คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4: ลงโทษ
ตอนที่4 : ลงโทษ
ทุกคนอยู่บนรถม้าเพื่อเดินทางกลับเข้าวังหลวงแห่งคาโนวาล ระหว่างทางเคย์มองเพื่อนซี้สลับกับเพื่อนที่สนิทกันเมื่อตอนเด็กๆ ชาร์ทั้งค้อนทั้งเหล่เอลลิสขวับๆ แต่คนถูกค้อนถูกเหล่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังฮำเพลงมีความสุข แล้วชักถอนหายใจ
ก็พอจะเข้าใจล่ะนะ สองคนนี้จะว่าเป็นคู่กัดก็ไม่เชิง เพราะตอนเด็กๆชาร์จะเป็นฝ่ายถูกกระทำซะมากกว่า พอโดนแหย่ก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งไม่แมนเอาซะเลย แล้วเอลลิสเห็นก็จะหัวเราะชอบใจ
แต่จริงๆแล้ว บางทีชาร์มันอาจจะกำลังดีใจที่เจอเอลลิสมั้ง... มั้งนะ อันนี้เคย์เองก็ไม่แน่ใจ
เพียงไม่นานรถม้าก็เข้าสู่เขตพระราชวังแห่งคาโนวาล แล่นไปอีกสักพักรถม้าก็หยุด
“ถึงแล้วอ่ะ” เคย์กล่าวรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่การเดินทางรวดเร็วเกิน
ชาร์รู้สึกหายใจไม่เต็มปอด สันหลังก็เสียววาบๆมาตลอดทาง มือขาวๆเลิกม่านขึ้นนิดหน่อยตาสีฟ้าชำเลืองมองออกไปนอกหน้าต่าง
บุรุษร่างสูงสง่าผู้เป็นเจ้าของดวงหน้าคมคายเรียบเฉย ยืนรออยู่หน้าทางเข้าตำหนักกลาง นันย์ตาสีฟ้าเย็นยะเยือก ข้างๆกันคือสตรีร่างบางเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลยืนนิ่งเรียบร้อยผิดปกติ
เฮือก!
เอื๊อก!
คนมีชะงักชิ้นโตติดหลังกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
ท่านพ่อเล่นมายืนหน้าโหดดักรอเขาถึงหน้าตำหนัก ส่วนท่านแม่ก็ไม่กล้าหือใดๆทั้งสิ้น!
ตายแน่! ตาย!
ชาร์เห็นแววตัวเอง
เคย์สะกิดแขนเสื้อ “เฮ้ย เขาลงกันหมดแล้ว” ทายาทนักฆ่าเรียก เมื่อเห็นเพื่อนยังนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างขณะที่คนอื่นทยอยลงจากรถม้ากันไปแล้ว
ชาร์ค่อยๆหันกลับมาหาเคย์ “เคย์ ท่านพ่อยืนรออยู่หน้าตำหนัก”
“หา!” เคย์ร้อง แต่ยังไม่วายมีอารมณ์ขัน “พ่อแกมายืนต้อนรับแกกลับบ้านเชียวหรือนี่”
“อย่ามาตลกฝืด เคย์” ชาร์ไม่มีอารมณ์เล่นด้วย
“ชาร์ ลงมาได้แล้ว” พี่อริสที่ยืนเกาะประตูรถม้าอยู่เรียก
ชาร์และเคย์มองหน้ากัน ก่อนชาร์จะขานรับเสียงอ่อยๆ “คร้าบ”
แวบแรกที่ลงจากรถม้าแล้วสบตาของผู้เป็นบิดา ชาร์ก็สะดุ้งเฮือกแล้วรีบก้มตาก้มตาเดินอย่างเจี๋ยมเจี๊ยมเจียมบอดี้เข้าไปหาแล้วโค้งทำความเคารพ
