ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3: นิสัยโจร [100%] -Complete-
ตกดึกหญิงสาวเพียงคนเดียวบนเรือนอนไม่หลับ เนื่องจากตลอดทั้งวันเธอใช้สิทธิ์พักผ่อนมากเกินพอแล้ว กัปตันเบนจามินเองก็ยังไม่ได้กลับมาที่ห้องซึ่งนับว่าเป็นโชคดีนักและมันจะดีมากหากเขาพอจะมีความเป็นสุภาพบุรุษไม่นอนร่วมห้องกับสตรี
ทว่าหากไม่ล่ะ นั่นคงเป็นนรกบนดินเชียวล่ะ เพราะฟังจากเสียงเฮฮาภายนอกแล้วพวกโจรสลัดคงกำลังเล่นเกมบ้าบอไปพร้อมกับดื่มไวน์จนเมาแอ๋
หัวใจเต้นตุบตับรุนแรงเกินไป หรือนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อลิสาไม่อาจข่มตานอน เธอกำลังกลัวว่าจะมีใครพังประตูเข้ามาในนี้แม้จะขัดดาลตามคำสั่งของเบนจามินแล้ว
ลูกเรือบลูทัลชาร์คดูเป็นมิตรกว่าที่เธอคิด พวกเขาไม่ใช่โจรสลัดที่เหี้ยมโหดและเลือดเย็นนัก ดูท่าจะไม่ชอบปะทะกับกลุ่มอื่นเสียด้วย อลิสาไม่เก่งเรื่องประวัติศาสตร์ย้อนยุคย้อนสมัยสักเท่าไหร่แต่คาดเดาจากสภาพลูกเรือ ไม่มีใครพิการเรื่องแขนขาเลย อาจมีคนที่ตาบอดข้างหนึ่งหรือขาเป๋บ้างแต่ยังทำกิจกรรมต่างๆ ได้คล่องตัว
คนเหล่านี้ไม่ได้หลงใหลในอำนาจหรือรบราฆ่าฟันแน่นอน อาจจะเลือกเดินสายนี้เพราะความจนก็เป็นได้ ผู้คนศตวรรษที่ 17 ส่วนมากความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนักหรอก และหากถามว่าเธอรู้ได้อย่างไรว่านี่คือยุคไหน นั่นเพราะบนช่องไม้ซึ่งถูกสร้างให้เป็นผนังในห้องนี้มีจดหมายสองสามฉบับซุกไว้ลวกๆ อลิสาไม่สนใจเนื้อหาของมันแต่เธอบังเอิญสังเกตเห็นวันเดือนและปีแบบคริสต์ศักราช
ขยับกายจากท่านอนเปลี่ยนมาเป็นท่านั่ง เรือลำนี้กว้างราวกับบ้านหลังหนึ่งแต่หากเทียบกับเรือสำราญแฮปปี้ซิตี้มันใหญ่ไม่เท่าห้องโถงรับแขกด้วยซ้ำ นั่นส่งผลให้เธอมีอาการเวียนหัวอ่อนๆ จากความโคลงเคลงของเรือ แม้กระทั่งแมวสุดที่รักทั้งสองยังร้องเสียงดังหนวกหูหมายจะกลับ ด้วยความที่กลัวมันจะป่วย อาเจียน หรือฉี่เรี่ยราดเลยจำใจส่งมันไป ไว้วันรุ่งขึ้นค่อยนำมันกลับมาทานอาหารเม็ดเป็นมื้อๆ
อลิสาลูบแขนไปมาด้วยความหนาว ลอยล่องอยู่กลางทะเลมีข้อดีคือไม่มียุงและแมลงมากวนใจ แต่อากาศตอนกลางคืนชวนให้เป็นหวัดได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะช่วงไหนของวันลมก็ยังคงทำหน้าที่ไม่มีตกหล่น นี่ขนาดเธอหาห้าคลุมไปปิดช่องหน้าต่างวงกลมแล้วนะ
หมอนใบเล็กแข็งกระด้าง ผ้าแพรผิวลื่นผืนบาง ไม่รู้เบนจามินทนใช้ไปได้อย่างไร ขนาดเธอยืมใช้เพียงชั่วครู่ยังปวดเมื่อยไปหมด
