คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : *Season 1* End of Part Real world
เฮือก
เด็กหนุ่มผมส้มสะดุ้งโหยงเมื่อตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดในที่สุด บาดแผลนั้นยังคงอยู่ ความแสบและเจ็บปวดที่แสนทรมานนี่หรือคือพลังของเขาคนนี้ ไม่เคยโดนจังๆมาก่อนเลย
เสียงฝีเท้าทำให้ความคิดขาดห้วงแล้วเงยหน้ามองเจ้าของฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา เมื่อมองไปรอบๆก็จะรู้ว่าที่ๆเขาอยู่คือร้านอุราฮาร่า และคนที่เดินมาก็คืออุราฮาร่า และโยรุอิจิ ตามหลังมาด้วยเท็ตไซ จินตะ อุรุรุและทุกๆคนที่เหลือเข้ามาในห้องจนทำให้ห้องนี้ดูแคบลงไปถนัดตา แต่ละคนมีบาดแผลอยู่เต็มไปหมด จนนึกสงสัยว่าโอริฮิเมะไม่ได้รักษาให้รึเปล่า แต่ทว่าคนที่อ่านใจได้คือเซนนะกลับตอบว่า
“Spirit of talent ทำให้พลังปฏิเสธปฏิกิริยาแทบจะใช้ไม่ได้ผล เลยไม่ได้หายสนิทกันหรอกนะ เพราะพลังของเซนริไม่ใช่สายกาลเวลาธรรมดา แต่มันเป็นการทำลายกฎเกณฑ์ของพระเจ้า ในขณะที่ของโอริฮิเมะทำได้แค่ท้าทายเฉยๆ”
“ถ้าอย่างนั้น...”
“มันเลยต้องเป็นความรับผิดชอบของฉันเอง SOTจะรักษาหรือคอยเยียวยาให้ได้ก็คือคนที่สามารถรักษาและคนๆนั้นต้องมีSOT”
Spirit of talent พลังพิเศษที่มีอยู่ในตัวของพวกจักรวรรดิ พลังที่เหนือกว่าอะไรทั้งสิ้นเป็นสิ่งที่ไม่อยากคาดคิดถึงเลยว่าหากนำมันมาใช้ในการต่อสู้ ผลเสียมันจะเกิดมากน้อยแค่ไหน เพราะพลังของเซนนะก็ทำลายกฎของพระเจ้า อ่านใจได้ และนอกจากอ่านอนาคตได้แล้วก็ยังสามารถลงมือแก้ไขได้อีกด้วย เพราะถ้าการอ่านอนาคตประเภทที่ไม่ใช่SOTก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย
เมื่อมองไปรอบๆตัวก็เห็นหัวหน้าของอีกคน ฟุยุโซระ คาโฮโกะ เธอนั่งคุกเข่าอย่างเรียบร้อยอยู่ข้างๆเซนนะสีหน้าดูไม่สบายใจและไม่รู้เลยว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ฉันได้รับความช่วยเหลือจากคาโฮโกะด้วยเลยสามารถทำได้เร็ว”
“เธอก็มี...”อิชิดะถามช้าๆเพราะเมื่อได้ยินว่าคาโฮโกะรักษาพวกเขาด้วย หัวหน้าตระกูลขุนนางพยักหน้ารับ
“ฉันมีSOTเช่นกัน แต่จะให้ประมือกับพวกคาอินฉันเองก็ไม่ไหว”เธออธิบาย “ส่วนลานดอกไม้ไฟก็ท่าจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะพวกนายสู้กันถึงจะแป๊ปเดียวแต่พลังวิญญาณที่โถมเข้ามาของพวกประเภทฉันมันทำให้บริเวณตรงนั้นเสียหาย แล้วก็คนตายเรียบเหลือแต่คนงานอีกสองคน”