“ท่านพ่อ..” ชาร์เรียกเสียงอ่อยๆ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
บรรยากาศเงียบๆ ทำให้คนมีความผิดติดตัวยิ่งอึดอัด แต่ก็ได้แต่ยืนนิ่ง
“ชาร์” ผู้เป็นใหญ่ที่สุดแห่งคาโนวาลเรียกชื่อลูกชายเสียงเย็นเยียบ ทำเอาคนถูกเรียกสดุ้งหนึ่งที “เคย์” ทีนี้ก็เรียกคนที่สมรู้ร่วมคิดกับลูกของตนทำความผิด “ตามฉันมา”
คาโลเดินนำลูกชายตัวเองและลูกชายเพื่อนซี้เข้าไปในตำหนัก
หลังจากที่ร่างสูงของคาโลหายลับเข้าไปในตำหนัก ร่างบางก็ถอนหายใจยาว “เฮ้อ! อึดอัดชะมัด”
“ไง” เสียงทักจากครี้ด ตัวเขาเองก็ได้แต่ยืนเฉยๆต่อหน้าคาโล เพราะท่าทางมันจะโมโหจริงถึงขนาดที่เห็นเขาแล้วยังนิ่งไม่ทักไม่ทาย เอาแต่จ้องลูกชายเขม็ง
“ดี ครี้ด คิดถึงจัง” เฟรินทักทายยิ้มแฉ่ง ก่อนร่ายยาว “ว่าแต่แกเป็นไงมาไงถึงมาพร้อมกับลูกฉันได้ล่ะเนี่ย แล้วแกก็นะ ไม่มีส่งคงส่งข่างคราวมาบ้างเล้ย”
“ก็พอดีไปเจอลูกแกที่กองปราบ เลยถือโอกาสมาเยี่ยมแกซะเลย” ครี้ดตอบ “แล้วก็ที่หายไปนานเพราะฉันไปพเนจรมาน่ะ แล้วก็เลี้ยงเด็กไปด้วยเลยยุ่งๆ”
จริงๆ มัวแต่เมาจนลืมเพื่อน และนี่ก็ถือโอกาสมาพักฟรีกินฟรีอ่ะสิ
เฟรินแก้ในใจอย่างรู้นิสัย
“เลี้ยงเด็กงั้นหรอ?” เฟรินสงสัย ก่อนจะทำตาวาว “แกไปทำใครท้องจนมีลูกงั้นรึ!”
คนถูกกล่าวหารีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ นี่มันเห็นเขาเป็นคนยังไงกันน่ะ “เฮ้ย เปล่าๆ” แล้วก็เอื้อมมือไปดึงตัวไอ้เด็กที่เขารับเลี้ยงมาแนะนำ “คนนี้ไง”
“หือ?” เฟรินมองเด็กผู้ชายในชุดมอมแมม จริงๆเธอสงสัยตั้งแต่เห็นลงมาจากรถม้าแล้วว่าเป็นใคร ทีแท้เป็นเด็กที่ครี้ดรับเลี้ยง
“ตกลงว่าจะไม่มีใครจำแกได้เลยเหรอเนี่ย” ครี้ดพูดกับเอลลิส ก่อนหันไปพูดกับเฟริน “ก็นี่เอลลิสไง ลูกสาวไอ้โร”
“สวัสดีค่ะ น้าเฟริน” เอลลิสทักทายยิ้มแห้งๆ
“ห๊า!!” เฟรินร้องเสียงหลง
เอลลิสเองหรอเนี่ย ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเด็กผู้ชายซะอีก ตัดผมซะสั้น แล้วก็หน้าตาเนื้อตัวโคตะระ(โค-ตร)มอมแมม
“เออ ไอ้โรมันฝากฉันให้ดูแลตั้งแต่เอลลิสถูกส่งออกมาร่อนเร่เมื่อประมาณเจ็ดปีก่อน” นักรบเพลย์บอยที่ถูกเพื่อนฝากฝังให้เลี้ยงลูกให้เล่า
“ไอ้โรมันคิดยังไงฝากแกเลี้ยงเนี่ย” เฟรินพูดทันทีที่ครี้ดเล่าจบ