ว่าแล้วก็หยิบเอาผ้านวมนุ่มสองผืน หมอนสองใบ และฟูกญี่ปุ่นสำหรับปูพื้นมาอีกสอง เธอไม่อยากจะนำมันมาเผื่อกัปตันโจรสลัดเลย แต่ยังไงก็ต้องมีคนนอนพื้นหนึ่งคน หากเธอใช้ข้าวของคุณภาพดีกว่าคนเดียว คนฉวยโอกาสคงมาบังคับเพื่อนอนเบียดร่วมด้วย
ชุดนอนที่ตัวเองกำลังสวมใส่ไม่ได้รัดกุมมากเพราะไม่อย่างนั้นเธอจะร้อน เป็นเพียงเสื้อยืนแขนสั้นกับกางเกงลายเดียวกันความยาวเท่าเข่า นำผ้าห่มนวมมาคลุมตัวไว้ช่วยคลายหนาวกำลังดี
อลิสาสงสัยนักว่าทำไมเหล่าโจรสลัดไม่แยกย้ายกันไปนอน นาฬิกาทองเหลืองในลิ้นชักของเจ้าของห้องบ่งบอกเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว อีกทั้งพวกเขาต้องตื่นเช้าตรู่ แต่ละวันได้พักผ่อนเพียงน้อยนิดยังจะมัวดื่มกันจนดึกอีก
คิดอะไรเรื่อยเปื่อยได้ไม่นานก็ลุกไปแง้มประตูมองดูด้านนอก ไม่มีแสงไฟใดๆ ทั้งจากคบเพลิงหรือตะเกียง พวกเขายังคงสนุกสนานกันท่ามกลางความมืด กระทั่งแรงผลักรุนแรงทำเอาอลิสาซวนเซไปสามสี่ก้าว
“คุณเบนจามิน!”
“แอบมองอะไรหรือแม่หญิง”
“ฉัน…ฉันแค่” นึกคำพูดไม่ออก
“เจ้ารอข้ากลับมานอนกกใช่ไหมเล่า” กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนชวนให้เบือนหน้าหนี นี่เขาดื่มเป็นกิจวัตรจนคอแข็งไปแล้วสินะ
“พูดจาน่าเกลียด ฉันไม่ได้รอคุณสักนิด ฉันสงสัยว่าทำไมพวกคุณคุยเสียงดังนานเกินไปเลยลองเปิดประตูดู นั่งจับกลุ่มกันมืดๆ แบบนั้นคงไม่ได้แอบวางแผนเกี่ยวกับฉันอยู่หรอกนะ”
ตั้งแต่อลิสาย่างเท้ามาอยู่บนบลูทัลชาร์ค เธอกลายเป็นหนึ่งในเรื่องขำขันของบทสนทนาผู้คนที่นี่ไปเสียแล้ว
“แค่คุยกันสัพเพเหระ พวกข้าไม่จุดไฟเพราะมันง่ายต่อการโดนล่า เรือลำอื่นสามารถมองเห็นแสงจากระยะไกล แต่เสียงเพียงแค่นี้ถ้าไม่อยู่ใกล้ไม่มีใครได้ยินหรอก” ว่าจบเบนจามินก็ปิดประตูลงดาล ชายหนุ่มร่างกำยำปราดตามองกองผ้าผืนหนาบนเตียงและพื้น
“คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ”
“น้ำจืดสำคัญมากเกินกว่าจะใช้อาบ พวกข้าใช้มันเพื่อดื่มกินเท่านั้น แต่อย่างว่าเพราะข้าคือกัปตันจึงมีน้ำใช้มากกว่าคนอื่น”
“คุณจะบอกว่าคุณไม่อาบน้ำเหรอคะ”
“เพียงล้างๆ ลูบๆ ให้หายเหนียวตัวก็เพียงพอแล้วแม่หญิง ในสัปดาห์สองสัปดาห์แรกไม่ว่าจะน้ำจืด อาหาร เจ้าจะสำราญกับมันมาก แต่พอเวลาผ่านไปนับเดือนแม้แต่น้ำดื่มก็ไม่มีให้เจ้า พวกข้าถึงได้ดื่มไวน์ รัม หรือบรั่นดีแก้กระหายแทนยังไงล่ะ”
คนตัวสูงแค่นหัวเราะแผ่วเบาเมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสตรีตัวเล็กกว่า
“ไม่เป็นโรคผิวหนังตายก็คงตับแข็งตาย”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ”
