ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พ่ายรักโจรสลัด

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1: แม่มด [100%] -Complete-

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 68
      7
      7 ก.ค. 64


    ความโคลงเคลงเล็กน้อยของเตียงนอนทำให้อลิสาตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกเวียนหัวปนรำคาญ แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างไม้ทรงกลมทำให้รู้ว่าเป็นเช้าวันใหม่แล้วแต่เพราะอยากนอนต่อจึงตวัดผ้าห่มคลุมหัว

    จะว่าไปแล้วห้องพักเธอมีหน้าต่างไม้ด้วยงั้นหรือ อีกทั้งความลื่นบางของผ้าห่มช่างไม่คุ้นเอาเสียเลย

    ช่างเถอะ บางทีเธออาจยังไม่ตื่นจากฝันก็ได้

    “ข้าไม่เคยเห็นสตรีขี้เกียจเหมือนเจ้ามาก่อน แม่หญิง” เสียงบุรุษเพศชายดังขึ้นทำให้อลิสาตกใจรีบผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกวาดสายตามองหาต้นตอของเสียง

    ห้องนี้เป็นห้องนอนกึ่งห้องทำงานสร้างด้วยไม้ทั้งหมด เป็นสถานที่ดูไม่สะดวกสบายเท่าไหร่นักทว่าดูเก่าแก่น่าถ่ายรูป เหนือสิ่งอื่นใดคือนี่ไม่ใช่ห้องของเธออย่างแน่นอน

    และนอกจากตัวเองยังมีชายคนหนึ่งยืนกอดอกมองอยู่ไม่ไกลนัก เขามีใบหน้าหล่อเหลาสมชายชาตรีชาติตะวันตก ทรงผมสีน้ำตาลเข้มไม่รุงรังและหนวดถูกโกนให้สั้นพอดี ช่างเหมือนดารานายแบบอย่างไรอย่างนั้น

    “ข้าอยากถามตั้งแต่เจอเจ้าแล้ว ทำไมถึงใส่เพียงชุดชั้นในสตรีอยู่กลางทะเล” ภาษาอังกฤษสำเนียงเปรียบเสมือนเจ้าของภาษาเปล่งออกมาจากปาก อลิสาตกใจมากและรีบก้มมองตัวเองก่อนจะพบว่ายังใส่เดรสและข้างในมีบราอยู่

    “คุณพูดอะไรของคุณ”

    “เจ้าฟังไม่รู้ความหรือแม่หญิง”

    “ฉันยังใส่เดรสอยู่เลย ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”

    “หือ” ชายหนุ่มส่งเสียงในลำคอพลางทำหน้าสงสัย หญิงสาวไม่รีรอให้เวลาผ่านไปนานรีบเอ่ยถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยทันที

    “ที่นี่คือที่ไหนคะ”

    “เจ้าควรแนะนำตัวก่อนจะถาม”

    “ฉันชื่ออลิสา คะนึงนิรันดร์ เป็นคนไทยค่ะ” ระหว่างพูดชายหนุ่มเดินถอยหลังไปนั่งเก้าอี้ไม้รอฟัง เขาดูสง่างามยิ่งกว่าเทพบุตรมาจุติทุกย่างก้าว “เรียกฉันสั้นๆ ว่าอลิซก็ได้ค่ะ”

    “ไทยคือที่ไหน”

    “เป็นประเทศเล็กๆ ด้านล่างจีน อยู่ทวีปเอเชีย แล้วคุณล่ะคะชื่ออะไร” ถามกลับบ้างอย่างเท่าเทียม หญิงสาวแอบสังเกตเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่มันเหมือนชุดโจรสลัดในหนังหรือการ์ตูนหรือว่าเธอกำลังอยู่ในกองถ่ายหนังบนเรือสำราญงั้นเหรอ

    “ข้าชื่อเบนจามิน ฟีลด์ เป็นกัปตันเรือบลูทัลชาร์คลำนี้”

    “เราอยู่ที่ไหนกันคะ”

    “บนเรือยังไงล่ะ ข้าพึ่งพูดไปเมื่อกี้เอง”

    อลิสานิ่งเงียบพลางทบทวนความทรงจำของตัวเองแทนการถามเบนจามินอีกรอบ เมื่อคืนเธอจำได้ว่าตัวเองกำลังอาบน้ำอยู่ในอ่าง ในจังหวะที่จะลุกเกิดน้ำวนดึงตัวเองลงไป ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบกับความมืด สัมผัสจากมวลน้ำรอบตัวทำให้อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองจมอยู่ในมหาสมุทร

    เมื่อคืนเธอเปลือยนี่...

