ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]Bleach:Soul Reaper Revelation

    ลำดับตอนที่ #2 : *Season 1*Episode 2:Test

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 52


     

     เช้าวันต่อมา

     

                อย่างน้อยการเดินทางกลับก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด... ขณะที่เดินกลับมาปุ๊ปก็ต้องวิ่งมาเตรียมตัวไปเรียนปั๊ป แถมตอนนี้ดันตะวันสายโด่ง พวกฮิตซึกายะต่างวิ่งหน้าตั้งแทบเป็นแทบตาย เพราะดูท่าทาง การที่หัวหน้าหน่วยไปร.ร.สายก็ดูไม่ค่อยจืดเท่าไหร่[คิดว่านะ]

     

     

                ไงอิจิโก่~~~ เหล่าสมาคมหัวสีประหลาดโกร๋นอาซาโน่ เคย์โงะกระโดดมาทักทายเป็นคนแรก แต่อิกคาคุพอได้ยินคำว่าโกร๋นปุ๊ปก็คิ้วกระตุกจนรันงิคุตบหัวป๊าปเข้าให้พร้อมกระซิบว่า

     

     

                หาเรื่องเมื่อไหร่ข้าฟ้องยาจิรุแน่

     

     

                ไง ว่าแต่ตอนนี้คาบไหนแล้วล่ะอิจิโกะวางกระเป๋า ส่วนลูเคียก็วางกระเป๋าที่โต๊ะข้างๆ ขณะที่พวกโอริฮิเมะและทัตสึกิหันมาทักทายตามประสาเด็กผู้หญิง

     

     

                สังคม ครูโอจิไม่เลวร้ายหรอกน่า แถมมีข่าวดีด้วยมิซึอิโระกล่าวอย่างตื่นเต้นทำเอาพวกยมทูตหันมามองทันที

     

     

                ข่าวดีหรอลูเคียขมวดคิ้วอย่างสงสัยและแล้ว คุณสาวเลสเปี้ยนก็กระโดดดึ๋งมาทันที

     

     

                ก็งานเทศกาลร.ร.ไงจ๊ะ คุณคุจิกี่~~~ ตอนกลางคืนนี่มีงานเต้นรำด้วยน้า น่าสนใจออก ว่าไงจ๊า เต้นรำกับฉันมั้ยจิซึรุนั่นเอง แถมสายตานั่น... สยอง...

     

     

                เอ่อ... คือ...ทันใดนั้น ก็มีลูกเตะเสยใส่สาวเลสเปี้ยนแว่นแด๊งแดงทันที ทัตสึกิเท้าเอวมองคนที่เคราะห์ร้าย

     

     

                หนอย งานเต้นรำน่ะ เค้ามีแต่ชายและหญิงย่ะ ไม่มีหญิงหญิงหรือชายกับชายหรอกแล้วก็หันมาทางลูเคียที่ยืนมองตาปริบๆ

     

     

                อ้อ คุจิกิ ไม่ต้องห่วงนะ ยัยนี่มันงี้ทุกที ทำใจเหอะ มีปัญหาอะไร มาหาอาริซาว่า ทัตสึกิคนนี้ จะเสยคาราเต้เอง

     

     

                ลูเคียหัวเราะแหะๆขณะยิ้มบางๆ นี่แหล่ะชีวิตของเด็กวัยรุ่น สนุกอยู่เสมอ และแล้วเรื่องนี้ทำให้นึกถึงคนที่เป็นทั้งพี่น้อง และเพื่อน อยากให้มาที่นี่บ้าง อย่างน้อย ก็จะได้ไม่ต้องเครียดมากเกินไป

     

     

                แล้วงานร.ร.มันมีอะไรบ้างล่ะอิกคาคุถามอย่างสนอกสนใจ

     

     