“เออ นั่นสิ” แทนที่ครี้ดจะฉุนกลับเห็นด้วยซะงั้น “มันยืนยันจะฝากฉันเลี้ยงให้ได้ ให้ตังมาแค่ก้อนเดียว แล้วก็บอกให้ฉันพาลูกมันไปเที่ยวให้ทั่ว”
“ไอ้โรมันต้องบ้า ไม่ก็บ็องไปแล้วแน่ๆ” เฟรินลงความเห็น
“แกพูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ” ครี้ดไม่เถียงซักคำ
“เอาเถอะ” เฟรินตัดบท มือเรียวของเฟรินจับมือเอลลิส “เอลลิส น้าจะพาไปอาบน้ำ”
เฟรินคิดว่า เป็นเพราะเธอมีลูกสาวหลายคนเลยกลายเป็นคนรักสะอาดเหมือนแม่ทั่วไปขึ้นมาบ้าง ถ้าเป็นสมัยก่อน มอมแมมแค่นี้น่ะจิ๊บๆ แต่พอมาตอนนี้ พอเห็นคนที่เป็นเด็กผู้หญิงแล้วยังมอมแมม มันให้ความรู้สึกคันไม้คันมืออยากจับไปอาบน้ำเสียจนเหลือเกิน
พอเฟรินคล้อยหลังไปกับเอลลิส
ครี้ดก็หันมานินทาแม่ให้ลูกเพื่อนสนิทฟัง “สมัยก่อน แม่แกก็มอมแมมแบบนี้เด๊ะ”
ทันที่ที่ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของคาโล คาโลก็สั่งให้ชาร์และเคย์คุกเข่าอยู่หน้าโต๊ะทำงาน แล้วตัวเองก็นั่งอ่านฎีกาหน้านิ่งอยู่บนโต๊ะไม่พูดอะไรอีก
คนมีชะงักติดหลังสองคนเหลือบมองกันไปมองกันมา แล้วก็แอบชำเลืองมองคิงคาโลเป็นพักๆ
ยิ่งคาโลไม่พูดอะไร ทั้งคู่ก็ยิ่งลุ้นในชะตากรรมของตัวเอง
แต่ที่รู้ๆคือ คิงน้ำแข็งกำลังกริ้วแน่นอน เพราะอุณหภูมิในห้องที่เย็นกว่าข้างนอก
คาโลหยิบฏีกามาเปิดอ่านฉบับแล้วฉบับเล่า เหมือนลืมว่ามีอีกสองคนรอรับชะตากรรมอยู่ในห้อง
เอ๊ะ! หรือจริงๆแล้วท่านพ่อยังไม่ได้คิดว่าจะลงโทษพวกเขายังไงดี ก็เลยคิดอยู่งั้นหรอ?
หรือว่านี่คือการลงโทษของท่านพ่อ ให้คุกเข่าสำนึกผิดงั้นหรอ
เอ... หรือว่า ท่านพ่อกำลังรอให้เขาพูดอะไรงั้นหรอ
ชาร์คิดไปเรื่อย เมื่อเดาไม่ถูกว่าพ่อตัวเองกำลังทำอะไร
ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ท่านพ่อกำลังรอให้เขาสารภาพผิดแล้วขอโทษมากกว่า
ชาร์คิดต่อในแง่ดี ตามประสาคนไม่เคยโดนพ่อลงโทษแบบจริงๆจังๆ
ในเมื่อเขาทำผิดก็ต้องขอโทษ
เอาล่ะ!
ชาร์เงยหน้าขึ้น “ท่านพ่อ...” เปิดปากพูดได้แค่นั้น เสียงทุ้มเยือกเย็นก็เอ่ยขัด
“ใครสั่งให้พูด”
อึ๋ย~
ชาร์รูดซิบปากทันที แล้วนั่งตัวแข็ง
ชาร์เหลือบมองเคย์ เขาเห็นมันแอบหาว หรือว่ามันกำลังจะนั่งหลับในอย่างที่มันชอบทำเวลาเรียนหนังสือกับเขา
ชาร์ชักนึกเสียดายที่ไม่ได้ถูกฝึกมาให้นั่งหลังตรงหลับได้แบบเพื่อนสนิท
เกร็ก! เกร็ก!
