คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2: จนตรอก [130%] -Complete-
เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ไม่เกินสิบนาทีเบนจามินก็กลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองอีกครั้งและพบว่าอลิสาใส่ชุดตัวเก่าที่ติดตัวนางมาด้วยอยู่ กลิ่นของเสื้อผ้ายังไม่ส่งกลิ่นเหม็นเหงื่อเขาจึงไม่ได้ตำหนิ
วางหีบเสื้อผ้าลงกับพื้นและย่างเท้าเข้าใกล้หญิงสาวด้วยท่าทีคุกคามไม่น่าไว้วางใจ อลิสาถอยหลังกรูดไปชิดผนังแล้วมองชุดในมือเบนจามินก่อนจะคว้ามาสำรวจ
“คุณออกไปจากห้องสิคะ ฉันจะได้ใส่”
“รอบนี้ข้าจะไม่ออกไปไหน”
“ไม่ได้”
“หากเจ้าไม่รีบสวมข้าจะสวมให้เอง” สิ้นประโยคดวงตาของหญิงสาวก็หรี่ลงอย่างหมดหวังปนอับอาย
“งั้นคุณหันหลังแล้วห้ามแอบมองฉันเด็ดขาด”
กัปตันโจรสลัดกระตุกยิ้มและหันหลังให้แต่โดยดี ตรงริมประตูมีเครื่องประดับสีทองชิ้นเล็กแขวนอยู่ เขาไหวตัวทันอยู่แล้วหากคนด้านหลังคิดจะลอบโจมตีเพราะเครื่องประดับนี้สะท้อนรูปสิ่งของรอบห้องแม้จะไม่ชัดนัก
“ชุดแบบนี้ขืนใส่คงเป็นลมตาย”
“เจ้าจะไม่ใส่อะไรเลยก็ได้แต่ต้องอยู่บนเตียงในห้องนี้เท่านั้น” คำพูดส่อแววลามกชวนให้ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงแจ๋ อลิสาใช้มือกระชับชุดเดรสสีขาวแล้วก้มมองชุดที่ไม่ต่างจากชุดงานเลี้ยงในมือด้วยสีหน้าลำบากใจ
หนาหลายชั้น สวมใส่ยาก ตกน้ำทีคงจมสนิท
ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นจึงจำใจสวมทับชุดเดิมของตัวเองเพราะไม่อยากแก้ผ้าเปลี่ยนแม้เบนจามินจะทำตามคำพูดคือการไม่หันมามองก็ตาม จัดการมัดเชือกด้านหลังให้แน่นเป็นอันเสร็จสิ้น
“ชักช้านัก วางแผนร้ายอยู่หรือ”
“เสร็จแล้วค่ะ”
เบนจามินหันกลับมามองสตรีงามในชุดกระโปรงยาวถึงตาตุ่มสีเหลืองและมีกระโปรงชั้นในสีขาวหลายชั้นทำหน้าที่ช่วยให้ชั้นนอกดูพอง โชคดีมากที่เรือสินค้าที่เขาโจมตีไปเมื่อครู่มีผ้าราคาแพงเนื้อดีหลายหีบ
เมื่อก่อนบลูทัลชาร์คไม่มีผู้หญิง หีบเสื้อผ้าจะถูกคัดแยกเพศ หากเป็นของผู้ชายจะเก็บไว้และแบ่งปันบางส่วนให้ลูกเรือ ส่วนของผู้หญิงจะนำไปขายบนฝั่งหากมันเป็นชุดราคาแพงและชุดทั่วไปจะโยนทิ้งลงทะเลเพื่อลดน้ำหนักเรือ
“ดูดีกว่าก่อนหน้านี้”
“คนที่นี่ไม่ร้อนแย่เหรอคะ ชุดอะไรไม่รู้ทั้งหนาทั้งหนัก”
“มันคือชุดปกติ”
“แบบนี้จะทำงานสะดวกได้ยังไงคะ แค่เดินยังลำบากแล้วถ้าเกิดอันตรายขึ้นคงวิ่งหนีไม่ทัน”