                ก็ของเราต้องมีการจัดสถานที่ การทำโบชัวส์วาดรูป (เอามาจากของร.ร.คนแต่งล้วนๆ) ทำการแสดง แสดงละครตอนกลางคืน แข่งขันทางด้านวิชาการแต่ละกลุ่มสาระ มีภาษาญี่ปุ่น คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระทางเทคโนโลยีและการงานอาชีพ ศิลปะ พละศึกษาแล้วก็ดนตรี แล้วแต่จะแข่งล่ะ สถานที่จะทำอะไรกันดีอันนี้ก็ต้องมาคิดให้เข้ากับงานเทศกาล แน่นอน ต้องขายของหรือเล่นเกมส์ด้วย (แต่พึ่งขายน้ำไปเองเอาดีมั้ยเนี่ย) การแสดงเห็นเสียงส่วนใหญ่อยากทำละครเพลง แต่มันสุดจะยาก ไหนจะต้องร้องเพลง แถมคนก็เยอะ ต้องประสานงานกับพวกรุ่นพี่อีก ตายแน่ๆ แล้วครั้งนี้ปี1จะเด่นด้วย เค้าสั่งมางี้อ่ะ แล้วเราต้องมาช่วยกัน อ้อ แล้วก็มีการแข่งขันเกมส์หมากล้อมด้วย สนใจเล่นมั้ยล่ะ ถึงจะเป็นของรุ่นพี่ แต่ยังไงเราก็ลงสมัครได้คุนิเอดะ เรียวมาอธิบาย ขณะที่เปิดสมุดซึ่งเธอจดมา

     

     

                เฮ้ เร็นจิ นายเล่นรึเปล่าล่ะอิจิโกะกระซิบถาม แต่เร็นจิส่ายหัววืด

     

     

                ไม่ดีกว่าอ่ะ ไม่ค่อยเก่งเกมส์พวกนี้ แถมต้องวิ่งปราบอารันคาร์เหนื่อยจะตาย

     

     

    สรุปคือรองหัวหน้าหน่วยที่6 ผู้มีรอยสัก แถมปลดปล่อยสวัสดิกะได้ กลับโง่เรื่องใช้สมอง... (ใช่ซะที่ไหนเล่าคนแต่ง-เร็นจิ)

     

     

                แต่ที่กังวลมากที่สุดคือละครเพลง ที่จะต้องแสดง แถมมีแขกจากต่างร.ร.แห่กันมาครบ แต่ครั้งนี้กีฬาสุดโหดเรียวกล่าวเรียบๆ เทนนิส บาสเกตบอล ว่ายน้ำ ฟันดาบ เคนโด้ คาราเต้ (กีฬารุนแรงชะมัด)

     

     

                งั้นฉันลงคาราเต้ละกันทัตสึกิเสนอ

     

     

                อืม แต่ระวังล่ะ งานนี้ไม่แยกหญิงชายซะด้วยซิ แต่ฟันดาบนี่คิดหนัก ใช้ดาบจริง เตรียมมาเองด้วย และต้องจัดทำเอฟเฟ็คเยอะๆถึงจะได้คะแนนและชนะได้ กฎคือ สวย แรง และไม่ทื่อ ต้องสำรองสำหรับพวกรุ่นพี่

     

     

    พวกยมทูตหันไปทางลูเคียด้วยสายตามีความหมายว่า ลงแข่งซะดีๆ เล่นเอายมทูตสาวกลืนน้ำลายเอื๊อก ก็แน่ล่ะ ลูเคียมีดาบและอาวุธที่งดงามที่สุดในโซลโซไซตี้ แถมเอฟเฟ็คก็เจ๋งๆสวยๆ ถ้าทำให้มันเนียนๆล่ะก็ไม่มีปัญหาหรอก

     

     

                งั้นก็ส่งคุจิกิหลังจากที่พวกยมทูตแต่ละคนปรึกษา ฮิตซึกายะก็หันมาบอกว่าจะส่งใคร ส่วนอีกคนขอคิดดูอีกที

     

     

                เอ๋ จะไหวหรอครับเนี่ยอิชิดะหันมาถามอย่างสงสัย เล่นส่งลูเคียไปเฉยแล้วจะเป็นไงเนี่ย ต้องใช้ดาบผ่าวิญญาณถ้าเกิดมันเล่นตลกล่ะ แถมเขาไม่เคยเห็นดาบผ่าวิญญาณของลูเคียซะด้วย ทั้งโอริฮิเมะและแช้ดก็เช่นกัน

     

     