สีหน้าเธอดูแย่เมื่อกล่าวถึงตอนนี้
“ส่วนงานดอกไม้ไฟก็ถูกยกเลิก ตอนนี้ฉันแก้ไขความทรงจำพวกนั้นใหม่ ให้บอกว่าเครื่องจักรทำงานผิดพลาด ส่วนเจ้าชายก็บอกว่าต้องไปแก้เครื่องจักรตรงไหนน่ะ มันเลยเนียนได้อีก”
เมื่อกล่าวถึงเซนริ ทุกคนก็นิ่งเงียบเข้าไปอีกเพราะไม่คิดว่าคนนี้จะต้องจำใจเล่นงานพวกเขาจริงๆและยอมรับข้อเสนอแต่โดยดี ไม่เข้าใจเลยว่าคิดอะไรอยู่และจะปล่อยไปไว้แบบนี้ได้อย่างไร แต่บางสิ่งในตัวชายหนุ่มก็ทำให้หลายๆคนกลัวแต่เกรงขามได้ในเวลาเดียวกัน แต่ก็ใจดีอบอุ่นและอ่อนโยน
“พิธีกรรมนั่น มันคืออะไรกันแน่”
ลูเคียถามสิ่งที่ตัวเองข้องใจมานานมาก ซึ่งคนที่ตอบคือโยรุอิจิ
“มันเป็นการควบคุมและดึงชีวิตของผู้มีพลังวิญญาณสูงในการบรรลุเป้าหมาย พลังนั้นสามารถทำลายฮูเอโก้มุนโด้ให้หายเรียบไปในพริบตาได้ในทันที และอาจจะย้อนมาถึงโลกมนุษย์ หรืออาจจะเป็นโซลโซไซตี้เองก็เล่นงานได้หมด พวกราชวงศ์นี่ต่างจากของโซลโซไซตี้มาก ทั้งสูงศักดิ์กว่า มีอำนาจมากกว่า ไม่ใช่ผู้ที่จะมีกิเลสได้เหมือนมนุษย์ ความจำทุกอย่างก็เป็นเลิศ สามารถบงการมนุษย์ได้ หรือพูดให้ถูกคือควบคุมจิตวิญญาณ โดยเฉพาะราชวงศ์ฟุจิวาระนี่แหล่ะ อันตรายทีเดียว”
หญิงสาวผิวเข้มกอดอกอย่างใช้ความคิด
“ฉันเคยเจอเจ้าหญิงแห่งฟุจิวาระอยู่เหมือนกัน ดูภายนอกอายุ14-15 แต่เอาเข้าจริงๆแล้วน่ากลัวอย่างเหลือร้าย ทั้งความสามารถในการควบคุมจิตวิญญาณคน เห็นพลังวิญญาณได้อย่างแจ่มชัด พระองค์มีสายตาที่ดีมาก แม้จะเก็บซ่อนพลังวิญญาณแต่ก็ยังดูออก จะปิดบังแค่ไหนก็จะยังเห็นได้อย่างแจ่มชัด เพราะฉันเคยซ่อนพลังวิญญาณไว้ปรากฏว่าก็ถูกมองออกได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว”
“เด็กผู้หญิงอันตรายสินะ”อิชิดะพยักหน้าหงึกหงัก “คงพอจะไหวแหล่ะ”
“แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะ”เซนนะค้านทันขวัน “การมองเห็นนั่นเป็นแค่หนึ่งในความสามารถย่อยๆเท่านั้น เรื่องฝีมือที่แท้จริงน่ะ จะเป็นปัญหายิ่งกว่า การควบคุมวิญญาณ ควบคุมได้ทุกอย่าง อ้อใช่ ลืมไปอีกคน มาซาฮิโระนี่ก็น่ากลัวกว่า”
“โคฮากุ มาซาฮิโระก็เป็นอีกคนน่ะนะที่ฉันขยาด”คาโฮโกะยักไหล่ “รายนี้โดยเฉพาะพวกนาย