โจรสลัดหนุ่มไม่ตอบคำถามของอลิสาแต่นั่งลงบนเตียงแทน เขามองหญิงสาวที่กำมือไว้ข้างกาย ปรายตามองโซ่บนข้อเท้าตัวเองประกอบกับมองหน้าเขาหลายครั้ง
คิดจะยั่วยุให้ปลดโซ่ออกงั้นเหรอ มารยาหญิง
“ในนี้อึดอัดไม่ไหวแล้วค่ะ ชุดนี้ไม่ระบายอากาศเลย ขอฉันออกไปสูดอากาศข้างนอกได้ไหมคะ” อลิสาอ้อนวอนเพราะเริ่มร้อนขึ้นมาแล้วจริงๆ รู้สึกได้ว่าผิวหน้าของเธอมีผุดเหงื่อซึมและมันไม่พ้นสายตาเบนจามินเนื่องจากอยู่ไม่ไกลกัน
“ขอข้าคิดดูก่อน”
“มีกระจกไหมคะ” งั้นขอจัดแต่งผมให้เรียบร้อยในระหว่างรอโจรสลัดตัดสินใจ
“บนเรือลำนี้ไม่มีของเช่นนั้นหรอกโดยเฉพาะในห้องของข้า”
เธอคิดไว้แล้วว่าไม่มีจึงถอนหายใจหนึ่งครั้งและใช้สายตาน่าเอ็นดูมองเบนจามิน แม้มันจะเสี่ยงถูกเข้าใจผิดแต่ถ้าได้ออกไปตากลมคงดีกว่าอุดอู้อยู่ในห้อง
กัปตันโจรสลัดมองตอบพลางคิดพิจารณาในหัวจนในที่สุดก็ตัดสินได้
“เจ้าออกไปเดินเล่นได้ แต่เจ้าต้องอยู่ในสายตาของข้าและลูกเรือเท่านั้นเข้าใจไหมแม่หญิง”
“เข้าใจค่ะ” อลิสายิ้มพร้อมรับปากเสียงแข็ง ทว่าประโยคต่อมาที่ได้ยินก็ทำเอาผงะกอปรกับสายตาข่มขู่ชวนขนลุก
“หากเจ้าหายไปในที่ลับตาคน คงช่วยไม่ได้หากข้าจะยิงเจ้าทิ้ง” ว่าจบเขาเดินไปเปิดประตูด้วยตัวเอง อลิสาย่างเท้าออกจากห้องแคบมามองท้องฟ้าที่บัดนี้มีเมฆสีขาวปกคลุมบดบังแสงแดดบางจุด
มีนกสีขาวหลายตัวที่นางไม่รู้จักบินเกาะกลุ่มกันเป็นฝูง ในกลางทะเลแบบนี้อลิสาคาดเดาว่ามันคงบินมาจากแดนไกล
ลมเย็นพัดผ่านช่วยให้ความร้อนภายในร่มผ้าเย็นขึ้นมาก เธอยืนยันว่าชุดกระโปรงยาวนี่ไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตบนเรือโจรสลัดบลูทัลชาร์ค รวมถึงไม่เหมาะกับร่างกายของเธอด้วยเช่นกัน
“ม้าววว” จูดี้กับแครอทวิ่งพรวดออกจากห้องมาคลอเคลียขา พลันอลิสานึกขึ้นได้ว่าไม่มีกระบะทรายแมวและไม่ทราบว่าพวกมันสองตัวแอบไปอึตรงไหนแล้วหรือยัง หากกลับเข้าห้องอีกครั้งค่อยล้วงเอาของใช้จากศตวรรษที่ 21 ออกมาเพิ่ม
“ไปวิ่งเล่นกันนู่นไป”
“เมี้ยว”
แม้สัมผัสทั้งห้าจะบอกว่านี่คือความจริง แต่อลิสาภาวนาให้มันเป็นความฝันอยู่ร่ำไป ระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงดึงดูดเธอให้ย้อนเวลามาไกลขนาดนี้ด้วยเหตุผลอะไร มีเพียงเธอคนเดียวในโลกหรือไม่ที่ได้เจอเรื่องพวกนี้
ลองเงื้อมือหยิกแขนตัวเองก็พบว่าเกิดรอยแดงและรู้สึกเจ็บ หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งของวันเมื่อต้องพบว่าไม่อาจหลีกหนีความจริงพ้น