                ดาบฟันวิญญาณของลูเคียเป็นดาบที่งดงามที่สุดในโซลโซไซตี้ ไว้เห็นของจริงระวังจะอึ้งรันงิคุอธิบายอย่างสนุก ได้เห็นดาบฟันวิญญาณที่งดงามที่สุดในโซลโซไซตี้จะสนุกแค่ไหน เบียคุยะคงไม่เอาตายหรอก (คิดว่านะ) ขณะที่อิชิดะ โอริฮิเมะ และแช้ดอ้าปากค้าง แล้วหันไปทางเจ้าของดาบที่งดงามที่สุดพร้อมๆกัน น่าดูชะมัดเลย

     

     

                คราวที่แล้วเล่นเอาเจ้าอารันคาร์กับเอสปาด้าเละไปนี่นา แค่ชิไคเองนะนั่นรันงิคุหันไปกอดคอลูเคีย ทำเอายมทูตสาวดิ้นกระแด่วๆ

     

     

                เดี๋ยวๆ แล้วละครเพลงอย่าลืมสิมิซึอิโระร้องบอก เรื่องอะไรดีล่ะ

     

     

                หนูน้อยหมวกแดงนั่นคือคำตอบจากเคย์โงะ (ปัญญาอ่อนมากแก)

     

     

                เจ้าหญิงนิทรา

     

     

                “Swan lake ของไชครอฟสกี* (ผู้ประพันธ์บทละครที่มีชื่อเสียง บทเพลงของเขาได้รับการบรรเลงในออเครสต้าหลายครั้ง และในปี2006 วงนาโกยา ฟิลฮาโมนิก ออเครสต้าที่มาแสดงในเมืองไทย ณ ศูนย์วัฒนธรรมได้บรรเลงเพลงชุดนี้และสามารถหาฟังได้ตามร้านขายวีซีดี แผนกเพลงคลาสสิค)นี่ก็อลังการมาก

     

     

                แต่ฉันว่าคิดเรื่องเองดีกว่ามั้ยโอริฮิเมะเสนอซึ่งแต่ละคนมีสีหน้าปั้นยาก มันยากจะตาย ละครเพลง และแล้วมือถือของเร็นจิก็ดังขึ้น ทำเอายมทูตหนุ่มวิ่งออกจากห้องไปรับแทบไม่ทัน

     

     

                ครับๆ เอ่อ หัวหน้าคุจิกิ เอาจริงหรอครับ อ่า ครับๆ... ได้ครับ...แล้วก็วิ่งเข้ามาในห้องอีกครั้ง เอ่อ ไว้คิดทีหลังละกันนะ

     

     

    แต่ละคนหันมาทางเร็นจิด้วยสายตาประมาณว่า อะไรของมัน

     

     

                จริงสิคุณคุจิกิ เห็นได้ยินว่า ได้เจอเจ้าชายของโซลโซไซตี้แล้วนี่โอริฮิเมะทักขึ้นมาทันที ลูเคียพยักหน้า

     

                ก็เห็นนะ แต่ไม่ได้เห็นหน้า ฉันก็ไม่ได้เจอเขามาตั้งหลายปีแล้ว โตขึ้นเยอะแน่ๆ

     

    คนฟังพยักหน้า

     

                เอ เจ้าชาย จะต้องหล่อ เท่ห์ ใจดี ใช่มั้ย คุณคุจิกิ

     

    ลูเคียกะพริบตาปริบๆ หล่อ เท่ห์ ใจดี เท่าที่เรียกความทรงจำได้รางๆ ก็ดูเหมือนจะใช่ สงสัยต้องรอเห็นหน้าจริงๆแล้วล่ะมั้ง แต่จะมีโอกาสรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะพวกราชวงศ์มันช่างปกปิดตัวตนซะด้วย กลุ้ม!