    อลิสาตกใจเพราะรอบกายดูประหลาดน่าสับสนไปหมด ยังไม่ทันได้คิดไตร่ตรองความหวาดกลัวคนแปลกหน้าก็นำพาให้เธอชุกวิ่งพรวดออกไปข้างนอกปะทะแสงแดดและสายลม โดยเบนจามินคว้าไว้ไม่ทันเพราะไม่นึกว่าหล่อนจะวิ่งหนีไป

    หญิงสาวเห็นว่ากำลังอยู่บนเรือไม้ทั้งลำ เป็นไม้ที่ดูไม่ใหม่ไม่เก่าจนเกินไป มองจากตรงไปไกลหน่อยเห็นน้ำสีฟ้าล้อมรอบสะท้อนแสงระยิบระยับ มันดูสวยงามจนอดตะลึงไม่ได้

    “ข้าว่าเจ้าไม่ควรใส่ชุดชั้นในเดินเล่นนอกห้อง”

    “เราอยู่ที่ไหนคะ กำลังถ่ายหนังกันอยู่เหรอ”

    “เจ้าพูดอะไร”

    “เรือสำราญแฮปปี้ซิตี้อยู่ที่ไหน ฉันมาจากเรือสีขาวลำนั้น” อธิบายไปด้วยขยับมือไปมาอยู่ไม่สุขไปด้วย อลิสาสงสัยเหลือเกินว่าทำไมรอบตัวถึงเปลี่ยนไปมากราวกับหลุดมาอยู่คนละยุค

    อีกทั้งเรือทำจากไม้ทั้งลำยังกล้าเอามาล่องอีก หากโดนคลื่นลูกใหญ่ซัดมันจะทนทานสักแค่ไหนกันเชียว

    “ข้าเจอเจ้าอยู่บนเรือลำเล็กเมื่อคืนเพียงคนเดียว” เบนจามินเก็บประโยคอื่นไว้ในปากไม่เปล่งออกมาเพราะไม่อยากโดนตบ

    หญิงสาวผมดำขลับหน้าตาสวย ผิวขาวอมชมพูราวกับอาบน้ำนมมาทั้งชีวิตนอนเกยบนเรือสำหรับหนีลำเล็กใกล้เขตมหาสมุทรแอตแลนติก ที่สำคัญสวมเพียงชุดชั้นในกระโปรงสีขาว

    หากไม่ใช่ทาสหรือโสเภณีที่หนีจากเรือโจรสลัดจะเป็นอะไรได้เล่า

    “ข้าช่วยเจ้าขึ้นมา หากไม่ช่วยเจ้าคงกลายเป็นปลาตากแห้งเพราะขาดน้ำจืดอยู่ตรงนั้น”

    “คุณเป็นโจรสลัดใช่ไหมคุณเบนจามิน” อลิสาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง มันประหลาดตั้งแต่ถูกอ่างน้ำดูดแล้วมาโผล่อยู่ที่อื่น ฉะนั้นหากนี่เป็นยุคอดีตเธอคงคิดว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้

    “ใช่ ข้าเป็นกัปตันโจรสลัดและตอนนี้เจ้าเป็นแขกของข้าแม่หญิง เจ้าหนีมาจากเรือโจรสลัดลำอื่นใช่ไหมล่ะ ข้าสัญญาว่าเจ้าจะอยู่สบายกว่าการเป็นทาสจนกว่าเราจะขึ้นฝั่ง”

    อลิสายกมือขึ้นจิกทึ้งหัวตัวเองก่อนจะก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว

    “นะ...นี่เป็นความฝันใช่ไหม กำลังถ่ายหนังกันอยู่ใช่ไหมคะ”