ก้าวเดินสำรวจรอบเรือโดยปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสายตาของลูกเรือตามคำสั่งคนเป็นหัวหน้า เรือลำนี้ไม่ได้ดูใหม่เอี่ยมเพราะผ่านการใช้งานจนสีของไม้ซีดบางจุด ผ้าใบมีรอยขาดและรอยเย็บแต่ไม่มากดูคล้ายกับว่ามันพึ่งผ่านการซ่อมบำรุงมาไม่นาน
“ดูนางสิ”
“นางหาทางหนีหรือเล่นตลกอะไรอยู่หรือเปล่า”
“หากว่านางไม่ใช่แม่มดข้าคงชอบนางไปแล้ว”
“แม่มดมักจะสวย”
เสียงนินทาดังมาจากทั่วทุกสารทิศ อลิสาฟังออกทุกคำเพราะพวกเขาพูดภาษาอังกฤษ แม้จะมีบางคำศัพท์ที่เก่าเกินกว่าจะเข้าใจแต่ก็ไม่ยากต่อการคาดเดาประโยคสนทนา
เหล่าลูกเรือไหวตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะกังวลว่านางจะใช้เวทมนตร์ยึดเรือและทำร้ายทุกคน เธอแทบไม่ต้องกลัวเลยว่าจะโดนเบนจามินยิงทิ้งเพราะเดินหายลับสายตา จ้องกันขนาดนี้ไปไหนไม่รอดหรอก
โดยเฉพาะคนตัวสูงด้านหลังที่เดินตามทุกฝีก้าว
“เรือลำนี้ออกจากฝั่งมานานเท่าไหร่แล้วคะ”
“ทำไม เจ้าจะรู้ไปเพื่ออะไร”
“ฉันแค่สงสัยเพราะเรือเหมือนพึ่งซ่อมค่ะ”
“ใช่ ข้าและลูกเรือพึ่งออกจากเกาะอัปแซ็งต์ใกล้มหาสมุทรแอตแลนติกได้สามวัน” เบนจามินตอบกลับ เขาพักอยู่ที่นั่นเกือบเดือนเพื่อซ่อมบำรุงบลูทัลชาร์คและใช้เงินที่มีไปกับโรงเหล้าพ่วงด้วยโสเภณี
ในฐานะกัปตันนอกจากตรวจเช็คความเรียบร้อยและออกคำสั่งเขาแทบไม่ได้ทำอะไรเลย รวมถึงอีธานก็คอยติดตามเขามาเสพสมความสุขบนดินด้วยกันแล้วปล่อยให้คนอื่นๆ ในระดับต่ำกว่าทำความสะอาด พอใกล้ถึงวันออกจากฝั่งเขาถึงพาพ่อครัวไปซื้อเสบียงแล้วออกเรือ
ลมโชยหอบเอากลิ่นหอมมาปะทะจมูก เบนจามินเข้าใกล้อลิสามากขึ้นจนในที่สุดปลายจมูกก็สัมผัสเส้นผมคนตัวเล็กกว่า ทำเอาอลิสาตกใจแทบหงายหลังทว่ามีแขนแกร่งโอบเอวช่วยไว้
“อะ…อะไรคะ”
“เส้นผมเจ้าหอมมากแม่หญิง ข้าไม่ยักรู้ว่าฉีดน้ำหอมบนเส้นผมได้ด้วย” หรือไม่ก็ใช้วิธีอบควัน เขาเคยเห็นสาวงามชั้นสูงซึ่งเป็นคนชนชาติตะวันออกทำครั้งหนึ่งตอนแอบไปขโมยของในบ้านลอร์ดจอร์นสัน
“มันคือกลิ่นแชมพูค่ะ”
“หืม” เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้
“เป็นของเหลวที่เอาไว้สระผมค่ะ ชโลมลงบนผมเปียก นวดและขยี้จนเกิดฟองให้ทั่วศีรษะจากนั้นก็เอาน้ำล้างออก”
“ผมเจ้านุ่มลื่นสะอาดมาก”