“เปล่าค่ะ” อลิสาส่ายหน้าปฏิเสธ ตั้งใจจะพูดในใจแต่ดันเปล่งเสียงออกมาซะได้
“แต่พวกข้าจะสะอาดที่สุดในวันฝนตก นอกจากได้เติมน้ำจืดในถังแล้วยังได้อาบน้ำกลางสายฝนอีก” ไม่ว่าเปล่าแต่ยิ้มมุมปากพลางคว้ามือของอลิสามาหอม “เจ้าเคยเห็นบุรุษเปลือยกายไหม”
“ไม่!” สะบัดตัวหนีไปอยู่มุมห้องทันที อยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง “คุณไปอาบน้ำนอนเถอะค่ะ ฉันมีน้ำจืดเยอะมากไม่ต้องประหยัด อาบทุกวันไปเลยจะได้สะอาดซะบ้าง”
ประชดเสียงฉุนออกไปโดยมีเสียงหัวเราะของเบนจามินดังอยู่พักหนึ่ง ใครจะไปนึกว่าผู้ชายที่ดูดีขนาดนี้จะสกปรก
“ฮะๆๆ งั้นข้าไม่เกรงใจ”
กัปตันโจรสลัดถอดเสื้อผ้ากองไว้หน้าห้องน้ำ อลิสาเผลอมองตาโตด้วยความตกใจกับกล้ามหน้าท้องหกลูก จนสายตาหลุบต่ำเห็นความอหังการดุนดันกางเกงถึงได้ลุกลี้ลุกลนคว้าผ้าห่มมาปิดหน้า
“คุณมันไม่มียางอาย!”
“นี่เรือข้า ห้องข้า เจ้าต่างหากแม่หญิงอลิซ มองข้าตาเป็นมันขนาดนี้ประเดี๋ยวข้าอดทนความยั่วยวนของเจ้าไม่ไหวเจ้านั่นแหละจะยับเยิน”
ยับเยิน…เชียวเหรอ
“ฉันไม่ได้ยั่ว”
“แต่เจ้าเชิญชวนข้า” เขาทำเป็นไม่มองทว่าความจริงเห็นทุกอิริยาบถของหญิงสาว ดวงตาเบิกกว้าง ริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติเผยอออกเล็กน้อย ลูกกระเดือกบนลำคอระหงที่ขยับตามจังหวะกลืนน้ำลาย ความภาคภูมิใจของเขายังส่งผลต่อสตรีทุกคนที่เคยพบเจอตนเองไม่เคยเปลี่ยน
อลิสาไม่ตอบไม่มองอะไรทั้งสิ้น เธออายแทบมุดแผ่นดินหนีอยู่รอมร่อ ผ่านไปสักพักเสียงปิดประตูห้องน้ำถึงดังขึ้น เธอพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก ลากฟูกญี่ปุ่นมาไว้บริเวณมุมห้องติดกับผนังเรือด้านที่มีหน้าต่าง เธอจะเสียสละนอนพื้นเอง ยังไงซะก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝืนความง่วงปนเวียนหัวจากความโคลงเคลงของเรือ
ตัวเลือกเธอมีเพียงสองคือไปข้างนอก เผชิญลูกเรือที่ผลัดกันเฝ้าเวรกับเลือกอยู่ในห้องตามลำพังกับเบนจามิน แม้มันจะแย่ทั้งคู่แต่อยู่ในที่มีความเป็นส่วนตัวได้บ้างอาจดีกว่า
เสียงตะโกนเรียกดังออกมา ชายหนุ่มเอ่ยถึงขวดหลากสีมากมายในห้องน้ำ อลิสาเดินเข้าไปใกล้แล้วตอบกลับว่าเขาควรจะใช้มันทำความสะอาดร่างกายและเส้นผม เธอคงขนลุกแน่หากเขาอาบแค่น้ำเปล่าแล้วมาแตะตัวเธออีก
ฉับพลันเห็นกระสอบผ้าวางไว้ริมประตู คาดว่าเบนจามินคงหยิบติดมือมาด้วยแต่เธอไม่ได้สังเกต พอลองคลี่ดูจึงพบผลไม้สามชนิดคือส้ม กล้วย และองุ่น พวกมันดูสดใหม่มากฉะนั้นคงมาจากการปล้นคล่าสุด
“ข้านำมันมาให้เจ้า”
เฮือก!