เพราะแต่ละคนมีอดีตที่ไม่อยากนึกถึง แต่ถึงจะเคยฝ่าฟันมันมาได้ มาซาฮิโระสามารถจะทำให้มันเล่นงานได้อีกรอบและครั้งนี้จะหนักกว่าเดิมด้วย
“แต่เขาคงไม่ฆ่าพวกนายแน่ๆร้อยเปอร์เซ็น”เซนนะบอก ทำให้ทุกคนหันมามองหน้ากันอย่างฉงนสงสัยว่ามันหมายความว่ายังไง
“มาซาฮิโระเป็นเด็กดี เขาไม่ฆ่ามนุษย์ ไม่ทำร้ายถ้าไม่จำเป็น จะไม่ทำให้ตาย และเขาก็เป็นคนที่จิตใจดีมาก แต่ก็เก่งมากในเวลาเดียวกันน่ะนะ ประการแรกที่ฉันมั่นใจคือเขาไม่ฆ่าพวกนายแน่นอน”
“แต่ว่าปัญหาน่ะ คืออีกสองราชวงศ์นี่แหล่ะครับ”อุราฮาร่าพูดขึ้น สีหน้าเคร่งเครียด “ราชวงศ์ฮายาเตะ มีมกุฎราชกุมารที่เป็นจอมทัพอยู่ เเข็งแกร่งที่สุด ท่านเซนริฝีมือร้ายกาจ แม้แต่องค์จักรพรรดิยังเอากันไม่อยู่ ท่านผู้นั้นหยุดเวลาได้ตามใจคิด เปิดมิติได้ตามใจนึก ฟ้าดินอยู่ในความควบคุมของพระองค์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ ไฟ สายลมก็ล้วนแต่ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งเป็นธาตุแสงแล้ว มันก็เหมือนกับให้พลังเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งดาบฟันวิญญาณยิ่งแล้วใหญ่ ผมสาธยายได้ไม่หมดหรอกคร้าบ เอาเป็นว่า เอาจริงด้วยตายเรียบหมดโซลโซไซตี้แหล่ะอย่างเบาสุดนะ”
“เก่งถึงขนาดนั้นเชียว??”อิกคาคุย้อนถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งแต่กลับถูกคาโฮโกะซึ่งเริ่มหมดความอดทนคว้าหนังสือพิมพ์ฟาดหัวใส่ทันที ชายหนุ่มหันขวับไปเตรียมจะว่าแต่ก็พบกับสายตาน่าสยองขวัญของหัวหน้าตระกูลขุนนางแห่งจักรวรรดิ
“ฆ่าได้ก่อนที่จะได้เอ่ยชื่อซะด้วยซ้ำ”เด็กสาวพูดเสียงเย็น แล้วหันไปมองอุราฮาร่าและโยรุอิจิอีกครั้ง “คุนะยูกิก็มาด้วย เพราะงั้น ก็เตรียมตอกโลงได้เลยมั้ย”
แต่ละคนเงียบกริบโดยเฉพาะเซนนะหน้าซีดขึ้นมาทันที ส่วนโยรุอิจิเม้มริมฝีปากบางเฉียบเพราะยิ่งคุนะยูกิมา โอกาสชนะติดลบสุดๆไปในทันที ไม่มีใครสู้ราชวงศ์นี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว ยกเว้นเซนริ แต่เจ้าชายรัชทายาทก็ทำให้พวกเขาต้องมาสู้ด้วยอีก โอกาสชนะแทนที่จะมีค่าเป็นศูนย์ก็ช้ำใจแล้วแต่นี่เล่นมาติดลบมากที่สุดเสียอีก คุนะยูกิ ใช่... เห็นความสามารถที่ยูกิใช้มันออกมาแล้วก็น่าทึ่ง แต่ถ้าจะให้สู้ด้วยก็อันตรายจนถึงแก่ชีวิตอีกด้วย ดังนั้น..