“ตอนอาบน้ำฉันลองหยิบสิ่งของออกมาจากห้องของตัวเองบนเรือสำราญแฮปปี้ซิตี้ แค่คิดว่าต้องการอะไรสักอย่างแล้วทำท่าล้วงมือจะเกิดม่านฟองสบู่สองมิติ” อลิสาอธิบายในสิ่งที่เคยลองพิสูจน์ เธอทำอยู่หลายครั้งเชียวจนในห้องน้ำในห้องนอนเบนจามินมีแต่ขวดบำรุงผิวมากมาย
“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าทำแบบนั้นได้ พวกเราถึงคอยจับตาดูอยู่ยังไงล่ะว่าคำพูดของเจ้าเป็นคำพูดของคนที่ไม่รู้เรื่องเวทมนตร์มาก่อนจริงๆ อย่างที่เจ้าเคยบอกหรือเป็นคำพูดโป้ปดของแม่มดร้าย”
“คุณก็เอาแต่กล่าวหาฉันตลอดเวลานั่นแหละ ฉันอยากกลับไปที่ของฉันเลยลองเอาหัวมุดดูแต่ม่านนั่นก็หายไปทันที มันคงไม่ยอมให้กลับค่ะ”
เบนจามินหรี่ตาลงพลางใช้ความคิดวิเคราะห์สิ่งต่างๆ มันคงจะดีหากนำหญิงผู้นี้มาใช้ประโยชน์ เวทมนตร์ของนางอาจทำอะไรได้มากกว่านี้ก็เป็นได้
“งั้นก็อยู่ที่นี่เสียสิแม่หญิงอลิซ”
“คะ…”
“เจ้ากลับไม่ได้ก็อยู่กับข้าต่อไป”
“คะ…”
“เจ้ากลับไม่ได้ก็อยู่กับข้าต่อไป”
อลิสาไม่แปลกใจในคำเชิญชวนเพราะใบหน้าของเบนจามินฉายชัดอยู่แล้วว่าต้องการตัวเธอเก็บไว้ใช้งาน ไม่คิดปิดบังสีหน้าเลยเนื่องจากทราบว่ายังไงซะเธอก็ไม่สามารถขัดขืน
“ในฐานะทาสน่ะเหรอคะ คุณจะเก็บฉันไว้ใช้งานน่ะสิ”
“ข้าให้เกียรติเจ้าในฐานะแขกต่างหาก แต่เจ้าต้องใช้เวทมนตร์ทำตามที่ข้าสั่ง”
“ทาสในคราบแขก”
“มันต่างกันมากแม่หญิงอลิซ เจ้าไม่ต้องขัดพื้นเรือ ไม่ต้องทำอาหาร ไม่ต้องขนของหรือไปสละชีวิตสู้รบกับใครเยี่ยงทาส แค่ทำตามที่ข้าสั่งทุกอย่างก็พอ” กล่าวพร้อมจับเส้นผมยาวสลวยหนึ่งช่อขึ้นมาจูบ อลิสาเบ้หน้ากับท่าทีคุกคามแล้วถอยหลังหนีหยิบไม้พายขนาดใหญ่และหนักขึ้นมาชี้ไปยังกัปตันโจรสลัด
ทำตามที่สั่งงั้นเหรอ หากวันดีคืนดีเขาอยากเสพสมร่างกายเธอขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่า
“ฉันไม่ยอม คุณหลอกใช้งานฉัน” หากเธอหมดประโยชน์ขึ้นมาคงโดนจับโยนลงทะเลพร้อมแมวสุดที่รักสองตัวแน่
“ไม้พายนั่นท่าจะหนักเกินไปสำหรับสตรีตัวเล็กๆ อย่างเจ้านะอลิซ” ว่าจบเสียงหัวเราะของลูกเรือก็ดังลั่นทำให้อลิสาเกิดความอับอาย หญิงสาวจับสิ่งของในมือแน่นขึ้นแล้วพยายามเกร็งแขนให้มั่นคง
บุรุษหนุ่มตัวสูงก้าวเท้าเขาไปใกล้หมายจะแตะตัว ทว่าคนตัวเล็กกว่าก็รีบถอยหลังกรูด
“อย่าเข้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันฟาดคุณจริงๆ ด้วย” แทนที่จะขอคุยกับเธอดันมาทำหน้าตานึกสนุก ใครบ้างจะไม่กลัวเบนจามิน
“อ้อ งั้นเหรอ”
ตุบ!