สะดุ้งตัวโยนเมื่อคนที่คิดว่ายังอยู่ในห้องน้ำเดินตัวเปล่าอยู่ด้านหลัง เขาหยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวของเธอมาใช้และยืนจังก้าอวดโชว์เครื่องเพศบุรุษ
ช่างหน้าด้านหน้าทนที่สุด!
“เมื่อก่อนโจรสลัดไม่ชอบผักกับผลไม้เพราะพวกมันเน่าเสียง่าย แต่หลายคนเป็นโรคเพราะไม่กินเจ้าพวกนี้ โจรสลัดยุคใหม่อย่างข้าจึงเห็นความสำคัญแล้วนำมาเผื่อแผ่เจ้าด้วย”
“อย่างคุณเนี่ยนะโจรสลัดยุคใหม่”
“แน่นอนแม่หญิงอลิซ กัปตันเบนจามิน ฟีลด์และลูกเรือของข้าทันสมัยที่สุดแล้ว พวกเราไม่เชื่อเรื่องงมงายอย่างการพาหญิงขึ้นเรือ”
“แต่คุณเชื่อว่าฉันคือแม่มด”
“ข้าเลิกเชื่อก็ได้” กล่าวอย่างไม่ใส่พลางสูดดมกลิ่นหอมจากผ้าขนหนูสีขาว กลิ่นกายเจ้าของผ้ายังคงตราตรึงไม่จางหาย
“เหอะ ดูก็รู้ว่าคุณพูดไปงั้นๆ แต่งตัวแล้วดับเทียนให้ฉันด้วยนะคะ ไม่อยากเป็นตากุ้งยิง” ขนาดเบือนหน้าไม่มองแล้วยังลบภาพออกจากสมองไม่ได้ ผู้ชายอะไรมั่นใจในตัวเองเสียจริง
“เจ้าไม่กลัวข้าหรือแม่หญิง”
“ฉันกลัวจนอยากว่ายน้ำหนีไปไกลๆ เชียวค่ะ”
“ฮ่าๆๆ งั้นเจ้าอย่าลืมเอาเสื้ออัดลมสีส้มของเจ้าไปด้วยล่ะ” ไม่วายล้อเลียนเรื่องเสื้อชูชีพ เขาคงดูออกว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็น
“แล้วคุณล่ะคะ ไม่กลัวแม่มดจับหักคอตอนนอนเหรอ”
“หืม ข้าเผชิญความเป็นความตายมาตั้งแต่เด็ก ประสบการณ์กับสัญชาตญาณของข้าดีเยี่ยม แม่มดสาวไร้ฝีมืออย่างเจ้าข้าจับยัดช่องหน้าต่างนั่นให้ตกลงไปทะเลง่ายนิดเดียว” กล่าวจบก็เผยยิ้มเย็นยะเยือก ดวงตาอลิสาสั่นระริกด้วยความกลัว หยุดต่อปากต่อคำแล้วมุดตัวใต้ผ้าห่ม
เบนจามินหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่จากหีบมาสวม เขาเช็ดผมลวกๆ จนน้ำหายหยดแล้วย่างก้าวเข้าไปใกล้อลิสา เสียงเหยียบแผ่นไม้ดังเอี๊ยดอ๊าดชวนให้คนตัวเล็กตื่นตระหนกเป็นเท่าตัว
…ก่อนจะย่อตัวนั่งมองก้อนผ้าห่มก้อนใหญ่
“แม่หญิงอลิซ เตียงข้ากว้างขวางพอจะให้เจ้าขึ้นไปนอนด้วย”
“ไม่เอาค่ะ!”