เสียงกระทบของอะไรบางอย่าง
ชาร์มองหาต้นเสียง ท่านพ่อของเขากำลังทำหน้าเครียด เคาะปากกากับโต๊ะ ในมือของท่านพ่อกำลังยกฏีกาฉบับหนึ่งอ่านบน โต๊ะทำงานตัวใหญ่มีกองฎีกาตั้งสูงอยู่มุมโต๊ะ
ท่านพ่อต้องกำลังเครียด เพราะปัญหาในฏีกาฉบับนั้นแน่ๆ
ชาร์ไม่ค่อยได้เข้ามามองพ่อตัวเองอ่านฏีกาอย่างจริงจังสักเท่าไหร่ ส่วนมากที่เข้ามาห้องนี้จะเข้ามานั่งเล่นแล้วคุยกับท่านพ่อซะมากกว่า
นี่ท่านพ่อต้องทนอ่านฏีกาพวกนี้แทบทั้งวันทุกวันเลยหรอเนี่ย
แล้วเขายังไปสร้างปัญหาให้ท่านพ่อปวดหัวอีก
ความรู้สึกผิดเกาะกุมหัวใจของชาร์ เจ้าตัวยิ่งหน้าจ๋อยสนิท
เวลาผ่านไปเรื่อย เพราะขาเริ่มชาจากอาการเหน็บกิน ชาจนเจ็บขาไปหมด จึงทำให้ชาร์จากที่นั่งตัวตรงๆต้องยุกยิกไปมา ส่วนเคย์นั้นยังคงนั่งนิ่ง เพราะเคยโดยฝึกมายิ่งกว่านี้
แต่คิงคาโลก็ยังนั่งทำงานต่อไปโดยไม่หยุดพัก และไม่สนใจลูกชายตัวเองและลูกชายของเพื่อนสนิท
อย่าบอกนะว่าท่านพ่อจะให้นั่งแบบนี้ไปหลายๆวันน่ะ
ถ้าเป็นงั้นขาเขามีหวังได้ลุกไม่ขึ้นอีกเลยแน่ๆ
ชาร์โอดครวญในใจ
เคย์เหลือบตามองเพื่อนสนิท แล้วส่งสายตาให้กำลังใจ
นี่พวกเขาคุกเขากันมากี่ชั่วโมงแล้วเนี่ย
พวกเขาเข้ามาในห้องนี้ตอนประมาณบ่ายโมง ตอนนี้มองออกไปนอกหน้าต่าง พระอาทิตย์ก็เริ่มลับขอบฟ้า
เคย์เบนสายตาจากหน้าต่าง มามองเพื่อนสนิทของพ่อที่เป็นถึงคิงแห่งคาโนวาล พอดีเห็นช็อตเด็ด
แวบหนึ่ง นัยน์ตาสีฟ้าของคิงคาโลละจากฏีกาตรงหน้ามามองลูกชายที่ชักนั่งนิ่งไม่ติด แล้วก็ปรากฏแววตาไหววูบหนึ่ง ก่อนรีบเบือนสายตากลับไปอ่านฏีกาอีกครั้ง
ลุงคาโลคงกำลังข่มใจมากทีเดียว ไม่ให้ใจอ่อนกับลูกชายสำหรับความผิดครั้งนี้
เคย์คิด เขารู้ดีว่าเพื่อนซี้ของเขาเป็นลูกสุดเลิฟของคุณพ่อขนาดไหน คิงคาโลนี่แหละ เอาจริงว่าโอ๋ชาร์ที่สุดตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่จะว่าไป ไม่ใช่แค่คิงคาโลที่โอ๋ชาร์หรอกนะ เป็นกันทั้งบ้านน่ะแหละ เคย์รู้ดี เพราะอยู่ด้วยกันกับชาร์มาตั้งแต่เด็กๆ
เวลาชาร์กับเขาร่วมมือกันทำความผิดทีไร เช่น หลับในห้องเรียน แกล้งอาจารย์ที่มาสอน ไม่ยอมทำการบ้าน เวลาคิงคาโลจะลงโทษ ตอนแรกเหมือนจะเอาจริง แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนจนได้
ชาร์มันถึงได้บอกไง ว่าพ่อมันใจดีนักล่ะ
แต่งวดนี้ มันไม่รอด ชัวร์
ถ้าเป็นหนีเที่ยวแล้วโดนจับได้ยังพอรอด
สงสัยพ่อมันจะเอาให้มันเข็ด มันจะได้หายซ่าไปอีกนานๆ
ก็อก! ก๊อก! ก็อก!