สัญชาตญาณส่งผลให้เงื้อไม้ฟาดเมื่อกัปตันโจรสลัดพุ่งเข้ามาเร็วขึ้นกว่าเดิม เขาหลบได้ทันควันไม้พายขนาดใหญ่เลยโดนพื้นแทนที่จะเป็นไหล่หรือหัว
อลิสาตกใจกลัวส่งเสียงร้องแล้วรีบวิ่งหนีโดยปล่อยเจ้าไม้ภาระทิ้งไว้ตรงนั้น เธอวิ่งหมายจะกลับเข้าไปในห้องนอนแต่เจอลูกเรือสามคนขวางทางไว้เลยเปลี่ยนทิศทางวิ่งขึ้นบันไดไปตรงส่วนพังงา
แต่แล้วต้องสะดุ้งตกใจเมื่อไม่นึกว่าจะมีคนคุมเรืออยู่ในสภาวะลมฟ้าอากาศเป็นใจ อีธานซึ่งอยู่ด้านบนมานานเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดชักดาบออกมาขู่
“จะหนีไปไหนแม่หญิง”
“อย่าเข้ามานะ” ตะโกนบอกอีธานคนสนิทของเบนจามินพลางหาทางหนีไปอยู่แถวขอบระเบียง บันไดมีกัปตันตัวดีเดินขึ้นมาด้วยท่าทีสบายอารมณ์และขวางทางอยู่ทำให้เธอลงไปไม่ได้
ชะโงกหน้ามองลงไปด้านล่าง มันมีความสูงประมาณหนึ่งแต่ก็อาจจะมากพอทำเธอขาเคล็ดขาหักหากกระโดด อลิสามองเบนจามินที่ขึ้นมาอยู่บนนี้แล้วตัดสินใจใช้เวทมนตร์หยิบเอาร่มคันยาวสีดำประจำแต่ละห้องในเรือสำราญแฮปปี้ซิตี้ออกมา
“นั่นคืออาวุธจากศตวรรษที่ 21 หรือ เหมือนมันจะสู้ดาบของข้าไม่ได้สักนิด” เสียงประสานหัวเราะของเหล่าลูกเรือเยาะเย้ยเธออีกครั้งหลังจากผู้เป็นเจ้าของเรือบลูทัลชาร์คพูดยั่วยุ
แต่ใช่ ร่มไม่มีทางสู้ดาบคมกริบได้
คิดถึงตุ๊กตาเพนกวินตัวใหญ่ที่บ้าน พ่อเธอเคยซื้อมันเป็นของขวัญเรียนจบมัธยมของเธอ ล้วงมือเข้าไปในม่านฟองอากาศ ดึงตุ๊กตาขนาดความกว้างและสูงมากกว่าตัวเองโยนลงไปด้านล่างแล้วรีบกระโดดตามลงไป
ผลการทดลองครั้งนี้ทำให้รู้ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของบนเรือสำราญเท่านั้น อะไรก็ตามซึ่งเป็นของเธอไม่ว่ามันจะอยู่ไหนก็หยิบมาได้หมด
อลิสากระแทกลงบนก้อนนิ่มขนาดใหญ่และเด้งตัวขึ้นด้วยความสูงระดับหนึ่ง หญิงสาวส่งเสียงกรี๊ดเมื่อไม่สามารถควบคุมท่าทางการลงได้จนท้ายที่สุดก็ตกกระแทกพื้นไม้และแน่นิ่งไปเพราะจุก
เธอได้แต่นอนแผ่มองเบนจามินโหนตัวลงมากับเชือกอย่างคล่องแคล่ว ในตอนแรกกะว่าจะหนีเข้าห้องแล้วขัดดาลซะ ทว่านอกจากความกลัวและคับแค้นจับใจ ผิวกายร้อนระอุเพราะชุดยังทำให้เธอเหงื่อออกจำนวนมาก เสื้อผ้าไม่ระบายอากาศทวีคูณปัญหาถาโถมจนอลิสาเป็นลมไป
“แม่หญิง!” เบนจามินเรียกหญิงสาวพร้อมกับอีธานและลูกเรือเดินมามุงดู ดวงหน้าหวานหลับตาพริ้มมีเหงื่อผุดตามกรอบหน้าและแก้มแดงเนื่องจากอากาศร้อน
“กัปตันได้ให้เธอทานอาหารหรือยัง” ดุ๊กซึ่งเป็นพ่อครัวประจำเรือบลูทัลชาร์คเอ่ยถาม ก่อนหน้านี้เขาได้รับคำสั่งให้ช่วยจัดอาหารสำหรับแมวสองตัวแต่ไม่ทราบว่าอาหารของหญิงสาวผู้นี้ใครเป็นคนให้
