ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส (Baramos) : ก็ผมเป็นลูกชายสุดเลิฟ!!

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่5: ชาร์เป็นเหตุ...

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 55


    ตอนที่5 ชาร์เป็นเหตุ...


    ตั้งแต่ขึ้นเตียงนอน คิงแห่งแดนนักรบก็นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทำให้เตียงนุ่มนั้นยวบไปยวบมา

    “โว้ย!” เสียงหวานแหววขึ้นอย่างเหลืออด ก่อนผุดตัวลุกนั่ง “แกจะพลิกตัวอีกกี่รอบ หือ”

    “นายนอนไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน” คนนอนไม่หลับตอบเสียงเรียบตามนิสัย

    เฟรินกอดอก ทำหน้ายุ่ง หงุดหงิดเพราะความง่วง “เออ ฉันก็อยากนอนเหมือนกัน แต่แกยุกยิกไปมาทำให้ฉันนอนไม่หลับ”

    คาโลผุดลุกขึ้นนั่งบ้าง “ทีนายนอนตีลังกาเอาขามาพาดหน้าฉัน ฉันยังไม่เห็นบ่น”

    “เหอะ!” คนโดนว่าโต้บ้าง “แกไม่บ่นเพราะแกชินน่ะสิ แต่ฉันยังไม่ชิน เข้าใจมะ”

    “ก็ชินซะสิ” คาโลสวนทันควันแล้วลมตัวลงนอน

    “เชอะ!” เฟรินพ่นลมหายใจเสียงดัง มองสามีที่นอนหันหลังให้

    เธอรู้อยู่หรอกว่ามันนอนไม่หลับเพราะอะไร

    อาการมันออกตั้งแต่กินข้าวเย็นแล้ว ที่มันกินน้อยกว่าปกติ

    “ถ้าเป็นห่วงมากก็ไปปล่อยลูกซะสิ” เฟรินกล่าวอย่างรู้ใจ “แค่นี้ชาร์มันก็เข็ดแล้วน่า” เธอเอนตัวซบไหล่สามี “ไปปล่อยให้ลูกกลับมาพักเถอะนะ นายจะได้นอนหลับด้วย”

    หากคนใจแข็งกลับเงียบไม่ยอมตอบอะไร จนภรรยาชักอ่อนใจ

    “ตามใจ งั้นแกก็เชิญนอนไม่หลับทั้งคืนละกัน ฉันไม่สนด้วยแล้ว” เฟรินเอนตัวลงนอนบ้าง พร้อมขู่ “อ้อ แล้วอย่ายุกยิกอีกล่ะ ไม่งั้นฉันจะไปนอนกับอริสแล้วไม่หลับมานอนห้องแกอีกเลย”

     

     

     

    คาโลพยายามข่มตานอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ ลืมตามองนาฬิกาอยู่เนืองๆ อยากเร่งเวลาให้เช้าไวๆ

    ชาร์ต้องปวดขาแล้วก็หิวมากแน่ๆ จะเป็นอะไรมากรึเปล่านะ

    จริงๆเขาต้องข่มใจมากที่เดียวทีใช้ไม้นี้ลงโทษลูกชาย เขาไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่เขาคงโอ๋ลูกชายที่โตขึ้นทุกวันเหมือนแต่ก่อนไม่ได้อีกแล้ว

    เช้าวันนั้นคาโลจึงตื่นนอนเช้ากว่าปกติ แล้วรีบแต่งตัว เพื่อไปปล่อยตัวลูกชายและเคย์

    เคย์ยังนั่งหลังตรง ส่วนชาร์ลูกชายของเขานั่งขยับตัวยุกยิก

    “ไปพักผ่อนได้แล้ว” คาโลเอ่ยอนุญาต ในใจอยากปราดไปช่วยประคองลูกชาย แต่ก็ต้องทำใจแข็งนั่งลงที่เก้าอี้ทรงงาน แล้วหยิบฏีกามาเปิดอ่าน

    ทายาทนักฆ่าลุกได้สบายๆ จึงมาช่วยพยุงเพื่อนซี้ที่ขาชาจนลุกไม่ขึ้น ทั้งที่ทำทีเป็นอ่านฎีกาคาโลก็แอบเหลือมองลูกชายนึกสงสารจับใจ

    เคย์พยุงเพื่อนรักที่ดูอ่อนแรง ทันทีที่สัมผัสผิวกาย เคย์ก็รู้สึกได้ว่าเพื่อนซี้ตัวร้อนกว่าปกติ จึงเอามือไปอังที่หน้าฝาก “นายตัวร้อนหนิ”

    ทันทีที่ได้ยินคาโลวางอ่านฎีกาลงบนโต๊ะฉับพลัน ก่อนรีบปราดเข้าไปหาลูกชาย แล้วเอามืออังที่หน้าฝาก

    “ท่านพ่อ...” ชาร์เรียกเสียงด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

    ชาร์มีไข้...