“ดื้อด้านนัก”
“นอนร่วมเตียงกับคุณไม่ปลอดภัย”
“แต่ดูท่าเจ้าจะเมาเรือ ยิ่งนอนแนบพื้นยิ่งเมาหนัก” เบนจามินเห็นตั้งแต่ตอนเข้ามาในห้องพัก อลิสาเดินเซเล็กน้อยและสีหน้าซีดกว่าปกติแม้จะไม่มาก ขืนฝืนนอนพื้นไป พรุ่งนี้ตื่นมาก็คงไม่หายเมาอยู่ดี
“งั้นคุณนอนพื้น ฉันขอนอนเตียง”
“เตียงข้า ข้าจะนอนบนเตียง…กับเจ้า” ไม่ว่าเปล่าทว่ากระชากผ้าห่มออกแล้วช้อนตัวอุ้มอลิสาขึ้นแนบอก ท่ามกลางเสียงหวีดร้องตกใจกอปรกับแรงดีดดิ้นไปมา แต่มีหรือกัปตันหนุ่มจะระคายผิว “ข้าสาบานว่าแค่นอน”
“นี่ขนาดแค่นอนคุณยังฉวยโอกาสรังแกฉันมากขนาดนี้!” ทั้งเหนื่อย ทั้งกลัว ทั้งระแวง ไม่มีใครอดทนได้ตลอดไปหรอก เธอก็เช่นกัน…ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ยกมือขึ้นปิดหน้าพร้อมสะอื้นเสียงเบา ในจังหวะที่เบนจามินวางร่างบอบบางไว้บนเตียงพอดี
ไหล่สั่นสะท้าน ดวงตาแดงก่ำและแก้มนุ่มขึ้นสีอมชมพู กว่าจะรู้ตัวว่าหยอกคนตรงหน้าแรงเกินไปก็ทำเธอร้องไห้ไปซะแล้ว
“ข้า…”
“ไม่ต้อง ฮึก ไม่ต้องมายุ่ง” แค่นเสียงอย่างยากลำบากพลางกอดเข่าแนบแน่น อลิสาอยากกลับบ้าน อยากกลับไปใช้ชีวิตธรรมดาแบบเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา ไม่ต้องมีอะไรน่ากลัว ไม่ต้องเจอเรื่องเลวร้าย ไปต้องมาอาศัยร่วมชายคาเดียวกับโจร
ใช่แล้ว โจรคือโจรอยู่วันยังค่ำ แค่เปลี่ยนจากบนบกมาเป็นบนเรือแต่มันไม่ต่างกันเลย
“ย่อมได้ คืนนี้เจ้านอนบนเตียงแม่หญิงอลิซ ข้าเสียสละให้”
“ฮึก…”
“หยุดร้องไห้สักที เจ้าไม่กลัวตาบวมหรือไง ข้าจะดับไฟแล้ว” เพราะปลอบโยนผู้หญิงไม่เป็นจึงเฉไฉหาคำพูดอื่นบ่ายเบี่ยงสถานการณ์ แสงสีเหลืองนวลในห้องมืดมิดเพียงพริบตา เหลือไว้แค่แสงจันทร์สีขาวจากท้องฟ้าสาดกระทบผ่านช่องหน้าต่าง
คืนนี้อลิสาเพลียจนเผลอหลับสนิท ทว่าเจ้าของห้องกลับข่มตานอนไม่หลับจนเวลาล่วงเลยไปถึงตีสามเขาถึงได้เข้าสู่ห้วงนิทรา
ไม่รู้ว่าฝนตกนานเท่าไหร่แล้ว ทว่าเสียงหยดน้ำหลายเม็ดตกกระทบพื้นเรือเริ่มทำให้หญิงสาวที่หลับใหลอยู่รู้สึกตัว อลิสางัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมอาการมึนหัวจากการนอนมากเกินไป อย่างแรกที่เธอทำคือเปิดม่านฟองสบู่นำแมวออกมาทานอาหารเม็ดแล้วกวาดสายตามองชายหนุ่มร่วมห้อง
“ไม่อยู่” ไปไหนของเขา
จะว่าไปพูดถึงฝนตกเมื่อวาน วันนี้ก็ตกเลย
“หรือว่า…” ตวงน้ำจืดใส่ถังและเปลือยกายอาบน้ำฝนกับลูกเรือของเขา!