“นางทานแล้ว ข้าว่านางเป็นลมเพราะอ่อนแอมากกว่า พวกเจ้าดูผิวขาวๆ นี่สิ แค่นี้ข้าก็รู้แล้วว่านางแทบไม่ออกแดดเลย”
“ท่านจะทำอย่างไรกับนางต่อไปกัปตัน”
“ข้าจะให้นางพักผ่อน ข้าจะใช้ประโยชน์จากพลังของนางเพื่อเรือของข้า เจ้าคิดดูสิว่าเราจะได้เปรียบพวกโจรสลัดลำอื่นมากแค่ไหน”
“แต่กัปตัน เมื่อครู่นางแสดงให้เห็นว่านางไร้ประโยชน์ เราจับโยนลงทะเลไม่ดีกว่าหรือ”
“ข้าไม่ได้จะให้นางสู้ ข้าจะเก็บไว้เผื่อนางใช้เวทมนตร์แบบอื่นได้” พูดจบเบนจามินอุ้มอลิสาขึ้นพาดบ่า พาเดินแหวกฝูงลูกเรือตรงไปยังห้องพัก สภาพหญิงสาวดูไม่ดีนักรวมถึงมีลมหายใจร้อนกรุ่นจึงตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกให้
เขาหาเสื้อสะอาดตัวนึงเข้าห้องน้ำหมายจะชุบน้ำทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้กัปตันหนุ่มตะลึง มันเปลี่ยนไป…ขวดมากมายหลายสีสันตั้งอยู่บนชั้นวางไม้และมีบางส่วนตั้งอยู่บนพื้น มีถังน้ำและน้ำจืดเพิ่มขึ้นมาอีกสองถัง อีกทั้งมันไม่ใช่ถังไม้อย่างที่ควรจะเป็น นี่นางใช้เวทมนตร์เสกอะไรมาเพิ่มน้ำหนักเรือของเขาบ้าง
เบนจามินนำผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ดบริเวณลำคอและแขนให้แม่หญิงที่ยังนอนไม่ได้สติ เจ้าตัวถือวิสาสะถอดเสื้อผ้าหลายชั้นนี่ออกให้เพราะบัดนี้มันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ถือคติไม่ใช่สุภาพบุรุษ กัปตันหนุ่มไม่จำเป็นต้องสนใจว่าการกระทำตัวเองจะเป็นการล่วงเกินหญิงสาวหรือไม่ ทว่าไม่นานนักความงงงวยก็ฉายผ่านสีหน้าอย่างปิดไม่ปิด เบนจามินจ้องมองดูผืนผ้าสองชิ้นที่ห่อหุ้มอกงามและปกปิดกลางกายสาว
นี่คืออะไร ใช่ชั้นในสตรีจากทศวรรษที่ 21 หรือไม่
มันดูประหลาดแต่ไม่ได้ดูอึดอัด อีกทั้งยังไม่ได้บางทะลุปรุโปร่งเหมือนชั้นในสตรียุคนี้
“หลับอยู่ยังร่ายมนตร์ให้ข้าหลงใหลได้” พึมพำเสียงเบาขณะยั้งมือไม่ให้เผลอลูบไล้กายงดงามของคนตรงหน้า ทรวงอกที่ขยับไหวตามจังหวะหายใจนั่น…
บ้าจริง!
“เจ้าช่างงามนักแม่หญิงอลิซ”
ลมพัดผ่านช่องหน้าต่างวงกลมชวนให้คนบนเตียงรู้สึกหนาวเย็นจนต้องควานหาผ้าห่ม แต่พยายามอยู่หลายนาทีอลิสาก็ลืมตาตื่นเนื่องจากไม่สามารถหาสิ่งที่ต้องการได้ สิ่งแรกที่พบบนร่างกายตัวเองมีเพียงบราและกางเกงใน ส่วนเดรสของเธอกองอยู่บนพื้น
ระหว่างที่หลับไปโจรสลัดคนนั้นทำมิดีมิร้ายอะไรเธอบ้าง
ทว่านี่ไม่ใช่เวลามาคิดย้อนความ ปล่อยตัวเองโชว์ผิวกายแบบนี้ต่อไปไม่ใช่เรื่องดี ครั้นจะเก็บเสื้อผ้าเหม็นเหงื่อบนพื้นมาสวมดังเดิมก็ไม่ใช่เรื่อง อลิสาล้วงมือเข้าไปในม่านฟองสบู่ หยิบเอาเสื้อยืดตัวโปรดและกางเกงยีนส์สีฟ้าอ่อนมาสวมแก้ขัดอย่างรวดเร็ว