     

     

    ในความมืดแห่งรัตติกาล การล่าของมันจะเริ่มขึ้น การล่าเหยื่อและการฆ่าผู้มีพลังวิญญาณที่อำมหิต และพร้อมจะชักนำไปสู่ความตายอันไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป

     

     

                ชิส์ พลังวิญญาณไม่พอยามี่เอ่ยบ่นขณะที่เตะใส่มนุษย์ที่ถูกดูดวิญญาณไปจนหมดไปไกลๆ ร่างชายคนนั้นกระเด็นไปพร้อมกับเลือดสดๆไหลเป็นทางเหมือนก๊อก เจ้าพวกนี้มันมีแต่สวะทั้งนั้น

     

     

                เจ้าควรจะฝึกเพสควิสอุลคิโอร่าเอ่ยเรียบๆอย่างไร้อารมณ์ แล้วมองไปรอบๆ แต่พอหันมา ก็ต้องเหวอ เพราะเนื่องจาก ยามี่หายไปแล้ว เจ้าบาดเจ็บอย่ามาโทษข้าละกันเขาบ่นเบาๆขณะที่มุ่งไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อต่อกรกับยมทูตของโซลโซไซตี้พร้อมด้วยเหล่าอารันคาร์และเมนอสกรังเด้นับสิบ และแล้วก็เริ่มต้นการไล่ล่าและการนองเลือด เอสปาด้าหนุ่มหรี่ตา “ดูเหมือนคนที่จงใจล่อเรามาคงจะอยากตายซะมาก”

     

     

     

    โซลโซไซตี้

     

     

                ตอนนี้มีกองทัพเอสปาด้า อารันคาร์และเมนอสกรังเด้ได้บุกจู่โจมที่โลกมนุษย์ครับคนของหน่วยข่าวกรองแจ้งเรื่องทุกอย่างอย่างรวดเร็วในห้องประชุมหัวหน้าหน่วย หัวหน้ายามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิพยักหน้า แล้วหันไปทางเหล่าหัวหน้าหน่วย

     

     

                หัวหน้าหน่วยไปประจำที่ เตรียมไปโลกมนุษย์ ตอนนี้กองกำลังของเราพร้อมแล้ว หัวหน้าคุจิกิ

     

     

    เบียคุยะที่เตรียมจะเดินไปพร้อมกับคนอื่นๆหยุดฝีเท้าแล้วหันมาทางหัวหน้าใหญ่ทันที

     

     

    หัวหน้าใหญ่พยักเพยิดไปทางเงามืดคนหนึ่งซึ่งร่างสามร่างสวมผ้าคลุมอยู่ราวกับปิดบังตนเอง แต่สิ่งที่แผ่ออกมานั้นแฝงความไม่ธรรมดาอยู่เปี่ยมล้น โดยเฉพาะคนๆหนึ่งพลังวิญญาณของเขาบ่งบอกถึงว่าไม่ใช่มนุษย์ หัวหน้าหน่วยหกค้อมตัวให้อย่างสุภาพแล้วก็เดินออกไปทันที ส่วนอีกสามคนนั้นมองตามไปเล็กน้อย จนชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูแล้วเป็นคนตัวสูงมากทีเดียวพูดขึ้นมา

     

     

                “จะไวเร้อ”

     

     

                “ถือซะว่าให้เขาฝึก ฉันเองก็อยากจะรู้นักว่าสิบสามหน่วยพิทักษ์ก้าวหน้ารึเปล่า”น้ำเสียงหวานแต่ทว่าไม่ได้แสดงถึงความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อยพูดขึ้น เธอเป็นสาวในชุดคลุมเช่นกัน และเป็นคนที่ตัวสูงราวๆนางแบบ แต่ท่าทีลึกลับของเธอก็บ่งบอกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยเช่นกัน และคำพูดเมื่อครู่ก็แสดงถึงความเข้มงวดที่มีอยู่เปี่ยมล้น ทว่าไม่ได้แสดงอะไรออกมามาก “ตามไปดูซักหน่อยฉันว่าคงจะไม่เสียหายนะนั่น”

     

     

    หญิงสาวก้าวย่างไป แต่เวลาที่เดินนั้นไม่ได้ใช้ประตูเซนไกมง ทว่ากลับเหมือนมีมิติที่ดูดกลืนทั้งสามไป จนไม่มีวี่แววอีกเลย

     

     

     