แน่นอนว่าความคิดนี้ไม่ผิดเลยสักนิดเพราะเบนจามินกำลังขัดถูตัวท่ามกลางสายน้ำเย็นฉ่ำอยู่บนดาดฟ้าเรือเหนือห้องนอนของตนกับอลิสา เสียงผิวปากเป็นเสียงเพลงของอีธานดังแว่วอย่างอารมณ์ดี
“เจ้ามีความสุขเรื่องอะไร” จนกัปตันอดเอ่ยปากถามกะลาสีคู่หูไม่ได้
“มีความสุขเพราะวันนี้ฝนตกอย่างไรล่ะ และข้าโล่งอกด้วยที่ท่านปลอดภัยจากแม่มดสาวไปอีกวัน”
“นางไม่ชอบให้เรียกว่าแม่มด”
“หืม ทำไมท่านถึงได้แก้ต่างแทนนางอีกทั้งยังปกป้องตั้งหลายครั้งหลายหน” อีธานแซวเสียงเบาเพื่อหลบเลี่ยงลูกเรือหูดีบางคนซึ่งกำลังช่วยกันขัดเรืออยู่ด้านล่าง เบนจามินเป็นคนเคยมีความรักมาแล้วสองครั้งและอกหักอย่างเจ็บปวด กะลาสีหนุ่มจึงไม่กล้าด่วนตัดสินใจความรู้สึกของกัปตันในครานี้
“นางปฏิบัติตัวต่อข้าดี ข้าก็ดีกลับ”
นั่นเรียกดีแล้วหรือ
“เมื่อคืนข้าทำนางร้องไห้”
“โอ้ว กัปตัน…ทำทำสตรีร้องไห้มาหลายคน ข้าไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน” พลันนึกถึงสาวงามมากมายในร้านเหล้า ทุกครั้งที่พวกเขาต้องออกทะเลพวกนางมักจะร้องไห้ฟูมฟายจนชินตา
“เจ้าเอาน้ำตาเสแสร้งของโสเภณีมาเทียบได้ยังไงกัน พวกนางร้องเพราะอยากได้เงินทองไปเช็ดน้ำตา แต่แม่หญิงอลิซเป็นเพียงเลดี้ธรรมดาคนหนึ่ง ข้าข่มเหงนางจนกลัวตัวสั่นไม่ต่างจากลูกนก”
ข่มเหงเชียวหรือนี่ ไม่นึกว่ากัปตันหน้าต่อหล่อเหลาและร่างกายกำยำสมบูรณ์แบบจะถูกสาวสวยปฏิเสธจนต้องขืนใจ ป่านนี้แม่หญิงคงนอนหมดแรงอยู่
เบนจามินเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มเคลื่อนตัวออกจากเมฆฝน แสงสว่างรำไรเริ่มปรากฏให้เห็น เขาเดินเปลือยกายไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวแล้วนำชุดเมื่อคืนมาสวมซ้ำอีกครั้ง
ก้าวขาเดินลงบันไดไม้เพื่อดูความเรียบร้อยกอปรกับเหลือบตามองประตูห้อง เขาขัดดาลจากด้านนอกเพื่อป้องกันอลิสาออกมาพบปะบุรุษในยามล่อนจ้อนไร้อาภรณ์ ก่อนจะพบกับพ่อครัวประจำเรือนำอาหารมาให้พอดี
“กัปตัน วันนี้เรามีซุปกระดูกไก่และขนมปัง”
“ถือไว้ก่อน” กล่าวบอกและตะโกนเสียงดังแจ้งลูกเรือทั้งหลาย “พอได้แล้ว ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยและพักผ่อนได้”
“ครับกัปตัน!”