    “ข้าว่าเจ้าดูสติไม่ค่อยดี”

    “ผีหลอก ผีหลอกแน่ๆ” อลิสาพึมพำกับตัวเองก่อนจะยกมือไหว้อย่างหวาดกลัว เธอต้องการตื่นจากความฝันนี่เสียทีไม่ว่าด้วยวิธีใด แม้สายลมและเสียงคลื่นมันจะช่างสมจริงก็ตาม

    “เราเข้าไปข้างในกันเถอะ ข้าไม่พิสมัยชุดชั้นในเจ้าเอาเสียเลย” เบนจามินเอ่ยพลางตวัดตามองลูกเรือคนอื่นที่เริ่มรุมล้อมเงียบๆ ได้สักพักแล้ว เมื่อคืนเจ้าพวกนี้นี่แหละที่ช่วยหญิงสาวคนนี้ขึ้นเรือ

    “พะ...พวกคุณเป็นผีใช่ไหม!”

    “กัปตัน ข้าว่านางอาจโดนทำร้ายก่อนจะมาเจอเรา” ลูกเรือคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ใช่ นางพูดไม่รู้ความ” อีธานพูดสนับสนุนอีกคน เขาเป็นคนสนิทของกัปตันเบนจามิน ฟีลด์และเป็นคนเห็นอลิสาลอยกลางทะเลคนแรก

    “สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ”

    “เงียบ!” เสียงกัมปนาททำเอาอลิสาสะดุ้งตัวโยน เธอหยุดแผ่เมตตาทันทีและนึกได้ว่าชาวต่างชาติพวกนี้คงนับถือศาสนาคริสต์ ในฐานะที่เคยเป็นคอหนังผีก็พอจำบทสวดจากในหนังได้บ้าง “ข้าบอกให้เจ้าเข้าห้องอลิซ จะเดินหนีข้าไปถึงไหน”

    “กะ...ก็พวกคุณเป็นผี”

    “ข้าไม่ใช่ผีและลูกเรือของข้าก็ไม่ใช่ผี!”

    “เดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา เดชะคำเสนอวิงวอนของพระนางมารีย์ผู้นิรมล” ไม่เพียงว่าเปล่าแต่ยกมือขึ้นมากุมไว้ใจกลางอก ทว่าพอคนน่ากลัวก้าวเข้าใกล้เลยเปลี่ยนเป็นยกแขนขึ้นมาทำท่าคล้ายไม้กางเขน ถึงแม้เธอจะคิดว่าตัวเองเหมือนอุลตร้าแมนกำลังปล่อยพลังมากกว่าก็เถอะ

    “ถ้าเจ้ายังไม่หยุดข้าจะโยนเจ้ากลับลงทะเล!”

    หญิงสาวยอมหยุดแต่โดยดีเพราะเสียงตวาดน่าเกรงขาม เธอหันหน้ามองผู้คนรอบข้างพลางหมดหวังในใจริบหรี่ ไม่ว่าเสียง แสง และสัมผัสล้วนรู้สึกได้จริงทั้งสิ้น มันอาจเป็นความจริงมากกว่าความฝัน

    “ฉันอยากกลับห้อง ยังไม่ได้ให้อาหารเช้าแมวเลย” ขมุบขมิบปากว่าคนเดียวก่อนจะมีลมแรงหอบเอาร่างกายตัวเองเซไปข้างหน้า มือข้างซ้ายเกิดความรู้สึกประหลาดราวกับกำลังล้วงเข้าไปในอะไรบางอย่าง

    ปลายนิ้วทั้งห้าแตะโดนขนนุ่มแสนคุ้นเคย อลิสาจับมันออกมาก่อนจะพบว่าแมวสุดที่รักอย่างจูดี้กำลังออกมาจากม่านฟองสบู่ จากนั้นแครอทแมวขาสั้นก็กระโดดตามออกมาอีกตัว

    “จะ...เจ้า เจ้าเป็นแม่มดงั้นเหรอ” เบนจามินว่าเสียงสั่นพร้อมมองม่านฟองสบู่หายไปตาค้าง

    “นางเป็นแม่มด!”