เสียงเคาะประตู ก่อนคิงคาโลจะกล่าวอนุญาตให้เข้ามาได้ นับเป็นเสียงทุ้มครั้งแรกที่เคย์ได้ยินในรอบหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
“อาหารเย็นพร้อมแล้วเพคะ” นางกำนัลสวยสราญกล่าวอย่างนอบน้อม
“อืม” คิงคาโลรับคำ ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยุดที่ประตู ก่อนหันมาสั่งชาร์และเคย์สั้นๆง่ายๆน้ำเสียงเรียบๆตามแบบฉบับ “ตามมา”
คิงคาโลหยุดยืนรอ
ทายาทนักฆ่าอย่างเคย์ที่ถูกฝึกมาแล้ว ยันตัวลุกขึ้นอย่างไม่ยากลำบากเท่าไหร่
ชาร์นี่สิ เหมือนเจ้าตัวจะลุกไม่ไหวเพราะคุกเข่านานเกินไป
เคย์ทำท่าจะปราดไปช่วย แต่เสียงทุ้มหนักแน่นของคาโลก็ดังขึ้น
“ลูกผู้ชายต้องลุกขึ้นลำแข้งของตัวเอง”
เท่านั้นแหละ
เคย์ก็ไม่กล้าเข้าไปช่วย ได้แต่ยืนมอง
ส่วนชาร์ก็พยายามยันตัวลุกขึ้นยืน
โอ๊ย! เจ็บ
ชาร์ร้องในใจ แล้วกัดฟันยืนโดนเอามือยึดโต๊ะไว้
ฝ่าเท้าชาจนไร้ความรู้สึกพอสัมผัสพื้นก็เจ็บแปล๊บๆ เหมือนไฟฟ้าช็อต
ท่านพ่อกำลังมองเขาอยู่
ต้องอดทน
ชาร์ท่องไว้ มือก็นวดๆบีบๆขา พอยืนได้สักพักอาการเจ็บแปล๊บๆก็บรรเทา
คาโลเดินนำ เคย์และชาร์ก็เดินตาม
ชาร์เดินกะเผลกๆเหมือนคนขาเป๋ แต่เคย์กลับเดินแบบปกติทุกอย่าง
ตระกูลนักฆ่าฟีลมัสนี่ฝึกมาดีจริง
เจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาลนึกชม
ณ ห้องอาหาร ทุกคนยกเว้น คาโล ชาร์ และเคย์ มานั่งกันพร้อมเพรียงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
เฟรินกำลังคุยกับนักรบตาเดียวเพื่อนสนิท เหล่าเจ้าหญิงคนงามกับเอลลิสก็นั่งคุยกันอยู่ แต่พอเห็นคิงคาโลเดินเข้ามา บรรดาเจ้าหญิงก็ลุกขึ้นทำความเคารพแบบที่ทำทุกวันทุกมื้ออาหาร
“คุกเข่า” คิงน้ำแข็งสั่งชาร์และเคย์ ก่อนเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะ คนที่ยืนอยู่ก็นั่งลงตาม บรรดาพี่สาวของชาร์เหลือบมองชาร์กับเคย์อย่างเห็นใจ
คนที่อาการเหน็บชายังไม่หายดีกัดฟันคุกเข่าลงกับพื้นตามคำสั่ง
“นายจะไม่ให้ลูกกับเคย์กินข้าวหรอ” เฟรินถามสามี
“ไม่ต้องจัดสำรับสำหรับเจ้าชายและเคย์” คิงแห่งคาโนวาลลสั่งนางกำนัลเป็นคำตอบ
“เพคะ” นางกำนัลรับคำ
นัยน์ตาสีน้ำตาลของเฟรินมองลูกชายและลูกเพื่อนสนิทแล้วสงสาร มันคงไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า เพราะเอลลิสเองพอมาถึงเธอสั่งให้จัดอาหารไปให้ก็กินซะเกลี้ยง
เฟรินจึงประท้วงแทนลูก “ไม่จัดได้ไง ชาร์กับเคย์คงหิวแย่”
คาโลทำหูทวนลม มือขาวกางผ้ากันเปื้อนแล้ววางบนตัก หันไปพยักหน้าให้นางกำนัล
“คาโล” เสียงหวานของเฟรินเรียกเสียงอ่อย
เธอก็รู้แหละ ว่าคาโลกำลังทำโทษลูกชายกับเคย์ แต่จะปล่อยให้ลูกทนหิว เธอก็ทนไม่ได้
“ท่านพ่อคะ น้องชาร์ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าเลยนะคะ” เสียงจากเจ้าหญิงเฟริต้า พระธิดาองค์ที่สองในคิงคาโล วาเนบลี ผู้รักน้องชายโอ๋น้องชายเป็นที่สุด ออกหน้าพูดกับบิดาเสียงอ่อนนุ่ม
พอพี่สาวคนโตที่สุดในขณะนี้ เป็นคนปลุกกระแสช่วยเหลือน้องชายให้กับน้องสาวคนอื่นๆ
กลิ่นอาหารหอมฉุยลอยมาก่อนตามลม แล้วนางกำนัลก็ยกสำรับมาเสิร์ฟบนโต๊ะ
