนั้น ไม่นึกว่าน้องสาวตัวน้อยจะเอาไปคิดหนัก แค่พูดเล่นๆ แต่ว่ามันก็เป็นความผิดของเขา
"เอาน่า โรเวน อัซเทียเขาไม่เป็นไรหรอกน่า"ไธนอสบอกขณะเห็นเพื่อนมายืนอยู่หน้าห้องพยาบาลโดยมีหมอเทวดาโอเดลให้การรักษา
"มันเป็นความผิดของฉัน"โรเวนพูดอย่างหงุดหงิดจน เฟริน คิล คาโล ลอเรนซ์ ลูคัส และไธนอสต้องหันมามองอย่างสงสัย
"ความผิด"คาโลทวนคำ
"ใช่มันเป็นอย่างงั้นตอนที่ฉันเกือบฆ่านายน่ะ คาโล วาเนบลี"แล้วเจ้าชายแห่งเจมิไนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
"พี่ก็ไปบอกเขาสิ"คิลแนะนำ
"อัซรู้อยู่แล้วคะ"เสียงหวานๆดังขึ้น แล้วร่างบางก็เดินออกมาจากห้องพยาบาล ส่วนแผล กลับหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อัซน่ะ รู้ว่าท่านพี่เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ก็ไม่พูดตรง อัซเลยรู้ว่าท่านพี่ล้อเล่น ส่วนเรื่องที่หนูซึมน่ะ เป็นเพราะท่านพี่ไม่เคยที่จะบอกตรงๆกับจักรพรรดินีวิเวียนนานีย่าเลยว่า รักหรือเปล่า อัซเห็นใจ ตลอดเวลา อัซก็เห็นท่านพี่นอนละเมอเรื่องนี้ ส่วนเรื่องแทงตัวเอง อัซไม่กล้าฆ่าใคร ไม่รุสิคะ เหมือนกับมีใครบางคนดึงดันไว้ให้ แต่ว่าคิดวิธีไม่ออก ตอนนั้น ท่านพี่เล่าให้ฟังว่า เจ้าหญิงเฟลิโอน่า ทรงเอาดาบแทงองค์ เจ้าชายคาโลถึงกลับมาเป็นคนเดิม อัซก็เลยเอาดาบแทงตัวเอง ปรากฏว่าก็ได้ผล"
"เห็นมะพี่ ก็บอกแล้วว่าให้สารภาพกับวิเวียนไปเลย ก็ไม่เชื่อ"เฟรินบ่นฉอดๆๆๆๆๆ
"โรเวนแห่งเจมิไน ถ้าพี่ชอบจักรพรรดินีจริงๆ ก็ควรจะบอกไปตรงๆ การอ้อมค้อม ไม่ใช่คุณสมบัติของเจ้าชาย"คาโลเอ่ยขึ้นอย่างขึงขัง
"ใช่ๆพี่โรเวน บอกเค้าไปเหอะ"คิลเสริม
"เดี๋ยว"ไธนอสขัดขึ้น จนทุกคนหันไปมอง
"เจ้าหญิงวิเวียนเป็นจักรพรรดินีไปแล้วนะ แล้วจะทำยังไง"
มันก็จริง จักรพรรดินี ไม่สามารถจะเป็นราชินีให้ประเทศใดได้ วิเวียนไม่สามารถมาเวนอลได้ก็เหมือนกับที่โรเวนไม่สามารถมาที่เวนอลได้เพราะเป็นว่าที่กษัตริย์
"นี่ๆ ให้อัซซี่เป็นคิงแห่งเจมิไนดิ มันหน้าจะแก้ปัญหาได้นี่นา"ลูคัสเสนอ แต่อัซเทียส่ายหน้า
"ไม่ได้หรอกคะ อัซน่ะ เจอสาส์นของแต่งงานไปไม่รู้กี่รอบแล้ว ทั้งแกรนด์ไลน์ แอเรียส กิลดิเรก ซาเรส วิทช์ ทริสทอร์ โรมัน ฟรานซ์ แล้วก็ไนล์ เพราะฉะนั้น ขึ้นเป็นกษัตริย์ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะติดสาส์นขอแต่งงาน"
"ก็ปฏิเสธไปดิ"เฟรินเสนอ
"ถ้าปฏิเสธ มันจะทำให้เจมิไนเสื่อมเสีย เขาจึงให้ลองมาคิดๆดูก่อน"
"นึกว่าจาเป็นเฟรี่ซะอีกที่เจอสาส์นแต่งงาน"
"เพราะที่เป็นตัวแทนพระเจ้า อำนาจจะมากกว่าธิดาแห่งความมืด หรืออาจมากกว่าคิงๆทั้งหลายเลยซะด้วยซ้ำ การเป็นตัวเเทนพระเจ้านั้นเปรียบดุจเทพเจ้าเลยก็ว่าได้ สายเลือดจะเข้มข้น และสูงมาก ดังนั้น ถ้าใครได้แต่งงานด้วย ประเทศนั้นก็จะเปรียบได้กับประเทศแห่งสวรรค์"ลอเรนซ์อธิบาย เขาคิดในใจว่า ขืนบอกว่าเขาเป็นเจ้าชายแห่งแอเรียสที่ท่านพ่อริชาร์ดเลือกไว้ให้ มีหวัง.......