    “แม่หญิงเป็นแม่มด นางมีแมวด้วย!”

    “แมวเป็นสัญลักษณ์ของแม่มด!”

    “แม่หญิงคนนั้นเป็นแม่มด เราต้องฆ่านางแล้วจับโยนลงทะเล!”

    ลูกเรือหลายคนตะโกนโหวกเหวกโวยวายจนอลิสาถอยกรูดเมื่อพวกเขาชักดาบออกมาชี้หน้าเธอ หญิงสาวไม่สามารถหนีไปทางไหนได้เลยเพราะกำลังโดนล้อมอยู่ หากขยับหนีแม้เพียงก้าวเดียวดาบพวกนั้นคงพุ่งมาแทงเธอกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก

    “หยุด! หากข้าไม่ได้สั่งห้ามทำอะไรทั้งสิ้น ข้าจะสอบสวนนางตามลำพัง”

    เสียงลูกเรือเงียบลงตามคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง

    “อีธานจับนางไปไว้ในห้องตามเดิม”

    “แต่กัปตัน นางอาจทำเรือเราล่มหรือฆ่าพวกเราหากมีโอกาส” คนสนิทพูดค้านแต่ก็ยอมขยับเข้าไปใกล้อลิสาแล้วคว้าข้อมือขาวไว้แน่น

    “ข้าประเมินได้ว่านางเป็นยังไง ทำตามที่ข้าบอก”

    อลิสาถูกพาเข้าห้องเดิมที่ออกมาโดยมีเบนจามินและอีธานเดินคุม เธอไม่กล้าขัดคำสั่งหรือตุกติกเพราะโจรสลัดพวกนี้มีดาบ อีกทั้งผู้เป็นกัปตันยังพกปืนเหน็บเอวไว้ด้วย

    หลังจากถูกเหวี่ยงขึ้นบนเตียงนอนสีขาวเบนจามินก็หยิบกริชสีเงินมาจ่อใบหน้าหวานซีดเผือก อลิสาผงะหัวไปชิดผนังเรือตามสัญชาตญาณ

    “อีธาน เอาโซ่มาล่ามเท้านาง”

    ไม่นานนักโซ่ก็อยู่บนข้อเท้าเรียบร้อย ลูกกุญแจถูกเบนจามินเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ ในเวลานี้หญิงสาวจำเป็นต้องคิดหาทางเอาตัวรอดให้ตัวเองและสัตว์เลี้ยงแทนการรอความตายอยู่เฉยๆ

    “ฉัน...ฉันขอต่อรอง”

    กัปตันเรือโจรสลัดหรี่ตามองหาเล่ห์กลบนใบหน้าเกลี้ยงเกลา พอไม่พบอะไรก็ยอมเปิดปากรับข้อเสนอ

    “ลองว่ามา”

    “ฉันขอให้พวกคุณเอาอาหารแมวให้แมวของฉันทั้งสองตัวและนำมันเข้ามาในห้องนี้ แลกกับการตอบคำถาม ท่านคงอยากถามใช่ไหมล่ะ”

    “ถึงข้าไม่ทำตามก็มีวิธีเค้นคำตอบอยู่แล้ว”

    “ฉันจะไม่ตอบอะไรทั้งสิ้นถ้าไม่ทำตามที่ขอ”

    “ก็ได้แม่หญิงอลิซ อีธานไปเอาแมวและหาปลาบดใส่ชามเล็กๆ เข้ามาในห้องนี้” เจ้าของเรือบลูทัลชาร์คหันไปสั่งก่อนจะหันขวับกลับมามองแม่มดสาวเพราะกลัวเธอใช้เวทมนตร์โจมตีในช่วงเผลอ

    “ครับกัปตัน”

    เบนจามินยืนค้ำหัวอลิสาและกวาดมองทั่วร่างเป็นการสำรวจ นอกจากความงามแปลกตาแบบสาวเอเชียแล้วดูไม่มีพิษภัยแต่อย่างใด ทว่าพลังแม่มดที่เธอแสดงออกมาเมื่อครู่นี้ล่ะมันคืออะไร