กลิ่นอาหารหอมอบอวลน่ากิน ทำเอาคนที่ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าท้องร้องจ๊อกๆ
ท่านพ่อคงตั้งใจลงโทษให้เขามานั่งคุกเขาดมกลิ่นอาหารสินะ... ดูท่าว่างวดนี้ท่านพ่อไม่ปราณีแน่ๆ ถึงท่านพี่ท่านแม่จะช่วยกันอ้อนวอนก็เถอะ
ชาร์เศร้าใจ เริ่มเห็นด้วยกับเคย์ขึ้นมาทันทีว่าท่านพ่อโหดอย่างที่มันว่า
แล้วก็นึกด่าตัวเองที่ไม่น่าไปก่อเรื่องให้ซวยตัวเองเลย
“ขอให้ชาร์ทานอาหารก่อนแล้วค่อยลงโทษต่อเถอะนะคะ” เจ้าหญิงปารีส เจ้าหญิงองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์วาเนบลี ผู้รักสวยรักงาม เอ่ยขึ้นบ้าง
“ทานกันได้แล้ว” แต่คิงคาโลทำเป็นไม่สนใจเสียงของลูกสาว หยิบช้อนซุปแล้วเริ่มลงมือรับประทาน
“ท่านพ่อคะ หนูกลัวว่าน้องจะไม่สบาย” คราวนี้เป็นเสียงของเจ้าหญิงอริสพระธิดาองค์เล็ก
เคย์คุกเข่าฟังเสียงหวานๆของเหล่าพี่สาวเพื่อนซี้อ้อนวอนขอร้องแทนน้อง แล้วก็อมยิ้มในความน่ารักของครอบครัวนี้ที่โอ๋น้องชายกันเหลือเชื่อ
พี่ของเขาไม่เห็นโอ๋เขาที่เป็นลูกคนเล็กเหมือนกันแบบนี้เลย
“ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ” เสียงหวานเย็นๆแบบนี้ เคย์จำได้ดี ครั้งนี้เป็นตาของพี่เครเซีย พี่สาวคนที่สามของชาร์มัน ซึ่งเป็นลูกสาวที่ได้เชื้อลุงคาโลมามากที่สุด จนได้ฉายาว่า เจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งคาโนวาล
อย่าพึ่งคิดไปเองเมื่อได้ยินประโยคกริ่นของพี่เครเซียว่าพี่สาวของชาร์คนนี้จะไม่โอ๋น้องแบบคนอื่นๆ ไม่เลย ประโยคต่อมาคือข้อพิสูจน์
“แต่อย่างน้อยก็น่าจะให้ทานนมอุ่นๆซักแก้วนะคะ”
ก็บอกแล้วว่าว่าพี่สาวครอบครัวนี้เขาโอ๋น้องชายกันครบเซตไม่มีเว้นซักคน
“ใช่ๆ นมซักแก้วก็ยังดีนะ” เฟรินรีบสนันสนุนความคิดของลูกสาวคนที่สาม
คาโลวางช้อน กล่าวดังก้อง “นักรบต้องอดทน ไม่เช่นนั้นจะเรียกว่านักรบได้อย่างไร” นัยน์ตาสีฟ้าเย็นชากวาดมองทั่วโต๊ะ “นักรบยามอยู่ในสนามรบ แม้นอดข้าวเป็นอาทิตย์ก็ต้องเดินหน้ารบต่อไปจนกว่าชีวีจะสูญสิ้น”
ทุกคนบนโต๊ะอาหารเงียบกริบ “เพราะฉะนั้นอดข้าวแค่วันสองวันจะเป็นอะไรไป”
สรุปว่า ทั้งชาร์และเคย์ก็ไม่มีอาหารตกถึงท้องซักนิดเดียว ได้แต่มองคนอื่นเขากินกัน เพราะหลังจากที่คิงนักรบพูดถึงขนาดนั้น ก็ไม่มีใครกล้าขอร้องแทนชาร์และเคย์อีกเลย บทสนทนาต่อๆมาจึงเป็นเรื่องสรรพเพเหระ
หลังจากนั้น คาโลก็พาชาร์และเคย์กลับมาคุกเข่าต่อที่ห้องทำงาน ส่วนตัวคาโลเองก็นั่งอ่านฏีกาต่อ
เคย์ชำเลืองมองชาร์ เพื่อนเจ้าชายของเขาทำท่านจะคุกเข่าไม่ไหวหลายทีแล้ว แต่ก็พยายามกัดฟันทรงตัวไว้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ชาร์มันโดนสั่งให้คุกเข่านานขนาดนี้ แถมลุงคาโลก็ไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อนง่ายๆเหมือนทุกที
หนำซ้ำมันก็ยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ตั้งแต่เด็กเคย์จำได้เลยว่ายังไงๆเวลาชาร์โดนลงโทษให้อดข้าวก็อย่างมากมื้อเดียวแล้วมันก็ไปกินขนมแทน ครั้งนี้เป็นประสบการณ์อดข้าวมาราธอนที่สุดของมันเลยก็ว่าได้
จะเป็นไรไหมนะ?