    กลับมาทางด้านโลกมนุษย์ที่แต่ละคนต่างออกแรงในการต่อสู้อย่างมาก เพราะปริมาณฮอลโลว์ไม่ได้ลดเลยแม้แต่น้อย เมื่อฆ่าก็ย่อมเพิ่มพูนขึ้นมา อิชิดะกัดฟันแน่น เพราะแค่อาวุธของเขายังกำจัดไปไม่หมด แม้จะมีเร็นจิช่วยด้วยก็ตาม มันไม่ต่างจากน้ำน้อยท่ามกลางเปลวไฟ หลังจากที่แยกกันไปหาต้นตอทุกคนก็พบกับความล้มเหลวจนต้องตัดสินใจกว่าให้ฆ่าไปเรื่อยๆเผื่อมันจะหมด

     

     

    ฟ้าว

     

     

    เขี้ยวจันทราสีดำแหวกอากาศเข้ามาพร้อมกับทำลายกองทัพฮอลโลว์แต่ซักพักมันก็เพิ่มมากขึ้น อีกครั้งทำให้เริ่มอารมณ์บูดเข้าไปทุกขณะ ส่วนลูเคียถอยออกมาเพื่อกะระยะในการใช้ท่าซึกิชิโระ แต่ทว่าหัวสมองเริ่มมีแต่ความสงสัยเพราะไม่มีเอสปาด้ามาคุมแต่ยังแข็งแกร่งเช่นนี้ แสดงว่าผู้อยู่เบื้องหลังคงจะเก่งไม่หยอก

     

     

     ฟึ่บ

     

     

    เสียงลมปั่นป่วนด้านหลังพร้อมกับมีใบเมเปิ้ลพัดกระจาย เด็กสาววัยราวๆ16ปีปรากฎตัวขึ้น เธอคือเซนนะนั่นเอง และเป็นคนแรกที่มาถึงที่นี่ ใบหน้าสวยน่ารักมีท่าทีเคร่งเครียด

     

     

                “พวกเธอกำลังถูกทดสอบ”

     

     

    อิจิโกะและเร็นจิหันขวับมาในทันทีเมื่อได้ยินคำว่าถูกทดสอบ

     

     

                “หมายความว่าไงล่ะ”

     

     

                “ดูๆแล้ว คงจะมีใครล่อมันมาที่นี่เพื่อทดสอบว่าพวกนายแข็งแกร่งแค่ไหน สภาพการณ์แล้วมันก็คงจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน ตอนนี้ทางโซลโซไซตี้กำลังมาช่วย อดทนไว้อีกหน่อยละกัน”

     

     

    แล้วพายุทอร์นาโดก็พัดเข้าใส่ฮอลโลว์จำนวนมากเพื่อการประหยัดแรง แล้วทั้งหมดก็วิ่งฝ่าความมืดไปเพื่อหาจุดที่พัก และที่ๆน่าจะปลอดภัยก็น่าจะเป็นบ้านของอุราฮาร่า คิสึเกะ ทุกคนระวังหลังกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนั้นบทสนทนาก็ยังดำเนินต่อไป

     

     

                “แล้วคนของหัวหน้าใหญ่ล่ะ”

     

     

                “หา”เซนนะมีสีหน้าสงสัยเมื่อเจอคำถามของเร็นจิเข้ามา จนอีกฝ่ายต้องขยายความให้

     

     

                “ก็ที่ยื่นฎีกาน่ะ”ทำให้คนฟังมีสีหน้าเข้าใจทันทีว่าหมายถึงใคร เซนนะหันไปทางความมืดเบื้องหน้าอีกครั้ง

     

     

                “พวกเขาบอกว่าอยากจะดูฝืมือพวกนาย จะได้ประเมินอะไรซักอย่างได้ถูก และเขาไม่คิดอยากจะให้พวกนายหวังพึ่งเขาได้ตลอดหรอกน่า”

     

     

                “อ้าว เรียกลงมาแล้วไม่ช่วยเนี่ยนะ”อิจิโกะประชด แต่ทว่าลูเคียส่ายหน้า

     

     