    “ฉันมาจากศตวรรษที่ 21 ชุดที่ฉันใส่อยู่เรียกว่าเดรส...มันไม่ใช่ชุดชั้นในค่ะ ไม่ต้องมองขนาดนี้ก็ได้”

    “งั้นเหรอ มันช่างเหมือนชั้นในสตรีของผู้หญิงแต่หนากว่าเล็กน้อย เนื้อผ้าก็แตกต่าง” แม้ไม่อยากเชื่อแต่เบนจามินก็อยากลองคุยดูก่อน “เมื่อคืนบนเรือลำเล็กนอกจากเจ้ายังมีเสื้ออัดลมสีส้มวางด้านข้างเจ้า”

    เป็นครั้งแรกที่อลิสาเห็นเสื้อชูชีพตรงมุมห้อง ที่ผ่านมาไม่ได้สังเกตให้ดีเลยมองข้ามมันไป

    “มันคือเสื้อชูชีพค่ะ ใส่แล้วจะไม่จมน้ำ”

    “งั้นทำไมเจ้าไม่ใส่” กัปตันโจรสลัดถาม

    “เมื่อคืนฉันไม่รู้ตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง” เธอตอบอย่างตรงไปตรงมาพลางเอามือลูบข้อเท้าแผ่วเบา หากไม่ลงน้ำหนักกดทับมากเกินไปผิวคงจะไม่เป็นรอยโซ่ให้เห็น

    “งั้นเจ้ามาจากเมืองไหนล่ะแม่มดสาว”

    “เรียกฉันว่าอลิซ ถ้าเรียกแม่มดอีกจะไม่คุยด้วย”

    “หึ ช่างต่อปากต่อคำเก่งเสียจริง ข้ารู้วิธีฆ่าแม่มดหลายวิธีเชียวล่ะ เผื่อเจ้าอยากลองโดนบ้าง” น้ำเสียงเย็นเยียบติดเล่นชวนให้ขนลุก

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่อีธานจะเข้ามาพร้อมจูดี้และแครอท ในมือของเขาสองข้างถือชามปลาบดกลิ่นหอมฉุย

    “ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหมกัปตัน”

    “เรียบร้อยดี เจ้าเอาวางไว้บนพื้นแล้วออกไปซะ”

    เบนจามินมองแมวของอลิสาและหันกลับมาเผชิญหน้าเจ้าของแมว เธอเองก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องในเช้าวันนี้เช่นกัน เสียงท้องร้องน้อยๆ ไม่อาจเล็ดรอดหูโจรสลัดหนุ่มไปได้

    “แม่มดไม่เลี้ยงแมวดำงั้นรึ”

    “ฉันไม่ใช่แม่มด!”

    “จะให้ข้าเชื่อง่ายๆ ได้ยังไงกันในเมื่อเจ้าใช้เวทมนตร์ได้”

    อลิสาถอนหายใจพรืด

    “ตัวสีขาวน้ำตาลชื่อจูดี้ค่ะ เป็นแมวพันธุ์แร็กดอลล์ ส่วนตัวสีส้มขาสั้นกว่าแมวปกตินี่ชื่อแครอท พันธุ์มันช์กิน”

    “ข้าว่าชื่อจูดี้เหมาะกับเลดี้สักคนมากกว่าจะเอามาตั้งให้สัตว์” เบนจามินวิจารณ์แมวขนปุยที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทานปลาอย่างเอร็ดอร่อย

    “ถึงมันจะเป็นแมวแต่คุณดูสิ ทั้งสวยทั้งสง่างามเหมาะกับชื่อที่สุด”

    “เจ้าใช้เวทมนตร์แบบไหนถึงเสกสัตว์เลี้ยงออกมาได้ บอกข้าบ้างสิเผื่อจะใจดีกับเจ้ามากกว่านี้” ว่าพร้อมปรายตามองโซ่บนข้อเท้าขาว เขาไม่เห็นอลิสาสวมรองเท้าตั้งแต่ขึ้นมาบนเรือบลูทัลชาร์ค

    “ก็บอกไปแล้วว่าไม่รู้ มันพึ่งเคยเกิดขึ้นกับฉันเป็นครั้งแรกเหมือนกันเข้าใจไหมคุณโจรสลัด”