"เพราะอย่างงั้นไง อัซจึงปฏิเสธไม่ได้"เสียงของโรเซตดังขึ้นจากครั้งหลัง เรือนผมสีทองถูกมัดเป็นแกละสองข้าง นัยน์ตาสีฟ้าดูดีฉายแวววิตกแทน กับอัสมาเรียที่เดินตามมาด้วย
"แต่ว่านะ เราก็มีวิธี"เฟรินบอก
"วิธี?" ทุกคนร้องออกมาด้วยสีหน้าฉงน
"พวกพี่ๆ คิล คาโล อัซเทีย โรเซต มาเรีย(ชื่อเล่นของอัสมาเรีย) ว่าโรเป็นเจ้าชายชาเบรียน เจ้าชายแห่งกิลดิเรกคือกัส ส่วนเจ้าชายแห่งแอเรียสคือพี่ลอเรนซ์"
"หา"บางคนร้องออกมากับคำพูดที่ไม่รู้ตัว อัซเทียหันไปมองลอเรนซ์อย่างตกตะลึง ไม่คิดว่า คนที่ส่งสาส์นมาจะเป็นรุ่นพี่แห่งป้อมอัศวิน โรเวน ลูคัสและไธนอสเบิกตากว้าง
"เอ่อ อัซเทียเอ๋ย ครั้งนี้เธอคงต้องรับศึกหนักแล้วอ่ะดิ ทั้งไอกัส พี่ลอเรนซ์ เจ้าชายอาเธอร์ ทิวดอร์ แล้วก็เจ้าชายโรม โอดิสซี่แห่งโรมัน ปิดท้ายด้วยเจ้าชายคนอื่นๆอีก"คิลปลอบ ขณะที่เด็กสาวยกมือกุมขมับ
"ป้อมอัศวินทั้งน้าน"ลูคัสว่าอย่างเห็นใจ
"เฮ้อ เจ้าชายมีดบิน เจ้าชายขี้เซา เจ้าชายเงียบขรึม เจ้าชายแรงช้าง เจ้าชายเจ้าชู้ ทำไมชีวิตถึงซวยอย่างนี้"อัซเทียร้องตะโกนออกมาอย่างสุดจะทน
"ยัยหนูนั่นน่าจะเป็นเจ้าหญิงแห่งคาโนวาล ไม่ก็เป็นเจ้าหญิงแห่งเวนอลมากกว่าที่จะเป็นเจ้าหญิงแห่งเจมิไนว่ะ"โคลบ่นพึมพำ ส่วนโรเซตและอัสมาเรียนั้นอยู่ที่ป้อมอัศวินปีสอง พวกเขาเดินไปห้องสมุด พบว่าอัซเทียง่วนอยู่กับตำราในห้องสมุด มิหนำซ้ำยังเป็นเกี่ยวกับปีศาจ และเทพทุกชนิด
แต่ว่า
อัซเทียลุกขึ้นเดินผ่านพวกเขาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็หันมาก้มหัวหน่อยนึง จนทุกคนนึกสงสัย เป็นอะไรไป นัยน์ตาสีน้ำเงินดูเครียดจัดจนเห็นได้ชัด ตั้งแต่เรน ปรากฏตัว เธอก็แทบไม่พูดกับใครเลย จนกระทั่ง
โครม
ร่างบางชนใครคนหนึ่งเข้าจนต้องกระเด็นไปกองกับพื้นชนกับผนัง บุรุษผมทองนัยน์ตาสีม่วงและบุรุษผมดำนัยน์ตาสีนิล แว่นตากรอบทอง ลอเรนซ์ ดอร์น และลูคัส ซาโดเรีย
"ไงยัยหนู เป็นไรมากรึเปล่า"ลูคัสทักขึ้นก่อนที่ทั้งเขาและลอเรนซ์จะเดินไปฉุดให้ลุกขึ้น
"ไม่ค่ะ"อัซเทียตอบเย็นๆ สำนวนนั้นเป็นแบบโร คาโลและโรเวนผสมกัน พูดอย่างไม่โกหกแบบโร เสียงเย็นๆและสั้นแบบคาโล และ ท่าทางเหมือนโรเวน
"พูดจาเป็นมะนาวไม่มีน้ำเลยนา จริงมั้ยลอรี่"แล้วลูคัสก็วิ่งไปหลบหลังเจ้าหญิงเเห่งเจมิไนทันที ลอเรนซ์เผลอปามีดไป แต่ว่ามีดนั้นกลับหยุดกึกอย่างหน้าอัศจรรย์ก่อนจะตกลงพื้น อัซเทียเก็บมีดแล้วส่งคืนให้ จากนั้นก็เดินจากไป แต่ว่าทิศทางที่จะไป มันเป็นที่ๆเรนรออยู่ เรนปีศาจที่ร้ายกาจแห่งนรกอเวจี ผู้ที่แม้แต่โรเวนยังเกือบไม่รอด จนกระทั่ง โรเวนวิ่งมา นัยน์ตาสีน้ำเงินฉายแววหงุดหงิด