                “มันก็ถูกนะ เราจะหวังพึ่งไปตลอดไม่ได้หรอก เพราะระดับพวกเขา ถ้าจัดการทีเดียวแล้วพวกเราจะแข็งแกร่งได้อย่างไรในเมื่อให้พวกเขาจัดการอย่างเดียวน่ะ ลืมไปแล้วรึไง ตอนที่พวกเราสู้กับเอสปาด้า ก็สามารถทนๆมันได้ตลอด อีกอย่าง ถึงจะเรือนรางแต่ว่าพวกเขาก็ไม่ใช่คนใจร้าย”

     

     

    พวกที่นึกอย่างเถียงได้แต่สงบปากสงบคำระหว่างที่เดินทางไปเรื่อยๆด้วยความเร็ว แต่เมื่อถึงระยะทางที่ใกล้มากขึ้นก็รู้สึกได้ว่ามันเงียบลง และสงบมากขึ้นเพราะไม่มีฮอลโลว์มาวุ่นวายแถบนี้ซักเท่าไหร่

     

     

    ฟึ่บ

     

     

    สิ้นเสียงประหลาดที่ทำให้ทุกคนมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่กก็มีเสียงพายุพัดอีก แต่มันแฝงไปด้วยไอชั่วร้ายที่ได้สัมผัสก็ชวนกระอักกระอ่วน เซนนะหันขวับไปทางต้นตอของพายุแล้วนัยน์ตาก็เบิกกว้างอีกครั้ง เมื่อลมพายุสงบลงก็พบว่าหญิงสาวดูอายุเท่าๆกับเซนนะกำลังยืนอยู่ใจกลางพายุ แต่ละคนถอยไปทางด้านหลังทีละน้อยเพราะสัญชาตญาณบ่งบอกว่าไว้ใจไม่ได้ เด็กสาวที่พึ่งปรากฎตัวเลิกคิ้วน้อยๆให้ และเมื่อลมปั่นป่วนสงบลง พวกผู้ชายก็ได้แต่จ้องหน้าเธอเป๋งด้วยความรู้สึกตกตะลึง

     

     

    เธอเป็นผู้หญิงที่ผมยาวจรดพื้น เหยียดตรงเงางาม ดวงตาสีสวยคู่โตจ้องมาด้วยสายตาเหยียดหยาม กิโมโนสีดำพัดไหวตามแรงลมพายุที่ยังคงกระจายอยู่รอบๆร่าง เธอละสายตาไปจากพวกยมทูตแล้วจ้องมาที่เด็กสาวจากตระกูลอาคาเนะ

     

     

                “สมกับเป็นผู้ใช้SOT Oracle การคาดการณ์ยังเฉียบเหมือนเดิมนะ”

     

     

                “ใครน่ะ”อิชิดะมีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่ดูท่าทางสองสาวนี้จะรู้จักกันดี ส่วนลูเคียมองทั้งสองคนสลับไปมาด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเหมือนสาวผู้มาใหม่คงไม่ใช่คนน่าเข้าใกล้เอาซะเลย แต่แค่ละสายตาไปชั่วครู่ เสียงตะโกนของเซนนะก็ดังผ่านโสตประสาทแห่งความไม่เข้าใจ

     

     

                “เธอคิดอะไรบ้าๆของเธอ ซากุรากิ!!!!

     

     

    เด็กสาวผู้ถูกขนานนามว่าซากุรากิยังคงหัวเราะเบาๆ แต่ดูเหมือนคนเสียสติมากกว่า เซนนะถอยออกห่างจากเธอคนนั้นทันที สีหน้าแสดงถึงความหงุดหงิด

     

     

                “บ้าไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ทำไม่ได้”

     

     

                “สองคนนั้นคุยอะไรกันว่ะ”เร็นจิบ่นพึมพำ เพราะพักนี้เริ่มมีแต่เรื่องให้น่างงแต่ก็ต้องทนฟังต่อไป

     

     

                “เธอใช้พลังตัวเองให้ล่อมาที่นี่แล้วจงใจให้พวกเขามอบเหตุการณ์นี้เป็นการทดสอบ ทั้งๆที่มันไม่ใบ่คำสั่ง รู้ไม่ใช่หรอว่าการที่จะให้ผู้นำทัพสูงสุดของจักรวรรดิต้องถูกบีบคั้นมันเป็นข้อห้ามสูงสุดของพวกเราอย่างแรง อีกอย่างเธอก็เป็นญาติห่างๆของเขา เธอกำลังคิดอะไรอยู่”