กวาดสายตาสอดส่องตัวอันตรายในห้องน้ำแต่ไม่เจอ เธอไม่ได้ยินเสียงใดๆ ในนั้น คาดว่าเบนจามินคงอยู่ด้านนอก
คิดได้ดังนั้นก็รีบวิ่งไปขัดดาลประตูโดยด่วนก่อนจะก้มหน้าบ่นอุบเรื่องความประมาทของตัวเอง
อลิสาเดินกลับมาหมายจะหย่อนก้นนั่งลงบนเตียง แต่แล้วดันนึกขึ้นได้เสียก่อนเรื่องสัตว์เลี้ยง นี่เธอลืมจูดี้กับแครอทสุดที่รักไว้ด้านนอกอีกแล้วเหรอ
“วันนี้โคตรวุ่นวาย…พวกโจรสลัดจะโยนแมวทิ้งทะเลไหมเนี่ย” เมื่อไม่มีทางเลือกมากนักเพราะความเป็นห่วงท่วมล้นในอก อลิสาลุกขึ้นไปเปิดประตูและเดินออกไปด้านนอกอย่างระมัดระวัง
ก่อนหน้านี้เธอตื่นตูมเกินไปจริงๆ ถ้าพวกเขาจะทำร้ายหรือฆ่าคนน่ารำคาญแบบตัวเองคงทำไปตั้งนานแล้ว
ย่ำเท้าเดินอ้อมไปทางขวาพบกับกลุ่มลูกเรือบลูทัลชาร์คมากมายรุมล้อมบางสิ่งบางอย่างบนพื้น เธอหรี่ตามองผ่านช่องว่างระหว่างขาของคนเหล่านั้นก่อนจะพบว่าแมวของเธอนั่งอยู่กลางวง
พวกเขาจะทำอะไรมัน!
“มู้ววว” เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของแครอทดังลอดเข้าหู เสียงร้องคล้ายกับคาบบางสิ่งไว้คาปาก อลิสาทำใจกล้าๆ กลัวๆ เดินตัวลีบแทรกฝูงชนเข้าไปท่ามกลางสายตาแปลกประหลาดของลูกเรือ
“อ้าวแม่หญิง”
“ตื่นแล้วเหรอแม่หญิง”
“นางแต่งตัวประหลาดเยี่ยงบุรุษ”
“นั่นกางเกงเหรอ”
“ข้าว่าแล้วถ้าแม่หญิงตื่นมาต้องมาตามหาแมวเป็นอันดับแรก พวกเจ้าเห็นไหมข้าพนันชนะ”
“โอเค เชิญเจ้าชนะ”
“ให้ตาย ข้าอุตส่าห์ทายว่าแม่หญิงจะตามหากัปตันก่อน ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆ”
“แครอท! ห้ามกินมันนะ” มองข้ามเสียงทักทายและเสียงหัวเราะสนุกแล้วปรี่เข้าไปดึงหนูสีเทาเข้มออกจากปากแมว มันร้องเสียงหลงด้วยความหงุดหงิดแล้วพยายามกระโดดงับแต่ไม่สำเร็จ
“อะไรกันแม่หญิง ทำไมห้ามแมวกินหนูล่ะ”
“นั่นสิ พวกข้าอยู่บนเรือลำนี้ไม่รู้ว่ามีหนูด้วยซ้ำ แมวสองตัวนี้จับตัวการที่ทำให้หีบเสื้อผ้าเราเป็นรูก็ควรให้รางวัลมัน”
“มันเป็นแมวพันธุ์ค่ะ ฉันซื้อมันมาในราคาที่สูง วิธีดูแลสุขภาพของพวกมันคือห้ามให้ทานเนื้อสัตว์ดิบเพราะอาจมีพยาธิ ทางที่ดีควรทานอาหารเม็ดสำหรับแมวด้วยซ้ำ หรืออย่างน้อยหากจำเป็นก็ขอปลาย่างบดดีกว่า”
“แมวสตรีชั้นสูงหรือนี่ เลี้ยงยุ่งยาก”
“เลี้ยงแบบนี้เสียแมวจริง”
อลิสามองข้ามคำตำหนิ คนในยุคสมัยอดีตจะไปรู้อะไรมากมายกันล่ะ ยิ่งเป็นโจรสลัดด้วยแล้วไม่เข้าใจวิถีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของคนยุคใหม่อย่างเธอหรอก