"อัซเทียล่ะ"เขาถามกก่อน
"ใครอ่ะ"ทั้งคู่ย้อนถามพร้อมกัน เพราะว่าตอนที่อัซเทียมาเขาก็ไม่ได้อยู่ด้วย
"เดี๋ยวก่อน ใช่เด็กผมสีฟ้าๆ ตาเหมือนนายใช่มั้ย"ลอเรนซ์เริ่มเดาอะไรได้รางๆ
"ใช่"
"ว่าแต่ทำไมอ่ะโรเวน"ลูคัสถามอย่างงงๆ เพราะไม่เคยเห็นเสนาธิการณ์ซ้ายเคยมีสีหน้าหงุดหงิดแบบนี้มาก่อน
"ไอเด็กบ้าเอ๊ย คิดจะเอาชีวิตตัวเองไปสู่ความตายรึไง"โรเวนสบถออกมา
"ไงพี่ๆ"เสียงหวานใสเสียงหนึ่งทักขึ้น ปรากฏว่าเป็นเฟริน คิลและคาโล
"ยุ่งเชียว"คิลเอ่ยขึ้นบ้าง
"ยัยบ้าอัซกำลังจะเอาชีวิตตัวเองไปให้กับเจ้าเรนเพื่อสงบศึกแก่ทุกคน"โรเวนเริ่มพูดเสียงกร้าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน่วนคนอื่นๆช๊อคไปเรียบร้อย
"เล่นอย่างงี้เลยหรอ"คิลร้องจ๊ากออกมาทันที แล้วทุกคนก็ลงไปที่ลานสนามหญ้าพร้อมๆกัน
ลานสนามหญ้า
"ดีมากเจ้าหญิงอัซเทีย ฮาเวิร์ด เดอะ ปรินเซส ออฟ เจมิไน"ปีศาจเรนยิ้มเหยียดเมื่ออัซเทียเดินมาถึงเรือนผมสีฟ้าพลิ้วตามสายลม นัยน์ตาสีน้ำเงินดูเย็นชา
"เราแค่จะรักษาชีวิตทุกคนเอาไว้"อัซเทียตอบเรื่อยๆ แต่เรนกลับยิ้ม
"หึ เป็นความคิดที่งี่เง่าสิ้นดี เราไปกันได้แล้ว"
"ก็ดี เพราะชั้นไม่อยากให้ใครรู้"อัซเทียว่าอย่างเฉยเมยและแล้วเสียงฝีเท้าของคนหลายคนก็ดังขึ้นเรื่อยๆแล้วเสียงตะโกนของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็ดังขึ้น
"อัซเทีย จะบ้ารึไง เอาตัวเองไปตายเนี่ยนะ" หญิงสาวชะงักกึก เรนหันมาจ้องด้วยสายตาอาฆาต
"ไหนว่าเธอไม่บอกใครไง"
"......."ร่างบางไม่ตอบแต่ว่ากลับหยุดนิ่ง เรนเลยคว้าร่างมาแล้วบรรจุไอเวทใส่ ทันใดนั้น นัยน์ตาสีน้ำเงินก็ไร้แวว ว่างเปล่า พอพวกเฟรินมาถึงเธอก็เรียกปักษาวารีพุ่งเข้าใส่คนเป็นพี่ชาย
ลอเรนซ์กางคัมภีร์มนต์สวรรค์ทันทีแต่โรเวนกลับห้ามไว้ ตัวเองยืนนิ่งทำให้อัซเทียถึงกับหยุดกึก
"ท่านพี่"อัซเทียพึมพำเบาๆ เก็บปักษาวารีเข้าฝัก มนต์ล้างสมองย่อมเอาเด็กคนนี้อยู่หมัด เธอยังไม่ใจร้ายพอจะฆ่าคน มือบางจับข้อมือของคนตรงหน้า ที่ยืนนิ่งแต่มีรอยแผลจากปักษาวารี ทำไม เธอเล่นรุนแรงขนาดนี้ กลับไม่โกรธ มือบางบีบแน่นจนกระทั่งผ่ามิติก็ปรากฎเข้าในมือท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคน
"พี่เค้าไม่ได้เรียกมานิหว่า มันมาได้ไง"คิลเกาหัวแกรกๆ ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น
"พลังแห่งพระเจ้า สามารถเรียกได้แม้กระทั่งของๆคนอื่น เพราะอย่างงี้ ดาบผ่ามิติจึงถูกเรียกออกมา "เป็นเสียงของโร
"แกนี่น้า ชอบโผล่มาข้างหลังอยู่เรื่อย"เฟรินกระเซ้า "ว่าแต่ รู้สึกว่ามันแปลกๆแฮะ พอจะฆ่า ก็หยุด"
"อัซเทีย มีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ เวทล้างสมองแทบจะไม่ได้ผลกับเธอเลย ทำให้เวลาจะฆ่าใคร มนต์จะเริ่มคลายโดยอัตโนมัติ"
โรบอก
อัซเทียกัดริมฝีปากเล็กน้อย ออร่าสีทองพุ่งมาจากฝ่ามือทำให้แผลหายอย่างรวดเร็ว ไม่มีแผลเป็น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!ร่างเล็กๆบังคับดาบในมือของพี่ชาย แล้วแทงทะลวงเข้าที่ร่างตัวเอง
"ช่วยไม่ได้ ถ้าท่านพี่ไม่ฆ่า อัซก็จะฆ่าตัวเอง เพราะสมัยเด็ก ท่านพี่ไม่เคยรักน้องสาวเลย"อัซเทียพูดแค่นั้นแล้วก็ล้มลงไปทันที นัยน์ตาสีน้ำเงินเบิกกว้างอย่างตกใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกอย่างเริ่มต้นในวันนั้น
.......ปีที่แล้ว สงครามเอเดนและเดมอส........
"ท่านพี่"เสียงหวานๆเจื้อยแจ้วมาแต่ไกล แล้วร่างบางร่างหนึ่งก็ปรากฎจากมุมมืด เรือนผมสีฟ้าสวย นัยน์ตาสีน้ำเงินใส ในมือถือดาบผ่ามิติ โรเวนเบือนสายตามาสบ
"มีอะไร"เขาถามก่อน
"ผ่ามิติซ่อมเสร็จแล้ว ไม่อยากเชื่อพลังของเจ้าชายแห่งคาโนวาลเล้ย เล่นทีเกือบทำดาบในตำนานอย่างผ่ามิติเกือบหักๆได้"อัซเทียบ่นเบาๆ แล้ววางกล่องดาบที่โต๊ะทำงาน
"ฝีมือเหลือร้าย"โรเวนพยักหน้าเห็นด้วย
"อ้อ ขออะไรอย่างหนึ่งนะ ถ้าท่านพี่น่ะกลายเป็นซาตานเมื่อไหร่ อัซจะหยุดยั้ง เพราะว่า ตอนที่อัซไปเจอพี่น่ะ พี่กลายเป็นปีศาจร้าย เล่นแทบตกใจกลัวแทบแย่ กว่าจะใช้ออร่าประหลาดๆนั้นหยุดยั้งได้ เล่นเอาเหนื่อย"อัซเทียบ่นๆๆๆๆๆ
"ถ้าเธอไม่ชอบ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับพี่"เขาว่า
"ไม่ได้ไม่ชอบนะ"
"งั้นจะพูดทำไม เธอเองก็มีพลังประหลาดๆไม่ใช่รึไง ไม่ว่าจะเป็น คำสาปจิตที่ทำอะไรไม่ได้ รักษาคนได้โดยใช้ออร่าสีทอง แต่ว่านะ พี่ไม่ค่อยชอบคนที่พิเศษมากเท่าไหร่"คำพูดที่ทำให้เด็กสาวถึงกับปล่อยปากกาที่ถือไว้ เธอลองแปลความหมายนั้นดู ท่านพี่โรเวนเกลียดเรา เกลียดที่มีพลังพิเศษ
"ดี ถ้าพี่เกลียดอัซ เราก็จะไม่เป็นพี่น้องกันอีก"เจ้าหญิงแห่งเจมิไนพูดแค่นั้นแล้วกระแทกม่านกระโจม หายออกไป
..............................................................