    คาโลคิด ก่อนสั่ง “เทรเซอร์ ไปตามหมอเร็วเข้า”

    เทรเซอร์โค้งรับคำสั่ง ก่อนสาวเท้าเร็วออกนอกห้อง

    คาโลพยุงชาร์ไปนั่งพักที่โซฟา สั่งนางกำนัล “ไปเอาน้ำมา”

    สิ้นคำสั่งนางกำนัลในห้องรินน้ำจากเหยือกแล้วมาส่งให้คาโล คาโลรับมา นั่งลงข้างๆลูกชาย แล้วค่อยๆประคองน้ำให้ลูกชายดื่ม “ชาร์ ค่อยๆดื่มนะลูก”

    นางกำนัลคนเดิมก็ส่งแล้วน้ำให้เคย์เหมือนกัน

    “ไปเอานมอุ่นๆมาด้วย” คาโลสั่งอีกครั้ง

    “เพคะ” นางกำนัลรับคำสั่ง

    เคย์เห็นภาพนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองหลงคิดไปเองว่าครั้งนี้ลุงคาโลจะโหดจริง และจะไม่ยอมใจอ่อนให้ลูกชาย

    แต่พอได้ยินว่าไอ้ชาร์เป็นไข้ปุ๊บ หน้ากากน้ำแข็งก็แตกเพล้งไม่เหลือชิ้นดี

    มิน่าล่ะ ท่านพ่อของเขาถึงชอบว่าว่าลุงคาโลบ้าลูกชาย

    แต่จะให้พูดกันจริงๆ บ้านนี้เขาก็เป็นกันทั้งบ้านนั่นแหละ

    ด้วยความที่เป็นเด็กผู้ชายคนเล็กเพียงคนเดียวในขบวนพี่น้องทั้งหกคน ทั้งลุงคาโล น้าเฟริน ท่านปู่บาโร ท่านจ้าวเอวิเดส และพวกพี่ๆ ต่างก็ทะนุถนอมไอ้ชาร์ราวกับไข่ในหิน

    เคย์อมยิ้มให้กับภาพที่เห็น






    ชาร์นอนซมอยู่บนเตียง โดยมีเคย์นั่งเล่นอยู่ในห้อง

    หมอหลวงบอกว่ามันเป็นไข้หวัด เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนพักซักวันสองวันก็จะหาย

    คนในบ้านพอรู้ว่ามันไม่สบายก็ตกอกตกใจกันใหญ่ พร้อมทั้งแห่กันเข้ามาเยี่ยมไม่ขาดสาย

    น้าเฟรินที่เมื่อสักครู่เข้ามาหาชาร์เจอลุงคาโลที่อยู่ในห้องด้วย น้าเฟรินมองค้อนลุงคาโลขวับๆ ทำเอาลุงคาโลหน้าเสียเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ทุกคนออกไปหมดแล้วเหลือแต่เขาที่ยังนั่งเล่นอยู่

    เคย์มองคนไม่สบายแล้วนึกสมน้ำหน้ามันไม่ใช่น้อย

    ที่มันป่วยแบบนี้ก็เพราะมันทำตัวเองทั้งนั้น เมื่อคืนก่อนคืนที่จะหนีไปเที่ยว เย็นวันนั้นเขาพึ่งกลับมาจากซาเรสและไพ่ที่มันสั่งซื้อก็พึ่งได้มาพอดี

    มันก็เห่อของใหม่ไม่รอช้าตั้งวงเล่นไพ่อูโน่ทันควัน ตอนแรกมันจะลากเขาร่วมวงด้วย แต่พอดีเขาเหนื่อยๆเลยขอบาย มันก็เลยเล่นกับพี่อริสและลากทหารยามกับนางกำนัลมาร่วมวงอีกสองคน แล้วมันก็เล่นเพลินจนเกือบโต้รุ่ง

    วันต่อมา มันก็วางแผนจะหนีเที่ยว แล้วก็เอาน้ำมาราดตัวซะเปียกโชกทั้งๆที่อากาศหนาวเพื่อเล่นละครตบตาคุณพ่อ แล้วตอนกลางคืนมันก็แอบหนีเที่ยวแล้วโดนจับติดคุกที่อากาศเย็นสุดๆอีก พอกลับมาก็โดนพ่อมันลงโทษ มันก็เลยโดนหวัดเล่นงานแบบนี้นี่ไง

    ซ่าจนได้เรื่องทุกที

    หลังจากสมน้ำหน้าเพื่อนในใจ เคย์ก็เดินสำรวจตู้โชว์ที่เดิมมีหุ่นโมเดลปีศาจแบบต่างๆที่ผลิตโดยบริษัทผลิตของเล่นดันไดแห่งดมอสวางอยู่เต็มไปหมด แต่บัดนี้เป็นเพียงตู้โล่งๆ

    โห ลุงคาโลเล่นกวาดซะเกลี้ยงเชียว

    ไอ้ชาร์มาเห็นเข้ามีหวังร้องไห้รึเปล่าไม่รู้ หรือมันอาจจะทำใจได้แล้ว

    แต่ที่รู้ๆคือ มันคงเสียดายแย่ เพราะบางตัวเป็นรุ่นลิมิเต็ด บางตัวก็หายากสุดๆ แล้วลุงคาโลเล่นขายทอดตลาดได้เงินมาแค่หกหมื่นกว่าคราวน์เท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วถ้าขายดีๆมีโอกาสได้เป็นแสนๆคราวน์ สงสัยลุงคาโลขายแบบไม่สนใจอะไรล่ะมั้ง

    และถ้าจ้าวปีศาจรู้เข้าว่าของขวัญที่ส่งมาให้หลานชายสุดที่รักโดนเอาไปขายล่ะก็... คงกริ้วน่าดู

     

     

     

     

     

    เวลานี้เป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็น คาโลรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่โดนภรรยาค้อนขวับมาตลอดตั้งแต่เช้า พอตอนมื้ออาหารกลางวันก็ไม่ยอมพูดด้วย หลังจากนั้นเขาก็มีงานรัดตัวเลยหาโอกาสปลีกตัวมาคุยกับมันเป็นการส่วนตัวไม่ได้