    ทันใดนั้นเสียงฝีเท้ามากมายวิ่งกระทบพื้นไม้ก็ดังขึ้นพร้อมเสียงตะโกนดังเข้ามาถึงในห้องพัก

    “กัปตัน! เราเจอเรือสินค้า”

    เบนจามินรีบลุกไปที่ประตู หันกลับมาทิ้งท้ายว่า ‘จะเข้ามาหาเจ้าอีกรอบ หากเจ้าแผลงฤทธิ์อีกข้าจะตัดหัวโยนลงทะเลให้ปลาแทะ’ ก่อนจะปิดประตูเสียงดังและวิ่งไปบนดาดฟ้าตรงส่วนควบคุมเรือ

    กัปตันโจรสลัดหมุนพังงาเพื่อนำบลูทัลชาร์คไปขนาบข้างเรือสินค้าลำเล็กกว่า ลูกเรือของตนพอได้จังหวะก็ถือดาบกระโดดลงไปปล้นสินค้า เสียงร้องของสตรีและเสียงดาบกระทบกันดังระงมอย่างรวดเร็ว

    “อย่าทำข้าเลย”

    ลูกเรือของเขาจะไม่ทำร้ายใครหากคนนั้นไม่คิดสู้ เราเพียงปล้นทอง ผัก ผลไม้ น้ำจืด เหล้า และหีบเสื้อผ้าเท่านั้น

    “กรี๊ดดด” เสียงกรีดร้องดังระงมด้านนอกสร้างความหวาดกลัวก่อขึ้นในจิตใจอลิสา หากมีศัตรูกระชากประตูเข้ามาทำร้ายเธอจะทำเช่นไรเล่า

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    “สักวันพวกโจรสลัดต้องโดนแขวนคอ!”

    “งั้นเจ้าก็โดนตัดหัวก่อนแล้วกัน” ลูกเรือตะโกนตอบพ่อค้า

    “ทางโล่งแล้ว ช่วยกันขนเสบียง!” อีธานในฐานะผู้นำถัดลงมาจากกัปตันตะโกนบอกลูกเรือคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ร่วมต่อสู้

    “ช่วยกันขนเสบียง!” เสียงบอกต่อกันเป็นทอดๆ พวกเขารีบจัดการก่อนที่เรือลำอื่นซึ่งอาจเป็นเรือราชนาวีจะมาเจอเข้า

    “พอได้แล้ว! กลับมาให้หมด” เบนจามินตะโกนบอกทุกคนพลางบังคับพังงาออกห่างจากเรือสินค้า เหล่าลูกเรือที่ยังไม่ข้ามกาบเรือรีบโหนเชือกทันทีเพื่อไม่ให้กัปตันอารมณ์เสีย

    เมื่อบนท้องทะเลในตอนนี้มีเพียงบลูทัลชาร์คลำเดียวไม่เห็นเรือลำอื่น กัปตันเบนจามินจึงเดินกลับมายังด้านล่าง เขาหยิบเอากล้วยหนึ่งผลและไปหาอาหารมื้อเช้าจากในครัวมาให้แม่มดสาวกินประทังชีวิตก่อนจะหิวตาย

    อีธานที่ผ่านมาเห็นพอดีส่งเสียงเรียกไว้

    “กัปตัน ทำไมท่านไม่ให้นางอดข้าวเสีย”

    “นางอ้างว่าไม่ใช่แม่มดแต่มาจากศตวรรษที่ 21 นางบอกว่าใช้เวทมนตร์ครั้งแรกโดยไม่รู้ตัวและไม่รู้ว่าทำไมถึงมาอยู่ในศตวรรษนี้ได้”

    “ท่านเชื่อนางเหรอ”

    “ข้าไม่เชื่อ แต่นางประหลาด ข้าอยากดูท่าทีว่านางใช้งานอะไรได้บ้าง”