     

     

                “แล้วเธอคิดว่าเป็นซากุรากิ เคย์โกะคิดจริงๆงั้นหรือ”เด็กสาวหัวเราะอย่างน่าหวาดหวั่น อิจิโกะรับรู้ได้ว่าหัวใจเขากำลังเย็นเฉียบและรู้สึกเหมือนกับมันกำลังจะฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆเมื่อเจอพลังแห่งอำนาจนี้เข้าไป

     

     

    ไม่เคยเจออะไรที่เป็นแบบนี้มาก่อนเลย แล้วนี่มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ นี่มันเรื่องอะไรกัน

     

     

    เซนนะเหงื่อไหลซึมเมื่อฟังคำพูดเมื่อครู่

     

     

                “หรือว่าเธอคือ...”

     

     

                “ถูกต้อง”ทันใดนั้นเด็กสาวผู้ถูกเรียกว่าซากุรากิ หรือชื่อว่าเคย์โกะยกมือขึ้นทันที ทันใดนั้น ประกายคมดาบข้นคลั่กบังเกิดจากไอพิษก็พุ่งเข้าจู่โจม เซนนะหมุนตัวกลับหลัง

     

     

                “วิ่ง!!!!

     

     

    ที่เหลือรีบทำตามทันที แม้จะไม่เข้าใจนัก แต่ทว่าดาบยักษ์ยังคงพุ่งมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับฮอลโลว์ที่ดิ่งจากฟากฟ้าลงมาโจมตีเช่นกัน

     

     

    ลูกธนูจากอิชิดะพุ่งขึ้นสู่ฟ้าทำลายศัตรูให้สิ้นซากและเพื่อเปิดทางออก ลมพัดตีกระทบหน้าจนฝุ่นเข้าตาทำให้น้ำตาไหล แต่ยังคงวิ่งต่อไปเพราะเซนนะบอกว่าอย่าหยุดเด็ดขาด

     

     

                “ยัยนั่นเป็นใครน่ะ”เร็นจิตะโกนผ่านสายลมที่อื้ออึง

     

     

                “ซากุรากิ เคย์โกะ หนึ่งในตระกูลผู้สำเร็จราชการของจักรวรรดิที่อยู่ของจักรพรรดิและราชวงศ์ปกคลองสูงสุดของทุกเผ่าพันธุ์ ต้นกำเนิดของยมทูต ได้ยินว่าเธอคนนี้หายสาบสูญไปเมื่อเกือบสิบปีก่อน แล้วมีการตามหากันตั้งนาน แต่เมื่อครู่ดูเหมือนจะถูกพลังของดาบฟันวิญญาณกลืนกินเข้าไป ไม่สิ แต่เป็นผู้ควบคุมระบบการปกครองรุ่นที่แล้วต่างหาก สมญานามธิดาแห่งความตายชิเมโกะ!!!!

     

     

                “อะไรคือผู้ควบคุมนะ”

     

     

                “ผู้ควบคุมระบบการปกครองคือตำแหน่งที่เป็นของอัจฉริยะทางสมองของจักรวรรดิทั้งสี่ เป็นตำแหน่งที่ว่ากันว่าก่อตั้งขึ้นมานานมากแล้วจนไม่รู้ว่ากี่ปี มีอำนาจในการถอดถอนกษัตริย์ไม่ชอบธรรม หรือขุนนางด้วยก็ตาม พวกนี้จะมีพลังที่ไม่เหมือนใคร ยิ่งกว่าเชื้อพระวงศ์ไหนๆ ฝีมือที่แม้แต่ระดับเชื้อพระวงศ์ที่เก่งโคตรๆยังต้องศิโรราบ แต่ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอคนนี้มาเป็นศัตรูของเรา ส่วนเรื่องดาบไอพิษนั่นคืออาวุธลงทัณฑ์ ถ้าไม่ใช่ระดับสูงจริงๆโดนไปเล็กน้อยตายแน่ อย่างยัยนั่นสามารถควบคุมการตายได้ โดยการจะสร้างสถานการณ์แล้วบังคับให้ตาย ควบคุมจิตใจคนไปสู่ความตาย ดังนั้น ต้องวิ่งอย่างเดียวแล้ว”