    จากการสอบถามนางกำนัล ได้ความว่าเฟรินอยู่ในห้องพัก

    คาโลเปิดประตูห้องพักและก้าวเท้าผ่านประตูไปได้เพียงก้าวเดียว ร่างบางที่อยู่ในห้องก็วิ่งถลาเข้ามาทั้งผลักทั้งดันตัวเขาสุดแรงเกิด

    “ออกไปเลย ออกไป”

    เฟรินผลักคาโลจะให้ร่างสูงออกนอกห้องให้ได้ แต่คาโลก็ไม่ยอมให้โดนดันออกไปง่ายๆ จึงผลักๆต้านๆกันอยู่ซักพัก ร่างสูงก็เป็นฝ่ายชนะ คาโลเบียดตัวลอดช่องประตูเข้ามาให้ห้องได้สำเร็จปุ๊บก็หุบประตูลงกรณ์ปั๊บ

    ไม่ได้การ! มันบุกทะลวงสำเร็จ! แบบนี้มันไม่ได้การแล้ว

    เฟรินจึงหนีไปตั้งหลักที่เตียงแล้วคว้าหมอนมาเป็นอาวุธ

    “นายอยากเล่นปาหมอนกับฉันหรอ” ร่างสูงเลิกคิ้ว

    ร่างบางแยกเขี้ยวงุด “บ้า!” ปาหมอนในมือไปยังร่างของคิงแห่งคาโนวาลอย่างแรง

    หากเป้าหมายรับได้สบายๆ เช่นเดียวกับหมอนใบต่อมาที่ถูกปามา

    “ไปไกลๆ” เฟรินไล่

    “จะให้ไปไกลแค่ไหนล่ะ” คาโลถาม เจ้าตัวยังยืนอยู่กับที่

    “ยิ่งไกลยิ่งดี” ร่างบางกอดอกเชิดหน้า

    “งั้น ฉันคงคิดถึงนายแย่” ถ้อยคำหวานๆที่ทำให้คนฟังเขินนิดๆ ก่อนตามด้วยประโยคต่อมาที่ยกยอตัวเองเหลือเกิน “และฉันรับประกันว่า นายเองจะต้องคิดถึงฉันแทบขาดใจแน่ๆ”

    ชิ ไอ้คนหลงตัวเอง!

    “ไม่มีทาง!” เฟรินปฏิเสธเสียงแข็ง

    “นายแน่ใจ?

    “แน่ซะยิ่งกว่าแน่”

    พอเห็นท่าว่าภรรยาจะเล่นบทสาวน้อยขี้งอนไม่ยอมเลิกง่ายๆ

    คาโลจึงถอนหายใจเฮือก ก่อนกล่าวเข้าเรื่อง “ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้ชาร์ไม่สบาย”

    “เชอะ!” หากร่างบางค้อนขวับ

    “ฉันก็เป็นห่วงลูกไม่แพ้นายหรอกนะ” เสียงทุ้มพูดอย่างใจเย็น แล้วค่อยๆสาวเท้าเข้าไปหาภรรยาซึ่งยังยืนนิ่งกอดอกหันหน้าไปทางอื่นอยู่ “แล้วฉันก็ไม่สบายใจที่นายโกรธฉันแบบนี้”

    คาโลโอบเอวร่างบางที่ยังไม่ยอมมองหน้าเขาไว้หลวมๆ “นายก็รู้หนิ ว่าฉันง้อไม่เก่ง” คาโลเกยคางบนไหล่มน แล้วหอมแก้มนวลแผ่วเบา

    ได้ทีก็ฉวยโอกาสเลยนะ

    เฟรินคิด การกระทำอันอ่อนหวานของสามีทำให้เธอหน้าร้อนผะผ่าว แม้จะยังรู้สึกเคืองๆมันอยู่

    นี่นะง้อไม่เก่ง

    ทีอย่างนี้ล่ะมาทำเป็นถ่อมตัว ทำเป็นติ๋ม ทำเป็นนักรักชั้นอนุบาล!

    “จะให้ทำยังไงนายถึงจะหายโกรธ หืม?” เสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหู ลมหายใจร้อนผ่าว ยิ่งทำให้ดวงหน้าหวานยิ่งแดงระเรื่อ “ขอแค่นายบอกมา ฉันจะทำให้นายอย่างหนึ่ง”

    หืม?

    เฟรินหูกระดิกด้วยความสนใจ

    ขอได้อย่างหนึ่งงั้นหรอ?

    แต่ แหนะ! ทำเป็นมาย้ำด้วยนะ ว่าแค่อย่างหนึ่ง

    มันคงกลัวว่าเธอจะขอไม่หยุดล่ะสิ

    “อะไรก็ได้งั้นหรอ” เสียงหวานกล่าว

    น่าสนแฮะ

    “อืม”

    ดวงตาสีน้ำตาลวาววับ

    ครั้งนี้เธองอนแล้วได้กำไรแฮะ ไม่น่าเชื่อว่าคาโลมันจะเสนอข้อเสนอน่ารักๆแบบนี้

    ท่าทางมันคงรู้สึกผิดมากที่ทำให้ลูกชายสุดเลิฟมันไม่สบาย

    ตอนแรกเธอก็โกรธมันจริงที่ชาร์ไม่สบายเพราะการลงโทษบ้าๆของมัน แต่พอเห็นท่าทางจ๋อยๆของมันก็ชักใจอ่อน แล้วพอมันเสนอข้อเสนอสุดพิเศษแบบนี้ก็ปฏิเสธไม่ลง

    จะขออะไรดีนะ?