    “ท่านจะเก็บแม่หญิงคนนั้นไว้ไหม หากนางทำเรือเราวิบัติล่ะ” ลูกเรือคนหนึ่งพูดแทรกด้วยความสงสัย โจรสลัดบางกลุ่มมีความเชื่อว่าหากมีหญิงบนเรือ เรือลำนั้นจะเจอแต่หายนะ แต่กลุ่มโจรสลัดบนเรือบลูทัลชาร์คลำนี้ไม่มีความเชื่อนั้น

    “ถ้าเราควบคุมนางได้เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากแม่มด จากท่าทางของนางตอนถูกต้อนดูหวาดกลัวทะเลและไม่กล้าเข้าใกล้กาบเรือ ข้าว่านางคงว่ายน้ำไม่เป็นหรือว่ายน้ำไม่แข็ง” กัปตันโจรสลัดกล่าวอย่างมั่นใจในการมองคนออก ลูกเรือหลายคนพยักหน้าเห็นด้วย

    “ข้าว่าคงใช่”

    “ข้าก็ว่านางว่ายน้ำไม่เป็นเช่นกัน”

    “เราเจอจุดอ่อนของนางแล้ว”

    เบนจามินเลิกสนใจตรงนี้แต่เดินไปเปิดประตูห้องพัก อลิสาสะดุ้งรอบที่เท่าไหร่ไม่ทราบของวัน ผู้ชายคนนี้เปิดประตูพรวดเข้ามาไม่คิดจะรักษามารยาทด้วยการเคาะประตูเลย

    “คุณควรเคาะประตู”

    “นี่ห้องข้า เรือของข้า”

    อลิสาเหม่อได้ไม่เกินสิบวินาทีก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังใส่เสื้อผ้าตัวเก่าหลังอาบน้ำสระผมเสร็จ สภาพในตอนนี้จึงไม่เรียบร้อยนัก

    กัปตันโจรสลัดกลืนน้ำลายลงคอดังอึกให้ได้ยิน แผ่นหลังขาวเนียนปรากฏแก่สายตา เขาใช้เท้าดันประตูปิดลงจากนั้นย่างเท้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก

    “เจ้าสวยดีนะ”

    “อย่ามามอง!” กอดอกพร้อมถอยกรูดไปหาแมวสองตัวที่เล่นกันบริเวณมุมห้อง สายตาลามเลียของโจรสลัดช่างไม่น่าไว้ใจที่สุด มันดูเจ้าเล่ห์และเปี่ยมไปด้วยแววตาไม่ซื่อสัตย์ของโจร

    “ข้าเอาอาหารมาให้เจ้า เดี๋ยวจะหาเสื้อผ้าให้ด้วยเพราะคงไม่ดีนักหากคนสวยอย่างเจ้าใส่ชุดเช่นนี้บนเรือที่มีแต่บุรุษ”

    “งั้นคุณออกไปเลย ฉันจะกินอาหารตามลำพัง”

    “ย่อมได้ ข้าจะไปหาหีบเสื้อผ้าพอดี” เบนจามินมองตามสายตาอลิสาไปยังประตูไม้ “ห้ามขัดดาล[1]  อย่าให้ข้าต้องพังมัน”

    คนวางแผนในหัวขมวดคิ้วเมื่อโดนรู้ทันความคิด เธอจะเปลี่ยนตัวเองยังไงดีไม่ให้โดนมองออกง่าย อย่างน้อยแค่ช่วงที่ติดอยู่ในศตวรรษนี้ก็ยังดี




    ------------------------------

    [1]ดาล คือกลอนประตูที่ทําด้วยไม้สําหรับขัดบานประตูอย่างประตูโบสถ์ เช่น ลงดาล ลั่นดาล ขัดดาล



    TALK: เกลแต่งไปเรียนออนไลน์ไปด้วยนะคะในเทอมนี้ หากเจอคำผิดให้แจ้งได้เลยน้าเกลจะได้ไปแก้ตรงต้นฉบับไว้
    TALK 2: บางทีอัปแล้วความยาวที่เพิ่มไม่ถึงกำหนดจะไม่แจ้งเตือนนะคะ ฉะนั้นติดตามเพจหรือทวิตเตอร์ไว้จะได้ไม่พลาดจ้า เกลจะแจ้งทุกครั้งที่อัปในโซเชียลนะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×