“พวกที่ควบคุมความตายและชีวิตได้งั้นหรือ...”เซนนะพึมพำ “ฉันเคยเห็นพวกนั้นสู้กันเอง เข้าใกล้ไม่ได้เด็ดขาด ประการแรกคือ พลังวิญญาณพวกนั้นสามารถทำลายวิญญาณ อาวุธหากวิญญาณสัมผัสก็ถูกทำลาย เพราะมันถูกตีด้วยเหล็กชั้นยอด มือขวาคือสิ่งที่จะปลดปล่อยพลังที่แท้จริงและจะสะกดพลังทั้งหมดของพวกเขาไว้ อันนี้ฉันแค่เดานะ เพราะฉันก็อยู่กับพวกนั้นมาอยู่พอสมควร ซึ่งถ้าคนในราชวงศ์ตายไปคนหนึ่ง จะชดใช้ด้วยชีวิตของผู้ลงมือ คาดว่าเมื่อยูกิตายไปปุ๊ป พวกวังกลางก็จะตายเรียบในชั่วพริบตา และไม่มีวันกลับมาเกิดได้อีกต่อไปเพราะโซ่แห่งชะตากรรมถูกทำลายเรียบร้อย นั่นคืออย่างน้อย ไม่แน่อาจจะตายยกโซลโซไซตี้และฮูเอโก้มุนโด้ฉันก็ไม่รู้ด้วย”
“จะบ้าหรอ เล่นฆ่าหมดเลยเนี่ยนะ”ลูเคียร้องเสียงหลง
“พวกนั้นฆ่าได้ในพริบตา เพราะชีวิตของราชวงศ์คนสำคัญ ยิ่งเป็นผู้ควบคุมระบบการปกครองคนสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ฉันว่าแค่นั้นก็ถือว่าเท่าเทียมแล้ว โซลโซไซตี้ดำรงอยู่ได้เพราะจักรวรรดิ คุนะยูกิคือผู้ที่ให้กำเนิดยมทูตและเป็นผู้ที่ให้โซลโซไซตี้แก่ยมทูตซึ่งมาจากมนุษย์ธรรมดา การไปทำร้ายถือว่าเป็นการฆ่าผู้ให้กำเนิดทางอ้อม แม้จะเป็นคนเดียวแต่ต้องชดใช้ด้วยชีวิตทั้งหมด”
“แต่ยังไงเราก็ต้องหยุดสินะ”อิจิโกะค่อยๆชันกายขึ้นจากฟูกโดยมีโอริฮิเมะช่วยพยุงอยู่ด้านหลัง “ต้องหยุด... ให้ได้”
ทุกคนหันขวับมามองกันเป็นตาเดียวเพราะจะไปหยุดราชวงศ์พวกนี้ มันได้งั้นหรือ... หน่วยสิบเอ็ดเท่าที่โยรุอิจิไปสืบมายังต้องหงอเพราะแต่ละคนล้วนไม่ใช่เล่นๆ บางรายลองดีแล้วแขนขาหักรวมถึงขาดอีกด้วย บางรายสิ้นชีพไปในทันที เพราะตามความเป็นจริง พวกนี้ไม่ควรจะยั่วให้มาใช้กำลัง เพราะควบคุมยากในการจะสู้กับยมทูตธรรมดา บางรายควบคุมไม่เก่งก็ต้องพลั้งมือฆ่าไปโดยไม่ตั้งใจ
“งั้นฉันไปด้วยละกัน”ลูเคียพูดขึ้นมาในที่สุด “ต้องคุยให้รู้เรื่องด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทุกสิ่งที่ปรากฏมันเป็นยังไงและอะไรกำลังจะเกิดขึ้น”
“ส่วนฉันก็ต้องไปเป็นธรรมดา”เซนนะกล่าวเสริม “คาโฮโกะด้วย หัวหน้าขุนนางผู้เป็นสายเลือดเดียวกับราชวงศ์ฮายาเตะก็ควรจะไปด้วยใช่ไหมล่ะ”
“สายเลือดเดียวกัน!!”เร็นจิมองอย่างไม่อยากจะเชื่อซึ่งสองสาวก็ยิ้มฝืดๆไร้อารมณ์ขันให้
“ตระกูลขุนนางในจักวรรดิคือพวกสืบสายเลือดมาราชวงศ์แต่อย่างมากสุดจะมีเลือดตรงก็แค่ห้าสิบเปอร์เซ็น ดังนั้นฉันสองคนไปด้วยดีกว่าจะได้ช่วยๆกันด้วย”
คาโฮโกะหยิบนาฬิกาหน้าตาประหลาดอันหนึ่งมามันคล้ายกับของเซนริแต่หน้าตาจะคนละแบบ แต่ก็คล้ายกันอยู่ดี เธอเอาขึ้นมาดูอย่างพิจารณา ก่อนจะพยักหน้ากับตัวเอง
“ราชวงศ์ฮายาเตะวางใจได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะดึงเวลามาให้”
“นั่นคือ???”