    ขอให้มันแต่งหญิงดีไหม? มันคงสวยน่าดู อยากเห็นมานานแล้วสิ

    เฟรินคิดอย่างขำๆ แล้วแอบเผลออมยิ้ม

    “แต่อย่าเป็นอะไรที่พิเรนทร์ๆเด็ดขาด” คิงแห่งคาโนวาลเพิ่มเงื่อนไขอย่างรู้ทัน เพราะเหลือบเห็นว่าภรรยาสุดแสบของตนอมยิ้มนิดๆ ก่อนขู่เสียงเรียบ “ไม่อย่างนั้นฉันจะลงโทษนายแทน”

    เฟรินหุบยิ้มฉับ

    ร้ายนักนะ มารู้ทันกันซะได้

    แล้วยังมีมาขู่อีก ตกลงว่า มันกำลังง้อเธอรึเปล่านี่?

    หากพอคิดถึงการลงโทษของมันแล้ว เฟรินก็นึกขยาด

    ไม่แหย่มันดีกว่า

    ร่างบางตัดสินใจก่อนเอ่ย “ถ้าอย่างนั้น ฉันอยาก









    ยามอาทิตย์อัสดง เจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโลวาลนั่งขัดสมาธิหน้าเบ้กอดหมอนพิงพนักเตียง หมอหลวงกำลังตรวจอาการ โดยมีเคย์นั่งมองอยู่ฝั่งตรงข้าม และเจ้าหญิงเฟริต้าอยู่ในห้องอีกคน
    “เป็นยังไงบ้างคะ” เฟริต้าที่ยืนอยู่ใกล้ๆเตียงถามหมอหลวง
    หมอหลวงทำหน้าคล้ายจะแปลกใจแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมารายงานหลังตรวจชีพจรย้ำอีกรอบเสร็จ “เจ้าชายหายดีแล้วพะย่ะค่ะ”
    “หืม?” เฟริต้ากระพริบตาปริบๆอย่างแปลกใจ “ท่านแน่ใจหรือคะ ทำไมหายเร็วจัง?
    แม้จะรู้ๆอยู่แล้วว่าเวลาชาร์ไม่สบายจะหายป่วยเร็วกว่าคนอื่นทุกครั้ง แต่เฟริต้าก็อดประหลาดใจไม่ได้
    ถ้าเป็นคนส่วนใหญ่ เวลาเป็นไข้หวัด ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสุดๆหนึ่งวันจึงจะหาย แต่ชาร์น้องชายของเธอพักผ่อนทานยาเพียงครึ่งวันก็หายเป็นปลิดทิ้ง
    “หายดีแล้วแน่นอนพะย่ะค่ะ แต่ทำไมถึงเร็วนัก กระหม่อมเองก็แปลกใจ” หมอหลวงทูล
    “อืม งั้นท่านออกไปได้แล้ว” สิ้นประโยค หมอหลวงก็ออกจากห้องไป
    “แข็งแรงจังเลยนะจ๊ะ” เฟริต้าพูดกับน้อยชายพร้อมลูบหัวเงินๆอย่างเอ็นดู
    “พี่อ่ะ อย่าลูบหัวสิฮะ ผมโตแล้วนะ” ชาร์ปัดมือพี่สาว
    เฟริต้ายิ้ม “เอ.. โตแล้ว แต่ทำไมยังทำหน้าเบ้แบบนี้ล่ะจ๊ะ” มือขาวเรียวดึงแก้มเนียนของน้องชายให้ฉีกยิ้ม “นั่นแหละ เวลาชาร์ยิ้มน่ารักที่สุดเลย” เจ้าหญิงเฟริต้าพูดตามประสาคนหลงน้องชาย
    “อี่อ่ะ เอี๋ยวแอ้มอมอืดอดอะอะ(พี่อ่ะ เดี๋ยวแก้มผมยืดหมดนะฮะ)” คนโดนดึงแก้มพูดอู้อี้ ก่อนมือพี่สาวจะคลายออก
    เฟริต้าหัวเราะเบาๆ หลังจากได้หยอกน้องชายสมใจ แล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆชาร์ที่กลับมาทำหน้ามุ่ยเหมือนเดิม
    “แล้วทำไมทำหน้าบูดแบบนี้ล่ะจ๊ะ” เฟริต้าถาม ตั้งแต่เธอได้ยินว่าชาร์ตื่น เธอก็เข้ามาเยี่ยมและเห็นว่าน้องชาร์เธอนั่งหน้าบึ้งอยู่แล้ว
    หากคนถูกถามไม่ตอบกลับล้มตัวลงนอนแล้วคว้าผ้าห่มมาคลุมโปงมิด
    เฟริต้าเลยหันมาหาเคย์ แล้วเลิกคิ้วถาม
    “อ้อ ก็ ท่านลุงคาโลขายหุ่นโมเดลปีศาจทั้งหมดของชาร์เอาเงินไปชดใช้ค่าเสียหายน่ะครับ” เคย์ตอบ
    พอไอ้ชาร์ตื่นมาปุ๊บมันก็เดินไปดูตู้โชว์ที่ว่างเปล่าของมันปั๊บ แล้วมันก็เบะปากกลับมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียง
    เคย์ผู้เห็นเหตุการณ์นึกย้อน
    “ตายจริง” เจ้าหญิงคนงามเอามือปิดปากหลังจากอุทาน
    เธอรู้ดีว่าหุ่นโมเดลปีศาจเป็นของรักของหวงของน้องชาย มิน่าล่ะ ชาร์ถึงได้หน้าบึ้งขนาดนี้
     เธอจึงพูดปลอบใจน้องชาย “สิ่งของเป็นของนอกกายนะจ๊ะ ชาร์ ถือซะว่าสะสมใหม่แล้วกันนะ”
    แต่ว่าคนถูกปลอบใจยังขดตัวนิ่งอยู่ในผ้าห่ม
    พอเห็นน้องชายเป็นแบบนี้ ก็ชักสงสารเกินจำเป็น
    “โธ่ ชาร์น้องรัก อย่าทำแบบนี้สิจ๊ะ เอาเป็นว่า เดี๋ยวพี่จะส่งจดหมายไปขอให้โคลวิสช่วยหาซื้อมาให้ใหม่แล้วกันนะ”
    โคลวิสที่พี่เฟริต้าพูดถึงก็คือ ดยุคโครวิส ครูส แห่งเดมอส พระคู่หมั้นของพี่เฟริต้านั่นเอง
    “จริงนะฮะ?” ชาร์กระเด้งตัวออกจากผ้าห่มทันทีที่ได้ยินพี่สาวพูดเช่นนั้น
    “จริงสิจ๊ะ”
    “เย้!” ชาร์ยิ้มแป้นแล้วโผตัวกอดพี่สาวอย่างเริงร่า “รักพี่เฟริต้าที่สุดเลย”
    เอาเข้าไป...
    แล้วชาตินี้ไอ้ชาร์มันจะมีวันเข็ดกับไหมเนี่ย...
    เคย์คิดแล้วชักสงสารคิงคาโลที่พยายามจะจริงจังกับไอ้ชาร์เพราะมันโตแล้ว แต่ดูท่าว่าความพยายามทั้งหมดคงเหลวเปล๋วไม่เป็นท่า