ห้องพยาบาล
เจ้าชายแห่งเจมิไนหยุดคิด เขาไม่หน้าพูดอย่างนั้น ไม่นึกว่าน้องสาวตัวน้อยจะเอาไปคิดหนัก แค่พูดเล่นๆ แต่ว่ามันก็เป็นความผิดของเขา
"เอาน่า โรเวน อัซเทียเขาไม่เป็นไรหรอกน่า"ไธนอสบอกขณะเห็นเพื่อนมายืนอยู่หน้าห้องพยาบาลโดยมีหมอเทวดาโอเดลให้การรักษา
"มันเป็นความผิดของฉัน"โรเวนพูดอย่างหงุดหงิดจน เฟริน คิล คาโล ลอเรนซ์ ลูคัส และไธนอสต้องหันมามองอย่างสงสัย
"ความผิด"คาโลทวนคำ
"ใช่มันเป็นอย่างงั้นตอนที่ฉันเกือบฆ่านายน่ะ คาโล วาเนบลี"แล้วเจ้าชายแห่งเจมิไนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
"พี่ก็ไปบอกเขาสิ"คิลแนะนำ
"อัซรู้อยู่แล้วคะ"เสียงหวานๆดังขึ้น แล้วร่างบางก็เดินออกมาจากห้องพยาบาล ส่วนแผล กลับหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อัซน่ะ รู้ว่าท่านพี่เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ก็ไม่พูดตรง อัซเลยรู้ว่าท่านพี่ล้อเล่น ส่วนเรื่องที่หนูซึมน่ะ เป็นเพราะท่านพี่ไม่เคยที่จะบอกตรงๆกับจักรพรรดินีวิเวียนนานีย่าเลยว่า รักหรือเปล่า อัซเห็นใจ ตลอดเวลา อัซก็เห็นท่านพี่นอนละเมอเรื่องนี้ ส่วนเรื่องแทงตัวเอง อัซไม่กล้าฆ่าใคร ไม่รุสิคะ เหมือนกับมีใครบางคนดึงดันไว้ให้ แต่ว่าคิดวิธีไม่ออก ตอนนั้น ท่านพี่เล่าให้ฟังว่า เจ้าหญิงเฟลิโอน่า ทรงเอาดาบแทงองค์ เจ้าชายคาโลถึงกลับมาเป็นคนเดิม อัซก็เลยเอาดาบแทงตัวเอง ปรากฏว่าก็ได้ผล"
"เห็นมะพี่ ก็บอกแล้วว่าให้สารภาพกับวิเวียนไปเลย ก็ไม่เชื่อ"เฟรินบ่นฉอดๆๆๆๆๆ
"โรเวนแห่งเจมิไน ถ้าพี่ชอบจักรพรรดินีจริงๆ ก็ควรจะบอกไปตรงๆ การอ้อมค้อม ไม่ใช่คุณสมบัติของเจ้าชาย"คาโลเอ่ยขึ้นอย่างขึงขัง
"ใช่ๆพี่โรเวน บอกเค้าไปเหอะ"คิลเสริม
"เดี๋ยว"ไธนอสขัดขึ้น จนทุกคนหันไปมอง
"เจ้าหญิงวิเวียนเป็นจักรพรรดินีไปแล้วนะ แล้วจะทำยังไง"
มันก็จริง จักรพรรดินี ไม่สามารถจะเป็นราชินีให้ประเทศใดได้ วิเวียนไม่สามารถมาเวนอลได้ก็เหมือนกับที่โรเวนไม่สามารถมาที่เวนอลได้เพราะเป็นว่าที่กษัตริย์
"นี่ๆ ให้อัซซี่เป็นคิงแห่งเจมิไนดิ มันหน้าจะแก้ปัญหาได้นี่นา"ลูคัสเสนอ แต่อัซเทียส่ายหน้า