เคย์ชักเป็นห่วง ตัวเขาเองตอนน่ะ ทนได้สบาย เพราะโดนที่บ้านฝึกมาโหดกว่านี้ตั้งแต่เด็กๆ แต่ชาร์มันไม่ใช่
ลุงคาโลจะให้คุกเข่าไปถึงเมื่อไหร่กันนะ แล้วลุงจะไม่นอนรึไง
เคย์เหลือบมองนาฬิกา นี่ก็เกือบจะห้าทุ่ม
เอี๊ยด~!
เสียงเลื่อนเก้าอี้ คาโลลุกขึ้นแล้วหยิบบางอย่างออกจากลิ้นชัก
เป็นครั้งแรกในรอบหลายชั่วโมงที่คิงคาโลลุกจากเก้าอี้
ร่างสูงสง่าเดินมาหยุดข้างหน้าลูกชาย แล้วยื่นของในมือให้ “เปิดดูสิ”
“ครับ” ชาร์รับถุงที่บิดายื่นส่งให้แล้วเปิดออกดู ก่อนเงยขึ้นมองบิดาด้วยใบหน้าฉงนงงงวย
“สองร้อยคราวน์ เงินที่เหลือจากการขายหุ่นโมเดลปีศาจของลูกหลังจากหักเงินชดใช้ค่าเสียหายหกหมื่นเจ็ดพันคราวน์แล้ว” คิงคาโลเฉลย
“หุ่นโมเดลปีศาจ...ของผมหรอครับ” ชาร์กล่าวทวน
“ใช่ พ่อขายมันเอาเงินไปจ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้ลูก” คาโลกล่าวหน้านิ่ง
ขายหุ่นโมเดลปีศาจของชาร์งั้นหรอ!?
เคย์ออกจะอึ้งๆ ที่ลุงคาโลทำแบบนี้ ก็หุ่นโมเดลปีศาจนั่นน่ะ เป็นของสะสมสุดรักสุดหวงของชาร์มัน ลุงคาโลที่รู้เรื่องนี้ดีกลับเอามันไปขาย!!
ชาร์นิ่งไปเลย มันคงช็อคน่าดู
ก็มันรักของมันซะขนาดเอาออกมาเช็ดแล้วเช็ดอีกทุกวัน
“ความผิดพลาดของผู้มีอำนาจปกครองแม้เพียงนิดอาจนำมาซึ่งความสูญเสียมหาศาล จำเอาไว้ให้ดี” กษัตริย์แห่งคาโนวาลพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนเรียกหาองครักษ์คนสนิทที่รออยู่ด้านนอก
“เทรเซอร์ เฝ้าชาร์กับเคย์ไว้ ให้คุกเข่าแบบนี้จนถึงเช้า อย่าให้คลาดสายตา” คำสั่งเด็ดขาดที่เคย์ฟังแล้วน้ำลายฝืดคอ
ครั้งนี้ลุงคาโล เด็ดจริง โหดจริง แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แล้วคิงคาโลก็สาวท้าวออกจากห้อง
“ชาร์ๆ” เคย์เรียก เพื่อนซี้ที่ก้มหน้านิ่ง
มันกำลังเสียใจที่โดนเอาของรักไปขาย
“อืม...” ชาร์ขานเสียงเบา
“ไหวไหม” ทายาทนักฆ่าถามด้วยความเป็นห่วง
“อืม...”