เงยหน้ามองเบนจามินโรยตัวลงมากับเชือกจากด้านบน ในมือของเขาถือร่มของตนเองไว้อยู่จนอดตื่นตกใจไม่ได้ว่าเขาจะเอามันมาตีเธอโทษฐานที่ยั่วยุเขาหลายชั่วโมงก่อนหรือเปล่า
“เจ้าสวมชุดอะไร! ไม่ต่างจากบุรุษ”
“เอาร่มฉันคืนมาค่ะ และนี่คือเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ผู้คนในศตวรรษที่ 21 ใส่ได้เหมือนกันทั้งหญิงชายเป็นปกติ มันเดินสะดวก ทำงานสะดวก ไม่อึดอัด และสุภาพในระดับหนึ่ง”
“งั้นเหรอ”
“คุณ…ต่อไปอย่าคุกคามฉันอีกนะคะ ที่ฉันทำไปก็เพราะกลัวแล้วก็ป้องกันตัวตามสัญชาตญาณเป็นธรรมดานั่นแหละ”
“แก้ตัวเก่งเสียจริง แต่เอาเถอะ ข้ามองออกว่าเจ้าก่อความวุ่นวายเพราะกลัวข้า” เบนจามินไม่ทุกข์ไม่ร้อน เขาติดสนุกด้วยซ้ำที่ได้เล่นไล่จับคลายความน่าเบื่อ ที่ผ่านมาตลอดการล่องเรือ นอกจากเล่นเกมซ้ำซากกับลูกเรือและจิบไวน์ชมแสงจันทร์เขาแทบไม่มีกิจกกรรมอื่นให้ทำ
อลิสาเงียบเสียงเพราะไม่รู้จะพูดอะไร เธอหันมองรอบกายและสังเกตว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พวกลูกเรือแตกกลุ่มกันไปทำอย่างอื่น สงสัยกัปตันเรือบลูทัลชาร์คท่าจะดุหากสอดรู้สอดเห็นบทสนทนาโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เท่าที่เคยเห็นบางครั้งพวกเขาก็ยืนฟังเธอกับเบนจามินคุยกันได้นี่ แปลกจริง
“ข้าขอสั่งให้เจ้าเก็บสิ่งของที่เจ้าเสกมาเพิ่มน้ำหนักเรือของข้ากลับไป ยิ่งมันเพิ่มมากเท่าไหร่เรือยิ่งแล่นช้า”
“โอเคค่ะ อันนี้ฉันก็อยากลองทำดูเหมือนกัน” เริ่มด้วยตุ๊กตาตัวใหญ่ อลิสาจินตนาการห้องนอนของตัวเองจากนั้นม่านฟองสบู่ก็ปรากฏ หญิงสาวดันตุ๊กตาเข้าไปด้านในนั้นสำเร็จและรีบมุดเข้าไปด้วย
…ทว่าม่านตรงหน้ากลับหายไปอย่างรวดเร็ว
“ยังไงมันก็ไม่ให้ฉันกลับ” กล่าวอย่างหมดหวังด้วยสีหน้าขมขื่น ยิ่งอยู่ในที่ไม่ปลอดภัยแห่งนี้นานเท่าไหร่ยิ่งอันตรายต่อชีวิต โจรสลัดคือกลุ่มคนผิดกฎหมาย สักวันคนพวกนี้คงโดนทางการจับและเธออาจหางเลขถูกประหารชีวิตไปด้วย
“อยู่กับข้าต่อไปซะ ข้าจะเอ่ยประโยคนี้เรื่อยๆ”
“คุณเบนจามิน” อลิสาเหม่อลอยมองผืนทะเลแคริบเบียนกว้างใหญ่ พระอาทิตย์สีส้มค่อยๆ เคลื่อนลงทีละนิด อีกไม่นานมันจะจมลงไปในน้ำ…ผ่านไปอีกวัน วันแล้ววันเล่า
“ว่าอย่างไรแม่หญิงอลิซ”
“เรือลำนี้ กำลังแล่นไปไหนคะ”
“ไปทอร์ทูก้า ข้ามีธุระที่นั่น”
TALK : ในช่วงแรกเรื่องนี้มีพล็อตนะ (พล็อตยาวมากแต่ใส่รายละเอียดเยอะไปพอพิมพ์จริงเลยกลายเป็นแค่ฉากสั้นๆ T^T) เคยคิดไว้นานแล้วและหยุดไปหลายเดือนและไปต่อไม่ถูก ฉะนั้นถ้ารันเรื่องต่อเกลว่าเกลจะด้นสดเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เคยทำค่ะ มันต้องออกมาดีแน่นอนทุกคนนน ไม่ต้องระแวงนะคะ 555
ความคิดเห็น