     

     

     

    ณ ห้องของเจ้าชายชาร์ พระโอรสเพียงหนึ่งเดียวของคิงคาโล วาเนบลีแห่งคาโนวาล เหลือเพียงทายาทนักฆ่าชื่อดังแห่งซาเรส และเจ้าของห้อง

    “ทีตอนนี้ยิ้มไม่หุบเลยนะ นายน่ะ” เคย์ล้มตัวลงนั่งบนโซฟา

    “แน่นอน” ชาร์ตอบด้วยน้ำเสียงสดใส

    “หาไรเล่นกันเถอะ” นายนักฆ่าขี้เหงาเอนหลังพิงโซฟาแล้วยืดตัวบิดขี้เกียจ

    “เล่นไรดีอ่ะ”

    ทันใดนั้น

    โครม!

    ทันใดนั้น เจ้าหญิงอริสแห่งคาโนวาลผู้มีความเป็นกุลสตรีเพียงน้อยนิดก็เปิดประตูห้องน้องชายโครม ไร้สัญญาณเคาะประตูใดๆทั้งสิ้น โพล่งเข้ามา พรวดพราดตรงดิ่งไปยังเตียงที่ที่น้องชายนอนอยู่

    อริสก็กระโดดขึ้นเตียงตุ๊บ “เฮ้ ไอ้น้องชาย” ยืดแขนคว้าคอน้องชายมากอดหมับ “มาเล่นอูโน่กัน!

     “ดีเลยฮะ” ชาร์ปรบมือชอบใจ “พี่นี่มาได้จังหวะจริงๆ”

    “เลิศมาก งั้นเริ่มกันเลย” อริสหันมาวานเคย์ “เคย์ๆ หยิบไพ่มาโลด อยู่ในตู้เก็บของนั่นน่ะ” มือเรียวชี้ไปยังตู้ไม้สักใบเบ่อเร่อ

    “ได้เลยครับ” เคย์ตอบรับอย่างกระตือรือล้น แล้วเดินไปหยิบ แล้วมาร่วมวงด้วย

    “งวดนี้นายแพ้ราบคาบแน่ ไอ้น้องชาย”

    “เห็นพี่พูดแบบนี้ก็แพ้ทุกที”

    “ว่าไงนะ!?

    โป๊ก!

    “โอ๊ย!

     

     

     

     

    เสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่นห้องของเจ้าชายชาร์ วาเนบลี

    ทั้งนักฆ่า เจ้าชาย และเจ้าหญิง รวมทั้งนางกำนัลอีกสองคนที่โดนลากมาเอี่ยว ล้อมวงกันเล่นไพ่อย่างครื้นเครง

    “โอว เยส” ชาร์ร้องหลังจากทิ้งไพ่ใบสุดท้ายในมือ “ชนะอีกแล้ว เย้!

    “เชอะ!” เจ้าหญิงทอมบอยพ่นลมหายใจออกอย่างไม่สบอารมณ์ ไอ้น้องชายเธอมันชนะต่อกันมาสี่ครั้งซ้อนแล้ว

    เคย์รวบกองไพ่กลางวงมาเคาะๆ แล้วส่งให้นางกำนัลคนหนึ่งจั่ว

    “ทำไมแกดวงดีอย่างนี้ฟระ” นายนักฆ่าชักเซง เพราะตัวเองยังไม่ชนะซักครั้ง

    “ฝีมือเว้ย ฝีมือต่างหาก” ชาร์รีบแย้ง “ของอย่างนี้มันขึ้นกับฝืมือ”

    คำยกยอตัวเองทำเอาคนเป็นพี่ชักหมั่นไส้ อริสคว้าไพ่ที่นางกำนัลแจกให้ฟาดหัวน้องชายไปทีนึง “นี่แหนะ!