“อุปกรณ์ตัวช่วยเรื่องเวลาน่ะ พวกฉันไม่สามารถควบคุมเวลาได้เหมือนพวกนั้น แต่เครื่องนี่จะช่วยแปรSOTฉันให้เป็นด้านกาลเวลาได้บ้าง ส่วนของท่านเซนริที่พวกเธอเห็นก็คือการแปรให้พวกเธอได้ใช้บ้าง จะคนละแบบกัน แต่บอกซะก่อนว่าฉันพลังไม่ถึงเขาหรอกนะ”
เธอทำได้แค่ให้เวลาเท่านั้น ทำไม่ได้อีกแล้วอย่างอื่นก็ต้องหาทางเอง เซนริคือจอมทัพสูงสุด จอมทัพคือตำแหน่งที่จะได้เป็นต่อเมื่อพลังวิญญาณสูงที่สุด ฝีมือ จิตใจและความสามารถอีกมากมาย ก็ล้วนสำคัญ การจะมาก้าวไปถึงขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ฮายาเตะ เซนริเป็นได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่15ปีหลังจากบรรลุนิติภาวะ (15ปี จักรวรรดิถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว พลังจะปลดปล่อยออกมาสมบูรณ์) อายุน้อยที่สุด และการวางแผนเขาก็ไม่ธรรมดาเลยความสามารถที่จะคุมกองทัพทั้งหมดด้วยจิตใจนั้นคือสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด
“อ้อใช่ เซนริฝากนี่มาด้วย”เด็กสาวแห่งตระกูลฟุยุโซระมีสีหน้าคิดขึ้นได้ “ตอนที่แบกพวกนายมารักษาตอนเขาแวะมาบอกวิธีทำลายระบบเครื่องจักร อ่ะนี่”คาโฮโกะยื่นซองจดหมายสีขาวซึ่งเขียนอย่างเรียบร้อย อิจิโกะหยิบขึ้นมาอ่านทันทีขณะที่แต่ละคนมุงดูกันอยู่รอบๆ
ขอไม่พูดอะไรมาก เพราะฉันรีบเขียนให้เร็วที่สุด อย่าให้พวกวังกลางเห็นนี่เด็ดขาดไม่งั้นโอกาสที่ฉันหยิบยื่นให้มันจะหมดไปทันที ง่ายๆสั้นๆ ฟังแล้วจำไว้ด้วย...