“นายไหวแน่นะ” เคย์ถามย้ำอีกครั้ง
“อืม...” เมื่อเห็นเพื่อนสนิท ไม่มีอารมณ์จะตอบเคย์ก็เลยไม่ถามอะไรอีก ได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง
“นี่นายยังปล่อยให้ลูกคุกเข่าอยู่อีกหรอ” ราชินีแห่งคาโนวาลที่มาดักรอสามีอยู่หน้าห้องทำงานมานานแล้ว เดินตามหลังสามี
“พอแล้วน่า คาโล ให้ชาร์มันกลับไปพักเถอะนะ” เธอเดินเร็วขึ้นแล้วเกาะแขนคาโล “นะ นะ นะ คาโลน้า สงสารลูกเถอะ” ร่างบางเบียดซบร่างสูงอย่างเอาใจ
แต่ร่างสูงไม่มีทีท่าว่าจะยอมใจอ่อน
“โธ่ คาโล แค่นี้ชาร์มันก็เข็ดแล้วน่า รับรองมันไปกล้าไปเมามีเรื่องจนโดนจับอีกแล้ว” เสียงหวานโน้มน้าว
คาโลนิ่งเงียบตลอดทาง ไม่ว่าภรรยาจะพูดอะไร คาโลก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น จนเข้าไปในห้องพัก
เฟริน หัวอกของคนเป็นแม่สงสารลูกชายจับใจ
เอาว่ะ!
เธอยอมใช้ทีเด็ดสุดท้ายช่วยไอ้ชาร์มัน
“คาโล!” เฟรินดึงคาโลให้หันกลับมา มือเรียวล็อคดวงหน้าคมคายของสามีไว้มั่น แล้วเขย่งตัวประกบริมฝีปากบางเข้ากับริมฝีปากหนาได้รูป
เธอยอมทุ่มสุดตัว
ลำแขนแข็งแกร่งกอดกระหวัดเอวบางแนบชิด เปลี่ยนจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกแทน
“ให้ชาร์ไปพักเถอะนะ” ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อหอบหายใจ
นัยน์ตาสีฟ้าสบประสานนัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตที่เขาหลงรักไม่เสื่อมคลาย
จริงๆแล้วคาโลก็ไม่ได้อยากทำกับลูกโหดขนาดนี้ แต่เขาต้องการให้เข็ดในทีเดียว และก็ต้องการสอนอะไรหลายๆอย่างให้กับลูกชายที่เขาคงโอ๋มากเกินไป ตามใจมากเกินไป
เขาเข้าใจหัวอกเฟริน เพราะทำแบบนี้กับชาร์เขาเองก็เจ็บไม่แพ้กัน เผลอจะใจอ่อนตั้งหลายครั้ง
แต่พอมาคิดถึงอนาคตที่ลูกชายของเขาต้องแบกรับ เขาก็คิดว่าถึงเวลาสมควรแล้วที่เขาจะจริงจังกับชาร์ เขาถึงได้ไม่ยอมใจอ่อน
“ฉันก็อยากทำแบบนั้น” คาโลกล่าว
“ก็ทำสิ”
“ฉันทำไม่ได้”
“ทำไมล่ะ” ร่างบางดันตัวออก ใบหน้าหวานส่อแววไม่พอใจ
“เพราะฉันคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจริงจังกับลูก เพื่ออนาคตของชาร์เอง” คิงแห่งคาโนวาลอธิบาย “จะมาโอ๋เหมือนลูกเป็นเด็กๆไม่ได้”
เฟรินมีสีหน้าอ่อนลงเมื่อฟังเหตุผลของสามี
“ไม่ต้องห่วงนะ พรุ่งนี้เช้าฉันจะให้ชาร์กลับมาพัก”
“จริงนะ” เฟรินถาม
“จริงสิ ฉันจะโกหกนายทำไม” แล้วคาโลก็จุมพิษที่หน้าฝากนวลของสตรีที่เขารักสุดหัวใจ
ความคิดเห็น