    “พี่แพ้แล้วพาลอ่ะ” คนโดนตีหัวบ่นอุบอิบเสียงเบาแล้วรีบเอามือป้องหัวไว้กลัวโดนอีกที

    “หืม กล้าว่าพี่หรอ” อริสเงื้อมือจะฟาดอีกทีด้วยความหมั่นไส้

    “ง่ะ ไม่กล้าแล้วคร้าบ” ชาร์ขอสงบศึก ก่อนฉีกยิ้มอารมณ์ดี “มา มาเล่นกันต่อเถอะ ตาใครลงก่อน”

    “ตาฉันๆ” เคย์กล่าว แล้วเลือกไพ่ในมือหนึ่งใบลงไปกลางวง

    แต่ยังไม่ทันที่คนต่อไปจะได้ลงไพ่ นางกำนัลก็มาตามไปทานอาหารเย็น

     

     

     

    อริส ชาร์ และเคย์ เป็นกลุ่มสุดท้ายที่มาถึงโต๊ะอาหาร คิงคาโลนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะกำลังเสวนากับครี้ดอย่างสนุกสนาน

    ชาร์เดินตัวลีบเจี๋ยมเจี๊ยมอย่างคนที่พึ่งโดนสำเร็จโทษมาหมาดๆมานั่งที่เก้าอี้ประจำ นั่นก็คือเก้าอี้ตัวแรกฝั่งซ้ายของคิงแห่งคาโนวาลซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเก้าอี้ของราชินีเฟลิโอน่า

    ชาร์ก้มหน้าก้มตา แล้วใช้นัยน์ตาสีฟ้าใสแอบเหลือบมองหน้าพระบิดาอย่างกล้าๆกลัวๆ

    คาโลนึกขำในท่าทางของลูกชาย ชาร์คงคิดว่าเขาอาจจะยังโกรธอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วเขาหายโกรธตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตาม พอเห็นท่าทางกล้าๆกลัวๆแบบนี้เขาก็ไม่สบายใจ

    “ชาร์” คาโลเรียก

    “ครับ” ชาร์สะดุ้งเงยหน้าขึ้นยืดตัวตรงพร้อมขานรับทันที

    มือขาวของคาโลเอื้อมมาอังที่หน้าฝากของลูกชาย “ไม่สบายหายดีแล้วแน่นะ” คาโลถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าปกติ

    “อ่าครับ” ชาร์รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของพระบิดา

    “ดีแล้ว” คาโลยิ้มน้อยๆให้ลูกชาย ก่อนลูบศรีษะอย่างเอ็นดู

    หายโกรธแล้วชัวร์!

    จากท่าทางของพระบิดา ชาร์ก็ทราบได้ว่าพระบิดาหายโกรธเขาแล้วเป็นแน่แท้ เจ้าตัวก็เลยฉีกยิ้มน่ารักให้คุณพ่อ เป็นอันว่ากลับสู่ภาวะปกติ

    ท่านพ่อโกรธเขารได้ไม่นานหรอก ฮาๆๆ

    หลังทุกคนรับประทานอาหารเสร็จ

    “พ่อมีเรื่องจะบอก” คาโลกำลังจะบอกเรื่องที่ภรรยาสุดที่รักขอไว้

    “วันศุกร์หน้าเราจะไปเยี่ยมบริทานี่กันทั้งครอบครัว”

    “งั้นก็จะได้ไปเที่ยวด้วยใช่ไหมฮะ” ชาร์ทำตาโตถามทันที คนอื่นๆพากันยิ้มดีใจ

    ชาร์จำได้ว่า ครอบครัวของเขาเคยไปเที่ยวกันทั้งบ้านครั้งล่าสุดก็เมื่อปีก่อน แต่ตอนนั้นไปแค่ในตัวเมือง ตามคำเรียกร้องของท่านแม่ ครั้งนี้ท่านแม่ก็คงขออีกนั่นแหละ และก็เมื่อเร็วๆนี้ก็ได้ไปร่วมงานแต่งงานของพี่บริทานี่ที่บารามอส แต่ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย คราวนี้ได้ไปเที่ยวในบารามอสแล้วแฮะ ดีใจจัง

     “ใช่” คาโลพยักหน้า “เราจะไปกันสามวัน”

    “ดีจังค่ะ คิดถึงพี่บริทานี่จัง” เฟริต้านึกถึงพี่สาวคนสวยที่ตั้งแต่แต่งงานกับพี่ชายของเคย์เมื่อสองเดือนก่อนก็ไปอยู่ที่บารามอสในฐานะเจ้าหญิงรัชทายาทไม่ได้กลับมาที่คาโนวาลอีกเลย จะมีก็แต่ส่งจดหมายมาอยู่เรื่อยๆ

    “แล้วเราจะแวะเที่ยวที่ไหนบ้างฮะ” ชาร์ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “แวะในเมืองคาโนวาลแล้วก็แวะในตัวเมืองบารามอสด้วยไหมฮะ”

    “คิดแต่เรื่องเที่ยวนะเราเนี่ย” เสียงจากเจ้าหญิงเครเซียที่ออกอาการตื่นเต้นดีใจน้อยที่สุดในขบวนพี่น้องทั้งหมด

    “ก็นานๆทีจะได้ไปเที่ยวนี่ฮะ ผมล่ะอยากแวะไปเอเดนเบิร์กด้วยล่ะฮะ” ชาร์กล่าว ก่อนหันไปส่งสายตาออดอ้อนพระบิดา “นะฮะ ท่านพ่อ เราจะแวะไปหลายๆที่เลยนะฮะ ก็ไหนๆออกไปทั้งที”

    คาโลมองสายตาออดอ้อนของลูกชายสุดที่รักแล้วชักจะใจอ่อน ตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่าจะเที่ยวในตัวเมืองบารามอสเท่านั้น แต่พอเห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจของลูกๆ ประกอบกับเห็นว่าเขาเองก็ไม่ค่อยได้อนุญาตให้ลูกๆออกไปเที่ยวข้างนอกโดยเฉพาะชาร์ที่เขาห่วงเป็นพิเศษ คาโลก็อยากจะพยักหน้า แต่พอคิดถึงเรื่องความปลอดภัยและเรื่องอื่นๆ เขาก็ไม่อยากจะอนุญาต แต่จะปฏิเสธให้ตรงๆเขาก็ทำไม่ลง

    แล้วความคิดดีๆก็แล่นปราด

    คาโลพยักหน้า “อืม”

    แต่ก่อนที่ชาร์จะออกอาการดีอกดีใจ ประโยคต่อมาของคุณพ่อก็ทำให้ชะงักกึก

    “แต่ทุกอย่างขึ้นกับผลสอบงวดที่ผ่านมาของลูกล่ะนะ”

    ผลสอบ?