"ไม่ได้หรอกคะ อัซน่ะ เจอสาส์นของแต่งงานไปไม่รู้กี่รอบแล้ว ทั้งแกรนด์ไลน์ แอเรียส กิลดิเรก ซาเรส วิทช์ ทริสทอร์ โรมัน ฟรานซ์ แล้วก็ไนล์ เพราะฉะนั้น ขึ้นเป็นกษัตริย์ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะติดสาส์นขอแต่งงาน"
"ก็ปฏิเสธไปดิ"เฟรินเสนอ
"ถ้าปฏิเสธ มันจะทำให้เจมิไนเสื่อมเสีย เขาจึงให้ลองมาคิดๆดูก่อน"
"นึกว่าจาเป็นเฟรี่ซะอีกที่เจอสาส์นแต่งงาน"
"เพราะที่เป็นตัวแทนพระเจ้า อำนาจจะมากกว่าธิดาแห่งความมืด หรืออาจมากกว่าคิงๆทั้งหลายเลยซะด้วยซ้ำ การเป็นตัวเเทนพระเจ้านั้นเปรียบดุจเทพเจ้าเลยก็ว่าได้ สายเลือดจะเข้มข้น และสูงมาก ดังนั้น ถ้าใครได้แต่งงานด้วย ประเทศนั้นก็จะเปรียบได้กับประเทศแห่งสวรรค์"ลอเรนซ์อธิบาย เขาคิดในใจว่า ขืนบอกว่าเขาเป็นเจ้าชายแห่งแอเรียสที่ท่านพ่อริชาร์ดเลือกไว้ให้ มีหวัง.......
"เพราะอย่างงั้นไง อัซจึงปฏิเสธไม่ได้"เสียงของโรเซตดังขึ้นจากครั้งหลัง เรือนผมสีทองถูกมัดเป็นแกละสองข้าง นัยน์ตาสีฟ้าดูดีฉายแวววิตกแทน กับอัสมาเรียที่เดินตามมาด้วย
"แต่ว่านะ เราก็มีวิธี"เฟรินบอก
"วิธี?" ทุกคนร้องออกมาด้วยสีหน้าฉงน
"พวกพี่ๆ คิล คาโล อัซเทีย โรเซต มาเรีย(ชื่อเล่นของอัสมาเรีย) ว่าโรเป็นเจ้าชายชาเบรียน เจ้าชายแห่งกิลดิเรกคือกัส ส่วนเจ้าชายแห่งแอเรียสคือพี่ลอเรนซ์"
"หา"บางคนร้องออกมากับคำพูดที่ไม่รู้ตัว อัซเทียหันไปมองลอเรนซ์อย่างตกตะลึง ไม่คิดว่า คนที่ส่งสาส์นมาจะเป็นรุ่นพี่แห่งป้อมอัศวิน โรเวน ลูคัสและไธนอสเบิกตากว้าง
"เอ่อ อัซเทียเอ๋ย ครั้งนี้เธอคงต้องรับศึกหนักแล้วอ่ะดิ ทั้งไอกัส พี่ลอเรนซ์ เจ้าชายอาเธอร์ ทิวดอร์ แล้วก็เจ้าชายโรม โอดิสซี่แห่งโรมัน ปิดท้ายด้วยเจ้าชายคนอื่นๆอีก"คิลปลอบ ขณะที่เด็กสาวยกมือกุมขมับ
"ป้อมอัศวินทั้งน้าน"ลูคัสว่าอย่างเห็นใจ
"เฮ้อ เจ้าชายมีดบิน เจ้าชายขี้เซา เจ้าชายเงียบขรึม เจ้าชายแรงช้าง เจ้าชายเจ้าชู้ ทำไมชีวิตถึงซวยอย่างนี้"อัซเทียร้องตะโกนออกมาอย่างสุดจะทน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น