ฉันไม่อยากจะทำร้ายหรือฆ่าพวกนาย แต่อย่างที่บอกคือการประหารจะเบี่ยงเบนไปทางไหนก็ขึ้นอยู่กับฉันเท่านั้นเพราะพวกนั้นให้ฉันลงมือ ทว่าฉันเห็นความพยายามในตัวพวกนายทุกคน ฉันจะยื่นโอกาสนี้ให้ หากถึงวันประหารหรือครั้งที่เจอกันอีกครั้ง การประหารจะหยุดได้ต่อเมื่อนายได้แสดงฝีมือของนายให้ฉันเองและฉันเห็นว่ามันสมควร สรุปง่ายๆก็คือ ทำให้ฉันยอมรับในฝีมือพวกนายซะ นี่คือสิ่งที่ต้องทำหากต้องการช่วยยูกิ
ระหว่างนี้ ไปฝึกตัวเองมาให้ดีๆ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพด้วย
Senri
Ps. คาอินฝากมาขอโทษที่ทำร้ายพวกนาย
ลายมือเรียบร้อยอ่านง่าย และไม่เหลี่ยมไปดูเข้มแข็งทรงอำนาจงดงาม สมกับเป็นราชนิกูลที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีเยี่ยม แต่ละคนเบิกตากว้างอ่านซ้ำไปซ้ำมา
“ไง ถือว่ามีกำลังใจยังล่ะ”คาโฮโกะถามซ้ำ “ให้ตายสิ นิสัยไม่เปลี่ยนไปเลยนะเนี่ย”เจ้าตัวบ่นพึมพำกับตัวเอง
“เขาให้โอกาสกับพวกนาย ดังนั้นจงใช้มันให้คุ้มค่า”
“แต่ทำไมถึงไม่ให้วังกลางเห็นล่ะนั่น”โอริฮิเมะมีสีหน้างุนงง ขณะก้มลงอ่านจดหมายกับคนอื่นๆอีกครั้ง ฮิตซึกายะพิจารณาข้อความซักครู่หนึ่งจึงตอบว่า
“วังกลางเป็นพวกหัวโบราณ ฉันจำได้ดี”ดวงตาหรี่ลงเมื่อนึกถึงเพื่อนของเขาคุซากะที่ต้องจบชีวิตเพราะคนพวกนี้ “จริงอยู่ที่ท่านเซนริและคนอื่นๆเป็นระดับราชวงศ์ที่ต้องเคารพยำเกรง แต่สำหรับพวกเรา วังกลางก็คือผู้ที่เราขัดไม่ได้ตามเคย ถ้าพวกนั้นเห็นวิธีที่จะทำลายแผนการนี้แล้วล่ะก็เขาต้องขัดขวางแน่นอน”
“สรุปว่าพวกคุณจะไปใช่ไหมครับ”อุราฮาร่าถามขึ้นในที่สุด ซึ่งทุกคนก็พยักหน้ารับ อดีตหัวหน้าหน่วยสิบสองจึงลุกขึ้นและพยักหน้าให้แต่ละคนตามเขามาไปยังลานฝึกใต้ดินนั่นเอง และเบื้องหน้าพวกเขานั้นก็คือ
“เซ็นไกมง...”เร็นจิพูดขึ้น “หรือว่า”
“พวกนายจะต้องไปเดี๋ยวนี้เลย”โยรุอิจิพูดเสียงเฉียบ “ไม่มีเวลาแล้วนะ รีบไปซะ”
“แต่ว่า...”
“เราไม่มีเวลาแล้ว ต้องไปเดี๋ยวนี้”
ยังไม่ทันจะค้านอะไรต่อมิอะไรอีก เซนนะดีดนิ้วเป๊าะหนึ่ง ทำให้เซนไกมงเริ่มแปรสภาพเป็นประตูที่มีลักษณะเรียบๆทว่าแปลกประหลาด กรอบประตูเหมือนเส้นพลังบางอย่างตวัดย้อนไปมาสีส้มโอรส
“เส้นพลังของSOTสินะครับ”อุราฮาร่าซึ่งพอจะเดารายละเอียดมันได้ทวนคำ ส่วนเจ้าของเส้นพลังพยักหน้า
“แค่นำมาแปรสภาพเฉยๆ เอาล่ะ จะไปล่ะนะ”
ยังไม่ทันจะตั้งตัวอะไรทันแต่ละคนก็ถูกดูดเข้าไปเรียบร้อย โดยมีพวกอุราฮาร่ายืนส่งอยู่อย่างนั้น เท็ตไซถอนหายใจเบาๆอย่างปลงอนิจจัง ส่วนจินตะพึมพำว่า
“ขอให้กลับมาครบ32ส่วนนะ”
ความคิดเห็น