    ผลสอบ!!!

    “ถ้าผลสอบวิชาใดวิชาหนึ่งของชาร์ได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง เราก็จะเที่ยวกันแค่ตัวเมืองบารามอส”

    “ไม่แฟร์ฮะ!!” ชาร์ร้องทันที

    “ไม่แฟร์ตรงไหน?” คาโลถาม

    “ก็ท่านพ่อไม่บอกก่อนที่ผมจะสอบนี่ฮะ” ชาร์เริ่มหน้ามุ่ย

    “หมายความว่า พอไม่มีเรื่องต่อรองลูกก็เลยไม่ตั้งใจทำข้อสอบงั้นหรือ” คาโลกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่คนฟังเริ่มรู้สึกเสียงสันหลังวาบๆ “หรือเพราะว่าลูกไม่ตั้งใจเรียนก็เลยรู้ตัวว่าทำข้อสอบไม่ค่อยได้ใช่ไหม?

    นั่นแหละ!

    ประโยคหลังนี่ใช่เลย

    เคย์ที่นั่งฟังสองพ่อลูกเจรจากันคิดในใจ ไอ้ชาร์กับเขาเคยตั้งใจเรียนที่ไหนล่ะ

    จากหน้ามุ่ยกลายเป็นหน้าเจื่อน ก่อนรีบละล่ำละลักปฏิเสธไม่เต็มเสียง

    “มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นฮะ” ก่อนจะหาข้อแก้ตัว “ผมก็แค่คิดว่ามันไม่แฟร์กับพวกพี่ๆน่ะครับ”

    “นั่นสิฮะ เอ้ย! ค่ะ” เสียงจากเจ้าหญิงอริส “พวกเราคงได้เที่ยงแค่บารามอสแน่ๆค่ะ”

    “ใช่ แน่เลยค่ะ” เสียงสนันสนุนจากเจ้าหญิงปารีส

    นั่นไง ทุกคนก็รู้ๆกันอยู่ ว่าการเรียนของผมมันเป็นยังไง

    ท่านพ่อตั้งใจจะปฏิเสธชัดๆเลยนิน่า

    ชาร์คิด

    “อย่าสบประมาทน้องชาร์อย่างนั้นสิจ๊ะ” เจ้าหญิงเฟริต้าเอ็ดน้องสาวทั้งสอง “ปาฏิหารย์อาจมีจริงก็ได้”

    “ที่จะได้เที่ยวแค่บารามอส ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพวกเราด้วยนั่นแหละ ที่สอนน้องไม่ดี” เจ้าหญิงเครเซียลงความเห็น

    ระหว่างที่กำลังฟังพวกพี่ๆออกความเห็น

    ชาร์ก็รู้สึกตัวว่าโดนสกิดขา

    ไอ้เคย์เพื่อนซี้ที่นั่งข้างๆแอบยื่นอะไรบางอย่างมาให้

    มันคือกระปุกพริกไทย ที่เคย์มันคว้ามาจากเครื่องเทศกลางโต๊ะ

    แล้วเคย์มันก็กระพริบตาให้ทีหนึ่ง

    ชาร์เก็ตทันที ว่าไอ้เพื่อนซี้มันกำลังบอกให้เขาเล่นลูกไม้อะไร

    ไอ้เคย์นี่มันหัวไวจริงๆ ฮ่าๆ

    แต่ว่านะ ลูกไม้นี้มันจะใช้ได้เหรอเนี่ย เผลอๆอาจโดนท่านพ่อดุก็ได้

    ระหว่างที่กำลังลังเลเล็กน้อย เคย์เพื่อนรักมันก็สะกิดขาเร่ง

    เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน ในเมื่อผลสอบก็รู้ๆกันอยู่ว่าไม่น่ารอด

    ชาร์เปิดกระปุพริกไทยเทใส่มือเล็กน้อยแล้วก้มหน้าป้ายตาด้วยความรวดเร็ว

    อูย~ แสบชะมัด

    “ฮึก...ฮึก...” เสียงสะอื้นเบาๆ ทำให้เสียงจอแจบ่นโต๊ะเงียบกริบ ทุกคนพากันหันมามองทางต้นเสียง

    ครืด~

    เสียงเก้าอี้เลื่อน เนื่องจากคนนั่งลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ชาร์” เจ้าหญิงเฟริต้ารีบสาวเท้าเร็วๆไปที่น้องชาย “เป็นอะไรไปจ๊ะ ชาร์”

    “ฮึก...ฮึก...” จากเสียงสะอื้นเบาๆค่อยๆดังขึ้น

    มาแล้วหนึ่งคน...