     

     

                “แล้วพวกหัวหน้าหน่วยยังไม่มาอีกหรอไงเนี่ย”

     

     

    เซนนะกวาดตามองรอบด้านชั่วขณะหนึ่ง

     

     

                “คาดว่าคงติดพันกับการต่อสู้กับฮอลโลว์และพวกเมนอสกรังเด้ เลยมาได้ช้ามาก ตอนนี้หาทางเอาตัวรอดก่อนดีกว่า”

     

     

                “แล้วSOTที่แม่นั่นพูดมันคืออะไรน่ะ”

     

     

                Spirit of Talent เป็นจิตวิญญาณชนิดพิเศษซึ่งจะเป็นพวกที่ไม่เป็นมนุษย์แท้ๆ มีอำนาจต่างจากวิญญาณทั่วๆไป อำนาจของพวกนี้จะท้าทางกฎของธรรมชาติ มีแต่พวกจักรวรรดิที่ใช้ได้ อย่างของเคย์โกะคือควบคุมการตาย เป็นขั้นสูง ของฉันแค่มองเห็นอนาคตได้ ดังนั้น จึงไม่อยากจะสู้ด้วย ระวัง!

     

     

    ไอพิษดิ่งลงมาเป็นลำแสงมฤตยูแปรเป็นมือขนาดใหญ่ แต่ละคนกระจัดกระตายไปคนละทิศคนละทาง ล้มลงไปกองกับพื้น

     

     

                “นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน”อิจิโกะคิดอย่างเจ็บแค้นที่ขนาดมีพลังของไวเซิร์ดมันก็ต่อกรไม่ได้เลย พวกนี้ห่างชั้นเกินไป เขาค่อยๆชันตัวขึ้นทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง

     

     

    ลูเคียเบิกตาถลน เมื่อไอพิษเข้าสู่ร่างกาย แม้แต่เร็นจิและอิชิดะต้องขดตัวงอ มันอาละวาดในร่างกายทรมานด้วยอำนาจเหลือจินตนาการ ส่วนเซนนะยังคงหลบมันโดยอาศัยการมองเห็นอนาคตว่ามันจะมาทางไหนบ้าง

     

     

    ปึง

     

     

    ทันใดนั้นไอพิษก็เข้าสู่ร่างเด็กหนุ่มผมส้มทำให้เขาต้องร้องโหยหวนออกมาความเจ็บปวดรวดร้าวราวกับร่างกายจะแตกออกเป็นชิ้นๆ ทันใดนั้น ดวงตาก็มองเห็นประกาบดาบสีเงินก็จ่อมาที่ศีรษะ พร้อมกับเด็กสาวเจ้าของไอพิษที่มีสีหน้าปรากฎรอยยิ้มแห่งชัยชนะ

     

     

    นี่เขาต้องมาตายเร็วขนาดนี้เลยหรอ

     

     

    อิจิโกะคิดในใจ

     

     

    ไม่เอาน่า!!!!!

     

     

    ชั่ววินาทีแห่งความสิ้นหวัง ความอบอุ่นก็เข้ามาแทนที่ผ่าชั้นบรรยากาศ ทำให้คนที่ร้องครวญครางต้องหยุดลงและสังเกตุได้แม้เพียงเรือนรางว่า เคย์โกะถอยออกไป พร้อมกับร่างสูงสง่าสวมผ้าคลุมปรากฎตัว เขาสวมผ้าคลุมมิดชิด มือที่โผล่พ้นชายผ้าคลุมขาวจัดแต่ดูดีกว่าคนญี่ปุ่นทั่วๆไปมาก ร่างสูงสะบัดมือ ทันใดนั้นไอพิษทุกอย่างก็สลายไปอย่างน่าอัศจรรย์

     

     

                “คุณ... คือ”

     

     

    แต่ทว่าแสงสีขาวฟ้าบาดตาก็ทำให้ทุกอย่างสงบและสติก็จมดิ่งสู่ความมืดมิดอย่างรวดเร็ว จนไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×