“ขอบคุณกัปตัน!”
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยจึงยิ้มระรื่นเข้าไปหาสตรีเพียงคนเดียวในห้อง อลิสากำลังนั่งนวดแก้มแมวอยู่ เธอหันมามองเล็กน้อยและไม่ได้ใส่ใจอีก ไม่รู้ว่ายังโมโหเรื่องเมื่อคืนอยู่หรือเปล่าแต่เบนจามินทำเป็นเมินการตอบสนองของเธอไป
“มาทานอาหารเสียสิแม่หญิง”
ไม่เพียงไม่หันมอง ทว่าเงียบนิ่งจนบรรยากาศน่าอึดอัดคืบคลานเข้าหา
“แม่หญิงอลิซ มานั่งทานบนโต๊ะนี่ดีๆ ไม่งั้นข้าคงต้องป้อนเจ้า”
“เผด็จการ!”
“หึ ในที่สุดเจ้าก็สนใจข้าเสียที จะว่าไปข้าลืมส่วนของสัตว์เลี้ยงเจ้าด้วย” พอเห็นถึงได้นึกออก เตรียมตัวหมุนตัวออกไปอีกครั้งแต่ถูกเสียงหวานรั้งเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องค่ะ แมวฉันทานอาหารเม็ด” อลิสาตอบกลับพลางเดินด้วยท่าทางเกร็งมานั่งเก้าอี้ไม้ เพราะครานั้นกลัวการใช้เวทมนตร์จึงไม่กล้าใช้มั่วซั่วและเอ่ยปากขออาหารสำหรับแมว ส่วนตอนนี้ไม่ต้องการอีกแล้ว
“ข้าล่ะปวดหัวกับเสื้อผ้านี่เสียจริง เห็นทีเจ้าคงเหมาะกับการถูกขังอยู่ในห้องนอนมากกว่าออกไปสูดอากาศด้านนอก” ชุดสตรีในศตวรรษที่ 21 แม้ของวันนี้จะไม่รัดรูปแต่เสื้อตัวโคร่งกับกางเกงรุ่งริ่งนี่มันอะไรกัน ลูกเรือของเขาคงได้เอาไปนินทาอีกตามเคย
“ฉันเซฟตัวเอง หวังว่าคุณจะไม่หื่นกามเพราะการแต่งตัวของฉันอีก” เพียงข้ามคืนไม่นึกว่านางจะมีน้ำเสียงหยาบกระด้างมากขึ้นขนาดนี้
“แม่หญิงอลิซ เมื่อคืนข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำเจ้าร้องไห้”
“ฉันร้องไปแล้ว”
“ให้ข้าแก้ตัว ข้าจะเข้าหาเจ้าด้วยวิธีนุ่มนวลกว่านี้” อลิสาเบิกตากว้างไม่ต่างจากเห็นผี แต่ละประโยคที่กัปตันเรือบลูทัลชาร์คกล่าวออกมาพาให้ขนลุก แค่จินตนาการว่าจะมีครั้งที่สองสามสี่ห้าตามมาราวกับกำลังคุยกับคนที่ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาก็อยากกัดลิ้นตาย
เธอไม่ชอบ เธอกลัว เธอระแวง แล้วทำไมถึงไม่เข้าใจ ช่างเป็นกัปตันโจรสลัดที่โง่เขลา!
TALK : เบนจามินคือที่หนึ่งเรื่องคิดเองเออเอง อลิสาก็ที่หนึ่งเรื่องตื่นตูมแล้วเผลอทำอะไรลงไปก่อนคิด 555 ช่วงนี้เกลมีการบ้านกับงานกลุ่มเยอะนะคะ อาจจะมาช้าหน่อยค่ะ
TALK 2: แง้ว ไม่รู้อลิซจะรอดไปได้สักกี่วัน กัปตันรุกเอารุกเอา
TALK 3: มีกะลาสีเข้าใจผิดแล้วหนึ่ง ข่าวกัปตันกับน้องหนูอลิซเตรียมโด่งดังบนเรือได้เลย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น