    เจ้าหญิงเฟริต้าที่สังเกตเห็นตาแดงๆและน้ำตาของน้ำชายมีสีหน้าตกใจ “ชาร์ น้องเป็นอะไรจ๊ะ ร้องไห้ทำไม” เธอรีบโอบน้องชายเข้ามากอดไว้หลวมๆ

    “ชาร์ น้องเป็นไรน่ะ ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า” เจ้าหญิงเครเซียเป็นคนที่สองที่ลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาหาน้องชาย หลังจากนั้นบรรดาเจ้าหญิงก้พากันมาห้อมล้อมน้องชายสุดที่รัก

    มาครบแล้ว...หึหึ

    “ชาร์ บอกพี่สิ เป็นอะไร”

    “ฮึก... ฮึก ผม...ผมก็แค่...ผมก็แค่ เสียใจฮะ ที่เป็นตัวถ่วงของพวกพี่ๆ” เจ้าชายน้อยกล่าวทั้งน้ำตา เมื่อพี่สาวทั้งสี่มาห้อมล้อมครบหมด

    เคย์เห็นแล้วอยากจะมอบตุ๊กตาทองให้เพื่อนรักเหลือเกิน

    “โถ ชาร์ เรื่องแค่นั้น พี่ขอโทษนะจ๊ะที่พูดไม่ดีกับน้อง”

    “ใช่ๆ พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะว่าน้องนะ”

    คาโลตอนแรกที่เห็นลูกชายร้องไห้ก็ตกใจ แต่พอรู้ว่าร้องไห้เพราะเรื่องเพียงเล็กน้อย คิวหนาก็ชักขมวด

    “ชาร์” คาโลเรียกด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เป็นลูกผู้ชายร้องไห้ง่ายๆได้อย่างไร”

    ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะไม่ว่าอะไร เพราะเห็นว่ายังเด็ก แต่นี่เป็นโตแล้ว จะมาทำเป็นขี้แงเหมือนตอนเด็กๆไม่ได้

    “ชาร์ เงียบซะ” ผู้เป็นใหญ่แห่งคาโนวาลกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน

    อ...อ่าว กะแล้วเชียวว่าต้องโดนดุ

    ซวยละเว้ยเฮ้ย...

    ชาร์เสียวสันหลังวาบๆ

    แต่ในเมื่อลงทุนเล่นละครขนาดนี้ก็ต้องเล่นให้ถึงที่สุด

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกท่านพี่ก็ช่วยเขาเหมือนทุกที

    อีกอย่างท่านพ่อก็ทนเห็นน้ำตาเขาไม่ได้นานร็อก...ชัวร์!

    “ชาร์ รีบเงียบนะจ๊ะ ท่านพ่อโกรธใหญ่แล้ว” เจ้าหญิงเฟริต้ากอดน้องชายอย่างอ่อนโยน

    “ชาร์! พ่อบอกให้เงียบไง”

    “ท่านพ่อคะ” เจ้าหญิงปารีสที่เห็นท่าไม่ค่อยดีรีบเดินเข้าไปคุกเข่านั่งข้างบิดา “อย่าพึ่งโกรธเลยนะคะ พวกหนูผิดเองค่ะที่ไปทำให้น้องเสียใจ”

    นั่นไงล่ะ...

    “ใช่ค่ะ ท่านพ่อ หนูผิดเองค่ะที่ไปว่าน้องก่อน” เจ้าหญิงอริสรีบเดินไปหาบิดาอีกคน

    “ฮึก...ฮึก พวกพี่ไม่ได้ผิดหรอกฮะ ผมน่ะแหละ ที่ไม่ดีเอง... ฮึก ผมเป็นตัวถ่วงของพวกพี่ๆ”

    “โถ ชาร์ ไม่จริงหรอกนะ พี่ขอโทษนะจ๊ะ”

    เฟริน อดีตนักต้มตุ๋นมืออาชีพเก่าเป็นคนเดียวที่สังเกตเห็นความผิดปกติ

    เธอว่ามันแปลกๆที่อยู่ดีๆลูกชายเธอมันจะร้องไห้เสียอกเสียใจรู้สึกผิดเกี่ยวกับผลสอบสุดห่วยของมัน และอีกอย่าง โรคขี้แงของชาร์ก็หายมาตั้งหลายปีแล้ว

    ชาร์กับเคย์สองคู่หูตัวแสบต้องเล่นลูกไม้อะไรแน่ๆ

    เธอรู้ดีเพราะรู้ว่าลูกชายเธอคนนี้กับเพื่อนซี้มันแอบเฮี้ยวใช่เล่น

    เฟรินก็เลยวกมาหาลูกชายที่เฟริต้ากอดปลอบอยู่

    และในที่สุด เฟรินก็สังเกตเห็น….

    กระปุกพริกไทยที่ตกอยู่ที่พื้น

    อ้อ....

    เฟรินถึงบางอ้อทันที แล้วหันไปหาเคย์ลูกชายเพื่อนรัก

    ไอ้เคย์ก็เหมือนว่ารู้แล้วว่าเธอรู้ไต๋ของพวกมันเสียแล้ว

    ทายาทนักฆ่าเจ้าแผนการณ์ก็เลยส่งยิ้มแห้งมาให้

    พวกนี้นี่ช่างคิดดีจริง

    เสียแต่ว่าบทนี้มันไม่ค่อยเวิร์กเพราะไอ้ชาร์มันโตแล้ว

    ครั้งนี้คาโลก็คงไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ

    เอาว่ะ ช่วยมันหน่อย

    เพราะเธอเองก็อยากไปเที่ยวหลายๆที่เหมือนกันแฮะ

    ถ้าได้เธอต่อบท อาจจะสำเร็จก็ได้


    *****************************************************************
    อ่านแล้วคอมเมนต์กันบ้างนะคะ คนแต่งจะได้มีกำลังใจอัพเรื่อยๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×